ผู้หญิงท้องกินผักสดให้ลูกฉลาด














































ผู้หญิง
ท้องฟังทางนี้ ถ้าอยากให้ลูกฉลาด ควรกินผักสดมาก ๆ เพราะอะไรนั้น
วันนี้เกร็ดความรู้มีมาบอกกัน...



กุมารแพทย์
แนะพ่อแม่สามารถปั้นลูกให้เกิดมาเป็นคนฉลาดได้
โดยให้พ่อแม่รับประทานผักสดมาก ๆ
เมื่อตอนก่อนตั้งครรภ์หากรับประทานเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์แล้วอาจจะสายเกินไป


ศาสตราจารย์
นายแพทย์พิภพ ภิญโญ กุมารแพทย์คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่าก่อนตั้งครรภ์ทั้งพ่อแม่ควรเตรียมร่างกายให้พร้อม
ฝ่ายชายควรลดละเลิกอบายมุขออกกำลังกายเพื่อให้สเปิร์มแข็งแรง
ส่วนฝ่ายหญิงควรดูแลร่างกายให้สมบูรณ์เต็มที่ ออกกำลังกาย
รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักสด ซึ่งมีวิตามินโฟเลท
สารนี้ช่วยในการสร้างเซลล์สมอง ลูกน้อยในครรภ์ช่วงอายุครรภ์ 4-6 สัปดาห์
หากรับประทานเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์แล้ว อาจสายเกินไป



รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าอยากให้ลูกฉลาด
ก็ลองหาผักสดทานกันได้.




ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เด
ลินิวส์





Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 11:49:46 น.
Counter : 286 Pageviews.  

สดชื่นทันตาด้วย 9 วิธีง่ายๆ











































1. ออกกำลังเบาๆ
การออกกำลัง
เพียง 10
นาทีก็สามารถเพิ่มพลังให้คุณได้ทันทีนานหนึ่งหรือสองชั่วโมงหลังจากนั้น
แถมยังทำให้อารมณ์ดีขึ้นด้วย (ซึ่งดีกว่าการแทะเล็มช๊อกโกแลตแท่งมากนัก)
หรือแค่กระโดดขึ้นลงไปมา ซึ่งไม่เพียงสนุกเท่านั้น
ยังเป็นการออกกำลังร่างกายส่วนล่างที่ดีมากวิธีหนึ่ง

2.
สมองแจ่มใสด้วยมิ้นท์

กลิ่นเป๊ปเปอร์มินท์ สเปียร์มิ้นท์
และยูคาลิปตัสจะกระตุ้นสมองส่วนที่ทำให้เราตื่นตัว
ให้เลือกแชมพูหรือครีมอาบน้ำ
ที่มีส่วนผสมของกลิ่นที่ว่ามาอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อปลุกให้คุณกระฉับกระเฉง
ระหว่างอาบน้ำ หรือจะเลือกวิธีกระตุ้นที่เร็วยิ่งกว่านั้นด้วย Cool Mint
Listerine Pocket Packs
กลิ่นมิ้นท์ที่ให้ความรู้สึกเย็นซ่าเหมือนใส่เครื่องปรับอากาศย่อส่วนบนลิ้น
เลยทีเดียว

3. สะสางสิ่งของ
ถ้าไม่อยาก
ให้ชีวิตรกรุงรัง ให้เริ่มสะสางลิ้นชัก จัดระเบียบโต๊ะทำงาน
หรือตู้เสื้อผ้า หรือแม้แต่กระเป๋าสตางค์ของคุณ
แม้วิธีนี้จะไม่มีทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์อธิบายแต่กล่าวกันว่าการจัดสภาพแวด
ล้อมให้เป็นระเบียบจะทำให้ตัวตนภายในของคุณเป็นระเบียบด้วย
เหมือนวิธีบำบัดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะจัดระเบียบส่วนไหน
ก็ไม่มีอะไรเสียหายและการสะสางชีวิตอาจทำให้คุณตื่นตัวได้มากกว่ากาแฟแพงๆ
ด้วยซ้ำ แถมยังฟรีอีกด้วย

4. งีบเติมพลัง
ปิด
ประตูห้องทำงาน (ถ้ามี) แล้วงีบหลับที่โต๊ะทำงานสัก 15
นาทีระหว่างพักเที่ยง
คุณจะตื่นขึ้นด้วยความสดชื่นอีกครั้งและพร้อมจะสู้กับโลกเชียวล่ะ
กล่าวกันว่ามันได้ผลดีกว่าการงีบหลับนานเป็นชั่วโมงซึ่งทำให้คุณรู้สึก
เหมือนต้องการนอนมากขึ้นอีก

