รำลึกถึงพระคุณแม่
จริงๆก็รู้มาตลอดว่าแม่รักเรามากแค่ไหน แต่มักจะรู้ว่าแม่มีค่าแค่ไหนเมื่อเค้าไม่มีได้อยู่กับเราแล้ว ซึ่งมันเป็นความจริงที่มักจะเกิดกับทุกคนบนโลก แต่ว่าขอให้ทุกคนรู้ไว้เถิดว่าแม่นั้นมีค่าและสำคัญมากกับชีวิตจริงๆ
เรื่องก็เริ่มตั้งแต่
แม่ของเราเป็นคนขี้บ่น เสียงดัง ชอบว่าชอบตีเราเสมอๆ ดุด่าตลอด ต้องเข้าบ้านเร็ว ห้ามเที่ยวไหน โทรตามโทรเช็กตลอด ทำให้เราแอบโอนเอนไปหาพ่อ แบบว่าพ่อไม่ตีไม่ว่า ก็เลยรักพ่อมากกว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดาของเด็กอ่ะเนอะ (เข้าข้างตัวเองสุดๆ) ก็เลยไม่ค่อยถูกกับแม่ คุยกันดีๆไม่ได้ต้องทะเลาะกันตลอด จนเป็นเรื่องปกติ ทุกวันก็เหมือนเดิม ผ่านพ้นเป็นกิจวัติ แม่ก็ตื่นแต่เช้ามาทำกับข้าว มาถักเปีย ทำงานบ้าน สารพัด เป็นแม่ที่ดีพร้อมมากๆจริงๆ ไม่มีขาดตกบกพร่องในหน้าที่แม้แต่อย่างเดียว ผ้าเนี่ยรีดซะกลีบโง้งเลย บาดมือเลือดออกกันไป บ้านที่ไม่มีฝุ่น ของเก็บเป็นระเบียบ สารพัด ทำให้พ่อทุกอย่างเลย เยี่ยมมากๆ
แล้วเรื่องราวธรรมดาก็เริ่มเปลี่ยนไป
แม่ชอบปวดท้องประจำเดือนมากๆ แบบว่ากินยาเอาไม่อยู่ต้องกินทีละ 2 เม็ด แล้วไปหาหมอหมอก็บอกว่าเป็นเนื้องอกแต่ว่าไม่ใหญ่ให้กินยาได้ ก็ไม่มีไร ก็ยัง้ป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ แม่ก็สุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีวี่แววใดๆ
แล้วแม่ก็เริ่มเป็นหวัด ช่วงนั้น ซาร์ ระบาด พ่อก็เลยบอกว่าแม่เป็นป่าวเนี่ย แต่ว่าก็ไม่หาย เป็นหวัดเป็นเดือนๆ ไอตลอด ไอจนอ้วกแตก ก็ไปหาหมอที่ ร.พ. บางพลี (แย่มากๆ ร.พนี้อ่ะ) เพราะว่าแม่เราใช้สิทธิ์ 30 บาท บอกว่าเป็นแบบนี้ๆ หมอไม่ตรวจนะ ให้ยาตามอาการที่บอกเจ็บคอเอายาไป ปวดหัวเอายาไป ไม่ตรวจหาสาเหตุ แม่ราก็ผอมลงเรื่อยๆ กินอะไรเริ่มไม่ได้ เดินเริ่มไม่ไหว จนทนไม่ไหว พ่อก็ขอส่งตัวไป ร.พ. ราชวิถี ก้ต้องพาไปตรวจเริ่มต้นใหม่ แต่แม่อาการเริ่มหนัก เราเอะใจมาตลอดว่าแม่เราเป็นมั้ย เราน่าจะเอะใจแล้วบอกแม่ไป แต่ก้กลัวแม่เครียดอ่ะดิ เฮ้อ....เราใจร้ายไปมั้ยเนี่ย
แม่ก็ไปตรวจเริ่มเดินไม่ไหว หายใจติดขัด หมอแสกนเสร็จบอกว่าเป็นมะเร็งตับขั้นสุดท้ายไม่สามารถรักษาได้ แม่นี่ร้องไห้ทรุดหนักเร็วกว่าเดิม พอรู้ตัวไม่นานแม่ก็เริ่มเป็นหนัก และสุดท้ายก็จากเราไปอย่างไม่มีวันกลับมา
เราเหมือนจะทำใจได้ ทุกคนบอกว่าเราเข้มแข็งแม่เสียไปยังทำตัวเหมือนปกติ
อาจดูเป็นอย่างนั้นแต่ความเป็นจริงเราเสียใจมาก ยิ่งพอมานึกถุงสิ่งที่แม่เคยพูดไว้ สอนไว้ เคยบอกเราเคยทำให้เรา เคยด่า เคยทะเลาะ มันก็ใจหายนะ เราไม่มีอีกแล้ว แม่เรายังไม่แก่มากเลย ตอนเสียไปแค่ 45 เอง แถมแม่เราก็รอแค่จะไปงานรับปริญญาลูกสาวคนเดียวอย่างเรา ตัดชุดตั้งแต่เราอยู่ปี 1 แต่ชุดนั้นกลับได้ใส่ในงานศพของตัวเองแทน มันน่าเศร้าใจก็ตรงนี้ล่ะ เพื่อนๆที่ เซนต์โย บางนา ก็รู้จักแม่เราดี ต่างก็คิดถึง เพราะว่าแม่เราชอบให้เพื่อนมาบ้านจะได้ทำอาหารให้เพื่อนลูกกินกัน
ตอนนี้เราก็มานึกคิดถึงท่าน เวลาไม่สบายก็เห็นตลอดเลย
เออช่ายลืมบอกเราอ่ะ ก่อนที่แม่จะไม่สบายเราอ่ะฝันติดกันว่าเราฟันหลุด ฟันหลุดหมดปากเลย ฝันอยู่เป็นเดือนๆอ่ะ เราก็เป็นคนไม่ค่อยเชื่ออะไรแบบนี้หรอกนะ แต่ว่ามันกลับตรงมากลายครั้งแล้วอ่ะเรื่องฟันหลุดอ่ะ ก้เลยอยากบอกเพื่อนๆว่าก้ลองเชื่อดูบ้างน้า บางทีเราอาจจะมีอะไรเชื่อมโยงแล้วฝันก็ได้น้า
เราก็เอารูปแม่มาอวดให้ดูกันด้วย เพื่อระลึกถึงเรื่องราวของแม่เรา

