All Blog
เล่าเรื่องให้มิ้วฟัง....ตอนเมื่อแม่อยากอัลตร้าซาวด์อีกรอบ.....
วันพฤหัสบดีที่ 26 ก.ค. 55 เวลา 17.08 น. ณ.โต๊ะทำงาน
อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ 5 วัน

อัพเดทอาการประจำวัน แม่ปวดฉี่ทั้งวันตามเคย มิ้วน้อยของแม่ดิ้นเยอะจนแม่รู้สึกว่ามิ้วจะต้องลั้นลามาตอนคลอดออกมาแล้ว คงจะซนกันสนั่นซอย
เมื่อวานแม่ไปหาหมอประจำสองอาทิตย์ หมอก็ยังไม่ซาวด์หนูให้แม่ดูอีกแล้ว แอบน้อยใจเล็กๆ หมอบอกแม่ว่าแม่อ้วนเกินเกณฑ์มากไป
เพราะตอนนี้จะ 80 อยู่แล้ว คาดว่าไปชั่งคราวหน้าก็ 80+ แน่นอน หมอนัดอีกที 8 ส.ค. 55 แม่แอบอยากรู้ว่ามิ้วน้อยของแม่ตัวโตแค่ไหน
ตอนนี้สภาพมิ้วน้อยของแม่อ้วนมั้ย น้ำคร่ำน้อยหรืมาก เอาหัวลงหรือยัง แต่แม่ก็ไม่ได้คำตอบ หมอบอกแม่ว่าเด็กจะหนักไปเรื่อยๆ จนกว่าจะคลอด
หมอจะให้แม่คลอดเอง ถ้าคลอดไม่ออกถึงจะผ่าให้ ยกเว้นคฃำหน้าท้องแล้วมิ้วขวางท้องก็จำเป็นต้องผ่า แต่ใจแม่อยากเห็น อยากรู้ขนาดมิ้วบ้าง
เห็นคนคลับเค้าได้ซาวด์ตอนไตรมาศสุดท้ายกันทั้งนั้น หมอไม่ให้แม่ซาวด์เพราะกลัวแม่เสียเงินเยอะ แม่ก็เข้าใจนะ แต่แม่อยากดูอ่ะ
นี่คือที่มาของเรื่องวันนี้เลยจ่ะ

    เรื่องวันนี้คือความอึดอัดใจของแม่ ที่อยากเห็นมิ้วอีกครั้งก่อนจะคลอดออกมา แม่มีรูปที่ซาวด์มิ้วแค่ ไม่กี่ใบเอง แม่อยากได้เยอะๆ (บ้ามะ 555)
แม่เห็นเพื่อนๆในคลับที่แม่สิงอยู่ เค้ามาอัพเดท นน. ลูกกันว่า ขนาดเท่านั้นเท่านี้ ตัวเล็กกว่าเกณฑ์ โตกว่าเกณฑ์ ผอมมั้ย อ้วนมั้ย
น้ำคร่ำเยอะมั้ย น้อยไปมั้ย เอาหัวลงหรือยัง ทุกวันนี้แม่อาศัยการเดาการทายล้วนๆว่า มิ้วของแม่ทำอะไรอยู่ จับโดนอะไร
โดยที่แม่ไม่ได้รู้ความจริงเลยว่า มิ้วของแม่อยู่ในสภาพไหนกันแน่ จริงๆการซาวด์ตอนไตรมาศสุดท้ายแม่ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ประเทศอื่นเค้าซาวด์กัน
ตอนกี่สัปดาห์ ตอนนี้ 32 กว่าแล้ว หรือต้องรอ 34 สัปดาห์ แต่แม่เองอยากรู้ อยากเห็น จะซาวด์ซ้ำแม่ก็ยอม (จริงๆแอบเสียดายเงิน แต่อยากเห็นลูกอ่ะ)
นึกถึงคนสมัยก่อนเนอะ เค้าไม่มีอัลตร้าซาวด์ เค้าคงอยากรู้ว่าลูกสบายดีมั้ย แข็งแรงมั้ย ก็ไม่รู้เลย ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกลธรรมชาติ
ถ้าคลอดไม่ออกก็มีอัตราเสี่ยงถึงตายกันทีเดียว เพราะไม่รู้ว่าเด็กอยู่สภาพไหน เดี๋ยวนี้การแพทย์ล้ำสมัยไปมากแล้ว เลยสามารถตรวจสอบลูกน้อยได้ว่า
พร้อมจะออกสู่โลกภายนอกหรือยัง ท่าอยู่ถูกต้องหรือไม่ ขนาดตัวเป็นอย่างไร จำเป็นต้องกินอะไรเพื่อเพิ่มน้ำหนักตัวลูกได้บ้าง
ซึ่งแม่ดีใจมากที่ได้มาเกิดในยุดคสมัยนี้ แม่เองหน้ามิ้วเห็นตอน 4 มิติ 26 วีค ตอนนั้น ฝลที่ได้น่าใจหาย มิ้วตัวเล็กกว่าเกณฑ์ไปตั้ง 1 อาทิตย์
ตอนซาวด์คราวก่อนหน้า หัวมิ้วโตช้ากว่า 1 สัปดาห์ ตัวเล็กกว่า 2 สัปดาห์ แม่คิดได้เลยว่า ตัวแม่เองได้ให้อาหารมิ้วน้อยเกินไป
นน. ตัวที่ขึ้นมาถึตอนนี้ 19+ โล นั้น ไม่ได้ไปถึงมิ้วเลย แม่เก็บไว้คนเดียวเรียบ มองอีกแง่คือแม่ช่างใจร้ายทำไมไม่แบ่งสารอาหารให้ลูกเลย
อีกแง่คือมิ้วน้อยตัวไม่ใหญ่ แต่แข็งแรง แปลว่าแม่มีโอกาสคลอดเองได้มากกว่าผ่าอย่างแน่นอน แม่พยายามมองสองแง่
เพื่อให้ตัวเองไม่รู้สึกแย่ และไม่รู้สึกโทษตัวเอง คนเห็นท้องแม่ตอนนี้ก็จะบอกว่าท้องใหญ่มาก กี่เดือนแล้วนะ ลูกตัวใหญ่แน่ๆ
    แม่ไม่รู้ว่ามิ้วของแม่ตัวใหญ่แค่ไหนหลังจากซาวด์ 4 มิติวันนั้นมา ตอนนี้ผ่านมา 2 เดือน เพื่อนๆในคลับให้กำลังใจแม่ว่า ลูกต้องจ้ำม่ำแน่ๆ
แม่ล่ะหวังเหลือเกิน ขอแค่มิ้วน้อยของแม่โตตามเกณฑ์ ร่างกายแข็งแรงก็พอแล้ว วันนี้แม่เลยปรึกษากับพ่อมิ้วว่าเอาอย่างไรดีนะ กับการซาวด์
เพราะถ้าไปซาวด์ ร.พ. ราคาก็มหาโหด อย่างที่รามก็ 1300+ เมื่อกี้โทรไปถามศิครินทร์ บอก 2000 แม่แทบจะลมใส่ แพงอะไรขนาดนั้นคะ
ตอนแม่ซาวด์ 4 มิติ 3000 เอง อย่างนี้ไปซาวด์ 4 มิติไม่ดีหว่าหรอ -*- ตอนนี้แม่เลยนึกไปว่าในซอยมีคลีนิกรับฝากครรภ์อยู่ แม่เลยลองโทรไป
เพื่อสอบถามราคา จำได้ว่ามีอัลตร้าซาวด์ด้วย แม่ไม่รู้หรอกว่าเค้าใช้เครื่องซาวด์รุ่นไหน แต่ที่แน่ๆ ราคาคงไม่โหดเท่า ร.พ. แน่ๆ
แม่โทรไปถามเมื่อกี้ราคาแค่ 700 บาท แถมอยู่ในซอยบ้านด้วย เค้าบอกว่าซาวด์จะให้ ซีดี แม่ก็งงๆ 2 มิติมีให้ซีดีด้วยหรอ
เค้าก็งงแม่นะว่าแม่จะไปซาวด์อะไร แม่บอกอยากไปดูว่าน้องเอาหัวลงหรือยัง ตัวโตตามเกณฑ์มั้ย น้ำคร่ำเป็นยังไง แข็งแรงมั้ยอ่ะค่ะ
คุณหมอจากปลายสายที่เป็นผู้ชายบอก อ้อทำได้ครับ ไม่มีปัญหา แม่เลยบอกว่าโอเคค่ะ เดี๋ยวไว้จะแวะไป เพราะคลีนิกเปิด 17.00-21.00 น.
กำลังตัดสินว่าจะไปวันนี้ดีมั้ยน้า....เป็นคนใจเร็วด่วนได้ซะด้วยสิ เดี๋ยวนั่งรถป้าแอนกลับบ้านแม่คงได้คำตอบให้ตัวเองพอดี 555

