Group Blog
 
All Blogs
 

ขอบคุณทุกคนที่ทำให้ยังมีผมในวันนี้.......

ชีวิตที่ผ่านมาของผม ทุกวันดูเหมือนขาดอะไรไป.... บางทีเคยถามตัวเองเสมอๆ
แต่ก็ตอบไม่ได้ว่า ทำไมเราถึงยังคงรู้สึกเหงา และความรู้สึกนั้น ทวีคูณขึ้นทุกวัน
สม่ำเสมอ และถี่ขึ้น บางทีอยากมีใครซักคน คอยคุยด้วย อยู่ข้างๆ และอยู่กับเรา
แต่เมื่อมองกลับมาที่ตัวผมเอง ผมกลับรู้สึกว่า ตัวเองไม่มีคุณค่าพอที่จะคบใคร
หรือบางทีก็มองว่า ตัวเราเองไม่ควรที่จะคบกับใคร

สิ่งที่ผมเสียใจที่สุดในตอนนี้คือ การได้เห็นคนที่ผมรัก จากผมไปต่อหน้าต่อตา
แต่สิ่งที่ผมกลัวที่สุดในตอนนี้ กลับเป็นว่า ผมกลัวที่จะจากคนที่ผมรักไปโดย
ไม่เอ่ยจำลาแม้ซักคำเดียว ผมคงรู้สึกเสียใจมาก ไม่น้อยไปกว่าคนที่จะเสียใจให้กับผม
ผมอยากให้ทุกคนรู้ว่า ผมคนนี้ ยังคงอยู่ตรงนี้ และอยากอยู่ตรงนี้ ต่อไปเท่าที่
จะมีเวลาเหลือให้กับคนที่ไม่แข็งแรงคนนี้.......




อาการเจ็บป่วยที่ไม่เคยหายสนิทซักที ทำให้บางทีผมรู้สึกท้อและล้ามาก
เพื่อนๆ ทุกคนที่คอยให้กำลังใจเป็นสิ่งเดียว ที่ทำให้ผมเองอยากมีชีวิตอยู่
เพื่อได้พบเพื่อนๆ เฮฮา และเป็นแรงบันดาลใจแรกที่ทำให้ผมเข้มแข็ง
อยากเจอเพื่อนๆ ในอีกวันหนึ่ง......

ผมมักจะออนไลน์ msn เสมอๆ ถึงแม้จะไม่อยู่หน้าจอก็ตาม เคยมีคนถาม
ทำไมผมไม่อยู่หน้าจอ แต่ก็ยังอยากจะออนไลน์ msn คำตอบคือ ผมออนไลน์ไว้
เพื่อจะให้เพื่อนฝากข้อความ แต่ถ้าผมอยู่หน้าจอ ผมจะรีบตอบกลับเพื่อนๆ ทันที
ที่ผมได้รับข้อความนั้นๆ หากวันใดที่เพื่อนๆ ไม่เห็นผมออนไลน์ ซัก 2-3 วัน
คงพอจะเดาออกว่าผมไปนอนหลับใน ร.พ. แต่ถ้าไม่เห็นผมออนไลน์ซัก 1 เดือน
หรือ 1 ปี 2 สิ่งที่จะเดาได้คือ ผมได้จากโลกนี้ไปแล้ว หรือไม่ก็ ผม Block MSN
ของเค้าทิ้งเอง ลัลล้า~*




ผมมักจะไม่ค่อยชอบทำให้ตัวเองมีเวลาว่างบ่อยๆ เพราะเวลาว่างของผม ผมมัก
จะคิดอะไรเรื่อยเปื่อย คิดในสิ่งที่ทำให้ความรู้สึกตัวเอง ไม่สู้จะดีนัก ทำไมผมถึงเป็น
คนที่คิดในแง่ลบเสมอๆ หรือโลกนี้มันไม่มีความสวยงามอยู่เลยรึ ประสบการณ์ทุกอย่าง
สอนให้ผมได้รู้จักคนมากขึ้น ให้รู้จักมุมมองของคน และรู้จักตัวเองดีขึ้น แต่สิ่งตรงข้ามคือ
มันสอนให้ผมได้มุมมองอีกด้านในแง่ลบของหลายๆ อย่าง แต่ถึงอย่างนั้น หลังจากผมคิดจบ
สิ่งเหล่านั้นก็จะผ่านไป และผมจะไม่นำกลับมาคิดอีก ผมคิดว่า ผมจะไม่จำมัน และเมื่อ
หลับตาลง และตื่นขึ้นมาอีกรอบ ผมจะพบกับความสดใสของวันใหม่ กับเพื่อนๆ
และสิ่งสวยงามต่างๆ ที่ยังคงมีอยู่ในโลกนี้

ความแตกต่างของความชอบกับความรักคือ ความชอบ เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเจอ
แต่ความรัก จะเกิดก็ต่อเมื่อได้พูดคุย รู้จัก สนิทสนม แบ่งปันความรู้สึกให้กัน และบอกความรู้สึก
ผ่านหลายๆ สื่อที่จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ได้ว่า " เรารักเค้า " ผมมักจะถามตัวเองเสมอๆ
ว่าเรารักเค้า หรือเราชอบเค้า สุดท้าย คำตอบคือ เราเพียงแค่ชอบ แต่ไม่เคยรัก เพราะความรัก
ลึกซึ้งกว่าคำว่า ชอบ มากมายนัก สิ่งที่เราเกลียดมากที่สุดในชีวิต กลับกลายเป็นสิ่งที่เราสามารถ
รับมันได้ แม้จะไม่ต้องการเหตุผลใดๆ มาอธิบาย คำว่ารัก คำนี้ ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดๆ ที่ผมเคยรู้จัก
ผมจึงไม่อยากจากคนที่ผมรักไป โดยไม่ร่ำลา แต่สิ่งเดียวที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้คือ.....

