ร่าเริ๊ง ร่าเริง I'm a Ramble.อ่ะ ก๊า ก๊า
Group Blog
 
All blogs
 
ครั้งแรกของหนู...

หัวข้อมันคือล่อแหลมแท้น้อหล้า เรื่องของเรื่องคือ
"ไอ้โจ้ได้เข้าป่าปิดกับเค้าแล้ว วู้ ๆ ๆ ๆ ๆ "

ใครหลายคน....
อาจจะเพียงแค่ก้าวข้ามผ่านภูกระดึง
ดั่งโรงเรียนฝึกหัดเดินป่าของบรรดานักเดินทาง
แค่เพียงการไปเยือนไม่กี่ครั้งก็เบื่อหน่าย
แต่สำหรับโจ้...ภูกระดึงเป็นสถานที่พักใจ
อันดับแรกในทุกครั้งที่คิดจะเดินทาง

จึงไม่น่าแปลกใจที่จะถูกใครสักคนทิ้งกันไป
เพราะเป็นคนที่ชอบอะไรเดิม ๆ ทำตัวเหมือนเดิม
ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นอีกต่อไปในการคบหา
เพราะโจ้ก็เหมือนภูกระดึง ที่คนคนนั้นเบื่อที่จะไป
ทั้ง ๆ ที่ยังไม่คิดจะเดินให้รอบ คิดแต่จะเปลี่ยนแปลง

โจ้ : 14 ก.ค. 50
เขียนครั้งแรกเมื่อเดือน พฤษภาคม 2549



อยากไปตั้งแต่ออกจากงานแรก ๆ แล้ว แต่ก็ต้องเลื่อนไปเลื่อนมาอยู่เรื่อย ๆ ทีแรกคาดว่าจะไปหลัง 10 พ.ค. ด้วยซ้ำ แต่ก็อดไม่ไหว ไฟกำลังมอด คิดถึง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ตัดสินใจแบกเป้ลุยเดี่ยวอีกเช่นเคย
เริ่มต้นจากหมอชิต ไปลงชุมแพ ต่อรถมาลงอำเภอ แล้วก็เล่นไปถึงภู ราว ๆ 7 โมงเช้า เจอ 3 หนุ่ม 3 วัย เดินยิ้มร่ามาทัก คุยไปคุยมาถึงได้รู้ว่า ทั้ง 3 ก็ต่างคนต่างมาเช่นกัน บังเอิญประหลาด ๆ จริง ๆ



3 หนุ่มประกอบด้วย พี่สิษฐ์ พี่อ๊อด และพี่ตี๋ ซึ่งพี่สิษฐ์เล่าว่าเห็นพี่อ๊อดตั้งแต่หมอชิต ส่วนพี่ตี๋ และพี่อ๊อด ขึ้นรถนั่งข้าง ๆ กันมาตลอด แล้วทั้ง 3 ก็มาเจอกันอีกครั้งที่ร้านเจ๊กิม โดยมีโจ้เข้าร่วมขบวนการเป็นคนสุดท้าย



ตลอดทางพี่ ๆ ดูแลราวกับไข่ในหิน แต่สุดท้ายก็กลายเป็นหินทุบไข่ เราใช้เวลาในการเดินขึ้นนานพอควรจนพวกเราเริ่มหนิดหนม พี่สิษฐ์โทรสั่งการร้านค้าที่รู้จักกันด้านบนให้จัดการกางเต็นท์ทั้งหมด 4 เต็นท์รอพวกเรา พร้อมจ่ายค่าลูกหาบให้ก่อนด้วย พวกเราเลยยิ่งได้ใจเดินไปเรื่อย ๆ ๆ



เนื่องจากที่ภูกระดึงช่วงนี้เข้าหน้าฝนมาตั้งแต่สงกรานต์แล้ว บรรยากาศเลยร่มเย็นสดชื่น การเดินทางไม่เหนื่อยมากเกินไป อากาศกำลังสบาย เดินไปก็เกิดอาการจะหลับก็มี โดยเฉพาะพี่ตี๋ที่ไม่ได้นอนมาประมาณ 2 คืน อยากจะถึงที่พักแล้วหลับยาว ๆ แต่ว่าหลวมตัวเข้ากลุ่มมาแล้ว เลยต้องเลยตามเลย แต่พี่แกทรหดจริง ๆ แบกเป้แล้วยังแบกขาตั้งกล้องเหล็กอีกเดินพริ้วเลย เห็นว่าฝึกไว้จะมาวิ่งมาราธอนขึ้นภู เก่งจริง ๆ