    บทสรุปให้มิ้ววันนี้คือคนเป็นแม่เนี่ยช่างกังวลไปซะทุกเรื่อง อยากรู้ว่าลูกของเราสบายดีมั้ย แข็งแรงดีมั้ย
ดิ้นแรงนี่เป็นปกติมั้ย ทำอะไรอยู่ ความเป็นแม่นี่มันยิ่งใหญ่จริงๆ ถ้ามิ้วยิ่งคลอดออกมา ลั้นลาอยู่บนโลกมนุษย์ความห่วงคงยิ่งทวีคูณ
ขนาดแมวที่บ้านแม่ยังรักมาก เวลามันหนีออกนอกบ้านแม่ก้เครียดมาก ร้องไห้ ฟูมฟาย ทั้งๆที่มันไม่ได้ไปไหน ไม่ได้มีอันตราย
แต่แม่เองคิดมากกังวลไปต่างต่างนานา แล้วนี่มิ้วน้อยของแม่เกิดมาจากพุงแม่ที่หล่อหลอมดูแลแบกกันมาเป็น 9 เดือน แม่จะกังวลขนาดไหน
เข้าใจแล้วว่าคำว่าทำอะไรได้ทุกอย่างเพื่อลูกเป็นเยี่ยงไร แม่อยากให้มิ้วรู้ไว้เสมอว่า แม่เนี่ยล่ะเป็นห่วงมิ้วที่สุดในสามโลก
ไม่ว่ามิ้วจะทำอะไร จะผิดหรือถูก แม่คนนี้จะเป็นคนชี้แนะแนวทาง เราจะเปิดใจคุยกัน เราจะได้มีความสุขด้วยกันนะจ๊ะ

รักมิ้วเสมอ
จาก พ่อทรและแม่กีฟท์



Create Date : 26 กรกฎาคม 2555
Last Update : 26 กรกฎาคม 2555 17:46:13 น.
Counter : 3556 Pageviews.

1 comment
เล่าเรื่องให้มิ้วฟัง......ตอน Style การแต่งตัวของแม่
วันอังคารที่ 24 ก.ค. 55 เวลา 17.14 น. ณ.โต๊ะทำงาน
อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ 3 วัน

อัพเดทอาการประจำวัน มิ้วน้อยของแม่ดุ๊กดิ๊กทั้งวันตั้งแต่กลางคืน จนเช้า...จนบ่าย ...เย็น
แม่ชอบมากเวลามิ้วดิ้น แต่ตอนนี้แม่ว่ามิ้วคึกมาก 5555 เหมือนเด็กที่มีพลังช้างสาร พอไปคุยกับแม่ในคลับคนอื่น แม่ก็เลยรู้ว่าไม่ใช่แม่คนเดียวที่มีลูกสาว
ที่มีพลังมาก มีเพื่อนร่วมขบวนการเบอะ จากที่แม่อ่านมาเค้าบอกว่าช่วงอายุ 32 วีค เป็นช่วงที่ลูกจะดิ้นมากที่สุด ขยับตัวมากที่สุด แม่กำลังรอดูว่าพอ 33 วีค
มิ้วน้อยของแม่จะดิ้นเยอะเหมือนเดิมมั้ย ปัญหาไม่ใช่เรื่องดิ้นบ่อย แต่เป็นความแรงต่างหาก ที่มิ้วดิ้นแรงจนแม่จุก 555 แต่ไม่เป็นไรแม่ทนได้ กระซิกๆๆๆ
อาการอื่นๆที่ได้รับและเพิ่มมากขึ้นทุกวันคือ มิ้วสะอึกบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เจ็บหัวหน่าว ปวดถ่วง เจ็บขาหนีบ เดินแล้วเหมือนฉี่จะแตก 555 แต่พอไปฉี่
ก็มีฉี่ออกมาแป๊บเดียว แปลว่ามิ้วน้อยของแม่เอาหัวลงมาแล้ว ลงมาต่ำแล้ว เวลาแม่รู้สึกแม่จะรู้สึกบริเวณเหนือหรือตรงสะดือข้างซ้าย
และท้องน้อยใกล้ๆขาหนีบข้างขวา แบบเต้นดุ๊บๆ เป็นลูกคลื่นไปทั้งพุง แม่ยังโชว์ให้ป้าจิ๊บดูว่าพุงกระเพื่อมเลย 555 แต่ก็เป็นความสุขแบบจุกๆไปอีกแบบ

