หอมหัวใหญ่สู้ภัย โรคกระดูกพรุน ก่อนเคยเอาเรื่องโรคกระดูกพรุนมาฝากเพื่อน ๆ กันแล้ว วันนี้ก็จะขอเอามาฝากอีกสักรอบนะ โรคกระดูกพรุนนั้นมักจะพบในเพศหญิง มากกว่าเพศชาย ที่สำคัญคือ เป็นกันทุกคน ไม่มีทาง รักษาแต่มีทางป้องกัน !!! ซึ่ง นอกจากการดื่มนมที่มีแคลเซียมเยอะ ๆ จะช่วยป้องกันได้แล้ว การรับประทานหัวหอมใหญ่ก็ยังช่วยในเรื่องการสลายตัวของกระดูกได้ด้วย หอมหัวใหญ่นั้นถือว่าเป็นผักที่มีสารพัดประโยชน์ทีเดียว เพราะว่ามันสามารถช่วยเรื่องโรคกระดูกพรุนแล้ว ยังลดอัตราการเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ด้วยล่ะ มื้อถัดไปก็ อย่าลืมใช้หัวหอมใหญ่ในการปรุงอาหารนะคะ Free TextEditor   Create Date : 27 เมษายน 2553     Last Update : 27 เมษายน 2553 12:53:34 น. Counter : 368 Pageviews.   0 comment Share Tweet

มาสู้ภัยความดันโลหิตสูงกันนะ โรคความดันโลหิต สูงนั้นถือว่าน่ากลัวไม่ใช่น้อย ทั้งนี้เนื่องจากว่า ความดันโลหิตอาจจะสูงขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะว่ามันไม่มีอาการแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน มารู้ตัวอีกทีก็ความดันก็ขึ้นไปสูงมากแล้ว คนที่เข้าข่ายว่าน่าจะเสี่ยงต่อการเป็นความดัน โลหิตสูงได้แก่ - - -> คนที่มีประวัติคนในครอบ ครัวเคยเป็นมาก่อน - - -> เป็นพวกไม่ใส่ตัวเอง เช่น ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ - - -> รับประทานอาหารเค็มจัดเป็นประจำ - - -> เป็นเบา หวาน และควบคุมเบาหวานไม่ดี เป็นที่ทราบกันดีว่าอาหาร ที่มีรสเค็มนั้นเป็นตัวการสำคัญของโรคนี้ ดังนั้นจึงควรลดการทานอาหารที่มีรสเค็มลง โดยสามารถรับประทานอาหาร ที่เน้นผัก ผลไม้ อย่างเช่น บร็อคโคลี แครอต มะเขือเทศ มันฝรั่ง เห็ด แคนตาลูป กล้วย ลูกพรุน แตงโม หรือส้ม ดื่มนม ธัญพืช ถั่วเปลือกแข็ง และ พยายามลดเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ลงหรือถ้าเป็นไปได้งดดื่มไปเลยดีที่สุด เมื่อออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านอย่าลืมบอกทางร้านว่าไม่ ใส่ผงชูรสและไม่ให้เค็มมากด้วยนะคะ Free TextEditor   Create Date : 27 เมษายน 2553     Last Update : 27 เมษายน 2553 12:18:26 น. Counter : 335 Pageviews.   0 comment Share Tweet

