How to แบบเรียนตัวแม่เหล็ก (magnet) ver.2 => เบี้ยกระดาน 100 ช่อง หลังจากที่ได้ทำเบี้ยตัวอักษร จากบอร์ดลูกฟูกพลาสติกไปแล้ว และรออุปกรณ์ตัวใหม่สำหรับทำ ver.2 ..... ตอนนี้เสร็จแล้วค่ะ..........(นานมาก มาก) อุปกรณ์ที่ตามหาคือ โฟม EVA หรือ แผ่นโฟมที่ไว้ให้น้อง ๆ หนู ๆ รองคลานกัน ......... ไปตามหาที่เค้าขายแผ่นเปล่าจนได้ ขนาดยาวกว่า A4 (โดยประมาณ) หนา 0.6 มิล อุปกรณ์อื่น ๆ เหมือนเดิมค่ะ เริ่มทำเลยดีกว่า 1. เตรียมแผ่นโฟม เก๋ตัดขนาด 3 x 4 cm. น่าจะขนาดเหมาะมือ และหากล่องใส่เตรียมไว้เลย สำหรับเบี้ยกระดาน 100 ช่อง 2. ติดตัวเลขที่เบี้ย ... ติดแม่เหล็ก ... ปิดเทปใสรอบตัวเบี้ย ... ที่ต้องติดเพราะว่าระหว่างทำคุณต้นน้ำ ช่วยแกะแม่เหล็กออก แม่คอยติด ลูกคอยแกะ !!! เลยติดซะเลย และป้องกันน้ำด้วย เพราะตัวเลขไม่ได้ print จากกระดาษกันน้ำ เจอลิงค์สำหรับกระดาน 100 ช่อง ง่าย ๆ ข้อมูลจาก momypedia.com ไปตามนี้นะคะ //www.apples4theteacher.com/math/games/100-number-chart-one.html (แต่เก๋ ไม่ได้ใช้ เพราะไปพิมพ์เตรียมไว้ก่อนแล้ว... ) ทำแค่ 1-10 ก่อน ... เพราะเพิ่งจะเริ่มเล่น ... ตัวเลขแบ่งสีเลขคู่ - คี่ ตามแนวมอนเตสเซอรี่ คือ เลขคู่ - สีแดง , เลขคี่ - สีน้ำเงิน => ประกฎว่า คุณต้นน้ำไม่ค่อยจะสนใจแล้ว เป็นช่วงที่กำลังชื่นชอบก้านกล้วย มากกกกก.... จับตัวเบี้ยแต่ละตัวมา "ชน" กัน ซะอย่างงั้น !!! ----------------------- สำหรับแผ่นโฟม EVA นั้น เก๋ยังมีอยู่เยอะเลยค่ะ เพราะเค้าไม่มีแบ่งขาย ... ใครสนใจ แบ่งขายให้ได้ค่ะ ไม่แพง ... เบี้ย 100 ตัว ใช้ 2 แผ่น ขนาดยาวกว่า A4 (โดยประมาณ) เหลือนิดหน่อย (ถ้าตัดขนาด 3 x 4 cm) จะเอาไปทั้งแผ่น หรือ ให้ตัดให้ด้วย มีสีน้ำเงิน สีเดียว แผ่นแม่เหล็กยาง ขนาดประมาณ A 4 เก๋ซื้อได้ถูกกว่า ในห้าง แบ่งขายได้เหมือนกัน จะเอาไปทั้งแผ่น หรือ ให้ตัดให้ด้วย ความหนามีหลายขนาด แต่ที่ใช้อยู่คือ 1 mm. (หนาที่สุด) "หลังไมล์" มาได้นะคะ   Create Date : 24 มิถุนายน 2553     4 comment Last Update : 24 มิถุนายน 2553 18:57:34 น.     Counter : 3930 Pageviews.   Share Tweet

แบบเรียนตัวแม่เหล็ก (magnet) หาย............ไป............