ฮัลโหลแทนใจ
















































เพื่อนๆรู้หรือป่าวว่า


การที่คุณจะใช้คำพูดหลังจากรับโทรศัพท์ขึ้นมานั้น

สามารถที่จะบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยของตัวคุณได้นะ

เอ้า!! ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ มาลองดูซิว่าปกติเพื่อนๆจะรับโทรศัพท์

ด้วยคำพูดคำแรกแบบไหนกัน









1. รับโดยบอกชื่อตัวเอง


2. รับโดยพูดอะไรแผลงๆ กวนๆ


3. รับโดยถามธุระทันที


4. รับโดยการทักทายสั้นๆ ง่ายๆ


5. รับโดยถามว่ามีอะไรให้รับใช้


6. รับอย่างเป็นทางการ


7. รับโดยถามทุกข์สุข


8. รับโดยใช้คำทักทายธรรมดา





























เลือกข้อ 1. รับโดยบอกชื่อตัวเอง


คุณเป็นคนที่นิสัยชอบความชัดเจนและตรงไปตรงมา
เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่ในกฎเกณฑ์ใดๆ และชอบแสวงหาประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ








เลือกข้อ 2. รับโดยพูดอะไรแผลงๆ กวนๆ


บ่งบอกถึงนิสัยของการที่มองโลกในแง่ดี ชอบหาความสนุกสนาน
ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มีบุคลิกอบอุ่น เข้ากับคนง่าย และยังเป็นคนใจกว้าง








เลือกข้อ 3. รับโดยถามธุระทันที


นิสัยของคุณค่อนข้างใจร้อนอยู่สักหน่อย บางครั้งคุณก็ดูเหมือนคนเย็นชา
จึงมักไม่มีคนกล้าเข้าใกล้ ที่จริงแล้วออกจะซื่อๆ








เลือกข้อ 4. รับโดยการทักทายสั้นๆ ง่ายๆ


เป็นคนมีน้ำใจงดงาม เห็นอกเห็นใจผู้อื่นเสมอๆ เป็นที่พึ่งได้กับทุกๆคน
มีความอดทนสูงต่อการกระทำที่แย่ๆของคนอื่นได้ดี








เลือกข้อ 5. รับโดยถามว่ามีอะไรให้รับใช้


เป็นคนมองโลกในแย่ดี รักความสะดวกสบาย ใจกว้าง เปิดเผย ไว้วางใจคนง่าย
หวังดีต่อทุกๆคน ไม่เคยมองถึงความเลวร้ายของใคร








เลือกข้อ 6. รับอย่างเป็นทางการ


คุณเป็นคนที่รู้จักกาลเทศะ รักความเป็นระเบียบแบบแผนมาก
ทั้งยังเป็นคนที่ไม่ชอบการเสี่ยงภัยใด ทั้งสิ้น








เลือกข้อ 7. รับโดยถามทุกข์สุข


คุณเป็นคนที่มีนิสัยอ่อนโยน มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน
จึงเข้ากับใครๆได้โดยง่าย เกลียดเรื่องที่โหดร้ายทารุณ
แถมยังเป็นคนที่เก็บอารมณ์เก่ง








เลือกข้อ 8. รับโดยใช้คำทักทายธรรมดา


คนส่วนใหญ่มักใช้กัน เช่น สวัสดีค่ะ/ครับ หรือ ฮัลโหล นั้น
คุณมีนิสัยรักความเรียบง่าย ไม่ชอบโอ้อวดตน
รวมทั้งไม่ชอบการแสดงออกเท่าที่ควร เป็นคนที่มีความอดทนสูงต่อการเรียนรู้






Free TextEditor





















































 

Create Date : 10 เมษายน 2553    
Last Update : 10 เมษายน 2553 9:52:48 น.
Counter : 361 Pageviews.  