* ค น พ เ น จ ร * เขียนวันที่ 16 มิ.ย. 48 เวลา 14:44 น.




ชื่อภาพ : Fall in LA




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2548    
Last Update : 16 มิถุนายน 2548 15:10:33 น.
Counter : 441 Pageviews.  

ยังคงรอคอยใครซักคนหนึ่ง.....

เหมือนชีวิตยังคงขาดบางสิ่งไป เหมือนกับว่าผมยังคงไขว่คว้าบางสิ่งบางอย่าง
ทั้งที่ตัวผมเองคิดว่า ผมคงไม่มีโอกาสจะเจอคนที่เข้ามาใหม่ในชีวิตอีกแล้ว
แต่ทำไมตัวผมเองยังคงอยากจะหาคนคนนั้นให้พบ ยังคงอยากตามหา..... เธอคนนั้น




เป็นช่วงเวลายาวนานเช่นกันสำหรับผม ที่ไม่เคยลืมคนคนนึงออกจากชีวิตได้
ถึงแม้เวลานี้จะยังคงไม่ลืมเธอคนนั้น แต่เวลานี้ เธอคนนั้นคงจะจดจำผมไม่ได้
หรืออาจจะเลือนลางจนไม่มีผมในความทรงจำ เพราะผมเป็นเพียง ของดูเล่นของเธอ
เจ็บช้ำทุกครั้งที่นึกถึงคำนี้ แต่เธอไม่เคยรักกันเลย เธอเพียงสงสารผมเท่านั้น
ผมคงต้องอยู่กับความรู้สึกว่ารักเธอ และยังคงรักเธอ เพราะผมปฏิเสธตัวเองไม่ได้
ว่าผมยังคงรักเธอคนนั้น แม้จะนานเพียงใด แต่ผมเองหวังไว้ว่า.....
ซักวันหนึ่ง ผมจะได้เจอคนที่รักผม และรักผมมากจนยอมรับได้ว่า ผมเองไม่สามารถ
ลืมคนที่ผมรักได้ แม้ซักคนเดียวก็ตาม ผมรักคนที่ผมรัก และเมื่อรักแล้ว จะไม่มีวันลืม
มันช่างทรมานเหลือเกินเมื่อได้รู้ว่า เธอ คนที่ผมรัก ได้ลืมผมไปแล้ว แต่ผม ที่ยังคงรัก
จะรักมั่นเสมอ...... ตลอดไป.......




ร้องไห้ในใจไม่มีใครรับรู้ เก็บซ่อนความรู้สึกอันแสนบอบบางของตัวเอง
ปกปิดด้วยความแข็งแกร่งภายนอก ที่เพียงแต่มีใครซักคน ก้าวเข้ามาพร้อมกับความรัก
มันก็พร้อมจะพังทลายลง หากแต่ความรักนั้น กลับไม่ทำให้ใจที่แช่แข็งอยู่ กลับสดชื่นได้ดั่งเดิม
ทำไมใจจึงเย็นชากับความรัก ทั้งๆ ที่ ใจเราต้องการความรัก ต้องการคนรักซักคน
เข้ามาในทางเดินของชีวิตเรา ทุกครั้งที่คิดแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่า สิ่งที่ผมต้องการ
กับสิ่งที่ผมกระทำ มันขัดกัน เพราะกำแพงของตัวเอง ความคิดของตัวเอง มันบอกเสมอว่า
ถ้าเรามีความสุขกับมันมากเท่าไหร่ เมื่อถึงวันที่ต้องเจ็บอีกครั้ง เกินที่ใจจะรับไว้ได้
สิ่งสุดท้ายที่เหลือคือความอ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว และเหงาอีกครั้ง ทุกอย่างจะกลับมาจุดเดิม
แต่สิ่งที่ได้รับ บางทีก็เกินที่ความรู้สึกของคนคนนึงอยากจะรับมันเอาไว้
เกินความรู้สึกของใจดวงน้อยๆ ที่บอบบาง เกินที่จะเจ็บช้ำได้อีก ผมคงยังไม่พร้อม.... ที่จะรักใคร




หวังไว้แค่เพียงซักวันหนึ่ง ที่จะมีใครซักคนเข้าใจความรู้สึก เข้าใจว่าผมเองไม่ต้องการจะเสียใครไปอีก
การสูญเสียคนที่เรารักไป ในขณะที่ชีวิตยังคงต้องดำเนินอยู่ มันเกินความรู้สึกของผู้ชายคนนึง
ที่จะต้องรับมันและทนใช้ชีวิตต่อไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายอีกครั้ง การเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง.....
มันช่างทรมาน เหนื่อยล้า และก้าวเดินไป เพื่อพบเจอกับคนใหม่ๆ ต้องเข้มแข็งเพื่อจะชนะความรู้สึกของตัวเอง
สุดท้ายเมื่อเจอกับเธอคนใหม่ ก็ต้องกลับไปเจ็บช้ำ และต้องเริ่มต้นใหม่อีกหน.......

Never Ending Stories,
* ค น พ เ น จ ร * เขียนเมื่อวันที่ 02-04-2005 เวลา 01:56 น.




 

Create Date : 02 เมษายน 2548    
Last Update : 27 เมษายน 2548 13:20:52 น.
Counter : 466 Pageviews.  

..... คนไม่เข้มแข็ง .....

