อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
ทําอย่างไรเมื่อ ไอ ไม่หายสักที?

อาการ ไอ มีได้หลายแบบแล้วแต่สาเหตุของมันครับคนเราเลือก ไอ ไม่ได้ แต่เลือกที่จะจัดการให้ทุเลาลงเร็วที่สุดได้ ทางการแพทย์จึงแบ่งอาการ ไอ เป็นหลายแบบ เช่น ไอแห้งกับไอมีเสมหะ หรือจะเป็นไอระยะสั้นกับไอเรื้อรังก็ได้ คนในยุคนี้ไอกันเยอะครับจากปัจจัยภายนอกอย่างอากาศ และปัจจัยภายในคือภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง เลยไอทรงๆ อยู่ไม่รู้หาย

“กูรูรู้เรื่อง ไอ : ไอมาก ไอเรื้อรัง ไอเวิ่นเว้อ ไอเป็นแรมเดือน เตือนอะไร”

ในทางเวชศาสตร์อายุรวัฒน์เน้นการรักษาโรคที่นำไปใช้ได้จริง จึงแบ่ง “อาการไอ” ออก เป็น 2 แบบ เพื่อให้คุณตัดสินว่าจะจัดการอย่างไรดังต่อไปนี้ครับ

ไอ ทั่วไป คือ ไอ จากทางเดินหายใจระคายเคือง เช่น ไอจากละอองฝุ่น กลุ่มหมอกควันที่เพิ่งผ่านไปทางภาคเหนือของเรา ไอจากเป็นหวัดคัดจมูกธรรมดา หรือว่าไอจากภูมิแพ้

ไอ ที่ต้องจับตาว่าจะต้องหาคุณหมอหรือไม่ ได้แก่ ไอเรื้อรังนานๆ ไอร่วมกับหอบจนหายใจไม่ออก ไอจากการติดเชื้อรุนแรงหรือมีไข้ ไอและหอบ ซึ่งสามสัญญาณนี้เป็นอาการปอดบวมนิวโมเนีย (ปอดติดเชื้อ) ครับ

78629722

ที่สำคัญคือ อย่าลืม ไอ แบบ “ไม่ธรรมดา” ไว้ด้วยครับ อาทิ ไอ จากยาบางชนิดอย่างยาลดความดันโลหิต (Enalapril) หรือจากกรดไหลย้อน (GERD) ที่ทำให้คนรักษาตกม้าตายมาเยอะแล้ว เพราะลืมนึกถึงเส้นผมบังภูเขาสองเส้นนี้ไป ส่วนในกรณีที่ต้องเฝ้าระวังคือ “ไอเรื้อรัง” ครับ โดยศูนย์การแพทย์เมโยคลินิกที่สหรัฐอเมริกาให้คำนิยามไว้ว่า คือการไอนานตั้งแต่ 8 สัปดาห์ขึ้นไป ขอให้คุณลองนึกง่ายๆ ครับว่า ถ้าเรา ไอ ทั้งวันกินเวลาถึงสองเดือน มันจะทรมานสักเพียงใด เบาะๆ ก็แค่รำคาญนอนไม่หลับ แต่หนักๆ ก็มีบางคน ไอ จนซี่โครงเดาะ! เพราะการไอมีความแรงมากนะครับ ช่องอกเราแม้จะยืดหยุ่นได้ แต่นานเข้ามันก็เสียดสีกันจนอักเสบได้ คนที่กล้ามเนื้อท้องไม่แข็งแรงอาจจะไอแล้วกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ได้ด้วยดังนั้น ป่วยด้วยอาการ ไอ ต้องรีบสังเกตครับ

สารพัดโอสถสะกด ไอ

ตามตำราแพทย์ฝรั่ง วิธีรักษาอาการ ไอ มีรายละเอียดของยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ ยาเสริมภูมิ ยาแก้แพ้ ยาขยายหลอดลมบอกไว้ทุกประเภท ส่วนในทางอายุรวัฒน์เราเน้นว่า ให้หาสาเหตุของการไอให้ได้เสียก่อนแล้วแก้ตามเหตุนั้น ยกตัวอย่างไอจากหลอดลมไวเกิน (Bronchial Hypersensitivity) หรือไอจากภูมิแพ้ นอกจากนี้ตำรายุทธพิชัยยังบอกวิธีสะกดไอไว้อีกว่าให้ระวังเรื่อง “ยากดไอ (Cough Suppressant)” ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยาโคเดอีนไว้ให้ดีด้วยเพราะอาจทำให้ยิ่งป่วยหนักได้ครับ