ระหว่างทางก็ยังอู้ถ่ายหนอน ถ่ายภาพไปเรื่อย ๆ สลับกับคอยฟัง และตอบคำถามที่ป้อนโดยพี่สิษฐ์ "โจ้ไม่มีแฟน ไม่มีใครเอา แต่ว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว" หลังเล่าแว๊บ ๆ พี่ ๆ ลงความเห็นว่า สมควรแล้วแกที่อด ดูไม่ค่อยรัก ไม่ค่อยใส่ใจ หรือสนใจเลย... อืมนั่นสิ่โจ้คงไม่ได้ทุ่มเทเต็มที่ล่ะมั้ง หรือต้องร้องเพลง "มากพอ" ของพี่ป้าง ย้ำอยู่เรื่อย ๆ ฟังตั้งแต่ครั้งแรก ร้องตามน้ำตาคลอมันทุกครั้ง ต้องทำตามเพลงล่ะมั้ง ก็ได้แค่ทำอยู่อย่างนี้แหละ



พี่อ๊อด แบกกล้อง และขาตั้งขึ้นมาเอง กลัวไหล่แกจะหักอิ๊บอ๋าย ช่วงนี้ฟ้าฝนในหัวใจของพี่อ๊อดก็แปรปรวนอยู่ตลอด "ผมก็ได้แต่ทำให้ดีที่สุด ทำให้ดี ทำมันไปเรื่อย ๆ จนกว่าเค้าจะหันกลับมายอมรับในความดีที่ผมตั้งใจทำอีกสักครั้ง" โคตรจะกินใจเลยพี่บางทีการเป็นของตาย หรือความเคยชิน มันก็ทำให้คนบางคนไม่รู้คุณค่าของสิ่งที่มีอยู่



ตัวนี้กิ้งก่าเฝ้าเมีย.



ตัวไรไม่รุ้ ถ่ายมามันเบลอ



มุมมองที่เกือบเดินผ่านเพราะเหนื่อย ได้พ่อใหญ่สิษฐ์แนะนำให้ดู



กล้วยไม้แถวบันไดหลังแป โดยพี่อ๊อดที่เล็งไว้ตั้งแต่ครั้งก่อนนู้น



พิชิตอีกแระ ขึ้นมาถึงนี่บรรดาเจ้าหน้าที่กำลังจะเดินทางกลับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเต็มท้ายรถเอ่ยปากชวน แต่พวกเราหยิ่งปฏิเสธจะเดินไปอีกทาง รถออกไปแล้ว พวกเราเดินต่อมุ่งหน้าไปผาหมากดูก สักพักใหญ่ ๆ รถเจ้าหน้าที่ก็วกตามมาและแซงผ่านไป แม๋...ผู้บ่าวยอดภูฯ แม่นหยังคือหล่อ ล๊อ หล่อคัก หล่ออีหลี หล่อกระด้อ กระเดี้ย หายใจไม่ทั่วท้องเลย แพ้สายตาหวาน ๆ มันทุกที รถผ่านไปแล้ว สุดท้ายก็ต้องย้อนกลับมาอีกรอบ คงเพราะหน้าหวาน ๆ ของโจ้นี่แหละวะ



เส้นทางจักรยาน ตูดบานแน่มึง



แต่ 3 ตูดนี่ไม่รู้บานมั่งป่าว



พ่อใหญ่สิษฐ์ ทุ่มทุนสร้าง



ฝนตกก่อนถึงผาหมากดูก ไอ้โจ้วิ่งไปหลบได้แต่ก็เปียก นั่ง ๆ อยู่ฝนตกไล่ไปถึงหน้าผา เอาแล้วสิ่งที่กลับขึ้นมา หมอก ๆ ๆ ๆ ๆ กรี๊ด.....



