นอกใจ แค่คิดก็ผิดแล้ว




























































วิธีจับผิดคนรักนอกใจ"


คุณคงเคยอ่านบทความตามนิยสารที่มีหัวข้อทำนองว่า "วิธีจับผิดคนรักนอกใจ"
ซึ่งคุณจะสามารถเปิดโปงพฤติกรรมของเขาได้อย่างชัดเจน


แต่ คุณรู้ไหมว่าชายหนุ่มของคุณอาจนอกใจคุณได้ในขณะนี้ ทั้งที่อยู่ที่ทำงาน
ความจริงแล้วคุณเองก็นอกใจเขาได้เช่นกัน โดยไม่รู้ตัวด้วย
การนอกใจไม่จำเป็นต้องแอบพบกันลับๆ
แต่เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ทางเพศพฤติกรรมนี้ทำลายชีวิตคู่ของคุณได้










ผู้ต้องสงสัย


ขอ
ให้เข้าใจถูกต้องว่าการเผลใจก็มีผลเสียเท่าๆกับการมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น
การนอกใจคือเมื่อคุณทุ่มเทใจส่วนใหญ่ให้คนอื่นที่ไม่ใช่คู่ของตน
ถ้าใครสักคนสนุกสนานแลทุมเทให้กับการถกเถียงทางความคิดกับเพื่อนร่วมงาน
จนเมื่อกลับถึงบ้านและคนรักอยากพูดคุยด้วย
แต่เขาหรือเธอคนนั้นกลับใจลอยนึกถึงเพื่อนร่วมงานและสิ่งที่คุยกัน
เขาคงไม่รู้ว่าตัวเองกกำลังขโมยความเอาใจใส่รักใคร่ใยดีที่เป็นสิ่งสำคัญ
ออกจากชีวิตคู่










โอกาสเป็นใจ


อย่า
หลงคิดไปว่าการผูกพันด้านอื่นโดยไม่มีเซ็กซ์เกี่ยวข้องนั้นคือเป็นเรื่อง
ปลอดภัย ความสนิทสนมลึกซึ้งไม่ว่าในรูปแบบใดกับบุคคลที่สาม
ซึ่งเป็นการทรยศความไว้ใจระหว่างคู่รักถือเป็นการนอกใจทั้งสิ้น
เป็นเรื่องง่ายจนน่ากลัวที่เราจะเผลอไฟลสร้างมิตรภาพที่สนิทเกินเหตุสัก
หน่อย โดยเฉพาะเมื่อคุณต่างมีความสัมพันธ์ "มั่นคง ปลอดภัย" กับคนอื่นอยู่
จากสภาพที่เราทำงานร่วมกับเพศตรงข้ามมากมาย
และแทบไม่มีขอบเขตจำกัดในโลกอินเตอร์เน็ต
ย่อมแสดงว่าเรามีโอกาสเหลือเฟือที่จะเป็นชู้ทางใจ










สัญญาณอันตราย


บ่อย ครั้งคนที่นอกใจไม่สามารถปิดบังพฤติกรรมของตัวเองได้
เพราะในสายตาของพวกเขา ไม่ใช่การทรยศนอกใจใคร
เป็นเรื่องธรรมที่คู่รักจะมีชีวิตสังคมยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น
แน่นอนในฐานะเพื่อน ดังนั้นอยู่ในฐานะเพื่อนร่วมดื่มทุกคืน
คุณอาจสมควรสงสัยบ้าง คนที่เป็นชู้ทางใจอาจอ้างว่าพวกเขาบริสุทธิ์
แต่แท้จริงแล้วมันขึ้นอยู่กับคู่ของเขาที่จะตัดสินว่าพวกเขารู้สึกถุฏทรยศ
หรือเปล่า
พฤติกรรมปิดบังทุกรณีที่ทำให้คู่ของตนเกิดความหึงหวงถือเป็นการนอกใจทั้ง
นั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร
โดยทั่วไปแล้วมักคิดว่าผู้หญิงจะเจ็บปวดกับการที่คนรักปันใจให้หญิงอื่น
ยิ่งกว่าการที่เขามีเซ็กซ์กับหญิงอื่นเสียอีก
ส่วนผู้ชายจะเจ็บปวดกว่าถ้ารู้ว่าแฟนตัวเองมอบกายให้ชายอื่น
อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องยากที่จะปลอบใจคู่รักที่มีปัญหาเรื่องคนรักปันใจ
ถึงยังไงก็ต้องมีความรู้สึกว่าตนถูกทอดทิ้ง










ยั้งใจก่อนสายเกิน


แม้ ว่าการเผลอใจไม่ได้จบที่เตียงเสมอไป ประมาณ 60%
ทีเดียวที่จะกลายเป็นความสัมพันธ์ทางเพศ ไม่ใช่ข่าวดีนัก
แต่ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่มีแนวโน้มจะเป็นเช่นนั้น
ก็ยังมีทางยับยั้งใจและรักษาชีวิตคู่เอาไว้
ตราบใดที่คุณยังมีสติและมุ่งมั่น

แต่ความซื่อสัตย์ที่โหดร้ายก็จำเป็นถ้าต้องการxxx้ชีวิต คู่กลับคืนมา
จริงอยู่ว่าไม่มีใครอยากได้ยินข้อความหวานๆ ในจดหมายพวกนั้น
แต่คนที่นอกใจต้องตัดสินใจว่าความต้องการของตนและคนรักจะพบกันครึ่งทางได้
ไหมในการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน










