สงกรานต์ปีนี้กับเพื่อน ที่ชุมพร
เพลงนี้เป็นเพลงเมื่อต้นเดือนมีนานะ ส่วนเพลงปัจจุบันยังมาไม่ถึงเลย ไว้ได้มาแล้วจะมาอัพเปลี่ยนให้เอ้อ ล่อลวงผู้ชายที่รักไปไม่ได้ เลยต้องไปกับเพื่อนตามลำพัง ชอบปล่อยให้เค้าแอบเหงาในใจ เอาผุ้หญิงมาล่อ เอากะเทยมาไล่ ก็ไม่ยอมมาด้วยกันแต่ไม่เป็นไร พอกลับมาได้รู้ว่าหมาน้อยป่วยและจากไปในที่สุดก็รู้สึกหงอยเหมือนกันนะ พี่เอ็มก็ดูแลเค้าเต็มที่แล้ว ดูแลตัวที่เหลือให้คึกตลอดต่อไปดีกว่า เอ้ามาเที่ยว ๆ กันดีกว่า สงกรานต์แทนที่จะได้เล่นน้ำสาดโครม ๆ แบบชาวบ้าน ดันลงไปสาดกันอยู่แต่ก้นสระบรรยากาศเป็นไงมาตามดูกันดีกว่า เหอ ๆ นี่นั่งรถที่ขับโดยชานนท์ เฝือกมันยังไม่ถอดเลย พวกเรามุ่งตรงไปบ้านน้าดีอ่ะยังร่าเริงกันเต็มที่ นั่งมองวิวทิวเขากันเพลินเชียวในวงกลมสีแดงทีแรกนึกว่า UOB เอ๊ย UFO ที่แท้ไอ้แคทตุ๊ยเม็ดระกำทิ้ง พุ่งด้วยความเร็วประมาณ 280km/hr.ถึงบ้านน้าดี เจอน้องยุ้ย โย และน้องจอยเล่นน้ำกันอยู่ พวกเราหน้าพร้อมโดดอยู่แล้วจึงลงไปฉลองสระ เพิ่งเปลี่ยนน้ำใหม่ 55 น้าลูก็ลงมาแจมด้วย ในภาพน้องโยโดนคนโฉดใช้นิ้วอุดรูจมูกแคททำไมมันสะท้อนแสงปานนี้วะอ่ะภาพหมู่น้องยุ้ยมันโตเร็วจังวะ นั่งแพต้องโดนคว่ำ นี่แน่ะอ่ะเสร็จไป 1น้องยุทธสุดหล่อของโจ้ อิอิ น่ารักนักนะเอ็ง โดนพี่ ๆ ลวนลามสึกหลอไปเยอะเลยอ่ะนี่ได้กอดหัวน้องยุทธด้วย อิอิ พี่เอ็มอย่าว่าเค้าหลายใจนะ แบบว่าขอนิดนึง... เห็นป่ะหน้าโจ้หื่นขนาดไหน หื่นไม่เท่าเวลาคิดถึงพี่เอ็มนะเนี่ยไอ้ตัวกลาง จุ๋ม น้องโจ๊ก โดนพ่อน้องบูมโยนลงมาให้ถ่ายภาพคู่กันกับพวกเราอันนี้ตีนโจ้ตอนระบำใต้น้ำ สำลักตาหูเหลือกอยู่หลายรอบอ่ะแบ่งข้างเล่นโปโล โกงกันสะบัด จบเกมสะบักสะบอมหมดทุกคน โอ๊ย ๆ พี่เอ็มช่วยด้วย เพื่อน ๆ มันรุมแกล้งเค้าว่าแต่เอที่เอาหัวมารับฝ่าเท้าเรา หัวหายเจ็บยังวะก๊อปยังยิ้มโชว์เหงือกได้เสมอ เจ้าแม่กิจกรรมสรรหาจังนะเมิง เกมเจี้ย ๆ เล่นโกง ๆ สังขารก็ไม่ค่อยจะไหว เหนื่อยนะเว้ย (กรูก็ เพื่อนเหนอ โจ้หนอง บ้าจี้เล่นไปด้วย)ตีกันน้ำกระจายอันนี้รู้สึกจะเอาบอลเคาะกบาลกันอยู่ไอ้หนูนิ้ง แหย่ไอ้แคท ด้วยเสียงหัวเราะที่พวกเราเล่นกันจนชิน แต่ไม่คิดว่าน้องมันจะกล้าเอามาเล่น อ่ะ ฮี๋ ๆ ๆ นี่ก็มาร์คมั่นจายยยย แสด 5555 โดนเหล้า 1 ขวด แก้ว 1 ใบ ตุ้ม ไป 30 บาท ขำกันท้องแข็งตั้งแต่บนรถไฟยันชุมพร ย้อนมาบางกอกน้อยยังขำกันไม่หายอ่ะเริ่มดำน้ำแล้ว ว่ายยังไม่เป็นเลย แต่ดำน้ำกันจังอ่ะดูแผลเป็นที่จมูกโจ้กันชัด ๆ นี่เอ เพื่อนหน่าที่หิ้วไป โดนข้อเท้าเคาะหัวเต็ม ๆ จากนั้นมันก็เหยียบ ๆ ๆ แล้วก็เหยียบ พี่เอ๊มมมม มานแกล้งโจ้ง่า....