เส้นเลือดขอด ปัญหาหนักใจของสาว ๆ สำหรับผู้หญิงกับ ความสวยความงามนั้นถือว่าเป็นของคู่กัน สาวร้อยทั้งร้อยต่างก็อยากดูดีด้วยกันทั้งนั้น แต่สมัยนี้นั้นสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ กลับเป็นตัวบั่นทอนความสวยงามของสาว ๆ ลงไปมากทีเดียว และสำหรับสาววัยทำงานทั้งหลายนั้น ปัญหาทีบั่นทอนความสวยงามอันดับต้น ๆ เลยก็คือ ปัญหาเส้นเลือดขอด เส้นเลือดขอด เกิดจากความ ผิดปกติของลิ้นเล็กๆ ในหลอดเลือดดำ ไม่สามารถสกัดกั้นการไหลย้อนของเลือดได้ จึงทำให้เลือดเกิดการคั่งอยู่ในหลอดเลือดส่วนปลาย ได้แก่ส่วนที่อยู่ใกล้ผิวหนังทำให้เห็นเป็นเส้นเลือดที่โป่งพองเป็นก้อน หรือเป็นเส้นเลือดฝอยแตกคล้ายแผนที่หรือใยแมงมุม เส้นเลือดขอดที่พบบ่อยๆ มักจะอยู่บริเวณน่อง ขา พับ โคน ขา และบริเวณระหว่างตาตุ่มขึ้นไปถึงสะโพก ซึ่งพบในผู้หญิงมากกว่า ผู้ชาย แรก ๆ ที่เห็นนั้นอาจจะแค่ทำให้สาว ๆ เสียความมั่นใจได้ เพราะเมื่อใส่กระโปรงก็ไม่สามารถอวดเรียวขาได้เต็มที่ แต่ในบางรายเมื่อนาน ๆ ไปแล้วพบว่าเริ่มมีอาการเจ็บหรือปวดบริเวณที่เกิดเส้นเลือดขอดได้เหมือนกัน สาเหตุ ที่ทำให้เกิดเส้นเลือดขอดได้ หรืออาจจะเกิดปัจจัยดังต่อไปนี้ 1. เกิดจากทำงานโดยต้องยืนหรือเดินนานๆ เช่น พนักงานขายสินค้า พนักงานเก็บค่าโดยสาร เป็นต้น 2. เกิดจากกรรมพันธุ์ พ่อแม่ที่มีเส้นเลือดขอด ลูกมีโอกาสเป็นเส้นเลือดขอดตามไปด้วย 3. เกิดจากอายุที่มากขึ้น จะเป็นเส้นเลือดขอดเพิ่มขึ้น เนื่องจากความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของลิ้นหลอดเลือดลดน้อยลง 4. เกิดจากฮอร์โมนเพศ ซึ่งเพศหญิงมีโอกาสเป็นมากกว่าเพศชาย เนื่องจากผลของฮอร์โมนเพศหญิงโดยตรง 5. เกิดจากการมีน้ำหนักเกิน คนที่มีน้ำหนักมากเกินเลือดจะหมุนเวียนได้ไม่สะดวก จะเกิดการคั่งค้างของเลือดบริเวณขามากขึ้น จึงทำให้เกิดเส้นเลือดขอดได้มาก 6. เกิดจากการกระทบกระแทกหรือกดทับ เช่น ไขว่ห้าง เนื่องจากเลือดเดินไม่สะดวก หรืออาจจะเกิดจากการใส่รองเท้าส้นสูง ซึ่งจะทำให้เลือดหมุนเวียนได้ไม่ดีก็เป็นได้ ปัจจุบันการรักษาเล้นเลือด ขอดนั้นทำได้ง่ายมากขึ้น เพียงแค่ให้คุณหมอฉีดน้ำเกลือชนิดเข้มข้นเข้าไป เพื่อสร้างความตื่นตัวให้กับผนังเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดขอดหดตัวลงได้ หรือในรายที่เป็นมาก ๆ ก็สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ แต่ถ้า ไม่อยากพบเจอปัญหาเส้นเลือดขอดละก็เพื่อน ๆ ที่นี่สามารถทำได้ง่าย ๆ เลยคือ ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดตึงโดยเฉพาะที่เอวและต้นขา หลีกเลี่ยงการยืนหรือเดินนาน ๆ หากต้องทำงานที่ต้องเดินหรือยืนนาน ๆ ควรพักเท้าบ้างเป็นระยะ ๆ ใช้ถุงน่องที่ผลิตขึ้นเพื่อรักษาเส้นเลือดขอดโดยเฉพาะ หรืออาจจะใช้วิธีนอนยกเท้าสูงระดับหัวใจทุกวัน วันละ 15 นาทีก็เป็นการช่วยได้ทางหนึ่งเช่นกันค่ะ ปัญหาเส้น เลือดขอดนั้นไม่ใช่เพียงแค่สร้างความไม่มั่นใจให้สาว ๆ เท่านั้น แต่ยังอาจจะก่อให้เกิดความเจ็บปวดได้ เพราะฉะนั้นใครที่มีอาการเส้นเลือดขอดก็ควรรีบรักษาเสียตั้งแต่เนิ่น ๆ นะคะ ก่อนที่มันจะทำให้คุณเกิดอาการทรมานจากความเจ็บปวดได้ Free TextEditor   Create Date : 01 พฤษภาคม 2553     Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 18:17:01 น. Counter : 296 Pageviews.   0 comment Share Tweet

