• รวมเรื่อง วิชชาธรรมกาย
• น้อมลิขิต
• 360 เที่ยววัดทำบุญ
• ที่นี่มีคำตอบ
• มิสฮัมเบิล
• บ้านรับรอง (ชายคา)

เกร็ดความรู้เรื่องการตกแต่งที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกห้อง : ตอน Connection บทความเรื่อง : Decorating Tips you can use in any room ผู้เขียน : Lauren Flanagan(InteriorDecorating Expert) แปลและเรียบเรียงโดย : น้อมเศียรเกล้า กฏคือ เวลาที่จะตกแต่งห้องต้องทำให้มั่นใจว่ามันเชื่อมโยงและปะติดปะต่อกันระหว่างห้องสู่ห้อง  ในการตกแต่งห้อง จำเป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่งคือต้องอย่าไปคิดว่าห้องแต่ละห้องนั้นแยกกันเป็นเอกภาพและไม่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกันความจริงแล้วแต่ละห้องนั้นควรจะมีความสอดคล้องกันอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่เสมอถ้ามันไม่มีความสอดคล้องกันบ้างแล้วละก็ มันก็กลายเป็นความกระเส็นกระสายไม่มีความต่อเนื่องและทำให้บ้านไม่เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน แต่อย่ากังวลไปเลยเมื่อเราจะตกแต่งบ้านมันง่ายที่จะทำให้มันมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน และนี่คือวิธีการ 1. สี (Color)  นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เราจะเชื่อมโยงห้องทุกห้องเข้าด้วยกันได้ด้วยสี บางคนชอบที่จะทาสีบ้านทั้งหลังด้วยสีๆเดียวและตกแต่งเล็กน้อยด้วยสีอื่นๆ ให้เลือกสีด้วยตัวคุณเองนี่คือทางเลือกซึ่งไม่ใช้เพียงแค่สี ๆเดียว เลือกสีที่จะใช้มันทั้งบ้านไม่จำเป็นต้องเป็นแม่สี (Primary color) ในแต่ละห้องแต่มันควรเป็นสีทีจะเข้าได้กับอะไรก็ตามที่คุณจะเอามาไว้ตกแต่งกับมัน เช่นหมอนหรือของตกแต่งต่างๆ ใช้สเดียวกันนี้มากกว่า 1 ห้องและเลือกโทนสีมากกว่า 1 เฉดถ้าคุณจะทาสีห้องที่แตกต่างกันแต่ละห้องก็ได้ แต่อย่ามากเกินไป ถ้าบ้านมีขนาดเล็ก อย่าใช้สีมากกว่า4 สีเพราะมันจะทำให้บ้านของคุณดูยุ่งเหยิง เกร็ดสำคัญถ้าคุณจะทาสีบ้านด้วยสีที่แตกต่างให้ทาสีที่ขอบให้เป็นสีเดียวกันนี่จะช่วยทำให้มันดูมีความเชื่อมโยงกันได้ 2.สไตล์การตกแต่ง (Style)  การที่จะเชื่อมโยงห้องเข้าด้วยกันได้คือการเชื่อมมันด้วยสไตล์คุณไม่ควรที่จะตกแห่งห้องหนึ่งด้วยสไตล์หนึ่งและห้องอื่นเป็นสไตล์อื่นๆที่แตกต่างเพราะนั่นจะทำให้บ้านดูยุ่งเหยิงมากคุณอาจตกแต่งห้องเดียวกันด้วยความแตกต่างด้เช่นจับเก้าอี้แบบทันสมัยเข้าคู่กับโต๊ะไม้แบบคลาสสิคในห้องรับประทานอาหารแต่ไม่ใช่ตกแห่งบ้านทั้งหลัง ด้วยสไตล์การตกแต่งห้องที่แตกต่างกันไปทุกๆห้อง 3.วัสดุ (Material) การเลือกวัสดุจะทำให้ห้องมีความเชื่อมโยงกันได้ยกตัวอย่างเช่น ผู้เขียนชอบการตกแต่งสไตล์ เฟรนท์ วินเทจ( French Vintage) และ การชุบทองแบบอิตาเลี่ยนกิลท์ (Italian Gilt) ผู้เขียนจึงนำเชิงเทียนชุบทองติดผนังและโคมไฟระย้าชุบทองไว้ในห้องหนึ่งและ โคมไฟตั้งโต๊ะชุบทองไว้ในอีกห้องหนึ่ง กระจกชุบทองในอีกห้องหนึ่งเป็นต้นหากจะนำสิ่งของทั้งหมดนี่ไว้ในห้องเดียวกัน มันคงจะดูเยอะไปแน่แต่พอนำมันไปกระจายไว้ในห้องต่างๆ มันทำให้ห้องของผู้เขียนดูดีและมีความเชื่อมโยงกันได้มากทีเดียว 4.