"ความสามัคคีปรองดอง เป็นกำลังอย่างสูงสุดของชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ความสามัคคีของคนในชาติ จะทำให้บ้านเมืองผ่านพ้นอุปสรรค และทำให้สังคมไทย ร่มเย็นเป็นสุข" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
สนใจลงโฆษณา ในพื้นที่ข้างบน ติดต่อ email : nana_sara1000@ymail.com
Home Lover’s Corner นานา สาระ๑๐๐๐ นานา สารพัด พระพุทธประวัติ ภาคพิเศษ
Travel Around the World Real Estate Buyer's Guide สุขภาพกาย สุขภาพใจ Pets & Animals
ปางพระพุทธรูปตามพุทธประวัติ Horoscope 12 ราศี พระพุทธศาสนา World of Beautiful Musics
คาร์ล ฟาเบอร์เช่ เจ้าแห่งงานศิลปะอัญมณี

คาร์ล ฟาเบอร์เช่ เจ้าแห่งงานศิลปะอัญมณี


Peter Carl Faberge ช่างทองและนักออกแบบอัญมณีชาวรัสเซีย ผู้มีชีวิตอยู่ระหว่างปี 1846-1920 จึงมีบทบาทสูงมากในงานออกแบบไข่อีสเตอร์ให้กับราชสำนักของรัสเซียจนชื่อเสียงกระฉ่อนไปทั่วโลก ระหว่างปี 1885-1916 Faberge ออกแบบไข่อีสเตอร์ให้สมาชิกราชวงศ์ของรัสเซีย รวม 50 ชิ้นด้วยกัน แต่หลังจากเหตุการณ์ ปฏิวัติรัสเซีย Russian Revolution 1917 แล้ว มีไข่อีสเตอร์ฝีมือการออกแบบของเขา เหลือรอดพ้นจากการถูกทำลายเพียง 42 ชิ้นเท่านั้น












ปีเตอร์ คาร์ล ฟาเบอร์เช่ เกิดเมื่อปีค.ศ. 1846 ในกรุงเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ด้วยความที่ครอบครัวของเขาเป็นช่างทองตั้งแต่ในอดีต โดย พ่อของฟาเบอร์เช่ กุสตาฟ ได้มาตั้งร้านจิวเวลลี่ในเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ตั้งแต่ปีค.ศ. 1842 เขาจึงได้ไปศึกษาเล่าเรียนทักษะในด้านงานช่างทองในเยอรมนี หลังจากจบการศึกษามา เขาก็เริ่มต้นนำทักษะของเขามาใช้ในงานจริง ด้วยวัยเพียง 24 ปี ฟาเบอร์เช่ ก็ได้เปิดกิจการอัญมณีในรัสเซีย ที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์กอีกครั้งในปี ค.ศ. 1870 ภายหลังจากพ่อของเขาได้เกษียณและเลิกทำกิจการไปกว่า10ปี



Coronation Egg(1897)








Memory of Azon Egg (1901)








Twelve Monograms Egg (1895)


ในการเป็นหัวเรือใหญ่ในธุรกิจ เขาได้พยายามสร้างสรรค์งานของเขาให้เทียบเท่าและสูงกว่างานของช่างอัญมณีทั่วไป หากมีเวลาว่างเมื่อไหร่เขาก็จะทุ่มเวลากับการศึกษามรดกสมบัติ ที่ล้วนมีค่าที่เก็บสะสมไว้โดยพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย ที่ฟาเบอร์เช่ได้เห็นจากแคตาล็อกประเมินราคา และการซ่อมแซมงานพวกนี้ ในที่สุดเขาก็ได้ทำธุรกิจใหม่ขึ้น โดยความช่วยเหลือจากน้องชาย ชื่ออาการ์ธอน (Agathon) เป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าครั้งใหญ่ของงานศิลปะอัญมณี โดยในปีค.ศ 1882 คาร์ลและน้องชายอาการ์ธอนได้ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานที่ออกมาอย่างวิจิตร โดยได้แรงบัลดาลใจจากศิลปะของรัสเซียในยุคโบราณ และผลงานชิ้นนี้ก็ถูกขายไป โดยมี Eric Kollin ช่างชาวฟินน์ อีกคนหนึ่ง ที่มีส่วนร่วมช่วยในงานของสองพี่น้องนี้ ที่จะนำไปจัดแสดงขึ้นในมอสโก พระเจ้าซาร์ อเล็กซานเดอร์ที่3 และพระมเหสีซารีน่ามาเรีย ก็ทรงได้เข้าร่วมในงานแสดงผลงานล้ำค่าของฟาเบอร์เช่ด้วย นอกจากนั้นแล้วฟาบาเช่ ยังได้ถูกเสนอได้รับเหรียญเกียรติยศ (Gold Medal at the Pan-Russian exhibition in 1882) ในฐานะที่ได้เปิดศักราชใหม่แห่งวงการศิลปะอัญมณี จักรพรรดินี Marie Feodorovna พระมเหสีของ Tsar Alexander III แห่งรัสเซียเคยทรงยกย่อง Faberge ว่า "อัจฉริยะผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคสมัย












ในเวลานั้น ผู้คนต่างหลงไหลในมูลค่าและความงามของงานอัญมณีที่ประดับด้วยโลหะมีค่าและอัญมณีหายาก ซึ่งฟาเบอร์เช่นั้นก็เข้าใจดีว่า ความคิดสร้างสรรค์ที่บรรเจิดและฝีมือช่างที่ดี จะนำไปสู่การสร้างเงินและมูลค่าของงานที่มหาศาล ในบรรดาเหล่าช่างทอง ฟาเบอร์เช่กลายเป็นชื่อที่ผู้คนสนใจเป็นอันดับแรกๆ นอกจากนั้นเขายังได้จ้าง มิคาอิล เพอร์ชิน (Michael Perchin) ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องทองและเครื่องเคลือบ มาช่วยแนะนำวิธีการเพิ่มเติม ด้วยความใส่ใจและการทดลองวิธีการในงานศิลป์ และเขายังร่วมกันศึกษาทดลองจำลองเทคนิคงานในศิลปะรัสเซียช่วงต้น และเขาก็ได้รับความสำเร็จ ถึงขนาดที่พระเจ้าซาร์ ไม่สามารถตัดสินพระทัย แยกแยะได้ ว่างานกล่องบรรจุยานัตถุ์ ระหว่างชิ้นต้นแบบ กับชิ้นที่เลียนแบบ ที่ฟาเบอร์เช่สร้างขึ้นนั้น อันไหนเป็นของจริง และในที่สุดฟาเบอร์เช่ ก็กลายเป็นช่างของราชสำนักโรมานอฟ โดยความไว้วางพระทัยของพระเจ้าซาร์ อเล็กซานเดอร์ที่3 ตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 19




























โรงงาน (Workshop) ของฟาเบอร์เช่นั้น ก็ล้วนเต็มไปด้วยช่างทองและช่างอัญมณีที่มีฝีมือดีสุด เท่าที่หาได้ในเวลานั้น ฟาเบอร์เช่ไม่ได้ทำเพียงแค่พวกงานไข่อีสเตอร์ ที่เป็นตัวสร้างชื่อเสียงแก่ชื่อผลิตภัณฑ์ของเขาเท่านั้น ธุรกิจของเขายังแยกออกเป็นแผนกงานย่อยๆ อีกหลายอย่างเช่น เครื่องโต๊ะเงิน อัญมณีประดับ ของกระจุกกระจิกเล็กๆสไตล์ยุโรป งานแกะสลักสไตล์รัสเซีย ฯลฯ โดยงานอัญมณีของฟาเบอร์เช่นั้น ก็ได้รับการออกแบบอย่างวิจิตรหรูหรา ประดับด้วยสิ่งมีค่าและสิ่งที่มีค่าค่อนข้างสูงอย่าง ทอง เงิน มาลาไคต์ ลาพิซลาซูลี และเพชร โดยได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะในการตกแต่งสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศส และพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ศิลปะแบบคลาสสิค เรอเนสซองค์ บารอค โรโคโค และ อาร์ทนูโว รวมทั้งอิทธิพลจากศิลปะของรัสเซียด้วย ซึ่งลวดลายในงานของฟาเบอร์เช่ จะแบ่งออกเป็นทั้งกลุ่มลวดลายดอกไม้ กลุ่มลวดลายสลัก และกลุ่มลวดลายสัตว์








































