"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics

คอนโดฯ มือสองกลางใจเมืองหอม นักลงทุนจ้องซื้อ



คอนโดฯ มือสองกลางใจเมืองหอม นักลงทุนจ้องซื้อ


โจนส์ แลง ลาซาลล์ ระบุราคาคอนโดฯ ใจกลางเมืองพุ่ง ดันความต้องการคอนโดฯ มือสองขยับตาม


จากการที่ราคาคอนโดมิเนียมในเขตศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ ปรับตัวขึ้นไปมากในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ทำให้ยังมีผู้ที่สนใจหาซื้อคอนโดมือสองในโครงการเก่าในย่านนี้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีราคาขายที่ถูกกว่าโครงการใหม่ๆ อย่างไรก็ดี มีหลายปัจจัยที่ผู้ซื้อคอนโดฯในโครงการเก่า ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะหากตัดสินใจซื้อแล้ว การขายต่อในทันทีอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากในสถานการณ์ปัจจุบัน มีซัพพลายคอนโดเก่าและใหม่เสนอขายอยู่ในตลาดเป็นจำนวนมาก ตามการรายงานจากบริษัทผู้เชี่ยวชาญบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ โจนส์ แลง ลาซาลล์

นางสาวดาวนำ ลีลาวิวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายบริการด้านที่อยู่อาศัย บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ยังคงมีผู้ให้ความสนใจซื้อคอนโดมิเนียมระดับหรูมือสองในโครงการเก่าอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีราคาขายที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในโครงการที่มีการบริหารจัดการอาคารที่ดี โดยยูนิตที่เสนอขายในโครงการเก่าเหล่านี้ อาจมีราคาเสนอขายต่ำได้ถึงครึ่งหนึ่งของยูนิตในโครงการสร้างเสร็จใหม่ หรือที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง”

การศึกษาของโจนส์ แลง ลาซาลล์ ระบุว่า คอนโดมิเนียมระดับหรู ในเขตศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ ในโครงการที่สร้างเสร็จใหม่หรือที่กำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างในขณะนี้ มีราคาเสนอขายอยู่ในช่วงระหว่าง 110,000 บาท ถึง 200,000 บาทต่อตารางเมตร ในขณะที่ยูนิตโครงการเก่าในทำเลเดียวกัน ซึ่งมีอายุ 10 ปีหรือกว่านั้น มีราคาเสนอขายอยู่ระหว่าง 55,000 บาทถึง 90,000 บาท

“จากที่เราได้พูดคุยกับลูกค้าของเราที่ซื้อคอนโดมิเนียมระดับหรูมือสอง ในโครงการเก่า แสดงให้เห็นว่า นอกเหนือจากราคา การที่โครงการเก่าส่วนใหญ่ มีพื้นที่ส่วนกลางที่ใหญ่กว่าและมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันมากกว่า อาทิ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ห้องฟิตเนส ซาวน่าและสนามเทนนิส ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว อาจไม่มีให้ในโครงการใหม่ๆหลายโครงการ นอกจากนี้ ผู้ซื้อบางรายยังชอบบรรยากาศที่เหมือนบ้านในโครงการเก่า มากกว่าบรรยากาศที่เหมือนโรงแรมของโครงการใหม่ๆ” นางสาวดาวนำกล่าว


โอกาสเหมาะสำหรับการซื้อเพื่ออยู่เอง


สำหรับผู้ที่สนใจซื้อคอนโดมิเนียมระดับหรูในโครงการเก่าในย่านศูนย์กลางธุรกิจเพื่ออยู่อาศัยเอง นับเป็นโอกาสที่ดีในขณะนี้ นางสาวดาวนำกล่าวว่า จากภาวะที่ตลาดการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมมีการแข่งขันที่สูงมากในขณะนี้ เนื่องจากมีโครงการสร้างเสร็จใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทำให้เกิดแรงกดดันต่อค่าเช่า ผู้ที่ซื้อคอนโดฯไว้ เมื่อหลายปีก่อนและปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้ ขณะนี้อาจพบว่า สามารถปล่อยเช่าคอนโดฯของตน ได้ยากกว่าแต่ก่อน เนื่องจากผู้เช่าส่วนใหญ่นิยมเช่ายูนิตในโครงการใหม่มากกว่า ดังนั้น เจ้าของยูนิตเหล่านี้ จึงต้องการปล่อยขายยูนิต โดยเสนอราคาขายที่น่าสนใจ และอยู่ในระดับที่คุ้มค่า สำหรับผู้ที่คิดจะซื้อคอนโดมิเนียมระดับหรูในโครงการเก่าเพื่ออยู่อาศัยเอง สอดคล้องกับผลการศึกษาตลาดคอนโดมิเนียมโดยโจนส์ แลง ลาซาลล์ ซึ่งวิเคราะห์ผลตอบแทนการลงทุนสำหับการซื้อคอนโดมิเนียมในกลุ่มไฮเอ็นด์ในกรุงเทพฯ

นายแดน ตันติสุนทร หัวหน้าฝ่ายวิจัย โจนส์ แลง ลาซาลล์ กล่าวว่า “ผลงานการวิจัยตลาดคอนโดมิเนียมในกลุ่มไฮเอ็นด์ของเรา ซึ่งจะมีการนำออกมาเผยแพร่ในเร็วๆนี้ แสดงให้เห็นว่า ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมมือสอง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ได้ปรับมาอยู่ในระดับที่ดึงดูดใจมากพอ สำหรับผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง นอกจากนี้ ยังอาจเสนอผลตอบแทนการลงทุน สูงกว่าการลงทุนระยะยาวรูปแบบอื่น ที่มีความ เสี่ยงต่ำ อาทิเช่น พันธบัตรรัฐบาล”

ผู้ที่ซื้อคอนโดมิเนียมระดับหรูในโครงการเก่าในย่านศูนย์กลางธุรกิจขณะ นี้ อาจสามารถคาดหวังผลตอบแทนการลงทุนในระยะยาวจากราคาที่อาจปรับตัวขึ้นไปได้อีกในอนาคต เนื่องจากที่ดินที่เหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ๆในย่านนี้ มีจำนวนลดลงเรื่อยๆ ประกอบกับการที่ต้นทุนการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ดี สำหรับนักลงทุนที่สนใจซื้อคอนโดมิเนียมในโครงการเก่าเพื่อปล่อยเช่าในขณะนี้ จะต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ โดยนางสาวดาวนำอธิบายว่า นอกเหนือจากค่าเช่าที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น และการที่ผู้เช่าส่วนใหญ่นิยมเช่ายูนิตในโครงการใหม่มากกว่าแล้ว ผู้ซื้อยังอาจต้องลงทุนอีกมากเพื่อปรับปรุงและตกแต่งห้องชุดใหม่ก่อนที่จะสามารถนำออกมาปล่อยเช่า