พื้น (Flooring) ถ้าบ้านมีพื้นที่ไม่มากนักม้นจะดูดีกว่าเสมอถ้าคุณใช้พื้นแบบเดียวกันสำหรับห้องทุกห้องแนวคิดนี้ไม่จำเป็นเสมอไปนักสำหรับบ้านที่มีพื้นที่มากแต่ถ้าบ้านมีพื้นที่เล็กนี่เป็นเรื่องจำเป็นทีเดียว เป็นต้นว่า ถ้าคุณเลือกใช้พื้นไม้เนื่อแข็งก็ควรใช้มันไปตลอดทั้งบ้านเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดความไม่สอดคล้องกันของบ้านและคุณอาจเพิ่มความน่าสนใจด้วยการเพิ่มลูกเล่นด้วยพรมก็ได้ในขณะที่พื้นเป็นชนิดเดียวกันอยู่ และถ้าเผื่อสมมุติว่าพื้นของบ้านแตกต่างกันไปเสียแล้วและคุณแก้ไขอะไรไม่ได้อีก ก็ให้คุณทำความเชื่อมโยงของห้องแต่ละห้องด้วยการใช้สีพรมเดียวกันแทน ถ้าคุณทำความเชื่อมโยงให้กับบ้านไม่ได้ด้วยประเด็นเรื่องพื้นก็ให้คุณพิจารณาเรื่องการทาสีห้องให้เป็นสีเดียวกันแทนนี่จะทำให้เกิดความเชื่อมโยง สอดคล้องกันได้มากขึ้น กฏสำคัญที่สุดของการแต่งบ้านคือคุณต้องแต่งมันด้วยสิ่งที่คุณชอบจริงๆ ถ้าคุณยืนยันมั่นคงในสิ่งที่คุณชอบและเลือกจริงๆคุณก็จะพบกว่าในที่สุดก็จมีการเชื่อมโยงกันได้ ด้วยทางใดก็ทางหนึ่ง ขอบพระคุณภาพตัวอย่างจาก Zazudesigns   Create Date : 05 มกราคม 2559     Last Update : 5 มกราคม 2559 9:21:57 น. Counter : 2546 Pageviews.   1 comment Share Tweet

วิธีจัดระเบียบบ้านใน 30 นาที ตอนที่ 3 : ตู้เสื้อผ้า ข้อเท็จจริงคือ คนจำนวนมากจัดวางตู้เสื้อผ้าอยู่ในบริเวณห้องนอนของตน ดังนั้นการจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าจึงมีผลที่ดีต่อสุขอนามัย และสร้างสุขภาพจิตที่ดีไม่ใช่น้อย การจัดระเบียบห้องนอนจึงควรเริ่มต้นจากตู้เสื้อผ้าก่อน และอย่างน้อยปีละครั้งควรมีการทำความสะอาดตู้เสื้อผ้าครั้งใหญ่โดยนำสิ่งของออกมาจากในตู้ทั้งหมด และใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือผ้าเช็ดบริเวณชั้นและราวแขวน การจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าที่ควรทำเป็นประจำมีดังต่อไปนี้ 1. เลือกสิ่งของที่ไม่ต้องการแล้วใส่ถุงขยะ หรือรวมไว้ในกล่องบริจาค 2.จัดหมวดหมู่ของสิ่งของประเภทเดียวกันไว้ด้วยกัน เช่น เข็มขัด กางเกงขาสั้น เสื้อ กระโปรง กางเกงยีนส์ เป็นต้น 3.เลือกเสื้อผ้าที่ใช่บ่อยที่สุดไว้ด้านหน้าบริเวณส่วนกลางของตู้ เลือกเสื้อผ้าที่ใช้ไม่บ่อยนักไว้บริเวณด้านหลังตู้ ต่อไปนี้เป็นไอเดียในการจัดตู้เสื้อผ้าที่ทำได้ไม่ยาก 1.ใช้อุปกรณ์ในการแขวนที่ช่วยประหยัดเนื้อที่ เช่นไม้แขวนกางเกงชนิดหลายชั้น 2.ติดตั้งอุปกรณ์แขวนเพิ่มเติมที่ประตูตู้ เช่นตะขอ หรือ แผงแขวน เพื่อแขวนสิ่งของต่างๆเพิ่มเติมเช่น เนคไท กระเป๋า และ Accessories ต่างๆ 3. ใช้ที่คั่นแยกประเภทเสื้อผ้า ตะกร้า เพื่อความสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น 4. เครื่องแต่งตัวและสิ่งของเล็กๆน้อยๆ ควรเก็บไว้ในกล่องใสที่แบ่งเป็นช่องเพื่อให้มองเห็นและหยิบใช้ง่าย 5.เลือกตู้เสื้อผ้าชนิดไม่มีกระจก หรือ ติดตั้งกระจกด้านนอกเพื่อใช้พื้นที่บริเวณด้านในประตูตู้แขวนสิ่งของได้มากขึ้น 6.