เรื่องที่แม่จะเล่าวันนี้คือ สไตล์การแต่งตัวของแม่เองล่ะจ่ะ แม่ชอบแต่งตัวเซ็กซี่ จริงๆแม่ชอบอะไรแบบนี้มาตั้งนานแล้วล่ะ แต่ด้วยความที่ไม่มีโอกาส (และเรื่องบางอย่าง) แม่เลยไม่ได้ใส่
ตอนสมัยแม่ผอมเพรียว (เคยผอมนะมิ้ว แม่เคยผอม 555) แม่ไมีมีโอกาสได้ใส่เต็มที่ พอคราวนี้ แม่มีโอกาสแม่จัดเต็มตลอด แม่ชอบที่จะโชว์ร่อง
ทำไงได้มีเยอะก็ต้องแบ่งๆกันดู 5555 (นิสัยเสียเนอะ อย่าทำนะมิ้วนะ) แม่เลยชอบที่จะใส่เสื้อผ้าให้เซ็กซี่ และแม่ไม่ชอบใส่กางเกงขายาว
ชอบใส่กระโปรงสั้นและเป็นกระโปรงยีนส์ โชว์ความสวยงาม(ตรงไหน)ของขาอันเรียว(???) แม่พยายามหาแนวการแต่งตัวที่เป็นสไตล์ของแม่
ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปกี่สมัยแม่ก็ยังชอบแต่งแบบนั้น เสื้อผ้าแม่ก็มีแต่แบบนั้นด้วย 555 จนกลายเป็นแบรนด์ติดตลาด (ว่าไปนั่น...) เพื่อนๆทุกคนเวลาเห็น
แม่ไม่ใส่เสื้อผ้าตรงคอนเซ็ปก็มักจะมาทักว่า ทำไมไม่แต่งแบบเดิม ผิดคอนเซ็ปนะเนี่ย เพื่อนแม่ที่อยู่มหาวิทยาลัย ชินชากับเห็นนมแม่ไปเสียหมด จนเอือมระอาที่จะดู
แต่แม่ไม่ได้มีเจตนาร้าย หรืออยากจะโชว์ให้ใครดู แต่แม่มองว่าแม่หน้าอกใหญ่ ใส่เสื้อผ้าคอปิดๆ มันดูอึดอัดแน่นไปหมด แม่เลยมองว่าคอวี สวยกว่าและใส่ออกมาก็
งามดูดี คราวนี้พอเราเลือกมาลงที่คอวีปุ๊บ เสื้อผ้าทุกอย่างเลยคอลึก และเว้า ไม่ได้หมายความว่าเราอยากจะให้คนอื่นมาดูสิ่งที่เรามี(มากกกก) แต่ด้วยความ
เหมาะสมและคำอธิบายของหนังสือนิตยสาร และคำแนะนำจากสไตลิส มากมาย ก็ยังคงแนะนำว่าควรใส่เสื้อคอลึก หรือเว้าเพื่อสร้างจุดเด่นให้ตัวเอง
ไม่อย่างนั้นเราจะดูตันและไร้ความสวยงาม (อันนี้จริงมากๆๆ) การใส่เสื้อผ้าของคนที่มีรูปร่างแบบแม่นั้น (ทรงแอปเปิ้ล) จะเป็นต้องมีเทคนิคขั้นเทพหลายอย่าง
แม่จำเป็นต้องแต่งกายเพื่อพรางจุดบอดของสรีระ และต้องแต่งให้ดึงจุดเด่นให้น่ามองมากขึ้น แม่เป็นคนเอวไม่คอด อังนั้นต้องแต่งกายที่ไม่รัดหรือเน้นเอว
แม่เป็นคนที่แขนไม่ได้เล็กสวยงาม ต้นแขนใหญ่เบิ้มเหมือนแขก แม่จึงจำเป็นต้องใส่สายเดียว หรือคอวี ไม่ใส่เสื้อที่ทำให้ดูแขนใหญ่และตัน
ยิ่งเวลาแม่ไปซื้อชุดออกงานต่างๆ พ่อกับแม่จะใช้เวลาในการเลือกเสื้อผ้านานมาก เพราะกลัวว่าจะใส่มาแล้วไม่สวยบ้าง อ้วนบ้าง และอื่นๆ
สุดท้ายกว่าจะได้มาหนึ่งตัว หมดไป 1 วัน เพราะคิดมากและเลือกมากสุดๆ นี่เองคือเหตุผลที่แม่ซื้อเสื้อผ้าน้อยมาก ถ้าไม่จำเป็นอย่าหวังว่าแม่จะซื้อเด็ดขาด
การแต่งตัวสไตล์นี้ในเมืองไทยอาจจะมองว่าออกแนวชอบโชว์ เซ็กซี่ นมหก อะไรมากมาย แต่แม่มองว่ามันเหมาะกับตัวแม่ที่มีรูปร่างแบบนี้ที่สุด
แม่ไม่อายที่จะโชว์ในที่สาธารณะ แต่แม่จะปกปิดทุกครั้งที่ต้องนั่งรถสาธารณะ หากระเป๋ามาปิดขา และเอากระเป๋าหรือของมาปิดนม เพราะคนที่ยืนข้างบน
ก็คงอดใจไม่มองไม่ไหว เพราะขนาดแม่ที่เป็นผู้หญิง ยังชอบมองนมชาวบ้านเหมือนกัน 555 ดังนั้นเราต้องเซฟตัวเองให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรม
ที่คนจะลากเราไปข่มขืน และฆ่าทิ้ง (คิดไปนั่น) เวลาไปในๆที่ที่เค้าแต่งกัน เราก็สามารถอวดได้เต็มที่ บางชุดแม่มองว่ามันไม่โป๊ แต่พอเรามาใส่แล้วมันโป๊ก็มีมากมาย
แต่ทำอย่างไรได้ ก็เรามันคนมีหน้าอก จะให้ใส่เสื้อมาแล้วเหมือนนางแบบที่เค้าใส่เป๊ะคงไม่ใช่ แต่เราก็โอเคกับสไตล์ที่เราเป็น แม่มองว่านี่คือคอนเซ็ปที่แม่สร้าง
แม่กะว่าถ้าแม่กลับไปผอม(???) อีกครั้งแม่จะกลับมาแต่งเปรี้ยว สวยงาม และเซ็กซี่อีกครั้ง แต่จะไม่ทำให้มิ้วของแม่ต้องเป็นขี้ปากใคร เพราะแม่รู้กาละเทศะ
ว่าอะไรสมควรไม่สมควร คงไม่มีทางแต่งกายไม่สุภาพไปพบผู้ใหญ่ หรือไม่แต่งกายเปรี้ยวๆไปทำที่ราชการแน่นอนจ่ะ

สุดท้ายนี้แม่อยากให้มิ้วเปิดใจกว้างแล้วมองแฟชั่นหรือสไตล์ให้มากขึ้น การที่คนเราแต่งการเซ็กซี่ไม่ได้หมายความเค้าคนนั้นจะต้อง แรด ต้องกระซู่ (??)
หรือต้องแรงเสมอไป เค้าอาจจะพบว่านี่คือตัวตนของเค้า ถ้าเค้าแต่งออกมาสวยและมีกาละเทศะเราก็ควรจะมองแล้วยินดีไปกับเค้าว่า เออเค้าได้ค้นพบ
ความเป็นตัวเอง และสร้างสไตล์ให้กับตัวเองให้สำเร็จ ไม่ต้องไปดูแคลนว่าโป๊จัง ทำไมนมหก เราต้องมองเค้าว่าเค้ามั่นใจและพร้อมจะแสดงต่อหน้าคนอื่นถึงความมั่นใจ
ถ้าเราไม่ชอบเราก็เพียงแค่อย่าไปเอาเยี่ยงอย่าง และมองว่าเป็นอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควร แต่ไม่ควรไปติติงหรือไปใส่ไฟว่าเค้านะจ๊ะ แม่คิดว่ามิ้วของแม่ต้องเข้าใจ
และเป็นเด็กมีที่มีสไตล์เท่ๆ เป็นของตัวเองแน่ๆจ่ะ แม่เชื่ออย่างนั้น ^_^

รักมิ้วเสมอ
จาก พ่อทรและแม่กีฟท์


Photobucket


Photobucket


Photobucket








Create Date : 24 กรกฎาคม 2555
Last Update : 24 กรกฎาคม 2555 17:49:13 น.
Counter : 1465 Pageviews.

2 comment
เล่าเรื่องให้มิ้วฟัง.....ตอนรู้หรือไม่ว่าแม่เคยเป็นบรรณาธิการ...
วันศุกร์ที่ 23 ก.ค. 55 เวลา 16.38 น. ณ.โต๊ะทำงาน
อายุครรภ์ 32 สัปดาห์ 2 วัน

อัพเดทอาการประจำวัน วันนี้แม่อึดอัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กับพุงใหญ่ๆที่มีมิ้วอาศัยอยู่ภายใน อาการเจ็บที่พุง อาการเปสดเมื่อยอย่างเลี่ยงไม่ได้
เดินเหินลำบาก เดินช้าต้วมเตี้ยมและเริ่มเดินเหมือนคนท้องแบบเต็มที่ซะแล้ว ขาเริ่มกางๆ เพราะเหมือนมิ้วจะหลุดออกมาให้ได้ซะทีเดียว 555
อาการง่วงนอนก็มากขึ้น (ตอนนี้ง่วงมากกกกก) เพราะเหมือนกับแม่นอนไม่พอ เมื่อคืนฉี่ 4 รอบ เดินจนไม่อยากจะเดินแล้ว ไม่อยากฉี่รดที่นอน
มิ้วเหมือนเอาหัวลงข้างล่างแล้ว และแม่หวังว่ามิ้วจะเอาหัวลงจริงๆและไม่หมุนกลับมานะจ๊ะ แล้วลงเชิงกรานไปเลย แม่จะได้คลอดมิ้วได้ง่ายๆ

