ทุเรียน กินอย่างไรไม่อ้วน










































คงสงสัยกันสิค่ะว่า
กินกันอย่างไรล่ะที่ไม่ให้อ้วน


ตำราไทยบอกไว้ให้กินเป ็นยาถ่ายพยาธิปฏิบัติไม่ยากเลยค่ะ ง่ายๆ
เพียงแค่ตื่นนอนตอนเช้าๆ ยามรุ่งอรุณ ก็ราวๆ ประมาณ 05.00 น.
หลังจากล้างหน้า แปรงฟัน เรียบร้อย เริ่มกินทุเรียนได้ทันที

กินพอประมาณ อาจสักครึ่งลูกย่อม ๆ หรืออาจมาก-น้อยกว่านั้น ตามน้ำหนัก
หรือความอ้วน ความผอม คือ อ้วนก็มากหน่อย ผอมก็น้อยลง
ไม่ใช่กินเพื่ออิ่ม แต่กินเป็นยา แล้วดื่มน้ำอุ่นตามไปมาก ๆ






























ควรกินสองวันติดต่อกันและงดอาหารในทั้งสองเช้า
นั้น


ความร้อนในสารกำมะถันธรรมชาติ และกากใย จากพูทุเรียน
จะออกฤทธิ์ชำระล้างขยะในลำไส้ออกได้อย่างเกลี้ยงเกลา
รวมทั้งเป็นยาถ่ายพยาธิต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นยาถ่ายในผู้ป่วยน้ำเหลืองเสีย
ซึ่งมักเกิดแผลจากแมลงกัดอยู่เสมอ





























ทุเรียนให้ประโยชน์คณานับที่แพทย์แผนไทยมีอาทิ

เนื้อสีเหลือง


รสหวานร้อน ทำให้เกิดความร้อน แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝี-หนอง แห้ง
เนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิ

เปลือกหนาม


รสเฝื่อน สับแช่ในน้ำปูนใสใช้ชะล้างแผลที่เกิดจากน้ำเหลืองเสี ย แผลพุพอง
เผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา
ลดความบวมพองจากคางทูม และเผาเอาควันไล่ยุงและแมลง

ใบทุเรียน


รสเย็นและเฝื่อน ใช้ต้มน้ำอาบแก้ไข้ แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิ

รากจากต้น


ตัดเป็นข้อๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วง





























นอกจากทุเรียนจะให้คุณอเนกอนันต์


ตามสรรพคุณยาที่กล่าวมายังเป็นไม้ที่มีความเชื่อตามวัฒนธรรมประเพณีไทย
ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยากระทั่งจนถึงปัจจุบัน คือ เป็นไม้มงคล
ซึ่งตามตำราปลูกต้นไม้ตามอักษรนาม ประจำทิศว่าไว้.. ทิศที่ควรปลูก
ต้นไม้มงคล



ทิศบูรพา ให้ปลูกไผ่ กุ่ม และมะพร้าว


ทิศอาคเนย์ ให้ปลูกต้นยอและสารภี


ทิศทักษิณ ให้ปลูกมะม่วง กับ มะพลับ ทิศหรดี ให้ปลูกชัยพฤกษ์ สะเดา ขนุน
และพิกุล


ทิศประจิม ปลูกต้นมะขาม จะช่วยป้องกันความถ่อย
ถ้อยความและผีร้ายมิให้มากล้ำกรายอีกทั้งต้นมะขามเป็นต้นไม้ที่มีชื่อเป็น
มงคลนาม

ถือเป็นเคล็ดว่าจะทำให้มีแต่คนเกรงขาม ยำเกรง








คติความเชื่อนี้


ถือเป็นเคล็ดลับต่อกันมาแต่อดีต ซึ่งคำว่า ทุเรียน
มีเสียงพ้องเกี่ยวกับการเรียน จึงหมายถึง "ความเป็นผู้คงแก่วิชาการเรียนรู้
หรือเป็นผู้เรียนรู้มาก"
















Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 เมษายน 2553    
Last Update : 14 เมษายน 2553 15:49:16 น.
Counter : 253 Pageviews.  