วางกระเป๋าสำหรับใส่สิ่งของที่ต้องการบริจาคไว้ในตู้เสื้อผ้านอกจากจะดูสวยงามกลมกลืนไปกับสิ่งของต่างๆแล้ว ยังช่วยให้ทิ้งสิ่งของที่ไม่ต้องการแล้วได้ง่ายยิ่งขึ้น 7. หันไม้แขวนเสื้อไปทางเดียวกัน และรวบรวมไม้แขวนเสื้อเปล่าไว้ด้วยกันที่มุมสุดของตู้ และหลีกเลี่ยงไม้แขวนเสื้อชนิดทำด้วยลวด เนื่องจาก เมื่อเวลาผ่านไปพลาสติกหุ้มลวดหลุดร่อนออกมาเป็นเศษขยะในตู้เสมอ รวบรวมและเรียบเรียงโดย : น้อมเศียรเกล้า ขอบคุณภาพจาก อินเทอร์เน็ต   Create Date : 04 พฤษภาคม 2556     Last Update : 4 พฤษภาคม 2556 14:59:44 น. Counter : 10224 Pageviews.   1 comment Share Tweet

จัดระเบียบบ้านใน 30 นาที ตอนที่ 2 : ห้องน้ำ รวบรวม/เรียบเรียงโดย : น้อมเศียรเกล้า ขั้นตอนการจัดระเบียบบ้าน ของ Liza Zaslow ผู้ก่อตั้งและ ประธานบริษัท Goham Organizer ซึ่งเป็นบริษัทการจัดการมืออาชีพ ณ.เมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา มี 5 ขั้นตอนต่อไปนี้ 1.การสร้างแรงบันดาลใจ และ ความมุ่งมั่น การมีแรงบันดาลใจในการจัดระเบียบบ้านนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ดังนั้นควรตระหนักถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดระเบียบไว้อยู่เสมอ เช่นช่วยให้สามารถประหยัดเงินและเวลามากขึ้น เนื่องจากเมื่อสิ่งของต่างๆ ถูกจัดระเบียบไว้เป็นที่เป็นทาง ก็เป็นการง่ายที่จะทำให้หาสิ่งของต่างๆได้เร็วและสะดวกขึ้น นอกจานี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อของใช้ในบ้านซ้ำซ้อน ฯลฯ เคล็ดลับของ Liza 1.เลือกจัดพื้นที่ของบ้านหรือ สำนักงานในส่วนที่สังเกตผลได้ง่ายและ ชัดเจนก่อน 2.การจัดระเบียบเอกสารเป็นงานที่ยุ่งยาก และใช้เวลาค่อนข้างมาก ดังนั้นควรต้องใจเย็นและควรมีความอดทนสูง 2.จัดการกับสิ่งที่ยุ่งเหยิง ก่อนที่จะจัดสิ่งต่างๆให้เป็นระเบียบ จะต้องกำจัดสิ่งต่างๆที่ยุ่งเหยิงออกเสียก่อน Liza แนะนำว่าคุณควรจะสร้างความเพลิดเพลินให้เกิดขึ้นมากที่สุด เป็นต้นว่า ...เปิดเพลง ชวนเพื่อนๆ หรือสมาชิกในบ้านมาร่วมกันจัดบ้าน และสำคัญมากคือต้องใจเย็น และเริ่มกำจัดสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ หรือไม่ได้ใช้งานแล้ว ทิ้งไปก่อน 3. รวมกลุ่มสิ่งของ รวมกลุ่มสิ่งของที่เกี่ยวข้องกันเข้าด้วยกัน เช่น นำโหลผงกาแฟ น้ำตาลและครีม เข้าไว้ในบริเวณเดียวกัน จัดอุปกรณ์สำหรับใช้ทำความสะอาดร่างกายไว้ด้วยกัน เช่น ครีมอาบน้ำ แชมพูสระผม สบู่เป็นต้น 4. หาที่จัดเก็บ สิ่งของทุกอย่างต้องมีที่เก็บประจำ สิ่งของที่จำเป็นต้องใช้และใช้บ่อยๆ ควรเก็บในที่ๆสามารถมองเห็นได้ง่าย สิ่งของที่ใช้ไม่บ่อยนักควรบรรจุลงกล่อง หรือลัง หลีกเลี่ยงกล่องหรือลังที่ปิดทึบ แต่ควรเป็นกล่องที่สามารถมองเห็น สิ่งของข้างในได้ และควรทำฉลากติดกล่องไว้เพื่อให้ทราบว่าข้างในกล่องมีสิ่งใดบรรจุไว้ 5. ทำสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ยิ่งจัดระเบียบบ่อยมากเท่าใด งานที่จะต้องทำก็น้อยลงเท่านั้น กำหนดเวลาการจัดระเบียบเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปี  ขั้นตอนการจัดห้องน้ำ ใน 30 นาที ห้องน้ำ ที่สะอาด เรียบร้อยจะช่วยให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีๆ ได้ อย่างน้อยห้องน้ำควรได้รับการจัดระเบียบ ทุกๆสัปดาห์ การจัดห้องน้ำใช้เวลาโดยประมาณ 15-30นาที ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ของห้องน้ำ และขึ้นอยู่กับว่าก่อนหน้านั้น คุณได้หมั่นทำความสะอาดพื้นที่ กำจัดขยะและสิ่งสกปรกออกไปจากห้องน้ำ บ่อยมากน้อยแค่ไหน 1.