กันไว้ดีกว่าแก้


สิ่ง ที่เรามักจะไม่เข้าใจคือชีวิตคู่ไม่ได้ดำเนินไปด้วยตัวมันเอง
แต่เราต้องทุ่มเทดูแลมัน คนเราหมดรักใคร่กันได้เร็ว
คนใหม่อาจดูน่าตื่นเต้นกว่าคนที่เราเห็นหน้าทุกวัน
วิธีป้องกันคือเติบโดตไปพร้อมกัน ด้วยการไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน
กินข้าวด้วยกัน สังคมสอนเราว่าจะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานก็ต้องลงแรง
แต่เราไม่ได้นำแนวคิดนั้นมาใช้กับชีวิตคู่เลย
คนเรามักคิดว่าถ้ามันไม่ราบรื่นด้วยตัวมันเอง ก็หมายความว่าไปกันไม่ได้
ชีวิตคู่ต้องการความทุ่มเท แต่มันเป็นแรงงานที่เต็มไปด้วยรัก










วิธีป้องกันอย่างเดียวคือ


ไม่มีใครสามารถล็อคตัวคนรักไว้ได้ ถ้าเขาหรือเธออยากนอกใจ
ไม่ว่าจะในที่ทำงานหรือแก้ผ้าในปาร์ตี้บ้าระห่ำ เขาก็จะทำอยู่ดี
พยายามสร้างสัมพันธ์ทางใจกับคนรักอย่างต่อเนื่อง







Free TextEditor





















































 

Create Date : 08 เมษายน 2553    
Last Update : 8 เมษายน 2553 0:24:05 น.
Counter : 353 Pageviews.  

10 นิสัยที่คนรักระอา










































































คนเราตอนรักกันใหม่ๆ อะไรๆ ก็ดีไปเสียหมด อย่างคำที่ว่า ยามรัก
น้ำต้มผักก็ว่าหวาน แต่เมื่ออยู่กันไปนานๆ ความเป็นตัวของตัวเอง
กับความเคยชิน ก็เลยทำอะไรบางอย่าง ซึ่งอีกฝ่ายหนึ่งอาจจะรับไม่ได้
จนถึงขั้นต้องบอกเลิกรากันไป ดังนั้น วันนี้ จะขอบอกเล่าเก้าสิบ
เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้คนรัก ต้องเลิกรามากที่สุด เพราะนิสัยเหล่านี้
ไม่ข้อใดก็ข้อหนึ่ง










1. เอาแต่ใจตัวเอง


เป็นเรื่องธรรมดามาก ที่ทุกคนต้องเอาแต่ใจตัวเองกันอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่าใครจะเอาใจตัวเองมาก หรือน้อยเท่านั้นเอง
บางคนคิดว่าเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองน้อย แต่ความจริงแล้วมากเนี่ย
ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เลย










2. ทำตัวเป็นเจ้าของมากเกินไป


การที่คุณแสดงตัวให้ใครต่อใครได้รู้ว่าคุณกับเขาเป็นแฟนกันเนี่ย
ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เพียงแต่บางครั้งคุณอาจแสดงความเป็นเจ้าของเขาในลักษณะที่เป็นเงาตามตัวกัน
เลย เช่น ไปไหนไปด้วย ตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋
โดยไม่ให้เขามีเวลาส่วนตัวแม้แต่นิดเดียว ก็อาจเป็นปัญหาได้เหมือนกัน










3. หึงแบบไร้ขีดจำกัด


คงจะห้ามกันได้ยาก เรื่องความหึงเนี่ย แต่ต้องมีลิมิตกันบ้างนะ
ไม่ใช่ว่าเพื่อนคุยด้วยก็ยังหน้ามืดตามัว หึงขนาดนั้น คงจะไม่ไหว
บางคนเข้าขั้นโทรเช็คตลอดเวลา อันนี้น่าเป็นห่วงมาก










4. บอกเลิกทุกครั้งที่ทะเลาะ


ส่วนใหญ่จะเกิดจากฝ่ายหญิงซะมากกว่า จริงๆ
แล้วก็พูดแค่อยากให้เขามาง้อเท่านั้น
ซึ่งวิธีนี้จะใช้ได้ผลในช่วงแรกเท่านั้น แต่หลังๆ ล่ะก็ เอ้า..
อยากเลิกดีนัก เลิกเลยดีกว่า น้ำตาเช็ดหัวเข่า










5. ไปเจ๊าะแจ๊ะกับคนอื่น


ถือได้ว่าคุณไม่ได้ให้เกียรติคนที่คุณรักเลย
ซึ่งทุกคนก็ย่อมหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง บางครั้งอาจทำ
เพื่อให้อีกฝ่ายหึงเล่นๆ เป็นการคอนเฟิร์มว่าคุณเองก็มีค่าสำหรับพวกเขา
แต่ต้องระวังนะ เพราะมองอีกมุม คือคุณไม่แคร์ความรู้สึกของเขาเลย
และถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ไม่รู้จะอยู่ด้วยกันไปทำไม










6. เชื่อเพื่อนมากเกินไป


บางครั้งเพื่อนก็ไม่อยากให้คุณมีแฟน ซึ่งก็โทษไม่ได้อีกนั่นแหล่ะค่ะ
เพราะจากที่เคยเจอกัน ทานข้าวด้วยกันทุกวัน
ก็กลับกลายเป็นว่าคุณไปตัวติดกับแฟนแทน หรืออาจจะด้วยความหวังดีมากเกินไป
ก็เลยคิดแทนคุณไปหมด ว่าแฟนคุณดีพอสำหรับคุณหรือเปล่า










7. โกรธแล้วไม่พูดด้วย


เป็นสาเหตุที่ทำให้คู่รักเลิกรากันมากที่สุดเลยก็ว่าได้
อาการแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า
หรือบางทีเรื่องที่โกรธอาจมาจากความเข้าใจผิด แล้วไม่พูดกัน
ก็ไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้










8. นัดแล้วไม่เป็นนัด


การเลื่อนนัด ประเภท เลื่อนแล้วเลื่อนอีก หรือว่ามาเลทแบบ นัดเช้ามาบ่าย
นัดบ่ายมาเย็น อาการแบบนี้เนี่ย บางคนเขารอบ่อยๆ รอไปรอมา
เลิกรอตลอดไปเลยก็มีนะ