เรื่องวันนี้ที่แม่จะเล่าให้มิ้วฟังคือ เมื่อแม่คนนี้เคยเป็นบรรณาธิการ สมัยตอนปี 3 เทอม 2 ช่วงนั้นเพื่อนของแม่ (น้าเอิง) ได้ชวนแม่ทำงานพิเศษเสริม
พ่อของน้าเอิงทำอยู่สำนักพิมพ์ร่วมด้วยช่วยกัน แล้วสำนักพิมพ์อยากเปิดแนวทางใหม่ของสำนักพิมพ์จึงตั้งสำนักพิมพ์ย่อยที่เป็นสำนักพิมพ์ใหม่ ชื่อใหม่
โดยที่เป็นหนังสือวัยรุ่น เป็นนิยาย ตอนนั้นแม่ก็ช่วยน้าเอิงทำเว็บไซต์ ตั้งชื่อเว็บกัน ได้สำนักพิมพ์ชื่อ อิสระบุ๊คส์ ตอนนั้นแม่ตื่นเต้นมาก เราต้องควานหา
นิยายดังๆที่ขายดีบนอินเตอร์เน็ต แล้วติดต่อเพื่อขอต้นฉบับให้เค้าส่งมาให้เพื่อให้แม่อ่าน ตอนนั้นแม่อ่านนิยายจนอ้วกแตก 555 แม่คัดเลือกสไตล์แฟนตาซี
น้าเอิงเลือกรักๆใคร่ๆ (แม่อ่านรักๆไม่ได้ แม่จะเป็นลม 555) แม่อ่านบางเรื่องก็สนุกมากๆ บางเรื่องแค่เปิดอ่านก็หลับสนิท -*- แม่ต้องอ่านแล้วคิดว่าสนุก
เรตติ้งดี แม่ก็จะเลือกและส่งเรื่องนั้นเข้าโรงพิมพ์ นอกจากงานจะมีหน้าที่อ่านและเลือกนิยายแล้ว ยังต้องเลือกคนวาดปก ดูเรื่องปกด้วย ว่าสวยมั้ย
ช่วงนั้นก็ต้องควานหาน้องๆที่วาดรูปสวยๆ (น้องเค้าวาดกันสวยจริงๆนะ แม่ล่ะชอบมาก วาดไม่ได้ไม่มีปัญญา 555) แล้วก็ส่งขนาดปก หมวดสี ส่งไป
น้องๆเค้าก็จะทำออกมา สวยงามมากมาย (เก่งเนอะ แม่วาไม่เป็นหรอกอะไรแบบนั้นยิ่งลงสีด้วยคอมนะ ยากสุดๆๆๆๆ)
งานต่อมาคือเขียนคำนำในหนังสือเล่มนั้นๆ พอหนังสือตีพิมพ์งานเราก็จบ (เฉพาะรูปเล่ม) เวลามีงานสัปดาห์หนังสือก็ต้องไปออกบูธ
แม่รู้จักน้องๆมากมาย (ตอนนี้โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันไปหมดแล้ว....) มีแต่เด็กน้อย ที่เขียนนิยาย เป็นความสามารถของน้องๆเค้าเนอะ แม่ก็ชอบอ่านนะ
ทุกวันนี้แม่ก็ยังติดต่อกับน้องๆ และยังคงส่ง สคสไปให้น้องเค้าเสมอ ทุกๆปี ตอนนี้ก็ยังคงติดต่อกันเหมือนเคยๆ
ตอนนั้นแม่สนุกมากๆ ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ ได้เจอคนมากมาย บางครั้งก็มีปัญหากัน ก็ช่วยกันแก้ สุดท้ายก็ผ่านไปได้เสมอ

แม่มองว่าการที่เราได้สัมผัสอาชีพที่หลากหลายนอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังได้เพื่อนและมิตรสหายมากมายอีกด้วย แม่ได้ลองทำงานอะไรที่ตัวเองไม่เคยทำ
มันน่าตื่นเต้นและหน้าสนใจกับแม่มากๆ ทำให้แม่ได้รู้ว่าวงการนิยายเป็นอย่างไร ลำดับการตีพิมพ์ การทำปก การเซ็ตสี เครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับเซ็ตสี
และอื่นๆอีกมากมายในวงการสิ่งพิมพ์ที่แม่ได้สัมผัส มันคือประสบการณ์ดีๆ ที่หล่อหลอมให้แม่เติบโตมา แม่อยากให้มิ้วได้ลองอะไรหลายๆอย่าง
ได้ลองทำอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ค้นพบว่าเราชอบอะไร และเก็บเอาประสบการณ์เหล่านั้นมาพัฒนาตัวเอง อาจจะมีเรื่องดี เรื่องไม่ดี
แต่อย่างน้อยคือประสบการณ์ชีวิตที่เราสามารถนำมาปรับใช้กับตัวเองในอนาคตได้จนวันตายเลยทีเดียว มิ้วของแม่จะเป็นคนที่มีความสามารถหลากหลาย
เพื่อนเยอะแยะมากมาย และเป็นที่รักของทุกคนนะจ๊ะ

รักมิ้วเสมอ
จาก พ่อทรและแม่กีฟท์



Photobucket



Photobucket




Create Date : 23 กรกฎาคม 2555
Last Update : 23 กรกฎาคม 2555 17:38:27 น.
Counter : 861 Pageviews.

0 comment
เล่าเรื่องให้มิ้วฟัง.....แม่ได้เครื่องปั้มนมมาให้มิ้วแล้ว
วันพฤหัสบดีที่ 19 ก.ค. 55 เวลา 1714 น.
อายุครรภ์ 31 วีค 5 วัน

    อัพเดทอาการวันนี้ วันนี้มิ้วน้อยของแม่ หมุนหัวทั้งวันตามเคย แม่ก็ปวดฉี่ทั้งวันเช่นกัน แม่ๆในคลับเริ่มมาสอบถามเรื่องอาการท้องแข็ง
แม่ก็เริ่มสงสัยตัวเองว่าทุกวันนี้แม่ท้องแข็งหรือเปล่านะ หรือยังไงกันแน่ หรือว่ามิ้วโก่งตัว แม่ยังแยกไม่ค่อยออกเลยว่าท้องแข็งกับโก่งตัวต่างกันยังไง
คนในคลับบอกแม่ว่าเวลาโก่งตัว มิ้วจะยังคงดิ้นๆ แต่ถ้าท้องแข็งมิ้วจะไม่ดิ้นเลย แม่ก็ยังกังวลว่า หรือว่าแม่ท้องแข็งไม่รู้ตัว เพราะท้องแข็งอาจมำให้คลอดก่อนกำหนด
แต่แม่ภาวนาให้มิ้วน้อยของแม่แข็งแรง และมีสุขภาพดี ไม่ว่าจคลอดออกมา นน เท่าไหร่ ขอแค่มิ้วสุขภาพแข็งแรงก็เพียงพอแล้วจ่ะ
อาการอื่นๆตอนนี้คือ แม่เจ็บนม เพราะต้องใส่ปทุมแก้ว ใส่มาแล้ว อาทิตย์กว่าๆ พ่อมิ้วบอกว่าหัวนมแม่ดูดีขึ้น ยาวขึ้น แม่รู้สึกว่าความเจ็บปวดที่แม่ใส่ มันลดลง
มันเหมือนมีความหวังเพิ่มขึ้นว่า มิ้วจะสามารถดูดนมแม่ได้อย่างดี และไม่มีปัญหา ตอนนี้ก็พยายามทำตามคำสั่งหมออย่างเคร่งครัด เพื่อการคลอดมิ้วใน
ไม่กี่อาทิตย์ที่จะถึงนี้ แม่ตื่นเต้นและต้องการเจอหน้ามิ้วมาก จิตใจจดจ่อ และหวังว่ามิ้วจะเป็นเด็กแข็งแรงเลี้ยงง่ายนะจ๊ะ