ที่กรี๊ดหนักกว่าก็คือพี่ตี๋...คุยโทรศัพท์อยู่ ชี้มือชี้ไม้ และก็บอกว่า นึกว่าไฟป่า 555555



ดู๊ ดู หมอก ๆ ๆๆๆๆ ๆ
จากนั้นเราก็ตัดสินใจเดินฝ่าสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสายกลับที่พัก พี่สิษฐ์สละเสื้อกันฝนให้ใส่พร้อมกับโจ้แบกเป้แกที่บรรทุกกล้องกลับถึงที่พักอย่างปลอดภัยแม้จะลื่นแป้ด ๆ อยู่ตลอดทางก็ตาม



ถึงที่พักแวะที่ร้านน่าลอง อยู่ติด ๆ กับร้านนัดพบของพี่ต้อม พี่หนุก และร้านของพี่ธรรม เจ้าของร้านน่าลองไม่ใช่ใคร พี่ยุทธเจ้าหน้าที่ฯ ที่ผันตัวเองมาเป็นเจ้าของกิจการร่วมกับภรรยา คือพี่โจ้แม่ครัวคนเก่ง (สั่งเลยอร่อยทุกอย่าง) แต่วันนั้นพี่โจ้ไม่อยู่ลงไปข้างล่างพร้อมน้องในท้องอายุครรภ์ 4 เดือน อยู่แต่คุณป้าขา บรรยากาศกับคนรุ้จัก และคุยกันรู้ใจในวันนั้นเป็นไปอย่างอบอุ่นสุด ๆ แม้จะหนาวและทากชุมก็ตาม
ค่ำนั้นนอนอุ่นสบาย หลับกันแต่หัววัน เพื่อวันต่อไปที่จะได้ลุยป่าปิดเป็นครั้งแรกในชีวิตวู้..... ถ้าไม่ได้พี่ตี๋ ที่อยากจะเข้าป่าปิดแบบสุด ๆ โจ้เองก็คงเดินเล่นอยู่แค่หน้าผา นอนกลิ้งไป กลิ้งมาแค่นั้นแหละ



ที่ทำการใครน้อจะนำทางพวกเราเข้าป่าปิด พี่สิษฐ์บอกว่าจ๋อมแจ๋มจะพาเข้าเหรอ... ใครวะจ๋อมแจ๋ม ว่าแต่วันนี้ยังไม่เจอที่ถุงนอนเลย คิดปุ๊บพี่ถุงนอนเดินมาปั๊บ พร้อมที่พี่สิษฐ์ทักว่า "จ๋อมแจ๋ม" โจ้ยกมือไหว้ทักทาย พี่ทักกลับมา เจอกันอีกแล้ว มากี่คน...พอรู้ว่ามาคนเดียวอีกแล้วพี่แกก็ยิ้มชิน ๆ "ว่าแล้ว"

เดิน ๆ ไปถึงบ้านกุหลาบขาว พี่ ๆ รวมหัวกันว่าคืนนี้ให้โจ้มานอนนี่ ปลอดภัยกว่าในเต็นท์มีห้องน้ำในตัว พักสบายนะ โจ้ส่ายหัวดิกไม่เอากลัว...แล้วก็แวะดูแมงมุมประหลาด ที่พี่อ๊อดชี้มือไปโจ้ก็มองตามไปสุดต้นไม้ พี่อ๊อดและพี่ตี๋บอกว่า นี่ที่ปลายนิ้วพี่นี่ 555 เซ่ออีกตามเคย แล้วผู้ชายที่ยืนถ่ายภาพคนเดียวอยู่แถวนั้นก็เดินมา "เอ่อน้องครับ น้องผู้หญิง.." เอาล่ะกูวี๊ดวิ้วอีกแล้ว "น้องเคยไปหลวงพระบางหรือเปล่าครับ" เท่านั้นแหละ ตะโกนเรียกชื่อพี่ชายคนที่ทักลั่นป่า "พี่ตู่!!!" พี่ตี๋ พี่อ๊อด พูดพร้อมกัน ไอ้นี่มันกว้างขวางวุ้ย 555

แวะคุยได้ความว่า หลังจากกลับจากหลวงพระบาง พี่ตู่ก็บวช สึกออกมาว่าจะโทรหาอยู่แต่ก็ทำกระดาษที่จดเอาไว้หายไปซะได้ ดูเอาเถอะคุณโลกมันก็ออกจะกว้าง แต่ก็มาเจอกันได้ซะทุกที ไม่ใช่บุพเพจะเรียกว่าอะไร 5555



