LovE... 2 fLY, LovE... 2B free
 

เพื่อนพาเที่ยว Yokohama

หาเรื่องให้ตัวเองเหนื่อยไม่หยุดหย่อน กลัวไม่ได้เที่ยวแบบเป็นเรื่องเป็นราว เลยนัดเพื่อนที่อยู่ตามportต่างๆที่เรามีบินไป คราวนี้มีวันหยุดที่ญี่ปุ่นยอมตื่นเช้าเดินทางไกลซะหน่อย ออกเดินทางจากที่พัก7โมงเช้า เราไปตั้งต้นที่ Airport เนื่องจากเห็นโปรโมชั่นลดราคาค่ารถไฟ Narita Express จาก 4,180เยน เหลือแค่ 1,500 เยน (แต่ต้องบวกอีก2,500 เยน ซึ่งเป็นค่าตั๋ว Suica สามารถใช้เดินทางในเมืองได้) ตื่นเต้นที่จะได้นั่งรถแบบนี้เพราะว่าจะต้องจองที่นั่งด้วย ยังไม่เคยนั่งรถแบบนี้เลย เวลาเดินทางไปยัง yokohama ก็ประมาณ 2 ชั่วโมง นับว่าไกลอยู่ นานขนาดนี้เกือบไปถึงฟูจิซังได้เลยทีเดียว หลับไปสามตื่นก้อยังไม่ถึง เฮ้อ! มาลำบากทำไมว่ะเนี่ยตู ---  ระหว่างทางเห็น shinkansen ก็พอทำให้เพลินๆไปได้บ้าง และแล้วก็มาถึงตอน 10โมงเช้า เดินไปเดินมาก็เจอเพื่อนกันง่ายๆซะงั้น  
 
 .. เริ่มกันที่ Tsurugaoka Hachimangu Shrine เดินเท้าจากสถานี Kamakura ใกล้นิดเดียว




 


 



 


 





สถานที่ต่อไปคือ Kotokuin Temple (Great Buddha-Daibutsu) ค่าเข้า 200 เยน ที่นี่มีพระใหญ่อยู่ เดินตามเพื่อนมาแบบงงๆ ไม่รู้เลยว่ามันอยู่ที่นี่ เหอะๆๆ ด้านในของพระพุทธรูปองค์ใหญ่สามารถเข้าไปได้ เสียค่าเข้า 20 เยน แต่ขอบอกว่าอย่าเข้าไปเลย ไม่มีอะไรหรอก ฮ่าๆๆๆ



  


 



บรรยากาศระหว่างทางไป Enoshima ผ่าน Katase Higashihama Beach ทะเลแถวนี้ไม่ค่อยสวย เพื่อนบอกว่าหาดตรงนี้เป็นดินภูเขาไฟค่ะ จากนั้นไปต่อกันที่ Enoshima-jinja shrine ลักษณะแถวนี้จะเป็นคล้ายๆเกาะมีวัดอยู่บนเขา สำหรับนักท่องเที่ยวที่ขี้เกียจเดินขึ้นเขา เค้าก็จะมีบันไดเลื่อนไว้บริการค่ะ แต่ว่าเสียเงินนะ เท่าไหร่ไม่รู้ไม่ได้ใช้อ่า



 





 



สุดท้ายค่า ขาดไม่ได้เมื่อมาที่นี่ Shin Yokohama  Ramen Museum ได้แวะมากินราเมนค่า เดินไกลอยู่ คิดอยู่นานว่าคุ้มค่าเดินมั๊ยเนี่ย ...ส่วนของร้านราเมนนั้นจะอยู่ที่ชั้นใต้ดินค่ะ บริเวณนี้จะมีการจำลองสภาพร้านค้า บ้านเก่าๆ ให้เราเดินเล่น เก็บภาพด้วย เคยอ่านเจอว่าท้องฟ้าที่เห็นในรูปน่ะ จะเปลี่ยนไปตามสภาพจริงๆ ด้านนอกอาคาร ช่วงเวลาที่ไปเป็นตอนเย็นค่า จะเห็นได้ว่าแอบเป็นสีแดงนิดๆแล้วที่ท้องฟ้า







 



หมดรายการท่องเที่ยวแต่เพียงเท่านี้ค่า เราเดินทางกลับจาก Yokohama มุ่งตรงสู่ Narita ณ เวลา 19.30 ถึงเอาตอนราวๆ 21.40 จิงๆแล้วรถไฟธรรมดากับ Narita Express ใช้เวลาไม่ค่อยจะแตกต่างกันซักเท่าไหร่ในเรื่องราคา และเวลา เพียงแค่เรื่องความสะดวกสบายเท่านั้นเองแหละค่า






Free TextEditor




 

Create Date : 04 มิถุนายน 2552    
Last Update : 4 มิถุนายน 2552 2:03:15 น.
Counter : 544 Pageviews.  