ความสุขข้างล่าง











































ความสุขข้างล่าง




ถ้าโกรธกับเพื่อน.....มองคนไม่มีใครรัก

ถ้าเรียนหนัก ๆ .....มองคนอดเรียนหนังสือ


ถ้างานลำบาก.....มองคนอดแสดงฝีมือ

ถ้าเหนื่อยงั้นหรือ.....มองคนที่ตายหมดลม


ถ้าขี้เกียจนัก.....มองคนไม่มีโอกาส

ถ้างานผิดพลาด.....มองคนไม่เคยฝึกฝน


ถ้ากายพิการ.....มองคนไม่เคยอดทน

ถ้างานรีบรน.....มองคนไม่มีเวลา


ถ้าตังค์ไม่มี.....มองคนขอทานข้างถนน

ถ้าหนี้สินล้น.....มองคนแย่งกินกับหมา


ถ้าข้าวไม่ดี.....มองคนไม่มีที่นา

ถ้าใจอ่อนล้า.....มองคนไม่รู้จักรัก


ถ้าชีวิตแย่.....จงมองคนแย่ยิ่งกว่า

อย่ามองแต่ฟ้า.....ที่สูงเกินตาประจักษ์


ความสุขข้างล่าง.....มีได้ไม่ยากเย็นนัก

เมื่อรู้แล้วจัก.....ภาคภูมิชีวิตแห่งตน






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 เมษายน 2553    
Last Update : 14 เมษายน 2553 15:47:03 น.
Counter : 283 Pageviews.  

วิธีการวัดอุณหภูมิของทะเล














































































เมื่อประมาณ 20 ปีก่อนนี้

Walter Munk นักวิทยาศาสตร์แห่ง Scripps Institute of
Oceanography
ในสหรัฐอเมริกาได้พบว่า
เขาสามารถรู้ว่าโลกเราร้อนขึ้นหรือเย็นลงเพียงใด โดยการวัด
อุณหภูมิของนํ้าในมหาสมุทร








โดยอาศัยหลักความจริงที่ว่า


ความเร็วของเสียงในนํ้าร้อนนั้นช้ากว่าความเร็ว ของเสียงในนํ้าเย็น Munk
จึงคิดว่าหากเขารู้ความเร็วเฉลี่ยของคลื่นเสียงในมหาสมุทร
เขาก็สามารถจะวัดอุณหภูมิเฉลี่ย ของนํ้าในมหาสมุทรได้


















ภาพประกอบเนื้อหา วิธีการวัดอุณหภูมิของทะเล
ภาพประกอบเนื้อหา
วิธีการวัดอุณหภูมิของทะเล










ทุกวันนี้
เราทุกคนรู้ดีว่าปรากฏการณ์เรือนกระจกเป็นปัญหาโลกแตก


เพราะนักวิชาการทั้งหลายต่าง ก็คาดคะเนว่า
อุณหภูมิของโลกเราจะเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
แต่การวัดอุณหภูมิของอากาศทั้งโลกนั้นไม่มีใครทําได้ เพราะอุณหภูมิของ
อากาศในสถานที่แต่ละแห่งนั้นต่างกัน ถึงแม้สถานที่เดียวกันก็ตาม

อุณหภูมิของอากาศ ในสถานที่นั้นๆ ในแต่ละเวลา ในแต่ละเดือน
ในแต่ละปีก็ยังไม่เท่ากันเลย เมื่อความแปรปรวนของอุณหภูมิ มีมากเช่นนี้
นักวิทยาศาสตร์จึงต้องหันมาศึกษาอุณหภูมิของนํ้ าทะเลแทน
เพราะอุณหภูมิของนํ้ าทะเลมิได้ แปรปรวนมากเท่าอุณหภูมิของอากาศ








แต่การที่จะเอาเทอร์โมมิเตอร์


จุ่มวัดอุณหภูมิของนํ้าในสถานที่แต่ละแห่งของโลกนั้น ไม่สะดวกและให้
ผลไม่แน่นอน Munk จึงคิดว่า หากเขาสามารถส่งคลื่นไปใต้นํ้า
แล้วใช้เครื่องรับเสียงดักฟัง ณ สถานที่ไกล ออกไป ในเวลาหนึ่งชั่วโมง หาก
เสียงเดินทางช้าไป 0.002 วินาที เขาก็สามารถสรุปได้ว่า
อุณหภูมิของนํ้าได้เพิ่มสูงขึ้น 0.05 องศาเซลเซียสเรียบร้อย




