นอกจากนั้นแล้ว ผลงานเลื่องชื่ออย่างไข่อีสเตอร์ ก็เป็นที่หมายปองของเหล่างราชวงศ์โรมานอฟ รวมทั้งราชวงศ์ในยุโรป และเอเชีย รวมทั้งประเทศไทย สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ที่ทรงเสด็จเยือนรัสเซีย ก็มีงานของฟาเบอร์เช่หลายชิ้น รวมถึงพระพุทธรูปหยกด้วย ฟาเบอร์เช่ ยังมีผู้ช่วยเป็นช่างระดับชั้นครูอย่างมิคาอิล เพอร์ชิน (Michael Perchin) และเฮนริค วิคสโตรม (Henrik Wigström) มารับผิดชอบด้วย โดยตัวงานของฟาเบอร์เช่ที่รับผิดชอบโดยมิคาอิล เพอร์ชิน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1886 จนถึงค.ศ. 1903 จะได้รับการประทับตรา MP ส่วนงานที่รับผิดชอบโดย เฮนริค วิคสโตรม จะได้รับการประทับตรา HW ในตัวงานเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีบางชิ้นในงานไข่อีสเตอร์ที่ไม่ได้รับการประทับตรา


กิจการของฟาเบอร์เช่นั้นเติบโตเป็นอย่างมาก และขยายไปอย่างรวดเร็ว จากสาขาเดียวที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก ก็ขยายไปยังมอสโกในปีค.ศ. 1887 และขยายกิจการไปยังเมืองเคียฟ โอเดซซา และลอนดอนในปีค.ศ. 1906 แต่ผลงานที่งดงามราวกับเสกด้วยเวทมนตร์ ก็ได้มาถึงจุดสิ้นสุด พร้อมกับการระเบิดขึ้น ของสงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1914 การสละพระราชบัลลังก์ของซาร์ และการปฏิวัติ Russian Revolution ในปี 1917 ตลอดจนการปลงพระชนม์พระเจ้าซาร์ และพระราชวงศ์ของพระองค์





































หลังจากการปฏิวัติแล้ว พรรคคอมมิวนิสต์รัสเซีย คือ บอลเชวิค (Bolshevik) ได้เข้ายึดไข่อีสเตอร์เอาไว้ทั้งหมด และนำออกขายในต่างประเทศรวม 40 ชิ้นด้วยกัน ทำให้ผลงานดังกล่าว กระจัดกระจายไปทั่วโลก และปรากฏให้เห็นตามพิพิธภัณฑ์หรือในครอบครองของนักสะสมทั่วไป ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1918 ฟาเบอร์เช่ ได้ลี้ภัยออกไปยังฟินน์แลนด์ โดยการช่วยเหลือของคนในสถานทูตอังกฤษ และย้ายมาสู่เมืองวีสบาเดน ในเยอรมนี ในปีค.ศ. 1920 ในปีเดียวกันนั้นเอง


ปีเตอร์ คาร์ล ฟาเบอร์เช่ ได้เสียชีวิตลง ด้วยวัย 74 ปี ที่เมืองลูเซินท์ ในสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมาภายหลัง ศพของเขาได้ฝังไว้เคียงข้างออกุสตา อกาธอน ฟาเบอร์เช่ (Augusta Agathon Faberge) ภรรยาอันเป็นที่รัก ที่หนีรอดออกมาจากสหภาพโซเวียตได้ในปี 1928 โดยฝังไว้ที่ Cimetière du Grand Jas ที่เมืองคาร์ล ในฝรั่งเศส


อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์อันเกรียงไกรและฝีมือการออกแบบไข่อีสเตอร์ได้อย่างวิจิตร สวยงาม และหรูเลิศของ Faberge หา ได้ล่มสลายไปตามกาลเวลาไม่ แถมยังอยู่ยงคงกระพันให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมและศึกษา


TraveLArounD



ปล. ท่านที่เพิ่งเข้ามาชมบล็อกใหม่ ผมได้จัดทำเป็นสารบัญ แบบหนังสือให้ค้นดูหัวเรื่องได้ง่ายที่ group : นานา สาระ๑๐๐๐ เพราะเรื่องต่างๆ เขียนไว้ กว่า 1400 เรื่องแล้ว