5. จิบน้ำมะนาวในวันร้อน
ดื่ม
น้ำมะนาวทำเอง (ทำให้เปรี้ยวเท่าที่จะดื่มได้ โดยไม่ใส่น้ำตาล)
ในวันอากาศร้อนช่วยดับกระหายได้เสมอและยังช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้นด้วย
คราวหน้าที่ไปทะเล อย่าลืมติดน้ำมะนาวไปสักขวด

6. ทำผม
เชื่อ
หรือไม่ว่าการทำผมให้ความรู้สึกสดชื่นได้ดีกว่าการแต่งหน้าเต็มยศเสียอีก
ถ้าแต่งหน้าแย่ยังไม่ทำให้วันของคุณเลวร้ายเท่าทำผมแย่ไปได้
ทรงผมสามารถทำให้วันของคุณดีหรือร้ายไปเลยทีเดียว
แต่ถ้าดีก็สามารถเพิ่มชีวิตชีวาให้ภาพลักษณ์ของคุณอย่างน้อย 50%
ช่วยลดอายุคุณไปหลายปี (สำหรับทรงที่ดูสปอร์ตและมีชีวิตชีวากว่าเพื่อน)
และทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นดารา(โดยเฉพาะถ้าคุณได้ช่างมืออาชีพ)
ไม่ต้องถึงกับเล็มเดือนละครั้งก็ได้
แค่ทำผมทรงใหม่ก็ช่วยเปลี่ยนภาพลักษณ์ทั้งหมด

7.
หาเวลาพักร้อน

เก็บเงินและหาเวลาพักร้อนแบบที่มีทำสปาด้วย
อาจเป็นที่บาหลี หรือเมืองไทยเราก็มีสปาเยอะแยะ
การคาดหวังว่าจะได้เปลี่ยนบรรยากาศจะทำให้คุณอารมณ์ดีและเติมพลังทั้งกายและ
จิตวิญญาณได้อย่างแน่นอน แต่คุณต้องมีเวลามากพอ (อย่างน้อย 4-5 วัน)
เพื่อดื่มด่ำกับสถานที่นั้น
รวมถึงบรรยากาศและวิถีชีวิตผู้คนไม่ว่าจะโดยการกินอาหารหรือช้อปปิ้งก็ตาม

8.
อาบน้ำใต้ฝักบัว

เริ่มวันทำงานด้วยการอาบน้ำใต้ฝักบัว
แล้วชโลมเจลกลิ่นส้ม ให้ฟองฝ่องเพื่อความสดชื่นเป็นพิเศษ
ถ้าสามารถก็ให้ลองไปแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน หรือบ่อน้ำแร่ของสปาสักแห่ง

9.
เปลือยกายเดินไปมา
ถ้ามีโอกาสไปชายหาดที่อนุญาตให้เปลือย
กายอาบแดดได้ ให้หักห้ามความอายแล้วเล่นน้ำตัวเปลือยๆนี่ล่ะ
มันให้ความรู้สึกเบิกบาน
อิสระและมีชีวิตชีวาเพราะคุณได้สัมผัสถึงอิสระเต็มที่และโอบกอดธรรมชาติได้
ถึงเนื้อถึงหนัง แต่ถ้าคุณเขินอายเกินกว่าจะทำได้
ก็ให้แก้ผ้าในห้องส่วนตัวแล้วเริ่มเต้นรำทำเพลงตามจังหวะเพลงโปรดได้เลย


ขอ
ขอบคุณที่มา : ผู้หญิงนะคะดอทคอม








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 11:47:15 น.
Counter : 330 Pageviews.  

3 สัญญาณอันตรายของการแพ้อาหาร
































คนที่ไม่เคยแพ้อาหารมาก่อนในชีวิต อาจเคย
สงสัยว่าอาการแพ้อาหารที่แท้จริงมีลักษณะอาการเป็นยังไงกันแน่ ตามปกติแล้ว
อาการแพ้อาหารมักจะเกิดขึ้นกับเด็กที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ แต่อย่าคิดว่าคนที่
แข็งแรงอย่างคุณจะรอดตัวเสมอไป เพราะทุกคนมีโอกาสที่จะแพ้อาหารได้เหมือนกัน

