1.ไม่เป็นไร ผิดพลาดกันได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่
เมื่อเราทำไรผิดพลาดไปแล้ว ก็ควรที่จะนำข้อผิดพลาดนั้นๆมาเป็นบทเรียนหรือสิ่งเตือนใจให้กับเราในการทำงานให้ดีขึ้นจะได้ไม่ทำผิดพลาดซ้ำๆในเรื่องเดิมๆอีก

2.งานไม่ได้หนักทุกวันสักหน่อย เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว
เวลาทำงานหนักๆเยอะๆบ่อยๆเข้ามันอาจจะทำให้ท้อได้ จนบ้างครั้งมันทำให้เราเหนื่อยล้าและขี้เกรียจทำงาน เราต้องหาอะไรมาเป็นสิ่งกระตุ้นให้เราเกิดแรงบันดาลใจในการทำงานให้เสร็จ

3.ถึงจะไม่เก่งงานนี้ แต่เราก็พยายามเต็มที่แล้ว
ถึงแม้เราจะไม่เก่งหรือไม่ถนัดในการทำงาน เราก็ต้องให้เวลาหรือใช้ความพยายามในการทำงานอย่างเต็มที่ เดี๋ยวงานที่ทำก้อเสร็จจนได้ เมื่อเกิดข้อผิดพลาดอะไรเดี๋ยวเค้าก็แนะนำให้กับเราเอง

4.ใครจะว่าอะไรก็ช่าง ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็พอแล้ว
ถ้าเราทำในสิ่งที่ดีและถูกต้องแล้ว ใครจะว่ายังไงหรือจะพุดอะไรก็ช่าง ในเมื่อเราทำอะไรเรายอมรู้อยู่แก่ใจเรา ไม่นานเค้าก้อคงเลิกพูดกันไปเอง อย่าไปคิดอะไรมากเลย

5.ให้เกียรติงานที่ทำด้วยการทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ อย่าบ่นว่าไม่ชอบงาน
จงใส่ใจกับงานที่ทำอยู่อย่าไปคิดว่าเราไม่ชอบ ทุ่มเทให้กับงานที่ทำอยู่ เราจะรู้สึกชอบและมีความสุขกับงานที่ทำเอง งานก้อจะได้เสร็จตามเวลาที่กำหนดและดี มีประสิทธิภาพ

5. ให้เกียรติงานที่ทำด้วยการทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ อย่าบ่นว่าไม่ชอบงาน คือ เราต้องภูมิใจในองค์กรที่เราทำงานอยู่นั้น เช่น ไม่ดูถูกองค์กรหรืองานที่เราทำงานอยู่ ไม่ยึดติดกับคน ทำงานที่เราได้รับมอบหมายให้เต็มความสามารถโดยที่ไม่เกี่ยงงานให้ผู้อื่น และมีความเสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อส่วนรวมบ้าง ทำใจให้สนุกกับงานที่เราได้ทำ แล้วเราจะได้ประสบการณ์จากสิ่งที่เราได้ทำ และจะประสบความสำเร็จในการทำงานด้วย ถึงแม้เวลาทำงานจะเกิดปัญหาเราก็ควรพร้อมที่จะพบกับปัญหานั้น และแก้ไขปัญหาอย่างมีสติ รอบคอบ และเราก็ไม่ควรบ่นว่าเราไม่ชอบงาน เพราะการเลือกงานนั้นจะทำให้เราตกงาน ในขณะที่สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันแล้วจะต้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากมาย ถ้าไม่มีงานเราก็จะไม่มีเงินที่จะใช้ในชีวิตประจำวัน

งานไม่ได้หนักทุกวันสักหน่อย เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว เพราะการทำงานในแต่ล่ะวันนั้น บางวันก็มีงานเยอะ จนแทบไม่ได้พัก ส่วนบางวันก็แทบจะไม่มีงานเลย จึงคิดทางบวกที่จะปลอบใจตัวเองว่า งานไม่ได้หนักทุกวันสักหน่อย เดี๋ยวก็ได้พัก เพื่อที่จะกระตุ้นให้ตัวเองทำงานที่ได้รับมอบหมายให้บรรลุล่วงไปด้วยดี เช่น วันนี้ต้องทำรายงานส่งอาจารย์ 2 เรื่อง ซึ่งก็เยอะพอสมควร แต่เราก็คิดว่าไม่ได้หนักทุกวัน เราก็ตั้งใจทำให้เสร็จ แล้วเราก็ได้พัก เพียงเท่านี้เราก็ไม่ต้องมากังวลว่างานเยอะ เหนื่อย ไม่อยากทำแล้ว อีกทั้งงานที่ได้ออกมา ก็จะมีประสิทธิภาพ จากความตั้งใจในการทำงานนั้นเอง