9. พูดจาข่มกันต่อหน้าคนอื่น


อาจจะเพียงแค่อำกันเล่น แต่บางคนอำกันแรงเกินไป อาจจะเกิดการทะเลาะกันได้
ซึ่งเป็นสาเหตุเล็กๆ ที่จะนำไปสู่ความบานปลายได้










10. โกหก


บางคนโกหกเป็นนิสัย ทั้งที่บางทีไม่ได้ตั้งใจ
แต่ถ้าอีกฝ่ายเข้าใจก็คงไม่เป็นไร แต่ขอบอกว่าเรื่องอย่างนี้ น้อยคนนัก
ถึงจะยอมเข้าใจ







Free TextEditor





















































 

Create Date : 08 เมษายน 2553    
Last Update : 8 เมษายน 2553 0:21:45 น.
Counter : 304 Pageviews.  

ตำแหน่งไฝบอกนิสัย













































ตำแหน่งไฝ บนร่างกาย
ลักษณะไฝปานในร่างกายชาย-หญิง


1. บนศรีษะ ดีมีลาภลอย


2. หน้าผาก ใจกุศล ดาวพลูโต มีศิลธรรมดี ชอบสะสม และมีณาญหยั่งรู้


3. ขมับขวา เม็ดนูน จะเป็นคนก้ำพร้า จะดีเมื่อโตขึ้น
จะเป็นคนดีมีคนอุปถัมภ์เลี้ยงดู มีเพื่อนฝูงช่วย เหลือ


4. ขมับซ้าย เมื้อน้อยได้รับการเลี้ยงดูดี เติบใหญ่จะลำบาก


5. แสกหน้า รักอิสระ คู่สมรสอายุสูงกว่า หญิงชอบตลกคะนอง มีปัญญาทันคน


6. ขมับ ดาวเกตุ วาสนาดี มีผู้อุปถัมภ์


7. ชายผมก้านคอ ชอบละเอียดอ่อน ชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย นิสัยอ่อนโยน
ไม่ชอบสังคม


8. คิ้วขวา มีเสนห์ รักสวยรักงาม เป็นที่ถูกตาต้องใจของต่างเพศ
เจรจาพาทีไพเราะถ้าอยู่หัวคิ้วมี อารมณ์ทางเพศรุนแรง ปลาย คิ้วจะขี้อาย


9. คิ้วซ้าย เจ้าอารมณ์ เจ้าทุกข์ ถ้าอยู่หัวคิ้ว ดีมีความคิดในทางค้าขาย
เป็นนักธุรกิจติดต่อสังคมเก่งทัน คน หางคิ้ว จะมีโอกาสรวยได้มาก
แต่ใช้เงินเก่ง เลี่ยงกฎหมายฉวยโอกาสกระทำผิด


10. ก้านคอด้านหลัง ถึงมีเงินมีทอง แต่มักจะอาภัพ เป็นโรคทางระบบสมอง


11. ขมับขวา มีหัวคิดริเริ่มดี มีแต่ทางก้าวหน้าร่ำรวย ทำราชการดี
แต่ระวังจะต้องรับภาระหนักจนเกิน ไปโรคภัยทางสมองจะเบียดเบียนได้


12. ขมับซ้าย เจ้าความคิดสำหรับคนอื่น ทำคุณกับใครไม่ขึ้น มีอาชีพการงาน
แน่นอน


13. เปลือกตาขวา เป็นชายจะไม่สมหวังเกี่ยวกับความรัก หากเป็นหญิง
มักมีชายมาอุปการะ แต่มักมาก ทางกามคุณ มีกุสโลบายทางเพศ


14. เปลือกตาซ้าย มักมีลาภทางการเงิน และงานจากเพศตรงข้าม ปากว่ามือถึง
ไวไฟ หากเป็นหญิงมักเป็นหม้าย


15. หางตาขวา หรือร่องน้ำตา ชอบสนุกสนาน มีคู่ได้ไม่นานจีรังยังยืน
เงินทองไม่ขาดมือ


16. สะบักหลังทั้งขวาซ้าย ชอบทดลองสงสัยเกี่ยวกับกามาราณ์ตลอดเวลา
มีเสน่หในตัวเอง มักมีคน อุปการะ ชอบสนุกสนานร่าเริง ชีวิตมีทั้งดีและ
เสียปนกันไป ซ้ายจะดีกว่าขวา


17. ใต้ขอบตาขวา เป็นคนเจ้าเสน่ห์เป็นที่หลงใหลของเพศตรงข้าม
แม้ยิ้มแย้มได้ในยามที่ตัวเองระทมทุกข์ ขี้บ่น เจ้าอารมณ์ ไม่จริงใจกับใคร


18. ใต้ขอบตาซ้าย เป็นคนอารมณ์ดี เปิดเผย ขวานผ่าซาก มีศัตรู หาคน ไว้ใจยาก



19. ดั้งจมูก เป็นคนโชคดี วาสนาชะตาสูง สติปัญญาดีเอาตัวรอดได้
ทำธุริกจก้าวหน้า มีคุณธรรม


20. ปลายจมูก มีความสมบูรณ์ จะมีคู่หลายคนร่าเริง รักสวยงามเป็น
เสน่ห์แก่ผู้พบเห็น เป็นนักรัก


21. ข้างจมูกขวา วาสนาดี มีความเพียร มีสติปัญญาหลักแหลม ชีวิตราบรื่น


22. ข้างจมูกซ้าย มีโภคทรัพย์ ได้รับมรดก รักความสงบ มีศิลธรรมประจำใจ
มีโชคลาภเสมอ


23. แก้มขวา ,มีวาสนาดี จะไม่ยากจน เป็นครูอาจารย์ มีผู้นับถือมาก


24. แก้มซ้าย วาสนาดี แต่ค่อนข้างเจ้าชู้ มักมีความคิดเห็นแหวกแนว
จะได้รับมรดกจากญาติผู้ใหญ่