ภาพประกอบเนื้อหา วิธีการวัดอุณหภูมิของทะเล
ภาพประกอบเนื้อหา
วิธีการวัดอุณหภูมิของทะเล










ดังนั้นในปี พ.ศ. 2532 ทีมทดลองที่นําโดย Munk
ได้


ทดสอบความคิดนี้โดยใช้อุปกรณ์ โซนาร์ (sonar) ส่งเสียงไปในนํ้ า จากเกาะ
Heard ที่อยู่กลางมหาสมุทรแอนตาร์กติกา เสียงที่มีความดัง 215 เดซิเบล
(ดังพอๆ กับรถพยาบาล) เดินทางใต้นํ้ าไปได้ไกลถึงชายฝั่ง California
ของมหาสมุทรแปซิฟิก และ เกาะ Bermuda ในมหาสมุทรแอตแลนติก








แต่การทดลองของ Munk นี้


ได้รับการต่อต้านจากบรรดานักชีววิทยาสัตว์ทะเลหลายคน เพราะคน กลุ่มนี้
เกรงว่า การทดลองส่งเสียงเช่นนี้จะรบกวนสัตว์ทะเล
เช่น ปลาวาฬ ปลาโลมา
และแมวนํ้ า คือทํ าให้ มันเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและความเป็นอยู่
เช่นทําให้มันว่ายนํ้าหลงทางหรือทําให้มันหูหนวก








แต่ก็มีนักชีววิทยาอีกหลายคน
ที่สนับสนุนโครงการวิจัยของ Munk


ฒฝิฬโดยให้เหตุผลว่าเสียงที่ใช้ในการ ทดลองนั้น ถึงแม้จะดัง
แต่ก็คงไม่ทําให้สัตว์ทะเลพิการ เพราะ Munk จะค่อยๆ
ส่งเสียงแทนที่จะเปิดดังทัน ที
นอกจากนี้ความถี่ของเสียงที่ใช้ในการทดลองก็ไม่ตํ่าเท่ากับความถี่ที่ปลา
โลมาหรือปลาวาฬใช้ในการหา อาหาร ยิ่งไปกว่านั้นตํ าแหน่งที่เสียงเดินทาง
ก็ลึกมากและสัตว์ทะเลทั่วไปก็ไม่ดําลึกถึงระดับนั้น




















ภาพประกอบเนื้อหา วิธีการวัดอุณหภูมิของทะเล
ภาพประกอบเนื้อหา
วิธีการวัดอุณหภูมิของทะเล











นอกจากนี้ทะเลก็ใช่ว่าจะสงบเงียบ


คือนอกจากจะมีเสียงคลื่น เสียงแผ่นดินไหว เสียงปลาวาฬ เสียง
ขุดเจาะนํ้ามันในทะเล เสียงจากเรือเดินสมุทรต่างๆ ซึ่งสัตว์ทะเลที่ใครๆ
ห่วงก็ชินชากับเสียงเหล่านี้อยู่แล้ว












แต่จะยังไงก็ตาม ทีมงานของ Munk


ก็ได้ปรับแผนการทดลองเล็กน้อย คือแทนที่จะส่งเสียงครั้งหนึ่ง ทุกๆ 4 วัน
และได้ขอร้องให้นักชีววิทยาคอยสังเกตดูพฤติกรรมของสัตว์นํ้าตลอดเวลาที่
เสียงกําลังดังเพื่อป้อง กันชีวิตของสัตว์เหล่านี้








นอกจากข่าวดีนี้แล้ว


ความนึกคิดของนักชีววิทยาเกี่ยวกับสุขภาพของสัตว์นํ้าก็ไม่มี เพราะนักชีว
วิทยากลุ่มหนึ่งที่ได้เฝ้าศึกษาปลาวาฬและแมวนํ้าที่ระดับลึก 900 เมตร ได้
พบว่าพฤติกรรมว่ายนํ้ ของสัตว์ ทะเลเหล่านี้ มิได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด




















