ไหวร่างกายทุก 15-20 นาทีคลายเครียดโรคออฟฟิศ













































คุณมัก
ทำงานอยู่ในอิริยาบถเดิมๆนานเกินวันละ 6
ชั่วโมง...นั่งทำงานอยู่กับตัวเลขนานเกินวันละ 6
ชั่วโมง...ต้องนั่งตรวจและเซ็นเอกสารนานเกินวันละ 6
ชั่วโมง...หรือง่วนกับการทำงาน หน้าคอมพิวเตอร์เกินวันละ 6 ชั่วโมง
ถ้าคำตอบคือ “ใช่” ถึง 3 ใน 4 ละก็ แสดงว่าคุณกำลัง
เผชิญกับโรคคนทำงานยุคดิจิตอล
ซึ่งมีอาการปวดคอและปวดไหล่สะสมเป็นเวลานานจนยาก แก่การรักษาเยียวยา!!


ในงานเปิดตัว “ไทเกอร์ บาล์ม
เน็ค แอนด์ โชวล์เดอร์ รับ” ที่โรงแรมแพน แปซิฟิค เมื่อเร็วๆนี้
ภายใต้คอนเซปต์ “คืนชีวิตชีวาและผ่อนคลาย
ตามไลฟ์สไตล์ของคนทำงานยุคใหม่”
ได้เชื้อเชิญ
“ดร.ณัฐชา เพชรดากูล”
นักวิจัยและที่ปรึกษา
ประจำสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
มาเล่าสู่กันฟังถึงผลงานการวิจัยล่าสุด เกี่ยวกับอาการปวดต้นคอ และไหล่ ของคนไทย
ซึ่งหนักหนาสาหัสกว่าที่คาดคิดไว้มาก เพราะจากการสำรวจพบว่า 99.8%
ต้องทนทุกข์กับอาการดังกล่าว อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง

ข้อมูลการศึกษาล่าสุดของสถาบันชื่อดัง จัดทำในช่วงเดือน
ม.ค. ที่ผ่านมา โดยสำรวจจากอาการปวดเมื่อยของคนทำงานออฟฟิศชายและหญิง จำนวน
413 คน พบว่า


กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ทำงานบนโต๊ะทำ
งานเฉลี่ยเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน และใช้คอมพิวเตอร์ ในการทำงานมากกว่า 6
ชั่วโมงต่อวัน ผลการศึกษายังบ่งชี้ว่า อาการเจ็บปวดอันเนื่องมาจาก การทำงาน
ที่เป็นกันมาก ที่สุด 5 อันดับแรกได้แก่ ปวดคอ, ปวดไหล่, ปวดหลัง, ปวดเอว
และปวดศีรษะ สำหรับวิธีขจัดความเครียดของคนทำงานยุคดิจิตอล “ภญ.อนินทยา
สุนสะธรรม” ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทโฮ้ว ป่า ไทเกอร์ บาล์ม แนะนำว่า
ควรปรับโต๊ะเก้าอี้ ในที่ทำงานให้เหมาะสม,
เปลี่ยนอิริยาบถการทำงาน โดยเคลื่อนไหวร่างกายทุก 15-20 นาที,
ขจัดความเครียดในที่ทำงาน,
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อ
หรืออาจจะบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยใช้โปรดักส์สำหรับคอและไหล่
ที่ “ไทเกอร์ บาล์ม เน็ค แอนด์ โชวล์เดอร์ รับ” คิดค้นสูตรขึ้นโดยเฉพาะ
ซึ่งจะได้ผลรวดเร็วทันใจ!!





















ขอ
ขอบคุณสาระดีดี จาก









Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 14:00:04 น.
Counter : 279 Pageviews.  

สวยด้วยขมิ้นสด











ขมิ้นเป็นสมุนไพรธรรมชาติ นอกจากจะนำมาปรุงอาหารแล้ว
ยังสามารถทำให้สวยได้อีกด้วย วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีทำมาฝากกัน...


ส่วนผสม

ขมิ้นสด (เล็กน้อย)
ดินสอพอง 2-3 เม็ด
มะนาว 1 ผล

วิธีทำ

นำขมิ้นสดมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นชิ้น
เล็กๆ ปั่นรวมกับดินสอพองและมะนาวจนละเอียด รวมเป็นเนื้อเดียวกัน
จะได้เนื้อครีมข้น และเหนียว นำมาพอกกับหน้าที่สะอาดก่อนเข้านอน
โดยพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด

จะรู้สึกผิวหน้าสดชื่นและเต่งตึงขึ้นด้วย
ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง
ภายในเวลาไม่ถึงเดือนจะสังเกตเห็นว่าผิวหน้าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงจนสามารถสังเกตได้


ถ้าใครอยากมีผิวหน้าที่ดูดี
ก็อย่าลืมนำวิธีที่แนะนำไปปฏิบัติตามกันได้






Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 13:57:28 น.
Counter : 268 Pageviews.  