คุณภาพการบริหารจัดการอาคาร หนึ่งในปัจจัยหลักที่ผู้ซื้อต้องพิจารณา


ด้วยอายุการใช้งานที่ผ่านมานาน คอนโดมิเนียมโครงการเก่าบางโครงการ อาจมีสภาพที่ทรุดโทรมลง ตามมาด้วยราคาหรือมูลค่าที่ลดลง ดังนั้น นอกเหนือจากราคาและทำเลแล้ว ผู้ที่สนใจซื้อ ต้องพิจารณาถึงคุณภาพของการบริหารจัดการอาคารของโครงการนั้นๆด้วย

“มีโครงการคอนโดมิเนียมระดับหรูโครงการเก่าหลายโครงการที่มีบริหารจัดการอาคารที่ดีและได้รับการปรับปรุงบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพเหมือนใหม่ ตลอดเวลา ยูนิตในโครงการเหล่านี้ ยังคงสามารถรักษาระดับมูลค่าหรือราคาขายไว้ได้ แม้จะมีซัพพลายใหม่ๆ เข้ามาในตลาดมากขึ้นมาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่าน อีกทั้งยั้งมีศักยภาพที่จะสามารถมีมูลค่าปรับตัวสูงขึ้นได้อีก เมื่อสภาพตลาดคอนโดมิเนียมโดยรวมปรับตัวดีขึ้น” นางสาวดาวนำกล่าว

“ทัศนคติของคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดมีบทบาทที่สำคัญมาก ที่จะกำหนดทิศทางการบริหารจัดการอาคาร คณะกรรมการฯที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกล พร้อมที่จะลงทุนในเรื่องของการบริหารจัดการอาคาร ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงรักษาและปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบต่างๆ ทั้งหมดของอาคาร”


ข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : 21 กันยายน 2552
//www.bangkokbiznews.com/home/detail/property/smart-buy/20090921/77953




 

Create Date : 30 กันยายน 2552    
Last Update : 30 กันยายน 2552 0:52:09 น.
Counter : 1449 Pageviews.  

ถึงเวลาหาบ้านถูกกันแล้ว



ถึงเวลาหาบ้านถูกกันแล้ว


หลังจากวิกฤติการเงินโลกผ่านมา ได้ครบขวบปี ผู้ที่กำลังหาซื้อบ้าน ก็อาจจะรอรี หาจังหวะ โอกาส ที่จะได้เป็นเจ้าของบ้าน ราคาที่สบายกระเป๋า กับเขาบ้าง แต่ก็ไม่มีจังหวะสักที เพราะดูจากภาพรวมแล้ว เมืองไทยก็ไม่ได้รับผลกระทบเท่าที่ควร รู้สึกว่าคนระดับรายได้น้อย จะถูกแจ๊คพอต กันมากที่สุด ส่วนระดับบนๆ ก็พออยู่กันได้ พยุงตัวกันได้ เพราะมีภูมิคุ้มกัน จากวิกฤติเศรษฐกิจ จากครั้งที่แล้ว

บริษัทฯดีเวลลอบเปอร์ ของไทย เดี๋ยวนี้ เขามีความยืดหยุ่นตัวกันดีพอสมควร สามารถปรับตัวกันได้ดี สินค้าอะไรขายอืด ขายไม่ออก ก็หาสินค้าตัวใหม่มาทดแทนได้ ช่วงที่อืดๆมานี่ พวกคอนโดฯแนวรถไฟฟ้า ก็ยังขึ้นกันให้พรึบพรับ ขายกันพรวดพราด (แม้รถไฟฟ้ายังไม่มีวี่แววจะสร้าง ก็ยังขายได้) ดังนั้น คนที่รอเวลาจะหาซื้อของถูก จึงไม่ได้จังหวะเข้าเสียที มือก็กำเงินไว้แน่น รอจะจ่ายกันอย่างใจจดใจจ่อ ก็ไม่เห็นที่ไหน เขาเทขายของกันสักที

นี่นับเป็นเวลา ที่ทุกคนรอคอยแล้วครับ


600โครงการถล่มแคมเปญงานมหกรรมบ้าน-คอนโดฯ 1-4 ต.ค.

นับถอยหลัง "มหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 21" ดีเวลอปเปอร์ 150 บริษัทประชันบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดฯกว่า 600 โครงการ เชิญชวนผู้บริโภคเลือกช็อปจุใจ ให้ส่วนลดของแถมเพียบ พร้อมสถาบันการเงินสร้างสถิติร่วมออกบูทให้สินเชื่อ 15 แห่ง ชี้โอกาสทองสุดท้ายก่อนมาตรการกระตุ้นอสังหาฯหมดอายุ มี.ค.53

นายภูวิชย์ เอี่ยมพึ่งพร ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 21 เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้งานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ซึ่งจะจัดขึ้นบนพื้นที่กว่า 1.1 หมื่น ตร.ม. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 1-4 ตุลาคม มีความพร้อมเต็มที่แล้ว คาดว่าปีนี้จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้านจำนวนมาก ขณะเดียวกัน สมาคมอาคารชุดไทย ซึ่งรับเป็นเจ้าภาพหลัก ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการอสังหาฯ จองบูทเข้าร่วมงาน 150 บริษัท กว่า 550 บูท คิดเป็นจำนวนโครงการ 600 โครงการ ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดฯ ทาวน์เฮาส์ ฯลฯ ทั้งนี้ ตลอด 4 วัน คาดว่าจะมีผู้เข้าเยี่ยมชมงานประมาณ 1 แสนราย เพิ่มขึ้นจากครั้งที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 8 หมื่นราย มียอดขายไม่ต่ำว่า 2.5 พันล้านบาท เนื่องจากเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผู้บริโภคจะได้ซื้อบ้านในราคาทุน และมีสิทธิ์รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯที่จะหมดอายุลงปลายเดือน มีนาคม 2553

โดยแต่ละบริษัทได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษไว้รองรับลูกค้า นอกเหนือจากโปรโมชั่นที่ 3 สมาคมอสังหาฯ ร่วมกันจัดขึ้นภายในงาน เพื่อให้สอดรับกับคอนเซ็ปต์งานมหกรรมบ้านและคอนโดฯปีนี้ที่ว่า "สี่วันได้บ้านชัวร์ พร้อมกับโปรโมชั่นถึง 4 ต่อ" นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงิน 15 แห่งออกบูทให้บริการสินเชื่อซื้อบ้านแก่ผู้ที่ตัดสินใจซื้อบ้านในงาน โดยเสนอแคมเปญสินเชื่อราคาพิเศษเช่นเดียวกัน และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีสถาบันการเงินเข้าร่วมงานมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของลูกค้าที่ต้องการยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน แต่ไม่มีเวลาตรวจสอบข้อเสนอในการยื่นขอสินเชื่อของแต่ละสถาบันการเงินภายใน งาน 3 สมาคมอสังหาฯได้จัดบูท Post Finance Center ไว้ให้บริการ เพื่อให้ลูกค้าที่ไม่มีเวลามากนักกรอกข้อมูลเพื่อยื่นขอสินเชื่อผ่านระบบ คอมพิวเตอร์ หลังจากนั้น 3 สมาคมอสังหาฯจะนำข้อมูลดังกล่าวส่งต่อให้กับสถาบันการเงินอีกครั้งหนึ่ง เพื่อพิจารณาว่าผู้ยื่นกู้รายใดเข้าเกณฑ์การขอสินเชื่อ แล้วจะเสนอสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้ทราบภายหลัง