ปัญหาผมร่วง ผมบาง

















































"มาดูสาเหตุและวิธีป้องกัน"

โดยธรรมชาติเมื่อคนเราเริ่มมีอายุมากขึ้น
เส้นผมก็จะเริ่มหมดอายุ
หลุดร่วงไปบ้าง
แต่ก็จะมีการสร้างขึ้นใหม่ทดแทน แต่ในบางคน ผมร่วงก่อนวัย
ไม่มีการสร้างขึ้นมาใหม่ เราควรจะทราบสาเหตุด้วยนะคะว่าเกิดจากอะไร
มีสาเหตุใดบ้างที่ทำให้ผมร่วง
และมีวิธีการแก้ไขหรือป้องกันไม่ให้ผมร่วงได้อย่างไร










สาเหตุหลักที่ทำให้ผมร่วง


1. ได้รับสารเคมีบ่อยๆ เป็นประจำ เช่น น้ำยาดัดผม, สเปรย์,
คลอรีนที่อยู่ในน้ำ


2. ใช้ยาสระผม และครีมนวดผม ที่ไม่ถูกกับหนังศรีษะ


3. เกิดจากความเครียด


4. ติดยาเสพติด, ติดบุหรี่


5. เป็นโรคร้าย เช่น มะเร็ง


6. ขาดสารอาหาร โดยเฉพาะโปรตีนจากสัตว์


7. ภาวะหลังคลอดบุตร ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ไม่ต้องตกใจนะ

คะ ผมที่ร่วงหลุดไป จะมีการสร้างขึ้นมาใหม่อีก










การป้องกันไม่ให้ผมร่วง


1. เลือกรับประทานอาหารและของที่มีประโยชน์กับเส้นผม เช่น ธัญพืช,
ข้าวกล้อง, งาดำ, เมล็ดทานตะวัน, ฟักทอง


2. ควรนวดหนังศรีษะเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพื่อบำรุงรากผมบ้าง


3. ควรทำความสะอาดผมอย่างสม่ำเสมอ


4. ควรใส่ครีมบำรุงผม ทุกครั้งที่สระผม


5. ควรรับประทานแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อรากผม เช่น Biotin
ซึ่งมีคนรับประทานเยอะมาก และส่วนมากอาการผมบางจะดีขึ้น
มีการสร้างผมใหม่ขึ้นมาทดแทน, Zine ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่เมื่อร่างกายเราขาด
จะทำให้ผมร่วง






Free TextEditor





















































 

Create Date : 10 เมษายน 2553    
Last Update : 10 เมษายน 2553 9:50:32 น.
Counter : 301 Pageviews.  

สายตาเมื่อยล้ากับการกะพริบตา













































"การจ้องคอมฯนานๆจะทำให้กะพริบตาน้อยลง
ตาจึงแห้ง"

เคยรู้สึกรำคาญอาการตาแห้งและคันขณะทำงานบ้างไหม
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอ
พบว่า การเพ่งมองจอคอมพิวเตอร์
ทำให้เรากะพริบตาน้อยลงจนตาแห้งได้


คณะผู้วิจัยติดขั้วไฟฟ้าไว้ที่เปลือกตาผู้เข้าร่วมวิจัยสิบราย
เพื่อติดตามการทำงานของกล้ามเนื้อตาที่ใช้ในการเพ่งมองและกะพริบตา พบว่า
ความถี่ของการกะพริบตา 15 ครั้งต่อนาทีขณะพักผ่อน ลดเหลือเพียง 7.5
ครั้งต่อนาทีขณะเพ่งมอง










"เครื่องปรับอากาศก็ทำให้ตาแห้ง"


แอนดรูว์ โฮแดนจากสมาคมจักษุมาตรแห่งออสเตรเลียกล่าวว่า
การเพ่งมองและหรี่ตา เพื่อลดแสงจ้าจากจอคอมพิวเตอร์อาจทำให้กะพริบตาน้อยลง
นอกจากเครื่องปรับอากาศก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ตาแห้ง


เมื่ออ่านหนังสือ เราสามารถพักสายตาได้ขณะพลิกเปลี่ยนหน้า
แต่ระหว่างจ้องจอคอมพิวเตอร์ไม่มีช่วงเวลาให้สายตาได้พัก โฮแกน
แนะให้มองไปนอกหน้าต่างไกล ๆ
และมองไปรอบห้องเป็นระยะเพื่อพักสายตาจากคอมพิวเตอร์บ้าง






Free TextEditor





















































 

Create Date : 10 เมษายน 2553    
Last Update : 10 เมษายน 2553 9:48:49 น.
Counter : 714 Pageviews.  