เล็บขบ เรื่องไม่เล็กสำหรับทุกคน เล็บขบนั้นเป็น อาการ ที่เล็บที่ยาวออกมาแล้วแทงเข้าไปในเนื้อเท้า โดยเฉพาะที่เล็บหัวแม่โป้งของนิ้วเท้าทำให้เกิดแผลและหนองตามมา เล็บขบนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกคน ทุกเพศทุกวัย ถ้าไม่อยากเป็นเล็บขบ คุณควรแช่น้ำอุ่นสัก 5 นาที ก่อนตัดเล็บเท้า เนื่องจากว่าเล็บจะได้อ่อนนุ่มตัดได้ง่ายขึ้น แต่ว่าต้องเช็ดเท้าให้แห้ง แล้วรอสักพักนะคะ อย่าตัดเล็บให้สั้นเกินไปและ ต้องตังเป็นเส้นตรง อย่าตัดให้มี ส่วนโค้ง เพราะไอ้เจ้าส่วนโค้งนี่ล่ะที่จะงอกแล้วแทงเนื้อเท้าเราได้ หากจะแคะขี้เล็บ แนะนำให้ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หยอดใส่เล็บ รอสักครู่ แล้วขี้เล็บจะหลุดออกเอง ถ้าหากว่าคุณเป็นเล็บขบแล้ว ต้องคอยดูว่าตรงที่เล็บขบนั้นมีอาการบวมแดง หรือแสบร้อนหรือไม่ ยิ่งคนที่เป็นโรคเบาหวานต้องสังเกตให้ดี ๆ หากว่าเล็บขบนั้นติดเชื้อให้แช่เท้าด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ ทุกวันวันละ 15 นาที เช็ดให้แห้ง แล้วใช้ผ้าพันแผลหุ้มนิ้วเท้าเอาไว้ ปกติอาการจะหายเมื่อ 2 - 3 วันไปแล้ว หากว่าคุณเป็นโรคเบาหวานแล้วแผล ไม่ดีขึ้นให้ไปพบแพทย์ดีที่สุด ช่วงนี้ฝนตก บ่อย ๆ อย่าละเลยใส่ใจสุขภาพเท้านะคะ เกิดเป็นเล็บขบช่วงนี้แล้วไปเจอฝนตก เท้าอับ ๆ อาจจะติดเชื้อแล้วลุกลามได้ค่ะ Free TextEditor   Create Date : 27 เมษายน 2553     Last Update : 27 เมษายน 2553 12:11:12 น. Counter : 432 Pageviews.   0 comment Share Tweet

พฤติกรรมดี ๆ ช่วยรักษากระดูก การหักโหมลดน้ำหนักเป็นหนึ่งในหนทางที่จะ ทำให้กระดูกพรุนเร็วขึ้น ดังนั้นมาปลูกฝังพฤติกรรมเหล่านี้กันดูมั้ย หัดทักทายแสงแดดยามเช้า การตื่นขึ้นมารับอรุณยามเช้านั้นนอกจากจะทำให้จิตใจแจ่มใสแล้ว แสงแดดยามเช้ายังช่วยให้กระดูกแข็งแรงด้วย สำหรับคนที่ชอบดื่มนมในตอนเช้า แสงแดดนี่สำคัญมากเลยนะคะ เพราะว่าแสงแดดในยามเช้าจะ ช่วยให้ร่างกายดูดแคลเซียมจากนมได้ดีขึ้นด้วย ลอง กระโดดหรือการเดินในแต่ละวันก็ช่วยคุณได้ หากที่ทำงาน หรือต้องเดินขึ้นอาคารที่ไม่สูงมากนักก็หันมาเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ก็ ดีนะคะ เลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม เพราะว่าในน้ำอัดลมนั้นมีส่วนทำให้แคลเซียมแตกตัวได้แถมยังทำให้สมดุลของ ร่างกายเสียไปด้วย การ บริโภคคาเฟอีนมากเกินไป (6 แก้ว/วัน) มีส่วนทำให้ปริมาณแคลเซียมในกระดูกลดลง หากคุณเป็นคน ที่ชอบดื่มชาแนะนำให้ดื่มเป็นชานมจะดีกว่า เพื่อเป็นการเสริมมวลกระดูก ทางสายกลางดีที่สุด อย่ากินน้อยเกินไป เพราะร่างกายอาจจะขาดสารอาหาร หรือ อย่าออกกำลังกาย มากเกินไป เพราะว่ามันเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน แม้ว่าโรคกระดูกพรุนจะพบมากในสตรีที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปก็ตาม แต่หากคุณทำร้ายตัวเองด้วยการหักโหมออกกำลังกาย หรือตั้งหน้าตั้งตาลดความอ้วนเกินไป คุณก็อาจจะเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนตั้งแต่อายุยังน้อยได้ แหม ... วันนี้เน้นพูดแต่เรื่องของกระดูกทั้งนั้น แต่ว่ามันก็น่ากลัวจริง ๆ นะคะ เพราะกิจกรรมบางอย่างที่เราทำไป เราอาจจะเผลอทำร้ายร่างกายโดยไม่รู้ตัว อย่าง เช่น ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ข้าวปลากินไม่ตรงเวลา แค่นี้ก็ขึ้นชื่อว่าทำร้ายตัวเองแล้ว เพราะคุณอาจจะปรับวิถีการดำเนินชีวิตได้ แต่ว่า ระบบต่าง ๆ ในร่างกายมันไม่ได้ปรับไปตามเราหรอกนะคะ มันทำตามเวลาของมัน ฉะนั้น ก็หันมาสนใจสุขภาพเสียแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่จะสายเกินไปดีกว่าค่ะ Free TextEditor   Create Date : 27 เมษายน 2553     Last Update : 27 เมษายน 2553 12:09:53 น. Counter : 304 Pageviews.   0 comment Share Tweet