ก๊อปอีกครั้งกับเหงือกแดง ๆ แสดงว่ายังสดอยู่ (เหมือนปลาป่าวเอ่ย)อันนี้เห็นฟันที่อุดเลย พี่เอ็มอย่าขวัญเสียนะ โอ๋ ๆ ขวัญเอ๊ย ขวัญมา (ตอนยืนดูที่ร้านขำพรวดออกมา น้องที่ร้านมันมองหน้ากันเหวอเลย)อันนี้สามัคคีฝ่าเท้า ตามไปเตะกันถึงใต้น้ำอ่ะยังไม่ลืมตั้งแค้มป์ได้น้ำกันด้วยที่มาที่โจ้ถูกจับกดน้ำอีกอย่างนึงนี่ตูดน้องยุทธ ไม่อยากให้ดึงแต่ใส่กางเกงยางยืดลงมาล่อตูดแคท เต็มจอพลัสม่าจริง ๆ อ่ะ กลัวไม่รู้ว่าเป็นลูกศิษย์ก้นหม้อห้อง 2 ไพรเบี้ยอ่ะปิดท้ายรวมหัวกันถ่ายมาได้แค่นี้แหละเฮ้ยไอ้ตัวอื่น ๆ ที่ไม่มีภาพ ไว้ไปดูเองนะว่าภาพมันเป็นยังไง
ความทรงจำในฤดูร้อนที่ผ่านมา...
ปี 2543 เดือนกันยายน เป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางไกลไปค้างคืนกับเพื่อน ๆ ที่ต่างจังหวัดที่นั่นคือ ... ชุมพรหลายคนรวมทั้งโจ้เองก็เพิ่งขึ้นรถไฟครั้งแรก ตื่นเต้นน่าดู ไปถึงก็ได้รับการต้อนรับอย่างเป็นกันเองจากน้าดี และน้าลู จากนั้นน้าดี น้าชายเพื่อนก็พาพวกเราไปไหว้เสด็จเตี่ยเพื่อความเป็นสิริมงคลซะหน่อย และก็ไปเที่ยวจังหวัดระนอง เป็นที่ไหนบ้างดูกันเอาเองจากนั้นก็กลับมาหาดทุ่งวัวแล่น เล่นน้ำกันลืมวัยทำให้หลายคนหมดแรงไปชั่วขณะ ครั้งนั้นโจ้ทำให้เพื่อนหลายคนเบื่อเพลงเอื้อมไม่ถึงไปอีกหลายปี แต่ก็มีบางคนที่ยังจำและซึ้งอยู่ในใจเสมอมา ที่เป็นแบบนั้นเพราะว่าจำคอร์ดได้อยู่เพลงเดียว ก็เลยเล่นมันทั้งคืน ไม่ต่ำกว่า 20 รอบ แป๊บ ๆ ไอ่โจ้ขึ้นอีกแล้ว "มองทะเลมีแสงจันทร์นวลยวนใจ แล้วทำไมคืนนี้ไม่มีเธอ"ไม่ได้รักสลายริมชายหาด เหมือนกับที่ชอบร้องเพลง รักสลายดอกฝ้ายบาน ก็ไม่ได้ไปอกหักที่เมืองเลยสักหน่อย ปี 2543 ประมาณวันที่ 27 - 30 เดือนธันวาคม กลับไปอีกครั้ง คนน้อยลง แต่ความบ้ากกลับเพิ่มมากขึ้น ไปครั้งนี้ น้อง ๆ 3 คน ลูกของน้าชายเพื่อนได้หยุดยาวเช่นเดียวกับพวกเราจึงได้ไปเฮด้วยกันเต็มที่ เช่นเคยพวกเราไปไหว้เสด็จเตี่ยอีกครั้ง ภาพจากทริปนี้หลังออกสู่สายตาเพื่อน ๆ ร่วมห้องเรียน