น้ำเสื้อผ้าที่ใช้แล้วออกจากห้องน้ำให้หมด 2.นำสิ่งต่างๆของมาจากตู้ นำของต่างๆออกมากจากเคาน์เตอร์ และพื้นที่เก็บต่างๆ 3.ใช้ผ้าเช็ดความสะอาดพื้นที่ดังกล่าวให้สะอาดเรียบร้อย 4. เลือกสิ่งของที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้องน้ำโดยแยกไว้อีกตระกร้าหนึ่ง และ นำสิ่งที่เกี่ยวเนื่องด้วยห้องน้ำกลับมาจัดเรียงไว้ ณ ที่ๆ เหมาะสม เช่นในลิ้นชัก หรือบนชั้นวาง 5.ใช้พื้นที่ใต้อ่างน้ำให้เป็นประโยชน์โดยการนำตระกร้า หรือกล่องมาใส่ของเก็บไว้ในตู้ใต้อ่างน้ำ 4.ติดตั้งอุปกรณ์แขวนสำหรับจัดเก็บแชมพู/สบู่ ในที่ๆใช้งานสะดวก และเห็นได้ง่าย 5. หากพบว่ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งหายไปจากที่อยู่ และมันปรากฏขึ้น ณ ที่ใดที่หนึ่งบ่อยๆ อาจต้องพิจารณาว่า มันควรจะย้ายไปอยู่ในที่นั้นแทน เช่นเมื่อเก็บหวีไว้ในลิ้นชัก แต่ปรากฏว่ามันไปอยู่โหลแก้วบนโต๊ะบ่อย ก็อาจจะย้ายมันไปไว้ที่โหลแก้วนั้นได้ ไอเดียการจัดห้องน้ำ 1.ติดตั้งราวแขวนเพิ่มเติมใต้อ่างน้ำ 2. ติดตั้งอุปกรณ์จัดเก็บเพิ่มเติมสำหรับจัดเก็บครีมอาบน้ำ/ยาสระผม เช่น caddy หรือ ตะกร้าแขวน 3.แขวนอุปกรณ์การจัดเก็บเพิ่มเติมที่ประตูตู้คาบิเน็ต และพื้นที่ใต้อ่างน้ำ 4. ใช้ถาดเก็บของ สำหรับเครื่องใช้ขนาดเล็ก   แค่นี้คุณก็มีห้องน้ำที่เป็นระเบียบ สวยงาม น่าใช้แล้ว -------------------------------------------------------------- ขอบพระคุณข้อมูลจาก about.com , ehow.com และภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต     Create Date : 02 มีนาคม 2556     Last Update : 2 มีนาคม 2556 17:58:21 น. Counter : 3344 Pageviews.   0 comment Share Tweet

"เฟอร์นิเจอร์"- อะไรที่ต้องซื้ออย่าง"ประหยัด" อะไรที่ต้องซื้อแบบ"ทุ่มทุน"[++YOUR FAV] Furniture - When to Save and When to Splurge By: Lauren Flanagan คำแปล : น้อมเศียรเกล้า (กระทู้แนะนำพันทิพ) ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินมากเพื่อจะได้พื้นที่ ที่มีสไตล์ แต่งบ้านอาจจะดูเหมือนว่าต้องใช้จ่ายเงินมาก แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น มันดีที่ได้ออกไปข้างนอกและซื้อเฟอร์นิเจอร์คุณภาพยอดเยี่ยมและราคาสูงลิ่วเพื่อมาแต่งบ้าน แต่สำหรับหลายๆคน มันอาจเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเป็นไปได้ โชคยังดีที่คุณสามารถแต่งห้องให้ดูดีมีสไตล์ได้ โดยไม่จำเป็นถึงกับต้องล้ มละลาย ความลับที่จะมีบ้านที่ดูดีโดยไม่ต้องใช้เงินจนหมดตัวก็คือ ผสมผสานเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นแพงแต่มีคุณภาพเฉพาะกับชิ้นหลักๆที่จำเป็น และเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ราคาประหยัดกว่าสำหรับ ชิ้นมีความสำคัญเป็นรอง ถ้าคุณไม่ทราบว่าชิ้นไหนควรจะซื้อแบบประหยัด ชิ้นไหนที่ควรทุ่มทุน ก็ไม่มีปัญหา เพียงแค่ทำตามคำแนะนำ ต่อไปนี้... ไม้เนื้อแข็งที่ผ่านการอบแห้งอย่างดี และมีโครงสร้างเป็นสปริงแบบเลข 8 ควรซื้อโซฟาแบบคลาสสิคเพื่อที่เวลาผ่านไปจะสามารถเปลี่ยนผ้าหุ้มใหม่ได้ โดยไม่ต้องซื้อโซฟาตัวใหม่ จำไว้ว่าโซฟาคุณภาพดีจะต้องมีอายุการใช้งานนานกว่า 25 ปีขึ้นไป ขณะที่โซฟาคุณภาพปานกลางจะมีอายุการใช้งานนานประมาณ 10 ปี ประหยัด-โต๊ะข้าง โต๊ะข้างเป็นอะไรที่มีเกลื่อนกลาด หาง่ายราคาถูกในสมัยนี้และสามารถที่จะซื้อมันที่ไหนก็ได้ ถ้าคุณเจอที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งของคุณและราคาถูกก็ให้ฉวยเอาไว้ โต๊ะข้างไม่สึกหรออะไรได้มาก ดังนั้นคุณภาพก็ไม่เป็นสิ่งสำคัญมาก ต้องประหยัด- ไฟ มีโคมไฟราคาถูกและมีอยู่ทั่วไป ดังนั้นไม่จำเป็นต้องทุ่มทุนซื้อ ลองตรวจดูที่ห้างสรรพสินค้าและที่ๆคุณจะมั่นใจว่าได้ราคาที่ดี มันไม่จำเป็นที่ต้องต้องซื้อโคมไฟระย้าทำจากแก้วคริสตัลในร้านบูทิค ทั้งๆที่คุณสามารถหาโคมไฟแบบเดียวกันทำจากวัสดุพวกอะคริลิคที่ราคาถูกกว่า ต้องทุ่มทุน- ที่นอน คนเราใช้เวลาหนึ่งในสามของเวลาทั้งหมดบนเตียงนอน ดังนั้นจึงคุ้มค่ามากที่จะทุ่มทุนซื้อที่นอนคุณภาพสูงสุดที่จะสามารถซื้อได้ ลองเลือกอย่างน้อย 3 แบบ เพื่อที่จะค้นหาว่าอันไหนดีที่สุดสำหรับคุณ ต้องประหยัด-ผ้าปูที่นอน ผ้าปูที่นอนที่มีความหนาแน่นของเส้นใยสูงนั้นดี แต่..ไม่จำเป็นเสมอไป เมื่อซื้อผ้าปูที่นอนลินินคุณสามารถประหยัดเงินได้โดยการซื้อแบบผสมผสาน ยกตัวอย่างเช่น ซื้อผ้านวมคลุมที่นอน ที่คุณชื่นชอบจริงๆ แต่ซื้อผ้าปูที่นอนที่ราคาไม่แพงมาก เนื่องจากไม่มีใครมองเห็น แต่ที่สำคัญก็คือ จะต้องเลือกชนิดที่สบายเมื่อสัมผัสกับผิว (อย่าประหยัดเงินในสิ่งที่ต้องแลกกับความรู้สึกสบาย) ประเด็นก็คือไม่จำเป็นต้องซื้อชุดเครื่องนอนทั้งชุดเพื่อที่จะมีเตียงที่ดูดี ต้องทุ่มทุน- พื้น การลงทุนซื้อพื้นไม้เนื้อแข็งหรือพื้นหิน (หรือวัสดุคุณภาพสูงอื่นๆที่คุณต้องการ) เป็นความคิดที่ดี พื้นเป็นรากฐานของบ้าน ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องดูดีและเข้ากันได้กับพื้นที่ มันไม่ใช่สิ่งที่คุณจะต้องทำบ่อยๆ ดังนั้นลงทุนเลือกวัสดุที่ดีที่สุดที่คุณซื้อได้ และคุณอาจจะต้องคิดเรื่องการลงทุนเกี่ยวกับระบบทำความร้อนใต้พื้นถ้ามันเหมาะสมกับภูมิอากาศและรูปแบบการใช้ชีวิตของคุณ ต้องประหยัด-พรมเฉพาะพื้นที่ พรมเฉพาะพื้นที่เป็นรายการที่ต้องซื้ออย่างประหยัด พวกมันมักถูกเดินเหยียบย่ำ มีสิ่งหยดลงเลอะเทอะและถูกใช้งานหนัก ดังนั้นอย่าเสียเงินมากกับสิ่งที่ต้องมันจะต้องเสียหายเป็นปรกติ พรมราคาถูกและดูดีสามารถหาได้ในร้านโฮมสโตร์และของค้างสต๊อกในร้านขายพรม ถ้าคุณไม่ได้ใช้เงินจ่ายไปมากคุณสามารถเปลี่ยนมันได้ตามต้องการโดยที่ไม่ทำให้คุณหมดเนื้อหมดตัว ต้องประหยัด- งานศิลปะ มันไม่จำเป็นที่จะต้องจ่ายแพงสำหรับศิลปะ ศิลปะอาจหมายถึงอะไรก็ตามเพียงนำภาพถ่ายมาใส่กรอบ หรืออาจจะเอาผ้าใส่กรอบ ติดวอลล์เปเปอร์หรืออะไรก็ได้ ที่ดูดี เพื่อที่จะได้อะไรที่แตกต่างลองทำ Shade Box ที่ประดับด้วยจิวเวลลี่ของผ้า กระดุมสวยๆ หรือ อะไรที่เล็กๆน่ารัก ต้องทุ่มทุน-อุปกรณ์ตกแต่งหน้าต่าง หน้าต่างเป็นจุดเด่นในห้องดังนั้นมันจึงคุ้มค่าที่จะต้องเสียเงินเพื่อทำให้มันดูดีที่สุด