“เสียงครืดๆ” ดังทั่วบ้านไม้คล้ายกับบางอย่างถูไถไปมา เมื่อก้าวขึ้นบันไดมองไป พบความประหลาดใจกับภาพที่อยู่เบื้องหน้า กลายเป็น “เด็กน้อย” หน้าตาสดใสกำลังใช้ร่างกาย “ส่วนลำตัว” เคลื่อนไหวแทน “แขน-ขา” ที่มีลักษณะกล้ามเนื้อลีบเล็ก และ รอยต่อข้อกระดูกดูผิดรูป!

เด็กน้อยคนนี้ คือ ด.ช.ชนกันต์ เอี่ยมขำ หรือ น้องหิน อายุ 5 ขวบ ป่วยเป็น “โรคกระดูกเปราะ” หรือ “โรคกระดูกพรุน” มีความพิการโดยกำเนิด ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ปกติเช่นเด็กคนอื่น และ ต้องทุกข์ทรมานกับอาการกระดูก “แตก-หัก” ตลอดเวลา

MThai News ได้ลงพื้นที่ติดตามเรื่องนี้ที่บ้านบ้านเลขที่ 92/24 ม.6 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี  พบ นายศิรวิทย์ เอี่ยมขำ อายุ 23 ปี พ่อของน้องหิน ได้เล่าถึงอาการผิดปกติของน้องหินว่า เมื่อครั้งน้องหินคลอดออกมาก็อยู่ในสภาวะรกพันคอ อาการน่าเป็นห่วง ซึ่งแพทย์ก็ทำการช่วยเหลือไว้ได้ แต่ต้องอยู่ในตู้อบและพักฟื้นที่โรงพยาบาลถึง 1 เดือน

พ่อ-แม่-ย่า-น้า ของน้องหิน

เมื่อกลับมาพักฟื้นที่้บ้าน น้องหินกลับมีอาการแขน-ขาบวม กล้ามเนื้อบิดงอ จนกระดูกหักเอง พร้อมกับส่งเสียงร้องไห้ทุกครั้งที่กระดูกหักตลอดเวลา เหตุมาจากเคลื่อนไหวและพฤติกรรมการนอนของน้องหินเอง จึงเร่งนำส่งโรงพยาบาล จนแพทย์วินิจฉัยว่าน้องหินเป็น “โรคกระดูกเปราะ” หรือ “โรคกระดูกพรุน” เนื่องจากร่างกายขาดแคลเซียมอย่างหนัก ซึ่งมีผลพวงมาจากพันธุกรรม จึงลงความเห็นให้น้องหินเป็นเด็กที่มีความพิการด้านการเคลื่อนไหวโดยกำเนิด

“เสียใจและตกใจมาก เมื่อรู้ว่าลูกเราเป็นแบบนี้ กลัวเขาจะเป็นอะไร กลัวเสียชีวิต เขายังเป็นแค่ทารก แต่ต้องมาร้องไห้เจ็บปวดกับกระดูกแขน-ขาที่ต้องหักเองตลอดเวลา หมอบอกพันธุกรรม แต่ที่คนในบ้านทั้ง 2 ฝั่ง ไม่มีใครเคยเป็น แล้วจะเป็นพันธุกรรมได้อย่างไร”

ส่วนการเลี้ยงดูน้องหินนั้น เมื่อครั้งที่ยังเป็นทารก ไม่มีใครจับตัวน้องได้เลย อุ้มให้นมก็ไม่ได้ ต้องใช้วิธีป้อนนม จับอาบน้ำก็ไม่ได้ เพราะจับเมื่อใด กระดูกน้องต้องหักทุกครั้ง กระทั่งตอนนอน เพียงน้องหินแค่พลิกตัว กระดูกก็จะหักทันทีพร้อมกับส่งเสียงร้องเจ็บปวดมาก จึงต้องรีบพาไปพบแพทย์ด้วยวิธีการรักษาโดยการเข้าเฝือก ไม่ว่าจะกระดูกแขนขาข้างใดหัก ก็ต้องเข้าเฝือกครึ่งตัวทุกครั้ง ดังนั้นพ่อกับแม่ต้องคอยเรียนรู้วิธีการป้องกันและการจับตัวน้อง เพื่อลดความทรมานของน้องหิน

ชนกันต์ เอี่ยมขำ (น้องหิน)