    เรื่องที่จะเล่าถึงวันนี้คือเครื่องปั้มนม เครื่องปั้มนมนั้นสำคัญไฉน? สำหรับคนที่เป็นแม่เต็มเวลาคงไม่สำคัญมาก  แต่สำหรับตัวแม่เป็นสิ่งที่สำคัญมากกกก
เครื่องปั้มนมมีเอาไว้เพื่อเก็บน้ำนมจากเต้าเพอเป็นสต็อกให้แก่มิ้วกินยามที่แม่จำเป็นต้องออกมาทำงาน ซึ่งแม่ได้อยู่กับมิ้วแค่ 3 เดือนกับวันลาพักร้อนอีก 12 วัน
แม่ไม่สามารถให้มิ้วดูดเต้าแม่ได้ทั้งวันได้ แต่แม่จำเป็นต้องเก็บนมไว้ให้มิ้ว กินเวลาแม่ไปทำงานเท่านั้น เครื่องปั้มนมจึงเป็นเครื่องมือที่จำเป็นมากๆๆๆๆ
แต่แม่เองไม่มีตังค์ซื้อหรอกนะ มันแพงมากจริงๆ แม่พยายามมองหาที่ปั้มนมที่เหมาะสมกับการใช้งานที่แม่ต้องการ คือต้องแบตเตอรี่ ไม่ต้องชาร์ต ปั้มไฟฟ้า
น้ำหนักเบา พกพาง่าย น้ำหนักไม่มาก และได้รับการยอมรับว่าใช้งานดี แม่พยายามค้นหารายละเอียดว่ายี่ห้อไหนดี และราคาเท่าไหร่
ตอนแรกแม่กะจะซื้อของหิ้วมาจาก e-bay เพราะราคาถูกกว่าเมืองไทย 4000-6000 บาท แม่ลองถามคุณตาว่าทำยังไงดี แม่ต้องใช้แต่ไม่มีตัง
แต่คุณตาก็ซื้อให้ ตอนแรกกะจะซื้อเครื่องจากเมืองนอก แต่แม่ก็กลัวไปต่างๆนาๆ (คิดมากซะงั้น) คุฯตาเลยบอกว่าเอาที่เมืองไทยดีกว่า ก็ไปเจอเว็บของหมอนุช
เค้ามีรับประกันเครื่องให้เป็นเครื่องหิ้วเนี่ยล่ะ แต่ทางร้านประกันกับร้าน 1 ปี เวลาเครื่องเสียส่งเครื่องมาให้ใช้ระหว่างซ่อม ติดต่อมีปัญหาถามได้ตลอด
แถมเริ่มประกันให้เมื่อเราคลอดออกมา ประทับใจร้านมาก คุณตาให้ตังแม่มาหลายเดือนแล้ว และแม่ก็ไม่ได้สั่งเครื่องไปซักทีตอนมันมีก็ไม่ได้สั่ง
จนไปคุยกับแม่ๆในคลับว่า ใครซื้อมาแล้วบ้าง สรุปเค้าเริ่มประกันให้วันที่คลอด พอไปสั่งของก็ดันหมด เคราะซ้ำกรรมซัดเสียจริง แม่เลยจองและไปบอกให้
คนในคลับจองด้วย เพื่อที่หมอนุชจะได้นับออร์เดอร์ของทางร้านว่าเพียงพอหรือไม่ แม่เพิ่งได้รับเมล์ และโทรศัพท์มาว่า เครื่องมาแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
แม่ก็เลยโอนเงิน(ของคุณตา) และเพิ่งได้เครื่องมาวันนี้ แม่ตื่นเต้นมาก ใช้ก็ไม่เป็น คู่มือเยอะแยะ อุปกรณืก็เยอะไปหมด ดูวุ่นวายมากๆ
แต่แม่ว่าแม่ก็น่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก และไปหาข้อมูลอื่นดูประกอบไปเรื่อยๆ ตอนนี้แม่รู้สึกอุ่นใจมากว่า ยังไงแม่ก็มีเครื่องปั้มนมแล้ว
ที่เหลือก็แค่วินัยของแม่ที่ต้องมีต่อการปั้มนมให้มิ้ว แม่มั่นใจมากว่า แม่จะมีนมให้มิ้วเยอะแยะ เพียงพอเลยล่ะจ่ะ เพราะเวลาที่ต้องทำอะไรเป็นเวลา
แม่จะเป็นคนที่ตรงเวลามาก ถึงแม้จะเหนื่อยแค่ไหน เพราะแม่มองว่ายังไงก็อยากให้มิ้วกินนมแม่ไปจน 1 ขวบ ให้ได้
    วันนี้แม่ขอเล่าแค่นี้นะจ๊ะ เพราะเวลาไม่พอ

รักมิ้วเสมอ
จาก พ่อทรและแม่กีฟท์



Create Date : 19 กรกฎาคม 2555
Last Update : 19 กรกฎาคม 2555 17:53:35 น.
Counter : 1153 Pageviews.

0 comment
เล่าเรื่องให้มิ้วฟัง.....ตอนงานแต่งงานของแม่กับพ่อ
วันศุกร์ที่ 18 ก.ค. 55 เวลา 17.04 น. ณ.โต๊ะทำงาน
อายุครรภ์ 31 สัปดาห์ 4 วัน

    อัพเดทอาการล่าสุด ช่วงนี้แม่เริ่มมีอาการใหม่เข้ามาแทรกแซง อาการนั้นคือเจ็บขาหนีบ และเดินเหมือนจะมีอะไรหลุดออกมา แม่เดินแล้วกลัวมิ้วหลุดจังเลย
เพราะรู้สึกถ่วงท้องมากๆ และเดินเหินเริ่มไม่สะดวกละ แม่รู้สึกมาตั้งแต่วันจันทร์ รู้สึกว่ามิ้วน้อยของแม่ตัวใหญ่มาก (แม้จะไม่ได้ซาวน์) บางครั้งเดินๆก็เหมือนฉี่จะเล็ดออกมา
เหมือนมิ้วดิ้นเป็น B-Girl หมุนไปเรื่อยๆ บางวันไปซ้าย บางวันไปไปขวา แต่วันนี้มาทางซ้าย มามุดๆ โก่งก้นตรงสะดือ วันนี้มิ้วน้อยดิ้นแรงในช่วงเช้า แต่พอมาบ่าย มิ้วดูแรงถดถอยหรือว่า
แม่ทำงานมากไป เครียดมิ้วเลยดิ้นน้อยไป จริงๆชอบให้ดิ้นเยอะๆนะจ๊ะ ดิ้นแรงๆ ให้แม่รู้ว่ามิ้วยังแข็งแรง เวลามิ้วดิ้นน้อยๆ มันใจหวิวๆยังไงไม่รู้ ต้องเอามือคอยจับ คอยกด
กลัวว่าจะมีอันตราย แต่พอจับไปก็ดิ้นคืนมา แม่เริ่มจะประสาทหลอนขึ้นทุกวัน ท่าทางกว่าจะถึงวันคลอดคงบ้าซะก่อน 5555