หมายเหตุ : ขณะได้มี website อื่นๆหลาย website ได้นำเอาเรื่องที่ผมเขียนไว้ ไปลงต่อในลักษณะของเนื้อหา โดยไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ถ้าต้องการบทความใดไปใช้ ขอให้ติดต่อขออนุญาต ก่อนทาง Email : nana_sara1000@ymail.com มิฉะนั้น จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายลิขสิทธิ์

ส่วนผู้ที่ต้องการนำเรื่องไปโพสต่อ เพื่อเผยแพร่ โดยมิใช่ทางการค้า ขอให้ติดต่อขออนุญาตให้ถูกต้องก่อนโพส

เรียบเรียงจาก
นิตยสารผู้จัดการ - มีนาคม 2549
//www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=46037
hijirujung
//writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=502641


Create Date : 16 กรกฎาคม 2552
Last Update : 15 กรกฎาคม 2554 20:06:35 น. 2 comments
Counter : 3225 Pageviews.

 
ขอบคุณความรู้ดีดีที่สร้างสรรค์ให้เกิดแรงบัลดารใจที่ดี ขอบคุณมาก


โดย: เอโรอิส IP: 180.180.107.140 วันที่: 15 กรกฎาคม 2554 เวลา:15:11:05 น.  

 
ขอบคุณค่ะ สวยๆทั้งนั้นเลยแววววาวไปหมด


โดย: Irene IP: 223.204.90.209 วันที่: 26 สิงหาคม 2554 เวลา:21:00:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

travelaround
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 164 คน [?]





ยินดีต้อนรับทุกท่านที่แวะเข้ามาชม blog มีข้อคิดเห็น เชิญ comment มาได้นะครับ ถ้าตอบได้ จะตอบให้ทันทีครับ แต่ถ้าไม่ทราบ ต้องขอเวลา จะค้นคว้ามาให้อ่านกัน ท่านที่จะถามคำถาม หรือติดต่อเรื่องบทความ ได้ทาง Email :- d_sign_place@yahoo.com ครับ


เรื่องต่างๆที่ผมได้เขียนหรือรวบรวม เรียบเรียงมานี้ ยินดีให้ทุกท่านได้อ่านเป็นวิทยาทานและเพื่อการศึกษา ถ้าจะนำไปโพสต่อใน website สาธารณะ หรือ website อื่นใดที่ไม่ใช่ทางพาณิชย์ กรุณาระบุที่มา คือ https://www.travelaround.bloggang.com และนามปากกาผู้เขียนคือ TraveLArounD ด้วย

แต่ขอสงวนสิทธิ์สำหรับการนำไปใช้ ในเชิงพาณิชย์ หรือโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง จะถูกดำเนินคดี ตามกฏหมายลิขสิทธิ์

ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email :– nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที

Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.


Website counter
: Users Online









ที่ดินเชียงใหม่ ทางไปแม่ริม ใกล้ศาลากลาง และสนามกีฬา 700 ปี ติดน้ำปิง ในหมู่บ้านเพชรริมปิง พื้นที่ 667 ตารางวา @ 14,000.- บาท สภาพแวดล้อมดี สนใจติดต่อ โทร. 0859559950



DESIGN PLACE CO.,LTD. รับออกแบบ และตกแต่งภายใน บ้านพักอาศัย ในแบบไทย และไทยร่วมสมัย



มรดก ฉบับที่ 1

มรดก ฉบับที่ 2

มรดก ฉบับที่ 3

มรดก ฉบับที่ 4

มรดก ฉบับที่ 5

มรดก ฉบับที่ 6

มรดก ฉบับที่ 7

ช่วยสนับสนุนการจัดทำ BLOG ด้วยการซื้อหนังสือ "มรดก" 1ชุด 7เล่ม (หนังสือเก่า) ในราคาชุดละ 700 บาท (รวมค่าส่งทางไปรษณีย์)

สนใจสั่งซื้อทาง E-mail :- nana_sara1000@ymail.com



New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add travelaround's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.