ถ่ายภาพแถวลานหินแห่งหนึ่ง พี่ตี๋เห็นงูตัวเล็กสีน้ำตาล พี่จ๋อมแจ๋มบอกไม่เห็นหัวมัน โจ้เลยอาสาเอาไม้มาเขี่ยยกกิ่งไม้ที่บังออกให้ พี่ ๆ ห้ามกันเล้งย่านมันสิ่พุ่งใส่เอา พี่ตี๋บอก "แหมทีเมื่อวานตัวใหญ่ มันยืนหลบอยู่ข้างหลังชาวบ้านเค้า" อ้าวก็ต้องดูดิ่ว่ามันสู้ไม่สู้ ไอ้ตัวเมื่อวานเอาหินเขวี้ยงเต็ม ๆ ยังไม่ขยับหนีเลย เรื่องไรจะเสี่ยงง่ะ



เดินไปในใจก็หวั่น จะเป็นภาระให้พี่ ๆ หรือเปล่าน้อ เอาวะลองดูสักตั้ง ยังไงก็ไม่ถึงกับเข่าพังกระจุยแบบครั้งก่อน ๆ หรอกน่า
: เอนอ้าสีขาว ที่ค่อนข้างน้อยในป่า พี่พันธุ์ทิพจ๋า อุตส่าห์ชี้ให้ดูตลอดทาง รวมถึงรอย หมาใน นายพราน อึ่งอ่างอ่ะจึ๊ก ๆ กัน 555



อ่ะนี่ พี่พันธุ์ทิพ พี่จ๋อมแจ๋ม หรือพี่ถุงนอนของเรา แบกปืนหนักซ้อมไว้กำลังจะไปฝึกที่ไหนหว่าจำไม่ได้ เอ้าสู้เค้าพี่...



4 หนุ่ม ป่าหญ้าคา แถวกำแพงเมืองจีน ยังร่าเริงกันอยู่



จุดชมวิวตรงนี้มองเห็นน้ำตก ผาน้ำผ่า อยู่ไกล ๆ ภาพไม่ชัดเลยไม่ลง แต่ถ้าอยากดูก็บอกจะจัดให้ มองลงไปอีกมุมก็เห็นลำธาร พี่ตี๋นี่ตาดีจริง ๆ วะ ทำเอา 2 หนุ่มอย่างพี่สิษฐ์ และพี่อ๊อดเผาฟิล์มกันกระเจิง



นั่งสักพักฝนเริ่มมา จึงรีบเดินทางลงทางหน้าผา กระไดน่ากลัวมาก ๆ ฝนตกแล้วเสื้อกันฝนถูกขุดมาใส่ป้องกันอุปกรณ์ที่ขนกันมา เดินผ่านกล้วยไม้ดินที่แทงช่อออกมาสีม่วงอย่างจำใจ ไปหลบใต้หิน มีกฏเหล็กว่าห้ามนั่งเด็ดขาด ไม่งั้นทากเจาะตูดแน่ ๆ
พี่สิษฐ์พยายามโน้มน้าวน้อง ๆ ให้เดินกลับ แต่น้อง ๆ ลุยแหลกลูกเดียว พีจ๋อมแจ๋มบอกว่าถ้าจะไปให้รีบไปต่อไม่งั้นฝนหนักน้ำไหลลงมาจากข้างบน ลำห้วยจะเชี่ยวข้ามไปไม่ได้ ว่าแล้วเราก็เลาะ ๆ ๆ ๆ พื้นรองเท้าโจ้ออกจะลื่นกว่าใคร ๆ จึงต้องขอความช่วยเหลือจากพี่ ๆ อยู่เรื่อย แต่ก็ไม่วายลื่นแพร่ดไถลงมากับก้อนหินอยู่ 1 ที ตรงทางลงมาดูน้ำตกหงษ์ทองนี่แหละ แหม...ไม่มีโซดา