“สงสารเขามาก เขาร้องดังมากเวลากระดูกหัก จับนิดก็หัก นอนพลิกตัวก็หัก แม่อุ้มให้น้ำนมก็ไม่ได้ หักไปหมด วันๆไม่ต้องทำอะไร ต้องมาช่วยกันเฝ้าเขา เพราะกระดูกเขาจะหักเองได้ทุกเมื่อ ตกใจทุกครั้งกับเสียงหักดัง “เป๊าะ” และร้องไห้ตามเขาทุกครั้งที่เขากรีดร้อง ช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย”

ส่วนข้อสงสัยในความผิดปกติของน้องหินเกิดจากพันธุกรรมหรือไม่ นางสาวสุปัญญา ศรีมาลัย อายุ 21 ปี แม่น้องหิน ยืนยันว่า ครอบครัวไม่มีใครป่วยในลักษณะนี้ จึงเชื่อว่า เกิดจากเรื่องอาหารการกินของแม่น้องหิน ที่ชอบทานอาหาร-ขนมที่มีส่วนผสมของชูรสมาก อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง และขนมคบเขี้ยวต่างๆ มาโดยตลอด แม้กระทั่งช่วงตั้งครรภ์น้องหิน ยังคงทานอย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วงนั้นก็ไม่ได้คิดวิตกใด เพราะได้ฝากครรภ์ไว้กับแพทย์  และผลอัลตร้าซาวด์ก็ไม่ได้ระบุว่ามีอาการผิดปกติใดๆ

แต่ยอมรับ แพทย์หมั่นเตือนประจำว่าให้ แม่น้องหินหยุดพฤติกรรมการทานอาหารจำพวกนี้ เพราะอาจมีผลข้างเคียงต่อลูกในครรภ์ได้ แต่ด้วยขณะนั้นพ่อกับแม่น้องหินยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น จึงไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จนเมื่อน้องหินคลอดออกมา และมีอาการดังกล่าว ทั้งคู่จึงเชื่อว่า “ลูกต้องมารับกรรมเพราะการกระทำของตนเอง”

ขา2ข้างน้องหิน ที่กระดูกเปราะ-หัก

“กินของพวกนี้ตั้งแต่เด็ก ชอบกินมาก ช่วงตั้งท้องตอนนั้นเราก็ยังเด็กมาก ขาดความใส่ใจ หมอเตือนแล้ว แต่ไม่ฟัง คิดว่าไม่เป็นไร พอเจอกับตัว รู้ซึ้งเลย เสียใจมาก ได้แต่ร้องไห้ กอดเขา ขอโทษเขา รู้ว่าแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เลิกได้ หยุดกินทันทีที่เห็นเขาเป็นแบบนี้”

เพื่อยุติประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เมื่อแม่น้องหินเลิกอาหาร-ขนมผสมผงชูรส ลูกสาวอีกคนอายุ 3 ขวบ ที่คลอดหลังน้องหิน กลับมีสภาพร่างกาย-สติปัญญาปกติทุกประการ ยิ่งทวีความเชื่อให้กับคนในบ้านว่า ความผิดปกติของน้องหินเกิดจากพฤติกรรม “การรับประทานอาหาร”

จึงฝากข้อคิดให้ทุกคนที่ชอบทานอาหาร-ขนมประเภทนี้ โดยเฉพาะผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ให้หลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด หวังให้เรื่องราวของน้องหินเป็นอุทาหรณ์ เพื่อคุณภาพของเด็กที่เกิดมา และจะได้ไม่ต้องอยู่กับความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต

เรื่องของความเป็นอยู่ของครอบครัว นางประนอม เอี่ยมขำ อายุ 82 ปี คุณย่าของน้องหินกล่าวว่า ตั้งแต่น้องหินอายุได้ 3 ขวบ ก็เป็นคนเลี้ยงเอง เพราะพ่อกับแม่ต้องไปรับจ้างทำงานนอกบ้าน ยอมรับแรกๆก็ไม่กล้าจับตัวน้องหิน กลัวกระดูกหัก แต่พอตัวน้องหินอายุมากขึ้น กระดูกก็เริ่มแข็งขึ้น การแตกหักกระดูกน้อยลง และตัวน้องหินเองก็เริ่มมีพัฒนาการเคลื่อนไหว แต่ไม่สามารถคลาน ท้าวแขน หรือลุกเดินได้เช่นเด็กคนอื่น น้องหินจึงใช้ลำตัวแทนแขนขาในการเคลื่อนไหวไปมา

