แม้ว่า Philip Johnson สถาปนิกเอกคนหนึ่งในยุคนั้น จะได้ไอเดียหรือแนวความคิดนี้มาจาก Mies van der Rohe ก็ตาม แต่รายละเอียดของตัวบ้าน ก็มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด องค์ประกอบหลักที่สำคัญ และเด่นชัด คือโครงสร้างเหล็กและกระจกใส ภายหลังจากการออกแบบบ้านหลังนี้แล้ว แนวทางของ Johnson ก็เริ่มมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แตกต่างจากของ Mies van der Rohe ออกไป ( Philip Johnson เป็นสถาปนิกเอกคนหนึ่ง ในยุคเดียวกับ Frank Lloyd Wright และ Mies van der Rohe มีผลงานออกแบบอาคารต่างๆมากมาย ในแนวทางของ modern architecture )
Philip Johnson ใช้บ้านหลังนี้เป็นที่อยู่อาศัยของเขาเอง ในบริเวณบ้าน ขนาด 37 เอเคอร์ ยังมีอาคารที่เขาออกแบบไว้อีกหลายหลัง ในระยะเวลาต่างๆกัน ในปี 1986 Johnson ได้ยกบ้านหลังนี้ให้แก่ National Trust แต่เขาก็ยังอาศัยอยู่ที่นี่จวบจนสิ้นลม เมื่อปี 2005 ซึ่งบัดนี้ บ้านหลังนี้ก็ได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้แล้ว
ส่วนบทความหรือภาพถ่ายใดๆ ที่ได้นำมาจาก website อื่น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบเรื่องนั้นๆ เป็นการถ่ายทอดจากวิจารณญาณแล้วว่า มีความถูกต้องเป็นจริง มากที่สุด และได้นำมาจาก website ที่เป็นสาธารณะ ถ้าเรื่องราวหรือภาพของท่านที่ได้นำมาถ่ายทอดนี้ ไปละเมิดลิขสิทธิ์ของท่าน กรุณาแจ้งมาทาง email : nana_sara1000@ymail.com ผมจะทำการลบข้อมูลหรือภาพที่ละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าว ออกทันที Acknowledges that I try to write or report accurately but postings may contain fact , speculation or rumor. I find images from the Web that are believed to belong in the public domain. If any stories or images that appear on the site are in violation of copyright law, please email to :- nana_sara1000@ymail.com and I will remove the offending information as soon as possible.
เป็นบ้านที่ออกแบบให้ผู้อยู่ได้สัมผัสธรรมชาติ
โดยรอบด้าน น่าอยู่มากจริงๆ ค่ะ
โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่รักและนิยมธรรมชาติ
แต่ไม่ทราบว่า Philip Johnson ได้ออกแบบ
ให้มีม่านสำหรับปิดในเวลาที่ต้องการได้
ด้วยรึเปล่าคะ