พักใหญ่ ทำหลายสิ่งหลายอย่างมาก ดูอันนี้ก่อนเลยละกัน "แบบเรียนตัวแม่เหล็ก" จริง ๆ ตั้งใจทำกระดาน 100 ช่อง แต่หาอุปกรณ์ที่มีอยู่ไม่พอสำหรับเบี้ย 100 ตัว จึงได้อันนี้มาก่อน อุปกรณ์ 1. ดินสอ กาว กรรไกร คัตเตอร์ เทปใสปิดกล่อง 2. สมุดโปสเตอร์ (ในสมุดประกอบด้วย A-Z, ก-ฮ, 1-100 เลขไทยและอารบิค, ตารางสูตรคูณ, สระ-วรรณยุกต์ไทย, สีและรูปทรง 3. แผ่นยางแม่เหล็กหนา 1.0 mm 4. กระดาษสี 5. ฟิวเจอร์บอร์ด (บอร์ดลูกฟูกพลาสติก) 6. แฟ้มแบบมีซองพลาสติก และแป้นล็อค ขั้นตอน จริง ๆ ได้ซื้อสมุดภาพโปสเตอร์เผื่อไว้แล้ว 2 เล่ม (ปกติซื้อของให้ต้นน้ำจะซื้อเผื่อไว้) นำไปถ่ายเอกสารสี 1 ชุด , ตัดเป็นแต่ละแผ่น 1 เล่ม , อีกเล่มเก็บไว้อ่านตามปกติ อุปกรณ์ที่มีอยู่เป็นเศษฟิวเจอร์บอร์ดที่เก็บไว้นานแล้ว ลองคำนวณดูทำเป็นเบี้ยของกระดาน 100 ช่องไม่พอแน่ ๆ เพราะจะตัดเป็นชิ้น แล้วมาประกบสลับแนวตั้งแนวนอนกัน เพื่อความแข็งแรงและมีขนาดพอเหมาะให้เด็กหยิบได้ ไม่แบนจนเกินไป ..... วัด ๆ กะ ๆ ดูแล้ว ได้เพียงพอสำหรับตัวอักษรภาษาไทย และ เลข 1-10 ไทย-อารบิค จึงดำเนินการเลย กระดาษสี A4 พับครึ่ง พับครึ่ง พับครึ่ง แบ่งได้เป็น 8 แผ่นย่อย พอสำหรับห่อตัวฟิวเจอร์บอร์ด (ที่ต้องห่อเพราะป้องกันความคมและดูสวยงาม) ใช้กระดาษ 3 สี เพื่อแบ่งกลุ่มตัวอักษรเป็น เสียงสูง กลาง ต่ำ มาเตรียมแม่เหล็กบ้าง เก๋ใช้แผ่นเต็ม 2 แผ่นไว้เป็นตัวกระดานเลย เตรียมอีกแผ่นสำหรับตัดเป็นชิ้น ๆ ติดกับตัวเบี้ย ดูด้านหน้า - แผ่นจะเป็นเงา ๆ มัน ๆ ด้านนี้จะเป็นแม่เหล็ก ด้านหลัง - จะด้าน ๆ วัดขนาด และใช้ดินสอ ตีเส้น (ขนาดที่ใช้เป็น 2x2 cm) ทดสอบดูว่าแผ่นแม่เหล็ก ดูดติดกันจริง ใช้คัตเตอร์ หรือ กรรไกร ตัดออกมาเป็นชิ้น ๆ ติดแม่เหล็กด้านหนึ่งของเบี้ย (ต้องนำไปทดสอบกับแผ่นเต็มที่ใช้เป็นกระดานก่อนติดกาว เพราะจะมีด้านที่ดูดติดกัน ถ้าติดผิด ตัวเบี้ยกับกระดานจะไม่ดูดติดกัน) นำภาพโปสเตอร์ที่ถ่ายเอกสารสี หน้าตัวอักษรมาตัดเป็นชิ้น แล้วติดอีกด้านของเบี้ย ใช้เทปใสปิดกล่อง ปิดทับทั้งด้านหน้าและหลัง เพื่อป้องกันน้ำและคุณลูกแกะตัวเบี้ย นำแผ่นแม่เหล็กแบบเต็มแผ่น มาใส่ซองแฟ้มให้ด้านแม่เหล็กหงายอยู่คู่กัน ใส่โปสเตอร์แผ่นจริง ที่ตัดเป็นแต่ละแผ่นไว้ แผ่นที่เหลือจะเก็บใส่ซองแฟ้ม ด้านหลังของแผ่นแม่เหล็ก ทดสอบนำเบี้ยวางบนกระดาน แบบวางบนพื้น แบบถือในแนวตั้ง ติดอยู่ดีจริง ๆ ไม่หล่นเลย ตัวอย่างทดสอบตัวเลขไทย-อารบิคนั้น เป็นกระดาษพับครึ่ง (อีกครึ่งเป็นเลข 11-40) แต่ต้องการให้ทั้งตัวไทย-อารบิคอยู่ในหน้าเดียวกัน จึงพับครึ่ง จะเห็นได้ว่า ตัวเบี้ยกับกระดานแผ่นแม่เหล็ก สามารถดูดติดกันได้ดี ถือในแนวตั้ง ตัวเบี้ยยังไม่หล่นเลย ........ ดี จริง ๆ เก็บเบี้ยใส่ถุงรูดผ้า แฟ้มใส่กระเป๋า / ถุงผ้า พกพาไปข้างนอกได้ เพราะไม่หนักเลย กำลังจะทำกระดาน 100 ช่อง โดยใช้อุปกรณ์ตัวใหม่ ติดตาม ver.2 นะคะ   Create Date : 21 พฤษภาคม 2553     6 comment Last Update : 21 พฤษภาคม 2553 13:44:39 น.     Counter : 7593 Pageviews.   Share Tweet

