Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
ไปเกาหลี มีอะไรบ้าง
Hello Japan
อาหารเวียดนาม ร้านอาหารบ้านคุณหมอ
เที่ยว เที่ยว....แล้วก็เที่ยวเมืองไทย
Glory ชวนชิม
ของขวัญ ของฝาก และของที่ระทึกเฮ้ย ระลึก
ของสวยๆงามๆ
ประเทศเพื่อนบ้าน (South East Asis)
เมืองไทย
รูปสวยๆที่ชอบ
รอ
แอบลดน้ำหนัก
รวมสูตรลดน้ำหนัก
All blogs
เช็คทั้งสภาพอากาศ และ ฤดูกาลของ...ญี่ปุ่น
Japan Rail Pass (JR Pass)
ทางสถานฑูตญี่ปุ่นจะเริ่มเปิดให้ยื่นวีซ่าเดี่ยวที่ศูนย์ JVAC แล้ว
ผลึกสวยๆของหิมะ
มารู้จัก ซุซิกัน
โทมิตะ ฟาร์ม
ทางสถานฑูตญี่ปุ่นจะเริ่มเปิดให้ยื่นวีซ่าเดี่ยวที่ศูนย์ JVAC แล้ว
ทางสถานฑูตญี่ปุ่นจะเริ่มเปิดให้ยื่นวีซ่าเดี่ยวที่ศูนย์ JVAC แล้ว
วันและเวลาทำการ เริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 4 สิงหาคม 2553
การยื่นรับคำร้อง วันจันทร์ - วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08:30 ถึง 17:30 (ไม่มีพักกลางวัน)
การคืนหนังสือเดินทาง วันจันทร์ - วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08:30 ถึง 17:30 (ไม่มีพักกลางวัน)
วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08:30 ถึง 12:30
ระยะเวลาดำเนินการ อย่างน้อย 5 วันทำการนับขากวันที่รับยื่นคำร้อง (ยกเว้นวันเสาร์)
อัตราค่าบริการ 535 บาท
ค่าธรรมเนียมวีซ่า วีซ่าทั่วไป (Single) 1080 บาท วีซ่า Multiple 2160 บาท วีซ่าทรานซิท 260 บาท
จะต้องชำระค่าบริการพร้อมกับค่าธรรมเนียมในวันยื่นขอวีซ่า
ศูนย์รับยื่นวีซ่าประเทศญี่ปุ่น (กรุงเทพฯ)
ชั้น 15 ยูนิต C อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ถ.สีลม
Tel : 02-632-1541-4
วีซ่านั้นสำคัญไฉน
วีซ่านั้นสำคัญแน่นอน เพราะเป็นใบเบิกทางที่จะทำให้เราสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นได้ และทุกคนที่จะเดินทางเข้าญี่ปุ่นไม่ว่าโดยเหตุประการใดก็จำเป็นที่ต้องดำเนินการขอวีซ่าก่อน จะมีข้อยกเว้นให้เฉพาะสำหรับคนที่ถือหนังสือเดินทางการทูต และหนังสือเดินทางราชการเล่มสีน้ำเงินเท่านั้นที่สามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้เลย โดยไม่ต้องทำการขอวีซ่า
หลายคนที่ไม่เคยเดินทางเข้าญี่ปุ่น หลายคนที่มีความใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งอยากจะไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่หลายคนที่ถอดใจตั้งแต่แรกเพราะเรื่องวีซ่านี่แหละ เพราะไปเจอใครอีกหลายคนบอกอย่าไปเลยญี่ปุ่นขอวีซ่ายาก แต่หลายคนที่บอกเคยขอวีซ่าญี่ปุ่นหรือแม้แต่ได้เคยเดินย่างกรายเข้าไปในบริเวณสถานทูตหรือเปล่าก็ไม่รู้ 55555
