Organic Beauty สวยจากธรรมชาติ

ภายใต้
กระแสความนิยมเรื่องการใช้ชีวิตสู่ธรรมชาติ
ทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับของกินของใช้จากธรรมชาติที่ปลอดสารพิษ
ไม่เว้นแม้แต่ในเครื่องสำอางบำรุงผิว แต่ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติก็มีหลายชนิด
ทั้งที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ออร์แกนิก ฯลฯ
การเลือกใช้สินค้าแต่ละประเภทจึงต้องเข้าใจลักษณะเฉพาะของผลิตภัณฑ์ด้วย
ได้แก่



  • เครื่องสำอางดูแลผิวและความงามที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ
    มีเกณฑ์การผลิตว่า เมื่อผ่านกระบวนการผลิตเสร็จสมบูรณ์แล้ว
    ส่วนผสมจากธรรมชาตินั้นๆ ยังคุณค่าตามธรรมชาติอยู่

  • ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก มีลักษณะเฉพาะ คือ
    ใช้วัตถุดิบที่ผ่านขั้นตอนการปลูก เก็บเกี่ยว และแปรรูป
    ภายใต้กระบวนการทางการเกษตรที่ควบคุมอย่างพิถีพิถัน
    โดยมาตรฐานในการผลิตเครื่องสำอางออร์แกนิก เริ่มตั้งแต่การเพาะปลูกพืชผัก
    ผลไม้ โดยทุกขั้นตอนการผลิตจะปลอดปุ๋ยเคมี ไร้ยาฆ่าแมลง
    ไร้สารปนเปื้อนจากโรงงานอุตสาหกรรม
    ไม่ใช้สารเร่งฮอร์โมนและไม่มีการดัดแปลงพันธุกรรม เป็นต้น


สวยด้วยออร์แกนิก
   
นอกจากความนิยมในการใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแล้ว
ประโยชน์ที่โดดเด่นของส่วนผสมออร์แกนิกยังเป็นแรงดึงดูดสำคัญที่ทำให้มีผู้
สนใจเครื่องสำอางประเภทนี้มากขึ้น
มีผลงานวิจัยในสหรัฐอเมริกาที่นำน้ำผลไม้ออร์แกนิกมาทดสอบกับผิวของกลุ่ม
ทดลอง พบว่า น้ำผลไม้ออร์แกนิกจะซึมซาบสู่ชั้นผิวได้ดีกว่าน้ำผลไม้ธรรมดา
50% และช่วยลดอัตราการแพ้หรือระคายเคืองได้
ลักษณะนี้อาจเปรียบเทียบได้กับการที่คุณได้กินผลไม้สดซึ่งมีคุณค่าสารอาหาร
สูงกว่าผลไม้กระป๋อง
ผิวที่ได้ทาครีมที่มีส่วนผสมของน้ำผลไม้ออร์แกนิกก็จะให้ประโยชน์กับผิว
มากกว่าครีมทั่วไปเช่นกัน


ส่วนประกอบแบบออร์แกนิก
   

ผลิตภัณฑ์ความงามแบบออร์แกนิกที่มีจำหน่ายในปัจจุบันมักอยู่ในรูปของ
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผม แบ่งเป็น 3 ส่วนสำคัญ คือ ตัวทำละลาย
ได้แก่ น้ำ น้ำเกลือ และน้ำมัน สารบำรุง ได้แก่
น้ำสกัดจากผักและผลไม้ และสารกันเสีย
ซึ่งนิยมใช้สารกันเสียสำหรับอาหารซึ่งจะมีอายุน้อยกว่าสารกันบูดในเครื่อง
สำอางทั่วไป จึงทำให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวออร์แกนิกมีอายุเพียง 1-2 ปี


สวยอย่างปลอดภัยด้วยออร์แกนิก
   
โดยทั่วไปในเครื่องสำอางจะมีส่วนผสมของสารละลาย
หรือสารกันเสียของเครื่องสำอาง เช่น พาราเบน ,ปิโตรเลี่ยมเจลลี่ ,โพรพิลีน,
บัตทีลีน ,ไกลคอล และ ซิลิโคน
ซึ่งสารเหล่านี้เป็นตัวการที่ทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้ง่าย
การใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกซึ่งปลอดจากสารเหล่านี้จึงเป็นเป็นการลดโอกาสแพ้
หรือระคายเคือง และร่างกายยังไม่มีสารเคมีตกค้างในระยะยาวอีกด้วย
   