ของเ่ล่น มอนเทสซอรี่ คืออะไร ขอขอบคุณข้อมูลจาก พันทิพ กระทู้คุณ "ทานปลา" ลองค้นดูในคลังกระทู้ได้ค่ะ ของเ่ล่น มอนเทสซอรี่ คืออะไร montessorie นี่เป็นชื่อ ของ Marie montessorie ค่ะ เป็นคุณหมอเด็กชาว อิตาเลียน ที่เกิดเมื่อปี 1870 ที่ใช้เวลากับการพัฒนาเด็กกลุ่มพิเศษ แล้วค้นพบว่าการเรียนการสอนแบบที่เธอนำมาใช้กับเด็กกลุ่มพิเศษได้ผลเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาการเรียนรู้ สามารถนำมาใช้กับเด็กกลุ่มธรรมดาก็สามารถพัฒนาการเรียนรู้ได้ เป็นอย่างดี Montessorie จึงเป็นแนวทางการเรียนรู้ หรือส่งเสริมการเรียนรู้ที่ คุณหมอ มาเรีย คิดขึ้น แล้วก็มีคนนำไปใช้งานต่อ ส่วนของเล่นนั้นจะว่าเป็นของเล่นก็ไม่ค่อยจะใช่ เพราะว่า ที่จริง มันคือ อุปกรณ์สอนให้เด็กสามารถเข้าใจสิ่งที่ต้องการสอน อุปกรณ์แต่ละอย่าง คุณพ่อ คุณแม่ต้องเข้าใจ การ present อุปกรณ์ นั้นอย่างถูกต้อง ให้เด็กเข้าใจค่ะ ของเล่น หรือ อุปกรณ์ จะแบ่งเป็น 1. Practical life อะค่ะ เช่น แบบเสื้อสอนติดกระดุม หรือ ผูกเชือกรองเท้า ขวดน้ำไว้หัดเทน้ำ ช้อนหัดตักสิ่งของ ที่คีบไว้สำหรับหัดคีบ เพื่อกล้ามเนื้อมือ หรืออย่างอื่นที่คุณแม่คิดออก เืพื่อ เสริมพัฒนาการให้ลูกสามารถ ทำสิ่งประจำวัน ช่วยเหลือตัวเองได้ Montessorie ใช้หลักการจากการเรียนรู้จากของจริง ไม่บังคับ แต่เน้นให้เด็กเลือกด้วยตนเอง Practical life จีงเป็น อุปกรณ์ แรกที่ มาเรีย นำมาใช้ในการสอน 2. sensation เช่น อุปกรณ์ำเน้นพัฒนาประสาทสัมผัสทั้งห้า เช่นพัฒนาการด้านเสียง กล่องแยกเสียง กระดาษทรายเนื้อหยาบต่างกัน กล่องใส่สี ตัวอักษร A-Z บนกระดาษทรายให้เด็กสัมผัสตาม ลูกบาศขนาดต่างกัน cylinder กว้างยาว หนาลึก 3. Math เป็นอุปกรณ์เพื่อส่งเสริมด้านคณิตศา่ตร์ เช่น รูปทรง fraction กล่องตัวเลข 4 Culture ส่งเสริมความรู้ด้าน Geographic และวัฒนธรรมต่าง อาจเป็น ในรูปการจัด Japan day หรือ Food week แล้วก็มี Map jigsaw ให้ต่อ 5 Creation ( Music and ART ) เป็นกระดานวาดรูป หรือ เทปเพลงเต้นประหกอบหรือ อุปกรณ์ ประกอบจังหวะ ทั้งหลาย ทั้ง 5 อย่างเป็นอุปกรณ์ หลักตามแนว Mostessorie ซึ่งสิ่งที่จำเป็นที่สุด เห็นว่าน่าจะเป็น คุณครู หรือ ผู้ทำการ present อุปกรณ์นั้นๆ ให้น่าสนใจ เพราะอุปกรณ์แบบ montessorie ส่วนมาก ไม่ได้มาด้วย เสียงที่ตื่นเต้น หรือ สีที่เร้าใจ ซึ่งทำให้คุณครูมีบทบาทมากในการทำให้เด็กสนใจ โดยจากหลักการที่ว่า ไม่มีการบังคับหรือตัดสินใจให้ เด็กมีโอกาสเลือกที่จะทำกิจกรรมเอง