25. โหนกแก้มขวา จะมีนิสัยเห็นแก่ตัว มักเอาเปรียบคนในทางทุจริตประกอบ
มิจฉาชีพ ควรทำลายเสีย


26. โหนกแก้มซ้าย มีผู้อุปถัมภ์คำชู ใจกว้างชอบทำบุญ


27. ข้างหูขวา หน้า จะเป็นคนเจ้าปัญญา เลี้ยงตัวได้ แต่ไม่รวยเพราะกิน
อุดมคติมากไป


28. ข้างหูซ้าย หน้า เป็นนักธุรกิจที่ก้าวหน้า มองการ์ณไกล


29. ข้างหูขวาด้านหลัง เย่อหยิ่ง เชื่อความสามารถตนเองมากไป มักมีศัตรู


30. ข้างหูซ้าย หลัง จะเป็นคนหันหลังให้สังคม ร่ำรวยหลายครั้งและตกต่ำ
หลายหน เจ้าอารมณ์หึงหวง เอาแต่ใจตนเอง


31. ริมฝีปากล่าง ไม่ดี โมโหร้าย ปากร้าย แสนงอน ชอบทะเลาะ
สร้างความเดือดร้อน อยู่สันโดษจะมีสุข


32. หู มีมานะอดทน ปฏิภาณว่องไว มักใจคอโลเล แก่ตัวจะสบาย ขอบหนังสือ
เป็นนักเจรจา


33. บ่าขวา ใจคอเด็ดขาด มานะอดทน วัยกลายคนชีวิตจะดีกว่าเยาว์วัย


34. บ่าซ้าย โมโหร้าย ลำบากแต่เล็ก สูงอายุจะมีผู้อุปการะ ใจคอไม่แน่นอนมัก
เป็นหม้าย


35. กลางหลัง นิสัยเกียจคร้าน ไม่ชอบทำงาน โง่ แต่อวดดี


36. แขนซ้าย มักมีผู้อุปการะ ชอบของโบราณ มักยุ่งเสมอ หาความสุขยาก


37. แขนขวา กล้าหาญ ขอบเผชิญภัย ทำจริงมีโชคอยู่เสมอ


38. ข้อมือ พูดจริง เหนื่อย หากินไม่ค่อยพอ มีกามารมณ์รุนแรง
มักมีคู่หลายคน

39. ฝ่ามือ จะมีชื่อเสียง ขอบสมาคม ปัญญาดี


40. ง่ามมือ ปัญญาดี ใจบุญ มีความสุขตลอดชีวิต ถ้านิ้วขวา ดีกว่านิ้วซ้าย


41. นิ้วมือ อายุน้อยจะลำบาก สูงอายุจะมีชื่อเสียงปัญญาดี
หาทรัพย์ได้ง่ายแต่งงานแล้วจะมีความสุขสบาย


42. หน้าอก ขอบสมาคมวาสนาดี มักคิดฝัน เป็นนักแสดงดี ชีวิตสมรสมักติดขัด


43. หัวใจ เมื่อเด็กลำบาก เป็นผู้ใหญ่ จะมีหลักฐาน ใจนักเลง อนาคตจะสุขสบาย
คู่สมรสมีฐานะดี อาชิพค้าขายดี


44. ฐานนมทั้ง 2 ข้าง มักสุรุ่ยสุร่าย ใจอ่อนสมรสแล้วเลี้ยงลูกไม่ค่อยรอด
โง่ เขลา อายุเลย 30 ปีขึ้น ไปจะสุขสบายบ้าง


45. ฐานนมข้างซ้าย ขอบการศึกษา หาความสงบ ชอบค้นคว้า จะได้ลาภจาก ผู้ใหญ่
อย่าเกี่ยวข้องกับ หญิงจะเดือดร้อนวาสนาดี หลักฐานมั่นคง
จะอุดมไปด้วยสมบัติ


46. ฐานนมข้างขวา สติปัญญาน้อย เอาแต่ใจตน เห็นแก่ตัว มักตกยาก
การงานออกกำลังจึงได้ผล


47. สีข้างซ้าย โกรธง่าย ขอบเพศตรงข้าม มีเล่ห์เหลี่ยม อาชีพค้าขายดี


48. สีข้างขวา อดทนรักสงบ ศัตรูสูงอายุกว่า ใจรวนเรหาความแน่นอนยาก
มักลำบากแต่เล็ก


49. บั้นเอวซ้าย ปากร้าย ใจดี จะมีเกียรติชื่อเสียง แก่ตัวจะสบาย อาชีพค้า
ขายดีเป็นนักรัก


50. บั้นเอวชวา ซื่อสัตย์ กำพร้าแต่เด็ก มักลำบาก ชอบทำงานหลายอย่างใน
เวลาเดียวกัน บูชาความรัก


51. บั้นเอวซ้าย ปากร้าย ใจดี จะมีเกียรติชื่อเสียง แก่ตัวจะสบาย
อาชีพค้าขายดี เป็นนักรัก


52. กลางท้อง ชีวิตขึ้นๆ ลงๆ มักเดือดร้อนทางการเงิน สมาคมยาก
ไร้ความอายเรื่องการกิน


53. กระเพาะอาหาร ชอบสนุกใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ค้าขายจะร่ำรวย


54. สะดือ มีมานะ ฉลาดสุขุม มีผู้อุปถัมภ์ในการเงิน รักสวยรักงาม ขี้หึง
อาชีพ การช่างดี เป็นศิลปินดี ถ้าต่ำกว่าสะดือ จะเป็นศิลปิน


55. ท้องน้อย มีโชคลาภอยู่เสมอ รับราชการจะมีต่ำแหน่งสูง มักได้ลาภจาก
เพศตรงข้าม คู่สมรสตระกูล สูง


56. ขาหนีบ ใกล้ของลับ ชอบสวยงาม ยั่วยวนเก่ง
ชีวิตจะสบายมีเกียรติและชื่อเสียง








Free TextEditor





















































 

Create Date : 08 เมษายน 2553    
Last Update : 8 เมษายน 2553 0:18:16 น.
Counter : 451 Pageviews.  