รักแร้ดำทำไงดี เรื่องรักแร้ดำนั้นดูจะเป็นปัญหาหนักอกหนักใจสำหรับสาว ๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว ไหนจะโฆษณาที่โหมกระหน่ำแนว คิดจิ๊กกูแร้วขาวใสนั้นอินเทรนด์น่ามองสุด ๆ อีกล่ะ ทำให้สาว ๆ หลายคนหันไปพึ่งโรลออนไวท์เทนนิ่งเป็น การยกใหญ่ อันที่จริงแล้วปัญหารักแร้ดำนั้นเกิดมาจากการ ที่เราใส่เสื้อผ้าที่คับจนเกินไป ทำให้ช่วงรักแร้กับเนื้อเสียดสีกัน หรือ การที่เหงื่อ ออกมาก การโกนขน รักแร้ หรือ แม้แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีสารเคมี แอลกอฮอร์ หรือน้ำหอมมากเกินไปก็ ทำให้รักแร้คล้ำลงได้เช่นกัน หาก สาวไหนอยากมีรักแร้ขาวใสละก็ วันนี้เราขอแนะนำ สูตรรักแร้ขาวแบบบ้าน ๆ มานำเสนอล่ะ โดยใช้น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะน้ำแตงกวาคั้นสด 1 ช้อนชา น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ผงขมิ้นครึ่งช้อนชา ซึ่งเมื่อเราอาบน้ำจนสะอาดและเช็ด ตัวแห้งดีแล้ว ให้ ใช้น้ำมันมะพร้าวทาวงแขนให้ทั่ว จากนั้นนำส่วนผสมที่เหลือคนให้เข้า กัน จากนั้นนำมาทาทิ้งไว้ 20 นาที แล้วจึงล้างออก ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้งรอย คล้ำก็จะค่อย ๆ จางลงค่ะ สาว ๆ ที่นี่คนไหนที่อยากมีวงแขน ขาวสวยละก็อย่าลืมนำไปทำตามกันนะคะ แต่ว่าก็ต้องดูบริบทรอบ ๆ ด้วยนะคะ เพราะว่าวิธีนี้คงทำให้ รักแร้ของคุณขาวได้เท่าที่สีผิวคุณจะเอื้ออำนวย คงไม่สามารถทำรักแร้ขาวเด้ง ได้แบบในโฆษณาหรอกค่ะ แต่ยังไงก็เป็นวิธีบ้าน ๆ ที่ไม่อันตรายนะคะ Free TextEditor   Create Date : 01 พฤษภาคม 2553     Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 17:06:50 น. Counter : 318 Pageviews.   0 comment Share Tweet

อยากเป็นสาว Fit & Firm ไม่เห็นจะยาก เรื่องความสวยความงามนั้นถือเป็นเรื่อง อันดับต้น ๆ ที่ผู้หญิงเราจะกังวลกันมากทีเดียว บ้างก็อยากผอม บ้างก็อยากอ้วนอู้ยยย สารพัดที่จะอยาก แต่จะให้ทำอย่างอย่างไรได้ก็เป็นผู้หญิงนี่เน๊อะ วันนี้เราก็เลยเอเาวิธีการเป็นสาวฟิตแอนด์เฟิร์มง่าย ๆ มาฝากกัน ก่อนอื่นใดเลยก็จงจำเอาไว้ว่า คนเราจะงามนั้นต้องงามมาจากข้างใน เคยได้ยินไหมค่ะ กินอย่างไรได้อย่างนั้น หากคุณเป็นประเภท กินดะกินอะไรก็ได้ตามใจปาก ซึ่งปากส่วนใหญ่มักจะเน้นไปบริโภคเนื้อสัตว์เสียส่วนมาก แล้วก็เลือกทานผักแต่น้อย ๆ ถ้าคุณเป็นกรณีแบบนี้ แล้วอยากสวยล่ะก็ อืม ... รอปาฏิหารย์นะคะ เพราะต่อให้เป็นคนที่หุ่นดีแค่ไหนก็อาจจะเจอผลกระทบในระยะ ยาวได้ หันมาทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างอาหารชีวจิตร หรืออาหารที่มัผักเป็นส่วนประกอบกว่าร้อยละ 