รักษารองเท้าให้เหมือนใหม่













































"วิธีรักษาให้สวยนาน"

คุณมีรองเท้าคู่โปรดหรือเปล่า ถ้ามี
แล้วคุณมีวิธีการรักษารองเท้าคู่โปรดของคุณอย่างไร

ให้ดูเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา ถ้ายังไม่รู้
วันนี้เรามีเคล็ดลับการดูแลรักษารองเท้ามาฝากกัน

1. เริ่มแรกเลยนะคะ ตอนคุณไปซื้อรองเท้า
โดยเฉพาะรองเท้าดีมียี่ห้อ ราคาสูง
จะสังเกตว่าทางร้านมีที่ยึดรองเท้าใส่ไว้
หรือไม่ก็มีไม้หรือพลาสติกก้านยาวยึดรองเท้าให้ได้รูปทรง
ถ้าเจอแบบนี้แล้วอย่าทิ้งค่ะให้เอากลับมาด้วย
แต่ถ้าไม่มีให้ก็ลองถามพนักงานว่ามีขายไหม
ลงทุนซื้อมาเองเลยเพื่อรองเท้าของเราจะได้ทรงสวยไปอีกนาน

2. เวลาซื้อรองเท้า
เขามักให้กล่องมาด้วยใช่ไหม อย่าปฏิเสธค่ะถ้าไม่เป็นการหนักหนาอะไร
ขนกลับมาบ้านด้วย เพราะมันจะช่วยเก็บรักษาไม่ให้ฝุ่นเกาะ
แต่ถ้าไม่อยากถือให้พะรุงพะรัง ก็จะมีถุงผ้าสำหรับใส่รองเท้า
ซึ่งพวกรองเท้ามียี่ห้อมักจะมีให้ในกล่องอยู่แล้ว

3. ตู้ใส่รองเท้า
ควรเป็นตู้มิดชิดที่ป้องกันฝุ่นได้ ถ้าไม่เป็นตู้ปิดทึบ
เป็นตู้แบบเปิดโล่งก็ได้ แต่ควรมีถุงผ้า ถุงพลาสติก
หรือกล่องใส่ก่อนเพื่อกันฝุ่น
ซึ่งตู้หรือที่วางรองเท้าควรอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก
เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น ถ้าใส่ในตู้ต้องมียากันชื้นไว้ด้วย

4. เมื่อกลับมาถึงบ้าน
ไม่ควรเอารองเท้าเก็บใส่ตู้ในทันที
ให้ทิ้งไว้ข้างนอกสักหนึ่งวันแล้วค่อยเก็บในตู้เพราะแต่ละวันที่ใส่รองเท้า
อาจมีเหงื่อออกที่เท้าทำให้รองเท้ามีความชื้นต้องปล่อยให้แห้งก่อน
แล้วจึงทำความสะอาดรองเท้าก่อนใส่ตู้

5. การดูแลรองเท้าจำพวกหนังมัน
ให้ใช้ผ้านุ่มสะอาดเช็ดรองเท้าก่อน เป็นการทำความสะอาดในขั้นแรก
จากนั้นจึงใช้ผ้าเนื้อนุ่มอีกผืนป้ายยาขัดรองเท้า ในลักษณะวนเป็นวง ๆ
ให้ทั่วรองเท้า แล้วใช้แปรงเนื้อนุ่มสำหรับขัดรองเท้า ค่อย ๆ
ขัดอย่างเบามือแต่รวดเร็ว จะทำให้รองเท้าเงาเหมือนใหม่
สุดท้ายให้ใช้ผ้าสะอาดนุ่มเช็ดเบา ๆ อีกครั้ง
หรืออาจจะใช้น้ำยาสำหรับเพิ่มความเงาป้ายและขัดเพิ่มให้หนังมีความมันและไม่
ติดสิ่งสกปรกง่าย

6. รองเท้าหนังกลับให้ใช้แปรงขัดรองเท้าปัดเบา ๆ
ให้ฝุ่นออก แล้วใช้สเปรย์ลำหรับหนังกลับฉีดให้ทั่ว
เพื่อหนังจะได้สวยตามเดิม และควรใช้สเปรย์ตามสีของหนังด้วย

7. ควรนำรองเท้าออกมาผึ่งแดดบ้าง
เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรคหากรองเท้าคุณเปียกน้ำมาให้นำไปตากแดดจนเกือบแห้ง
แล้วใช้ที่ยึดรองเท้าใส่เขาไป ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทจึงค่อยเอามาทำความสะอาด
วิธีนี้จะช่วยให้รองเท้าไม่เสียทรง