วิธีสลัดเรื่องไร้สาระออกจากใจ















































บทความที่นำมาเสนอจากหนังสือเรื่อง Don´t Sweat the Small Stuff แต่งโดย

Richard Carlson



ผู้แต่งเชื่อว่านิสัยเกิดจากการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งครั้งแล้วครั้งเล่า


นิสัยเหล่านี้จะเกิดขึ้นเองตามสภาวะธรรมชาติและเกิดขึ้นบ่อยครั้งเสียจนเรา
ไม่รู้สึกว่าเป็นสิ่งผิดปกติหรือเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข


แต่หารู้ไม่ว่านิสัยที่ไม่ดีของเราเหล่านี้จะเป็นตัวบั่นทอนพลังชีวิต

ทำให้เราหมดกำลังใจ และทำให้เราเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย
ดังนั้น


ผู้แต่งจึงชี้ให้เห็นถึงนิสัยที่ไม่ดีและมิจฉาทิฏฐิที่ควรแก้ไข ดังนี้


1. ความคิดที่ว่าเมื่อประสบปัญหาต้องรีบแก้ไขทันที

ในช่วงที่ประสบปัญหาจิตใจจะวกวนสับสน เครียด อึดอัด
มึนงง

เศร้าสลดหดหู่ไม่ควรที่จะขบคิดแก้ไขปัญหาใด ๆ
เพราะยิ่งคิดยิ่งมึนงง

มองไม่เห็นทางออก
หรือถ้าคิดออกความคิดที่ได้ก็ไม่เฉียบคม

วิธีแก้ หยุดคิด ทำใจให้สบาย ๆ ปล่อยวาง
เมื่อจิตใจสงบจึงค่อยเริ่มแก้ไขปัญหา

แก้ไขปัญหาที่พอจะแก้ไขได้ก่อน

ปัญหาที่รุนแรงและเรื้อรังยากที่จะแก้ไขได้โดยทันที
ก็ให้ค่อย ๆ

แก้ไขไปทีละเปลาะสองเปลาะ
เมื่อปัญหาลดน้อยลงจะทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น

ปัญหาที่ยากย่อมต้องใช้เวลา ความพยายาม ความอดทน
และความต่อเนื่องเป็นธรรมดา


จงยอมรับความเป็นจริงทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเรา

คิดถึงเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้น(Worst
case scenario)

แล้วทำใจยอมรับให้ได้ เมื่อนั้นจิตใจจะสงบ


และในความเป็นจริงมันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่เราคิดไว้ก็ได้

จะทำให้เรายิ่งมีกำลังใจที่จะขบคิดแก้ไขปัญหาต่อไป


2. หงุดหงิดรำคาญใจ ทุกสิ่งทุกอย่างขัดหูขัดตาไปหมด
ไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลย

บุคคลที่มีความคิดประเภทนี้จะมีจิตใจคับแคบ
ไม่รู้จักให้อภัยผู้อื่น

เอาตนเองเป็นที่ตั้ง ชี้ถูกชี้ผิดอยู่ตลอดเวลา

นิดหนึ่งก็ไม่ได้นิดหนึ่งก็ไม่ยอม จิตใจร้อนรุ่ม
หาความสุขไม่ได้

ไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรืออยากทำงานด้วย มีศัตรูเต็มไปหมด


สุขภาพเสื่อมโทรมโรคภัยรุมเร้าเพราะมีความเครียดอยู่ตลอดเวลา

วิธีแก้รู้จักปล่อยวางเสียบ้าง
ในโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ

ไม่มีใครสามารถทำตามใจเราได้ทุกอย่าง

ทำอะไรก็ตามให้อยู่ในระดับกลาง ๆ พอดี ๆ
ไม่ต้องสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง

พูดจาให้นุ่มนวลอ่อนหวาน สบาย ๆ ไม่ต้องเอาเป็นเอาตาย

เอาจริงเอาจังไปเสียทุกเรื่อง


3. บ้างาน คิดว่าตนเองมีงานล้นมือ

ทุกอย่างมีแต่ความรีบเร่งจนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง

คนที่รีบเร่งทำงานหลาย ๆ อย่างแต่ทำไม่เสร็จซักอย่าง
งานส่วนใหญ่มักจะไม่มีสาระ

ไม่สำคัญ
ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นเพราะการรีบเร่งทำงานอยู่ตลอดเวลาจิตจะไม่ว่าง

กิริยาจะร้อนรน ขาดสติสัมปชัญญะ


ขาดความระมัดระวังทำให้ไม่รู้ตัวว่าตนกำลังทำสิ่งที่ไร้สาระอยู่

เมื่อพลังงานส่วนใหญ่สูญเสียไปกับการทำเรื่องเล็ก ๆ น้อย


งานที่ออกมาก็ไม่มีประสิทธิภาพ


เมื่อโดนตำหนิก็เกิดความเครียดทำให้ต้องรีบสร้างผลงานมากขึ้นเพื่อชดเชยความ
ผิด

แต่ยิ่งรีบก็ยิ่งผิด
วนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์ไม่มีที่สิ้นสุด



วิธีแก้เลือกทำในสิ่งที่สอดคล้องกับเป้าหมายในชีวิตถามตนเองว่าสิ่งที่กำลัง
ทำ

กำลังพูด และกำลังคิดอยู่นี้จะทำให้เรามีความสุขขึ้น
เป็นคนดีมากขึ้น

มีสติปัญญามากขึ้น และมีเงินทองมากขึ้นหรือไม่
ถ้าไม่ก็ให้ตัดทิ้งเสียเช่น

การนินทาว่าร้ายเจ้านาย เป็นต้น ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
เพราะสิ่งต่าง ๆ

