บันทึกประสบการณ์ ท่องเที่ยว
space
space
space
space

วันที่ 2 เที่ยวซาปา
ก่อนที่รถไฟจะถึง สถานี 15 นาที น้องสาวที่ดูแลตู้เรา มาเคาะประตูเรียก ให้เรารู้ว่า จะถึงแล้วน๊าจ๊ะ แล้วอีกซักครู่เธอก็มาขอเก็บรองเท้าแตะ คืน เราถึงลาวไค ตั้งแต่ตีสี่กว่าๆ ลงรถมาแล้ว ยังงงอยู่ว่าจะเดิน ไปทางไหนดี เพราะมืดมาก เดินผ่านตู้นอน ของขบวนอื่นๆ ชำเลืองดูตู้ของเขา แสดงว่า ที่เรานอนมานี้ ดีที่สุดแล้ว ของเรามีสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่า เพราะเราเสียตังค์มากกว่า ก่อนถึงทางออก มีโต๊ะจำหน่ายตั๋วไปซาปา ราคาคนละ 30000 ด่องเวียดนาม โต๊ะขายตั๋ว ยังไม่เปิดไฟฟ้า ต้องใช้จุดเทียนขายตั๋ว

คณะเราได้ตั๋วแล้ว คนขับรถตู้ก็พาไปขึ้นรถ แต่ต้องรออีกนาน จนรถไฟอีกขบวนเข้า ถึงจะได้ผู้โดยสารครบตามจำนวน รถถึงจะออกได้ ตอนที่รอนั้น อยากเปลี่ยนเป็นนั่ง TAXI จะได้ออกได้เลย แต่ก็ไม่ทันแล้ว เสียดายตังค์ ตั้งแสนสองหมื่นด่อง

รถตู้ออกจากสถานีรถไฟลาวไค มุ่งหน้าสู่ซาปา ระยะทางแค่ สามสิบกว่ากิโลเมตร วิ่งนานประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่เห็นอะไรเลย เพราะยังมืดอยู่ หมอกลงหนัก ทัศนะวิสัยในการขับรถ แย่มากๆ ถ้าคนขับไม่เจนเส้นทาง คงอันตรายมาก แต่พอใกล้จะถึงซาปา เริ่มสว่างนิดๆ แต่ก็ยังไม่เห็นอะไรอยู่ดี เพราะมีแต่หมอก แล้วก็หมอก





รถตู้มาถึงซาปาแล้ว วนไปส่งผู้โดยสารตามโรงแรมต่างๆ ที่บอกก่อนหน้าแล้ว โรงแรม CHAU LONG HOTEL ที่เราพัก อยู่สุดท้ายเพื่อนเลย คนขับชี้บอกว่า เดินเข้าไปในซอย นิดหนึ่ง

ถึงโรงแรม CHAU LONG HOTEL ฟ้ายังไม่สว่างดี จึงได้รูปโรงแรม บนม่านหมอก






เจ้าหน้าที่ฟร้อน ของโรงแรม บอกว่าเราต้องรอห้อง กว่าจะได้ถึงแปดโมงครึ่ง เมื่อเข้าห้องน้ำ แปรงฟัน แล้ว ก็เลยกินบุฟเฟ่เช้า ของโรงแรมซะเลย





อาหารเช้าของโรงแรม ต้องบอกว่าอาหารไม่ถูกปากเลย ข้อนี้ ขอยืนยันว่า โรงแรมของไทยดูแล นักท่องเที่ยวต่างประเทศ ดีกว่าเยอะ พยายามทานเท่าที่ทานได้ หลังจากมีอะไรรองท้องแล้ว ชักชวนเจ๊ ของคณะไปเดินดูตลาดเช้าของซาปา

ตามถนนที่มีแต่หมอก ร้านต่างๆ ยังไม่เปิดเท่าไร ระยะทางจากโรงแรม แค่ซักร้อยเมตร สองร้อยเมตร น่าจะได้ ถึงตลาด