พาเที่ยว Little world @ Nagoya

วันดีๆอีกวันที่ได้มาเหยียบนาโงย่าค่ะ หลังจากเหนื่อยจากการทำงาน สิ่งแรกที่คิดว่าจะทำก็คือการนอน แต่แล้วความหิวก็เอาชนะเราจนได้ 555  ได้ยินชื่อเสียงของร้านราเมนข้อสอบมานาน อยากรู้จริงว่ารสชาดจะเป็นยังไง แถมยังมีพี่ๆพาไปอีก เราคงไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดไปค่ะ  เริ่มแรกที่เดินเข้าร้านไป จะมีเครื่องหยอดตั๋วให้เราเลือกราเมนแบบคร่าวๆก่อนค่ะ คือ จะเอาราเมนแบบปกติ หรือ เพิ่มเส้น เพิ่มไข่ เพิ่มหมู และอื่นๆ  จากนั้นเราเดินเข้าไปในส่วนที่เป็นโต๊ะข้อสอบ (โต๊ะจะโดนกั้นเป็นล๊อกๆ สำหรับลูกค้าแต่ละคนค่ะ) เมื่อยี่นตั๋วให้พนักงาน ก็จะมีข้อสอบยื่นให้ 555 เป็นการตอบว่าเราจะเอา เส้นแบบไหน เหนียว-นุ่ม  น้ำซุป มันมาก-น้อย  ใส่กระเทียม/ หอม มาก-น้อย เอาเกลือแค่ไหน ความเผ็ดระดับที่กี่เท่า และอีกมากมายค่ะ  เมื่อทำข้อสอบเสร็จและส่งข้อสอบให้พนักงาน เค้าจะเตรียมไข่ให้เรา (กรณีที่สั่งนะคะ) ให้เราเอามาปอกเองระหว่างที่รอราเมนค่ะ  เมื่อราเมนถูกเสิร์ฟที่โต๊ะ ด้านหน้าโต๊ะจะถูกปิดด้วยม่านไม้ไผ่ แบบว่า กันไม่เราลอกเพื่อน เวลากินค่ะ 555  เราว่าการที่เค้าแบบนี้ ทำให้เรามีสมาธิเวลากิน รับรู้ได้ถึงรสชาดของอาหารได้ดี  ซึ่งรสชาดของราเมนก็ไม่ทำให้เราผิดหวังค่ะ กะว่าเมื่อไหร่ที่ได้มานาโงย่าอีก ร้านราเมนนี้จะเป็นที่ๆเราไม่พลาดแน่ๆค่ะ มารู้ทีหลังว่า ร้านนี้ชื่อ Ichiran raman ร้านขึ้นชื่ออันดับต้นๆเลยค่ะ ช่างโชคดีจริงๆเลยที่มีโอกาสได้มากินที่นี่ Smiley



 


หลังทานอาหารเสร็จ เรากะเพื่อนแยกตัวไปเดินเล่นแถวๆ nagoya tower และ  oasis21 ค่ะ สถาที่อันหลังเนี่ย เค้าว่าด้านบนมีสระน้ำอยู่บนโครงสร้างของเหล็กและกระจก ขอแวะไปดูซะหน่อยเหอะ มาตอนกลางคืน ก็สวยไปอีกแบบค่ะ ดูแล้วโรแมนติกใช่เล่น 555 เสร็จจากที่นี่ก็เป็นการชอปปิ้งไปเรื่อยเปื่อย และการกลับไปนอนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการไปเที่ยววันถัดไป


  


แล้ววันที่แพลนไว้ก็มาถึง โดยที่เราแอบตื่นสายค่ะ คิคิ แต่ยังไงก็ทันรอบรถที่เช็คมาแล้วน๊า  เราเริ่มต้นกันที่ oasis21 ค่ะโชคดีที่เมื่อวานมาเดินเล่นแถวนี้ เลยหาได้ไม่ยากค่ะ จากที่นี่เราสามารถนั่งรถบัสได้ที่ประตู no.8 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงหน้าประตู little world เลยค่ะ สะดวกดี 