จากน้ำตกหงษ์ทองความบันเทิงได้เริ่มขึ้น เส้นทางลาด ลื่นแพร่ด ๆ ก้าวพลาดมีสิทธิ์ลงไปกองข้างล่างได้ง่าย ๆ ตอนร่วงลงไม่กลัวเจ็บแต่กลัวตอนตะกายขึ้น มันเหนื่อยตายซะก่อน พี่จ๋อมแจ๋มถามว่าหิวรึยัง โจ้ส่ายหัว พี่เค้าบอกดีแล้วรอบ่ายโมงไปถึงน้ำตกขุนพองจะได้อร่อย ประมาณว่าหิวจัด ๆ อะไรก็อร่อยทั้งนั้น เดินข้ามห้วย ข้ามแอ่งน้ำเชี่ยว ๆ ต้องจับมือพี่จ๋อมแจ๋มให้ลากเดินตลอด พี่สิษฐ์ก็คอยดันตูด พี่ตี๋ส่งขาตั้งกล้อง แล้วก็ห้อยตูดพี่อ๊อดไปอีกที เป็นตัวภาระโดยสมบูรณ์จริง ๆ เลยกรู
แต่ว่าบางทีก็แอบมึน 555 แผนเยอะนัก เหยียบน้ำแล้วรู้สึกว่าต้องปลิวแน่ ๆ ก็ส่งสายตาแล้วยิ้มอ้อน ๆ ประมาณว่า ถ้าข้ามเองได้ไปรอที่ปลายน้ำแน่ ๆ แล้วพี่ ๆ เค้าก็จะย้อนกลับมาลากข้ามฝั่ง 555 โดนบ่นเลย "น้ำหนักเบาเหลือเกินนี่กลับไปกินให้เยอะ ๆ หน่อย"

แล้วในที่สุดก็มาถึงน้ำตกขุนพองเมเปิ้ลเขียวปิ๊ดเลย ไม่เหลือแดง ๆ ให้เห็นสักใบ (ที่หงษ์ทองยังพอมีให้เห็นบ้าง) ที่นี่น้ำเยอะสะใจมาก ๆ ทากก็เยอะสะใจเช่นกัน แต่สบาย ๆ เพราะโจ้ไม่ใช่คนกลัวทาก แต่รำคาญตอนนั่งแงะมากกว่า แงะของตัวเองก็ไปช่วยคนอื่นเค้าแงะด้วย จะว่าไปมันก็เพลินดีนะนับทากเนี่ย หนุกดี ถ้าไม่ได้เคาท์เตอร์เพนท์ขาคงพรุนแน่ ๆ เลยว่ะ
ถ่ายภาพก็กลัวละอองน้ำจะเข้ามาทำกล้องเจ๊งเลยไม่ได้ถ่ายมาก อาศัยกล้องพี่สิษฐ์ แกก็เลยดึงเรามาถ่ายคู่ หลังจากบนกำแพงเมืองจีนจับหัวโจ้ไปซบอกทีแล้ว คราวนี้เปลี่ยนเป็นแกพิงว่ะ แล้วจัดท่าให้เรียบร้อย หวานจนขนลุกเลยกู ใช้ภาพสร้างกระแสได้ดีเลยนะนั่น ถ่ายเสร็จก็กินข้าวพี่จ๋อมแจ๋มแกแยกไปกินที่ไหนไม่รู้ สำรวจเส้นทางด้วยมั้ง กินเสร็จโจ้ก็เดินเลาะ ๆ ข้ามน้ำตามพี่เค้าไป พอดีกับพี่จ๋อมแจ๋มย้อนลงมาให้ดูรอยทากมันดูดที่มือเรียบร้อย 555 เดินต่อเงยหน้าเจอเส้นทางขึ้นบนน้ำตก โคตรจะโหด ชัน ลื่น เหว แทบกระอักเลยล่ะ ขนาดมีไม้กั้นแล้วยังแทบลื่นลอดรูลงไปให้ได้
จากนั้นเส้นทางก็สะเทิ้นน้ำ สะเทิ้นบกไปตลอดทาง



กุหลาบแดง งามแต้ ๆ ก้ะ



นี่ นู่น นั่น บนยอดน้ำตกขุนพอง



ม่อนไข่ เสียดายไม่เอาขาตั้งไป เลยได้มาแค่นี้



เหอ ๆ คริ คริ ยิงพี่จ๋อมแจ๋มมั่ง



พี่สิษฐ์เป็นแบบให้โจ้ในป่าปิด



มันจะกลิ้งมารึเปล่าเนี่ย...