4.ใครจะว่าอะไรก็ช่าง ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็พอแล้ว เพราะ ถ้าเราเก็บคำพูดของคนอื่นมาคิดมันก็เป็นผลเสียต่อตัวเราและงานที่เราทำ เราอาจจะไม่มีความสุขกับงานเพราะมัวแต่กังวลว่าคนอื่นจะพูดถึงเราในแง่ที่ไม่ดี เขาจะว่ายังไงก็ช่างเขา เพราะเราทำดีแล้ว เรารู้ตัวของเราดี ว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้คนอื่นเขาจะพูดไป ก็อย่าได้ใส่ใจ ทำเป็นหูทวนลมซะบ้าง เราจะได้มีความสุขกับงานที่ทำ ตัวอย่างเช่น สมมติว่าเราทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง แล้วเจ้านายของเราไว้ใจให้เราทำงานชิ้นโน้นชิ้นนี้บ่อยๆ เพราะเห็นเราเป็นคนขยัน แล้วก็ทำงานดี ก็เลยได้เลื่อนขั้นเร็ว แต่ก็ยังไม่พ้นคนอิจฉา พูดนินทาเราลับหลัง ว่าเราประจบสอพอเจ้านาย เพื่อให้ตัวเองได้ดี ถ้าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดเราก็ไม่ต้องแคร์ เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอ

ไม่เป็นไร ผิดพลาดกันได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สำหรับบางคนนั้นเขาจะยึดติดกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เหมือนกับ กระดาษที่ว่างเปล่าสีขาว ที่เกิดจุดสีดำตรงกลาง คนส่วนมากจะเห็นจุดสีดำจนลืมพื้นที่สีขาว แต่ต่างกับ คนอีกส่วนที่เห็นแล้วก็ไม่สนใจจุดสีดำ ความผิดพลาดที่ผ่านมาถ้ามันผ่านไปแล้ว ก็ ปล่อยมันไปไม่ต้องสนใจอะไรมันไม่ใช่เรื่องใหญ่

1.ทำงานผิดพลาดแล้วยังจะมานั่งโทษตัวเองให้เหนื่อยทำไม ให้กำลังใจตัวเองเพื่อทำงานชิ้นต่อไปดีกว่า ยิ่งเรามัวจมกับความผิดพลาดเดิม ๆ เราก็จะทำงานอื่นต่อไม่ได้ สู้เอาความผิดพลาดมาทำให้ถูกต้องในงานชิ้นใหม่ดีกว่า สัจธรรมของชีวิตที่ต้องจำไว้อย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีใครจำเรื่องของคนอื่นนานหรอกถึงใครจะว่าเรามากมายแค่ไหน แต่พอเดินพ้นหน้าเราไปเขาก็ต้องคิดเรื่องอื่นแทน แล้วเราจะมาลงโทษตัวเองอยู่ทำไม

2.เวลางานล้นมือเราอาจท้อ แต่ท้อไปงานก็ไม่เสร็จ ลุกมาทุ่มเททำให้เสร็จ ๆ ไปดีกว่า เหนื่อยแค่ไหนเดี๋ยวก็ได้พัก และสิ่งที่เราต้องทำเมื่องานเยอะ คือจัดระเบียบเส้นตายของงานแต่ละชิ้น เจรจาต่อรองถ้าคิดว่าจะไม่เสร็จตรงเวลา แล้วก็ค่อย ๆ ทำไปทีละงาน เดี๋ยวดีเอง