คืนนี้ผมนอนไม่หลับเลย ผมรู้สึกว่า ผมผิดมาตลอด กับคนรักคนล่าสุดของผม ทำไมผมไม่เคยเข้าใจเค้าเลยน๊ะ ผมถามตัวเองตลอด ผมเคยมอบสิ่งดีๆ ให้เค้ารึเปล่า เค้าอยากจะได้รับในสิ่งที่ผมมอบให้รึเปล่า ตอนนี้เค้าสบายดีอยู่รึเปล่าน๊ะ เพราะผมยังคงรักเค้าอยู่เหรอ หรือผมแค่หลงในตัวเค้ากันแน่ ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่เราคบกันมา มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะทำใจได้ ที่ว่า เราจะไม่ได้เป็นเหมือนเก่าอีกแล้ว แย่จังเลยความรู้สึกนี้ สำหรับผมเอง ผมยังคงอยากไปเที่ยวกับเธอ ยังคงอยากทำอะไรร่วมกับเธออีก คิดไปคิดมา ผมเองคงไม่เหมาะกับเธอเองแหละ เพราะขนาดวันที่เราแยกทางกัน ผมยังจำไม่ได้เลย ผมกลับมานึกดูอีกที ผมแยกทางกับเค้าวันที่เท่าไหร่น๊ะ 13 สิงหา รึเปล่า ทำไมผมถึงจำวันนั้นได้ดีเหลือเกิน

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม หรือ เมื่อ 2 เดือนเศษที่ผ่านมา ทางบ้านผมต้องไปต่างจังหวัด ทิ้งผมเอาไว้อยู่ที่กรุงเทพฯคนเดียว ผมเองรู้สึกเหงา แต่ยังไงก็ตาม ผมคิดว่าผมเองยังคงมีคนรักผมอยู่ด้วย แต่ในวันนั้นเป็นวันที่ผมรู้สึกทนรับไม่ได้ ที่คนรักผมได้โกหกผม ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว และความเป็นห่วง ผมจึงพยายามติดต่อเธอทุกวิถีทาง ผมโทรไปหาทางบ้านเธอ เพื่อที่จะถามว่าเธอไปอยู่ที่ไหน ผมยิ่งรู้สึกเป็นห่วงเธอมากขึ้น และคิดไปไกลเลยว่า ทำไม ทำไม เธอต้องโกหกผมด้วย ผมพยายามตามหาเธอตลอด แต่ก็ไม่สามารถหาเธอพบ ไม่ว่าจะตามไปในสถานที่ต่างๆ ที่คิดว่าเธอน่าจะอยู่ก็แล้ว แล้วสุดท้าย ผมก็ได้พบเธอที่ที่พักของเธอ ตอนที่ผมพบเธอ ผมรู้สึกดีใจมาก แต่ก็ด้วยความที่อดห่วงไม่ได้ ผมตวาดเธอ แต่ผมเองก็รู้สึกผิด รู้สึกเสียใจมากที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างลงไปอย่างนั้น แต่ผมอยากจะบอกเธอว่า ผมดีใจ ผมดีใจมาก ที่ผมเห็นเธอยังปลอดภัยดี ที่ผมยังคงเห็นเธอเป็นปรกติ แต่เธออาจจะไม่เข้าใจผมเลยก็ได้ เพราะผมเองเป็นคนอย่างนี้ ผมไม่น่าตวาดใส่เธอเลย ผมมันแย่จริงๆ เพียงแค่การโกหกครั้งเดียวของเค้า ซึ่งที่เค้าทำลงไป ผมไม่เคยถามสาเหตุ แต่วันนั้นผมก็พอจะรู้สาเหตุบ้าง เธอได้บอกผมมา และมันก็เป็นต้นเหตุของการแตกร้าวระหว่างเราในครั้งนี้

วันที่ 14 สิงหาคม ผมตื่นขึ้นมาด้วยความกังวลเป็นอย่างมาก ผมยังคงคิดถึงเค้า และทานอะไรไม่ลง แต่ผมก็ต้องไปทำงานกับเพื่อนๆ ตามปรกติ เพราะได้นัดกันเอาไว้แล้ว วันนี้ผมเองไม่สามารถทำงานได้ดีเหมือนวันก่อนๆ ความรู้สึกหน่ะเหรอ มีอยู่แค่ครึ่งคนเท่านั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ พยายามฝืนยิ้ม และไม่บอกใคร พยายามที่จะอยู่ตัวคนเดียวให้ได้ ผมเองไม่ใช่คนเข้มแข็งอะไรนัก ผมไม่เหมือนกับแฟนผม ที่ถึงแม้เค้าไม่มีผมแล้ว ยังอยู่คนเดียวได้ ผมคิดได้แค่เพียงเท่านั้น หากแต่ว่าอีกใจนึง ผมยังคงเป็นห่วงเธอ เป็นห่วงว่าเธอจะเหงา เป็นห่วงว่าเธอจะทำอะไรอยู่ ผมยังคงอยากมีเธอเสมอ ผมยังคงมั่นในรัก ผมยังคงคิดถึงโอกาสที่เราจะคืนดีกัน ผมไม่เคยสนใจคนรอบข้าง ว่าจะว่าผมยังไง ผมไม่เคยคิดถึงฐานะของเรา ผมถือว่า ผมอยากมีใครซักคน ที่เค้าเข้าใจผม ที่เค้ารักผม ที่เค้าจะอยู่กับผม ยามที่ผมท้อแท้ ที่เค้าจะมีผมเพียงผู้เดียว เฮ้อ ผมมันเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองเหลือเกิน ผมมันแย่มากๆ แต่ยังไงก็ตาม ผมยังคงคิดที่อยากจะมีเธออีกครั้ง เพราะผมคิดว่า ผมรักเธอ ถึงแม้เธอจะไม่เคยคิดรักผมเลยก็ตามที มันเป็นความรู้สึกเหมือนว่า อยากที่จะได้เธอกลับมา เป็นความรู้สึกที่เห็นแก่ตัวจังเลย ผมคิดอย่างนั้น

