ช็อปอย่างไรให้คุ้มค่าเงินมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา (How to shopping in US)
อีกไม่กี่วันจะต้องย้ายรัฐไปดูงานที่ Boston แล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าอยู่นี่มาจะครบหกเดือนเข้าให้แล้วสิ
เรื่องมันมีอยู่ว่า อยากจะเขียน กระทู้วิธีการช็อปปิ้งในสหรัฐ แบบประหยัดสุดขั้ว(ของตัวเอง) จนเพื่อนๆที่นี่ตะลึง เช่น เราซื้อบู๊ทกันหิมะและกันหนาว ราคา 29 เหรียญ อะไรแบบนี้ อะไรประหยัดได้ก็ประหยัด
จริงๆได้ทุนมาก็ตกเดือนละประมาณ สองพันเหรียญนะ มีเงินเดือนที่ไทย ไปๆ มาๆ ก็ 2500 เหรียญ ค่าห้องเมืองนี้ไม่แพง แต่ก็จะใช้ให้เปลืองไปทำไม เอาเงินไปเที่ยวรัฐอื่นดีกว่า
อย่าพร่ำเพ้อเสียเวลา (เอาไว้บล็อกหน้าจะเขียนวิธีเดินทางด้วยรถบัส ในสหรัฐ ประหยัดสุดๆ)
เข้าเรื่องเลย สำหรับคนที่เดินทางมาสหรัฐใหม่ๆ อาจจะงงๆนิดนึง ยิ่งคนที่ไม่เคยไปต่างประเทศ ยิ่งโคตรงง (เราเดินทางไปหลายสิบประเทศแล้วค่ะ) สหรัฐเนี่ยเป็นครั้งที่สองของเราแล้ว เลยพอจะทราบบ้าง แต่ก็นั่นมัน 7 ปีก่อนแล้ว อะไรหลายอย่างก็เปลี่ยนไป
เอา มาเริ่มจากเวปไซด์พื้นฐานที่ควรจะรู้จักก่อนก็แล้วกัน
1. Amazon
ลองกดเข้าไปดูค่ะ ที่ไอค่อน ด้านบนได้เลย เป็นเวปไซด์ที่มีขายตั้งแต่สากกะเบือ (มีจริงๆนะ) ส่วนเรือรบไม่รู้มีหรือไม่ กดเข้าไป สร้าง Account และใส่ที่อยู๋ได้เลยค่ะ ส่วนการจ่ายเงิน หากมีบัตรเดบิตของธนาคารท้องถิ่น เช่นเรา มี Debit ของ PNC แบงค์ก็ใส่เข้าไปเลยค่ะ เพราะครั้งหน้าหากจะซื้อของอีก ก็จะไม่ต้องมานั่งกรอกให้เสียเวลา
ความปลอดภัย ในการซื้อของผ่านอเมซอนมีมากค่ะ ซื้อแล้วได้ของทุกครั้ง แน่นอน โดยเฉพาะของที่ซื้อผ่านอเมซอนเอง (การขายของ อเมซอนมีทั้ง Sold โดย Amazon หรือ จากร้านค้าโดยตรงนะคะหากซื้อของที่ขายผ่าน อเมซอน มีบริการส่งฟรี (ช้าหน่อยไม่เกิน สองสัปดาห์ค่ะ) ถ้าซื้อของเกิน 35 USD)
ของบางอย่าง เรามีความจำเป็นจริงๆไม่สามารถไปหาซื้อได้ ที่อื่นก็พึ่งอเมซอนเนี่ยหละค่ะ ช่วยได้ ตัวอย่างเช่น หนังสือ Text book ต่างๆ
ราคา ราคาท้องตลาดค่ะ บางอย่างถูกกว่า บางอย่างแพงกว่า ต้องคอยดูเอาค่ะ
2. ebay
เราเคยไป บิดในนี้แล้ว ไม่ได้ของ เลยไม่มีประสพการณ์ตรงนี้เท่าไหร่ แต่ เท่าที่ดู มันต้องแข่งกับเวลา ส่วนมากของที่เราอยากได้ คนอื่นก็อยากได้เลยบอกยากว่าคุ้มกับการเสียเวลาไหม
3. Uniqlo
เวปเสื้อผ้า ที่เป็นของญี่ปุ่น ซึ่งเราชอบมาก มี การลดบ่อย และ เสื้อผ้าใส่ได้สบายๆ ราคาไม่แพงมาก ส่วนตัวเวลาเข้าไปดูแล้ว มักจะได้เป็นพวก Sale มากกว่า เพราะอย่างที่บอก บางทีเรารู้สึกว่า เสื้อผ้าที่ไทย สวยและถูกกว่า แต่ก็มีข้อดีนะ ผ้าพวกนี้ใส่ได้ สามฤดูค่ะ คือ เสื้อผ้าเค้าจะสีพื้นๆ ใส่ได้เป็นเสื้อด้านในก็ได้ ถ้าอากาศอุ่นก็ใส่ด้านนอกก็ได้ บางที เสื้อกันหนาวที่เป็นแบบ Fleece เรียกคล้ายๆลูกฟูกไหมอ่ะ ก็เหลือแค่ 12 เหรียญ สอยมาสามตัว ชมพู น้ำเงิน และขาว ค้มค่านะ ส่วนตัวชอบ (ราคาเต็มคือ 19 เราซื้อแต่ตอนมีโปรโมชั่นค่ะ)