(แอบเห็นว่าทางที่มานั้น เป็นทางเดียวกับ inuyama ที่เคยอยากมา แต่มันดูมีแต่ภูเขา ขอเก็บไว้เป็นที่เที่ยว ยามใบไม้เปลี่ยนสี น่าจะสวยดีค่ะ)

สำหรับที่นี่คงไม่ต้องอธิบายเยอะ มาดูรูปกันเลยดีกว่าค่ะ Wink  ด้วยอายุอาจไม่ค่อยจะเหมาะกับการเที่ยวในที่แบบนี้ แต่หน้าตาอาจกลบข้อนั้นไปได้ ฮ่าๆๆ จะบอกว่าชั้นหน้าเด็ก ซะงั้น หุหุ

 

ลืมบอกว่า little world นั้นเป็นคล้ายๆก้บการเอาบ้านของแต่ละประเทศมาไว้รวมกัน แต่ไม่ได้มีเยอะนะคะ เท่าที่เราพอจะจำได้ก็จะมี เกาหลี ไทย จีน บาหลี อินเดีย อิตาลี ฝรั่งเศส  ค่าเข้าก็ 1600 เยน หากคุณต้องการที่จะใส่ชุดของชาติไหน ก็จะต้องจ่ายตังค์เพิ่ม อีกประมาณ 300-500 เยนค่ะ  ซึ่งก็ไม่ได้มีทุกชาตินะคะ  ลองเล็งๆดูชุดก่อนที่จะเลือกเสียเงินก่อนก็ได้ค่ะ สนนราคาการเที่ยวครั้งนี้ รวมค่ารถไปกลับ (sakae) อาหารและน้ำ ก็ประมาณ 10000 เยนค่ะ แหะๆ ริจะเที่ยว อย่าคำนวณเงินนะคะ เดี๋ยวจะไม่สนุกซะป่าวๆ


 

 





 

 

   


 



 












Free TextEditor




 

Create Date : 30 เมษายน 2552    
Last Update : 30 เมษายน 2552 1:02:54 น.
Counter : 725 Pageviews.  

เทสกาลบง

กรกฏาคม 08



ถัดจากคราวก่อนที่ได้ใส่ยูกาตะไปดูดอกไม้ไฟ มาคราวนี้ฟลุคอีกแล้วค่ะ ได้ไปงานเทศกาลบงที่วัดนาริตะ งานนี้ทางบริษัทให้เรามาร่วมสังสรรค์ โดยที่พวกเรา 20กว่าชีวิตไม่รู้มาก่อนค่ะ รู้คร่าวๆจากพี่ๆว่า ในงานจะมีอาหารให้ทานฟรี แล้วก็มีงานเต้นรำที่เรียกว่า "บง โอโดริ" ขอบอกว่าสนุกมากๆค่ะ




"ตามประเพณีแล้ว เทศกาล "บง" จะมีขึ้นหลายวันประมาณวันที่ 15 กรกฎาคม ตามปฏิทินจันทรคติเชื่อว่าเป็นเวลาที่วิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตแล้วคืนกลับมาบ้านของตน ในปัจจุบันนี้มักจะมีขึ้นในราววันที่ 15 สิงหาคม ในระยะเวลานี้ของปี ผู้คนส่วนมากมักจะเดินทางกลับสู่บ้านเกิดเพื่อเยี่ยมเยียนสุสานของญาติพี่น้อง ในระหว่างเทศกาลนี้ ประชาชนจะตั้งโคมไฟเพื่อนำทางแก่วิญญาณผู้ตายให้มาและออกไปจากบ้าน เซ่นอาหารแก่ผู้ตายและสนุกสานากับการร่ายรำแบบพิเศษที่เรียกว่า "บง โอโดริ" (bon odori) มักจะลอยโคมไฟไปตามแม่น้ำด้วย"




มาดูรูปกันดีกว่าค่ะ ^^














ขอขอบคุณข้อมูลจาก //my.dek-d.com/Carria/story/viewlongc.php?id=347019&chapter=8









Free TextEditor




 

Create Date : 17 เมษายน 2552    
Last Update : 4 มิถุนายน 2552 1:07:29 น.
Counter : 427 Pageviews.  

