สดชื่น ไร้กลิ่น

 
บริเวณรักแร้มีต่อมเหงื่ออยู่ 2 ชนิด คือ Eccrine glands และ Apocrine
glands ต่อมชนิดแรกพบได้ทั่วร่างกาย ผลิตเหงื่อชนิดใสและมักไม่มีกลิ่น
ยกเว้นเวลาที่กินอาหารมีกลิ่น เช่น กระเทียม แอลกอฮอล์
ส่วนต่อมเหงื่ออีกชนิดพบในบริเวณข้อพับ ขาหนีบ
จะผลิตเหงื่อที่มีความเหนียวกว่าและมีกลิ่น
นอกจากนี้ยังพบสาเหตุกลิ่นรักแร้จากพันธุกรรมและการทำงานที่ผิดปกติของรูขุม
ขนและต่อมเหงื่อ


   ปัญหากลิ่นตัวที่เกิดจากสาเหตุทั้งหมดนี้แก้ไขได้ดังนี้



  1. ทำความสะอาดด้วยสบู่เพื่อชำระล้างเหงื่อ

  2. กำจัดขนเพื่อลดการหมักหมมของแบคทีเรีย

  3. ใช้ยาระงับกลิ่นกาย ที่มีให้เลือกทั้งแบบสเปรย์ โรลออน และสติ๊ก
    ซึ่งจะแตกต่างกันเพียงรูปลักษณ์ภายนอก แต่คุณสมบัติไม่ต่างกัน
    แต่ต้องระวังผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบบน้ำมัน (oil)
    เพราะอาจทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันได้ และผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ
    (Antiperspirant) ซึ่งมีการวิจัยพบว่า
    สารลดการขับเหงื่อจะไปปิดกั้นต่อมเหงื่อ
    จนก่อให้เกิดมะเร็งได้หากใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

  4. ใช้สารส้ม
    เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นด่างจึงช่วยลดความเป็นกรดในเหงื่อลงได้
    ช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นตัวอย่างได้ผล
    ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์จากสารส้มออกมาหลายรูปแบบ
    และได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ เช่น แป้ง โรลออน สเปรย์

  5. การทำงานที่ผิดปกติของรูขุมขน และต่อมเหงื่อควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
    เพื่อใช้ยาปฏิชีวนะประเภทครีม

  6. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่น เช่น กระเทียม แอลกอฮอล์ สะเดา






Free TextEditor












































































 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 30 พฤษภาคม 2553 11:31:42 น.
Counter : 328 Pageviews.  

วงแขนขาวเนียน

ปัญหา
รักแร้ดำเกิดได้จากหลายสาเหตุ คือ
จากการอักเสบเรื้อรังที่มีสาเหตุจากการเสียดสี บริเวณใต้วงแขน
ปริมาณเม็ดสีหรือเมลานินมากเกินไป การใช้ผลิตภัณฑ์ใต้วงแขนที่มีแอลกอฮอลล์
ผสมอยู่เป็นประจำ เมื่อแอลกอฮอล์ระเหยจะดึงน้ำจากผิวไปด้วย
ทำให้ผิวแห้งและเกิดรอยดำขึ้นได้
วิธีการปรับสีผิวใต้วงแขนให้ขาวขึ้นนั้นทำได้หลายวิธี



  1. ใช้ยาหรือเวชสำอางลดการทำงานของเม็ดสี เช่น ยาในกลุ่มไวท์เทนนิ่ง
    ได้แก่ Kojic Acid, Licorice, Retinal ที่ไม่ส่วนผสมของสารปรอท
    โดยหาซื้อได้ตามรายขายยาทั่วไป

  2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทาวงแขนขาวที่ผสมกรดผลไม้ (AHA) มีความเข้มข้น
    5-8 เปอร์เซ็นต์เพื่อผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก ทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใสยิ่งขึ้น

  3. เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ใต้วงแขนทุก 6 เดือน
    เพื่อไม่ให้ร่างกายได้รับสารเคมีตัวเดิมนานเกินไปจนเกิดอาการแพ้หรือระคาย
    เคือง






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 30 พฤษภาคม 2553 11:30:26 น.
Counter : 285 Pageviews.  