เริ่มต้นด้วยรูปแรก แม่บอกว่าถ่ายที่ภูเก็ตตอนนั้นไปเที่ยวกับเพื่อน น่าอิจฉาจังหนูยังมะเคยไปภูเก็ตเลย กระซิกๆๆๆ รูปสีอาจประหลาดไปหน่ยเพราะว่าข้าพเจ้าปรับสีเนื่องจากต้นฉบับมันเหลืองแว้วววว




ต่อกันด้วยรูปที่สอง รูปนี้เป็นรูปวันแต่งงานของพ่อและแม่นั้นเอง อิๆๆๆ




รูปนี้เป็นรูปงานวันเด็กแถวบ้านหน้าเราอย่างกับตูดแหน่ะ โกรธไรแม่ไม่รู้ ตอนนี้บ้านป้าคนนี้เค้าย้ายไปละ ที่สำคัญลูกสาวเค้าเสียก่อนที่แม่เราจะเสียซะอีกเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว ดูรูปไปละกันเนอะ (น่าจะยิ้มนะเนี่ยชั้น-*-)




รูปเดี่ยวถ่ายโดยเราเองริมทะเลระยองไม่รู้แม่จะเม้มปากทำไม ชิชะ ยิ้มก็ไม่ได้ โกรธๆ




รูปสุดท้ายเป็นรูปที่แม่ชอบมากที่สุดและเป็นรูปที่ใช้ในงานศพและอยู่ที่เก็บอัฐิด้วย แม่เคยบอกไว้ว่าถ้าแม่ตายไปให้เอารูปนี้โชว์นะรูปอื่นมะสวย แต่เราว่าจริงๆแม่หน้าตาสวยจะตายไม่รู้ใครไปบอกว่าแม่ไม่สวย ออกจะขาวสวยหมวยขนาดนี้ รูปนี้ก็ยังคงอยู่ที่บ้านและในความทรงจำของทุกคนตลอดไป




ชาตะ : 31 มกราคม 2502
มรณะ : 28 มีนาคม 2547

ขอให้ชาติหน้าเราได้อยู่ด้วยกันอีกนะแม่น้า
รักแม่ที่สุดในโลก.....



Create Date : 14 ตุลาคม 2550
Last Update : 14 ตุลาคม 2550 7:12:26 น.
Counter : 411 Pageviews.

0 comment

tungift
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เดือน 9 นี้จะได้เห็นหน้าลูกสาว "น้องมิ้ว" ของแม่แล้ว