ข้อแรกที่ต้องตระหนักก่อนคือ “ไอมีประโยชน์” 

ผมมักบอกคนไข้ที่มาหาเสมอว่า ถ้าเราไประงับมันก็เหมือนสกัดดาวรุ่ง ไปยุ่งกับมันก็เหมือนไปยืดความทรมานออกไป ดังนั้น สารพันยาจึงถูกนำมาประเคนใช้ ส่วนใหญ่คุณหมอมักให้ยาฆ่าเชื้อกับยาขยายหลอดลมเป็นหลักครับ

เทคนิคที่อยากให้คุณช่วยคุณหมอสังเกตก็คือ ถ้า ไอ นานๆ แล้วไม่มีไข้ ให้นึกถึงหลอดลมไวเกินจากภูมิแพ้ไว้ก่อน เช่นเดียวกับกรณีที่หลังหายหวัดแล้ว ไอ นั่นละครับ ให้ใช้การรักษาตั้งแต่ระดับอนุบาลไปดังต่อไปนี้

  • เริ่มจากพักผ่อนให้มาก อยากให้นอนสี่ทุ่มครับ จะได้มีโกร๊ธฮอร์โมนมาช่วยบำรุงภูมิ
  • ใส่ถุงเท้าเวลานอน ถ้าอยากให้สุขภาพดีต้องให้เท้าอุ่นเข้าไว้
  • กินฝรั่งสด มะเขือเทศสด ดื่มน้ำเสาวรสบ่อยๆ หรือจะเป็นลูกอมผสมแร่ธาตุสังกะสีก็ได้เลือกชนิดที่ไม่หวานเกินไป จะได้ไม่แสบคอครับ
  • เป่าผมให้แห้งก่อนนอน ห้ามนอนทั้งหัวเปียกเด็ดขาด เพราะความชื้นจะทำให้เชื้อหวัดแพร่ได้ดีในโพรงจมูกทางเดินหายใจ

สำหรับในเฟสนี้มีสูตรเด็ดสกัดไอใช้ได้จริงคือ “น้ำผึ้งผสมมะนาว” ครับ จับมาผสมกัน 1 ต่อ 1 โดยมีเคล็ดลับคือ ไม่เจือจางด้วยน้ำลงไป กวนให้กลายเป็นน้ำเชื่อมเปรี้ยวๆ หวานๆ แล้วจิบเวลาระคายคอหรือ ไอ

ส่วนกรณีที่ไอเวิ่นเว้อไม่หาย ก็อาจจำเป็นต้องทราบเรื่องหยูกยากันสักนิดแล้วละครับ

ประเภทยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) ต้องเลือกให้ถูกชนิดครับ แล้วจะพิชิตได้ ไม่จำเป็นว่ายาแรงหรือยานอกต้องดี เพราะถ้า ไอ จากเชื้อจริง หากวินิจฉัยได้ตรงจุดแล้ว จะใช้ยาอะไรก็มักได้ผลดี ถ้ามีเสมหะมากอาจต้องเพาะเชื้อเพื่อจับตัวผู้ร้ายดูแล้วค่อยเอายาปราบให้อยู่หมัดครับ

ประเภทยาแก้แพ้ (Antihistamine) ยากลุ่มนี้เป็นเคมีต้าน “ธาตุแพ้” หรือฮิสตามีนครับเพราะ ไอ นานๆ อาจเกิดจาก “แพ้” ได้ ลองสังเกตดูอาการคันยุบยิบในคอจะพอบอกได้ ยากลุ่มนี้จะให้ผลดีต่อเมื่อพักผ่อนอย่างเพียงพอครับ

ประเภทยาแก้แพ้แบบพิเศษ (Leukotriene Antagonists) เป็นยาใหม่ที่ใช้ในผู้ที่ ไอ จากภูมิแพ้มีหอบหืดร่วมด้วย ยาในกลุ่มนี้จะออกฤทธิ์แบบเฉพาะเจาะจงกว่าและราคาแพงกว่า เช่นกัน หากคุณใช้ยาแก้แพ้แบบทั่วไปแล้วเอาไม่อยู่ ค่อยดูมาถึงยากลุ่มนี้ครับ