หลายคนอยากที่จะไป แต่บางคนหมดโอกาสที่จะไปอย่าง ไอ่เหน่ง ที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือด และเสียชีวิตลงเมื่อ 2 ปีก่อน "กูอยากไปกับพวกมึงอย่าลืมชวนกูด้วยนะ" ยังจำได้ติดหูมาถึงวันนี้สีแสบตาไปหน่อยแห๊ะแล้วก็กลับมาเล่นน้ำกันที่บ้านเหมือนเช่นเคย แบบว่าอยู่บ้านไม่เคยเล่นน้ำสระเพราะจะใส่ชุดว่ายน้ำก็อ๊ายอาย พลาดไม่ได้คือหาดทุ่งวัวเล่นใกล้ ๆ บ้านน้าดีนี่แหละแล้วก็ได้ไปเที่ยวน้ำตกแก่งคอยหลังสงครามน้ำกระจายก็มารวมกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึกจากนั้นก็ได้ไปเยือนหาดอัมสเทล ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย และซากเปลือกแตงโมงกว่า 10 ลูกที่เต็มท้ายรถของพวกเรา (ยังไม่รวมซองบะหมี่กึ่งฯ อีกเกือบลังด้วยนะ)ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว ไอจาง ๆ ของความฮายังไม่เลือนหายไปดูเอาภาพก็เก่าคนก็แก่อ่ะ กลับมาที่สถานีรถไฟชุมพร เส้นทางมุ่งสู่สถานีธนบุรี วันนั้นคนไม่ค่อยเยอะ เพราะเราสวนทางชาวบ้านกลับกรุงเทพฯ ระหว่างรอรถไฟจากหลังสวนที่มาช้ากว่าปกติ ก็เลยระรื่นกันไปเรื่อยปี 2544 หวิดแอ่นอกรับกระสุนลูกหลงคาหาด ภาพไม่ต้องถ่ายกันพอดี หนีตายกันให้รอดเป็นพอ ขากลับนั่งรถไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกลับซะด้วย แจ่มป่าว...จากนั้น ก็ได้ไปเล่นน้ำสงกรานต์อยู่ 2 ปีติด ๆ คือ ปี 2544 และ 2545 จากนั้นก็หายไปตามสายลม จนกระทั่งปี 2549 เดือนมีนาคม ก็เกิดอาการคิดถึงวันวาน และเพื่อน ๆ ขึ้นมา เราไม่ลืมที่จะเอ่ยปากชวนเพื่อนผู้ล่วงลับอย่างเหน่งไปด้วยกันกับเราโผล่กลับไปอีกที มีหลานโตเป็นหนุ่ม 1 ขวบซะแล้วอ่ะแก่แล้วก็ทำตัวเป็นสาวซะหน่อยเอ้อ นะ จำหนุ่มเสื้อน้ำเงิน กะ สาวเสื้อขาวได้ไหมหาดทุ่งวัวเล่นที่เดิม แต่หาดเริ่มหมอง ๆ ไปขยะเยอะขึ้นนะ ช่วยกันรักษาหน่อย เด๋วจะไม่มีหาดสวย ๆ ไว้ให้ดู เจ้าตัวเล็กทำให้เราเป็นป้ากันซะแล้ว (ลูกน้องสาวเพื่อน)อ่ะขอนิดนึงค่ำคืนนั้นก็เป็นที่มาของเพลงบ๊อง ๆ ที่ได้ฟังกันอยู่นี่แหละค่ะปิดท้ายความทรงจำในฤดูร้อนที่ย้อนกลับมาอีกครั้ง ดูมันภาพดี ๆ ไม่ถ่ายมาถ่ายตอนหาวพอดี เพื่อนบ้า ไว้เจอกันกับความทรงจำครั้งหน้าจ้ะ ปล. ปีนี้ไปมา 3 รอบแล้ว ลืมชวนไอ่เหน่งกลับมาทุกรอบ ป่านนี้ไม่รู้กลับมาถูกหรือยัง