ภาพประกอบเนื้อหา วิธีการวัดอุณหภูมิของทะเล
ภาพประกอบเนื้อหา
วิธีการวัดอุณหภูมิของทะเล











และเมื่อปล่อยแมวนํ้าลงใกล้อุปกรณ์โซนาร์
มันก็ว่ายนํ้าต่อไป


เสมือนอุปกรณ์เหล่านี้ไม่มี แต่จะยังไงก็ตาม นักชีววิทยากลุ่มนี้
ได้บันทึกเสียงร้องเพลงของปลาวาฬ และ กําลังวิเคราะห์ดูว่า
การทดลองนี้ทําให้ปลาวาฬหยุดร้องเพลงหรือไม่










ถึงแม้ความกังวลทั้งหลาย


จะถูกขจัดจนหมดสิ้นไปแล้วก็ตาม แต่ปัญหาใหม่ก็กํ าลังมีคือ โครงการมูล ค่า
1,600 ล้านบาทนี้ มีกําหนดสิ้นสุดลงในปลายปีนี้ และ Munk ก็คิดว่า
ถ้าจะให้โครงการนี้ดําเนินต่อไป เขาต้องการงบประมาณสนับสนุนอีก 300
ล้านบาท/ปี








ตัวนักวิทยาศาสตร์นั้นคิดว่าโครงการนี้สํคัญ


แต่จะมีนักการเมืองใดบ้างที่คิดว่า การลงทุน 300 ล้านบาท/ปี
เพื่อวัดอุณหภูมิของนํ้าทะเลนั้น สําคัญและคุ้ม



















ภาพประกอบเนื้อหา วิธีการวัดอุณหภูมิของทะเล
ภาพประกอบเนื้อหา
วิธีการวัดอุณหภูมิของทะเล











ขอขอบคุณ ข้อมูลที่มีประโยชน์จาก เว็บไซต์ Digital Library for
school net

เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้บนโลกอินเตอร์เน็ต

ผู้มีบทความทางด้านวิทยาศาสตร์น่ารู้

สามารถส่งผลงานของท่านมาได้ที่ arunee@teeneemedia.com



























Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 เมษายน 2553    
Last Update : 14 เมษายน 2553 15:45:10 น.
Counter : 351 Pageviews.  

ดาวที่ขอบจักรวาล













































คนทั่วไปมักจะคิดว่า


อาณาบริเวณของสุริยจักรวาลนั้นสิ้นสุดลงที่ดาวพลูโต
และถึงแม้นักดาราศาสตร์จะได้พยายามค้นหาดาวเคราะห์ดวงที่ 10
สักเพียงใดก็ตาม ความพยายามดังกล่าวก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเลย








แต่ก็มีนักดาราศาสตร์อีกหลายคนที่ยังปักใจเชื่อ
ว่า

ดวงอาทิตย์ของเรามีดาวบริวารที่กำลังโคจรอยู่ ณ
ที่ที่ไกลจากดวงอาทิตย์มากกว่าดาวพลูโตอีก

และขณะนี้เราได้พบหลักฐานที่แสดงชัดเจนว่า ความเชื่อเช่นนี้คือความจริง






























K.E. Edgeworth คือนักดาราศาสตร์คนแรก
ของโลกที่ได้กล่าวว่า


ในอวกาศที่ว่างเปล่า ณ ที่ที่ไกลจากดวงอาทิตย์ กว่าดาวพลูโต
คือที่อยู่ของหมู่ดาวหางที่มีสะเก็ดดาวขนาดจิ๋วจำนวนมากมายและสะเก็ดดาว
เหล่านี้ไม่สามารถรวมตัวกันเป็นดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ได้
เพราะมันมีแรงดึงดูดกันน้อย