ผมลืมไปสนิทใจว่า วันสุดท้ายที่ผมได้ไปพบเธอที่ห้อง คือ เช้าของวันที่ 23 สิงหาคม นั่นเอง ผมรู้สึกผิดมาก ที่ขนาดวันที่เราแยกทางกัน ผมเองยังคงจำมันไม่ได้ ทำไม ทำไม ผมถึงมุ่งหน้าแต่ทำงาน สร้างฐานะ จนลืมไปแม้กระทั่งวันที่ผมกับเค้าแยกทางกันครบ 2 เดือนได้ เมื่อวานผมได้อ่าน Diary ของเพื่อนคนนึง หลังจากผมได้อ่าน ผมรู้สึกเสียใจมาก คืนนี้ผมยังคงไม่สามารถนอนหลับได้ดี เพราะผมเองรู้สึกผิด ที่คิดกับเธอไม่ดี คิดว่าเธอไปมีคนใหม่ ทั้งๆที่ผมเองไม่เคยถามเธอเลย ผมจะแน่ใจได้อย่างไร ทำไม อะไร ที่ทำให้ผมคิดอย่างนั้น เธอไม่เคยบอกผมเลย ว่าเธอไปมีใหม่แล้ว มีเพียงข้อความบางอย่างที่ผมได้อ่านจาก Webboard และบางอย่างที่ผมเคยได้พบ เท่านั้น ที่มันเหมือนสื่อความหมายว่าเธอมีใหม่ แต่ผมที่เคยมีความเชื่อมั่นในตัวเธอ ทำไมถึงได้เป็นไปแบบนี้ ทำไมผมถึงทำลายความรู้สึกดีๆ ที่เราเคยมีให้กัน ด้วยความคิดที่ชั่วๆ แบบนี้ ผมอาจจะเป็นฝ่ายที่ได้รับตลอดก็ได้ ไม่ใช่เธอ ผมไม่เคยคิดแบบนี้เลย แต่ตอนนี้ทำให้ผมคิดว่า ผมอาจจะไม่เคยให้อะไรเธอ ในสิ่งที่เธอต้องการเลย ผมไม่เคยเข้าใจเธอเลย ผมมันแย่มากๆ ถ้ามีโอกาสอีกซักครั้ง ผมเองตอนนี้รู้สึกยังอยากมีเธอกลับมาเหมือนเมื่อก่อน ผมจะพยายามทำ ในสิ่งที่เธอชอบ จะพยายามให้เธอ จะไม่เอาแต่ใจตัวเองอีก ผมคิดอยู่ทั้งคืนว่า ผมมันคงจะเป็นฝ่ายผิดเอง ผมขอโทษ ผมเสียใจ........

เมื่อวานมีคนมาโพสความเห็นให้ผมว่า " พี่หมีน้อยขา ปลูกถั่วเขียว ได้ถั่วงอกน๊ะ " แต่สำหรับผม เมื่อเราได้ถั่วงอก แต่เรายังคงอดทนปลูกมันต่อไป ถั่วงอกนั้น ก็จะโตและกลายเป็นต้นถั่วเขียวเองนั่นแหละ ทำไมผมถึงหมดความพยายาม ทำไมผมถึงหมดศรัทธาในความรักของเรา ทำไมผมถึงไม่เคยรู้เลยว่าเธอผู้ที่ผมรักนั้น ต้องการสิ่งใดกันแน่ ทำไม เธอในตอนนั้น ถึงโกหกผม เพราะชีวิตของผม เกลียดการโกหกที่สุด งั้นเหรอ แต่มันก็เป็นเพียงแค่ครั้งเดียว ครั้งเดียวเท่านั้น ทำไมผมถึงทำกับเธอได้ ผมไม่สบายใจจริงๆ ผมนอนไม่หลับ

วันนี้ผมจะต้องไปฟังผลตรวจที่ ร.พ. แต่เธอเองคงจะสนุกอยู่กับงานที่เธออยากจะทำ ผมเองยังคงรู้สึกไม่สบายใจเอามากๆ อยากให้เธอคนนั้นได้รับรู้ถึงความรู้สึกผมบ้าง ถึงแม้ในเวลานี้ ผมจะคิดว่า เธอคงจะไม่มีผมอีกแล้วก็ตาม แต่สำหรับผมเอง ในเวลานี้ ผมยังคงทำใจไม่ได้ที่จะมีใครใหม่เข้ามาในชีวิต เพื่อนๆ หลายๆ คนใน Diary แห่งนี้คงจะรู้ถึงความรู้สึกผมดี ผมไม่อยากทำผิดอีก ผมไม่อยากสูญเสียอีก ผมอยากกลับไปยังวันที่เราแยกทางกัน แล้วทำมันใหม่จังเลย ทำไมวันนี้ผมไม่เข้มแข็งเลยน๊ะ ผมรู้สึกตัวเองว่าแย่จังเลย แต่ยังไงก็ตาม ชีวิตยังคงต้องดำเนินไปตามสายลมแห่งกาลเวลา เราไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่เรายังคงเป็นเพื่อนกันได้น๊ะ ผมคิดได้แค่นี้ ถึงแม้ผมจะยังรักเค้าอยู่ แต่เค้าหมดรักในตัวผมแล้ว เกมส์ผมจบลงแล้วหรือ..........