8.
แต่ถ้ารองเท้าใส่เสียจนเก่าจนเกินเยียวยาก็ทิ้งไปเถอะค่ะ

เพราะจะไม่ดีต่อสุขภาพเท้า อย่าลืมนะคะว่าเราต้องเดินทุกวัน

ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปลองใช้กับรองเท้าคู่โปรดของ
คุณดู รับรองว่า คุณจะมีรองเท้าคู่โปรดใส่ไปได้อีกนาน
และยังดูเหมือนใหม่อีกด้วย...

















Free TextEditor





















































 

Create Date : 10 เมษายน 2553    
Last Update : 10 เมษายน 2553 9:46:26 น.
Counter : 426 Pageviews.  

หัวเราะ..ยาวิเศษที่ไม่ต้องหาซื้อ













































"รักษาได้ตั้งแต่โรคซึมเศร้าจนถึงโรคหัวใจ"

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า
ถ้าเรานำเสียงหัวเราะมาสังเคราะห์เป็นยาได้

เราคงจะมียาวิเศษที่สามารถรักษาโรคทุกชนิดได้ตั้งแต่ โรคซึมเศร้า
ไปจนถึงโรคหัวใจเลยทีเดียว


เพราะการหัวเราะทำให้อวัยวะทุกส่วนตั้งแต่หัวใจ ปอด กล้ามเนื้อ สมองไป
จนถึง ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างดี


การหัวเราะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันของคนเราได้ 2 ทางคือ ทางแรก เพิ่มระดับความ
เข้มข้นของแอนตี้บอดี้ที่เป็นภูมิคุ้มกัน หมนุเวียนใน กระแสเลือด
ส่วนที่สอง เป็นการเพิ่มระดับเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นตัว กำจัดสิ่งแปลกปลอม
ที่หลุดเข้ามา ในร่างกาย


การเปลี่ยนแปลงทั้งสองแบบนี้ จะช่วยทำให้เรามีภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ
มากขึ้นนั่นเอง










"บำบัดอาการเครียดได้"


ในอเมริกา แคนาดา อังกฤษ และอีกหลายประเทศ การรักษาผู้ป่วย
ด้วยการหัวเราะกำลังเข้ามามีบาบาทแทนที่การบำบัดด้วยการใช้ยาคลายเครียด
และยาแก้ปวด เพราะอารมณ์ขันให้ผลเช่นเดียว กับการออกกำลังกาย
เป็นการเพิ่มระดับฮอร์โมนฝ่ายดี เช่นฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน
ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยระงับความเจ็บปวด และ Neurotransmitter
เช่นฮอร์โมนเซโรโทนิน เป็นฮอร์โมนที่ทำให้ เราอารมณ์ดี
ขณะเดียวกันก็ทำให้ระดับฮอร์โมนความเครียดลดลง


นักวิจัยแสตนฟอร์ดพบอีกเช่นกันเดียวกันว่า หัวเราะเพียง 10 วินาที
มีค่าเท่ากับการออกกำลังกายบนเครื่องกรรเชียงถึง 3 นาที
เพราะการหัวเราะทำใหัหัวใจ และชีพจรเต้นเร็วกว่าปกติเล็กน้อย
เมื่อหยุดหัวเราะ ร่างกายจะค่อยๆคืนสู่สภาวะปกติ จึงรู้สึกผ่อนคลาย


รู้ว่าการหัวเราะมีประโยชน์ขนาดนี้แล้ว คุณยังจะนั่งเศร้าไปอีกทำไม
ลองหาหนังสือขำขันสักเล่ม หรือหนังตลกสักเรื่องมาเปิดดู รับประกันได้ว่า
คุณเหมือนได้ยสวิเศษที่ไม่ต้องออกไปวิ่งหาซื้อยาราคาแพงที่ไหน
แต่เกิดขึ้นได้ที่รอยยิ้ม และเสียงหัวเราะของคุณเอง...!!!






Free TextEditor





















































 

Create Date : 10 เมษายน 2553    
Last Update : 10 เมษายน 2553 9:44:39 น.
Counter : 357 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.