เลยอยากจะขอเล่าเรื่องการขอวีซ่าญี่ปุ่นให้ฟังกันสักหน่อย ว่าที่ขอยากขอเย็นจริงหรือเปล่า แต่วันนี้จะขอคุยเฉพาะวีซ่าท่องเที่ยวและธุรกิจเท่านั้น เพราะถ้าเป็นเรื่องการขอวีซ่าเพื่อไปทำงาน ไปอยู่กับญาติหรือศึกษาต่อ เงื่อนไขต่าง ๆ จะไม่เหมือนกันต้องดูกันเป็นราย ๆ ไป
ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีก่อน คนไทยสามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าด้วยซ้ำ แต่ด้วยความเจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วของประเทศญี่ปุ่นทำให้ถูกมองว่าเป็นแหล่งขุดทองที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง ทำให้มีคนไทยรวมทั้งคนชาติอื่น ๆ หลั่งใหลเข้าไปทำมาหากินอยู่เป็นจำนวนมาก จนทำให้ไม่สามารถคัดกรองได้ว่าใครเป็นใคร ใครมาเที่ยวเดี๋ยวเดียวก็กลับ ใครมาแล้วมาลับไม่กลับอีกเลย ก็จำเป็นต้องมีกระบวนการคัดกันสักหน่อย ก็คือการต้องยื่นขอใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศหรือวีซ่านั่นเอง
หลักเกณฑ์การพิจารณาก็ไม่มีอะไรมาก ถ้าเราเป็นคนมีหลักมีแหล่ง มีงานการทำ มีเงินออมพอที่จะใช้จ่ายในการท่องเที่ยว ไม่มีประวัติการหลบหนีเข้าเมืองหรือทำพฤติกรรมว่าจะไปผิดกฎหมายบ้านเขา การที่จะได้รับอนุมัติวีซ่าก็ไม่ใช่เรื่องยาก
หลักฐานในการขอวีซ่าก็ไม่มีอะไรมาก ไม่ต้องไปเสาะหาจากที่ไหน เป็นเอกสารส่วนตัวของเราเองนี่แหละ เตรียมให้พร้อมแล้วก็เอาไปยื่น
1.แบบฟอร์มการขอวีซ่า
แบบฟอร์ม สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่เลย //www.th.emb-japan.go.jp/img/visaform.pdf
เดี๋ยวนี้ต้องกรอกใบนี้เพิ่มด้วย //www.th.emb-japan.go.jp/en/consular/visa_qe.pdf
ต้องกรอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด โดยสามารถดูวิธีการกรอกคำร้องได้ที่นี่ //www.th.emb-japan.go.jp/th/consular/form.htm
2.หนังสือเดินทาง
หรือเรียกกันจนติดปากว่าพาสปอร์ตนั่นแหละ แต่ตรวจดูหน่อยว่าใกล้จะหมดอายุหรือยังเพราะพาสปอร์ตที่จะใช้เดินทางไปต่างประเทศได้นั้นต้องมีอายุการใช้งานเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
เรื่องอายุของพาสปอร์ตนี่ก็ทำให้สับสนได้ง่ายเหมือนกัน บางคนถึงขั้นไปเข้าใจว่าต้องทำพาสปอร์ตมาแล้วอีก 6 เดือนถึงจะใช้ได้ อันนี้ถือว่าเข้าใจผิดอย่างแรง ขออธิบายให้เข้าใจแบบง่าย ๆ ล่ะกัน สมมุติถ้าต้องการเดินทางเข้าญี่ปุ่นในวันที่ 10 ตุลาคม 2553 ก็ให้นับไปอีก 6 เดือน