    การแต่งงานของแม่กับพ่อนั้น เริ่มมาตั้งแต่การเตรียมการเมื่อตอนต้นปี 54 เมื่อพ่อของมิ้วเริ่มขายของรัก (P.O.P ของ onepiece) ขายซะหมดตู้
แม่ถามเค้าก็บอกว่าจะเอาเงินมาแต่งงาน แต่การแต่งงานของเราสองคนไม่ได้ราบรื่นเท่าไหร่นัก เพราะเราทั้งคู่ไม่มีเงินเก็บ บางคนอาจมองว่า
ทำไมไม่รอเก็บเงินก่อนถึงมาแต่ง ถ้ามัวแต่เก็บเงิน คงอายุ 40 (5555 เรื่องจริง) แม่เลยมองว่าเอางี้ละกัน เราวางแผนกู้ยืมกันดีกว่า เพราะเราจะยืมระยะสั้น
พอได้ซองคืนมาก็เอาหนี้ไปคืนซะ (แต่แผนก้เปลี่ยนไป เพราะน้ำท่วมปลายปี 54 ทำให้กลายเป็นหนี้ระยะยาวและเสียดอกไปเฉยๆ รวมทั้งต้องยืมตังคนอื่น
เพื่อเอามาจัดงานซะด้วย แผนเสียไปหมด น้องน้ำไม่น่ามากรุงเทพเลยยยย) งานแต่งงานของพ่อกับแม่ แม่ได้ดูฤกษ์ยามด้วยตนเอง (ไม่มีใครดูให้)
ว่าอยากได้วันที่ 19 พ.ย. 54 ตรงกับวันเสาร์ สถานที่ในใจแม่ก็ได้ทำการค้นหามาว่า แม่อยากได้ที่ๆไม่แพงมาก และสามารถเอาโต๊ะจีนเข้าไปจัดได้
เพราะแม่ได้ไปค้นหาร้านโต๊ะจีนที่ดูดีและน่าสนใจสุดๆไว้ 1 ที่ (จริงๆก็ไม่รู้ว่าอร่อยมั้ย แต่ราคาและแพคเกจถุกใจคนไม่ค่อยมีตังเช่นพ่อและแม่มากๆ)
    แม่เริ่มหาข้อมูลสถานที่แต่งงานและเริ่มโทรไปถาม ที่แรกที่แม่โทรไปคือ อาคารรับรองพระราชวังดุสิต ซึ่งแม่อยากได้ที่นี่ที่สุด เค้าบอกยังไม่มีคนจอง แต่ไม่รู้ว่า
ช่วงนั้นจะมีพระองค์ภา มาใช้สถานที่บริเวณนั้นหรือไม่ แต่ชื่อแม่ก็ถูกจองเอาไว้ แม่ก้ดีใจมาก แต่ก็ไม่วายโทรไปถามสโมสรอื่นๆ แต่ไม่มีที่ไหนว่างเลย (วันดีมาก)
แล้วสุดท้ายฟ้าก็ประทานให้แม่ได้สถานที่แห่งนี้ แม่นัดไปดูสถานที่ สถานที่ไม่ใหญ่มาก หลังคาไม่โปร่ง การเดินทาองญุ่บริเวณพระบรมรูปทรงม้า
เดินทางมาไม่ยาก แต่อาจจะยกเพราะถนนมันมาบรรจบกันเยอะ 555 แม่ตัดสินใจจองไปทันที แล้วแม่ก็นอนยิ้มกริ่มไป (ต้องทำเอกสารเพื่อขอใช้สถานที่ด้วยนะ)
    ต่อมาเรื่องโต๊ะจีนร้านที่แม่อยากได้คือ ถวิลโภชนา ดูจากการจัดงาน และคอมเม้นต์ว่าอาหารอร่อย คนจัดงานโอเค แม่ก็เชื่อใจ (เชื่อคนง่ายมากกก)
แม่นัดชิมอาหาร อาหารโอเคทีเดียว และห่อกลับมาฝากพี่ๆที่ทำงานช่วยชิม ทุกคนบอกอาหารโอเค แม่ก็เลือกกันไป ราคาไม่แพงมากและสามารถออกแบบ
การจัดสถานที่ตามใจ ซึ่งแม่มีไอเดียบรรเจิดตลอดเวลาและอยากทำอะไรที่เป็นตัวแม่มากที่สุด ไม่อยากเหมิอนใคร และไม่อยากบานปลาย (สุดท้ายก็บานปลาย 555)
แม่ก็ทำการออกแบบสถานที่ วางแบบไปให้เค้าทั้งหมด ซึ่งในวันงานเค้าได้จัดออกมาตามที่แม่ต้องเป๊ะ และสวยงามสมใจอย่างที่แม่อยากได้ คุ้มราคาเป็นที่สุด...
    มาถึงของชำร่วย แม่อยากได้อะไรที่เป็นตัวแม่มากๆ ก็คือแมว 555 เห็นแมวแล้วต้องนึกถึงแม่แน่ๆ แม่เลยเลือกเซรามิกแมวคู่ ซึ่งพ่อของมิ้วก็เห็นว่าเหมาะและดี
เราเลยเลือกกันมาเป็นของขวัญแทนใจในราคาย่อมเยา ซื้อกันที่จตุจักร
    ชุดแต่งงาน แม่ก็ไม่เคยคิดแม้แต่ซักครั้งว่าจะเอาแพคเกจ แม่อยากเลือกเองและอยากได้เห็นกับตา แม่ไปเดินบางลำภู ที่ที่เค้าบอกว่ามีชุดแต่งงานมากมาย
ตอนนั้นแม่ก็อวบอ้วนพอตัว ไปร้านไหนเค้าก็ไม่ให้แม่ลอง เจอร้านนึงเค้าให้แม่ลอง แล้วแม่ใส่ได้ แม่เลยใจง่ายเอาซะงั้น 555 แถมต่อราคากันกระหน่ำ 4 ชุด 15000
แต่แม่ไม่เสียใจเลยที่เลือกร้านนี้ แม่เปลี่ยนชุดในรอบหลังเพราะผอมลง ชุดที่ใส่วันงานแต่งสวยมาก และมีงานปักช่วงอกที่ละเอียด คุ้มราคาสุดๆ รวมถึงชุดไทย
ตอนงานเช้าที่สวยเลิศประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นดีเทลหรือสีของชุด แม่ไม่เสียใจเลยที่เลือก และจะแนะนำคนให้ไปที่ร้านนี้ด้วยถ้ามีโอกาส ^_^
    การ์ดแต่งงาน แม่ก็เลือกที่จะออกแบบเองทั้งหมด และอยากได้เป็นโปสการ์ด เพื่อสีจะได้ไม่ตกกรณีส่งไปให้เพื่อนแล้วฝนตก (ส่งเรียนเชิญช่วงฝนตกพอดี -.-)
แม่ติดต่อพี่รหัสของแม่ ที่มีโรงพิมพ์ทันทีแจ้งรายละเอียดและได้การ์ดมาหน้าตาสวยงามตรงกับความต้องการ และพี่รหัสก็ช่วยแม่ทุกอย่าง เพราะแม่ต้องออกการ์ดใหม่ 2 รอบ
เนื่องจากน้องน้ำมาบุก ทำให้แม่ต้องเลื่อนงานแต่ง พี่รหัสก็พร้อมช่วยเหลือ ขอบคุณมากๆจริงๆนะจ๊ะ จุ๊บๆๆๆๆ
    รูปถ่าย Pre Wedding แม่มีการถ่ายเยอะมาก แต่ราคาย่อมเยา เพราะหาจาก ดีลต่างในเว็บเอา แบบถูกสุดๆ มีหลายเจ้าให้เลือกสรร ได้รูปมาเลือกอย่างมากมาย
ร้านแรกได้เสียรู้ซื้อรูปเพิ่มไป ตอนนั้นแม่ยังอ้วน เลยได้ภาพที่ไม่ดดนใจเท่าไหร่ แต่ว่าดูแลดีมาก ร้านที่สองถ่ายธรรมดาเน้นแต่งหน้านานมากกก ร้านที่สามนี่แม่ถูกใจมากแต่แต่งหน้าไม่สวย
แต่ภาพที่ได้สวยและแม่ซื้อไปเยอะ เอาเป็นรูปหน้างานด้วย ส่วนร้านสุดท้ายแย่ที่สุด รูปเอามาใช้ไม่กี่รูปแต่แม่ก็ต้องยอมใช้ เพราะเสียดายที่ไปถ่ายมา ได้ลองครบทุกร้าน รูปที่ได้มาก็มากอยู่