โดยที่ครูหรือ พ่อแม่ เป็นผู้แนะแนว ฝึกให้เกิดการตัดสินใจเรื่องเล็กน้อยด้วยตัวเอง และสร้างความมั่นใจให้เด็ก ยกตัวอย่าง เช่นการสอนให้ลูก อ่าน A-Z ได้ จะไม่สอนด้วยการเอา กระดานแปะ a-z แล้วชี้ให้อ่านตาม หรือ บังคับจำ เค้าจะเริ่มด้วย การให้ เด็กเข้าใจว่า a-Z มันคือเสียง ด้วยเพลง และออกเสียงด้วย อะ แทน เอ เพราะเป็นเสียงเริ่มแรกที่เด็กเข้าใจ ให้เด็กสัมผัสตัวอักษรที่ทำด้วยกระดาษทราย เพื่อเข้าใจ สัมผัสและรูปร่างของมัน เขียนลงบนมือ และ ลากตามรูปทรงเพื่อ พัฒนาเป็นการเขียน ไ่ม่เน้นลำดับของตัวอักษร แต่เน้นตามความสนใจของเด็ก อุปกรณ์ ไม่สำคัญเท่าการ present ที่ไปเข้า work shop มา ส่วนมากเป็นหลักที่คุณครูแนะนำให้มาทำที่บ้าน หลักการง่ายของการ present คืออย่างนี้ ค่ะ 1. อุปกรณ์ส่วนมากเริ่มต้น จาก ซ้าย ไป ขาว เพราะเป็นพื้นฐานในการอ่านหนังสือ เนื่องจาก หนังสือ หรือ การเขียนส่วนมากเริ่มจาก ซ้ายไปขวา เช่น สอนให้ลูกใช้ช้อน ก็เอา ถ้วยมาสองใบ ทางซ้ายใส่ ของลงไป เช่น spaghetti หรือ ลูกปัดใหญ่ ทางขวา เป็นถ้วยเปล่า แล้วก็นั่งลงทำให้ลูกดู ตักจากซ้ายไปขวา 2. พยายามหามุมที่ เด็กสามารถนั่ง มีสมาธิกับอุปกรณ์ จัดหาโต๊ะ เก้าอี้ ขนาด เด็ก ไว้สักมุมเป็นพื้นที่ของเขา 3. จัดวางของเ่ล่น Montessorie จะเน้นมากเรื่องการวางของเป็นระเบียบ และหยิบใช้ง่ายค่ะ เช่น ของเล่นลูก ไม่ควรมี Toy Box ที่ใส่ทุกอย่างรวมกัน สำหรับเด็กตัวเล็ก เค้าจะไม่เข้าใจถ้ามีทางเลือกมากเกินไป จึงทำให้เด็กไม่สามารถ เลือกของด้วยตัวเองได้ หรือตัดสินใจไม่ถูก ทาง รร แนะนำ ให้คุณแม่ หาชั้นวางของวางของเล่น กระดาษ ดินสอสี สี หรือ อุปกรณ์ อื่น เรียงให้เห็น ถ้ามีมากกว่านั้นก็เก็บไว้ แล้งค่อยนำมาสลับ เปลี่ยนแต่ละอาทิตย์ เด็กก็จะไม่เบื่อ ของเล่นก็จะถูกใช้ จากประสบการณ์ พอทำแบบนี้ ก็เห็นเลยว่า เออ ลูกเรามีของเล่นเยอะมาก ไม่ต้องซื้อได้อีกนาน 4. เมื่อจัดวางของแล้วเป็นระเบียบแล้ว พยายามใ้ห้เด็กเลือกเล่นที่ละอย่าง เล่นเสร็จแล้วเก็บก่อน ก่อนเอา อันต่อมา มาเล่น 5. มีอุปกรณ์เผื่อ ความผิดพลาด เช่น ถ้าสอนลูกกรอกน้ำ ก็มีผ้าเอาไว้ให้เค้าเช็ดเมื่อน้ำหก อันนี้ คุณครูบอกว่า จะเป็นวิธีคิดที่ติดตัวไปจนโต เป็นการสอนโดยไม่ใช้คำพูดว่า "คนเราทำผิดได้เสมอ และไม่ว่าความผิดอะไร เราต้องรับผิดชอบ และแก้ไขมัน และมันแก้ไขได้ " สำหรับหลักสูตร montessorie เอง แบ่งเป็นช่วงอายุประมาณ 0-3 ปี, 3-6 ปี , 6-9 ปี , 9-12 ปี นี่คือตามหลักสูตร การเรียนของคุณครูที่จะเป็นผู้สอนแบบ montessorie โดยเด็กเล็กอาจไม่ได้เป็นรูปแบบของ รร แต่ออกแนวเป้น play group มากกว่า ถ้าคุณแม่มีเวลาก็สามารถทำเองได้ที่บ้าน ขอให้มีความสุขกับทุก ๆ วันนะคะ   Create Date : 20 เมษายน 2553     0 comment Last Update : 20 เมษายน 2553 22:22:56 น.     Counter : 928 Pageviews.   Share Tweet