ข้าวกล้องป้องกันโรคหัวใจอิ่มเร็วพุง ไม่ป่อง
















































กิน
ข้าวกล้องป้องกันโรคหัวใจ ช่วยทำให้อิ่มเร็วไม่ เกิดพุงป่อง

ชั่ว
แต่เพียงเปลี่ยนจากกินข้าวขาวมากินข้าวกล้อง อาจจะช่วยให้
ระดับไขมันในเลือดลดลงได้เอง และป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด โรค
เบาหวานแบบที่ 2 ธาตุพิการ ตลอดจนมะเร็งทรวงอกและลำไส้ใหญ่ได้

พวก
แพทย์ และนักโภชนาการ ต่างพากันชักชวนให้หันมากินข้าวกล้องกันมากขึ้น
เพราะเป็นแหล่งของสารอาหารโดยรวมชั้นยอด
ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่าข้าวกล้องไม่ใช่ สีต่างกับข้าวขาวอย่างเดียว
หากข้าวขาวยังขาดคุณภาพของสารอาหารที่สำคัญสิบกว่าอย่าง อีกด้วย ตั้งแต่ วิตามิน อีวิตามิน บี 1 บี 3 และบี 6 โปแตสเซียม
แมกนีเซียม และเหล็กอีกด้วย เนื่องจากข้าวขาวโดนขัดสีจนแทบเหลือแต่กาก

นักโภชนาการของโรงพยาบาลแมกซ์
ที่เมืองสาเกตุของอินเดียอธิบายว่า


ข้าวกล้องมีกาก
ใยมากกว่าข้าวขาวมากกินของที่มีกากใยมากจะช่วยให้อิ่มได้เร็ว
เพราะเหตุที่ข้าวขาวไม่สู้มีกากใย ทำให้ เราต้องกินมันมากขึ้น และพอ 3 ชม.
ก็หิวอีกแล้ว ทำให้เราโกยกินแคลอรีเข้าไปเกิน จึงทำให้อ้วน “เดี๋ยวนี้เราให้คนไข้เปลี่ยนมากินข้าวกล้อง กันหมดแล้ว” ผู้
เชี่ยวชาญได้เปิดเผยว่า ในขณะที่ข้าวกล้องเมล็ดยาวหนึ่งถ้วย
มีสารแมกนีเซียมถึง 84 มิลลิกรัม ส่วนข้าวขาวมีอยู่แค่ 19 มิลลิกรัม
แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุ ที่จำเป็นกับระบบประสาท และในการสร้างคอเลสเทอรอล
ซึ่งร่างกายต้องใช้ ในการสร้างฮอร์โมนเพศ




















ขอ
ขอบคุณสาระดีดี...จาก








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 13:53:25 น.
Counter : 357 Pageviews.  

ควบคุมอารมณ์โกรธ ทำให้แผลผ่าตัดหายเร็วขึ้น














































นักวิจัยในสหรัฐ พบว่า การเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์โกรธ
อาจช่วยให้แผลผ่าตัดหายเร็วขึ้น

โดยการศึกษาภูมิ
คุ้มกันของร่างกายเปรียบเทียบกับพฤติกรรมสมอง บ่งชี้ให้เห็นว่า ความเครียด
และอารมณ์โกรธ มีผลอย่างมากต่อกระบวนการซ่อมแซมร่างกาย
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย โอไฮโอ ประเทศสหรัฐ ได้ซักถามผู้ป่วยเกือบ 100
คน เกี่ยวกับการควบคุมอารณ์โกรธ
ว่าจะช่วยให้แผลผ่าตัดสมานกันเร็วขึ้นมากน้อยอย่างไรบ้าง ผลปรากฏว่า ผู้ป่วยที่มักหัวเสีย หงุดหงิด
หรือแม้แต่เก็บอารมณ์ขุ่นเคืองไว้ในใจ มีแนวโน้มมากกว่าถึง 4 เท่า
ที่แผลผ่าตัดจะต้องใช้เวลานานกว่า 4 วัน ขึ้นไป

จึงจะสมานกันสนิท

นักวิจัยสรุปว่า
ยิ่งควบคุมอารมณ์โกรธได้น้อยเท่าไหร่
ร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมนความเครียดออกมามากเท่านั้น


ฮอร์โมน
ตัวนี้
จะไปส่งผลให้กระบวนการซ่อมแซมร่างกายทำได้ช้าลง
เชื้อโรคที่อยู่ในแผลจึงยิ่งแพร่ลามได้ง่ายขึ้น แผลที่เป็นอยู่
จึงใช้เวลานานขึ้นกว่าจะหาย
หรือสมานกันสนิท ในทางกลับกัน
การควบคุมอารมณ์ให้ผ่อนคลาย หรือมีสติสัมปชัญญะอยู่ตลอดเวลา
ก็จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ผลการศึกษายังพบว่า
ผู้หญิงที่ต้องดูแลคู่สมรสหรือพ่อแม่ที่ป่วยเป็นจิตเสื่อม
มีแนวโน้มจะใช้เวลาสมานแผลผ่าตัดนานกว่าคนกลุ่มอื่น ถึงร้อยละ 24
























ขอ
ขอบคุณสาระดีดี ...จาก









Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 12:44:12 น.
Counter : 264 Pageviews.  

เด็กจะสมองดี ถ้าได้ดื่มนมผงเสริมคุณค่าแบบพิเศษ

















































นัก
วิจัยในลอนดอน พบว่า ถ้าให้เด็กทารก
และทารกที่คลอดก่อนกำหนดได้ดื่มนมอย่างเต็มที่ในช่วงสัปดาห์แรกๆ
หลังลืมตาดูโลก และต้องเป็นนมผงเสริมคุณค่าทางอาหารมากเป็นพิเศษ
ทารกจะมีพัฒนาการทางสมองที่ดี
และยังส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงช่วงวัยรุ่นอีกด้วย

ทีมนักวิจัยจากโรงพยาบาลเด็ก เกรท ออร์มอนด์ สตรีท
และสถาบันสุขภาพเด็ก ยูซีแอล ในลอนดอน
ทดลองเปรียบเทียบระหว่างทารกที่ดื่มนมผงสูตรธรรมดา
กับที่ดื่มนมผงเสริมคุณค่าทางอาหารมากเป็นพิเศษ ทั้งโปรตีน ไขมัน แคลเซียม
ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก สังกะสี
ทองแดงและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายอีกหลายอย่าง
และยังเปรียบเทียบกับทารกที่ดื่มนมจากธนาคารนมแม่ รวมถึงพวกที่ดื่มนมผงผสมนมจากธนาคารนมแม่ พบว่า
ทารกที่ดื่มนมผงเสริมคุณค่าแบบพิเศษ
จะมีพัฒนาการทางสมองดีกว่าเด็กทารกกลุ่มอื่นอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับทารกที่คลอดก่อนกำหนด
ถ้าได้ดื่มนมเสริมคุณค่าแบบพิเศษอย่างเต็มที่ในช่วงสัปดาห์แรกๆ
ก็จะมีไอคิวดีขึ้น เมื่อเทียบกับทารกที่คลอดก่อนกำหนดด้วยกัน
ซึ่งคุณประโยชน์ตรงส่วนนี้ ยังจะส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงช่วงวัยรุ่นอีกด้วย

ผลจะปรากฏออกมาในช่วงที่เด็กมีอายุได้ 7-8 ขวบ
โดยเฉพาะเด็กผู้ชายจะเห็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจน


เพราะ
พวกที่ดื่มนมผงสูตรธรรมดา จะมีไอคิวด้านการพูดต่ำกว่าถึง 12.2 จุด
เมื่อเทียบกับพวกที่ได้ดื่มนมผงสูตรพิเศษ แต่
พอเด็กโตเป็นวัยรุ่น มีอายุได้ 16 ปี
เด็กผู้หญิงที่ดื่มนมสูตรธรรมดาจะมีไอคิวต่ำกว่าพวกที่ดื่มนมแบบพิเศษถึง 9
จุด
ส่วนในเด็กผู้ชาย ค่าความแตกต่างจะร่นเข้ามา เหลือแค่ 7
จุดเท่านั้น เมื่อนักวิจัยนำเด็กเหล่านี้มาสแกนสมอง พบว่า
เด็กที่ดื่มนมแบบธรรมดา กับเด็กที่ดื่มนมสูตรพิเศษ
จะมีความแตกต่างกันในเรื่องขนาดของสมองส่วนที่สัมพันธ์กับความจำและการเรียน
รู้
ผลวิจัยจึงแสดงให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของนมผงเสริมคุณค่าทางอาหารแบบพิเศษ
ซึ่งปัจจุบัน เด็กทารกที่เกิดก่อนกำหนด ก็มักจะได้ดื่มนมประเภทนี้
เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย





















ขอ
ขอบคุณสาระดีดี ...จาก








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 21 เมษายน 2553    
Last Update : 21 เมษายน 2553 12:42:37 น.
Counter : 349 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.