แต่เมื่อใดก็ตามที่มันโคจรผ่านใกล้ดาวเนปจูน


แรงดึงดูดแบบโน้มถ่วงที่มหาศาลของดาวจะดึงดูดมันให้โคจรโค้งผ่านดวงอาทิตย์
เป็นดาวหาง ให้ชาวโลก (บางคน) ตกใจแตกตื่นกันจ้าละหวั่น





























ปัจจุบันนักดาราศาสตร์ได้พบหลักฐานมากมาย


ที่สนับสนุนความคิดของ Edgeworth ว่าถูกต้อง
โดยได้พบสะเก็ดดาวจำนวนมากมายโคจรอยู่รอบดวงอาทิตย์ภายในบริเวณที่เป็น
แถบกว้าง อาณาบริเวณนี้มีชื่อทางวิชาการว่า Kuiper belt








โดยมีระยะใกล้และไกลจากดวงอาทิตย์เท่ากับ

35 AU และ 1,000 AU ตามลำดับ (1AU = Astronomical Unit
มีค่าเท่ากับระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์ ดังนั้น 35 AU คือ 35
เท่าของระยะทางจากโลกถึงดวงอาทิตย์)
ในขณะที่ดาวพลูโตอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เพียง 40 AU เท่านั้นเอง










ขอขอบคุณ ข้อมูลที่มีประโยชน์จาก เว็บไซต์ Digital Library for
school net

เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้บนโลกอินเตอร์เน็ต

ผู้มีบทความทางด้านวิทยาศาสตร์น่ารู้

สามารถส่งผลงานของท่านมาได้ที่ arunee@teeneemedia.com


























Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 เมษายน 2553    
Last Update : 14 เมษายน 2553 15:43:06 น.
Counter : 344 Pageviews.  

สาวสไตล์ไหนหนุ่มๆชอบ!?






















































"สไตล์สาวยุคใหม่"

เอาใจเก่ง

เสน่ห์ของหญิงข้อนี้ แม้จะเป็นสิ่งที่คุณๆ
ทั้งหลายรู้ดี แต่ก็ไม่ค่อยมีใครทำกันสักเท่าไหร่ เพราะมัวหยิ่งบ้าง
ไม่กล้าบ้าง แบบนี้เห็นทีต่อให้เริดแค่ไหน
ถ้าขาดนิสัยความเป็นสาวช่างเอาอกเอาใจ ไม่ว่าผู้ชายหน้าไหนก็ไม่มีใครชอบ
หรอก เพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่ผู้ชายทุกคนปรารถนา


อ่อนหวาน

สาวห้าวอย่าเพิ่งร้องโวย เป็นอันขาด
และโปรดทำใจรับรู้และ ยอมรับซะเถอะว่า
บางครั้งหัวใจสาวห้าวอย่างคุณก็เคยมีช่วงเวลาของการ
แสดงออกที่บ่งบอกถึงความอ่อนโยนได้เหมือนกัน
ไม่ต้องถึงขนาดเปลี่ยนตัวเองให้เป็นสาวหวานฉ่ำ แค่มีความ
อ่อนโยนอ่อนหวานติดตัวไว้บ้าง ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อยบางอารมณ์น่าจะพูดจาอ่อนโยนน่าฟังบ้าง ไม่ว่ากับเขาหรือคนอื่นๆ
มันจะยิ่งทำให้คุณดูดีขึ้น อีกเยอะ


เปิดเผย

ข้อนี้สาวขี้อายอาจมีปัญหา
แต่การเปิดเผยไม่ได้หมายความว่า จะต้องถึงขั้นทำตัวห้าวหาญแต่อย่างใด
การเปิดเผยในที่นี้หมายถึง ให้คุณ แสดงความจริงใจบ้างเล็กๆ น้อยๆ
เพื่อบอกให้เขารู้ว่าคุณชอบเขา ทำอะไร อย่าเหนียมมากไป ร้อนก็บอกว่าร้อน
เผ็ดก็บอกว่าเผ็ด กล้าคุยเรื่องหน้าแตก ของตัวเองให้เขาฟังบ้าง
คุณจะดูเป็นคนอบอุ่น และไม่มีลับลมคมในอะไร ซ่อนไว้

