ประเภทยาขยายหลอดลม ลดความไวหลอดลม (Bronchodilator) มีทั้งกิน พ่น ดูด สูบ ฉีด การใช้ยากลุ่มนี้ถ้าใช้ให้ดีจะมีคุณมากครับ เพราะช่วยดับอาการ ไอ เรื้อรังได้ชะงัดดีจริง แต่บางชนิดมีฤทธิ์เขย่าหัวใจทำให้สั่น หรือในยาพ่นหลายชนิดที่มี “สเตียรอยด์” ใช้แล้ว ต้องบ้วนปากแปรงลิ้นทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นอาจได้ “ราช่องปาก (Oral Candidiasis)” เป็นของแถม

ท้ายนี้ขอฝากเคล็ดลับดูแลคอง่ายๆ อีกประการที่ผมเองก็ใช้อยู่ นั่นคือ กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ (Saline Lavage) ซึ่งช่วยล้างคราบสารคัดหลั่งสกปรกออกจากคอ ทำให้เสียงไม่อู้อี้ไปด้วยเสมหะที่จับเส้นเสียง เวลาทำงานในกองถ่ายหรือจัดรายการวิทยุ ผมมักล้างคอก่อนประจำครับ เพราะมันช่วยได้

แต่ที่สุดแล้วหากคุณยังไม่ได้พักจากเรื่อง ไอ ก็ควรไปพบคุณหมอด้าน “เวชศาสตร์ทางเดินหายใจ (Respiratory Medicine)” ที่สำคัญ อย่าลืมทำการบ้านสังเกตอาการมาด้วย มีอาการแบบไหน อย่างไร เป็นมานานแค่ไหน ควรบอกคุณหมออย่างละเอียดเนื่องจากเป็นข้อมูลที่ช่วยคุณหมอได้มาก เพราะการ ไอ บางครั้งก็ลึกซึ้งถึงขนาดต้องเข้าอุโมงค์สแกนถุงลมปอด (HRCT) หรือส่องกล้องเข้าหลอดลม (Bronchoscopy) กันเลยทีเดียว แต่ในหลายกรณีก็หายง่ายด้วยเทคนิคสกัด ไอ แบบง่ายๆ ที่ได้แนะไปครับค่อยๆ ปรับใช้ ไม่อยากให้คุณไอจนเพลียครับ

โดย : นพ.กฤษดา ศิรามพุช drkrisda@gmail.com
ขอบคุณทื่มาจาก : นิตยสาร Health&Cuisine กรกฎาคม, Issue 138




Create Date : 08 กรกฎาคม 2557
Last Update : 8 กรกฎาคม 2557 9:12:32 น. 3 comments
Counter : 1678 Pageviews.

 
I for all time emailed this blog post page to all my contacts, since if like to read it then my friends will too.
Cheap Jerseys From China //www.logodesignerdirectory.com/images/header.cfm


โดย: Cheap Jerseys From China IP: 94.23.252.21 วันที่: 13 สิงหาคม 2557 เวลา:0:59:30 น.  

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 3762148 วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:18:17:05 น.  

 
ไปอ่านเจอมาบทความนึง เกี่ยวกับอาการไอที่ยังไม่หาย ไอติดต่อกันเป็น
ระยะเวลานานค่ะ ยังไงก็ลองอ่านดูนะคะ
หากคุณไอติดต่อกันนานกว่านั้น ไอเป็นเดือนไม่หาย เกิดเป็น อาการไอเรื้อรัง หรือการไอที่ยาวนานกว่า 8 สัปดาห์ อาการไอเรื้อรังของคุณ อาจเป็นเพราะ 8 สาเหตุนี้

1. ความเครียด
ความเครียด โดยเฉพาะความเครียดสะสม หรือความเครียดเรื้อรัง สามารถทำให้อาการไอของคุณหายช้าลงได้ ดังนั้น เวลาป่วยหรือไอ คุณไม่ควรทำงานหักโหมจนเครียด และควรนอนหลับพักผ่อนให้มากๆ (อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง) เพื่อไม่ให้อาการแย่ลง และให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