หลายคนอาจสงสัยว่า
ในบ้านเรามีผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่ไม่มีตราสัญลักษณ์หรือข้อความรับรองอยู่
มากมายเนื่องจากยังไม่มีสถาบันหรือองค์กรรองรับ
วิธีการพิจาณาว่าผลิตภัณฑ์เป็นออร์แกนิกหรือไม่นั้น
พิจารณาจากส่วนผสมที่ไม่ใช้สารเคมี ได้แก่ สารทำให้เกิดฟอง
ตัวปรับสภาพผิวนุ่ม เป็นต้น


ข้อสำคัญที่ไม่ควรละเลยคือการใส่ใจสัญลักษณ์ที่ช่วยรับรอง
คุณภาพเพื่อเพิ่มความมั่นใจว่า
เครื่องสำอางที่เลือกจะมีคุณสมบัติครบถ้วนสมความปราถนาของคุณนั่นเอง






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 5 พฤษภาคม 2553 21:33:06 น.
Counter : 333 Pageviews.  

สูตรหน้าใส


 
สตรอว์เบอร์รี่เป็นผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซี นอกจากกินเป็นอาหารว่างแล้ว
ยังนำมาใช้พอกหน้าได้



  • สตรอว์เบอร์รี่ 3 ผล

  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา


วิธีทำ


   บดสตรอว์เบอร์รีให้ละเอียด นำมาผสมกับส่วนผสมที่เหลือให้เข้ากัน
แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ 10 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำเย็น







Free TextEditor







































































































 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 4 พฤษภาคม 2553 22:34:39 น.
Counter : 240 Pageviews.  

8 ข้อควรรู้ก่อนจะสครับผิว





































ใครที่ชอบทำ
สครับผิวบ่อย ๆ วันนี้มีเรามี
ข้อ
ควรรู้ 8 อย่างก่อนจะทำสครับผิวมาบอกกัน ....







1.
ความ
ถี่ที่เหมาะสมในการใช้สครับ
คือ 1 - 2 ครั้ง / สัปดาห์

เพื่อเปิดโอกาสให้กระบวนการผลิตเซลล์ผิวใหม่ได้ทำงานในการสร้างเซลล์ผิวขึ้น
มาทดแทนเซลล์ที่สูญเสียไป

2. ช่วง
เวลาที่เหมาะสำหรับการสครับผิวหน้ามากที่สุด
คือ เวลากลางคืน
เพราะในขณะที่หลับผิวจะได้รับการซ่อมแซม
และฟื้นตัวจากการสูญเสียน้ำมันหลังจากการสครับ































3. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์สครับผิวที่มีเนื้อขรุขระ
โดยหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสกัดจากพืชประเภทข้าว
เพราะเม็ดสครับที่ได้จะมีขนาดที่เล็กกว่า จึงไม่ขีดข่วน และทำอันตรายต่อผิว
ทั้งนี้ จากการวิจัยเชิงเคมีของ
The International Dermal
Institute
ยังระบุว่า กรดไฟติกและกรดเฟอรูลิค
ซึ่งเป็นส่วนผสมในรำข้าวจะช่วยย่อยสลายเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างอ่อนละมุน


ในขณะเดียวกันก็จะช่วยเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างเต็ม
ประสิทธิภาพ ผิวจึงเนียนใส มีสุขภาพดี นอกจากนี้การใช้สำลีแผ่น
หรือการถูผลิตภัณฑ์สครับลงบนมือที่เปียกน้ำก่อนนำไปขัดผิวหน้าอย่างเบา ๆ
ยังสามารถช่วยลดการเสียดสีของเม็ดสครับกับผิวได้อีกด้วย

4.
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวประเภทใดประเภทหนึ่งเท่านั้น

นั่นคือ หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นกายภาพ
ก็ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเคมีควบคู่กันไป
เพื่อหลีกเลี่ยงการขจัดเซลล์ผิวในปริมาณที่มากเกินไป






















5. สำหรับคน
ที่มีปัญหาผิวเป็นสิว
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดไกรโคลิค (AHA)
หรือซาลิไซลิค (BHA) ซึ่งการวิจัยพบว่าสารทั้ง 2 ชนิดนี้ไม่เพียงช่วย
ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น
แต่ยังช่วยกระตุ้นกระบวนการผลิตคอลลาเจน รวมถึงกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่
และชะลอกระบวนการผลิตเม็ดสีผิวอีกด้วย
แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สครับที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับผิว
เป็นสิว