หายใจผิดตัวการทำลายผิว



ฝึกหายใจสร้างสวย


หายใจผิดตัวการทำลายผิว



  • หายใจเร็วเร่งสร้างอนุมูลอิสระ
    อย่างที่ทราบกันว่าอนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของความแก่ ทำให้ผิวเสีย
    มีริ้วรอยเหี่ยวย่น อนุมูลอิสระในร่างกายเราเกิดจากหลายสาเหตุ
    รวมถึงของเสียจากการเผาผลาญอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล
    ซึ่งในกระบวนการเผาผลาญจะต้องใช้ออกซิเจนจากการหายใจของเรา
    ดังนั้นหากเราหายใจเร็วหรือถี่ก็จะยิ่งกระพือการเผาผลาญพลังงานทำให้เกิดของ
    เสียซึ่งเป็นอนุมูลอิสระเป็นทวีคูณ ผิวจึงเสียเร็วขึ้นตามไปด้วย

  • หายใจตื้นยิ่งสะสมคาร์บอนไดออกไซด์
    โดยปกติเซลล์ของเราจะขับของเสียคือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย
    ดังนั้น การที่เรายิ่งหายใจตื้น ทำให้ปริมาณออกซิเจนที่ได้รับยิ่งน้อยลง
    เป็นสาเหตุให้ร่างกายมีก๊าซเสีย คือ คาร์บอนไดออกไซด์สะสมอยู่มาก
    ส่งผลให้เซลล์เกิดการอักเสบหรือไม่แข็งแรง
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาร์บอนไดออกไซด์เป็นหนึ่งในสาเหตุที่เร่งให้เกิดอนุมูล
    อิสระในร่างกาย ทำให้เกิดการอักเสบ
    การหายใจอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้รับปริมาณออกซิเจนที่เพียงพอจึงเป็นวิธีที่
    ช่วยให้ปอดขับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกายได้


ออกซิเจนเสริมพลังลดอ้วน


   การหายใจที่ถูกวิธีช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้แก่เลือด
เลือดดีจึงเข้าไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ดี ยิ่งกล้ามเนื้อใหญ่เท่าไร
ระบบเผาผลาญไขมันของเราจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น
เมื่อกล้ามเนื้อซึ่งเปรียบเหมือนเตาเผาของร่างกายทำงานได้ดี
ก็จะช่วยลดความอ้วนได้อีกทางหนึ่ง ในคนที่ลดน้ำหนักผิดวิธี โดยการอดอาหาร
น้ำหนักอาจจะลดลง แต่ 1 ใน 4 ของน้ำหนักที่หายไปคือ กล้ามเนื้อ
ถ้าเราทำลายกล้ามเนื้อไปแล้ว เมื่อกลับมากินอาหารเหมือนปกติ
เราก็จะอ้วนง่ายขึ้น แต่หากรู้จักออกกำลังกายให้ดี กินอาหารดี
และฝึกหายใจอย่างถูกต้องด้วยแล้ว
จะยิ่งเสริมกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและส่งผลถึงการลดน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้นด้วย


   ทั้งนี้วิธีการออกกำลังกายที่จะช่วยเพิ่มออกซิเจนให้ร่างกาย คือ
การออกกำลังกายแบบสลับช่วง และสลับชนิด การออกกำลังกายแบบสลับช่วง เช่น
วิ่งเร็วสลับช้า โดยวิ่งเร็วเต็มที่ 2 นาที แล้วผ่อนความเร็วลงอีก 2 นาที
ทำอย่างนี้ตลอดครึ่งชั่วโมง การเดินเร็วสลับเดินช้า การปั่นจักรยาน
หรือตีแบดมินตัน แต่ต้องวิ่งไปเก็บลูกเอง ส่วนการออกกำลังกายแบบสลับชนิด
เช่น วิ่ง 15 นาที ซิทอัพ 15 นาที หรือซิทอัพ 15 นาที ว่ายน้ำ 15 นาที
จะช่วยให้ออกซิเจนไปเลี้ยงหัวใจและปอดได้ดี ทำให้เราหายใจได้ลึกขึ้น
ช่วยลดอ้วนได้และทำให้แก่ช้าลง