นายภูวิชย์กล่าวว่า ผู้ที่ตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยภายในงาน นอกจากจะได้รับแคมเปญที่ผู้ประกอบการนำมาให้เลือกจำนวนมากแล้ว 3 สมาคมอสังหาฯ ได้จัดแคมเปญส่วนกลางเพื่อส่งเสริมการขายและกระตุ้นการตัดสินใจซื้ออีกทางหนึ่ง อาทิ จับสลากรางวัลสำหรับผู้จองซื้อที่อยู่อาศัยภายในงาน เป็นบัตรกำนัลส่วนลด (รางวัลที่ 1 ส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท) และเครื่องใช้ไฟฟ้า Panasonic รวมมูลค่าทั้งหมด 1.2 ล้านบาท, จัดให้มีการพัฒนาการลงทะเบียนให้สะดวกรวดเร็วขึ้น โดยใช้ระบบบาร์โค้ด สามารถลงทะเบียนออนไลน์ล่วงหน้าผ่าน //www.housecondoshow.com โดยผู้ลงทะเบียนเข้าชมงานจะมีสิทธิ์รับคูปองลุ้นรับสร้อยคอทองคำ วันละ 2 เส้น ทุกวัน

สำหรับแคมเปญต่างๆ ที่ผู้ประกอบการนำมาร่วมงาน มีหลายบริษัทฯที่เข้าร่วม เช่น

ธารารมย์ จัดโปรโมชั่นบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ ลดเต็ม ๆ 1 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ ลด 5 แสนบาท พร้อมรับสิทธิ์ลุ้นทองคำ Golden Bonus 2 ครั้ง มูลค่ารวม 1.82 ล้านบาท
บมจ.ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จัดแคมเปญบิ๊กเซอร์ไพรส์ท้ายปี "Last Call" โดยจัดส่วนลดพิเศษ 1 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ทุกหลัง และส่วนลด 5 แสนบาทขึ้นไปสำหรับทาวน์เฮ้าส์ รวมมูลค่าส่วนลดกว่า 40 ล้านบาท มี 5 โครงการที่ขายแผนแคมเปญ ได้แก่ 1. โครงการพาร์ค เวย์ ชาเล่ต์ รามคำแหง 2. พรอเมนาด โฮม ธนบุรี 3. เน เบอร์ โฮม วัชรพล 4. พาร์คเวย์ โฮม รามคำแหง และ 5. การเด้น สวีท ดิ อินดี้ โฮม โดยลูกค้าที่ซื้อและโอนภายในเดือน ต.ค.นี้ จะได้รับสิทธิร่วมลุ้นทองอีก 2 ครั้ง รวมมูลค่า 1.82 ล้านบาทด้วย

กรุงกวี ให้ Member golf มูลค่า 3 แสนบาท

โครงการบ้านกฤษณา ให้สิทธิ์จอง 5,000 บาท ฟรีแอร์ 3 เครื่อง วอลเปเปอร์ทั้งหลัง ค่าแรกเข้า ค่าส่วนกลาง ตร.ว.ละ 15 บาท ประตูรีโมต ฯลฯ

นิรันดร์ วิลล์ เสนอเงื่อนไขรับดอกเบี้ยเงินฝากร้อยละ 2 ต่อปีทุกเดือน นาน 24 เดือน

แพทโก้ แลนด์ นำ 2 โครงการหลักเข้าร่วมงาน คือโครงการวิจิตราธานี โซนฟลอริด้า บีช โฮม บ้านเดี่ยวริมทะเลสาบ ราคาเริ่มต้นที่ 22.8 ล้านบาท 3 ยูนิต โดยผู้สนใจซื้อใจจะได้รับส่วนลด 2 ล้านบาท หรือเลือกอยู่ฟรี 1 ปี, ฟรีสปอร์ตคลับ 5 ปี (4 ท่าน/ครอบครัว) และโซนเฮอริเทจ บ้านเดี่ยวระดับราคา 8 ล้านบาทขึ้นไป ได้รับส่วนลด 2.5 แสนบาท หรือเลือกอยู่ฟรี 1 ปี และโครงการวิคทอเรีย ไพรเวท ซิตี้ ทาวน์เฮาส์ 1.65 ล้านบาท มอบส่วนลด 5 หมื่น-1 แสนบาท, บัตรของขวัญเซ็นทรัล มูลค่า 10,000 บาท บัตรของขวัญเที่ยวทั่วไทย มูลค่า 1.2 หมื่นบาท พร้อมฟรีค่าโอนและจดจำนอง คาดว่าจะมียอดขายรวม 70 ล้านบาท

บมจ.ธนายง นำ 2 โครงการคอนโดร่วมงาน คือ โครงการธนาเพลส กิ่งแก้ว และนูเวล คอนโดมิเนียม พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ คอนโด 1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 6.48 แสนบาท (จากปกติเริ่มต้น 8.9 แสนบาท) จอง 1 หมื่นบาท ฟรีทำสัญญา ฟรีโอน รับส่วนลดสูงสุด 9.6 แสนบาทเฉพาะในงาน

บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด เปิดตัวโครงการใหม่ "ไอริส พาร์ค สุขุมวิท 76" ในงานมหกรรมบ้าน ใกล้มีทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮ้าส์ ราคาเริ่มต้น 1.7-4 ล้านบาท รวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท โดยนำบ้านเดี่ยว 10 ยูนิต ขายเริ่มต้น 3.7 ล้านบาท บ้านแฝด 22 ยูนิต ขายเริ่มต้น 2.6 ล้านบาทและทาวน์เฮ้าส์ 24 ยูนิต ขายเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาท ขายต่ำกว่าราคาปกติ 10%

บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จัดส่วนลดพิเศษในงานกับ 9 คอนโดย่านรามคำแหง รัชดาฯ-ท่าพระ รัตนาธิเบศร์ พระราม 8 พระราม 9-รัชดาฯ รามอินทรา-นวมินทร์ ราษฎร์บูรณะ-ริเวอร์วิว มูลค่าสูงสุดเกือบ 5 แสนบาท พร้อมแนะนำคอนโดใหม่ทำเลฮอตย่านบางแค ปิ่นเกล้า

บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จัดรายการต่อเนื่อง โปรโมชั่นบ้าน "เสนาการันตี ดีทุกเงื่อนไข" ฟรี 5 รายการ กู้เต็ม 100% พร้อมโปรโมชั่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) "สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ!!" สำหรับผู้ซื้อบ้าน และดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับผู้ที่กู้ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท

บมจ.มั่นคงเคหะการ คาดว่าจะจัดต่อเนื่องจากการปูพรมขายก่อนงาน ด้วยแคมเปญ บ้านแบบใดก็ได้จ่ายเพียงครึ่ง หรือลดราคาบ้านถึง 50% อาทิเช่น บ้านเดี่ยวบนที่ดิน 94 ตารางวา ราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท ในโครงการชวนชื่นบางนา หรือบ้านสร้างก่อนขายราคาพิเศษ บ้านเดี่ยวพร้อมที่ดิน 70 ตารางวา จากราคาปกติ 4 ล้านบาท ราคาพิเศษ 3.39 ล้านบาท ขายพร้อมโปรโมชั่นแถมเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว มูลค่า 1.5 แสนบาท ฯลฯ
โปรโมชั่นแรง คือ ซื้อที่ดินแถมบ้าน อาทิเช่น ที่ดิน 151 ตารางวา พร้อมบ้านเดี่ยว 2 ชั้นจากราคาปกติ 4.9 ล้านบาท ราคาพิเศษ 3.4 ล้านบาท ที่ดินแปลง 157 ตารางวา จากราคาปกติ 5.1 ล้านบาทราคาพิเศษ 3.6 ล้านบาท เป็นต้น


นอกจากบรรดา ดีเวลลอบเปอร์ ทั้งหลายแล้ว ผู้ที่มีส่วนสำคัญ ในการสนับสนุน ให้การซื้อขาย คล่องตัวขึ้นอีก ก็ไม่พ้นสถาบันการเงิน ที่ตามมาสนับสนุนเงินกู้ และให้ post finance ทั้งหลาย ก็ตบเท้าเข้ามากันพร้อมเรียงเช่น


ธ.กสิกรร่วมมหกรรมบ้าน ปล่อยกู้ 0% นาน 6 เดือน


นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ทางธนาคารได้เข้าร่วมออกบูธในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 21 นี้ พร้อมจัดโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านกสิกรไทยอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษให้แก่ลูกค้าผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในงานดังกล่าว โดยลูกค้าที่สมัครใช้บริการสินเชื่อบ้านกสิกรไทยภายในงาน จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% ใน 6 เดือนแรก หลังจากนั้นจะมีอัตราดอกเบี้ยให้เลือก 6 แบบ คือ
แบบที่ 1 เดือนที่ 7-12 คิดดอกเบี้ยคงที่ 1.99%
แบบที่ 2 เดือนที่ 7-24 คิดดอกเบี้ยคงที่ 3.99%
แบบที่ 3 เดือนที่ 7-36 คิดดอกเบี้ยคงที่ 4.99%
แบบที่ 4 เดือนที่ 7-12 คิดดอกเบี้ย MLR ลบ 3.00%
แบบที่ 5 เดือนที่ 7- 24 คิดดอกเบี้ย MLR ลบ 1.25%
แบบที่ 6 เดือนที่ 7-36 คิดดอกเบี้ย MLR ลบ 0.75%
หลังจากระยะเวลาที่กำหนดธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.25% ซึ่งปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MLR ของธนาคารอยู่ที่ 5.85% ต่อปี

ทั้งนี้ ลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจะได้รับบริการพิเศษจากแคมเปญ “กู้บ้านกับกสิกรไทย ได้จุใจ ทั้งแต่งบ้าน ทั้งท่องเที่ยว” ได้แก่บริการมัณฑนากรออกแบบตกแต่งภายในบ้านทั้งหลังฟรี จากเอสบี เฟอร์นิเจอร์ (SB FURNITURE) และได้รับส่วนลดเพิ่มทันที 5% เมื่อซื้อสินค้าจาก SB FURNITURE และบัตรเพรสทิจ (PRESTIGE CARD) สำหรับใช้เป็นส่วนลด 6% เมื่อซื้อสินค้าเกี่ยวกับการตกแต่งและซ่อมแซมบ้านจากโฮมเวิร์ค (HOMEWORKS)

นอกจากนั้น ลูกค้าที่กู้เงินสินเชื่อบ้านกสิกรไทยจะ ได้รับบัตรกำนัลที่พักโรงแรมหรือรีสอร์ทหรู 1 คืน มูลค่าสูงสุด 10,000 บาท โดยสามารถเลือกใช้บริการได้กว่า 150 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าได้ท่องเที่ยวพักผ่อน อีกทั้งยังได้รับสิทธิกู้สินเชื่อตกแต่งบ้านกสิกรไทย (K-HOME DECOR LOAN) เพื่อเป็นเงินทุนในการตกแต่งบ้านได้อีกด้วย

ธนาคารกสิกรไทยได้ ตั้งเป้าหมายว่า ในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 21 นี้จะมีผู้สนใจลงทะเบียนที่บูธของธนาคารประมาณ 2,000 ราย และสามารถปล่อยกู้สินเชื่อบ้านได้ 750 ล้านบาท


กรุงไทย ขายNPA งานมหกรรมบ้านฯ ให้ส่วนลดสูงสุด 30%


กรุงไทย ลดราคา NPA กว่า 1,500 แปลง สูงสุด 30% : มีทรัพย์ย่านทำเลทองกว่า 500 รายการ

นาย อัสนี ทรัพยวณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารทรัพย์สินและงานกฎหมาย บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าในงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด” ครั้งที่ 21 นี้ ธนาคารกรุงไทยจะนำทรัพย์สินพร้อมขายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนกว่า 1,500 แปลง มูลค่ารวมกว่า 2,500 ล้านบาทร่วมจำหน่าย โดยให้ราคาส่วนลดสูงสุด 30% พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักทรัพย์ประกัน จัดการเงินกู้ และค่าธรรมเนียมทำนิติกรรมจำนอง ลูกค้าเสียค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์เพียง 0.005%-1% นอกจากนี้ ธนาคารยังมีของขวัญของที่ระลึกมอบให้กับผู้ซื้อ NPA และลูกค้าที่เยี่ยมชมบูทอีกด้วย

"ทรัพย์ที่นำมาจำหน่ายมีหลายประเภทในทุกทำเล เช่น คอนโดมิเนียมบนถนนพหลโยธิน รัชดาภิเษก แจ้งวัฒนะ รามคำแหง เพชรเกษม กว่า 500 รายการ อาคารพาณิชย์บนถนนสุขุมวิท รามคำแหง ลาดพร้าว และที่ดินเปล่าผืนใหญ่ เนื้อที่ตั้งแต่ 10 - 100 ไร่ โดยคาดว่าจะสามารถจำหน่าย NPA ในงานนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท”