คือพาสปอร์ตต้องไม่หมดอายุก่อนวันที่ 10 เมษายน 2554 เท่านี้เป็นใช้ได้
3.รูปถ่าย
รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 รูป โดยต้องเป็นรูปถ่ายหน้าตรง ฉากหลังต้องเป็นสีอ่อน ๆ ถ้าเป็นสีขาวได้ก็แจ่มเลย เพราะเดี๋ยวนี้สถานทูตอื่น ๆ บังคับให้ใช้พื้นหลังสีขาวกันหมดแล้ว ถ่ายที่เดียวจะได้เก็บไว้ใช้หลาย ๆ งาน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเพราะเวลายื่นวีซ่ามาตกม้าตายกับเรื่องรูปถ่ายมาเยอะแล้ว ฉะนั้นตอนถ่ายรูปไม่ต้องยิ้ม ไม่ใส่แว่นดำ ไม่เอียงคอ ไม่เบี่ยงซ้ายเบี่ยงขวา ถ่ายมันหน้าตรง ๆ นี่แหละ เก็กหน้าเข้าไว้ เดี๋ยวดีเอง แล้วถ้าให้ดีควรเข้าไปถ่ายที่ร้านถ่ายรูปจะดีกว่า เพราะถ่ายเองบางทีทั้งแสง ทั้งขนาดไม่ได้ ก็ต้องเสียเวลาไปถ่ายใหม่
4.หลักฐานการทำงาน
สำหรับคนทำงานบริษัทเอกชนหรือรับราชการคงไม่ยาก แค่ไปขอจดหมายรับรองการทำงานจากฝ่ายบุคคล ซึ่งส่วนใหญ่แต่ละหน่วยงานก็จะมีแบบฟอร์มอยู่แล้ว ต้องขอเป็นภาษาอังกฤษนะ ภาษาไทยใช้ไม่ได้ ส่วนเงินเดือนจะระบุหรือไม่ระบุก็ได้ เพราะเราเอาไปใช้ขอวีซ่าไม่ได้เอาไปขอเงินกู้ แต่สำหรับคนที่ทำงานอยู่ในบริษัทมหาชน ถ้ามีเงินเดือนเกิน 20,000 บาท แล้วระบุลงไปในจดหมาย จะได้รับสิทธิ์ไม่ต้องโชว์สมุดบัญชี
คนที่เป็นเจ้าของกิจการก็ไปคัดหนังสือรับรองบริษัทที่ออกจากกระทรวงพาณิชย์ แต่ต้องคัดมาไม่เกิน 2 เดือน ถ้าเกินก็ต้องไปคัดมาใหม่
ส่วนคนที่ทำอาชีพอิสระไม่ได้จดเป็นรูปบริษัท ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างภาพอิสระ ค้าขายทั่วไป อันนี้ก็ไม่มีปัญหา พิมพ์จดหมายขึ้นมาเองเลย อธิบายว่าเราประกอบอาชีพอะไร ทำมาหากินอยู่แถวไหน มีเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว
น้อง ๆ นักเรียนนักศึกษาที่ยังเรียนหนังสืออยู่ก็ขอหนังสือรับรองจากสถานศึกษาที่เราศึกษาอยู่แต่ก็ต้องออกเป็นภาษาอังกฤษเหมือนกันนะ ตรงนี้ยกเว้นให้ถ้าอายุต่ำกว่า 16 ไม่ต้องใช้ก็ได้
5.สมุดบัญชี
อยากขอวีซ่าแต่ไม่อยากโชว์สมุดบัญชีได้ไหม ตอบเลยว่าได้แต่จะไม่ได้ไปอ่ะซิ หุ หุ
สมุดบัญชีก็เป็นเอกสารสำคัญอีกชิ้นที่มีผลต่อการพิจารณาอนุมัติวีซ่า สถานทูตญี่ปุ่นจะรับพิจารณาเฉพาะบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์และฝากประจำเท่านั้น บัญชีกระแสรายวันกับ Bank Quarantine ไม่ต้องติดไปให้หนักมือ เพราะไม่รับพิจารณา ส่วนจะต้องมีเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝากเท่าไหร่ถึงจะขอวีซ่าได้ ข้อนี้ถามไปกี่ทีก็ไม่เคยได้รับคำตอบจากสถานทูต