แต่ใช้เงินไปไม่ถึง 10000 บาท คุ้มมากและสามารถไปแนะนำต่อได้ว่าร้านไหนถ่ายสวย บริการดี แม่กะว่าไว้มิ้วคลอดออกมาอายุซัก 1 ขวบ แม่จะพาเราสามคนไปใส่ชุดแต่งงาน แล้วถ่ายกับมิ้ว
คงน่ารักน่าดู ยังไม่พอ แม่ได้รับความอนุเคราะห์จากป้าแตงโม ป้าแตงโมเป็นป้ารหัสของเพื่อนแม่คือน้าอีฟ (ตอนนี้เป็นด็อกเตอร์ อยู่อเมริกา) ป้าแตงดมถ่ายรูปสวยมากๆ แม่ก็เลยไปขอให้ป้าแตงโมไป
ช่วยถ่ายให้แม่หน่อย เพราะแม่อยากได้รูป outdoor บ้าง แม่เลยเลือกไปหัวหิน แถมไปด้วยรถไฟ (เปรี้ยวมาก) รถไฟก็ช้าตามสไตล์ แม่เอาของไปเยอะแยะ แต่งหน้าเอง เอาเสื้อผ้าไปเอง
เราเริ่มถ่ายกันตั้งแต่บนรถไฟ ไปถ่ายที่สถานีรถไฟหัวหินที่เค้าว่ากันว่าสวยที่สุดในไทย ถ่ายที่ชายหาดหัวหิน(นั่งมอเตอร์ไซค์กันออกมา) และปิดท้านที่เพลินวานยามเย็น (แม่เปลี่ยน 3 ชุด)
ป้าแตงโมช่วยอย่างเต็มใจและวันนั้นเราเหนื่อยกันมาก แม่ไม่ได้ให้ค่าตอบแทนใดๆ ป้าแตงโมอยากช่วยแม่อย่างเต็มที่ แม่ขอขอบคุณป้าแตงโมมาก ณ ที่นี้นะคะ ไม่มีป้าแตงโมแม่คงแย่
ไว้ให้ป้าแตงโมมาถ่ายมิ้วตอนเกิดด้วยดีมั้ย 555 (ได้คืบเอาศอกตลอด 555)
    ช่างภาพวันงาน แม่เฟ้นหาอย่างมากที่จะต้องได้ช่างภาพที่ดีที่สุด เรื่องราคาไม่เกี่ยง (ขนาดนั้น เว่อร์ไปอย่างมาก...) จริงๆราคาเกี่ยงนะ 555 คือมีงบอยู่น่ะล่ะ แต่เป็นงบที่สูงงมาก
ถ้าเทียบกับความจำเป็นกับของชนิดอื่นๆ แต่แม่เคยไปดูรูปงานบางคนแล้วแม่ไม่ปลื้ม แม่ไม่อยากให้งานแม่เป็นแบบนั้นเลย งานเช้าแม่ได้พี่ที่รู้จักแนะนำร้านมา และงานเย็นแม่เฟ้นหาเอง
และช่างภาพงานเย็นแม่พูดได้เต็มปากเลยว่าแม่เลือกไม่ผิด ไม่ผิดเลยจริงๆ!!!! ช่างภาพงานเย็นถ่ายรูปสวยมาก แล้วเอาช่างภาพมามากกว่าที่ตกลงไว้ เอาของเอาไฟมาเต็มที่ในวันงาน
แม่ประทับใจมาก แม่เลยจ้างช่างวีดีโอ ที่เค้าโคกับช่างงานเย็น ก็ไม่ผิดหวังจริงๆ แม่ได้ช่างไฟเพิ่ม ได้งานวีดีโอที่ไหลลื่นสมูท ภาพสวย เหมาะแกการจดจำไปตลอดชีวิต เป็นเงินที่แม่บอกได้เลยว่า
ไม่เสียใจเลยที่เลือกมา และจะแนะนำต่อไปๆๆๆ เพราะว่าประทับใจ(หน้าตาช่างภาพหล่อด้วยอ่ะจิ 5555) ประทับใจมากๆ เรื่องช่างงานเช้าแม่ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะมันไม่ค่อยปลื้ม
ทั้งมุมกล้อง นิสัยช่างภาพ และภาพที่ได้มา แม่ต้องมานั่งแก้สี ปรับภาพเอง ซึ่งไม่ใช่หน้าที่แม่เลยที่ต้องมาทำ (ดีว่ามีสกิลด้านนี้มากๆ) มันไม่เข้าท่าในสายตาแม่
แล้วงานเช้าของแม่ก็สั้นเพราะเราจัดแป๊บเดียว ก็เลยเกิดความสงสัยและเคลือบแคลงใจ และดีใจมากที่แม่ไม่เลือกเค้ามาเป็นช่างงานเย็น ไม่อย่างนั้น แม่คงร้องไห้ หรือไม่ก็ด่าไปแล้ว 5555
    ลืมเรื่องสถานที่จัดงานตอนเช้าไป แม่เลือก โรงพยาบาลสงฆ์ ตอนแรกแม่กะว่าจะจัดที่บ้าน แต่ที่บ้านมันเหนื่อยและไม่มีคนช่วยทำ แม่คงตายแน่ๆ
ดังนั้นเลือก รพ. สงฆ์ ราคาย่อมเยา และเค้าจัดให้เราครบทีเดียว ห้องแอร์ด้วย แม่ว่าคุ้มค่ามากๆ และที่สำคัญไม่เหนื่อยเรา ไม่ต้องจัดสถานที่ และได้บุญมากๆ เพราะเงินที่จ่ายไปจะไปช่วยเหลือพระทีอาพาธ
    วงดนตรีวันงาน แม่ไม่เอาเลยจ่ะ แม่เลือกที่จะเป็นการเปิดเพลงจากแผ่น ฉายสไลด์ เพราะแม่ไม่มีตังในเรื่องนี้แล้ว พยายามเซฟสุดๆ แต่ก็บานปลาย -*- ถ้าเลือกได้นะ แม่อยากไปร้องเองซะเลย
ไผเป็นนักร้องในงานแต่งของตัวเอง มันจะเท่ขนาดไหนกัน เอางี้ในงานแต่งมิ้วแม่ขอเป็นนักร้องบนเวทีของมิ้วละกันนะจ๊ะ เท่ดี 5555
    แหวนแต่งงาน แม่กับพ่อเนี่ยงบน้อยมาก เราไม่มีปัญญาซื้อหรอกแหวนหมั้น แหวนแต่งงาน อะไรหลายวง เราก็เลยตัดสินใจกันว่า เอาวะ เราซื้อคนละวงก็พอ แล้วก็ซื้อแหวนทอง ไม่เอาเพชรพลอย
วันที่เราสองคนไปซื้อเป็นวันที่ทองราคาลงที่สุด (รอมานาน 555) 24500 บาท ซึ่งจริงๆก็ยังแพงแต่วันนั้นลดสุด ตอนแรกจะซื้อฮั่งเซ่งเฮง แต่ที่ร้านคนเยอะไม่สนใจเรา เลยเปลี่ยนไปแม่ทองใบแทน ซึ่ง
ไม่ว่าจะยี่ห้อไหน พ่อกับแม่ก็ไม่ขายเพราะมันคือทองหมั้นของเรา หุๆๆๆ
    ช่างแต่งหน้าทำผม แม่มีช่างในใจ พี่ภา คนเดียวเท่านั้น ทำไมนะหรือ แม่รู้จักพี่เค้ามาได้ประมาณ2-3 ปีแล้วล่ะ ตอนนั้นแม่อยากทำสีผมมากๆ แล้วแม่ก็ไม่รู้ว่าเอ๋...แม่จะไปหาช่างที่ไหนดีน้า
ที่เค้าทำดีราคาไม่แพง แมหาแล้วหาอีก เจอคนมาแนะนำบน pantip ให้เบอร์มา แม่ติดต่อไปทันทีแล้วไปทำวันนั้นเลย (ปกติพี่ภาไม่ว่างแต่เหมือนดวงจะได้เจอ)
หลังจากนั้นแม่ก็ไปทำผมกับพี่ภาตลอด พ่อด้วยก็ตัดผมที่นั่นล่ะ แม่แนะนำคนให้ไปทำผมกับพี่ภา พี่ที่ทำงาน และอื่นๆมากมาย แต่งหน้า แม่เลือกพี่ภาอย่างไม่ลังเล ด้วยความที่เราสนิทกัน
พี่ภาแต่งหน้าทำผมให้ดารามากมาย แม่ไปทีไรก็คุยกันเรื่องดาราได้อัพเดทข่าว กับรูปถ่ายที่ไปถ่ายมาล่าสุด ไม่ว่าจะมีงานอะไร แม่ไว้ใจแค่พี่ภาเท่านั้น เรื่องแต่หน้าและทำผม