6.
หากรู้ว่าต้องไปในสถานที่ที่มีแดดจัด
เช่น ชายทะเล
ควรหลีกเลี่ยงการสครับผิวอย่างน้อย 48
ชั่วโมง

7. หลัง
จากสครับผิว
สิ่ง
ที่ขาดไม่ได้ คือ
การใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่าของสารป้องกันแสงแดดไม่ต่ำกว่า SPF 15

8.
สำหรับผู้
ที่ใช้บริการผลัดเซลล์ผิวตามศูนย์บริการด้านความงามต่าง ๆ
ควรงดใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อย 2
วัน
และต้องไม่ลืมที่จะปกป้องผิวด้วยผลิตภัณฑ์กันแดด
และทางที่ดีควรอยู่ในที่ร่มเป็นเวลาอย่างน้อย 2
สัปดาห์


รู้อย่างนี้แล้ว เพื่อน ๆ
ที่นี่คนไหนที่ชอบสครับผิวก็ลองนำคำแนะนำไปปฏิบัติตามกันได้นะคะ
จะได้มีผิวสวย ๆ กันถ้วนหน้าไปเลยค่ะ




ที่มา : เดลินิวส์








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 4 พฤษภาคม 2553 17:11:57 น.
Counter : 380 Pageviews.  

วิธีลดความอ้วนโดยกินมื้อเช้า



อาหารเช้า
เป็นอาหารมื้อสำคัญที่สุดของวัน นอกจากทำให้ร่างกายและสมองสดชื่นแจ่มใส
ไม่ติดๆ ดับๆ ระหว่างวันแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว


และ
ช่วยลดความอ้วนด้วย เนื่องจากช่วงเช้าร่างกายดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ
ได้ดี
และร่างกายเผาผลาญพลังงานได้มากอาหารเช้าจึงต้องเป็นอาหารที่อุดมด้วยคุณค่า
ต่างๆ ดังนี้

-
ธัญพืชไม่ขัดขาว
ได้แก่ ข้าวกล้อง ถั่วต่างๆ ลูกเดือย
ซึ่งจะให้คาร์โบไฮเดรตทำให้การดูดซึมน้ำตาลเป็นไปอย่างช้าๆ

- โปรตีนชั้นดีและอาหารประเภทใขมันต่า
เช่น เนื้อปลา เห็ด ถั่วต่างๆ เต้าหู้

- ผักและผลไม้รสไม่หวานจัด เช่น
แอ๊ปเปิ้ลเขียว สัม แตงโม กล้วย หรือให้ละเอียด เมื่อร่างกายค่อยๆ
ดูดซึมน้ำตาล ตับอ่อนจะทำงานน้อยลง ไม่ต้องหลั่งอินซูลินออกมาในปริมาณมากๆ
บ่อยๆ ทำให้ได้รับความสดชื่นตลอดทั้งวัน ไม่หิวบ่อย ไม่อยากอาหาร
หรือดื่มเครื่องดื่มรสหวาน

หลังจากเปลี่ยนมารับประทานมื้อเช้าน่าจะพบกับความเปลี่ยน
แปลงที่ดี เช่น ได้รับแรงผลักดันที่ดี
ช่วยให้เรากินอาหารที่ดีต่อสุขภาพไปตลอดทั้งวันและทุกวัน
นอกจากนี้มื้อเช้ายังช่วยต้านโรคและอาการต่างๆได้ด้วย


-
ลดอัตราเสี่ยงต่ออาการของโรคหัวใจ

การรับประทานอาหารมื้อเช้าช่วยลดอัตราเสี่ยงการก่อตัวของลิ่มเลือด
ทั้งยังทำให้ระดับคอเลสเตอรอลลดลง
จึงช่วยไม่ให้เกิดอาการหัวใจวายและเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองแตกหรืออุดตัน

- ช่วย ลดความอ้วน
มือเข้าช่วยในเรื่องการเผาผลาญไขมันและคอเลสเตอรอล
มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า
การกินมื้อเช้าในสัดส่วนที่มากขึ้นอาจช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก
และสำหรับผู้ที่กินอาหารเช้าเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณอาหารทั้งวัน
มีแนวโน้มว่าจะมีสัดส่วนรูปร่างที่ดีกว่าผู้ที่รับประทานหนักในมื้ออื่นๆ