ใช้ผ้าม่าน คุณภาพดี หรือไม่ก็ม่านพับโรมัน พวกมันหาซื้อได้ในราคาถูกก็จริง แต่ความแตกต่างเห็นได้ชัดมาก ผ้าคุณภาพที่ดียังทำให้บ้านของคุณมีความเป็นส่วนตัวที่พอเหมาะ ต้องประหยัด-ฮาร์ดแวร์หน้าต่าง รางม่านเป็นสิ่งที่ช่วยคุณประหยัดเงินได้ พวกมันมักถูกปดบังด้วยผ้าม่านในที่สุด ดังนั้นภายนอกของมันจะดูเป็นอย่างไรก็ไม่เป็นอะไร มีหลายบริษัทที่ทำรางม่านราคาไม่แพงและมีหัวรางม่านที่สวย มีสไตล์ ดูเรียบง่าย และไม่ดึงความสนใจออกไปจากผ้าม่าน ต้องประหยัด- แอคเซสเซอรี่ (ของตกแต่งเพิ่มเติม) ของตกแต่งเพิ่มเติมเป็นสิ่งที่บอกบุคลิกเฉพาะตนของบ้าน แต่มันไม่จำเป็นว่าพวกมันจะต้องมีราคาแพง ของตกแต่งบนชั้นหนังสือและของตกแต่งบนเตาผิงมีคุณค่ามากกว่าของตกแต่งอื่นๆที่มีราคาแพง ขอบพระคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต   Create Date : 04 มกราคม 2556     Last Update : 5 มกราคม 2559 9:21:20 น. Counter : 4134 Pageviews.   2 comment Share Tweet

จัดระเบียบบ้านใน 30 นาที : ตอนที่ 1 ผู้เขียนขอยืนยันว่า บ้านที่ให้ความสุข ไม่จำเป็นต้องเป็นบ้านหลังใหญ่ และตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงเสมอไป แต่ต้องเป็นบ้านที่มอบความสบายแก่กายและใจกับสมาชิกผู้อยู่อาศัย นั่นหมายถึง มันอาจเป็นเพียงบ้านหลังน้อย ที่มีความปลอดภัย ใช้วัสดุตกแต่งราคาไม่แพง( แต่ทนทาน )ที่สำคัญที่สุดคือ มีความสะอาด เป็นระเบียบ และถูกสุขลักษณะ ซึ่งมีผลอย่างมากต่อผู้อยู่อาศัย การจัดระเบียบบ้านให้เป็นบ้านแสนรัก มองไปทางไหนก็สะอาดและเป็นระเบียบนั้นไม่ยากเลย ซึ่งต่อไปนี้เป็นบทความจัดระเบียบบ้านอย่างง่ายๆ ซึ่งคุณอาจใช้เวลาเพียง 30 นาที นำเสนอเป็นซีรีย์ แทนของขวัญปีใหม่ให้ผู้รักบ้าน เชิญอ่านและรับชมได้เลยค่ะ พื้นฐานการจัดระเบียบบ้าน รวบรวมและเรียบเรียงโดย : น้อมเศียรเกล้า ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนการจัดระเบียบบ้าน คุณควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการจัดระเบียบบ้านต่อไปนี้  1. กฎทองของการจัดระเบียบบ้าน กฎทองต่อไปนี้ ผู้เขียนเป็นผู้คิดค้นขึ้น และขอแนะนำว่าก่อนที่จะอ่านวิธีการจัดระเบียบบ้านในตอนต่อๆไป คุณควรจำกฎทอง 3 ข้อต่อไปนี้ให้ขึ้นใจ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อความสุขและความง่ายในการจัดระเบียบบ้าน(ของคุณเองค่ะ) ^^ กฏทองข้อที่ 1. เริ่มทีละน้อย ค่อยๆเป็นส่วนๆ พื้นที่ทุกส่วนในบ้านควรได้รับการจัดระเบียบ มันอาจจะเป็น ปี ละครั้ง เดือนละครั้ง หรืออาทิตย์ละครั้ง ตามความเหมาะสม แต่ยิ่งบ่อยมากท่าไรบ้านของคุณก็จะยิ่งสวยงามน่าอยู่และอบอุ่นมากขึ้นเท่านั้น เริ่มแบ่งพื้นที่ที่ต้องการจัดแต่งเป็นส่วน เริ่มต้นจากห้องใดเพียงห้องหนึ่ง และค่อยๆแบ่งพื้นที่ย่อยลงไปอีก เช่น เมื่อคุณตั้งใจจะจัดระเบียบห้องทำงานก่อนเป็นอันดับแรกให้มองหาพื้นที่ ซึ่งคุณจะทำมันเป็นอันดับแรก มันอาจะเป็นโต๊ะทำงานก่อน และค่อยตามด้วยชั้นวางหนังสือเป็นต้น กฏทองข้อที่ 2. ไม่วอกแวก ในขณะที่จัดระเบียบพื้นที่ส่วนย่อยนั้น คุณต้องสนใจเฉพาะพื้นที่ที่คุณจัดระเบียบอยู่เท่านั้น เช่นเมื่อจัดโต๊ะทำงาน ก็ต้องจัดบริเวณโต๊ะทำงานจนเสร็จ ไม่ไปจัดพื้นที่อื่น มิฉะนั้นคุณจะรู้สึกเหนื่อย และอาจท้อใจมาก..