3.บ่อยครั้งที่เราได้รับมอบหมายงานที่ไม่ถนัด ก็คิดเสียว่าไม่เป็นไร ทำให้เต็มที่ แต่ก่อนทำก็บอกคนที่มอบหมายหน่อยว่าไม่ค่อยถนัดนะ แต่จะทำเต็มที่ ผิดพลาดอะไรก็บอกได้ เขาจะได้ไม่คาดหวังมาก แต่ถ้าทำออมาแล้วดีก็ถือเป็นกำไร อย่าเสียใจที่ทำงานบางประเภทไม่เก่ง เพราะเราก็อาจจะเก่งในงานประเภทอื่นก็ได้ จำไว้ว่าปลาอาจจะว่ายน้ำเก่งกว่าลูกสุนัข แต่ปลาก็วิ่งไม่ได้เหมือนกันถ้าปลาตัวหนึ่งจะโดดขึ้นมาบนบกแล้วคืบคลานจนถลอกปอกเปิกก็คงไม่มีใครว่าอะไร เพราะมันเป็นปลาจริงไหม

4. เคยได้ยินคนพูดเรื่องการติดฉลากไหม การติดฉลากก็คือการประทับตราว่าสิ่งนั้นเป็นอะไร เพื่อให้ง่ายต่อการจัดประเภท ทีนี้ปัญหาอยู่ที่ว่าถ้าติดฉลากถูกก็ดีไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ติดฉลากผิด สิ่งนั้นก็จะไม่ใช่สิ่งที่เป็นตามฉลากก็เท่านั้น ในหลักการเดียวกัน ถ้าใครมาว่าคุณสารพัดเรื่อง แต่ถ้าคุณไม่ได้เป็นอย่างเขาบอก ก็ไม่เห็นจะต้องคิดมากกับฉลากที่เขาเอามาติดไว้ ถ้าคุณเป็นน้ำตาลแล้วเขาเอาฉลากน้ำปลามาติดให้ก็ไม่ใช่ปัญหาของคุณ เขาเองต่างหากที่คิดผิด

5. อย่าบ่นว่าไม่ชอบงานนึกถึงกระเป๋ารถเมล์ที่ยิ้มแย้มแจ่มใสสิ แล้วเปรียบเทียบกับเราที่นั่งบ่นอยู่นั่นแล้วว่าเหนื่อย ไม่สนุกถามว่างานหรือเปล่าที่ทำให้เราทุกข์ จริง ๆ แล้วเราต่างหากที่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์ เพราะนั่งพร่ำบ่นกับสิ่งที่ไม่ได้ดังใจ ถ้าใครได้ทำงานที่ชอบก็ดีไป แต่อย่าลืมว่างานที่ชอบก็มีด้านที่ทำให้เราเหนื่อยได้เหมือนกัน ใช่ว่าหนทางการทำงานจะปูด้วยกลียกุหลาบเสมอไป สิ่งที่เราควรคิดก็คืองานคือสิ่งที่ทำให้เราใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า อย่าดูถูกงานของตัวเอง ไม่เช่นนั้นเราก็ดูถูกตัวเองด้วยที่เลือกทำงานนั้น อย่าลืมว่าเราต่างหากที่เป็นคนเลือกที่จะทำหรือไม่ทำ ดังนั้นทำงานที่เราเลือกในเวลานั้นๆ

ให้กำลังใจ เพื่อสร้างพลังให้ตนเอง
การได้รับกำลังใจจะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตอยู่ไม่มีอุปสรรคและปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เป็นการให้กำลังใจตนเองก็เป็นการสร้างพลังกายพลังใจของเราให้เข้มแข็งอาจเริ่มต้นจากการพูดให้กำลังใจตนเอง เช่น ไม่เห็นจะเหนื่อยเลย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ก็ยังดีนะ ที่ไม่โดนหนักกว่านี้ เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นกับทุกคนไม่ต้องกลุ้มใจการให้กำลังใจตนเองก็เป็นการปรับทัศนคติในแง่บวกเช่นกันเพื่อผลักดันให้เรามีพลังในการทำงานต่อไป ควรมองโลกในแง่ดี การให้กำลังใจตนเองนั้นถือว่าเป็นการย้ำเตือนจิตใจของเราด้วยภาพที่ดีในทางบวกเพื่อเป็นการสร้างพลังกายให้เข้มแข็งที่จะทำงาน ให้สำเร็จลุล่วงไปได้นอกจากการพูดให้กำลังตนเองแล้วยังสามารถหากำลังใจได้ทั้งในรูปแบบของตัวเรานั้นและสิ่งของขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาอะไรเป็นกำลังใจเพื่อให้ตัวเองมีกำลังใจทำงานต่อไป

