Fiesta : อัตราสิ้นเปลืองจากใช้จริง
อัตราสิ้นเปลือง Fiesta

มีผู้คนจำนวนหนึ่งชอบถามเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถยนต์กันเป็นประจำ ซึ่งความจริงความแตกต่างของอัตราเชื้อเพลิงนั้นไม่ได้มีค่ามากมายอะไรนัก ขึ้นกับนิสัยการขับเสียมากกว่า
แต่อย่างไรก็ตามอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงก็ยังเป็นอะไรในเชิงจิตวิทยาอยู่มากพอควร เช่น อัตราสิ้นเปลือง 15 กม./ลิตร กับ 16 กม./ลิตร ซึ่งความจริงนิสัยการขับ 100 กม./ชม. กับ 120 กม./ชม. ทำให้อัตรา การสิ้นเปลืองแตกต่างกันมากกว่ามากมาย ยิ่งไหลไป 130-140 กม./ชม. ยิ่งแตกต่างกันในอัตราทวีคูณทีเดียว

ส่วนรถที่เป็นที่ฮือฮาในกระแสปัจจุบันทั้ง ซิตี้ แจ๊ส วีออส และ เฟียสต้า นั้นก็ถามกันมากมาย ดังนั้นจะขอนำเสนอความสิ้นเปลืองจากใช้งานจริง ไม่ใช่จากการทดสอบชั่วครู่ชั่วยามของวารสารต่างๆ ของเฟียสต้าที่อยู่ในครอบครอง 1 คัน เป็นรุ่นท๊อป 5 ประตู ส่วนตัวอื่นๆ ถ้ามีโอกาสปะเหมาะจะนำมาเสนอครับ

ในการหาอัตราการสิ้นเปลืองครั้งนี้อยู่ในกฏกติกาดังนี้นะครับ
1. เติมน้ำมันเต็มถังให้หัวจ่ายตัดเองแล้วบันทึกระยะทางครั้งแรก
2. การเติมครั้งต่อๆ ไป เติมตามสบายและจดระยะทาง และจำนวนลิตร
3. เติมครั้งสุดท้ายให้หัวจ่ายตัดแล้วบันทึกระยะทาง และจำนวนลิตร
4. นำระยะที่ใช้วิ่งทั้งหมดจากการบันทึกมารวมกัน นำจำนวนน้ำมันที่ใช้ไปทั้งหมดจากการบันทึกมารวมกัน (ไม่ได้นำมารวมแล้วหารด้วยจำนวนครั้งที่เติมเพราะไม่ตรงความจริง) แล้วจึงนำมาหาค่าเฉลี่ยอัตราสิ้นเปลือง

การหาค่าเฉลี่ยได้ทำใน 2 สถานการณ์ คือ
1. พื้นที่ขึ้นเขา ลงเขา ทางคดเคี้ยว บนเส้นทางอุตรดิตถ์ - เขาค้อ - หล่มสัก - ด่านซ้าย - เลย - ภูเรือ - เชียงคาน - แก่งคุดคู้ - เลย- หล่มสัก - เพชรบูรณ์ - ชนแดน - พิษณุโลก - อุตรดิตถ์ เส้นทางนี้ไปเมื่อกลางเดือนมีนาคม กะว่าจะทำรีวิวแต่ไม่ได้ทำซักที เป็นเส้นทางที่สวยงาม คดโค้งมากมาย ขึ้นเขา ลงห้วย ทำความเร็วได้ไม่มากนัก และต้องเร่งเครื่องอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถรักษาความเร็วคงที่ได้ดั่งทางราบ มีฝนเล็กน้อย

2. พื้นที่ทางเรียบและตัวเมือง บนเส้นทางอุตรดิตถ์ - พิษณุโลก - นครสวรรค์ - อยุธยา - วงแหวนตะวันออก - ลาดกระบัง (หมู่บ้านชลลดา-แลนด์ฯ) - โลตัสอ่อนนุช - ลาดกระบัง (หมู่บ้านชลลดา-แลนด์ฯ) - อุตรดิตถ์ เส้นทางนี้กลับมาถึงเมื่อวานนี้ ทางเรียบ ถนนสี่เลนตลอด การจราจรคล่องตัว ไม่มีฝน แดดไม่จัด

ผลดังตารางข้างล่างนี้





โดยเฉลี่ยออกมา 14.8746 กม. ต่อ ลิตร ถือว่าพอรับได้ ตกค่าใช้จ่ายประมาณ 2.44 บาทต่อ กม.