ดังนั้นวันงานแต่งงานแม่ พี่ภา จึงเป็นช้อยส์เดียว และช้อยส์สุดท้าย ไม่ว่าวันนั้นพี่ภาจำเป็นต้องไปทำงานที่ไหน ก็ต้องมาแต่งหน้าทำผมให้แม่อย่างแน่นอน เพราะเรารักกันมาก
เห็นมั้ยจ๊ะมิ้วคนเราเมื่อเราจริงใจต่อกัน เราก็จะได้เพื่อนเพิ่ม เราจะได้ความสัมพันธ์อันดี และที่สำคัญเราจะได้ของดีอีกต่างหากนะ
    โรงแรมส่งตัว อันนี้เนี่ยแม่พยายามมองหาว่า เอ้....เราจะไปส่งตัวกันที่ไหนดี เพราะแม่ไม่ได้มีพี่น้องที่จะมาช่วยเหลือเกื้อกูล ทุกอย่างพึ่งพาเพื่อนๆทั้งนั้น ดังนั้นพอจบงาน ตอนแรกที่ยังไม่ถึงวันงาน
แม่คิดว่าเราจะนั่งรถสวยงามเดินทางเข้า โรงแรม แต่เอาจริงๆไม่ใช่เลย ของบ้าของบอเอยะมาก สภาพก็เละเทะเหนื่อยสุดๆๆ ต้องไปเช็คอินเอง (ไม่เห็นเหมือนในละคร ที่เปิดมาเข้าห้องมีดอกกุหลาบ)
แบกของพาขึ้นไปบนห้องที่ไม่ใช่ห้องสวีท (ขนาดไม่สวีท ซื้อในงานไทยเที่ยวไทยยังแพงขนาดนั้น ห้องสวีทไม่รู้จะจ่ายกันจนน้ำตาไหลขนาดไหน 555) ไปถึงของก็เกือบเต็มห้อง
ก็ต้องมานั่งเก็บของ เก็บเสื้อผ้าที่ใส่งานเช้างานเย็น เก็บใส่ถุงเตรียมเอาไปคืนววันรุ่งขึ้น แถมคิดว่าจะได้สวีทกับสามี ก็อด ได้แต่นั่งนับซอง ข้าวก็ไม่ได้กิน ได้กินปลาที่เหลือจากงาน 1 ตัว
กับเค้กที่เหลือจากงานตัวเอง 1 ก้อน ความฝันที่มีสลายไปหมด 555 แหม่ ลืมตัวไปนึกว่าเป็นซินเดอเรลล่า ความจริงปรากฎ 555
    สินสอด อยากรู้ละสิว่าพ่อกับแม่มีมั้ย 555 ไม่มีหรอกจ่ะ เราไม่มีอะไรจะให้กัน มีแต่ความรักที่เรามอบให้กัน และมีมิ้วอยู่ในพุงแล้วอีกต่างหาก 555 โดยที่อยู่ในวันสำคัญที่สุดของพ่อกับแม่
ตรงตามที่แม่วาดฝันไว้ว่า อยากมีลูกในวันแต่งงาน เวลาแม่ชี้ให้ดูจะได้บอกว่ามิ้วอยู่ในพุงแล้วนะวันนั้นอ่ะจ่ะ บางคนมองว่าสินสอดคือเรื่องสำคัญ ถามแม่ว่าสำคัญมั้ย มันแล้วแต่ว่ามองยังไง
แม่มองว่ามันคือการแสดงฐานนะทางสังคม ซึ่งแม่ก็ไม่รู้จะเรียกร้องทำไม เพราะรู้อยู่แล้วว่าเราก็พอมีพอกิน เรากู้มาแต่งงานด้วยซ้ำ ไม่ได้มีเงินเก็บ บางคนอาจคิดว่าไม่พร้อมแล้วจะแต่งเพื่อ??
แม่เป็นคนที่มีความฝันและมีจุดหมายในชีวิต แม่ติดว่าต้องมีบ้านตอน 25 แม่ก็มีแต่งงานตอน 27 แม่ก็แต่ง มัวแต่รอเวลาทุกอย่างก็จะสายเกินไป แม่ไม่อายซักนิดที่จะพูดว่าแม่กู้เงินมาแต่งงาน
มุมมองของคนเรามองได้หลายมุม และหลายแง่ แม่ก็ใช้หนี้ของแม่ไป เรื่อยๆเดี๋ยวก็หมดเอง แต่แม่ได้จัดงานที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ญาติ งานแต่งงานที่ไม่ได้ใหญ่เกินตัว งานที่แม่ตั้งใจทำเอง
ทำเองทุกอย่าง แทบจะอยากแยกร่างไปทำทุกอย่างด้วยตัวเองให้หมดด้วยซ้ำ งานแต่งงานที่แม่ได้เจอคนที่รักแม่และแม่ก็รัก จริงๆมันจะไม่มีทางบานปลายเลยถ้าน้องน้ำไม่มาระราน
แต่มันก็ไม่เป็นไปตามแผน ทุกอย่างเปลี่ยนแผนไปหมด จากที่ต้องจัดงานวันเสาร์ ต้องมาจัดวันจันทร์ เพื่อนที่เคยจะมาได้ พอเลื่อนวันก็มาไม่ได้ หลายๆอย่างๆมันเปลี่ยนไปหมด แต่แม่ก็ไม่ท้อใจ
แม่ก็พยายามให้มันผ่านไป แล้วทุกคนก็พูดถึงงานแม่ในแง่ดี อาหารอร่อย งานน่ารัก เจ้าสาวสนุก เจ้าบ่าวขี้อาย ทุกอย่างเป้นไปด้วยดี และจบอย่างดีงาม
    สุดท้ายนี้ งานแต่งงานของแม่ไม่ใช่การแสดงฐานะทางสังคมว่าแม่มีแค่ไหน หรืออย่างไร แต่มันคือการแสดงเกียรติต่อธารกำนัล (ว่าไปนั่น) ให้แก่ญาติฝ่ายแม่และญาติฝ่ายพ่อ
มันคืองานรวมเพื่อน งานร่วมญาติ งานรวมคนที่เค้ารักและเป็นห่วงแม่ คนที่เค้าสนใจและต้องการร่วมแสดงความยินดีกับแม่ แม่มีความสุขมากในวันนั้น เพื่อนแม่ช่วยเหลือแม่เป็นอย่างดี
ช่วยแม่ทุกอย่าง ถ้าขาดเพื่อนๆไปแม่คงไม่รู้จะทำยังไง แม่รักเพื่อนๆของแม่มาก และรู้เลยว่าคำว่าเพื่อนแท้คืออะไร และเวลาลำบากเราควรพึ่งพาใคร ไม่ผิดหวังและเหมือนคนมีบุญ
ที่เราได้เพื่อนดีและรักเราจริงๆ งานแต่งงานของแม่นี้ แม่อยากให้มิ้วรู้ว่า มันคือความทรงจำที่สวยงาม อาจจะเหนื่อยยากแสนสาหัส อาจจะเจ็บในเรื่องราวบางเรื่อง แต่สุดท้ายก็ผ่านมาได้
และมันจะกลายเป็นความทรงจำตลอดไป ที่รอมิ้วมาดู DVD และรูปที่แม่ถ่ายมา (แม่ยังไม่ได้อัดซักใบเลย 555 )

รักมิ้วเสมอ
จาก พ่อทรและแม่กีฟท์

Photobucket


Photobucket


Photobucket


Photobucket


Photobucket


Photobucket


Photobucket


Photobucket


Photobucket


Photobucket













Create Date : 18 กรกฎาคม 2555
Last Update : 18 กรกฎาคม 2555 17:52:14 น.
Counter : 5606 Pageviews.

3 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  

tungift
Location :
สมุทรปราการ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เดือน 9 นี้จะได้เห็นหน้าลูกสาว "น้องมิ้ว" ของแม่แล้ว