เมื่อยามที่แรกรักกันมีความรู้สึกเหมือน สายลมอันอบอุ่น พัดผ่านในความเดียวดายที่มีเพียงเรา


เมื่อยามที่เรามีกัน เปรียบเหมือน แสงแดดยามเช้าที่ไม่เจิดจ้า แต่ทำให้ทุกสิ่งบนโลกได้เริ่มต้นชีวิต


เมื่อยามที่เราอยู่ด้วยกัน เปรียบเหมือน การเริ่มต้นสร้างความฝัน ไปพร้อมกับการเดินทางของกาลเวลาที่มีความสุข


แต่เมื่อยามจากกัน ใยเหลือแต่เพียงสายลมแห่งความหนาวเหน็บ คงเหลือไว้เพียงความอบอุ่นกับรอยยิ้ม ในความทรงจำ.........

ทะเลเอ๋ยจะรู้ใหมว่า คลื่นที่ซัดเข้าฝั่งทุกลูก พัดพาสิ่งดีๆ ลมเย็นๆ ให้มาติดหาด ในขณะเดียวกัน ก็นำสิ่งดีๆ หลายๆ สิ่งกลับลงสู่ทะเลเช่นกัน แต่มันก็คือการเริ่มต้นเดินทางของชีวิตใหม่ ทั้งคู่.........




ผมเองยังคงอยากที่จะมีเธอ
   ผมไม่เข้มแข็งเอาเลย
     * ค น พ เ น จ ร *

เขียนเมื่อวันที่ 24-10-2002 เวลา 13:07 น. ณ.Dogpositive.com




ชื่อภาพ : Moonlit Romance




 

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2548    
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2548 2:49:51 น.
Counter : 324 Pageviews.  

ทำให้ผมยิ้มได้เสมอๆ

คุณเคยมีสิ่งที่ทำให้เมื่อใดที่เห็นแล้วอดยิ้มเล็กไม่ได้เสมอๆ รึเปล่าครับ............

เช้าวันหนึ่งที่เป็นวันเหงาๆ ของผม ผมได้ตื่นขึ้นบนเตียง ใน ร.พ. แห่งหนึ่ง ผมอดยิ้มเล็กๆ ไม่ได้ที่เมื่อวานตอนเย็นมีกลุ่มเพื่อนๆ มาเยี่ยมผม เป็นเพื่อนที่ผมรู้จักกันในเน็ต เป็นกลุ่มเพื่อนๆ ที่ผมเคยไป meeting ด้วยเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ก็มีความทรงจำดีๆ ร่วมกันทุกครั้งที่ไปด้วยกัน พวกเค้ามาเยี่ยมผมพร้อมดอกไม้ 2 แจกัน เพราะตอนที่ผมเข้าไปนอนที่ ร.พ. ผมไม่สามารถทานอะไรได้เลย ผมมักจะเป็นแบบนี้บ่อยๆ คือมีอาการปวดท้องมากๆ แล้วก็อาเจียนไม่หยุด เป็นเวลาประมาณ 10-15 ช.ม. จะปวดท้องและอาเจียนตลอดเวลา ยาที่หมอสามารถให้ผมได้ก็มีเพียงแค่ ยาแก้ปวด ยาแก้อาเจียน และยานอนหลับ ถึงเวลานี้หมอเองยังคงไม่รู้ว่าผมเป็นโรคอะไร แต่คิดว่าน่าจะเป็นโรคแทรกซ้อนที่เกิดเนื่องจากผมรักษาสุขภาพตัวเองไม่ดีเพียงพอ ผมมีโรคประจำตัวอยู่แล้วด้วย ดังนั้น สิ่งที่นำมาเยี่ยมผมได้คงเป็นได้เพียงแค่ดอกไม้เยี่ยมไข้ กำลังใจ และรอยยิ้ม แต่มันก็เพียงพอสำหรับผม ผมรู้สึกเพียงพอจริงๆ เพราะผมเองต้องการเพียงแค่นั้น ผมกลับคิดว่าไม่ต้องการดอกไม้ด้วยซ้ำ เพราะเสียดายเงิน แต่มันคือน้ำใจของเพื่อนผมที่นำมาฝาก ผมรู้สึกดีใจมากจนบอกไม่ถูก แทบทั้งคืนที่ผมแอบตื่นขึ้นมาแล้วมองดอกไม้ 2 แจกันนั้น และยิ้มตอบกลับให้กับความรู้สึกและกำลังใจของเพื่อนๆ ที่มอบให้กับผม ผมรู้สึกดีมากๆ และแข็งแรงขึ้นทันที

ในสายๆ ของวันนี้มีเพื่อนที่ผมรู้สึกดีๆด้วย มาเยี่ยมผมอีก และนำข้อความของเพื่อนๆ ที่อยู่ในเน็ต อวยพรให้ผมหายป่วยใวๆ มาให้ผมอ่าน มันเป็นมิตรภาพที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ผมเองก็ไม่อาจรู้ แต่คำที่เพื่อนแต่ละคนพิมพ์มา มันทำให้ผมอดที่จะคิดถึงไม่ได้ว่า ถึงแม้ผมเองจะอยู่ในโลกของความเป็นจริง แต่ยังมีคนที่อยู่ในอีกฝั่งของโลกที่ผมอยู่ คิดถึงผม เป็นห่วงผม เป็นกำลังใจให้ผม อยากเห็นผมหายป่วยใวๆ พอผมอ่านกระดาษ 3-4 แผ่นนั้นจบผมเองก็ตัดสินใจได้ทันทีว่า ผมจะต้องดูแลตัวเองให้ดีขึ้นอีกมากๆ ผมป่วยมานานแล้ว จำไม่ได้แล้วว่านานเท่าไหร่ที่ผมเองไม่ค่อยดูแลตัวเองเลย ผมจะหันกลับมารักตัวเองให้มากขึ้น เพราะถ้าผมเองไม่รักษาตัวเองแล้ว ผมจะไปช่วยเหลือใครได้หล่ะ ขนาดชีวิตตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ผมคิดได้ว่า " คนเราถึงจะมีความรู้ หรือแม้แต่จะเก่งกาจขนาดไหน หากไม่สามารถรักษาชีวิตของตัวเองให้รอดได้ มันก็ไม่มีความหมาย เพราะเมื่อเราเสียชีวิตไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็จบ "