ที่ตลาด สินค้าก็คล้ายๆ ตลาดแม่สาย เชียงรายบ้านเรา ชาวเขาปลูกผักมาขายเยอะ เขียงหมูมีเป็น ยี่สิบเขียง ไก่มีทั้งที่ สำเร็จแล้วอย่างบ้านเรา แต่ดูเหมือนเค้าชอบไก่เป็นๆ มากกว่า แต่ที่ตั้งใจมาดูให้เห็นกับตา ก็อย่างที่เห็นในภาพ เขียงขายเนื้อ สุนัข ตัวจริง เสียงจริง





อาหารการกิน ก็มีข้าวเหนียวเปล่า ของทอดประเภทแป้งทั้งหลาย ขนมปัง เค้าว่าอร่อย แต่ไม่ได้ลองชิมดู อีกอย่างก็เป็นประเภท เนื้อแดดเดียว ไม่รู้เนื้ออะไรบ้าง





จากนั้น ดูร้านดอกไม้ ที่สวยที่สุด ดอกกุหลาบ โดยเฉพาะสีแดง กุหลาบวาเลนไทม์ สวยมาก ขอเค้าถ่ายรูป แม่ค้าก็ไม่ว่าอะไร





แล้วไปดูสินค้า พวกผ้าฝีมือชาวเขา ผมชอบพวกผ้าม่าน ลายสวยดี เป็นลายแบบชาวเขา พวกเสื้อกันหนาว ของหญิง ชาย และเด็กๆ เป็นสินค้าจากจีน เยอะมาก หลายแบบ ราคาถูกมากด้วย เสื้อหนัง(เทียม) กันหนาวของผู้ชาย ราคาประมาณ สี่ร้อยบาท แม่ค้าจะบอกราคาสูงไว้ก่อน เราต้องต่ออย่างน้อย 60%(ไม่ได้พิมพ์ผิด) เนื่องจากพูดกันไม่รู้เรื่อง ใช้วิธีต่อราคาผ่านเครื่องคิดเลข สนุกดี บางทีต่อเสร็จ เค้าให้แล้ว ยังเห็นว่าแพง เดินหนี ก็ยังมี





พวกสินค้าที่ระลึก "ซาปา" เป็นพวกตุ๊กตาชาวเขามีเยอะ หลายแบบ รวมทั้งพวกผ้าพันคอจากจีน





ช้อปรอบแรกสนุกสนานพอควร กลับไปตั้งหลักที่โรงแรม เข้าที่พัก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า การท่องเที่ยวซาปา ดีอย่างนึง ไม่ค่อยเปลืองเสื้อผ้า เพราะต้องนอนในรถไฟ ซะสองคืน ก็นอนมันทั้งชุดที่เดินทางนั่นแหละ อากาศเย็น ประมาณ สิบสององศา แปรงฟันอย่างเดียว

อาบน้ำอุ่น ในโรงแรมแล้ว ยามที่น้ำอุ่นสัมผัสกาย แทบชาไปทั้งตัว เวลาก่อนเที่ยง ชักชวนกันออกไปเดินช็อปปิ้งอีกรอบ นอกจากตลาดสดแล้ว ก็มีที่ออกร้านขายของที่ระลึกโดยเฉพาะ บริเวณโบสถ์คริสของเมืองนี้

เลือกร้านทานอาหารมื้อเที่ยง เห็นคนเวียดนามนั่งทาน ของปิ้งย่าง เลยเอาอย่าง เลือกทานหม้อไฟ ไก่ เหนียวมากๆ ไม่มีรดชาด เหมือนเอาไก่ ลงไปต้มเฉยๆ กับเกลือ ใส่ผัก ไม่ต้องใส่เครื่องปรุง ต้องปรุงรสกันนาน ถึงพอทานได้ ให้คิดถึงผัดกะเพราบ้านเรา ใจจะขาด ใครจะมาเวียดนามติดเอาอะไรที่เผ็ด กับน้ำปลา น่าจะเป็นความคิดที่ดี







ก่อนที่จะกินอาหารเที่ยงนั้น เราได้ไปซื้อทัวร์ชมหมู่บ้านชาวเขา ทานเสร็จแล้ว ยังไม่ถึงเวลานัดทัวร์ ไปเดินดูสินค้าที่ระลึก ต่อราคากันสนุกสนาน การซื้อของที่ซาปา หรือที่เวียดนาม เราต้องทำใจ พี่แกโกงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการทอนเงินนี่ ต้องระวังให้มากๆ เค้านึกว่าเราไม่รู้ ก็ทำเป็นทอนขาด เอากำไรเราสุดๆ