-
ลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นนิ้วในถุงน้ำดี

เนื่องจากการทิ้งช่วงเวลาระหว่างมื้ออาหารเกิน 14 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น
เป็นโอกาสให้คอเลสเตอรอลในถุงน้ำดีจับตัวกันเป็นก้อนนิ่ว
อาหารเช้าจึงเป็นตัวช่วยลดความยาวนาน ระหว่างมื้ออาหารเย็นของวันก่อน
กับอาหารเช้าของวันใหม่ไม่ให้นานเกินไป
โดยอาหารเช้าจะเข้าไปกระตุ้นให้ตับปล่อยน้ำดีออกมา
ละลายคอเลสเตอรอลที่อยู่ในถุงน้ำดีให้เจือจาง
จนไม่ทันที่จะจับตัวกันเป็นก้อนนิ่ว

- ช่วยให้มีสมาธิ
สามารถทำงานให้ประสบผลสาเร็จได้ดีขึ้น

อาหารมื้อเช้ามีประโยชน์ชนาดนี้
นอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้วยังช่วยในเรื่องอื่นๆได้ด้วย
มารับประทานอาหารเช้ากันนะคะ




ที่มา นิตยสารชีวจิต






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 4 พฤษภาคม 2553 15:17:29 น.
Counter : 254 Pageviews.  

หน้าเด็กสุขภาพดีด้วยผลไม้




































ใครว่าสุขภาพดีหา
ซื้อไม่ได้ ไม่จริงค่ะ อย่าไปเชื่อ เพราะว่าการซื้อหาของต่าง ๆ
มารับประทานเพื่อบำรุงร่างกายนั้นก็เท่ากับเราซื้อสุขภาพดี ๆ ใส่ตัวแล้ว


หลาย ๆ คนอาจจะทานรังนกบ้าง โสมบ้าง
หรืออะไรก็ตามแต่เพื่อบำรุงให้ร่างกายแข็งแรงดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริง
แต่วันนี้เราจะขอนำเสนอผลไม้ที่หาทานได้ง่าย ๆ
ที่มีสรรพคุณไม่แพ้ของนอกเลยมาบอกค่ะ



แอปเปิ้ล
ช่วยให้มีสุขภาพดี เพราะแอปเปิ้ลนั้นอุดมไปด้วย วิตามินซี ธาตุเหล็ก
แคลเซียม แถมยังมีกากใยอาหารที่จะช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหาร
ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บำรุงกระดูก
แถมยังช่วยขจัดสารพิษในตับด้วย



ส้มและมะนาว
ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
เพราะว่าทั้งส้มและมะนาวนั้นมีวิตามินซีสูง
แถมยังช่วยให้การทำงานของตับและลำไส้เล็กสามารถขจัดสารพิษได้ดีขึ้นด้วย



มะละกอ ช่วยย่อยอาหาร
เพราะในมะละกอมีเอนไซม์ปาเปน ที่ย่อยโปรตีนได้
นอกจากนี้ยังดีต่อหัวใจเพราะว่ามีวิตามินซีและโพแทสเซียมด้วย































มะม่วง เพิ่ม
ภูมิคุ้มกัน เพราะว่ามีวิตามินเอ ไลโคปีน และเบต้าแคโรทีนสูงมากทีเดียว
ส่วน
Flavone
ในมะม่วงก็ยังช่วยยับยั้ง
มะเร็งและช่วยสร้างเลือดได้ด้วย
และที่สำคัญในมะม่วงนั้นมีวิตามินบีสูงซึ่งดีต่อระบบสมองและเส้นประสาทด้วย
นะ


กล้วย
ให้พลังงาน ที่ให้พลังงานสูงนั้นก็เพราะว่าในกล้วยมีวิตามินถึง 10
ชนิดมีเกลือแร่และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายถึง 18 ชนิด เห็นไหมล่ะ
ทำไมกล้วยถึงให้พลังงานมาก
แถมในกล้วยยังมีโพแตวเซียมสูงที่ช่วยขจัดน้ำในเซล์ล ลดอาการเส้นเลือดขอด
และอาการบวมได้ด้วย



เห็นไหมค่ะว่าผลไม้ที่สามารถหา
ทานได้ทั่ว ๆ ไปก็มีดีไม่น้อยหน้าของบำรุงจากต่างแดนเลย เพื่อน ๆ
ที่นี่ก็อย่าลืมนะคะ
หาผลไม้เหล่านี้มารับประทานเป็นประจำร่างกายจะได้แข็งแรง สุขภาพดี ๆ
กันถ้วนหน้าค่ะ








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 04 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 4 พฤษภาคม 2553 12:27:12 น.
Counter : 335 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.