ตารางเรียนน้อง ๆ อนุบาล กำลังหาข้อมูลเรื่องเรียน พร้อม ๆ กับเริ่มทำ Home School และทำของเล่นให้ต้นน้ำค่ะ ... เลยอาจห่าง ๆ งานอดิเรกไปบ้าง ... มีตารางน้อง ๆ อนุบาล มาฝาก พอดีบังเอิญ search เจอ หากเป็นของท่านใด ต้องขออนุญาต และขอขอบคุณล่วงหน้าด้วยนะคะ เก๋ เอามาปรับใช้ในการทำ Home School ให้ต้นน้ำ (แต่ไม่ค่อยเป็นไปตามตาราง...เป็นไปตามอัธยาศัย...มากกว่า) ทำตารางต้นน้ำเสร็จจะมา update นะคะ ถ้าใครสนใจนำไปปรับเวลาให้ลูก เพื่อเตรียมตัวก่อนเข้าอนุบาลก็ได้ แต่ละโรงเรียน ตารางน่าจะใกล้เคียงกัน ลองดูนะคะ (เป็นเพียงตัวอย่างตารางเท่านั้น) *** คลิกที่รูปเพื่อดูภาพขยาย *** เตรียมอนุบาล / เนอสเซอรี่ เตรียมอนุบาล / เนอสเซอรี่ (ต่อ) อนุบาล 1 อนุบาล 2 อนุบาล 3 ขอบคุณข้อมูล โรงเรียนอนุบาลช้างเผือก สู้ สู้ค่ะ คุณพ่อ-คุณแม่ทุก ๆ ท่าน ... *** หากไม่ชัด ต้องการไฟล์เดี่ยว ๆ หลังไมล์ หรือ ให้เมล์ไว้นะคะ ***   Create Date : 17 มีนาคม 2553     1 comment Last Update : 17 มีนาคม 2553 13:34:53 น.     Counter : 9810 Pageviews.   Share Tweet

รู้จัก Home School  ขออนุญาตเจ้าของบล็อค / เจ้าของลิงค์ ล่วงหน้านะคะ หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติม comment ได้เลย  ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ (ถ้าพบอีก จะนำมาลงเพิ่มเรื่อย ๆ) สมาคมบ้านเรียนไทย  //www.thaihomeschool.org/view.php?id=37 ห้องสมุด E-LIB //www.elib-online.com/doctors48/child_homeschool001.html บังเอิญไม่ทราบของใครค่ะ  //www.pantown.com/board.php?id=44294&area=3&name=board8&topic=5&action=view มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว  //www.familynetwork.or.th/node/106 โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษา  //www.itie.org/eqi/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=170&view=previous บทความ  //pirun.ku.ac.th/~g4886018/art3.pdf วารสารศึกษาศาสตร์  //www.edu.buu.ac.th/journal/Journal%20Edu/Link_Jounal%20edu_14_2.pdf Free TextEditor   Create Date : 05 มีนาคม 2553     1 comment Last Update : 5 มีนาคม 2553 17:01:21 น.     Counter : 520 Pageviews.   Share Tweet