2. ดื่มน้ำไม่เพียงพอ
หากคุณป่วยและไอ ควรดื่มน้ำให้มากๆ โดยเฉพาะน้ำอุ่น เพื่อให้ร่างกายและทางเดินหายใจชุ่มชื้นขึ้น ช่วยให้น้ำมูกและเสมหะในทางเดินหายใจหนืดข้นน้อยลงจนสามารถขับออกมาจากร่างกายได้ รวมไปถึงงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะจะทำให้ร่างกายขาดน้ำมากกว่าเดิม

3. ทางเดินหายใจระคายเคือง
อาการไอส่วนใหญ่เป็นผลมาจากโรคติดเชื้อไวรัส เช่น ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ ไข้หวัด ซึ่งไวรัสจะทำให้ทางเดินหายใจบวมและระคายเคืองง่ายกว่าปกติ คุณจึงสามารถไอต่อเนื่องได้อีกหลายสัปดาห์ จนถึงขั้นไอเรื้อรัง แม้ว่าอาการอื่นๆ ของโรคจะหายแล้วก็ตาม

4. ปัญหาสุขภาพ
อาการไอเรื้อรังอาจเกิดได้จากโรคต่างๆ เช่น

โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
โรคภูมิแพ้
โรคหอบหืด
โรคกรดไหลย้อน
โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
โรคหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (obstructive sleep apnea)
โรคซิสติกไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis)
โรคหลอดลมโป่งพอง (Bronchiectasis)
5. อากาศแห้งหรือชื้นเกินไป
อากาศแห้ง โดยเฉพาะอากาศในช่วงหน้าหนาว หรืออาการที่ชื้นเกินไปก็สามารถทำให้คุณไอไม่หยุดได้เช่นกัน นั่นเพราะความชื้นจะกระตุ้นให้เกิดหอบหืด ทำให้สารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น เชื้อรา เติบโตได้ดีขึ้น

6. ติดเชื้อแบคทีเรีย
หลังจากเป็นไข้หวัด ทางเดินหายใจของคุณจะยังระคายเคือง จึงทำให้แบคทีเรียรุนรานได้ง่ายขึ้น แบคทีเรียเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในโพรงจมูก โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดบวม หากคุณไอเรื้อรังร่วมกับมีไข้และปวดเนื้อตัว อาจเป็นสัญญาณว่าคุณติดเชื้อแบคทีเรีย ควรรีบไปพบคุณหมอ เพราะคุณอาจจำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ

7. ใช้ยาแก้คัดจมูกชนิดพ่นมากเกินไป
ยาหดหลอดเลือดชนิดพ่นจมูก หรือยาแก้คัดจมูกชนิดพ่นที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาอาจช่วยให้คุณหายคัดจมูกได้ แต่หากคุณใช้ยาชนิดนี้ติดต่อกันนานเกิน 3 วัน อาจทำให้เกิด Rebound effect คือ กลับมาเป็นอาการเดิมซ้ำ แต่เป็นมากกว่าเดิม ทำให้คุณคัดจมูกมากกว่าเก่า นั่นเพราะสเปรย์พ่นนี้จะทำให้เยื่อบุจมูกบวม จึงกระตุ้นให้เกิดอาการคั่ง เสมหะไหลลงคอ และไอหนักกว่าเดิม

8. ใช้ยาลดความดันโลหิต
หากคุณมีความดันโลหิตสูงและต้องใช้ยาลดความดันโลหิต นี่ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อาการไอเรื้อรังของคุณไม่หายสักที จากการศึกษาพบว่า 1 ใน 5 ของผู้ป่วยที่ใช้ยาลดความดันโลหิตในสหรัฐอเมริกาจะมีผลข้างเคียงคือ อาการไอเรื้อรัง ไอแห้ง อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้ยาลดความดันโลหิตแล้วมีอาการดังกล่าว อย่าหยุดยาเอง แต่ควรรีบปรึกษาคุณหมอเพื่อให้คุณหมอเปลี่ยนเป็นยาตัวที่เหมาะสมให้


โดย: สมาชิกหมายเลข 4984277 วันที่: 1 มีนาคม 2562 เวลา:17:25:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.