พวกชาวเขา จะชอบมาก ถ้าเจอฝรั่ง เรียกว่ากรูกันเข้าไปเลย เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะ หากจะถ่ายรูปเธอในชุดชาวเขา ต้องซื้อสินค้า(ซึ่งบวกแล้ว)จากเธอ ถึงจะถ่ายรูปได้ ก็เลยไม่ได้รูปชาวเขา "ซาปา"มาอวดกัน







จากนั้น ก็กลับไปขึ้นรถ ประมาณว่า เป็นรถ JEEP ออกไปนอกซาปา นิดนึง เส้นทางน่ากลัว เพราะว่าวิ่งผ่านไหล่เขา ด้านนึง เป็นเขา ด้านนึงเป็นเหว แต่ไม่เห็นอะไร หมอกปกคลุมหมด ไม่มีโอกาสได้เห็น นาขั้นบันได จากมุมสูง แบบที่เค้านิยมถ่ายรูปมาให้ดูกัน เริ่มทัวร์หมู่บ้านชาวเขา ซึ่งเป็นไฮไลท์ของการท่องเที่ยว ซาปา แต่น่าผิดหวัง สำหรับคณะของเรา เห็นแต่หมอก บ่ายโมง บ่ายสอง หมอกยังไม่จางซะที เป็นเมืองในหมอกจริงๆ

ตั้งแต่เริ่มออกเดินก็มี ชาวเขา เอาสินค้ามาเสนอขาย บอกไม่เอา เธอก็จะเดินตามอยู่อย่างนั้น มีเด็กหญิงชาวเขาคนนึง เดินตามเราตลอดทาง จนในที่สุด เราต้องใจอ่อนให้เงินเธอไป 5 US$ ถึงยอมไปจากเรา

หมู่บ้านที่เดินไป ภาพที่เห็นก็คือ บ้าน ความเป็นอยู่ชาวเขา เหมือนที่เห็น ที่เชียงราย ต่างกันแค่ นาขั้นบันได












สินค้า OTOP ของที่นี่จะเป็นพวก แกะสลักหิน เป็นรูปต่างๆ เยอะหน่อยก็ เรือใบ

เดินซะเมื่อย ระยะทางประมาณ 6-7 กิโลเมตร แต่ไม่เหนื่อย เพราะว่าอากาศเย็นสบาย แต่ทำเอาหิว(เบียร์) อยากกลับโรงแรมแล้ว ขากลับ รถ JEEP ผ่านเส้นทางเฉียดเหวอย่างขามา แต่คนละทางกัน ดีว่ามองเห็นแต่หมอก แต่ก็น่ากลัวเหมือนกัน






กลับถึงซาปา ที่ประชุมสรุปว่า กินสเต็ก น่าจะดี (เพราะดูรูป ว่าน่ากิน) ที่ไหนได้ สั่งสเต็กหมู กับทีโบน เหนียวสุดๆ บ่นอุบเลย แพงมากๆด้วย

ทนกินต่อไม่ไหว ก็เลยกลับไปกินต่อที่ห้องอาหารของโรงแรม สั่ง มา ม่า จากเมืองไทย ใส่ไส้กรอก แกล้มเบียร์ฮานอย ดื่ม พอจะจำหน้ากันไม่ได้แล้ว ก็แยกกันเข้าที่พัก ซุกตัวเข้าใต้ผ้าห่ม เป็นอันจบวันที่สอง











Create Date : 12 มกราคม 2553
Last Update : 15 มกราคม 2553 13:10:05 น. 0 comments
Counter : 2283 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

tomtourthai
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไปมาเยอะ เห็นมาก็มาก แต่ไม่เคยบันทึกไว้เลย ลองทำตัวให้ทันยุค เขียนblog "tomtourthai" เป็นไดอารี่ จดบันทึกความทรงจำที่ดีๆ ที่ได้ไปมา



สร้าง เสริม ประสบการณ์ ชีวิต

lozocat
space
space
[Add tomtourthai's blog to your web]
space
space
space
space
space