ว่ามีสิ่งที่คุณต้องทำมากมายเหลือเกิน ซึ่งมันอาจทำให้คุณท้อแท้ งงงวย และพลาดเป้าหมายไปได้ ฉะนั้น อย่างวอกแวก และอย่าวางมือจากพื้นที่เดิม (ซึ่งยังไม่เสร็จ) เพื่อไปจัดแต่งพื้นที่บริเวณอื่น ไม่ว่าตอนนั้นมันเย้ายวนต่อสายตาคุณแค่ไหน กฏทองข้อที่ 3. อะไรไม่เข้าพวก จับออก เมื่อพยายามจัดระเบียบ คุณจะพบว่ามีสิ่งของมากมาย มาอยู่ในที่ซึ่งมันไม่ควรจะอยู่ ใช้สามัญสำนึกของตัวเองง่ายๆ เล่นเกมอะไรไม่เข้าพวก และกำจัดมันออกไปจากพื้นที่นั้น ซอสมะเขือเทศบนโต๊ะทำงาน ? น้ำยาเช็คกระจก ? ถุงเท้า ??? ถ้าคุณไม่ทราบจริงๆ ว่าอะไรไม่ควรจะอยู่ในพื้นที่นั้น ลองถามตนเองว่าพื้นที่นี้ มีไว้เพื่อใช้งานอะไร แล้วอะไรซึ่งไม่เกี่ยวกับการใช้สอยในพื้นที่นั้น ก็เพียงแค่...นำมันออกไป เพียง 3 ข้อต่อไปนี้ ก็พอจะทำให้คุณเป็นนักจัดระเบียบที่ดีได้ แต่เมื่อคุณนำของซึ่งอยู่ในที่ไม่ควรจะอยู่ออกไป ขั้นตอนต่อไป คุณอาจสงสัยว่า คุณควรจะทำอย่างไรกับมันกันดีล่ะ ? และคำตอบก็คือ.... ไม่เก็บ ก็ต้องทิ้ง  2. สิ่งที่ควรจะเก็บ และสิ่งที่ควรกำจัด (ทิ้ง) ถ้าสิ่งใดไม่มีความจำเป็นและไม่มีคุณค่ายิ่งใหญ่ทางจิตใจของคุณแล้วล่ะก็ อะไรก็ตามที่คุณไม่ได้ใช้มันเกิน 1 ปี ควรพิจารณาที่จะนำไปทิ้ง/หรือมอบให้ผู้อื่น มาดูความสำคัญและอายุการใช้งานของสิ่งของต่างๆต่อไปนี้ 2.1 เอกสาร เอกสารที่ควรจะเก็บตลอดชีพ ประกาศนียบัตร ผลการศึกษา (transcript) สูจิบัตร ทะเบียนบ้าน ใบย้ายถิ่นฐาน มรณบัตร (ของญาติ) ใบขับขี่ ใบเปลี่ยนชื่อ ทะเบียนสมรส หนังสือสัญญาการจ้าง ประวัติการรับรักษา(ทางการแพทย์)/ บัตรสิทธิ์การรักษา ใบรับรองเกณฑ์ทหาร หนังสือเดินทาง (passport) บัตรประกันสังคม บัตรสมาชิกองค์กร บัตรสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น บัตรประกันภัย วิธีจัดเก็บ 1.ตู้เอกสารแนวตั้ง /แนวนอน 2.ตู้นิรภัย 3.ตู้นิรภัยประเภทกันไฟ เอกสารที่จำเป็นอื่นๆ 1. Bank statement (รายการฝากถอนในบัญชีเงินฝาก) – อายุการเก็บ 1 เดือน 2. Bills (ใบแจ้งหนี้) – อายุการเก็บ 1 ปี 3. Credit card Bills (ใบแจ้งหนี้บัตรเดรดิต) – ทำลายทิ้งทันทีเมื่อคุณชำระเงินแล้ว 4. ใบเสร็จค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับการซ่อมบ้าน –เก็บไว้จนกว่าบ้านจะถูกขายออกไปแล้ว 5. หลักฐานการลงทุนต่างๆ -7 ปีหลังจากที่คุณปิดบัญชี 6. สัญญาเช่า- เก็บไว้จนกว่าคุณจะย้ายออกไป และได้รับเงินมัดจำคืนจากเจ้าของ 7. Paychecks (เช็คเงินค่าจ้าง)- เก็บไว้ 1 ปี จนกว่าคุณจะได้ W-2 (ใบสรุปเงินรายได้และเงินภาษีที่ได้ถูกหักไว้เพื่อจ่ายภาษีให้กับสรรพากรกลางของประเทศสหรัฐอเมริกา) 8. ใบเสร็จรับเงิน- เก็บไว้จนกว่าสินค้าจะหมดอายุประกัน 9. เอกสารเกี่ยวกับภาษี เช่น หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ภงด.1 ฯลฯ- ควรเก็บไว้ 7 ปี 10. เอกสารเกี่ยวกับพาหนะ – ควรเก็บไว้ จนกว่ารถ หรือรถจักรยานยนต์ถูกขายไปแล้ว วิธีการจัดเก็บ ใส่แฟ้มและเก็บในตู้เอกสาร 2.2 เสื้อผ้าและรองเท้า อายุการจัดเก็บเสื้อผ้าและรองเท้า