นอกจากนี้ ธนาคารยังให้สินเชื่อกับผู้ซื้อ NPA โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 110% อัตราดอกเบี้ย 0% ปีแรก หลังจากนั้นคิด MLR-0.25% ปัจจุบัน MLR เท่ากับ 5.85% ต่อปี ผู้สนใจเพียงวางเงินประกันการซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยดูทรัพย์ได้ที่ //www.ktb.co.th/npa หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ KTB NPA Corner หมายเลข 0-2208-8308 ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารกรุงไทย 1551 และที่สาขากว่า 860 แห่งทั่วประเทศ


ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากจบงานนี้แล้ว ก็ยังมีการจัดงานอื่นๆ ต่อเนื่องอีกหลายงาน เช่น

แสนสิริ จัดงาน "SANSIRI BEST BUY" วันที่ 1-4 ตุลาคม บริเวณ Hall of Fame ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน ตั้งเป้ายอดขายในงานถึง 1,000 ล้านบาท พร้อมนำเสนอที่อยู่อาศัยโครงการต่าง ๆ ของกลุ่มแสนสิริ 29 โครงการ 428 ยูนิต มูลค่าโครงการขายรวม 2,000 ล้านบาท ภายใต้ข้อเสนอ Best of The Best ได้แก่ Best Term ลดเงินดาวน์ 50%, Best Deal ดอกเบี้ย 0% 1 ปี

และข้อเสนอพิเศษจาก SCB, Best offer ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปี/ฟรีค่าโอน, Best Package รับข้อเสนอพิเศษเพิ่ม มูลค่าสูงสุด 300,000 บาท และ Best Chance โอกาสสุดท้ายที่ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 400,000 บาท และเอกสิทธิ์พิเศษ เมื่อสมัครบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ แสนสิริ แพลทินัม ภายในงานรับ 10,000 คะแนน พร้อมรับทั้ง 3 เอกสิทธิ์สูงสุดได้ทันที สมัครฟรีภายในงาน

บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทบริหารงานขายโครงการอสังหาฯ จับมือกับผู้ประกอบการอสังหาฯ 9 ราย จัดงาน "Test of Living" บริเวณชั้น M สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 15-25 ตุลาคมนี้ โดยนำบ้านเดี่ยว คอนโดฯ และวิลล่า ทั้งในกรุงเทพฯและเมืองท่องเที่ยวมาออกบูทขาย ให้ส่วนลด 10-18% ของแถม คาดว่าจะได้ยอดขาย 300-400 ล้านบาท ขณะที่อีกหลาย ๆ ค่ายเคลื่อนไหวเตรียมจัดงานจากช่วงนี้ไปจนถึงปลายปี

TraveLArounD



ข้อมูลจาก
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ - 29 กันยายน พ.ศ. 2552
//www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1254190114&grpid=02&catid=00
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : วันที่ 29 กันยายน 2552
//www.bangkokbiznews.com/home/detail/property/loan/20090929/79220
//www.bangkokbiznews.com/home/detail/property/property/20090929/79210/




 

Create Date : 29 กันยายน 2552    
Last Update : 29 กันยายน 2552 13:57:34 น.
Counter : 910 Pageviews.  

ตัวอย่างการแก้ปัญหาจราจรในจีน

ตัวอย่างการแก้ปัญหาจราจรในจีน


การแก้ปัญหาต่างๆในเมืองจีน อาจจะไม่ใช่ตัวอย่างที่ดีในแง่ของนโยบาย เพราะรัฐบาลจีนสามารถทำอะไรได้รวดเร็ว ตามนโยบายโดยที่ประชาชนไม่สามารถแสดงความคิดเห็นหรือคัดค้าน ไม่ว่าด้วยประการใด
























แต่ก็อยากให้ดูวิธีการ หรือแนวคิดในแง่การทำงาน เช่นการจักการกับสี่แยกที่มีการจราจรคับคั่ง ด้วยระบบทางลอด ทางข้ามที่สมบูรณ์แบบ โดยการปิดการจราจรให้ทำการก่อสร้างแบบรวดเดียวจบ ใช้เวลา 5 เดือน





















ระหว่างนั้น รถยนต์ต่างๆ ก็ต้องหาเส้นทางอื่นๆเพื่อเดินทางสู่จุดหมายเอาเอง ยอมลำบากสักหน่อย เพื่อสิ่งที่ดีกว่า



ไม่เหมือนที่เมืองไทยที่มีชื่อเสียงในการสร้างสะพาน “ 7 ชั่วโค-ตระ ” เลย

แฮะ แฮะ .........ล้อ เล่ง !!!

TraveLArounD


ข้อมูลจาก
//www.shareordie.in/how-fast-work-is-done-in-china/




 

Create Date : 08 กันยายน 2552    
Last Update : 8 กันยายน 2552 0:33:51 น.
Counter : 1218 Pageviews.  

โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ ช่วง บางซื่อ-บางใหญ่

โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ ช่วง บางซื่อ-บางใหญ่

เส้นทางรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน สายต่อไป ที่จะมานำเสนอ ให้ท่านผู้สนใจ ที่จะเลือกซื้อที่อยู่อาศัย หรือลงทุน ได้เป็นข้อมูล ช่วยตัดสินใจ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ ช่วง บางซื่อ-บางใหญ่ ซึ่งสร้างต่อขยายจาก สถานี บางซื่อ ของรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรก นั่นเอง แต่รถไฟฟ้าสายนี้ ที่จริงจะเป็นสาย บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ ที่จะดำเนินการต่อไป ซึ่งก็ยังอีกนาน แต่ที่ผมเป็นห่วง คนทั่วไป เพราะโครงการต่างๆ เขาก็ต่างโฆษณากันให้ครึกโครม ว่าติดรถไฟฟ้า ใกล้รถไฟฟ้า แต่ว่าจริงๆแล้ว จะติดแค่ไหน ใกล้แค่ไหน มันอาจไม่ใช่อาจที่คุณคิด ข้อมูลที่ระเอียดเท่านั้น ที่จะช่วยได้








แนวเส้นทาง
รถไฟฟ้าสายสีม่วง สายบางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงจาก บางซื่อ-บางใหญ่ และ ช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ รวมระยะทางทั้งสิ้น 43 กิโลเมตร ดังนี้

ช่วงจากบางซื่อ-พระนั่งเกล้า-บางใหญ่ มีระยะทาง 23 กิโลเมตร เริ่มจากบริเวณสถานีบางซื่อ ยกระดับไปตามแนวถนนไปยัง สถานียกระดับ 16 สถานี ได้แก่ สถานีเตาปูน สถานีบางซ่อน สถานีวงศ์สว่าง สถานีแยกติวานนท์ สถานีกระทรวงสาธารณสุข สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี สถานีศรีพรสวรรค์ สถานีแยกนนทบุรี 1 สถานีสะพานพระนั่งเกล้า สถานีไทรม้า สถานีท่าอิฐ สถานีบางรักใหญ่ สถานีบางพลู สถานีสามแยกบางใหญ่ สถานีตลาดบางใหญ่ สถานีคลองบางไผ่ เป็นสถานีสุดท้าย และเป็นที่ตั้งของศูนย์ซ่อมบำรุงระบบรถไฟฟ้า









แผนผังแนวเวนคืน







ช่วงจากบางซื่อ-สามเสน-ราษฎร์บูรณะ จากบางซื่อ-สามเสนเป็นโครงสร้างยกระดับต่อเนื่องมาตามถนนประชาราษฎร์ และเริ่มลดระดับลงใต้ดิน เป็นโครงสร้างอุโมงค์เปลี่ยนมาเข้าแนวถนนประชาราษฎร์สาย 1 ต่อเนื่องมาถึงถนนสามเสน เลี้ยวเข้า ถนนพระสุเมรุ ถนนมหาไชย ถนนจักรเพชร แล้วเบี่ยงแนวออกเพื่อหลบสะพานพระปกเกล้า ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา เข้าสู่แนวถนนประชาธิปก ต่อเนื่องมาถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถนนสุขสวัสดิ์ และเริ่มยกระดับขึ้นมาเมื่อเลยแยกบางปะแก้วแล้ว ไปจนถึงบริเวณราษฎร์บูรณะ


โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ สามารถเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล หัวลำโพง-บางซื่อ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ ได้ที่สถานีเตาปูน และสามารถเชื่อต่อ กับโครงการสายใหม่ ช่วงปากเกร็ด-แคราย ที่สถานีกระทรวงสาธารณสุข และเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ของการรถไฟแห่ง ประเทศไทยที่สถานีบางซ่อน และจะมีการประสานกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับป้ายรถโดยสาร ให้อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเพื่อถ่ายเทผู้โดยสารระหว่างกันต่อไป


จะเห็นได้ว่า รถไฟฟ้าสายนี้ จะเป็นรถไฟฟ้าลูกครึ่ง คือผสมระหว่างรถไฟฟ้าใต้ดิน และรถไฟลอยฟ้า การก่อสร้างก็จะยุ่งยากมากขึ้น แต่ค่าก่อสร้างจะถูกกว่า เพราะระบบลอยฟ้า มีค่าก่อสร้างต่ำกว่าระบบใต้ดิน (ค่าลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินสูงประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อกิโลเมตร ในขณะที่ถ้าเป็นยกระดับค่าลงทุนโครงการจะอยู่ที่ 2,000 ล้านบาทต่อกิโลเมตร ซึ่งต่างกันอยู่ถึง 3 เท่า) อีกทั้งระยะเวลาในการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินจะใช้เวลานานกว่ายกระดับ โดยระบบรวมเป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Heavy Rail) ปรับอากาศ มีความจุประมาณ 320 คน/คัน และสามารถขนส่งผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 50,000 คน/ชั่วโมง/ทิศทาง ส่วนโครงสร้างที่จะเป็นแบบยกระดับ มีความสูงประมาณ 17-19 เมตร จากผิวถนน เพื่อให้สามารถข้ามผ่านสะพานลอยคนข้ามถนน สะพานลอยรถยนต์ และสะพานลอยกลับรถ มีตอม่ออยู่กลางถนน โดยตอม่อจะมี ระยะห่างกันสูงสุดถึง 40 เมตร เพื่อลดผลกระทบต่อการจราจรทั้งในระหว่างก่อสร้างและเมื่อก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้ดูมีลักษณะโปร่งบาง สวยงาม ไม่เทอะทะ และไม่ปิดบังอาคาบริเวณริมถนน











สถานีขึ้น-ลง

ช่วงจากบางซื่อ-พระนั่งเกล้า-บางใหญ่ จะมีสถานีขึ้น-ลง จำนวน 16 สถานี แต่ละสถานี
ห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร ได้แก่
1. สถานีเตาปูน ตั้งอยู่บริเวณจุดตัดระหว่างถนนประชาราษฎร์ 2 กับถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ที่แยกเตาปูน โดยยกระดับบริเวณสะพานสูงบางซื่อ ข้ามคลองเปรมประชากรไปตามแนวถนนประชาราษฎร์ เป็นสถานีร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ – ท่าพระ
2. สถานีบางซ่อน ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางถนนกรุงเทพ-นนทบุรี
3. สถานีวงศ์สว่าง ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางถนนกรุงเทพ-นนทบุรี บริเวณก่อนถึงทางแยกวงศ์สว่าง ผ่านสถานีตำรวจนครบาลเตาปูน ถึงซอยกรุงเทพ-นนทบุรี
39 บริเวณทางแยกตัดถนนวงศ์สว่าง
4. สถานีแยกติวานนท์ ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ระหว่างซอยกรุงเทพ- นนทบุรี 12-14 วิ่งตามถนนกรุงเทพ-นนท์ ถึงบริเวณทางแยกตัดถนนติวานนท์
5. สถานีกระทรวงสาธารณสุข ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางถนนติวานนท์ บริเวณกระทรวงสาธารณสุข เลี้ยวขวาไปตามถนนติวานนท์ ผ่านทางเข้าโรงพยาบาลศรีธัญญาถึงบริเวณซอยติวานนท์ 5
6. สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี เข้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์
7. สถานีศรีพรสวรรค์ ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางถนนรัตนาธิเบศร์ อยู่บริเวณซอยรัตนาธิเบศร์ 22 - 28
8. สถานีแยกถนนนนทบุรี 1 ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ พร้อมอาคารจอดรถ บริเวณก่อนซอยรัตนาธิเบศร์ 30
9. สถานีพระนั่งเกล้า ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นสะพานพระนั่งเกล้า ฝั่งตะวันออก แนววิ่งจะเริ่มเบนออกขวาจากกลางถนนเพื่อข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมี โครงสร้างทางวิ่งขนานไปกับสะพานพระนั่งเกล้า จะเป็นสถานีเชื่อมต่อกับการขนส่งทางเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา
10. สถานีไทรม้า ซื่อตรง ตั้งอยู่บริเวณเยื้องลงมาทางทิศใต้ของถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณซอยตาหรั่ง โดยรถไฟฟ้าจะวิ่งข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาตรงบริเวณสะพานพระนั่งเกล้า ในแนวคู่ขนาน เบี่ยงเข้าสู่กึ่งกลางถนนรัตนาธิเบศร์ และวิ่งตรงถึงบริเวณหน้าหมู่บ้านซื่อตรง
11. สถานีท่าอิฐ ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณก่อนถึงแยกท่าอิฐ ใกล้สำนักงานการเดินรถที่ 7 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ พร้อมอาคารจอดรถ
12. สถานีบางรักใหญ่ ตั้งอยู่กึ่งกลางถนนรัตนาธิเบศร์ บริเวณแยกตัดกับถนนราชพฤกษ์ บริเวณทางเข้าวัดบางรักใหญ่
13. สถานีบางพลู (สถานีบางบัวทอง) สถานีตั้งอยู่กลางสี่แยกบางพลู บริเวณคลองบางแพรก ถนนรัตนาธิเบศร์ ตัดถนนบางกรวยไทรน้อย
14. สถานีสามแยกบางใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางถนนกาญจนาภิเษก บริเวณหน้าหมู่บ้านกฤษดานคร 10 ก่อนถึงแยก
ถนนวงแหวนรอบนอก บริเวณที่อยู่อาศัยหนาแน่น อาทิ หมู่บ้านกฤษดานครโครงการ 10 หมู่บ้านธนกาจญน์ เป็นต้น พร้อมอาคารจอดรถ และบริเวณเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ
15. สถานีตลาดบางใหญ่ จะเลี้ยวขวางบริเวณทางแยกและวิ่งไปตามแนวกึ่ง
กลางของถนนวงแหวนรอบนอก (ตะวันตก) ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางถนนกาญจนาภิเษก บริเวณย่านธุรกิจ สถานประกอบการ และที่อยู่อาศัย อาทิ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ห้างบิ๊กซี หมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ ห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ หมู่บ้านบางใหญ่ซิตี้ เป็นต้น
16. สถานีคลองบางไผ่ (บริเวณคลองบางไผ่) เป็นสถานีสุดท้าย ตั้งอยู่บริเวณกึ่งกลางถนนกาญจนาภิเษก ช่วงบริเวณคลองบางไผ่ และเป็นที่ตั้ง
ของศูนย์ซ่อมบำรุงระบบรถไฟฟ้า รวมทั้งเป็นอาคารจอดแล้วจร





















ตัวสถานีรถไฟฟ้าโครงการฯ ออกแบบโดยเน้นในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ความสะดวกสบายของผู้โดยสาร ผู้สัญจรไปมา ผู้อยู่อาศัย บริเวณสถานี รวมถึงการคำนึงถึงสภาพแวดล้อมของพื้นที่นั้นๆ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้คอยให้บริการ อาทิ ลิฟต์ บันไดเลื่อน สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ โดยสถานีชั้นล่าง จะเป็นทางขึ้น-ลง อยู่ด้านในทางเท้าทั้ง 2 ฝั่งถนน เพื่อมิให้กีดขวางการสัญจรขอบคนเดินเท้า และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการพักคอย สามารถกันแดดกันฝน และมีระบบป้องกันน้ำท่วม ทำให้ผู้โดยสารสามารถต่อเชื่อมกับระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ ระดับผิวถนนได้อย่างคล่องตัว ชั้นที่สอง (Concourse) เป็นชั้นบริการผู้โดยสาร มีลักษณะแบบเปิดโล่ง และสามารถใช้เป็นสะพานลอยข้ามถนนได้ ชั้นนี้จะประกอบด้วย ตู้ขายตั๋ว เครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติ โดยในบางสถานีผู้โดยสารสามารถใช้บริเวณนี้เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังอาคารข้างเคียง หรืออาคารจอดรถ ของโครงการได้อีกด้วย ส่วยชั้นที่สาม (ชานชาลา) เป็นชั้นสำหรับรถไฟฟ้าจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร พื้นที่กว้างขวาง แบ่งตอนกลาง เป็นช่องเปิดโล่ง 2 ช่อง เพื่อช่วยในการระบายอากาศ มีระบบประตู Platform Screen แบบ Half Height พร้อมบันไดผู้โดยสารขึ้น-ลงด้านปลายชานชาลาทั้งสองด้าน และบันไดสำหรับหนีภัยในกรณีฉุกเฉิน
























แต่ตอนนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ เขาไม่ได้ห่วงเรื่องมาตรฐานของโครงการนัก เพราะเห็นระบบที่เปิดใช้มาแล้ว ก็มีความเชื่อถือ ว่าจะต้องออกมาดี ที่เขาห่วงกัน คือ ไม่รู้เมื่อไหร่ จะได้สร้าง จะได้ใช้ จะแก่ตายกันไปเสียก่อน นะครับ จ้าวนาย.......

TraveLArounD


ข้อมูลจาก
//www.mrta.co.th/11.htm
//www.mrta.co.th/project/project_new.htm
ภาพ
lazieboy
//www.prakard.com/default.aspx?g=posts&t=105897
//www.uppic.net/show/a6bf7c1453d8aa318c5367c367bb8412




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2552    
Last Update : 6 สิงหาคม 2552 21:51:10 น.
Counter : 7957 Pageviews.  

เปิดแผนลงทุนมอเตอร์เวย์ 5 สายใหม่ ทั่วประเทศ

เปิดแผนลงทุนมอเตอร์เวย์ 5 สายใหม่ ทั่วประเทศ

กรมทางหลวง เร่งกำหนดรูปแบบลงทุนผุดมอเตอร์เวย์ 5 สายทางใหม่ รวมมูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท เล็งให้สัมปทานเอกชน และจัดตั้งกองทุนโรดฟัน เพื่อระดมเงินมาใช้ก่อสร้าง เตรียมเสนอรัฐบาลพิจารณาเร็วๆ นี้









แหล่งข่าวระดับสูงรายหนึ่งจากกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยต่อ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า กรมฯ ได้กำหนดแนวทางและวิธีการลงทุนสำหรับพัฒนาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นโครงการเร่งด่วนในระยะแรกจำนวน 5 สายทางอย่างชัดเจนแล้ว โดยพิจารณาจากความเป็นไปได้ กรอบระยะเวลาของการดำเนินการแต่ละเส้นทาง ที่สำคัญคือเลือกแนวทางที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้เงินงบประมาณของประเทศไทย เพื่อให้ง่ายและรวดเร็วต่อการดำเนินการพัฒนาด้วย ซึ่งจะนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาในเร็วๆ นี้

โดยหลักการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (Inter-City Motorway) มีวัตถุประสงค์ คือ
1) เพื่อกำหนดโครงข่ายแผน การก่อสร้างทางหลวงที่มีมาตรฐานสูง เสริมสร้างสมรรถนะทาง เศรษฐกิจให้ยั่งยืนในอนาคต
2) เพื่อเป็นระบบโครงสร้างพื้นฐาน หลักในการสนับสนุนนโยบายกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค
3) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิต ที่ดีช่วยลดอุบัติเหตุและลดมลภาวะ
4) เพื่อเป็นการสนับสนุนการพัฒนาเมืองหลักในภูมิภาคทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองเป็นทางหลวงมาตรฐานสูง

ซึ่งลักษณะสำคัญของทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ได้แก่
1) เป็นแนวทางใหม่ที่หลีกเลี่ยงชุมชนมากที่สุด
2) มีการควบคุมทางเข้า-ออกที่สมบูรณ์แบบมีรั้วเขตกลาง รถสามารถใช้ความเร็วได้ตามที่ออกแบบ ไม่มีอุปสรรครบกวนจากการที่คนหรือสัตว์วิ่งตัดหน้า
3) บริเวณทางแยกต้องเป็นทางแยกต่างระดับ ไม่มีสัญญาณไฟจราจร
4) เป็นทางหลวงที่มีมาตรฐานสูงกว่าถนนธรรมดา รถวิ่งได้ด้วยความเร็ว 120-140 กม./ชม.
5) มีสถานีบริการ (Service Area) ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวก ต่างๆ เช่น ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน ห้องสุขา เป็นต้น ไว้ให้บริการ แก่ผู้ใช้ทางตามจุดที่กำหนดไว้ในเขตทาง












ทล. จึงได้วางยุทธศาสตร์การพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โดยวางเป้าหมายพัฒนาเส้นทางที่มีลำดับความสำคัญสูง ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างกรุงเทพฯ ไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ที่มีปริมาณการเดินทางสูง ภายในรัศมี 250 กม.จากกรุงเทพฯ โดยได้กำหนดแผนการพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ช่วงระหว่างปี 2550-2560 จำนวน 5 สายทาง มีระยะทางรวมกัน 707 กิโลเมตร มูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 156,840 ล้านบาทประกอบด้วย

1. มอเตอร์เวย์ หมายเลข 6 สายบางปะอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร มูลค่าการลงทุนรวม 52,720 ล้านบาท โดยแบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 ตอน คือ ตอน 1 จาก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา - อ.ปากช่อง ระยะทาง 103 กิโลเมตร (กม.) และตอน 2 จาก อ.ปากช่อง - อ.เมืองนครราชสีมา (ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ) ระยะทาง 96 กิโลเมตร รวมระยะทางการก่อสร้างโครงการนี้ทั้งสิ้น 199 กิโลเมตร ใช้งบประมาณก่อสร้างราว 2.9 หมื่นล้านบาท (ไม่รวมค่าเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนมากเช่นกัน เพราะเส้นทางตัดผ่านทั้งที่ดินที่อยู่อาศัยประชาชน พื้นที่การเกษตร ที่ตั้งกิจการโรงงานต่างๆ จำนวนไม่น้อย)

ทั้งนี้ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา ดังกล่าว มีจุดเริ่มต้นโครงการที่บริเวณวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯด้านตะวันออก บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยคู่ขนานไปกับด้านฝั่งซ้ายของ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสู่ จ.สระบุรี แล้วตัดข้ามมายังด้านฝั่งขวา ถ.มิตรภาพ มุ่งสู่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ อ.สีคิ้ว ซึ่งในช่วงเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จะสร้างเป็นทางยกระดับตรงเกาะกลาง ถ.มิตรภาพ ระยะทางราว 10 กม.ก่อนตัดเข้าด้านฝั่งซ้ายคู่ขนานกับ ถ.มิตรภาพ ผ่าน อ.สูงเนิน-อ.ขามทะเลสอ และ อ.เมือง จ.นครราชสีมา

รูปแบบการก่อสร้างจะเป็นทางขนาน 4 ช่องจราจร ความกว้างของผิวจราจรช่องละ 3.60 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 3 เมตร ไหล่ทางด้านในกว้าง 1.50 เมตร ซึ่งจะเป็นการก่อสร้างทั้งทางยกระดับและทางเรียบ โดยหากช่วงใดที่ผ่านภูเขาสูง หรือความลาดชันสูง ก็จะสร้างเป็นทางยกระดับไปแนวของตรงเกาะกลาง ถ.มิตรภาพเดิม เช่น บริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคองเป็นต้น โดยจะเป็นทางหลวงพิเศษที่มีมาตรฐานสูง สามารถใช้ความเร็วได้ถึง 120 กม./ชั่วโมง มีการควบคุมการเข้า-ออกแบบสมบูรณ์ตลอดเส้นทาง ไม่มีจุดตัดหรือทางแยกแต่จะสร้างทางลอดหรือทางข้ามแทนเพื่อให้รถบนถนนท้องถิ่นวิ่งไปมาหาสู่กันได้ มีศูนย์บริการทางหลวงทุก 15-20 กม.





ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง ได้หารือร่วมกันถึงเรื่องโครงการลงทุนของกระทรวงคมนาคม ที่จะขอใช้เงินกู้ ซึ่งในที่ประชุม ได้มีข้อสรุปแล้วว่าในเส้นทางดังกล่าว จะเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนคือ PPP ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเปิดประมูลภายในปี 2552 แต่หากไม่มีเอกชนสนใจ ก็ได้จะมีแผนสำรองคือเตรียมกู้เงินไว้รองรับสำหรับในการดำเนินการก่อสร้างด้วย

2. มอเตอร์เวย์หมายเลข 81 สายบางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี ระยะทาง 98 กิโลเมตร มูลค่าการลงทุนรวม 23,770 ล้านบาท
ทั้งสองสายนี้ จะใช้รูปแบบการลงทุนแบบให้สัมปทาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการให้เอกชนเข้ามาลงทุนในการพัฒนาทางหลวง ในลักษณะของรูปแบบที่รัฐบาลและเอกชนลงทุนร่วมกัน (Public Private Partnership : PPP) เพื่อนำมาใช้เป็นกรอบแนวคิดเพื่อดำเนินการลงทุนในโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง
3. มอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 สายชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 89 กิโลเมตร มูลค่าการลงทุนรวม 10,650 ล้านบาท
ซึ่งจะลงทุนโดยใช้วิธีจัดตั้งกองทุน
4. มอเตอร์เวย์สายนครปฐม-สมุทรสงคราม-ชะอำ ระยะทาง 118 กิโลเมตร มูลค่าการลงทุนรวม 37,300 ล้านบาท
5. มอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครสวรรค์ ระยะทาง 206 กิโลเมตร มูลค่าการลงทุนรวม 32,400 ล้านบาท
สองสายหลัง มีรูปแบบการลงทุนอยู่ 2 ทางเลือกคือ รูปแบบการให้สัมปทาน และการลงทุนโดยใช้เงินจากเงินกองทุน Road Fund ที่ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาการจัดตั้งกองทุน Road Fund โดยวิธีขายหน่วยลงทุน ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ เมื่อศึกษาแล้วเสร็จ จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี ในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว

TraveLArounD


ข้อมูลจาก

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2443 12 ก.ค. - 15 ก.ค. 2552
//www.thannews.th.com/detialNews.php?id=R3923692&issue=2443
ASTV ผู้จัดการออนไลน์
//www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9500000014805
//www.logisticstimeclub.com/main/modules.php?name=News&file=article&sid=605




 

Create Date : 02 สิงหาคม 2552    
Last Update : 2 สิงหาคม 2552 12:52:47 น.
Counter : 2451 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.