ประนอม เอี่ยวขำ ย่าน้องหิน

ซึ่งในช่วงแรกๆต้องคอยระวัง เพราะน้องหินจะชนสิ่งกีดขวางหรือพลัดตกจากที่สูงในบ้าน ที่สำคัญต้องคอยพูดจาให้กำลังใจน้องหินเสมอ เพราะตอนนี้น้องรับรู้ สื่อสารได้แล้ว กังวลน้องจะเริ่มสงสัยในตัวเองว่าเหตุใดทำไมกระดูกตัวเองต้องหักตลอดเวลา ทำไมต้องเจ็บปวดและร้องไห้บ่อย รวมถึงการเคลื่อนไหว และเดินไม่ได้

“เขาเป็นแบบนี้ก็เสียใจ แต่ไม่ท้อ คิดว่าเป็นเวรกรรมเขา แต่ต้องดูแลให้กำลังใจเขาให้ดี สงสารไม่รู้จะทำยังไง เขาเจ็บเขาร้อง เขาเดินไม่ได้เหมือนเด็กอื่น เด็กอื่นไปโรงเรียนแล้ว เขายังอยู่บ้าน ไม่รู้จะหายไหม หวังนะ หวังให้เขาเดินได้ กระดูกไม่หักอีก จะได้เหมือนเด็กอื่นเขา”

ส่วนความเป็นอยู่ของครอบครัวนั้น มีความลำบาก เพราะแม่น้องหินเพิ่งจะได้งาน ส่วนพ่อยังตกงาน เพราะที่ผ่านมาคอยช่วยเลี้ยงน้องหิน ขณะนี้อยู่ระหว่างหางานทำ ขณะที่คุณย่าประนอม แกนนำหลักในการดูแลน้องหิน ก็อายุมากและดวงตา 2 ข้างเป็นต้อกระจก ไม่แน่ใจจะอยู่ดูแลน้องหินได้นานแค่ไหน ส่วนบ้านก็อาศัยญาติพี่น้องอยู่ รายได้ที่จะมาจุนเจือครอบครัวจึงไม่แน่นอน

จึงวอนผู้ใจบุญเข้าช่วยเหลือบริจาคเงินและสิ่งของ โดยเงินที่ได้จะเป็นเงินออมไว้รักษาอาการน้องหินในระยะยาว และจะนำมาซ่อมแซมห้องน้ำยกระดับพื้นและส้วมให้สูงขึ้น เพราะอยู่ต่ำลงไปจากตัวบ้านมาก ซึ่งก่อนหน้านี้น้องหินเคยพลัดตกหลายครั้ง ขณะนำตัวน้องไปอาบน้ำ โดยค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมห้องน้ำอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท

ในส่วนการช่วยเหลือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายสุรศักดิ์ วิชินโรจน์จรัล นายกเทศมนตรีเมืองบางกรวย ชี้แจงว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามช่วยเหลือกรณีน้องหินมาโดยตลอด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างประสานหน่วยงานด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตเข้ามาดูแล

สุรศักดิ์ วิชินโรจน์จรัล นายกเทศมนตรีเมืองบางกรวย

พร้อมได้ประสานบัตรคนพิการและเงินเบี้ยเลี้ยง และสัปดาห์หน้าจะประสานศูนย์สิรินธร ในการรับตัวเข้ารักษาเกี่ยวกับการจัดกระดูก ซึ่งตรงนี้ทางครอบครัวอาจต้องมีค่าใช้จ่ายสูงมาก  นอกจากนี้ เพื่อให้พ่อน้องหินมีงานทำ และมีรายได้เลี้ยงครอบครัว จึงจัดหางานให้แล้ว โดยจะเข้ามาเป็นพนักงานขับรถให้กับเทศบาลฯ

หากผู้ใจบุญท่านใดต้องการช่วยเหลือน้องหิน สามารถบริจาคผ่านได้ที่ บัญชีนายศิรวิทย์ เอี่ยมขำ (พ่อน้องหิน) 020-148-2985-63 ธ.ออมสิน สาขาบางกรวย หรือหากมีข้อสงสัยติดต่อได้ที่เบอร์ 061-859-1420

ชัยพัฒน์ แกล้วทนงค์ รายงาน / ถ่ายภาพ

แจ้งเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ช่วยเหลือสังคม ได้ที่ news.mthai.com@gmail.com

ติดตามสกู๊ปข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ news.mthai.com

Create Date : 20 กันยายน 2558
Last Update : 20 กันยายน 2558 5:40:42 น.		1 comments
Counter : 1807 Pageviews.
Share Tweet