อาการแพ้อาหาร หรือ Allergic Reaction
 คือ การที่
ระบบภูมิต้านทานของร่างกายทำปฏิกิริยากับสารธรรมดามากเกินกว่าระดับปกติ โดย
อาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ที่มาเป็นอันดับหนึ่งนั้นได้แก่อาหารทะเล และตาม
มาด้วย ไข่ ถั่ว ผัก และผลไม้บางชนิด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่
ละคน ส่วนสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกว่าคุณกำลังแพ้อาหารนั้นสามารถจำแนกอาการ
ออกเป็น 3 ลักษณะอาการด้วยกัน คือ

1. อาการที่เกิดขึ้นกับระบบอาหาร
ซึ่งได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน คัน
ปาก ท้องเสีย หรือ อาหารไม่ย่อย

2. อาการที่เกิดขึ้นกับระบบทางเดินหายใจ
อาการ
คัดจมูก น้ำมูกไหล จาม อาจทำให้คุณนิ่งนอนใจ แต่เมื่อมีอาการคันคอ หายใจ
ลำบาก แน่นหน้าอก และหอบตามมา ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าคุณกำลังแพ้อาหาร
เข้าให้แล้ว

3. อาการที่
เกิดขึ้นกับผิวหนัง
 ซึ่งได้แก่อาการผื่นคัน และเกิดลมพิษ
ตามตัว
ความรุนแรงของอาการแต่ละคนจะต่างกัน ในรายที่รุนแรงมากอาจทำให้
ช็อกและเสียชีวิตได้แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ถึงจะไม่เคยมีประวัติแพ้อาหารมา
ก่อน คุณก็ควรจะระวังการรับประทานอาหาร และเรียนรู้อาการเหล่านี้ไว้บ้าง
เพื่อความไม่ประมาท


ขอขอบคุณข้อความดี ๆจาก
ผู้หญิง
นะคะดอทคอม








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 11:44:49 น.
Counter : 475 Pageviews.  

อาหารที่ไม่ควรกินตอนท้องว่าง















































ก่อน
ที่จะรับประทาน ควรเลือกชนิดของอาหารเสียก่อนนะคะ
เพราะบางทีอาหารที่เราทานลงไปทั้งๆ ที่มีประโยชน์แต่ไม่ถูกเวลา
ก็อาจส่งผลเสียบางอย่างที่เราคาดไม่ถึงก็ได้ค่ะ


ไปดูกันว่าอาหารที่ไม่ควรรับ
ประทานขณะท้องว่างมีชนิดใดบ้าง

นมและนมถั่วเหลือง

แม้ว่านมถั่ว
เหลืองจะอุดมไปด้วยโปรตีน แต่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
เมื่อกระเพาะอาหารมีสารประเภทแป้งอยู่

เหล้า

หากดื่มเหล้าในขณะท้องว่าง
จะไปกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร
ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบและเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้

น้ำตาลหรืออาหารหวาน

ไม่
ควรรับประทานอาหารหวานหรือน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ลูกอม ช็อกโกแลต
เพราะหากรับประทานขณะท้องว่างจะทำให้โปรตีนรวมตัวกับน้ำตาลส่งผลต่อการดูด
ซึมโปรตีนทุกชนิดและลดสมรรถภาพการทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไต

ชาที่แก่เกินไป

ชาทำให้กรดเกลือใน
น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจาง
ส่งผลให้การทำงานของระบบย่อยอาหารลดลงและเกิดอาการใจสั่น
เวียนศีรษะมือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบ

ลูกพลับ

ไม่ควรรับประทานลูกพลับใน
ขณะที่ท้องว่าง เพราะกระเพาะอาหารจะหลั่งกรดเกลือออกมามาก
หากไปรวมตัวกับยาง และสารแขวนลอยในลูกพลับแล้ว จะทำให้เจ็บหน้าอก
คลื่นไส้และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร

กล้วย

เพราะ
กล้วยอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม การรับประทานกล้วยขณะท้องว่าง
จะทำให้ปริมาณธาตุแมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้น
ทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมไปเป็นการยับยั้งการทำงานของ
หลอดเลือดหัวใจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

กระเทียม

เพราะจะทำให้เยื่อบุกระ
เพาะอาหารได้รับการกระตุ้น เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบอย่างรุนแรง

ผัก

การรับประทานผักอย่างเดียวขณะ
ท้องว่าง จะทำให้กระเพาะอาหารเกิดอาการผิดปกติ

นอกจากนั้นยังไม่ควรอาบน้ำและออกกำลังกายด้วยเช่นกัน

เพราะการอาบน้ำและการออกกำลังกายในขณะที่ท้องว่าง
จะทำให้เกิดอาการช็อกเนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำได้ง่าย อย่าลืมสิ่งใดที่มีคุณอนันต์ก็อาจมีโทษมหันต์เช่นกัน
ถ้าคุณปฏิบัติอย่างผิดวิธี























ขอ
ขอบคุณสาระดีดี ...จาก









Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 11:36:58 น.
Counter : 248 Pageviews.  