ฝึกหายใจสร้างสวย


   พฤติกรรมการหายใจที่ดีนี้ฝึกได้ด้วยตัวเอง
เพียงนั่งลงในที่อากาศปลอดโปร่ง
เริ่มจากหายใจเอาอากาศไม่ดีในร่างกายเราออกก่อน โดยหายใจออกอย่างช้าๆ
หลังจากนั้นจึงสูดอากาศดีเข้าทางจมูกช้าๆ จนเต็มปอด แล้วกลั้นหายใจ นับ
1-2-3-4-5 ตามด้วยการหายใจออกทางปากอย่างช้าๆ ทำวันละ 3 รอบ รอบละ 20 นาที
ขณะที่เรากลั้นหายใจอยู่ออกซิเจนที่เคลื่อนเข้าไปในปอดจะขับก๊าซคาร์บอน
ไดออกไซด์ออกมา เมื่อออกซิเจนในกระแสเลือดเพิ่มขึ้น
ร่างกายจะนำออกซิเจนนี้ไปซ่อมแซมตัวเองนอกจากนี้ยังพบว่า
หากฝึกหายใจอย่างต่อเนื่องทำให้มีสมาธิ ช่วยให้ร่างกายหลั่งสารความสุข
(เอนโดรฟิน) มากยิ่งขึ้นด้วย


   ขั้นตอนการสร้างสวยสุขภาพดีด้วยการหายใจเป็นเรื่องง่าย
ขอเพียงฝึกอย่างสม่ำเสมอคุณจะพบกับการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 3 เดือนค่ะ







Free TextEditor





















































 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 30 พฤษภาคม 2553 11:20:21 น.
Counter : 336 Pageviews.  

เคล็ดลับดูแลสิว

สิวเกิดจากสาเหตุหลัก คือ
ฮอร์โมนที่ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น รองลงมาคือ ความเครียด เครื่องสำอาง
และอาหาร คนส่วนใหญ่คุ้นชื่อของสิวหลากประเภทก็จริง
แต่พอเจ้าเม็ดสิวผุดขึ้นบนใบหน้ากลับบอกประเภทของสิวไม่ได้
ทำให้ไม่รู้วิธีการดูแลสิวอย่างตรงจุด
เราจึงนำแบบทดสอบที่จะพาคุณไปหาคำตอบว่า สิวที่กำลังกวนใจคุณอยู่นั้น
เป็นสิวประเภทไหน แล้วมีวิธีใดที่จะช่วยให้คุณดูแลสิวได้อย่างถูกวิธี [ทำแบบสำรวจลักษณะสิวบนใบหน้าได้ในฉบับ]


   เมื่อทราบแล้วว่า สิวที่คุณเป็นอยู่จัดในประเภทไหน
ก็ถึงเวลาที่จะรักษาสิวด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้



  • สิวอักเสบ เป็นสิวที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียทำ
    ให้เกิดอักเสบรุนแรง สิวประเภทนี้จะมีอาการบวมแดงและเป็นหนอง
    การรักษาจึงต้องกินวิตามินเอร่วมกับทายากลุ่ม Clindamycin
    เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เมื่อเป็นสิวประเภทนี้ควรงดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล
    และผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งช่วยกระตุ้นการอักเสบมากยิ่งขึ้น  

  • สิวอุดตัน เป็นสิวที่พบมากประมาณ 70
    เปอร์เซ็นต์ของคนที่เป็นสิว ได้แก่ สิวหัวขาว สิวหัวดำ
    เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน ฮอร์โมนช่วงใกล้ประจำเดือน ความเครียด
    แพ้เครื่องสำอาง วิธีการรักษาควรทายากลุ่ม Tretinoin (Retin-A)
    เพื่อลดการระคายเคือง ควรล้างหน้าก่อนทายา 10-15 นาที ส่วนยากินจะเป็นกลุ่ม
    Retinoids เช่น Roaccutane,Isotretionoin ช่วยลดปัญหาผิวมัน
    และละลายสิวอุดตันได้ดี ข้อควรจำอีกอย่างของคนที่เป็นสิวประเภทนี้ คือ
    ไม่ควรแกะสิว หรือล้างหน้าบ่อยเกิน 2
    ครั้งต่อวันเพราะจะยิ่งกระตุ้นให้สิวเกิดติดเชื้อ ลุกลามเป็นสิวอักเสบต่อไป