เทศกาล ฮานาบิ

สิงหาคม 08


ย่างเข้าเดือน8 เดือนที่เค้าว่าอากาศร้อนที่สุดของญี่ปุ่น เรารู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวๆ แล้วก็เสียงร้องของแมลง วี๊ๆๆๆๆ บรรยากาศเหมือนในการ์ตูนจริงๆค่ะ


แต่ความร้อนยังสู้เมืองไทยไม่ได้ค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าอากาศที่ญี่ปุ่นดีกว่า แล้วอีกอย่างไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน ก็จะเจอต้นไม้ หรือห้างให้ได้อากาศร่มรื่น เย็นๆเป็นบางคราว



เดือนนี้มีเทศกาลดอกไม้ไฟค่ะ เริ่มกันตั้งแต่ต้นเดือนเลยทีเดียว ได้ยิน พี่ๆ เพื่อนๆเล่าว่า เทศกาลใหญ่สุดจะอยู่ที่ โยโกฮาม่า (อันนี้เชื่อได้หรือเปล่าไม่รู้นะคะ ^^) เรารู้แต่ว่าที่ไหนก็ตามที่มีการจุดพลุ ที่นั่นคนจะหลั่งไหลกันมากมาย แล้วสาวๆ ก็จะสวมยูคาตะไปร่วมงานกัน เป็นโชคดีที่ได้ไปโอซาก้าในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์พอดี วันแรกเห็นพลุและสาวๆใส่ยูคาตะออกมาเดินกัน แต่ไม่ได้ไปร่วมงานค่ะ เพราะว่าไม่รู้จริงๆว่าเค้าจัดกันที่ไหน แต่พอวันถัดมา รู้มาว่าเค้าจัดบู๊ทร้านอาหาร ของเล่น กันใกล้ๆโรงแรมที่พัก ก็เลยคิดว่าจะแวะไปดูซักหน่อย แต่มันดันไม่ใช่ทางไปดูพลุค่ะ ระหว่างทางมีคุณลุงญี่ปุ่นมาชวนคุยพอดี แถมให้เราๆ เดินไปดูด้วยกัน แหะๆๆๆ ก็ไปซิคะ ไม่เคยปฏิเสธเลย พวกเราเนี่ย แลบลิ้น


บริเวณที่จุดพลุ ก็คือ ริมทะเลช่วงก่อนที่จะข้ามไปสนามบิน kansai international airport ค่ะ (สนามบินนี้มาจากการถมทะเลด้วยขยะล้วนๆเลยค่ะ อลังการดี) วิวดีขนาดนี้ รู้สึกขอบคุณคุณลุงญี่ปุ่นอย่างแรง แต่ณ ตอนนี้คุณลุงก็ได้หายไปแล้วค่ะ ไม่รู้จะขอบคุณกันยังไงดี แหะๆๆ เมื่อถึงเวลา พลุถูกจุดไปพร้อมๆกับเสียงเพลงประกอบ สวยค่ะ แต่ว่าระยะเวลาการจุดพลุนั้นสั้นไปหน่อย ยังดูได้ไม่จุใจ 15 นาทีผ่านไป การแสดงก็จบลง เราก็ได้แต่หวังว่า นี่คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราจะได้ดูพลุในปีนี้



และแล้ว......


โชคดียังมีอยู่ค่ะ ถึงจะเป็นการบินแค่สั้นๆ 3วันเท่านั้น แต่เราก็นัดเพื่อนไว้เรียบร้อยค่ะ ว่าพวกเราจะใส่ยูคาตะไปดูพลุกัน


ครั้งนี้มาต่างเมืองค่ะ เราเดินทางไปถึงนาริตะ ตอนเช้าตรู่ แต่ว่าใส่ยูคาตะไม่เป็น จึงนัดเพื่อนว่าจะแวะไปหาที่หอพัก ซึ่งทำให้เราต้องรีบงีบ รีบตื่นมาทำสวยกันค่ะ และผลที่ออกมา ....