ผมป่วยเป็นโรคที่ต้องฉีดยา แต่เมื่อก่อนผมเองไม่กล้าที่จะฉีดยาให้ตัวเอง แต่ด้วยกำลังใจของเพื่อนๆ และคนที่ผมรู้สึกดีๆด้วย ครั้งนี้ ทำให้ผมอยากจะลองดู อยากจะลองเปลี่ยนตัวเอง เพื่อที่ผมจะได้เข้มแข็งขึ้น ผมเองเป็นคนกลัวเข็มมาตั้งแต่เกิด ระยะเวลาเกือบ 5 ปีที่ผมเริ่มเป็นโรคนี้ ผมเองต้องยอมรับเลยว่าผมไม่เคยเลยที่จะฉีดยาเอง ผมให้คนอื่นฉีดให้ผมตลอด และยาที่ผมสมควรจะใช้ มันไม่ตรงกับที่ผมใช้ในปัจจุบัน ผมคิดว่าอาจเป็นเพราะสาเหตุนี้ด้วยก็ได้ที่ผมเจ็บป่วยบ่อยๆ ผมเข้มแข็งขึ้นได้เพราะเพื่อนๆ เพื่อนที่อยู่คนละโลกกัน เป็นกำลังใจที่คุณๆ อาจไม่คิดว่ามีในโลก Cyber ก็ได้

แต่ถึงยังไงการที่ผมเปลี่ยนมาฉีดยาให้ตัวเองในครั้งนี้ มันก็ยังคงไม่ใช่ปัญหาอยู่ดี ผมเองยังคงเจ็บป่วยอยู่อีกบ่อยๆ แต่ช่วงเวลานั้น ผมเองเริ่มมีความรักกับ คนคนหนึ่งที่เข้ามาในชีวิตของผม คนที่เค้าซื้อดอกไม้มาฝากผมด้วย 1 แจกัน ในวันก่อน วันที่ผมป่วย ใช่ครับ ผมเองรักเค้า ผมรู้สึกว่าเรามีอะไรตรงกันหลายๆอย่าง เช่น เค้าเคยฝันที่อยากจะเป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ เหมือนกับที่ผมเองตอนนี้เป็นอยู่ , เค้าไม่ชอบโดยสารรถส่วนตัว เหมือนผมที่ถึงแม้บ้านจะมีรถให้ขับ แต่ยังคงนั่งรถประจำทาง , เค้าอยากไปเที่ยวทะเล ซึ่งผมเองตอนนั้นก็คิดอยากไปเที่ยวทะเลกับใครซักคนเหมือนกัน แบบไปด้วยกัน 2 คน , ผมเองอยากไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะบ่อยๆ และนั่งอยู่ด้วยกันกับใครซักคนเงียบๆ อ่านหนังสือ พูดคุยกัน และยิ้มให้กันตลอดเวลา ซึ่งผมเองก็คิดว่าเค้าก็คงคิดอย่างนั้นเหมือนกัน เรามีความรู้สึกหลายอย่างตรงกันมาก ถึงขนาดที่เราเอง 2 คนยังมีสายตาที่สั้นเท่ากันเลย ผมรู้สึกได้ว่าใจของเรานั้น ตรงกัน ช่วงนั้นเรามักคิดอะไรคล้ายๆ กันหมด เค้ายอมรับในทุกสิ่งที่ผมทำให้เค้า เค้ายิ้มให้ผมทุกครั้งที่ผมทำอะไรเปิ่นๆ ตลกๆ ผมชอบรอยยิ้มของเค้ามาก ผมรู้สึกได้ว่า ตอนนั้นผมกำลังมีความรัก และผมก็คิดว่า เค้าก็รักผมเช่นกัน

ผมมักจะยิ้มออกทุกครั้งที่ผม online ICQ แล้วเจอชื่อเค้า และเค้ามักจะยิ้ม หรือแลบลิ้นมาให้ผมก่อนทุกที เค้ามักจะทักผมมาว่า " วันนี้ง่วงจังเลย " แล้วผมจะตอบกลับไปบ่อยๆ ว่า " ง่วงก็ไปนอนจิ ไปเอาเต้นท์มาตั้งนอน หรือเอาเสื่อมาปูนอน หรือนอนใต้โต๊ะก็ได้ " เป็นคำพูดติดปากผมประจำแหละ และผมเองก็มักหัวเราะชอบใจให้กับคำพูดที่เธอชอบพิมพ์มาว่า " เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก " มันดูแล้วรู้สึกว่าแจ่มใสดี เป็นอารมณ์ที่ดีของเธอ เธอมักจะส่งการ์ดสวยๆ ผ่านทาง internet มาให้ผมบ่อยๆ และบทความต่างๆ หวานๆ ซึ้งๆ ซึ่งผมอ่านทีไร ผมก็อดที่จะรู้สึกตามอารมณ์ของบทความนั้นๆ ไปไม่ได้ ผมยังคงเก็บเมลล์ต่างๆ ของเค้าไว้ใน Mail Box ของผม และคิดว่าจะเก็บมันเอาไว้ตลอดไป เพราะมันคือความทรงจำดีๆ ความทรงจำที่เมื่อครั้งใดที่ผมเหนื่อย ท้อแท้ และกลับไปอ่าน ผมจะยังคงยิ้มออกเสมอ (เมื่อวานก็กลับไปเปิดอ่านทีนึง แล้วก็แอบยิ้มนิดๆ ตามเคย) รูปภาพต่างๆ ที่เราเคยถ่ายด้วยกัน สถานที่ทุกแห่งที่ผมเคยผ่าน ถึงในเวลานี้ผมเองจะไม่มีเค้าอีกต่อไปแล้ว แต่ตอนที่ผมเดินผ่าน หรือนั่งรถผ่านไป ผมก็ยังคงแอบยิ้มเล็กๆ ให้กับความรู้สึกดีๆ ในเวลานั้นเช่นกัน เพราะเวลานั้น " เรารักกัน "