50 มาทานจะดีกว่าค่ะ นาน ๆ เข้าไปอบซาวน่าก็ดีเหมือนกันนะคะ เพราะถือว่าเป็นการกำจัดสารพิษและเซลลูไลต์ได้ส่วน หนึ่ง และเมื่อเข้าไปซาวน่าแล้วก็อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดด้วยนะคะ นอกจากนี้การนวดตัวหรือขัดตัวก็ถือเป็นการผ่อนคลายให้กับร่างกายด้วย ทางหนึ่ง ที่คุณสามารทำเองได้ที่บ้านหรือจะใช้บริการข้างนอกบ้านก็ได้ค่ะ และ อย่าลืมวิธีเบสิคตลอดกาลอย่างเช่นการออกกำลังกายนะคะ เพราะว่าการออกกำลังกายนั้นเปรียบเสมือนยาวิเศษที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็ง แรง แล้วยังช่วยให้ผิวพรรณดีตามธรรมชาติอีกด้วย เห็นมั้ยค่ะเรื่องง่าย ๆ แค่นี้เองร่างกายเราก็ฟิตแอนด์เฟิร์มแล้วเพื่อน ๆ ที่นี่อย่าลืมลองไปทำกันนะคะ Free TextEditor   Create Date : 01 พฤษภาคม 2553     Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 10:18:47 น. Counter : 318 Pageviews.   0 comment Share Tweet

10 อาหารสุขภาพ ที่สาวๆ ควรมีติดตู้เย็น อาหารถือเป็นปัจจัยสี่ที่มีความ สำคัญกับชีวิตเราเป็นอันดับหนึ่ง ยิ่งปัจจุบันคนทั่วโลกหันมาใส่ใจกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น การเลือกทานอาหารที่ให้ประโยชน์สูงสุดแก่ร่างกายจึงกลายเป็นกระแสที่หลายๆ คนทำ โดยเฉพาะในหมู่สาวๆ ที่ต้องดูแลรูปร่างไม่ให้มีไขมันส่วนเกิน ว่าแต่อาหารสุขภาพชนิดใดที่สาวๆ ควรมีติดตู้เย็นบ้าง    น้ำเปล่า ไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากมายสำหรับความจำเป็นและ คุณประโยชน์ทำให้เราต้องดื่มน้ำ เพราะ "น้ำ" ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิต ช่วยทำให้ระบบการทำงานของร่างกายเป็นไม่อย่างปกติ ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดี หัวใจทำงานปกติและมีประสิทธิภาพแข็งแรงขึ้น รวมทั้งช่วยให้การขับถ่ายของเสียทำงานได้ดี ที่สำคัญยังช่วยให้ผิวชุ่มชื่น โดยน้ำที่เหมาะแก่การดื่มคือน้ำอุณหภูมิปกติ เรียกว่าสาวคนใดอยากสุขภาพดีอย่าลืมดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้วนะคะ   ผัก เหมาะมากสำหรับการเป็นอาหารใน ยุคเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณปลูกพืชผักสวนครัวไว้ทานเอง คุณจะได้ทานผักที่สดและปลอดภัยจากสารพิษ รวมทั้งประหยัดเงินในกระเป๋า ในส่วนของคุณประโยชน์ของผักนั้น "ผัก" ถือเป็นอาหารที่มีคุณค่ามาก เพราะมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการ อาทิ วิตามิน เกลือแร่ อยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ในผักยังมี "ใยพืช" (Fiber) ซึ่งช่วยกระตุ้นลำใส้ให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ท้องไม่ผูก ป้องกันโรคริดสีดวงทวาร โรคมะเร็งลำไส้   ไข่ไก่ หากคุณกำลังหาอาหารไว้ติดตู้ เย็นสักชนิดที่ทั้งราคาถูกและมีคุณค่าทางอาหาร เราขอแนะนำ "ไข่ไก่" ค่ะ เพราะในไข่ไก่มีทั้งโปรตีนและกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย 9 ชนิด ทั้งยังมีวิตามินกับเกลือแร่อีกหลายชนิด เช่น วิตามินเอ , บี, ดี และ อี ธาตุเหล็ก , สังกะสี, ซีลีเนียม และไอโอดีน ส่วนใครที่เคยเชื่อมาผิดๆ ว่าทานไข่แล้วจะเสี่ยงกับความอ้วนนั้น คุณเข้าใจผิด เพราะโคเลสเตอรอลในไข่แดงมีประมาณ 230 มิลลิกรัมต่อฟอง ซึ่งนับว่าปลอดภัยกว่าการกินเนย แป้ง น้ำตาล และเนื้อสัตว์ติดมันมาก   นม "นม" ในที่นี้จะเป็นประเภทใดก็ได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นนมวัว นมถั่วเหลือง หรือนมเปรี้ยว เพราะทุกประเภทล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าเราต้องอ่านฉลากข้างกล่องหรือขวดให้ดีก่อนจะซื้อมาเก็บไว้ในตู้ เย็นนะคะ เพราะในนมแต่ละยี่ห้อแต่ละสูตรก็จะมีปริมาณน้ำนมและสารปรุงแต่งไม่เท่ากัน สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาในเรื่องระบบย่อยอาหารคุณควรดื่มนมวัวค่ะ เพราะในนมวัวมีแคลเซียมและโปรตีนซึ่งมีความสมบูรณ์ของกรดอะมิโนดีกว่าโปรตีน จากถั่วเหลือง   เนื้อปลา สาวๆยุคใหม่หลายคนมองข้ามการ ทานเนื้อสัตว์ไปเพราะกลัวอ้วน แต่เราว่าคุณจะต้องเปลี่ยนความคิดใหม่หลังจากที่ทราบคุณประโยชน์ของ "เนื้อปลา" เพราะโปรตีนจากเนื้อปลามีไขมันต่ำ ย่อยง่าย และมีสาอาหาร คือ กรดโอเมก้า 3 ซึ่งมีกรด DHA และกรด EPA โดย DHA จะช่วยบำรุงเซลล์สมอง เซลล์ประสาท และเรตินาในดวงตา ส่วนกรด EPA ช่วยควบคุมระดับโคเลสเตอรอล และลดระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในร่างกาย จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้   ผลไม้รสเปรี้ยว ต้องย้ำไว้ก่อนค่ะว่าเป็นผลไม้ ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม , มะม่วง,ฝรั่ง, กีวี่ ,ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เพราะผลไม้ประเภทนี้จะมีวิตามินซีสูง (แถมยังปลอดภัยจากความอ้วนกว่าผลไม้รสหวานที่มีน้ำตาลมาก) ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของภูมิต้านทานโรค ช่วยลดระดับไขมันที่จะไปพอกพูนเส้นเลือดในร่างกายแล้วทำให้หลอดเลือดอุดตัน ทั้งยังช่วยควบคุมโคเลสเตอรอล และป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี ที่สำคัญวิตามินซีททำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นเหตุของการเสื่อมของร่างกายอีกด้วย   โยเกิร์ต เป็นผลิตภัณฑ์จากนมยอดฮิตที่ อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ โดยใน "โยเกิร์ต" มีวิตามิน ได้แก่ วิตามิน เอ, บี1, บี 2, บี3,บี6, บี12, ดี, อี มีกรดที่ช่วยในการดูดซึมโปรตีน แคลเซียมและเหล็กเข้าสู่ร่างกาย ช่วยการทำงานของระบบย่อยอาหาร และระบบการขับถ่าย ช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ช่วยบำรุงผิวพรรณ แต่ก่อนซื้อต้องอ่านฉลากให้ดีก่อนนะคะว่าในโยเกิร์ตรสและยี่ห้อนั้นๆ มีส่วนประกอบและคุณค่าทางอาหารอะไรบ้าง แนะนำว่าโยเกิร์ตธรรมชาติที่มีน้ำตาลน้อยดีที่สุดค่ะ   แอปเปิ้ล คำกล่าวที่ว่า "ถ้ารับประทานแอปเปิ้ลวันละผลแล้วล่ะก็จะไม่ต้องไปหาหมอ" คงเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงนัก เพราะแอปเปิ้ลมีสารอาหารที่มีประโยชน์หลายชนิด อาทิ สารเบตาแคโรทีน วิตามินซี นอกจากนี้แอปเปิ้ลยังเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยมาก ซึ่งจะทำหน้าที่ทำความสะอาดลำไส้ ช่วยให้ตับและระบบย่อยทำงานได้ดียิ่งขึ้น อ้อ ถ้าอยากได้คุณค่าเต็มเปี่ยมแนะนำให้ทานแอปเปิ้ลทั้งเปลือกค่ะ เพราะเปลือกของแอปเปิ้ลแดง 1 ผลนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระเทียบเท่ากับวิตามินซี 820 มิลลิกรัมทีเดียว   ถั่ว "ถั่ว" ถือเป็นโปรตีนจากพืชที่มีคุณค่าทางอาหารสูงไม่แพ้โปรตีนจากเนื้อสัตว์เชียว ค่ะ ดังนั้นคนที่อยู่ในช่วงทานเจหรือมังสวิรัติแต่ไม่อยากให้ร่างกายขาดโปรตีน ถั่วจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดของคุณค่ะ ที่สำคัญถั่วยังอุดมไปด้วยวิตามินที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของผิวหนัง ผม การควบคุมความดันโลหิต ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบการแข็งตัวของเลือด นอกจากนี้ไขมันไม่อิ่มตัวในถั่วจะช่วยลดระดับโคเลสเตอรอล ใครที่อยากทานอาหารสุขภาพราคาประหยัดต้องไม่พลาดถั่วค่ะ   ธัญพืช มื้อเช้าที่เร่งรีบ ถ้าคุณไม่มีเวลาในการเข้าครัวเพื่อทำกับข้าว การมี "ธัญพืช" จำพวกข้าวโพด , ลูกเดือย ,งา ,ข่าวฟ่าง,เมล็ดทานตะวัน, จมูกข้าว, รำจ้าว (ชนิดที่อบกรอบพร้อมทาน) ติดตู้เย็นไว้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้มากทั้งยังดีต่อสุขภาพ โดยในธัญพืชจะมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ต้องใช้เวลาในการย่อย ทำให้น้ำตาลในเลือดไม่ขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว จึงไม่ทำเกิดเป็นโรคเบาหวานตามมาในภายหลัง (ต่างจากแป้งขัดขาวซึ่งน้ำตาลจะถูกย่อยเร็ว) นอกจากนี้ธัญพืชยังเปี่ยมด้วยวิตามิน เกลือแร่ และไฟเบอร์ Free TextEditor   Create Date : 01 พฤษภาคม 2553     Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 8:51:30 น. Counter : 237 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ข้อคิดการแต่งหน้าสวยรับปริญญา เพราะหน้าตาเป็นสิ่งแรกที่คนอื่นจะมองเห็นเรา ดังนั้นการใส่ใจเรื่องหน้า ตาให้ดูดีอยู่เสมอจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ยิ่งเป็นในวันสำคัญ ๆ อย่างวันรับปริญญาด้วยแล้ว ต้องยิ่งใส่ใจมากหน่อย เพราะว่าเป็นงานใหญ่ที่มีคนมากมายมางานนี้ทั้งคนที่เรารู้จักหรือคน อื่น ๆ ที่เราไม่รู้จัก ก็ในเมื่อ ผู้หญิง อย่าหยุดสวย ดังนั้น เราก็ต้องสวยเข้า ไว้จริงมั้ยค่ะ จุดสำคัญในหารแต่งหน้ารับปริญญา การแต่งหน้า รับปริญญานั้นหลักใหญ่ใจความมันอยู่ที่ ต้องแต่งให้สวยสมวัย แต่ก็ไม่ได้ดูแก่เป็นคุณป้ามาเอง และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องใส่ใจคือ เมคอัพต้อง ติดทนตลอดทั้งวัน เพราะว่าในวันนั้นคุณจะยุ่งมาก ไม่มีเวลาเข้าออกห้องน้ำบ่อย ๆ เพื่อคอยเติมหน้าอย่างแน่นอน