ควบคุมความคิดได้ จะเป็นสุขได้

ควบคุมความคิดได้ จะเป็นสุขได้


คนบางคนมีชีวิตอยู่อย่างลำบาก เมื่อถึงเวลาต้องจากโลกนี้ไป

ผู้อยู่หลังก็เศร้าโศกสงสาร คิดรำพันไปว่าเขาเป็นผู้ที่น่าสงสาร

มาก เพราะมีชีวิตอยู่ลำบากแล้วยังมาตาย อะไรทำนองนี้ นับว่า

เป็นการใช้ความคิดผิดอย่างยิ่ง ให้โทษแก่จิตใจผู้คิดอย่างยิ่ง

ที่จริงเมื่อผู้มีชีวิตทุกข์ยากต้องมาเสียชีวิตไป ควรที่ผู้อยู่หลังจะ

มีสติคิดให้ถูกให้ชอบให้ไม่เป็นทุกข์เป็นโทษแก่จิตใจตนเอง


คือ ควรจะคิดว่าเขาผู้นั้นมีชีวิตอยู่อย่างลำบาก เพราะอำนาจแห่ง

กรรมของเขาเองที่ต้องเป็นกรรมไม่ดีแน่ เพราะกรรมไม่ดีเท่่านั้น

ที่จะให้ผลไม่ดี กรรมดีจะให้ผลไม่ดีไม่มีเลย เมื่อเขามาละโลกนี้ไป

เขาอาจจะไปเสวยผลของกรรมดี คือไปมีความสุขกว่าอยู่ในโลกนี้

ควรที่ผู้อยู่หลังจะยินดี เบาใจ ไม่ควรจะเศร้าเสียใจซึ่งเท่ากับยินดี

จะเห็นเขามีความทุกข์ต่อไปในโลกนี้


อันความคิดนั้นแม้สามารถควบคุมไว้ได้ ให้เป็นเหตุแห่งความสุข

ไม่ให้เป็นเหตุแห่งความทุกข์ จึงจะเป็นการถูกต้อง คิดอย่างไรก็ตาม

ให้จิตใจพ้นจากความทุกข์นับว่าถูกต้อง ในทางตรงกันข้าม คิดอย่าง

ไรก็ตาม ที่ทำให้จิตใจเป็นทุกข์ นับว่าไม่ถูกต้องเลย ไม่ควรปล่อยให้

ความคิดเช่นนั้นดำรงอยู่ได้เลย ต้องกำจัดเสียให้ได้โดยเร็วที่สุด


อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องกล่าวว่า แม้ต้องประสบกับการพลัดพราก

จากเป็นไม่ใช่จากตาย ก็อย่าคิดว่าพลัดพรากจากตายเสียดีกว่าให้

ทุกข์น้อยกว่า แล้วก็พยายามทำการพลัดพรากจากเป็นให้กลายเป็น

การพลัดพรากจากตายไปเสีย ดังมีปรากฎเป็นข่าวอยู่เสมอ การทำ

เช่นนั้นผิด ต้องไม่คิดทำเป็นอันขาด เมื่อต้องประสบการพลัดพราก

จากเป็นก็มีวิธีคิดเหมือนกัน แต่ต้องไม่ใช่คิดให้กลายเป็นการพลัด

พรากจากตายไปเสียเป็นอันขาด


การพลัดพรากจากเป็นกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ การต้องสูญเสีย ผู้

เป็นที่รักที่ชอบใจไปทั้งๆที่มิได้ล้มหายตายจาก เป็นการต้องจากไป

ทั้งยังมีชีวิตอยู่ทุกฝ่าย เช่นเกิดจากการเปลี่ยนใจในเรื่องความรัก

ชอบของฝ่ายหนึ่ง ในกรณีนี้มักก่อให้เกิดความทุกข์ความเศร้าโศก

เสียใจ หรือความแค้นเคืองให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งได้เป็นอันมาก


สำหรับผู้ไม่เห็นประโยชน์ของการบริหารจิต ก็ย่อมยินดีปล่อยใจให้

ตกอยู่ใต้อารมณ์แห่งความทุกข์ความเศร้าโศก หรือความโกรธแค้น

ดังกล่าว ทั้งยังใช้ความคิดไปในทางที่จะเพิ่มความรู้สึกหรืออารมณ์

เหล่านั้นให้รุนแรงยิ่งขึ้น โดยรู้สึกว่าเป็นสิ่งสมควร ที่จริงน่าจะเป็นที่

รู้สึกกันดีว่าความทุกข์ความเศร้าโศกเสียใจและความโกรธแค้นนั้น

ไม่ให้ส่วนที่ดีอย่างใดแก่จิตใจเลย ไม่เป็นสิ่งอันพึงปรารถนาเลย ไม่

น่าจะสงนรักษาหรือเพิ่มพูนความรู้สึกเช่นนั้นให้ยิ่งขึ้นเลย น่าแต่จะ

ควรหาทางทำให้ลดน้อยลงจนถึงหมดสิ้นไปเท่านั้น


และการจะทำให้สำเร็จผลดังกล่าวได้ก็มิใช่ว่าจะขึ้นอยู่กับผู้อื่น แต่

ต้องขึ้นอยู่กับเจ้าตัวเองเป็นสำคัญ ถ้าเจ้าตัวใช้สติพิจารณาให้เห็น

ว่าตนไม่ปรารถนาจะทนทุกข์ทรมาน เพราะความรู้สึกดังกล่าว

ปรารถนาจะพ้นความรู้สึกนั้นจริงๆ ก็ย่อมจะสามารถช่วยตนเอง

ได้ ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จได้ด้วยใจ ความจริง

คือสัจธรรมมีอยู่เช่นนี้


ฉะนั้น จงพิจารณาให้เห็นความจริงประการแรกว่า เรานี้ต้องการจะ

เป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ถ้าต้องการเป็นทุกข์ก็ปล่อยใจให้อยู่ใต้อำนาจ

ของความคิดที่เป็นเหตุแห่งความทุกข์เถิด แต่ถ้าต้องการเป็นสุขก็

ให้ระงับความคิดทั้งหลาย อันเป็นเหตุแห่งความทุกข์เสีย


ความทุกข์มิได้เกิดจากการพลัดพรากจากกัน ทั้งด้วยความเป็นหรือ

ความตาย แต่ความทุกข์เกิดจากความคิด เกิดจากใจ มีสติควบคุม

ความคิดให้ได้ อย่าให้ฟุ้งไป อย่าให้ติดอยู่ในเรื่องที่เป็นทุกข์แล้วก็

จะเป็นสุขได้ด้วยกันทุกคน....ฯ

20 มกราคม 2517


~ธรรมเทศนา....สมเด็จพระณาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช

สกลมหาสังฆปริณายก~

ขอนอบน้อมแด่คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์







Free TextEditor







































































































Create Date : 28 พฤษภาคม 2553
Last Update : 28 พฤษภาคม 2553 18:30:35 น. 0 comments
Counter : 285 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.