โดยเฉลี่ยออกมา 15.846 กม. ต่อ ลิตร เกือบๆ 16 กม./ลิตร ตามที่ใครๆ เขาว่ากัน ถือว่าค่อนข้างต่ำ ตกค่าใช้จ่ายประมาณ 2.317 บาทต่อ กม. ผลการจับค่าอัตราสิ้นเปลืองครั้งนี้มีสิ่งที่น่าแปลกใจ คือ ช่วงวิ่งจาก อยุธยา เข้ากรุงเทพ และ ใช้ในกรุงเทพนิดหน่อย แล้วกลับมาเติมอีกครั้งที่อยุธยา ได้ถึง 18.326 กม./ลิตร โอ้โห... อะไรจะประหยัดปานนั้น อาจเป็นเพราะช่วงในกทม.เป็นชานกรุง และ วันนั้นรถไม่ติด ไหลไปเรื่อยๆ ความเร็วอยู่ที่ 70-80 กม./ชม. เท่านั้น ส่วนระหว่างอยุธยา-ลาดกระบัง-อยุธยา ความเร็วประมาณ 100-110 กม./ชม. ตามเส้นทางวงแหวนตะวันออก
ส่วนช่วงสิงห์บุรี - อุตรดิตถ์ เส้นทางตรงมากๆ ทางเรียบ หลายๆ ช่วงมีคำเตือนเป็นระยะๆ "ทางตรงระวังหลับใน" โดยเฉพาะช่วงพิจิตร-พิษณุโลก และ พิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ซึ่งน่าเป็นช่วงที่ได้อัตราการหยัดดีที่สุด แต่กลับได้เพียง 14.338 กม./ลิตรเท่านั้น ซึ่งสิ้นเปลืองมากที่สุดของทริปนี้ไป มานั่งนึกว่าเพราะอะไร ผลสุดท้ายได้ข้อสรุปชัดเจนคือ ทางตรง โล่ง และจะง่วงนอน ประกอบเพื่อนร่วงทางแซงเอาๆ เราก็ค่อยๆ กลืนไปกับเขา ความเร็วไหลไปอยู่ที่ 120-140 กม./ชม. เป็นส่วนใหญ่ และรถนิ่งมาก ไม่ค่อยรู้สึกว่าเร็วมากเหมือนที่เคยคิดปรามาสรถเล็กในใจไว้ก่อนหน้านี้ (ใช้ PG 406) นี้คือที่มาของความสิ้นเปลือง และฉุดให้ค่าเฉลี่ยรวมต่ำกว่า 16 กม./ลิตร ถ้าวิ่งตามปกติ 100 - 110 กม./ลิตร คงได้มากกว่า 16 กม./ลิตร แน่นอน

โดยรวมถือว่าเป็นรถที่ให้อัตราความสิ้นเปลืองอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และ ประหยัดพอสมควรทีเดียว แต่พึงระวังที่ความเร็วสูงๆ (ที่ขึ้นไปโดยไม่รู้ตัวเพราะรถนิ่ง เสียงไม่รบกวน) อัตราสิ้นเปลืองจะเพิ่มขึ้น

ส่วนเรื่องสมรรถนะ และ อื่นๆ ค่อยๆ เขียนมาเล่าสู่กันฟัง

สวัสดีครับ



Create Date : 09 พฤษภาคม 2554
Last Update : 9 พฤษภาคม 2554 14:32:58 น.
Counter : 1566 Pageviews.

8 comment
ไล่สนิมใต้ฐานแบต
ไล่สนิมใต้ฐานแบต
ด้วยเจ้า NV มีสนิมกัดกร่อนที่ฐานแบตเตอรี่ ลามลงไปใต้ฐานแบตฯ และมีร่องรอยกัดกร่อนลงไปถึงชัชซีอีกด้วย
เป็นเรื่องละซี เลยจัดการซะเลยดีกว่า ปล่อยไปก็คงลามไปเรื่อย สักวันแบตคงลงไปห้อยโหนอยู่ใต้ท้องแหงๆๆ
เริ่มด้วยการเตรียมอุปกรณ์ คือ กระดาษทรายน้ำเบอร์ 100, หินเจีย (ใช้ตัวของจีนแดงได้ แต่ต้องเปลี่ยนตัวแผ่นเจียเป็นของญี่ปุ่น มิฉะนั้นอาจแตก... อันตรายมาก มีคนเคยโดยเศษที่แตกเสียบที่ปลีน่องมาแล้ว... ส่งโรงพยาบาลกันวุ่นวาย), สีสเปรย์รองพื้น สีอื่น และ สีรถ สุดท้ายกระดาษเทปกาว และหนังสือพิมพ์
ต่อมาก็ รื้ออุปกรณ์เกะกะการทำงานออกครับ เช่น แบตเตอรี ฐานรองแบตฯ ท่อนำอากาศเข้าเครื่อง แผงฟิวส์ มัดสายไฟต่างๆ เผยให้เห็นสภาพผู้รุกราน


หลังจากนั้นก็จัดการเจียเจ้าสนิมที่รุกรานออกครับ ปรากฏว่ามันขุดเจาะลงลึกไปบางแห่ง ที่เห็นเป็นจุดดำๆ นั่นล่ะครับ ตามเจียลงไปไม่ไหวแล้ว เพราะอาจทะลุแผ่นลงไปเลย เอาไว้ให้มันสุดๆ ค่อยตัดปะก็แล้วกัน เอาแค่นี้ก่อนละกัน
หลังจากนี้ก็เอากระดาษทรายเบอร์ 100 มาขัดให้เรียบอีกนิดหน่อย ตรงนี้ไม่ซีเรียสเพราะไม่ได้โชว์ภายนอก เอาให้สนิมชะลอการกัดกร่อนไปก่อน พร้อมกันนี้ก็ขัดไปบนสีข้างเคียงที่ยังไม่มีสนิมเพื่อให้สีใหม่เกาะยึดได้ดีขึ้น



หลังจากนั้นเอากระดาษเทปกาว และ หนังสือพิมพ์ปิดบังส่วนที่เราไม่ต้องการให้โดนสี


จัดการลงสีรองพื้น... ดูดีขึ้นแล้ว
ในการพ่นสีสเปรย์ มีเทคนิคนิดหน่อยสำหรับคนไม่เคยนะครับ คือ
(1) เขย่ากระป๋องสีก่อนใช้ ยิ่งนานยิ่งดี สีที่นอนก้นจะได้ขึ้นมา
(2) ให้กระป๋องสีห่างวัตถุประมาณ 10 – 12 นิ้ว
(3) พ่นไปเป็นแถบๆ จากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งตามถนัด เช่น จากซ้ายไปขวา
(4) เดินมือช้าๆ ดูให้สีหนาพอขึ้นมัน เดินมือช้าไปสีไหลย้อย เร็วไปไม่ขึ้นมันครับ
ลองๆ ดูนะครับ ครั้งสองครั้งก็ได้การอยู่แล้ว ..ไม่ยาก..


ลงสีอื่น ผมใช้สีดำมาทับ (เพื่อให้พ่นสีจริงเห็นง่ายๆ แค่นั้น) หรือลงสีจริงเลยก็ได้ เอาสัก 3-4 ชั้น ...เวลาลงแต่ละชั้นต้องรอให้ชั้นที่ลงก่อนหน้านั้นแห้งดีเสียก่อนนะครับ ได้ผลดังนี้ครับ


ที่ยากสุดๆ คือ ตอนตามไปพ่นสีที่แชสซี เพราะต้องหงายกระป๋องสี มันคอยจะไม่ออก ต้องเขย่าบ่อยๆ
ส่วนฐานแบตก็จัดการเจียสนิมออก และ พ่อสีดำด้านให้ดูขรึมๆ ซะงั้น อิอิ


น๊อตต่างๆ นำมาขัดสนิมออกแล้วไปชุบชีวิตด้วยน้ำมันเครื่องเก่าๆ ไม่ให้แพร่เชื้ออีกต่อไป


เสร็จแล้วใส่ฐานกลับเข้าไป


ใส่แบตเตอรี่กลับเข้าไป อิอิ คงไม่เจอะเจอกันอีกสัก 5 ปี นะท่านสนิมจอมเจาะ


ว่างๆ แอบดูใต้แบตเตอรี่ของรถท่านด้วยนะครับ เจอก็จัดการก่อนลามมากอย่างผม
ใช้แบตฯ ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นไปเลยดีกว่าครับ....

บ๊ายบายครับ






Create Date : 02 พฤษภาคม 2554
Last Update : 2 พฤษภาคม 2554 16:53:33 น.
Counter : 4980 Pageviews.

3 comment

คนเมืองสาย
Location :
อุตรดิตถ์  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]