จริงอ่ะ ทำตามต่อไปนี้แค่ 8 นาที ก็สดชื่นล่ะ หลาย ๆ คนอาจจะเจอภาวะ ไม่อยากตื่นในตอนเช้า ๆ เพราะว่าร่างกายเหนื่อยล้าเหลือเกิน หรือว่าอาจจะลุยงานมาหนักมากมายก่อนหน้านี้ ทำให้ร่างกายไม่สดชื่น เรามีมีวิธีง่าย ๆ ทำแค่ 8 นาทีก็สดชื่นขึ้นมาทันตาเห็นเลยล่ะ ใช้แชมพูมะนาว เพราะว่ากลิ่นของมันจะช่วยกระตุ้นประสาททำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น แล้ว ผิวพรรณของคุณก็จะเปล่งปลั่งอย่างไม่น่าเชื่อ  แถมการอาบน้ำสระผมในช่วงเช้า ๆ นั้นก็เป็นการกระตุ้นให้เราตื่นตัวอยู่แล้วด้วย โปะหน้าด้วย ไข่ขาว โปรตีนในไข่ขาวนั้นเปรียบเสมือนพลังงานที่เราเติมให้กับใบหน้า ใช้ไข่ขาวพอกทิ้งไว้ แค่นี้คุณก็จะรู้สึกสดชื่นขึ้นได้ แนะนำอีกนิดว่า ถ้าเติมน้ำมันกลิ่นลาเวนเดอร์ลงไปด้วย เพียงหยดเดียวเท่านั้นนะ จะเพอร์เฟคมาก ๆ ใช้ความเย็น สยบความไม่สดชื่นซะ ลองเอาผ้าขนหนู ชุบน้ำเย็น บิดให้หมาด ๆ แล้วเอามาคลุมหน้าสักพัก จะช่วยลดอาการเหนื่อยล้าได้ แถมยังช่วยปลุกให้คุณตื่นตัวด้วยล่ะ อ่อ .... แต่ถ้าแพ้ความเย็นก็ไม่ต้องทำนะคะ เดี๋ยวจะหลับยาว ดึงนิ้วชี้ที่เท้า ไม่น่าเชื่อเน๊อะ แต่เค้าบอกว่า นิ้วชี้ที่เท้านั้นมีจุดที่เชื่อมโยงกับดวงตา ดังนั้นถ้าอยากสดชื่นให้ดึงนิ้วชี้ที่หัวเท้า เอ่อ ... ดึงเบา ๆ ก็พอนะ เดี๋ยวนิ้วจะหลุดเอา หรือลองถูแรง ๆ ก็ได้ คุณจะรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเลยล่ะ สวมเสื้อสี เหลือง นอกจากจะแสดงถึงความจงรักภักดีต่อในหลวงของเราแล้ว สีเหลืองยังเป็นสีของตะวันเฉิดฉายที่จะกระตุ้นให้สมองของ คุณรู้สึกตื่นตัวด้วย เพราะฉะนั้นหากรู้สึกไม่สดชื่นก็หาเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับอะไรก็ได้สี เหลืองมาใส่ซะนะ อ่ะ .... ไม่เชื่ออย่าลบหลู่พลังแห่งสีนะจ๊ะ ลองทำดูนะ นี่ก็ว่าจะเอาไข่ขาวมาโปะหน้าล่ะ ง่วงหงาวหาวนอนเหลือเกิน เพื่อน ๆ ที่นี่คนไหนเคยลองวิธีไหน เอามาแจมกันได้นะคะ Free TextEditor   Create Date : 27 เมษายน 2553     Last Update : 27 เมษายน 2553 12:04:13 น. Counter : 405 Pageviews.   2 comment Share Tweet

• Group ตัวอย่าง
• ชีวิตการงาน
• สุขภาพ
• เรื่องทั่วไป
• ธรรมะ
• วิธีทำอาหารจากเวปต่างๆ
• ขำขำ
• ความรัก
• ความงาม
• จิปาถะ
• ท่องเที่ยว
• งานฝีมือ
• อาหารการกิน
• แม่และเด็ก
• โรคภัยไข้เจ็บ
• เบ็ดเตล็ด
• อื่นๆ
• วิทยาศาสตร์
• อร่อยๆ

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com