14 วิธีขับถ่ายปัสสาวะเพื่อสุขภาพที่ดี












































ไม่น่าเชื่อว่า
แม้คนเราจะขับถ่ายปัสสาวะกันมาตั้งแต่แรกเกิด
แต่หลายคนไม่ทราบวิธีที่ดีที่ทำให้ระบบขับถ่ายปัสสาวะเป็นปกติ
วันนี้จะขอนำเสนอ 14 อุปนิสัยที่ดีในการขับถ่ายปัสสาวะ


1.  อย่ากลั้นปัสสาวะ
เมื่อรู้สึกปวดต้องไปปัสสาวะ 
       2. 
เวลาปัสสาวะไม่ควรรีบร้อนเบ่งมาก เพราะอาจทำให้หูรูดปัสสาวะชำรุดได้ 
      
3.  ควรถ่ายปัสสาวะให้เหลือน้อยที่สุดในหนึ่งครั้ง
นั่นคือเมื่อรู้สึกถ่ายหมดแล้วให้เบ่งต่ออีกนิดหน่อย
ปัสสาวะที่เหลือจะไหลออกมา 
       4. 
ไม่ควรบังคับให้ตนเองถ่ายปัสสาวะบ่อย เพราะจะติดเป็นนิสัย
เวลาที่เหมาะสมคือ 2-4 ชั่วโมงควรถ่ายปัสสาวะหนึ่งครั้ง 
       5. 
ให้สังเกตการถ่ายปัสสาวะ และน้ำปัสสาวะของตนเองทุกครั้งว่า
ต้องเบ่งมากผิดปกติหรือไม่ น้ำปัสสาวะพุ่งดีหรือไม่
ลำน้ำปัสสาวะมีขนาดเล็กลงกว่าเดิมหรือไม่ น้ำปัสสาวะมีสีเหลืองใสหรือไม่
เพราะสิ่งเหล่านี้อาจเป็นอาการผิดปกติที่สามารถบอกโรคได้ 
       6. 
หากจะล้างทำความสะอาดหลังปัสสาวะ  อย่าให้บริเวณนั้นเปียกชื้น
เพราะอาจเกิดเชื้อราได้ ทางที่ดีหลังปัสสาวะทุกครั้ง ควรซับให้แห้ง 
      
7.  เมื่อปัสสาวะไม่ออก ต้องหาสาเหตุโดยการไปพบแพทย์
อย่าซื้อยาขับปัสสาวะมารับประทานเพราะจะเกิดอันตรายได้ 
       8. 
เมื่อเข้าสู่วัยกลางคน การบริหารอุ้งเชิงกรานโดยการขมิบ
(ฝ่ายหญิงขมิบช่องคลอด ฝ่ายชายขมิบทวารหนัก) วันละ 100 ครั้ง
จะช่วยป้องกันอาการปัสสาวะเล็ด 
       9.  ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ
10 แก้ว หรือหนึ่งลิตร จะช่วยให้น้ำปัสสาวะใส
มีจำนวนพอดีและป้องกันภาวะปัสสาวะอักเสบ 
       10.  ก่อนมีเพศสัมพันธ์
และหลังมีเพศสัมพันธ์ คุณผู้หญิงควรถ่ายปัสสาวะทิ้ง
จะช่วยป้องกันการเกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ 
       11. 
น้ำปัสสาวะจะต้องเป็นน้ำเท่านั้น ถ้ามีมูก หนอง น้ำเหลือง เลือดปนออกมา
ถือว่าผิดปกติต้องไปพบแพทย์ 
       12.  การขับถ่ายปัสสาวะ
ต้องขับถ่ายคล่องไม่มีอาการเจ็บปวด
ถ้าปัสสาวะแสบขัดลำบากนับว่าเป็นอาการผิดปกติ ต้องไปพบแพทย์อีกเช่นกัน 
      
13.  คนเราทุกคนต้องปัสสาวะทุกวัน วันละ 4-6 ครั้ง ถ้าไม่ปัสสาวะเลย
1วันถือว่าตกอยู่ในภาวะอันตรายต้องไปพบแพทย์โดยด่วน
       14. 
ก่อนเดินทางไกล  ก่อนยกของหนัก  ควรปัสสาวะทิ้งก่อนทุกครั้ง








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 10:53:10 น.
Counter : 274 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.