เพราะในความเป็นจริงเขาจะพิจารณาการเดินบัญชีประกอบด้วย ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาเราเดินบัญชีอยู่หลักพันบาท จู่ ๆ กำลังจะไปยื่นวีซ่ามีเงินโผล่เข้ามาหลักแสนอันนี้ก็ดูไม่น่ารักเท่าไหร่ ฉะนั้นปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะคนที่คิดจะเที่ยวก็คงต้องมีเงินออมพอเหมาะพอสมที่จะนำมาใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวอยู่แล้ว อย่าลืมไปธนาคารปรับยอดให้เป็นยอดปัจจุบันด้วย
6.ทะเบียนบ้าน
ถ้าใครบ้านอยู่ต่างจังหวัด หรือบ้านอยู่ไกลแต่ตัวอยู่คอนโดใกล้ที่ทำงาน ไม่สะดวกที่จะกลับไปเอาทะเบียนบ้านตัวจริงมา ก็สามารถใช้วิธีไปขอคัดทะเบียนบ้านจากสำนักงานเขตที่เราสะดวก ก็สามารถเอาไปใช้ได้เหมือนกัน
7.หลักฐานอื่น ๆ
อันนี้เหมารวม ๆ ล่ะกัน ใครจดทะเบียนสมรส ใครเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล ก็ติดเอกสารพวกนี้ไปด้วย
เตรียมเอกสารครบทั้งตัวจริงและสำเนา ก็พร้อมยื่นได้เลย ไปไม่ถูก คลิ๊กที่นี่ แผนที่สถานทูตญี่ปุ่น เวลาทำการ 08.30-11.15 น.
ไปก่อนได้แต่อย่าไปหลังเดี๋ยวเสียเที่ยวเปล่า ๆ
แล้วค่าวีซ่าตอนนี้เก็บอยู่คนละ 1,000 บาท ยังไม่ต้องจ่ายตอนยื่น ค่อยไปจ่ายเอาตอนไปรับพาสปอร์ตคืน ใครไม่ผ่านไม่ต้องเสียตังค์ เสียแต่เวลา (ญี่ปุ่นใจดีใครกำลังเรียนอยู่ระดับปริญญาตรีไม่ต้องเสียค่าวีซ่า) ทำไมให้เฉพาะปริญญาตรีหว่า ประถม มัธยมก็ไม่ให้ใจร้ายจัง
ระยะเวลาในการยื่นปกติก็ใช้เวลา 2 วันทำการ แต่ถ้าเป็นช่วงวันหยุดยาว คนเดินทางท่องเที่ยวเยอะ ก็เผื่อเวลาหน่อยก็ดี
Create Date : 03 สิงหาคม 2553
Last Update : 3 สิงหาคม 2553 9:59:21 น.
6 comments
Counter : 833 Pageviews.
Share
Tweet
ขอบคุณนะค่ะ
สำหรับข้อมูลดี ๆ จะได้ไปยื่นไม่ผิดที่ค่ะ
โดย:
~TonDeIku~
วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:10:10:08 น.
แวะมาทักทายครับ
ข้อมูลดีจัง เราก็อยากไป ไปและก็ไม่อยากกลับมาเหมือนกัน
โดย:
pragoong
วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:10:55:20 น.
เพิ่งไปยื่นมาครับ ถามหน่อยครับ ว่า การยื่นวีซ่าเป็นกลุ่ม ไปด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน
ในการพิจารณาวีซ่า ถ้าได้นี่จะได้หมด หรือไม่ได้หมด หรือว่าได้เป็นบางคนแล้วแต่รายไป
รอลุ้นอยู่ครับ
โดย: P IP: 10.38.1.24, 122.154.18.253 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:13:55:07 น.
ไม่เกี่ยวครับ การพิจารณาแยกกันเป็นรายบุคคลครับ
โดย:
กระชอน
วันที่: 4 สิงหาคม 2553 เวลา:12:32:42 น.