สถานที่จุดผลุนั้นไม่ได้ใกล้อย่างที่คิดค่ะ เราต้องออกเดินทางกันตั้งแต่ 4โมงเย็นเลยทีเดียว ใช้เวลาเดินทาง ชั่วโมงกว่าๆ เรื่องสถาที่จัดนั้น เราไม่รู้ค่ะ จำไม่ได้จริงๆ พอมีคนนำทางแล้วเราจะลืมทุกๆอย่าง เขินอาย แย่จัง เอาเป็นว่าในที่สุดพวกเราก็เดินทางมาถึงจนได้










สนุกสนานกันไม่น้อยเลยค่ะ ไม่รู้ว่าปีหน้ายังจะมีโอกาสได้ใส่ยูคาตะออกมาอย่างนี้อีกหรือเปล่า ที่แน่ๆคงไม่ได้เจอเพื่อนๆรุ่นเดียวกันได้ถึง 5 คนแบบนี้อีกแน่ๆเลยค่ะ





Free TextEditor




 

Create Date : 16 เมษายน 2552    
Last Update : 4 มิถุนายน 2552 1:09:20 น.
Counter : 613 Pageviews.  

1วันในโอซาก้า

กรกฏาคม 08



โดนแรงกระตุ้นจากเพื่อนทำให้เขียนบล็อคนี้ขึ้นมาแบบด่วนค่ะ ว่ากันง่ายๆว่า เขียนเพื่อให้เพื่อนตามรอยนั้นเอง รึว่าใครมีโอกาส อยากจะไปตามนี้กันก้อไม่ว่านะคะ เพราะว่าเราเองก้อได้ข้อมูลจากเพื่อนๆในโลกอินเตอร์เน็ตมาเหมือนกัน อิอิ



หลังจากที่ไม่ได้มาเหยียบโอซาก้านานถึง 8 เดือน คราวนี้ก็เลยกะว่า จะเอาให้คุ้มค่ะ ที่จริงแล้วมีพี่ชวนไปโกเบ แต่เราได้ยินมาว่า หากใครไม่กินเนื้อวัว อย่าไปเลยค่ะ เสียเวลาป่าว เลยตัดสินใจ ไม่ไปดีกว่า อีกอย่างชีวิตในโอซาก้า ก้อเคยไปแต่ นัมบะ ที่เดียวเท่านั้น หลังจากใช้เวลาค้นหาอยู่ค่อนคืน ก้อได้ข้อมูลของ Kaiyukan 1 day pass ที่เข้า Aquarium ฟรี และนั่งรถไฟในเมืองโอซาก้าได้ฟรี (แต่กี่สายไม่ทราบนะคะ) อันนี้ก้อคุ้ม กับ Osaka unlimited 1 day pass ราคา 2,000 เยน เข้าได้ฟรี 27 ที่ และส่วนลดอีก 13 ที่ //www.pia-kansai.ne.jp/osp/en/index.php นี่ก้อคุ้ม แอบคิดตังค์เปรียบเทียบดู นี่เลยเป็นคำตอบสุดท้ายค่ะ ซื้อตั๋ว หนึ่งวัน ดีกว่า จะได้เที่ยวได้หลายๆที่ คิคิ (งกอีกแล้ว) ตอนแรกนั้นชวนน้องไปด้วย แต่ดันไม่มีตังค์ซะนั้น ไอ้เราก้ออุตสาห์ยัดเยียดให้ยืมเงิน ดันไม่เอาซะงั้น ไม่เป็นไร เที่ยวคนเดียวได้อยู่แล้วนิ เอ้า ไปลุยกันเถอะคะ



แนะนำทริกของเราหน่อยนะคะ เนื่องจากเราพักอยู่นอกเมือง ฉะนั้นรอบรถไฟก้อจะมีไม่ดึกมาก ควรจะเช็ครถรอบสุดท้าย เพื่อกันความผิดพลาดค่ะ โดยใช้เวปนี้ค่ะ//www.jorudan.co.jp/english/norikae/e-norikeyin.html ง่ายสุดชีวิต เพราะว่าเคยพลาดมาแล้วค่ะ รถไฟที่ญี่ปุ่นตรงเวลาคะ แต่ความจริงเป็นสิ่งไม่เที่ยง มันก้อมีการดีเลย์ได้ค่ะ เคยเผื่อรถไฟไว้ 2 รอบแต่ก้อได้นั่งกลับรถรอบสุดท้าย เสียวสุดๆ เกือบได้นอนข้างทางแล้วค่ะ แถมต้องจ่ายค่ารถแท็กซี่ที่แสนจะแพงอีก เฮ้อ....