หัวอ่อน

จะเอาใจแฟนทั้งที
มันต้องมีบ้างที่ต้องหัดเป็นคนหัวอ่อน ยอมเออออตามเขาไปในบางครั้ง
แต่ที่ให้ยอมนั้น ไม่ได้หมายความว่า จะให้ยอมไปซะทุกเรื่อง
ทุกอย่างเหมือนดังเช่นเป็นทาส แค่เชื่อฟังเขาบ้างในบางโอกาส และยอมรับ
ในสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผลด้วยเช่นกัน
เพราะถ้าขืนทำตัวก๋ากั่นดื้อรั้นชนิดไม่ฟัง ใครเลย ไม่ว่าจะแฟนคุณหรือใครๆ
ก็คงไม่ชอบหรอกค่ะ


ปราดเปรียว

ผู้ชายไม่ชอบผู้หญิงที่ อืดอาดเกินเหตุ
แม้ใจจะยังปรารถนาแม่ ศรีเรือนผู้งามพร้อม เพราะยุคสมัยนี้ ความคล่องแคล่ว
ปราดเปรียวนี่ละ ที่เป็นเสน่ห์หนึ่งของผู้หญิงยุคใหม่


ออดอ้อน

ผู้หญิงที่ยอมออดอ้อนคู่ รักบ้างในโอกาสเหมาะๆ
พระเอกของ คุณคงรักจนหมดใจแน่นอนแต่อ้อนพองามนะคะ ไม่เช่นนั้น อาจกลายเป็น
น่ารำคาญไป

































อารมณ์ขัน

ไม่ว่าสเปกของเขาจะชอบสาว เงียบขรึม
หรือสาวแข็งกระด้าง อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย
ผู้ชายจะเซ็งคุณได้สักวัน เมื่อเขารู้สึกว่าอยู่กับคุณแล้วโลกไม่สดใส
สักวันหนึ่งเขาคงจะตีจาก แต่คุณไม่จำเป็นต้องตลกโจ๊กเป็นตลกมืออาชีพหรอก
เพียงแค่รู้จักเล่าเรื่อง สนุกๆ ขำๆ บ้าง
หัวเราะร่าเริงเมื่อคนอื่นคุยเรื่องตลก ไม่ใช่หน้าแข็งอารมณ์ เดียวตลอดเวลา
จะทำให้น่าเบื่อที่สุด และไม่ใช่นั่งนินทาใครให้คนหัวเราะ
เพราะผู้หญิงขี้นินทาไม่มีเสน่ห์นักหรอก


ฟอร์มเหมือนไม่มีฟอร์ม

ผู้ชายจะไม่พิสมัยผู้หญิง
ที่เก๊กหรือฟอร์มตลอดเวลา ดังนั้น ขอให้คุณทำตัวเป็นธรรมชาติที่สุด
อยากคุยอยากถามอะไรกับเขาก็ทำ หรือปวดฉี่ก็บอกได้
ไม่ต้องนั่งเก๊กแล้วรอให้คนอื่นมาชวนคุย


มีน้ำใจ

ควรแสดงความมีน้ำใจห่วงใยเอื้ออาทรออกมาบ้าง
ไม่ว่าจะกับ เขาหรือกับใคร เพราะคนใจดำไร้น้ำใจคงไม่มีเสน่ห์แน่นอน


เข้าใจง่าย

ควรมองโลกในแง่ดี ไม่เจ้าปัญหาจนน่ารำคาญ
หัดเป็นคน ง่ายๆ ไม่จู้จี้จุกจิกมากเกินไป การแสดงความเข้าใจในเรื่องต่างๆ
ได้ดี เป็นการแสดงถึงนิสัยใจคอของคุณเอง ที่คนพิเศษของคุณจะเห็นได้ทันที
และทำให้เขาเชื่อใจคุณ เพราะคุณเข้าใจเขาได้ดี มีเรื่องอะไรเขาก็จะเปิดเผย
ให้คุณรู้ และชอบที่จะนั่งสนทนากับผู้หญิงที่เปี่ยมเสน่ห์แบบคุณ






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 14 เมษายน 2553    
Last Update : 14 เมษายน 2553 15:41:02 น.
Counter : 354 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.