หลูเซิงเป็นชายหนุ่มยากจน
วัน หนึ่งหลูเซิงมีธุระจะไปที่เมืองหันตัน ตลอดทางเดินบ้างหยุดบ้างจนใกล้ค่ำมาถึงตำบลหนึ่ง เห็นมีโรงแรมจึงคิดจะพักสักคืน พรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อ โรงแรมนี้เล็กมาก มีห้องพักเพียง 2 ห้อง คืนนั้นนอกจากหลูเซิงแล้ว อีกห้องก็มีคนพักชื่อนักพรตหลี่ หลูเซิงนอนเล่นอยู่บนเตียง หวนรำลึกถึงชีวิตอันระหกระเหินของตน แล้วทอดถอนใจกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ นักพรตหลี่ที่พักอยู่ห้องติดกันได้ยินเสียงถอนใจก็รู้ว่าเขาต้องมีเรื่อง ทุกข์ใจ จึงลุกขึ้นมาที่ห้องเขาแล้วกล่าวว่า “ลุงได้ยินเสียงถอนใจ ถ้าเดาไม่ผิดเธอคงมีเรื่องไม่สมหวังกระมัง บอกลุงได้ไหม เพื่อจะช่วยแก้ไขอะไรได้บ้าง” หลูเซิงเห็น นักพรตลักษณะท่าทางใจดี มีเมตตา จึงเล่าถึงความเป็นมาของตนอย่างคร่าวๆ
นักพรตฟังแล้วก็ปลอบใจว่า
“คนเราอยากดีมีจนล้วนถูกกำหนดมาแล้วทั้งสิ้น อย่าคิดมากไปเลย” แล้วก็ล้วงหมอนใบหนึ่งจากในย่ามส่งให้หลูเซิงแล้วว่า “เธอเอาหมอนนี้ไปหนุนนอน จากนั้นทุกอย่างก็จะสมหวังเอง” “ขอบคุณท่านลุงที่สงเคราะห์” ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลุกขึ้นมาส่งนักพรตที่ประตู ขณะนั้นเจ้าของโรงแรมกำลังนึ่งข้าวเหนียวอยู่ หลูเซิงเดินมาส่งนักพรตที่ประตูแล้วก็ขึ้นนอนบนเตียงโดยเอาหมอนที่นักพรตมอบ ให้หนุนที่ศีรษะ เนื่องจากเหนื่อยล้าจากการเดินทาง พอหัวถึงหมอนก็นอนหลับทันที
เขาฝัน ว่าได้ไปที่เมืองหนึ่ง
มีเศรษฐีคนหนึ่งเกิดพึงพอใจ จึงยกบุตรีแสนสวยให้เป็นภรรยาพร้อมกับทรัพย์สินติดมาอีกมากมาย ภรรยาของเขานอกจากสวยแล้วยังเป็นแม่ศรีเรือนที่เฉลียวฉลาด หลังแต่งงานภรรยาได้เอาทรัพย์สิน ช่วยเขาสร้างฐานะจนร่ำรวย และให้กำเนิดบุตรชายหญิงที่ฉลาด และน่ารักอีกหลายคน
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
บุตร ชายหญิงต่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่และแต่งงานมีครอบครัว หลังจากนั้นก็ได้ลูกอีกหลาย คน ธุรกิจของเขาราบรื่นตลอดมาจนมีฐานะมั่งคั่ง มีความเป็นอยู่สุขสมบูรณ์ มีลูกหลานเต็มบ้านซึ่งทุกคนล้วนแต่กตัญญูต่อเขา
บัดนี้ก็อายุมากแล้ว
เขาจึงมอบ ธุรกิจทุกอย่างให้ลูกชายดูแล ตนเองและภรรยาก็พักผ่อนอยู่ในบ้านเล่นกับหลานๆ จนกระทั่งอายุ 80 ปีก็ถึงแก่กรรมอย่างสงบ
เขาตื่นขึ้นด้วยความสุข สดชื่น สมหวัง
พลัน จมูกได้กลิ่นหอมจากข้าวเหนียวที่กำลังนึ่งอยู่ยังไม่ทันสุก เมื่อครู่นี้ลูกเมีย ความมั่งมีศรีสุข ที่แท้เป็นเพียงความฝันเท่านั้น ดูเหมือนเขาจะรู้สึกเสียดาย
นักพรตหลี่ที่อยู่ห้องติดกัน เหมือนจะรู้ว่าเขาตื่นจึงมาปรากฏตัวที่ห้องของเขาและกล่าวว่า “พ่อหนุ่มปลงเสียเถิด ชีวิตคนเราผ่านไปรวดเร็วแค่นี้เอง ความมั่งมีศรีสุขดั่งเมฆหมอกที่ผ่านสายตา แผลบเดียวก็หายไป มีอะไรที่น่าอิจฉา น่าแสวงหาเล่า ไฉนต้องไปสนใจกับลาภยศสรรเสริญอันจอมปลอม” หลูเซิงได้ผ่านความฝันนี้ ทั้งได้รับการชี้แนะจากนักพรตทำให้รู้แจ้งถึงสัจธรรมแห่งชีวิต ลูกรักเมียขวัญไม่ต่างอะไรกับภาพมายาฉากหนึ่ง แป็บเดียวก็หายไป ซึ่งไม่ควรค่าแก่การรักอาลัย เหตุนี้ชายหนุ่มจึงปลงได้ในที่สุด
|
|