แต่ในวันนี้ ครั้งล่าสุดที่ผมไปนอนที่ ร.พ. ผมไม่มีเค้าอีกแล้ว ไม่มีคนที่จะคอยอยู่ข้างๆ ไม่มีใครที่จะมาดูแลผม ทางบ้านผมเองมาเยี่ยมแค่ 30 นาทีต่อวัน แล้วก็กลับไป ผมเองจำได้ว่าผมไม่ได้ป่วยเข้า ร.พ. มาเกือบ 5 เดือนแล้ว ผมรู้สึกว่าช่วงที่ผมมีเค้า ผมรักษาสุขภาพได้ดีขึ้นมาก ดีกว่าแต่ก่อน อาการป่วยของผมเองก็ไม่ปวดมากมายนัก ผมเองสามารถบอกหมอได้หมดว่าผมต้องการยาอะไรในเวลานั้น(จำชื่อยาได้หมดแล้ว เข้า ร.พ. 39 ครั้ง ในเวลา 3 ปี จำชื่อยาไม่ได้ก็ควายหล่ะครับ) สำหรับการเข้า ร.พ. ครั้งล่าสุดนี้ ผมรู้สึกเหงาเล็กๆ แต่พอผมเหงา ผมก็โทรไปคุยกับเค้าบ้าง โทรไปหาเพื่อนๆบ้าง ประกอบกับผมเองแอบหยิบการ์ดที่เค้าเคยให้ผมมา ติดตัวมาด้วย พอมองมันไป ผมก็อดยิ้มให้มันไปไม่ได้ทุกที ผมพึ่งมารู้สึกว่า ในเวลานั้นๆ ผมมองมันเป็นแค่เพียงการ์ดอวยพรชิ้นเดียว เหมือนมันไม่มีค่าอะไรมากมาย แต่ตอนนี้มันทำให้ผมยิ้มได้ ทำให้ผมรู้สึกไม่เหงา ถึงแม้จะไม่มีเค้า แต่ก็ยังมีความทรงจำดีๆ ของเค้าอยู่กับเรา แค่นี้ยังไม่พออีกเหรอ คุณ * ค น พ เ น จ ร * ผมถามกับตัวเองอย่างนี้ทุกวัน ตั้งแต่ผมออกจาก ร.พ. และคำตอบที่ผมได้ในเวลานี้คือ............. คิดเอาเอง ไม่เฉลย เหอๆๆๆๆ

ในเวลานี้ผมเองยังคงยิ้มได้อยู่เสมอ เมื่อได้เห็นเค้า Online ผมยังคงอยากเห็นเพียงแค่เค้าคนนี้ Online ใน ICQ หรือ MSN เท่านั้น


เพราะมันทำให้ผมยิ้มได้
    * ค น พ เ น จ ร *

เขียนเมื่อวันที่ 20-10-2002 เวลา 0:06 น. ณ.Dogpositive.com




ชื่อภาพ : Evening Comfort




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2548    
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2548 2:58:09 น.
Counter : 311 Pageviews.  

กับคนที่รู้สึกดีๆ..........

คุณเคยมีความรู้สึกดีๆ กับใครบางคนที่พึ่งเข้ามาในชีวิตคุณบ้างรึเปล่าเอ่ย.......

ช่วงเวลาที่เราเหงา ไม่มีใคร ในความรู้สึกลึกๆ ภายในใจเราคงอยากจะมีใครซักคนมาช่วยเอาความรู้สึกเหงาๆ ลึกๆ ออกไปจากชีวิต บางคนพยายามหาคนที่คิดว่าใจตรงกันกับตัวเอง เพื่อปรับทุกข์ บางคนก็หาเพื่อนคุยเพื่อคลายความเหงา บางคนก็ออกไปเดินเล่นกับเพื่อน หรือออกไปจับจ่ายเพื่อที่จะทำให้เวลามันหมดไปเร็วๆ แล้วก็กลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานใหม่ แต่ผมเชื่อว่าความเหงามันหลบซ่อนอยู่ในใจของคนทุกคน เพียงแต่อยู่ที่ความเข้มแข็งในจิตใจของแต่ละคนที่จะแสดงออกมาอย่างไร หรือไม่แสดงออกมาเลยเท่านั้น