ที่ทำในปัจจุบันจะส่งผลไปยังอนาคตอย่างแน่นอน
ให้บอกตนเองเสมอว่า

ในโลกนี้มีงานต่าง ๆ อีกมากมายทำเท่าไรก็ทำไม่หมดหรอก

ทำแต่สิ่งที่สำคัญเท่านั้นก็พอ
ให้ตระหนักถึงสัจธรรมที่ว่า

ถึงแม้ว่าเราจะจากโลกนี้ไป
โลกมันก็ยังคงดำเนินต่อไปได้โดยไม่ต้องมีตัวเรา

อย่าสำคัญตัวเองมากนัก หยุดทำงานทุกอย่าง
นั่งสงบนิ่งดูลมหายใจ (อาณาปาณสติ)

สัก 15 นาที
เจริญมรณานุสติโดยการคิดว่าถ้าจะต้องตายในอีก 7 วันข้างหน้า

เราอยากทำสิ่งใดมากที่สุด


(แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับบุคคลที่เป็นโทสะจริตเพราะมีมรณานุสติเป็นอารมณ์อยู่
แล้ว)


4.
คิดเอาตนเองเป็นใหญ่และคิดอาฆาตแค้นพยาบาทคนอยู่ตลอดเวลา

ความคิดนี้เป็นความคิดในแง่ลบ (Negative thinking)
ซึ่งเป็นตัวบั่นทอนพลังชีวิต


ทำให้เราเป็นคนย้ำคิดย้ำทำและเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายโดยที่เราไม่รู้ตัว
การกระทำ

คำพูดและแววตาจะแสดงออกมาด้วยความก้าวร้าวรุนแรง

วิธีแก้ให้ระมัดระวังความคิดในแง่ลบ

เมื่อมีความคิดเหล่านี้โผล่ขึ้นมาเองไม่ต้องสนใจ
ไม่ต้องคิดต่อ

ให้เปลี่ยนเรื่องคิดทันที


ให้หันมาคิดในแง่บวกแทนซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เกิดเองตามธรรมชาติจะต้องสร้าง
ขึ้นมา


ทำใจยอมรับว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความคิดที่เป็นอกุศลเช่น
ความอิจฉาริษยา

ความอาฆาตพยาบาท ความมีอัตตาตัวตน และความยึดมั่นถือมั่น
เป็นต้น

ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้รวมทั้งตัวเราเอง
ทุกคนเท่าเทียมกันหมด

เราจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปตัดสินผู้อื่นว่าถูกหรือผิด

หากเรายอมรับความเป็นจริงในข้อนี้ได้

เราจะรู้จักให้อภัยผู้อื่นและให้อภัยตัวเอง
รู้จักสำรวมคำพูดและการกระทำมากขึ้น


พยายามประคับประคองความคิดที่ดีให้อยู่นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


5. คิดดูถูกผู้อื่น และชี้ถูกชี้ผิดอยู่ตลอดเวลา

ความคิดเหล่านี้จะทำให้เรามีจิตใจคับแคบ
ไม่มีเมตตาต่อผู้อื่น

มีความเครียดเป็นอาจิณ วิธีแก้เอาใจเขามาใส่ใจเรา
เลิกเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง


หัดเข้าใจความคิดและอารมณ์ของผู้อื่นว่าทำไมเขาถึงพูดหรือทำเช่นนั้น

และถ้าเราอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขา
เราอาจจะทำแบบเดียวกับเขาก็ได้ เป็นต้น

ยอมรับว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่คิดเหมือนกับเรา ดังนั้น

การมีความคิดที่ขัดแย้งกันย่อมเป็นเรื่องธรรมดา

ไม่มีใครถูกใครผิดหัดฟังมากกว่าพูด สักแต่รู้สักแต่เห็น

รับรู้ทุกอย่างแต่อย่าคิดต่อ


ไม่ต้องหาเหตุหาผลไปซะทุกเรื่องพิจารณาอารมณ์ของตนเองว่าในขณะนี้เราสุข
ทุกข์

หรือเฉย ๆ
เพื่อหยุดความคิดซึ่งป็นบ่อเกิดแห่งอัตตาตัวกูของกู


6. คิดเอาชนะผู้อื่น


การโต้เถียงเอาชนะผู้อื่นเพียงเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราคิดนั้นถูกต้องเป็น
การสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช้เหตุ

และยังเป็นการสร้างศัตรูโดยที่เราไม่รู้ตัว



วิธีแก้พูดเท่าที่จำเป็นพูดแต่สิ่งที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์

รู้จักปล่อยวางเสียบ้าง หัดฟังมากกว่าพูด
และเอาใจเขามาใส่ใจเรา

พยายามประคับประคองจิตใจให้ผ่องใสอยู่เสมอ

หลีกเลี่ยงการโต้เถียงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้


7. คิดทวงบุญคุณจากผู้อื่น

การทวงบุญคุณจะทำให้จิตใจคับแคบ เต็มไปด้วยความอึดอัด
ไม่พอใจ ลังเลสงสัย

จิตใจสกปรกขุ่นมัวเพราะเป็นการทำดีเพื่อหวังผลตอบแทน

วิธีแก้
ช่วยเหลือโดยไม่ต้องคำนึงถึงผู้ให้ในที่นี้คือตัวเรานั่นเอง

ควรให้เพราะอยากช่วยเหลือไม่ต้องมีตัวเขาเราท่าน

ช่วยเหลือโดยไม่ต้องคำนึงถึงผู้รับ


คนไหนพอช่วยได้ให้ช่วยไปเลยไม่ต้องจำกัดว่าช่วยเพราะเป็นญาติเรา

หรือช่วยเพราะเขาทำดีกับเรา เป็นต้น ช่วยแล้วหันหลังกลับ
ไม่หวังผลตอบแทน


8. คิดกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง

การคิดวิตกกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงจะทำให้จิตใจว้าวุ่น
สับสน