หนุ่ม ๆ เริ่มใช้ตัวช่วยกันทากอีกครั้ง



จากลำธารตรงนั้นเราก็ตะกายกันกลับขึ้นมานั่งที่จุดชมวิวผาน้ำผ่านอีกครั้ง พักหายใจยาว ๆ หยอกล้อกันเล่นหนุกหนาน "มาตั้ง 5 ครั้งแล้วไม่เคยพาแฟนมาสักที แฟนเป็นคนที่ไหนล่ะ" 555 ตอบไม่ยากแหะ แฟนไม่มี แฟนก็เลยไม่มาไงพี่ยังอุตส่าห์จำได้อีกนะว่ามาตั้ง 5 ครั้ง



เดินคุยติดเรต R พอสมควรข้ามลำธารสุดท้ายเช็คทากกัน พี่จ๋อมแจ๋มโดนเจาะกลางหลัง พี่สิษฐ์ผู้ชายอบอุ่นโดนทากเกาะบานเลย พี่อ๊อดนี่ก็แงะมาตลอดทาง พี่ตี๋ที่แปลงร่างเป็นพี่ (ล่อ) เป้า ก็โดนรุมไม่ต่ำกว่า 10 ตัว แต่ไม่ได้โดนกัดเลยเก่งนะเนี่ย
สุดท้ายเดินกลับมาผ่านหน้าบ้านกุหลาบขาวอีกครั้ง พี่ ๆ ถามอีกครั้งให้โจ้มานอนเอาไหม พี่จ๋อมแจ๋มช่างรู้ใจ บอกเลยว่า "โจ้ไม่กล้านอนหรอก" อิอิ ตอบได้ตรงใจจริง ๆ
: เจ้าแตงโม หน้าใหญ่คัก


เดินไปอาบน้ำเย็นนั้นคนเดียว ไม่ได้ดูข้างทางเลย เสียงดังพรึ่ด ๆ ต้นเสียงคือหมูป่า 3 ตัว กำลังร่าเริง เห็นโจ้ไม่หยุดเดินมันก็วิ่ง ๆ หนีเข้าป่าไป อาบน้ำเสร็จก็ไปโวยวายกับพี่ ๆ ว่าหมูมันวิ่งหนีคนสวยอย่างหนู ง๊า.......





นกปรอทยามเช้า 2 ตัวที่มากินข้าวหน้าร้านพี่ยุทธประจำ เช้านั้นพี่สิษฐ์แบกเป้ลงมาให้โจ้ ส่วนโจ้แบกใบเล็กให้พี่สิษฐ์ ที่ตี๋ยังเป็นคนถือขาตั้งเช่นเดิม พี่อ๊อด ถือกล้องและขาตั้งตัวเองลงมาคือเก่า และพี่ยุทธที่ช่วยถือเป้ และเป๋าพี่สิษฐ์พี่อ๊อดลงมาให้ เดินคุยกันมาเรื่อย ๆ สนุกกันตามประสาคนคอเดียวกัน ลงมาเรื่อย ๆ จนเห็นตีนภูฯ ใกล้ ๆ ฝนตกค่อนข้างหนัก ไอ้โจ้ลื่นลงเอาตูดกระแทกดังอั้ก ไม่ปรึกษาใครเล๊ยยยย 5555

ถึงเบื้องล่างเจอพี่ ๆ เจ้าหน้าที่ เจอพี่โจ้แฟนพี่ยุทธ กินข้าว อาบน้ำเสร็จก็ได้เวลากลับ ร่ำลากันทุกคน โจ้กะพี่ตี๋ แยกไปขอนแก่น ส่วนพี่สิษฐ์ และพี่อ๊อดตรงเข้ากรุงเทพฯ
ถึงขอนแก่นพี่ตี๋ ขึ้นรถมุกดาหารไปกาฬสินธุ์ โจ้แบกเป้ที่หนักน้ำฝนเข้าพักที่โรงแรม 1 คืนก่อนจะทำโทรศัพท์เจ๊งชั่วขณะ แล้วตรงไปร้อยเอ็ดในวันต่อมา
สรุปทริปนี้ ไม่เหมือนเที่ยว เหมือนเอาความเหนื่อยล้ามาทิ้ง และพักผ่อนอย่างเต็มที่ ได้สิ่งดี ๆ หลายอย่างกลับมาเหมือนเดิม เฮ้อ สบายใจจริง ๆ .