"ถึงจะไม่เก่งงานนี้ แต่เราได้พยายามเต็มที่แล้ว"
การทำงานเราไม่สามารถที่จะเลือกทำแต่งานที่ถนัดได้อย่างเดียว บางครั้งอาจได้รับมอบหมายงานที่ไม่ถนัด ก่อนทำควรบอกคนที่มอบหมายงานว่าไม่ค่อยถนัดงานด้านนี้ แต่จะทำเต็มที่ผิดพลาดตรงไหนบอกได้ และคิดกลับกันเป็นการสร้างโอกาส ให้เราได้พิสูจน์ฝีมือ แสดงศักยภาพ ถ้าทำออกมาดีถือว่าเป็นกำไร

"งานไม่ได้หนักทุกวันสักหน่อย เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว"
จากประสบการณ์การฝึกงานที่ผ่านมา ร้านที่ผมฝึกอยู่ เปิดร้าน 9 โมงเช้า - 1 ทุ่มตรง บางวันกว่าจะเลิกงานก็ 4ทุ่ม เพราะต้องเช็คสต๊อกสินค้า บางคนมองว่าเป็นงานที่หนักหนาสาหัสเลยเดียว แต่ในอีกมุมๆหนึ่ง ร้านนี้เป็นร้านที่ผู้ร่วมงานทุกคนอยู่กันแบบพี่น้อง เห็กอกเห็นใจกัน บางวันงานของเราเยอะ เพื่อน่วมงานที่แผนกอื่นก็มาช่วยโดยไม่หวังผลตอบแทน ผมจึงถือว่าในงานที่หนัก เรายังมีเพื่อนร่วมงานที่รู้ใจ ถ้าจะให้นิยามคำว่า "พัก" ผมขอบอกตรงนี้เลยว่า การได้ทำงานท่านกลางเพื่อนร่วมงานเหล่านี้ คือการพักผ่อนหัวใจที่ดีเลยทีเดียว ถึงจะเหนื่อยงาน แต่เราก็ไม่ได้เหนื่อยใจกับงาน แค่นี้ ท่ามกลางงานหนัก ก็เป็นการพักผ่อนได้เช่นกัน

1.ไม่เป็นไร ผิดพลาดกันได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่

เราต้องรู้จักให้กำลังใจตัวเองและผู้อื่นอย่าได้สำเติมเมื่อทำผิดผลาด เพราะงานบางงานเราอาจไม่เคยทำ มันก็มีผิดพลาดกันบ้างเราต้องรู้จักปรับตัวเพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้น ผิดครั้งแรกเปรียบสเหมือนประสบห์การณ์ เราต้องพยายามทำให้ดีที่สุดก็พอแล้ว!!

3.ถึงจะไม่เก่งงานนี้ แต่เราก็พยายามเต็มที่แล้ว

จากการที่ได้ทำงาน ถึงว่าเราจะได้ทำงานในงานที่เราไม่ได้ถนัด ไม่เก่ง ไม่ตรงกับสายงานที่เรียนมา แต่เราก็ต้องพยายามทำมันให้เต็มที่ ไม่ว่างานที่ได้จะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม ขอแค่ให้เราพยายามทำงานนั้นให้เต็มที่ก็พอ

3.ถึงจะไม่เก่งงานนี้ แต่เราก็พยายามเต็มที่แล้ว
คนเรามักจะทำงานผิดกันได้เสมอ คนเราไม่เก่งในทุกเรื่อง แต่เราก็สามารถพยายามฝึกฝน ให้มีความสามารถเก่งได้

ไม่เป็นไร ผิดพลาดกันได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่
ไม่ว่าจะทำเรื่องใดก็เกิดเรื่องผิดพลาดกันได้เสนอไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ แต่เมื่อเกิดเรื่องหรือปัญหาเราต้องรู้จักวิธีแก้ไขปัญหานั้นๆให้ได้ โดยใใช้สติและปัญญาคิดให้รอบครอบ

เมื่อเราเลือกที่จะทำสิ่งนั้นๆ แล้ว ก็ให้ตั้งใจทำ หากไม่พอใจก็เลิกทำไป ไม่ควรบ่น เพราะจะเป็นการทำลายกำลังใจตัวเอง การทำงานนั้นเป็นการสมัครใจไม่มีใครบังคับ