ในช่วงเวลาที่ผมเองรู้สึกเหงามากๆ เวลาที่ผมไม่มีอะไรทำ ผมมักจะเข้ามาในโลก Cyber แล้วพบป่ะผู้คน คุยกับเพื่อนๆ ใน ICQ หรือ MSN อ่านความคิดเห็นจากในกระทู้ อ่านบทความต่างๆ เพื่อที่จะสะสมความรู้ และฆ่าเวลาให้มันหมดไปเร็วๆ ผมคิดว่ามันเป็นการฆ่าเวลาที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผมอบอุ่น ผมไม่ได้อยู่คนเดียว มีอีกหลายๆคนที่อยู่หน้าจอฝั่งตรงข้ามเป็นเพื่อนกับผม และที่สำคัญประหยัดค่าใช้จ่ายและสามารถคุยกับหลายๆคนได้ ในเวลาเดียวกันก็ยังสามารถที่จะหาความรู้เพิ่มเติมได้อีกด้วย(คุ้มๆๆๆ)

ผมมักพบเพื่อนใหม่ๆ ทุกวัน และผมมักนึกอิจฉาเพื่อนหลายๆ คนที่เค้าเข้มแข็ง เค้ายิ้มได้ตลอด บางคนก็เม้าส์แตก บางคนก็มานินทาคนอื่นให้ผมฟังบ้าง บางคนก็มีมุขตลกๆมาคุยด้วย บางคนก็มาปรึกษาเรื่องที่จะจีบสาวๆ(ถ้าสาวๆ อ่ะ ผมพึงอกหักมาหมาดๆ เหอๆๆ) หนุ่มๆ(มาถามประมาณว่า ถ้าเค้าทำอย่างนี้แล้วผมจะรู้สึกยังไง ถามมาได้ ชั้นผู้ชายน๊ะย๊ะ) หรือถ้าเราได้ไปร่วมแจมกันเป็นกลุ่มๆ ใน msn พวกเค้าก็มักจะเกี้ยวสาวๆ แซวกันเล่นๆ บางมุขก็เจ็บๆ แสบๆ คันๆ เป็นความสุขเล็กๆ ของเหล่าชายโฉด(โสด) เชียวหล่ะ

แต่ก็บางคนก็เข้ามาด้วยความรู้สึกเศร้า เสียใจ และต้องการเพื่อนปรับทุกข์ ตัวผมเองมักจะได้คุยกับคนเหล่านี้บ่อยๆ และพยายามช่วยเหลือเค้าเท่าที่ตัวเองจะทำได้ แบ่งปันความคิดให้กันและกัน ไม่รู้สิ สำหรับผมคงรู้สึกมีความสุขที่ได้ช่วยคนอื่นคิดหล่ะมั๊ง ประมาณว่าเรื่องตัวเองยังเอาตัวแทบไม่รอด แต่ยังแส่ไปช่วยคนอื่นอีก พวกไม่เจียมตัวเอาเล้ย อิอิ

ผมเองมีเพื่อนเยอะ แต่ผมยังคงรู้สึกเหงาๆ อยู่ดี ทำไมตัวผมเองถึงไม่สามารถสลัดความเหงาออกไปได้ซักทีน๊ะ ผมถามตัวเองบ่อยๆ ทำไมทั้งๆที่เราเกิดมาก็มีพร้อมทุกอย่าง เพื่อนก็มีไม่น้อย แต่เรายังคงมีความเหงา ยังคงอยากมีใครซักคนเข้ามาแบ่งปันความเหงาของตัวเอง มันรู้สึกเหมือน " ความอบอุ่นในความเดียวดาย " ผมอาจจะอยากมีใครสักคนอยู่เคียงข้างตลอดเวลา แบ่งปันความสุขไป มากกว่าที่จะแบ่งปันความทุกข์ในใจผมก็ได้ เพราะตัวผมเองไม่ค่อยจะมีเวลาที่รู้สึกทุกข์ใจเท่าไหร่ เพียงแต่รู้สึกเหงาเท่านั้น

ผมคิดว่าซักวันหนึ่งผมจะต้องเจอใครซักคน คนที่มีความรู้สึกดีๆ ต่อกันอีก คนที่จะอยู่กับผมไปตลอด ไปทุกที่กับผม คอยห่วงใยและดูแลกันและกัน คนที่จะสามารถเข้าใจผมได้ และแบ่งความเหงาจากผมไป สำหรับผมแล้ว ไม่จำเป็นต้องใจตรงกัน หรือชอบอะไรเหมือนๆกัน เพราะถ้าเราอยู่ด้วยกัน ย่อมสามารถเรียนรู้กันและกันและเข้าใจกันได้ ไม่จำเป็นต้องน่ารักหรือสวย แค่เค้าเป็นคนดี เป็นคนที่รักผม เอาใจใส่ผม เหมือนใครบางคนที่พึ่งจากผมไป แต่ผมคงไม่นำเค้ามาแทนที่ของคนคนนั้น เพราะเค้าไม่ใช่คนคนนั้น ถึงแม้จะไม่มีใครแทนที่คนคนนั้นได้ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญอะไร เพราะมันยังคงมีที่เหมาะๆ ให้กับคนใหม่ ที่เดินทางเข้ามาในชีวิตผม ผมยอมรับว่าผมไม่สามารถลืมคนที่เคยรู้สึกดีๆ ด้วยได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะมีคนที่รู้สึกดีๆ เพิ่มอีกซักคนไม่ได้


ใช่ผมคงเหงาจริงๆ แหละ,
    * ค น พ เ น จ ร *

เขียนเมื่อวันที่ 19-10-2002 เวลา 0:05 น. ณ.Dogpositive.com




ชื่อภาพ : Colors of the Rainbow




 

Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2548    
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2548 20:36:52 น.
Counter : 274 Pageviews.  

1  2  

* ค น พ เ น จ ร *
Location :
บนโลกแถวๆ Antarctica

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add * ค น พ เ น จ ร *'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.