มฤตยูเขียว..จินตวีร์ วิวัธน์
มฤตยูเขียว ถ้าพูดชื่อจินตนา ภักดีชายแดน คงมีหลายคนที่ไม่คุ้นเคยหรืออาจจะไม่รู้จัก แต่หากเอ่ยนามปากกา จินตวีร์ วิวัธน์ แล้วละก็ คงมีคนร้องอ๋อกันสนั่นทีเดียว เพราะนะกเขียนท่านนี้ได้ฝากฝีไม้ลายมือในการประพันธ์นิยายมากมาย โดยเฉพาะในแนวลึกลับ สยองขวัญ ยิ่งเป็นที่ขึ้นชื่อ อย่างเช่น อมฤตาลัย, คุ้มพญาคำ ฯลฯ รวมถึง มฤตยูเขียวที่หลายคนกล่าวถึงว่าเป็นงานมาสเตอร์พีซของท่านเลยทีเดียว สำหรับมฤตยูเขียวเป็นเรื่องราวของนักพฤกษศาสตร์รูปงามนามว่า พิฌาน ที่มีความเก่งกาจเชี่ยวชาญด้านพืชพรรณประหลาดจากป่าอเมซอนเป็นอย่างมาก โดยเขาได้กลับมากรุงเทพเพื่อแก้แค้นให้กับบิดาที่ล่วงลับ (อันนี้เปิดเผยได้ เพราะทันทีที่อ่านก็รู้ตัวคนร้ายทันที) ผ่านพืชสายพันธุ์ประหลาดทั้งหลาย ที่ทั้งสยอดสยอง ทารุณ และชวนขนหัวลุก โดยบรรยากาศทั้งหมดทุกฉาก ผู้เขียนถ่ายทอดผ่านภาษาเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยอารมณ์ และทีน่าทึ่งที่สุดคือ ภูมิความรูอันมากมายของผู้แต่ง ทั้งด้านพฤกษศาสตร์, ภาษาศาสตร์, มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ โดยมีการเชื่อมโยงเรื่องราววิทยาศาสตร์กับเรื่องหิมพานต์ได้อย่างน่าสนใจปนสยอง รวมถึงเรื่องราววิวัฒนาการของมนุษย์ได้อย่าล้ำสมัย เพราะคาดว่าเรื่องน้แต่งมากไม่ต่ำกว่า 10 ปีแน่นอน แต่เนื้อเรื่องทันสมัยมาก การเดินเรื่องรวดเร็ว ทันใจมากในครึ่งแรก ชวนติดตามจนวางไม่ลง แต่ในช่วงท้ายอาจยืดยาวนิดหน่อย เพราะลงรายละเอียดเกี่ยวกับผลงานชิ้นโบว์แดงของดร.รูปงามคนนี้ค่อนข้างมาก ซึ่งมีเหตุที่สมควรเพราะผลงานชิ้นนี้จะถูกนำไปถ่ายทอดเป็นเล่มต่อที่ชื่อว่า "มนุษย์ชิ้นส่วน" ซึ่งจะสนุกสนาน สยองขวัญแค่ไหน ต้องลองไปหาอ่านกันดู เราเองก็ยังไม่ได้อ่าน ส่วนเรื่อวความรัก..เฮ้อ น้อยนิดมากๆ แต่ดีนะไม่เอียนดี แต่ออกจะรำคาญแม่ผู้หญิงทั้งหลายรอบตัวดร.พิฌานเสียเหลือเกิน วุ่นวายมากๆ น่าให้เจ้ากรีนเน็ตต้าฆ่าให้หมด..อ้าวไหงติดเชื้อมฤตยูเขียวมาได้เนี่ย!! สรุปแล้วใครที่เป็นแฟนคุณจินตวีร์ ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ แต่ถ้าใครหลงใหลฝีมือประพันธ์ในรูปแบบย้อนอดีต คายเกี่ยวเรื่องราวประวัติศาสตร์เรื่องนี้อาจทำให้ผิดหวัง เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย (ตอนแรกเราก็คาดแบบนั้น) แต่ถ้าเปิดใจรับแนวนิยายใหม่ ลองอ่านดูจะรู้ว่า นิยายเชิงวิทยาศาสตร์ก็สนุกไม่แพ้แนวอื่นๆ แล้วข้อคิดของเรื่องนี้ก็มีมากมาย โดยเฉพาะการเตือนใจถึงการสร้างสรรค์วิทยาการต่างๆในปัจจุบัน ที่อาจมีการก้าวล้ำเส้นศีลธรรมความดีงาม และอ้างความถูกต้องชอบธรรมที่ว่า เพื่อพัฒนาชีวิตมนุษยชาติ เพื่อให้การทดลองสร้างสรรค์นั้นถูกต้อง โดยไม่ย้อนคิดว่า สิ่งต่างๆเหล่านั้นย่อมเป็นดาบสองคม การพึ่งพาเทคโนโลยีที่มากเกินไปจนเกินกว่าจะควบคุมอาจเป็นผลร้ายมากกว่าผลดี และแท้จริงแล้ว มนุษย์ก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีส่วนเกินนั้นเลย
Create Date : 12 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 21 สิงหาคม 2552 8:46:24 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1263 Pageviews. |
|
|