4. Macy
พอดีเราเคยไปอยู่แค่สามรัฐ แต่รัฐที่เหลือไปเที่ยวเฉยๆ คิดว่า ห้างMacy น่าจะมีทุกรัฐ ขนาดนิวยอร์ค ยังมีหลายที่เลย ปกติก็จะเป็นห้างที่เค้าเป็นคล้ายเซ็นทรัลไทยค่ะ คือมีทุกอย่างทุกแผนก เราก็ไปสมัครไว้ (จริงๆก็สมัครมันทุกเวปหล่ะ) เค้าก็จะส่งโปรโมชั่นเจ๋งๆมาให้ ว่างๆก็เปิดดู อย่างที่บอก เวลามี ดีลเจ๋งๆ เราถึงค่อยเข้าไปดู แต่เราก็ไม่ใช่พวก Shoppaholic อะไรแบบนี้ ก็จะซื้อเฉพาะเสื้อผ้าที่ Sale or Clearance
5. Sephora
เป็นร้านขายเครื่องสำอางค์และน้ำหอมต่างๆ คล้ายๆกับว่าเป็นตัวแทนของร้านต่างๆ มีหลายยี่ห้อ ที่คนไทยนิยม เช่น Urban decay LM Makeup forever Dior Clinique และอื่นๆ บางที จะมีของแถม ที่ เป็นตัวอย่างเครื่องสำอางค์มาด้วยค่ะ
6. TJMaxx or Marshall
เป็นห้าง Outlet แบรนด์เนมที่เป็น Local USA เช่น CK, Coach, Nine West อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ (จริงๆมีเยอะ มีทุกอย่างมีทุกแผนกเลย) เข้าไปดูในเวป ดูราคาของเทียบได้ค่ะ อย่าง TjMaxx เนี่ย คือจะมีราคาบอก แต่ก็อย่างว่า บางอย่างขายออนไลน์ บางอย่างขาย Instore ค่ะ ต้องดูๆเอา แต่ เสื้อผ้าเนี่ย ราคา แบบตั้งแต่ 5 เหรียญ(เราซื้อราคาประมาณไม่เกิน 20 เหรียญนะคะ) เรางกค่ะ มีของใช้ในบ้าน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว เอาเป็นว่าเกือบทุกอย่าง ราคาลดมากๆ ถ้าอยากลดมากที่สุด เชิญป้าย Clearance ค่ะ สนุกแน่นอน
7. Target or Wallmart
ห้างสรรพสินค้าที่มีเกือบทุกเมือง เป็นคล้ายๆ กับSuper market ที่เอาไว้ซื้อของเหมือนบิกซี โลตัสอะไรแบบนี้อ่ะค่ะ แต่บางครั้ง ก็มีโปรโมชั่นราคาดีๆ โดยเฉพาะหลังเทศการ Thank giving ค่ะ ปกติ สินค้าที่เราซื้อก็เหมืนเดิมค่ะ กระบะ Clearance or Sale เท่านั้นที่เราต้องการ
8. Riteaid or CVS
ร้านค้าขนาดกลางที่เป็นร้านขายยาค่ะ แต่ !!! มันมีอะไรมากกว่านั้นค่ะ ร้านพวกนี้ก็เป็นที่นิยมของตัวเองเลยค่ะ มาถึงสมัครสมาชิกได้เลย มีโอกาสได้ใช้บริการจะได้สะสมแต้มไปด้วยค่ะ เผื่อได้ส่วนลดอีก มันจะเป็นร้านขายยาที่มี ของอื่นๆขายด้วยเช่น ของใช้ในบ้าน (แต่ไม่เยอะแบบห้างเบอร์ 7 นะคะ) ที่สำคัญ เครื่องสำอางค์ที่เป็น Local brand ค่ะ มีหมด บางครั้งมีโปรโมชั่นถุกเหลือเชื่อเลยทีเดียว ส่วนตัว สมัครเป็นสมาชิก ก่อน ซื้อก็ดูว่า อันไหนถูกสุด แล้วค่อยไปที่ร้านค่ะ ส่วนมากร้านพวกนี้ก็จะกระจัดกระจายกันไปตามเมืองต่างๆน่าจะมีเกือบทุกเมือง
โอ้ว เหนื่อยแล้ว ไปจัดการตัวเองก่อนค่ะ ใครมีอะไร ฝากไว้ ถามได้นะคะ ทั้งหลังไมค์และ ในบล็อกเลยค่ะ
Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2557 | | |
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2557 8:01:39 น. |
Counter : 324 Pageviews. |
| |
|
|
|