จบแระ.


Create Date : 30 เมษายน 2549
Last Update : 14 กรกฎาคม 2550 15:22:59 น. 20 comments
Counter : 621 Pageviews.

 
ไอ้ผมก็ออกแนวหื่น คิดว่าเรื่องแบบนั้น กะจะเข้ามาตอบเต็มที่เลย อิอิ


ปล. อยากไปเที่ยวบ้างจังเลยครับ และ (กระซิบ) ว่างๆ ไปเที่ยวบล็ฮกผมบ้างนะครับ อย่าบอกใครล่ะ จุ๊ๆ


โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 30 เมษายน 2549 เวลา:13:46:53 น.  

 
ง่า........อิจฉาจัง ได้เข้าป่าปิดด้วย
ภูกระดึงต้นฝนนี่เขียวขจีดีจริง ๆ ครับ
ผมเก็บเอาไว้เป็นโปรแกรมปีหน้ามั่งดีก่า อิอิ




โดย: little-joe มะได้ล๊อกอิน IP: 203.151.46.131 วันที่: 18 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:08:33 น.  

 
หวัดดีวันจันทร์ค้าบบ

แวะมาเที่ยวป่า สูดอากาศกลางหมอกหน้าฝน
ให้ชื่นใจก่อนทำงานคับ อิอิ

ปล. วันนี้ผมอารมณ์ดีคับ


โดย: little-joe วันที่: 22 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:10:57 น.  

 
แวะมาเที่ยว ภูกระดึง ด้วยจ้า ไปแบบโล่งๆแบบนี้ดีจัง เมื่อคราวที่ป้าแป้งไปครั้งล่าสุดเมื่อปีก่อน ช่วงวันหยุดติดต่อ ที่จะให้ยืนก็เกือบไม่มี


โดย: แป้งแดง วันที่: 21 มิถุนายน 2549 เวลา:19:46:11 น.  

 
โฮ๋ โฮ่ ลุงไปเข้าป่าปิดมาเมื่อวันไหนหว่า 11-12-13 พฤษภาคมมั้ง จำมะได้อ่า ต้องไปดูที่บล็อกแหละ

เหอ เหอ ป้าแป้ง ไปหน้าหนาวไปได้แค่ป่าเปิด หน้าหนาว คนเยอะ เข้าป่าปิดไม่ได้ ไม่สะใจหรอก

ยังคิดถึงภูกระดึงอยู่เรื่อยเลยละนะ ภูกระดึงหน้าหนาว ไม่อยากไป อยากไปเดินป่าปิดอีกครั้งปีหน้า

ฮือ ฮือ หวังว่าสังขารยังสู้ไหวน๊า


โดย: ไม้หลักปักมั่นคง วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:11:41:38 น.  

 
สวัสดีป้าแป้งแดง ลุงไม้หลักปักมั่นคง คุณลิตเติ้ลโจ

ตอนไปครั้งแรกหนูก็ขึ้นตอนแดดร้อนเปรี้ยง นักท่องเที่ยวมีไม่ถึง 20 คน ยิ่งคืนสุดท้าย ไม่เหลือใครเลยนอกจากโจ้กะเพื่อน รู้สึกชอบมาก ๆ ค่ะ หลงใหลในความสงบของภูกระดึงจริง ๆ ครั้งที่ 6/7 ไม่พ้นปลายปีนี้แน่นอนอิอิ


โดย: Kaper วันที่: 6 สิงหาคม 2549 เวลา:14:40:19 น.  

 
ไปหลายครั้งแล้วเหรอ

ลุงไม้ไปเข้าป่าปิดครั้งเดียว อยากไปอีกนะแต่ที่อื่นมีที่ไปอีกมากนิ

ตอนนี้ ไปพิขิตโกรกอีดกแล้วนะ..ขอบอก


โดย: ลุงไม้ (ไม้หลักปักมั่นคง ) วันที่: 26 ตุลาคม 2549 เวลา:20:26:33 น.  