เพิ่งไปยื่นมาค่ะแต่ไม่รู้จะผ่านมั้ยตอนแรกบอกให้ไปฟังผลวันศุกร์นี้พอสักพักสถานฑูตโทรมาบอกว่าต้องพิจารณานานหน่อยเพราะเพิ่งเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก ลืมไปแฟนคนญี่ปุ่นออกค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างและมีจดหมายเชิญเอกสารครบหมดเลย กลุ้มใจจังกลัวไม่ผ่าน
โดย: na IP: 183.89.71.144 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:16:39:41 น.
นู๋ไปมาแล้วอิอิ สวยมากกกเลย たのしいよo(^▽^)o
โดย: のい IP: 125.25.2.29 วันที่: 14 มกราคม 2554 เวลา:22:15:56 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Tree Rose
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [
?
]
Friends' blogs
Calamity
Suessapple
ว่านน้ำ
thi
zuling68
TOYOTA GIRL
Naomichan
pookhakae
deo
คุณแม่ติดเน็ต
กิน ๆ เที่ยว ๆ
หลั่มหมั่นเหม่ง
ดา ดา
sarinrat
ฝนเหงา
KTOne
LiTTleGipsy
pk12th
Favorite Nightmare
arcoiris
memiles
CHISWICK
Groof&Jeab
sweetbeebow
cutiecosme
the fivedog
benopenair
anotherside
แพรวขวัญ
เต่าญี่ปุ่น
sweety-around-the-world
sirimas_m
ostojska
taorn
star-crystal
anotherfarangswife
freaky_jeejy
msc
whymemarie
Alone with out lonely
amienaruke
ari1019
fino4710
crazyrabbit2u
หมาดำปราณบุรี
makeupintrend
DAN_KRAB
ณ มน
poopkapap
Kukas
babbbirdbird
lurano
beebie
แม่อ้วนใจดีที่สุด
โกโก้คุง**
Baked by PonG
rita-bunny
never the last
honeynut
karajinannan
joo
jjbd
วัชเจียเหว่ย
Puyfai Makeup
xemmy
Paradijs
lozocat
ญามี่
whiskysoda
wintergreenberry
Ann Arbor
N_BEE810
dont wanna no
satineesh
Yai Kaew
jiujik1
ผ้าไหมไทย
namfaseefoon
tarkow
SevenDaffodils
prapasawat
vr_molecule
คนคนนี้ มีความเหงาเป็นเพื่อน
Tristy
พลอยสีขาว
chaaimwan
KungGuenter
Khunmai studio
chaoswalker
กรีนทรี
kitpooh22
kritsada171
Cookie Nim
Tiny Bakery
poongie
chef umim
noonong
สมันน้อย เบอร์ 14
sodaaning
นวลกนก
+ordinary imp+
Khenpa_meto
แมวเหมียวพุงป่อง
พนอจัน
HappyToBeMe*
CEOTHAI42
diamondsky
ลอร่า อิงกัลส์ ~*
สาธุซอย58
specialgifts
molly-nanny
just-winter
free4u
ฟันคุดน้อยซี่ที่7
iTiMiTi
sitcomthai
fahtsuki
paiinlove
Title_boy
lighthouse
aeandpop
maeil
luckystar
PuPe_so_Sweet
M-Jaru
patsita
japanstory
dentton
standupplease
angleofcharlie
ayatana
rainynight
alperture
zantha
khaiyoy-backpacker
wipcreamlemon
BaNgRaK
mantadoctor
adaytrip
germanwife
chim
flowerkale
its_gemmi
หลับอุตุ
tabtimsiam
Ab Psy ReinDEAR++
loveparadise
putan
triny
Webmaster - BlogGang
[Add Tree Rose's blog to your web]
Links
Color Codes ป้ามด
รวมโค้ด bg
เที่ยวญี่ปุ่น
เที่ยวญี่ปุ่น พันทิพย์
เที่ยวนิวซีแลนด์
marumara
ติวเตอร์ตู่
การใช้ Pantip
plan japan
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
สำหรับข้อมูลดี ๆ จะได้ไปยื่นไม่ผิดที่ค่ะ