สิ่งที่ควรระมัดระวังในการแต่งหน้ารับปริญญา - สำหรับ สาวที่ไม่เคยแต่งหน้ามาก่อน สมควร อย่างยิ่งที่คุณจะหาเมคอัพต้นแบบมาให้ช่างแต่งหน้าดู และ ถ้าเป็นไปได้ ควรแต่งก่อนวันจริง อย่างน้อย ๆ 1 วันก่อนเพื่อไม่ให้พลาดชนิดที่ ให้อภัยไม่ได้เด็ดขาด - หากคุณจ้างช่างแต่ง หน้า กรุณาบอกเขาด้วยว่า "ไม่เอาแบบไปออกงาน" เพราะมิเช่นนั้นช่างอาจจะทำเต็มสตรีม แทนที่คุณจะดูเป็นบัณฑิตวัยใส อาจ จะกลายเป็นป้าใหญ่ตามงานสังคมแทนนะคะ - แนะนำว่าหากจะแต่งหน้ากรุณาลงทุนนิดนึง หาร้านที่ราคาสมเหตุสมผล และฝีมือใน การแต่งค่อนข้างดีนิดนึง งานนี้อาจจะถามจากเพื่อนฝูงหรือคน รู้จักก็ได้ เพราะ เคยเห็นมาหลายคนล่ะ จ้าง ช่างแต่งหน้าที่ฝีมือไม่ดีพอ สุดท้ายหน้าออกมาลอยซะงั้น ถามว่าฝีมือไม่ดีพอวัดจากตรงไหน ง่าย ๆ เลยค่ะ รอง พื้นไง ช่างที่ดีควรจะมีรองพื้นให้ลูกค้าหลาย ๆ เบอร์ ไม่ใช่ว่ากี่หน้า ๆ เบอร์เดียวกันหมด เคยเห็นไหมค่ะ รับปริญญาทั้งที หน้าขาววอกไม่เข้ากับผิวจริงเลย แถมวันนั้นเหงื่อก็ต้องออกทั้งวัน หน้าลอย + หน้าเยิ้มเหงื่อ หุหุ หุ อันนี้เราไม่โทษเจ้าตัวนะ คะ เพราะเข้าใจว่าบางคนอาจจะไม่เคยแต่ง หน้า หรืออาจจะไม่รู้ฝีมือช่าง ต้องโทษที่คนแต่ง(บางคน)ค่ะ เพราะคุณมีหน้าที่เนรมิตหน้าลูกค้า ให้ดูดี ปกปิดจุดบกพร่องของเขา แต่นี่ เอ่อ ..... มันตรงกันข้ามน่ะ - สำหรับใครที่แต่งหน้าเองอยู่แล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็แต่งเองดีกว่า เพราะว่าคุณน่าจะรู้ดีว่าลุคไหน เหมาะกับคุณ โดย อาจจะดัดแปลงการแต่งหน้าประจำวันของคุณให้ดูทางการมากขึ้น แล้วแต่งให้เข้มขึ้นอีกนิดนึง (ย้ำว่านิดนึง) เพื่อให้เมคอัพติดทน แต่ถ้าไม่แต่งเองแนะนำว่าเอารอง พื้นที่เราใช้ไปให้ช่างแต่งหน้าด้วยก็จะดี เผื่อช่างไม่มีเบอร์ที่เข้ากับสีผิวของเรา - ครีมกันแดด คือสิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะ ว่าในวันนั้นคุณจะต้องอยู่ทั้งในที่ร่มและที่แจ้ง หน้า จะได้ไม่ดำ แถมยังทำให้เมคอัพติดทนนานอีกด้วย - อย่าลืมพกกระเป๋า เครื่องสำอางค์อันเล็ก เพื่อ ใส่ของสำคัญอย่าง กระดาษซับมัน ลิปติ กสีเดียวกัน กระจกบานเล็ก ๆ เอ่อ ..... ไม่ ใช่กระเป๋าสำอางค์ใบเขื่องที่คุณใช้ประจำนะคะ ย้ำ ว่าเอาขนาดที่พกพาสะดวก เอาล่ะ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการแต่งหน้าที่เหมาะกับวันรับปริญญา เพื่อน ๆ ที่นี่ลองเลือกดูกันได้เลยนะคะ ชอบแบบไหนก็ลองเอาปรับไปใช้ดูนะ Free TextEditor   Create Date : 30 เมษายน 2553     Last Update : 30 เมษายน 2553 17:00:35 น. Counter : 628 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• Group ตัวอย่าง
• ชีวิตการงาน
• สุขภาพ
• เรื่องทั่วไป
• ธรรมะ
• วิธีทำอาหารจากเวปต่างๆ
• ขำขำ
• ความรัก
• ความงาม
• จิปาถะ
• ท่องเที่ยว
• งานฝีมือ
• อาหารการกิน
• แม่และเด็ก
• โรคภัยไข้เจ็บ
• เบ็ดเตล็ด
• อื่นๆ
• วิทยาศาสตร์
• อร่อยๆ

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com