เริ่มต้นเดินทางกันตอน 8 โมงหน่อยๆค่ะ ชีวิตเราเริ่มต้นที่นัมบะค่ะ เพราะไอ้บัตรที่ว่าเนี่ย ซื้อได้อยู่ไม่กี่ที่ หากจะไปที่อื่น กัวเสียตังค์ค่าต่อรถไฟไปอีก แหะๆ ดูในเนตฯ ได้แผนที่วาดมาเรียบร้อยเรยค่ะ กัวเสียเวลาหาไม่เจอ แต่ว่าหาไม่อยากหรอก สังเกตทางออกเบอร์ 24 ก้อพอค่ะ หมุนๆอยู่ 3 รอบ ก้อเจอกับ Osaka visitors’ information center พนักงานสามารถพูดอังกฤษได้ค่ะ แต่เราได้ข้อมูลมาจากเวปแล้ว จึงไม่ต้องสนทนากันมากมายค่ะ หน้าตา Guideline ที่จะพาเราเที่ยววันนี้ค่ะ ส่วนมากแล้ว เราจะใช้แค่ 2 เล่มแรกทางซ้ายค่ะ



จากสถานีนัมบะ เราเลือกที่จะไป Osaka joก่อน เริ่มดำดินไปขึ้นที่ Temmabashi โดยออกจากสถานีตามป้ายทางออกที่เขียนว่า Osaka jo ค่ะ หันซ้าย และซ้ายอีกที ก้อจะเห็น ปราสาทโอซาก้าอยู่ไกลๆ



แค่นี้ก้อตื่นตาแล้วค่ะ ฮ่าๆๆๆ เดินดุ่มๆ ท่ามกลางแดดร้อนๆ ดีนะคะที่เตรียม เสื้อและร่ม มาเรียบร้อย ไม่งั้น ตายอยู่กลางทางแน่ๆ เดินไปเข้าทางทิศเหนือค่ะ แต่เอ๊ะ มันงงๆ พอดีมีงานไรก้อไม่รุ เดินไปผิดซะงั้น แถมไปรองานเปิดอีก เสียเวลาไป ครึ่งชั่วโมงได้ เดินไปเดินมาในงาน ดันไปโผล่ ทางเข้าทิศใต้ งงกว่าเดิมค่ะ




ระหว่างทางไปเจอคุณลุงค่ะ เข็นจักรยานมาทักทาย พอรู้ว่าเรามาคนเดียว คุณลุง ก้อเรยจะพาเดินไปค่ะ ฮ่าๆๆๆ คุยกันม่ะค่อยรู้เรื่องหรอกค่ะ กระเหรี่ยงอย่างเรา ดำน้ำคุยไปเรื่อยยยย ไปถึงหน้าปราสาท นึกว่าคุณลุงจะแยกไป ป่าวค่ะ คุณลุงถามว่าจะให้ขึ้นไปด้วยมั๊ย อุ๊ย ... จะดีเหรอคะ ไม่เอาดีกว่า เปลืองตังค์คุณลุง แหะๆ เกรงใจค่ะ พอบอกไม่ต้องคุณลุง ก้อชวนทานข้าว ฮ่าๆๆ โดนตื้อไป 3 รอบ ใจอ่อนดีกว่า คิคิ เจ้าถิ่นพามา ต้องรู้ร้านอร่อยแน่ะๆเรย คิคิ หลังอิ่มแล้ว คุณลุงยังพยายามที่จะไปขึ้นไปดูปราสาท แล้วก้อจะไปที่อื่นๆเป็นเพื่อน โอ๊ย... เอาคุณลุงไป คงได้เที่ยวม่ะครบแหงๆ สงสารคุณลุงด้วย เด๋วเหนื่อยตายเรย ค่าเข้า 600 เยนค่ะ ส่วนเรามีบัตรยืด ฟรีค่ะ อิอิ มาดูภาพกัน






ออกมาทางทิศใต้ทางเดิมค่ะ จะเจอกับที่ขึ้นรถ Tram 400 เยน แต่เราฟรีค่ะ ^^ เราเลือกที่จะลงบริเวณใกล้สถานี Tanimachi4 chome ระหว่างทางดุ่มๆๆๆ เห็นตึกNHK และ Osaka museum of History (ค่าเข้า 600 เยน) แวะหน่อยแล้วกัน ขึ้นไปที่ด้านบน เห็นวิวของปราสาท โอซาก้าด้วยค่ะ สวยมาก แล้วก้อยังมีให้ลองใส่ชุดยูคาตะ ฟรีอีกด้วย พอดีไปคนเดียวไม่เอาดีกว่า ทำเวลากันนิดนึง