เต็มไปด้วยความหวาดกลัว จิตใจล่องลอยไม่อยู่กับปัจจุบัน

วิธีแก้ รู้เนื้อรู้ตัวว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่
ทำแล้วเกิดผลอะไร

ทำวันนี้ให้ดีที่สุด คิดโกรธเกลียดหมั่นไส้ผู้อื่น
ความโกรธ เกลียด รำคาญ


และไม่ชอบหน้าบุคคลที่เคยทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจเป็นนิสัยที่เกิดได้กับมนุษย์
ทุกคน


แต่เมื่อมีความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นในจิตใจเราควรระมัดระวังไม่ให้แสดงออกมา
ทางสีหน้า

แววตา น้ำเสียง และการกระทำ นอกจากนั้น
เราควรมองบุคคลเหล่านั้นในแง่บวกเช่น


คนที่ตำหนิติเตียนเรานั้นอาจจะกำลังสอนให้เรารู้จักทำงานให้เป็นระเบียบมาก
ขึ้น


หรือคนนินทาว่าร้ายเรานั้นอาจจะกำลังสอนให้เรารู้จักวางตัว
พูดเท่าที่จำเป็น

เพราะเขารู้เรื่องของเราหมดจึงเอาไปคุยกันจนสนุกปาก
เป็นต้น


9. คิดน้อยใจในโชคชะตาของตนเอง

การคิดน้อยใจในชะตากรรมของตัวเองเช่น เกิดมายากจน
รูปร่างไม่ดี หน้าตาไม่สวย

เรียนหนังสือไม่เก่ง หรือทำอะไรก็สู้เขาไม่ได้ เป็นต้น


การคิดเช่นนี้นอกจากจะเป็นการบั่นทอนกำลังใจตัวเองแล้วยังทำให้ชีวิตจมปลัก
ไม่ก้าวหน้าไปไหน

เพราะมัวแต่ย้ำคิดย้ำทำแต่สิ่งเดิม ๆ


วิธีแก้ จงพอใจในสิ่งที่ตนมี
และอย่าคิดเปรียบเทียบกับคนอื่น

ระลึกและจดจำในสิ่งดี ๆ ที่เราได้รับจากคนรอบข้าง

รู้จักและยอมรับตนเองทั้งจุดเด่นและจุดด้อย


พัฒนาและใช้จุดเด่นของเราให้เป็นประโยชน์และปรับปรุงจุดด้อยหรือหาสิ่งอื่น
มาทดแทน

เรียนรู้จากประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต

ลืมอดีตที่ขมขื่นเพื่อทำปัจจุบันให้ดีที่สุด คิดในแง่บวก

และพยายามประคับประคองจิตใจให้ผ่องใสอยู่ตลอดเวลา


10.
นิสัยมองโลกในแง่ร้ายและคิดว่ามนุษย์ทุกคนล้วนเห็นแก่ตัว


การคิดเช่นนี้จะยิ่งเป็นการตอกย้ำความคิดในแง่ลบให้มากขึ้นเป็นทวีคูณ

มองความจริงไม่ตรงตามความเป็นจริง ปัญหาเล็ก ๆ

ก็ตีโพยตีพายจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โต จิตใจคับแคบ

หาความสุขไม่ได้เพราะจะคอยจับผิดผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา

วิธีแก้คิดถึงประสบการณ์ดี ๆ
ที่เราได้รับจากคนรอบข้างเช่น

คิดถึงบุคคลที่มีบุญคุณหรือมีน้ำใจกับเรา
เป็นต้นพยายามมองโลกในแง่บวก

อย่าปล่อยให้จิตมันคิดเอง


11. คิดว่าโลกนี้มีแต่ปัญหาเต็มไปหมด
แก้เท่าไรก็ไม่หมดเสียที


การคิดเช่นนี้นอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้วรังแต่จะเป็นตัวบ่อนทำลายกำลังใจ
ของเราเองเสียอีก

วิธีแก้ ให้มองปัญหาเสมือนด่านทดสอบความอดทน
ตัวฝึกฝนทักษะในการแก้ปัญหา

และเป็นแหล่งปัญญาที่หาไม่ได้จากในหนังสือ


มองปัญหาในแง่บวกว่ามันอาจจะเป็นสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าก่อนที่ความหายนะจะ
เกิดขึ้นก็ได้

ปัญหาทำให้เราเห็นข้อบกพร่องที่เราอาจจะมองข้ามไป

มองปัญหาเป็นเรื่องธรรมชาติที่มนุษย์ทุกคนต้องประสบ
อันไหนพอแก้ได้ก็ทำไปก่อน


คิดในแง่บวกและตั้งจิตว่าจะประคับประคองจิตใจให้ผ่องใสอยู่ตลอดเวลา


12. คิดว่าเราเก่งกว่าผู้อื่น ฉลาดกว่าผู้อื่น
หรือร่ำรวยกว่าผู้อื่น


ความคิดเช่นนี้จะส่งผลให้พฤติกรรมที่แสดงออกมาเต็มไปด้วยความหยิ่งยะโสโอหัง

อวดดี ถือตัว มองผู้อื่นด้วยสายตาดูถูกดูแคลน
วาจาจะรุนแรงและสามหาว

บุคคลรอบข้างจะรังเกียจ หมั่นไส้ และอิจฉาริษยา

ซึ่งเป็นการสร้างศัตรูโดยไม่รู้ตัว

วิธีแก้ ระมัดระวังคำพูด ความคิด และการกระทำ

ต้องมีสติรู้เนื้อรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา หัดมองตัวเอง
เลิกเปรียบเทียบกับผู้อื่น

อยากวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น


13. การด่าทอ เหน็บแนม ประชดประชัน และวิพากษ์วิจารณ์

เป็นอกุศลวาจาที่สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับผู้อื่น

ซึ่งเป็นการสร้างศัตรูโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนั้น

ความคิดเหล่านี้ยังเป็นที่มาของความโกรธ ความเกลียด

และความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจมนุษย์อีกด้วย


วิธีแก้ คิดก่อนพูดและไม่ต้องพูดทุกอย่างที่เราคิด

ถ้าพูดแล้วไม่สร้างสรรค์นิ่งเสียจะดีกว่า
เอาใจเขามาใส่ใจเรา

ในโลกนี้ไม่มีใครชอบถูกวิพากษ์วิจารณ์แม้แต่ตัวเราเอง







Free TextEditor





















































 

Create Date : 08 เมษายน 2553    
Last Update : 8 เมษายน 2553 0:15:24 น.
Counter : 308 Pageviews.  

มาฟังกัน ถ้าสิ่งของพูดได้ ...มันอยากพูดอะไร















































กระทะ - เปิดไฟเบา ๆ หน่อย..ร้อนนะโว้ย


โถส้วม - พี่ ๆ เสร็จแร้วราดน้ำด้วยสิพี่..เหลืองเชียว

ผักน่ะหัดกินซะมั่ง


ไฟฉาย - วันไหนที่เธอหมดหนทางสว่าง (ไฟดับ)

ขอให้เธอคิดถึงฉันเป็นคนแรก


ยกทรง เฮ้ย ๆ..จะเอาฟองน้ำมายัดทำมัยวะ...ยอมรับความจริงหน่อยดิ


โทรศัพท์ - หนวกหูว่ะ..พูดอยู่ได้ ปากก้อเหม็น

แม่งอย่างกะไปอมหมาเน่ามา


กล้องถ่ายรูป - หน้าเห่ย ๆ ทำท่าไหนก็ไม่สวยหรอกโว้ยย


นาฬิกา - เวลาไปไม่ทันนัด..โทษว่ากรูเสีย อ้ายบ้า!!

ให้กรูเป็นแพะรับบาปแทนเมิงอยู่เรื่อย


โลงศพ - สุดท้ายพวกเมิงก็มานอนกับกรู


เข็มทิศ -หลงทางสิเมิง!!


แก้ว - จับเบา ๆ หน่อยสิ แตกเมื่อไหร่เมิงเจ็บ


ผ้าเช็ดหน้า - น้ำตาพอไหว น้ำหมากน้ำลายน้ำมูก..ไม่เอานะเว้ยย


กระสอบทราย - ผมไปทำอะไรให้พี่เจ็บแค้นนักหนาเนี่ย


กีตาร์ - เล่นไม่ดีมาโทษกรูว่าสายเพี้ยน


ลูกฟุตบอล - เล่นกันจนผมเวียนหัวแร้วโว้ย...โยนกันไปกันมาอยู่ได้

อยากได้กรูชั่วครั้งชั่วคราวทั้งนั้น เชยชมสมเท้าแร้วก็เตะกรูส่ง..เวร


มีด - หั่นหมู..หั่นผัก ง่ายดาย แต่หั่นเธอออกจากใจ..ยากจัง


ผ้าเช็ดหน้า 2 - เข้าใจแร้วครับว่า..หมาตายในปากเป็นไง


พัดลม - เมิงเย็น..กรูร้อน


แอร์ - บิลค่าไฟมา โทษกรูทั้งปี


น้ำแข็ง - แค่เธอเอามือมาจับตัวฉัน ฉันก็แทบจะละลายคามือเธอแร้ว

ละลายในปาก..แระละลายในมือ


รองเท้า -เดินดูทางหน่อยสิวะ..เหยียบขี้หมาจนได้ ซวยเลยกรู..เต็ม ๆ

เลยเมิง แต่เต็มหน้ากรู!!


กระจก - อินี่บ้าหรือเปล่า มาถามอยู่ได้..ว่าใครงามเลิศในปฐพี


CD - แผ่นก๊อป..เราเป็นได้แค่ตัวแทนของใครบางคน

ไม่ใช่ตัวจริง..แต่ราคาถูกกว่า


หนังสือโป๊ - ช่วยเช็ดน้ำลายออกจากตัวผมด้วยครับ


ลูกอม - เทคนิคการใช้ลิ้นของเขา..เล่นเอาฉันละลายไปเลย


เข็มฉีดยา - ไม่ต้องกลัวนะที่รัก มันเจ็บเหมือนมดกันเอง


เข็มฉีดยา 2 -อ้ายเด็กเวงนี่..ร้องอยู่ได้จะกลัวทำมายแค่เข็ม

แม่เมิงตีเจ็บกว่ากรูอีก


ปฏิทิน - เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน แค่ปีเดียวเองนะครับ..ฉีกกรู กรูต่อย!!


หวี - ลุง..มีแค่นี้เอามือลูบก็ได้


เก้าอี้ - โอ้ว..ก้นช้างหรือคนวะเนี่ย


รีโมท - เราอยู่ในภาวะที่โดนกดดันอย่างหนัก

ลูกไก่ในกำมือชัด ๆ ทะเลาะกันทีไร..เขวี้ยงกรูทิ้งทุกที


กลอง- เฮ้ย ๆ เมิงอ่ะมัน แต่กุอ่ะเจ็บน่ะ เอาเข้าไป


จอคอมพิวเตอร์ ...... จ้องอยู่ได้ !!!! เขิลลลลลลล์นะ







Free TextEditor





















































 

Create Date : 08 เมษายน 2553    
Last Update : 8 เมษายน 2553 0:12:51 น.
Counter : 386 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.