 
เคยไปตอนสมัยหนุ่มๆ ยังอยู่ในความทรงจำเสมอ นะตัวเอง


โดย: น้าที แบ็คแพ็ค IP: 202.5.87.138 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:49:15 น.  

 
น้าทีสวัสดีค่ะ .

เป็นความทรงจำเกี่ยวกับสาวด้วยอ๊ะป่าว อิอิ


โดย: เกงเลตูดขาดค่า IP: 58.9.152.251 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:31:32 น.  

 
หนุกดีคับ อยากไปซักครั้ง แต่ชื่อกาทู้ล่อแหลมจิงๆ


โดย: นายตะลอน ณ สยามฟิชชิ่ง IP: 124.121.129.250 วันที่: 20 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:56:23 น.  

 
อิอิ ถ้าชอบป่าปิด ปีหน้ามีแผนจะรีบส่งข่าวน้าตะลอนด่วนนะคะ


โดย: เกงเลตูดขาดค่า IP: 58.9.146.138 วันที่: 23 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:37:24 น.  

 
หน้าไปจังเลยครับ


โดย: ผู้รัก และ หลงไหลธรรมชาติ IP: 222.123.158.17 วันที่: 23 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:29:39 น.  

 
^
^
^
^
^
^
หลงใหล ประเภทธรรมชาติลงโทษแบบหนูด้วยป่าว ???


โดย: โจ้ เกงเลฯ IP: 58.9.142.189 วันที่: 25 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:12:12 น.  

 
อ่ออออ แบบว่า.......
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ส่งตังมาแทนได้ไม๊คับ


โดย: นายตะลอน ณ สยามฟิชชิ่ง IP: 124.121.124.198 วันที่: 2 สิงหาคม 2550 เวลา:21:28:46 น.  

 
ทำไมวางแผนเดียวกันเลยล่ะคะน้าตะลอนฯ 5555

6-7 ตุลาคม ปีนี้ค่ะ ขึ้นเสาร์ เดิน กิน อู้ เดิน อู้ กิน กิน อู้ เดิน นอน


โดย: โจ้ เกงเลฯ IP: 210.246.64.110 วันที่: 4 สิงหาคม 2550 เวลา:21:02:26 น.  

 


ฉ้านนนนตะตามมาฆ่าแก นังป้าโจ้ แกตายยยยยแน่ ๆ ๆ ๆ

เจอกานแน่ เบนซ์ค้าบ ส. 300 ยอด



โดย: เบนซ์ค้าบ IP: 202.57.156.136 วันที่: 8 สิงหาคม 2550 เวลา:18:23:59 น.  

 
ครั้งแรกเป็นไงดำเกิง เจ็บไม๊ คริคริ


โดย: นังนู๋ฟ้า วันที่: 8 สิงหาคม 2550 เวลา:21:21:20 น.  

 
เจ็บมากไอ้ย้อย....แมร่ง ชาย 4 หญิง 1 กรูไม่ได้เล็มแม้แต่ขนหน้าแข้ง แสด...


ต๊าย...น้าเบนซ์จ๋า ตามมาแค้นรักฝังลึกถึงนี่เชียว 5555


โดย: Kaper วันที่: 19 สิงหาคม 2550 เวลา:10:04:21 น.  

 
น้องช้านนนน


ชาย 4 หญิง 1

ผู้ชายเค้าปลอดภัยกันมั๊ยนั่น....

อิจฉา อิจฉา ได้เข้าป่าปิด ภูกระดึงด้วย


โดย: เพ่โอ๋ IP: 203.146.85.150 วันที่: 7 กันยายน 2550 เวลา:16:24:08 น.  

 
มาอิจฉาอะไรกันป้าโอ๋ แม๋ ๆ ๆ
เรื่องแบบนี้ต้องหน้าตาดีเท่านั้นถึงจะสามารถ คิคิคิ


โดย: Kaper วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:16:40:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Kaper
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวย Sex เสปค ลิง
รักจริง ไม่ทิ้งขว้าง
รักเด็ก รักสัตว์ รักธรรมชาติ
แต่เกลียดคนหลายใจ!!!!

ปล.ทำตัวแบบนี้
พ่อแม่ไม่รู้จะว่าอะไรแล้วค่ะ
Friends' blogs
[Add Kaper's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.