ต่อกันด้วย Shitennoji temple (800เยน) ลงสถานี Tennoji ค่ะ ที่นี่เดินออกมาค่อนข้างไกล (ลงที่ Shitennoji mae Yuhigaoka ดีกว่าค่ะ) และดูเป็นวัดเงียบๆ แต่ก้อสวยค่ะ บริเวณนี้มี Tennoji Zoo กับ Tsutenkaku Tower ที่ขึ้นไปดูวิว แต่ด้วยเวลาน้อย เราตัดออกค่ะ





จากนั้นเราเลือกไป Osakako station ล่องเรือ Santa Maria (1600 เยน อันนี้ใช้ pass ฟรีค่ะ) และ Osaka aquarium Kaiyukan (ค่าเข้าต่างหาก 2000 เยน ได้ส่วนลดจาก pass 100 เยนค่ะ) ตารางเวลาล่องเรือจะประมาณทุกต้นชั่วโมง เราไปถึงก้อ 4โมงกว่า จึงต้องรอรอบต่อไป โดยเดินเล่นบริเวณนั้น ภาพต่อไปเป็นวิวบนเรือค่ะ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที









ต่อกันด้วย kaiyukan ก้อตื่นตาดีค่ะ แต่ยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ มีฉลามตัวไฮไลท์เนี่ยแหละคะ ที่ดึงดูดเราที่สุด









 


 


 


 


เริ่มมืดแล้วค่ะ อยากไปดูวิวอยู่ 2 ที่ ระหว่าง WTC cosmo tower observation deck กับ The floating garden เราเลือกอันที่ใกล้ดีกว่าค่ะ เริ่มขี้เกียจ (ค่าขึ้น 800 เยน) ขอบอกว่าวิวกลางคืนสวยมากๆ ถ้าไปเป็นกันเป็นคู่ คงโรแมนติกน่าดู


 




จุดหมายสุดท้ายของวันนี้อยู่ที่นัมบะค่ะ กะจะไปถ่ายรูปคู่กับ ป้าย กูลิโกะ เพราะคราวที่แล้วมันปิดซ่อม มาถึงที่ Shinsaibashi station ตอน 2ทุ่ม ช้ากว่าที่แพลน โดยลืมไปว่าร้านค้ามันเริ่มปิดแล้ว เดินได้ประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ ก้อถึงเวลากลับค่ะ โดยที่ลืมแวะอีก 2 ที่ตามแผนเรา โก๊ะจิง เพราะว่าอยากกลับก่อนรถไฟรอบสุดท้ายซัก 40 – 50 นาที กันพลาดอย่างคราวก่อน


 



บัตรpass ราคา 2000 เยน เราใช้สำหรับค่าเข้าสถานที่ต่างๆกว่า 4200 เยน ซึ่งยังไม่รวมการขี้นรถไฟไปนู้นนี่อีกนับสิบรอบ คุ้มมั๊ยละคะ







Free TextEditor




 

Create Date : 16 เมษายน 2552    
Last Update : 16 เมษายน 2552 18:21:49 น.
Counter : 2104 Pageviews.  

1  2  3  
 
 

twenty9feb
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวเองหน่อยนึง

ชื่อบล็อค twenty9feb นี้เราเอามาจากวันเกิดค่ะ รู้สึกตัวเองเป็นคนประหลาด เกิด 29 กุมภา (ขออุบอิบปีพศ.ไว้นะคะ ^^)

ก่อนหน้านี้เขียนบล็อคไว้ที่อื่น แต่มีเหตุทางใจเล็กน้อย ทำให้ย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่ค่ะ

ช่วงนี้พยายามย้ายบล็อคเก่าๆมาไว้ที่นี่ค่ะ เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่ อย่าเพิ่งเริ่มเบื่อนะคะ จะอัพบล็อคให้เสร็จไวๆค่ะ จะได้ดูเรื่องใหม่ๆอัพเดทกัน

เพื่อเป็นกำลังใจ อ่านแล้วฝากเม้นไว้หน่อยนะคะ

ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนที่คนที่เข้ามาอ่านค่า ^^ : Users Online
[Add twenty9feb's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com