  • สิวผดหรือสิวเทียม เป็นสิวเม็ดเล็กๆ ไม่มีหัวสิว
    พบมากในบริเวณทีโซน เกิดจากความร้อน แสงแดด และเครื่องสำอาง
    ข้อควรปฏิบัติสำหรับคนที่เป็นสิวประเภทนี้คือ
    ไม่ควรรบกวนสิวด้วยการล้างหน้า ถู แกะ เกา เพราะสิวผดจะยุบในเวลา 5-6 ชม.
    แต่สำหรับคนที่มีสิวผดมากอาจใช้ยากลุ่ม Benzoyl Peroxide ความเข้มข้น 2.5%
    ทาทิ้งไว้ 5-20 นาทีแล้วล้างออกหรือทายากลุ่ม Tretinoin (Retin-A)
    จะช่วยลดการเกิดสิวผดได้

  • สิวเสี้ยน
    การรักษาสิวเสี้ยนอาจใช้แผ่นลอกสิวที่มีสารยึดติดผิวชั้นหนังกำพร้า
    (Adhesive Substance) และส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid)
    ทำให้สิ่งอุดตันและหนังกำพร้าบริเวณนั้นลอกหลุดได้ง่ายขึ้น
    หลังจากลอกสิวเสี้ยนคุณอาจสังเกตเห็นรูขุมขนกว้าง
    แต่อาการนี้จะเกิดเพียงชั่วคราวและรูขุมขนบนผิวหน้าจะกลับสู่สภาพเดิมในที่
    สุด 


   เนื่องจากผิวหน้าของเรามีต่อมไขมันอยู่มาก เมื่อมีแผลเป็นจากสิว
ผิวหน้าจะเยียวยาตัวเองจนรอยสิวจางลง หากแต่ต้องใช้เวลานาน
การทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ วิตามินซี
ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้รอยสิวลบเลือนเร็วขึ้น


   วิธีการดูแลสิวนี้เหมาะกับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
หากทำแล้วอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 30 พฤษภาคม 2553 11:18:50 น.
Counter : 312 Pageviews.  

เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

แม้
ผู้ชายส่วนใหญ่จะมีผิวมัน
การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผิวมันของผู้หญิงอาจไม่ใช่เรื่องเสียหาย
แต่เนื่องจากผู้ชายจะมีความมันของผิวมากกว่า
ทำให้ผู้ชายมีปัญหาเรื่องสิวและรูขุมขนกว้างมากกว่า
ดังนั้นจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชายโดยตรง
เพราะจะเน้นส่วนผสมที่ป้องกันการเกิดสิวและแก้ปัญหาเรื่องรูขุมขนแบบตรงจุด
ทั้งนี้หากจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับผิวผู้ชายอย่าลืมที่จะพิจารณาถึงหลัก
พื้นฐานว่า มีลักษณะผิวแพ้ง่ายหรือไม่ แล้วจึงคำนึงถึงสองปัญหาข้างต้น



  • ผู้ชายเป็นสิวมาก
    ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่สารป้องกันการเกิดสิว มีลักษณะเนื้อบาง
    เหลว หรือเป็นน้ำ เช่น โลชั่น เจล
    และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เมื่อเป็นสิวแล้ว
    เพราะจะยิ่งทำให้สิวอักเสบยิ่งขึ้น

  • ผู้ชายรูขุมขนกว้าง
    ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ นอกจากจะช่วยลดความมันของผิว
    ยังช่วยให้รูขุมขนดูกระชับหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์


ที่สำคัญ ก่อนเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทุกครั้ง อย่าลืมว่า
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ดีที่สุด คือ
ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณมากที่สุดนั่นเอง






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 30 พฤษภาคม 2553    
Last Update : 30 พฤษภาคม 2553 11:17:21 น.
Counter : 306 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.