ขึ้นอยู่กับความพอใจของคุณเป็นหลัก คุณควรจะทิ้ง/ขาย หรือบริจาคมันก็ต่อเมื่อ 1) คุณไม่ชอบมันแล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่คุณไม่ควรเก็บมันไว้ 2) เสื้อผ้าและรองเท้าเหล่านั้นล้าสมัยแล้ว และคุณคิดว่ามันไม่น่าจะกลับมาเป็นที่นิยมในเร็วๆนี้ 3) มันใส่ไม่ได้ มาเป็นปีแล้ว ถึงแม้ว่าคุณจะเคยรอว่า คุณจะกลับมาผอมอีกครั้ง แต่เวลาก็ผ่านไปแล้วเป็นปี 4) คุณไม่ได้ใส่มันอีก ซึ่งมันอาจจะเป็น ชุดฟอร์มของบริษัทเก่า เสื้อผ้าสมัยวัยรุ่นตอนต้น ซึ่งคุณคิดว่าคุณไม่เหมาะที่จะอยู่ในชุดพวกนั้นอีก 5) คุณรู้สึกว่าชุดหรือรองเท้านั้นสวมใส่ไม่สบายเอาเสียเลย  ดังนั้นสิ่งที่จะอยู่ในตู้เสื้อผ้าคุณควรจะเป็นสิ่งที่ : สวมใส่สบาย พอดีตัว คุณพอใจที่จะได้ใส่มันบ่อยๆ 2.3 เครื่องสำอางค์ เป็นเรื่องปรกติที่ผู้หญิงจะชอบสะสมเครื่องสำอางค์ แต่คุณคงไม่อยากหน้าให้หน้าขึ้นผดผื่นเพราะใช้เครื่องสำอางค์หมดอายุ หรือ ตาดำเป็นคราบเพราะมาสคาร่าที่เสื่อมสภาพใช่ไหม ต่อไปนี้คืออายุการใช้งานของเครื่องสำอางค์โดยเฉลี่ยหลังจากที่เปิดออกแล้ว 1) คอนซีลเลอร์ – อายุการใช้งานสูงสุด 12 เดือน 2) แป้งแต่งหน้า-อายุการใช้งาน 2 ปี 3) ครีมหรือเจลล้างหน้า-อายุการใช้งาน 1 ปี 4) อายไลน์เนอร์ –อายุการใช้งาน 3 ปี 5) อายแชโดว์-อายุการใช้งาน 3 ปี 6) แปรง –ควรทำความสะอาดทุกๆ 2 เดือน 7) ฟองน้ำ-ควรทำความสะอาดทุกอาทิตย์ 8) ครีมรองพื้น – waterbase 12 เดือน oilbase 18 เดือน 9) ดินสอเขียนขอบปาก-อายุการใช้งาน 3 ปี 10) ลิปสติก –อายุการใช้งาน 1-2 ปี 11) มาสคาร่า- 4 เดือน 12) น้ำยาทาเล็บ- 12 เดือน 13) ครีมกันแดด- 12 เดือน 2.4 อาหาร อายุของอาหารประเภทต่างๆมีดังต่อไปนี้ (คลิก) //personalorganizing.about.com/gi/o.htm?zi=1/XJ&zTi=1&sdn=personalorganizing&cdn=homegarden&tm=5796&gps=270_167_1020_536&f=10&su=p284.13.342.ip_p504.6.342.ip_&tt=3&bt=1&bts=0&st=12&zu=http%3A//www.foodsafety.gov/keep/charts/storagetimes.html  3. อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการจัดระเบียบ พื้นที่แต่ละส่วนมีความแตกต่างกัน ซึ่งบางพื้นที่อาจจะเป็นต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้ทั้งหมด บางส่วนอาจต้องใช้เพียง 1-2 อย่างก็เป็นไปได้ อุปกรณ์พื้นฐานซึ่งคุณต้องใช้เมื่อมีการจัดระเบียบได้แก่ - ถุงใส่ขยะ -ผ้า/กระดาษทิชชู่สำหรับเช็คทำความสะอาด -ไม้กวาด/ที่ตักผง -ถังน้ำ/น้ำยาทำความสะอาด -ลังเปล่า/ตระกร้าใส่ของ -ชั้นวาง/ชั้นแบบมีลิ้นชัก -กล่องพลาสติก/กล่องกระดาษสำหรับใส่ของ -ตะขอ -ที่แขวนประเภทต่างๆ -บอร์ดติดโน้ตช่วยจำ -แฟ้มใส่เอกสาร -ลาเบล -ตัวคั่นหนังสือ -ตัวกั้นช่องในกล่องใส่ของ ฯลฯ โปรดติดตามวิธีการจัดเก็บสิ่งของแต่ละประเภท และการจัดระเบียบห้องต่างๆ ในซีรีย์ชุด จัดระเบียบบ้านใน 30 นาที ตอนต่อไปค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.about.com และ ภาพประกอบจาก : Internet   Create Date : 03 มกราคม 2556     Last Update : 3 มกราคม 2556 21:43:35 น. Counter : 5678 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang