อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
ผลิตภัณฑ์ ORGANTC ของแพง ....ดีจริง???

ผลิตภัณฑ์ ORGANIC ของแพง…ดีจริง???

WRITTEN BY YRPRINCESS ON . POSTED IN ทั่วไป, สุขภาพ, อาหารการกิน, โรคภัยไข้เจ็บ

organic-logo

สมัยนี้คำว่าเกษตรอินทรีย์หรือ “Organic” นั้นเป็นที่นิยมมากค่ะ แต่สงสัยหรือเปล่าคะว่าทำไม ทำไม และทำไมผลผลิต หรือผลิตภัณฑ์เหล่านี้จึงมีราคาสูงกว่าทั่วไป

ถ้าเรามองย้อนกลับไปดู ไม่ว่าจะเป็นผัก หรือเนื้อสัตว์ หลายปีที่ผ่านมานี้มักได้รับการเลี้ยงดูเพื่อการค้า หรือเป็นเกษตรกรรมเพื่อการค้า มุ่งไปเพื่อเป้าหมายการผลิตที่จะต้องก่อให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ผลิต และส่งสินค้าให้กับผู้บริโภคได้มากที่สุด และสิ่งที่อยู่ในกรอบการผลิตก็คือ คุณภาพ ซึ่งคำว่าคุณภาพของผู้ผลิตนั้นวัดจากอะไร เหตุใดในปัจจุบันจึงต้องมีคำว่า เกษตรอินทรีย์ แสดงว่าหลายปีที่ผ่านมาคำว่าคุณภาพไม่ได้เล็งเห็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคในแง่สุขภาพ และโรคภัยไข้เจ็บต่อร่างกายเป็นสำคัญ????

ยุคสมัยที่ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงให้เท่าทันโลก ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูงขึ้น ไม่ว่าจะด้านการศึกษา การขนส่ง การแพทย์ หรือแม้กระทั่ง social network สังคมแบบใหม่ที่สามารถโน้มน้าวคนที่หลงเข้าไปได้ง่ายๆ ฯลฯ  จะเห็นได้ว่าเรามีเครื่องมือทันสมัยต่างๆมากมายที่แต่ก่อนไม่เคยมี อุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยที่ใช้รักษาโรคที่บางโรครุ่นบรรพบุรุษ ปู่ ย่า ตา ยาย เราไม่เคยเป็น อุปกรณ์ที่บอกว่าจะทำให้มนุษย์มีชีวิตยืนยาวขึ้น หายจากโรคร้ายได้

healthconner_winte2

เมื่อเราย้อนไปสู่สังคมเกษตรอินทรีย์ ขอใช้คำว่าย้อนนะคะ เพราะว่าเกษตรอินทรีย์นั้นเป็นการเกษตรที่แท้จริงของประเทศไทยมาช้านาน ก่อนที่จะมีกลุ่มนายทุน บริษัท ที่จ้องจะหาแต่กำไรกับชาวบ้านตาดำๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงให้เป็นเกษตรการค้า เกษตรอินทรีย์นั้นจริงๆก็คือการทำเกษตรทั่วๆไปนี่แหละค่ะ เหมือนเรามีบ้านเราก็ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เก็บผักมากิน ฆ่าสัตว์แล่เอาเนื้อมาใช้  เป็นความสุขง่ายๆ ตั้งแต่ยังไม่บัญญัติคำว่าเกษตรอินทรีย์ด้วยซ้ำ  การเลี้ยงสัตว์ปลูกผักแบบนี้คนทำก็มีความสุข พืชก็มีความสุข สัตว์ก็มีความสุข และสุดท้ายผู้บริโภคก็มีความสุขค่ะ แล้วพอคำว่าการค้าเข้ามา ความสุขเหล่านี้ก็หายไป ทุกอย่างส่งผลต่อร่างกายตั้งแต่ผืนแผ่นดิน พืช สัตว์ มนุษย์และไม่รู้ว่าส่งไปถึงผู้ย่อยสลายหรือผู้บริโภคขั้นสุดท้ายด้วยหรือไม่  เรื่อยไปจนถึงในอากาศที่เราหายใจ และโลกของเรา

news_img_500102_1

พอการเกษตรอินทรีย์เริ่มกลับเข้ามา แน่นอนว่าผู้บริโภคหรือคนทำงานอย่างเราๆ ย่อมที่จะแสวงหาอาหารการกินดีๆมาใส่ร่างกาย แต่เราจะเลือกจากแหล่งไหนได้ อันไหนคือผลผลิตจากเกษตรอินทรีย์ที่แท้จริง  เราก็มักจะมั่นใจกับบริษัทผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ (ที่ก่อนหน้าจะแปะฉลากเป็นเกษตรอินทรีย์ ก็ไม่รู้ว่าเอาอะไรให้เรากิน) ซึ่งมักต้องแลกมากับมูลค่าที่ค่อนข้างสูงเป็นเท่าตัว ถ้าไปเทียบกับคนต่างจังหวัดแล้วผลผลิตเกษตรอินทรีย์มีขายในตลาดแถวบ้านนั่นเอง แล้วทำไมเราต้องจ่ายแพงทั้งๆที่ การทำเกษตรอินทรีย์ไม่ได้มีต้นทุนสูงอะไรเลย เลิกทั้งปุ๋ยเคมี ฮอร์โมน สารกำจัดศัตรูพืช ไม่ต้องใช้เมล็ดพันธุ์ GMOs แต่ก็มักจะบอกกันว่าเพราะต้องดูแลเพิ่มขึ้น??? ตรงนี้ก็ต้องมาทำความเข้าใจว่าจากอะไรบ้าง

ล่าสุดมีผลิตภัณฑ์นมสดเกรด premium เกษตรอินทรีย์ออกมา เห็นราคาก็แอบตกใจ ด้วยสรรพคุณที่บอกว่าคุณค่าสารอาหารมากขึ้นเป็นที่เข้าใจว่าราคาก็ต้องเพิ่มขึ้นตาม แต่มันช่างขัดกับการไปอ่านบทความเรื่อง “ทำฟาร์มโคนมอินทรีย์ ลดต้นทุนรายได้งาม”  หมายถึง การผลิตนมอย่างมีประสิทธิภาพ ได้นมที่บริสุทธิ์ คุณภาพสูงตามความต้องการของผู้บริโภค คือการเลี้ยงสัตว์อย่างปลอดภัยปราศจากสารตกค้างและปนเปื้อนยาอันตราย ปลอดการใช้สารเคมี และการใช้ยาปฏิชีวนะเลี้ยงแบบธรรมชาติให้โคเล็มหญ้าในแปลงที่ปลูกอย่างอิสระ กินพืชอาหารที่เป็นอาหารหยาบมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความเครียด และมุ่งสวัสดิภาพเป็นหลัก และยังสามารถทำรายได้ดีให้กับเกษตรกร  จริงๆแล้วนมเกษตรอินทรีย์มีบริษัทที่ผลิตมานานแล้วซึ่งอาจจะไม่ค่อยมีคนรู้จัก และยังไม่เป็นที่นิยมในตลาด แต่ก็ยังยืนหยัดเพื่อผู้บริโภค จนในปัจจุบันเริ่มมีผู้ผลิตรายอื่นหันมาทำกันมากขึ้นเนื่องจากกำไรดีกว่ามากเมื่อเทียบกับต้นทุนที่ลดลง เพราะราคานมหน้าฟาร์มนั้นเกษตรกรสามารถขายได้ผลผลิตต่อกิโลกรัมสูงขึ้นเกือบเท่าตัว เช่น ทำฟาร์มสมัยก่อนต้นทุนกิโลกรัมละ 15 บาท ขาย 18 บาท แต่พอมาทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์แม้ว่าผลผลิตจะลดลงเป็นเท่าตัว รายได้ต่อ crop ลดลง แต่รายจ่ายก็ลดลงเช่นกัน ต้นทุนที่ลดลงอาจเหลือแค่กิโลกรัมละ 10 บาท แต่เวลาขายหน้าฟาร์มนั้นราคาอาจจะสูงถึง 22 บาท เลยทีเดียว นั่นหมายถึงกำไรไม่ได้มาตกอยู่ที่ผู้จำหน่ายอย่างเดียว แต่ยังสามารถกระจายให้เกษตรกรได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย 

41277_145577758804754_7605301_n 598

การทำฟาร์มโคนมเกษตรอินทรีย์นั้นต้องเริ่มจากปรับปรุงดิน นั่นก็เพราะพืชหยาบอาหารของวัวก็ต้องเป็นพืชออร์แกนิกส์เช่นกัน ซึ่งตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรื่องเกษตรพอเพียง ก่อนที่จะทำการเกษตรหลังจากที่ผืนดินได้รับแต่สารเคมีมานมนานก็จำเป็นจะต้องมีการปรับสภาพดินก่อนเป็นอันดับแรก การทำฟาร์มโคนมก็เช่นกัน เพราะนมจะเป็นนมอินทรีย์ วัวก็ต้องกินอาหารอินทรีย์ นั่นหมายถึงหญ้าอินทรีย์นั่นเอง การปรับสภาพดินนั้นใช้เวลาถึง 1 ปีเลยทีเดียว นั่นหมายถึงว่าฟาร์มจะต้องแบ่งพื้นที่ปลูกอาหารวัว และพื้นที่ให้วัวเดินเล่น เช่น ใช้พื้นที่ทำฟาร์มอินทรีย์ 200 ไร่ แบ่งทำอาหารสัตว์ ปลูกหญ้า 100 ไร่ มัน 50 ไร่ ข้าวโพด 50 ไร่ หมุนเวียนแปลงกัน เพราะต้องพักแปลง ไม่ปลูกซ้ำๆ ศัตรูพืชจะมา ส่วนพื้นที่อื่นๆ ก็อาจจะปลูกไม้ยืนต้น เป็นป่าธรรมชาติ มีสิ่งแวดล้อมที่ดี ให้วัวได้พักผ่อนนอนเล็มหญ้า

กรณีโคเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาก็ใช้พืชสมุนไพร หรือยาแผนโบราณภูมิปัญญาท้องถิ่นรักษาให้หาย เช่น เอาหญ้างวงช้างมาต้มให้กิน หรือต้นสาบเสือ ซึ่งมีฤทธิ์ทางแก้อักเสบอยู่แล้ว เอาน้ำคั้นมาใช้ได้ ก็สามารถลดการใช้ยาปฏิชีวนะลงไปได้ แต่ถ้าสมุนไพรเอาไม่อยู่ จะใช้วิธีแยกออกมารักษาแบบ “ขังเดี่ยว” พอหายแล้ว เลี้ยงต่อไปอีก 90 วัน ถึงเอากลับเข้าฝูงได้ นอกจากนี้การใช้ยากำจัดเห็บ ยากำจัดแมลง จะไม่ใช้สารเคมี แต่จะใช้สมุนไพรแทน โดยสามารถที่จะนำสมุนไพรที่มีกลิ่นแรงๆ อย่าง ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เป็นต้น นำมาหมักเป็นน้ำสมุนไพรชีวภาพไปฉีดพ่นบนตัวโคนมแทนสารเคมีได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าจะไม่สามารถทำให้ตัวแมลงตายได้ทันที แต่ว่าลดปริมาณลง นอกจากนี้ ก็จะเสริมด้วยวิธีกล โดยการเลี้ยงไก่ควบคู่ไปด้วย เช่น มีโคนม 20 ตัว เลี้ยงไก่ด้วยสัก 100 ตัว  ให้กินเห็บ ไข่หนอน แมลงวัน  และไก่ก็ขายเป็นรายได้เสริมให้กับฟาร์มได้อีกด้วย   ซึ่งบางแห่งจะทำฟาร์มโคนมอินทรีย์ได้ ต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยนนานถึง 3 ปีเลยทีเดียว การปรับเปลี่ยนในระยะแรก น้ำนมที่ได้ยังคงส่งเข้าสู่ระบบทั่วไปตามปกติ ต้องรอให้โคนมกินอาหารอินทรีย์ไปจนกว่าจะครบ 3 ปี จึงมั่นใจว่าเป็นนมอินทรีย์จริง ถึงจะให้กรมปศุสัตว์เข้ามาตรวจสอบรับรอง

Hormones-Antibiotics

น้ำนมเกษตรอินทรีย์นั้นมีงานวิจับรับรองว่าคุณภาพดีกว่า ด้วยสาเหตุเพราะการปรับเปลี่ยนมาสู่โคนมอินทรีย์เป็นเรื่องที่เกษตรกรต้องปรับไปสู่การเลี้ยงขั้นพื้นฐานที่สำคัญต่างๆ เช่น การฟื้นฟูแปลงหญ้าของตนเอง ปลูกหญ้าให้มีคุณภาพดีขึ้น การเลี้ยงที่ไม่ใช้สารเคมีต่างๆ การทำฟาร์มโคนมอินทรีย์ จึงเป็นการผลิตที่มุ่งเน้นถึงคุณภาพของน้ำนมเป็นหลัก ทำให้มีสารสำคัญที่สูงกว่า ได้แก่ กรดไขมันชนิด omega-3, omega-6 และ CLA เป็นต้น นับได้ว่าเป็นน้ำนมที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภคโดยแท้จริง ที่สำคัญคือไม่มีสารเคมีตกค้างแน่นอน

และเมื่อพิจารณาต่อผลกระทบของแม่โค พบว่าการผลิตน้ำนมเชิงอินทรีย์ทำให้ภาวะสมดุลของพลังงานในร่างกายของแม่โค หลังคลอดดีขึ้นกว่าเดิม น้ำนมที่ได้จากฟาร์มอินทรีย์มีค่าเซลล์โซมาติค (ตัวชี้วัดสภาพเต้านม) ต่ำ เป็นการแสดงถึงแนวโน้มของปัญหาเต้านมอักเสบที่มีอัตราการเกิดโรคยาก แม่โคมีอุบัติการณ์ความเจ็บป่วยทางร่างกาย เนื่องจากปัญหา เต้านมอักเสบ เพราะถูกเร่งการให้นมมากเกินไป แต่วัวในระบบอินทรีย์จะเป็นเต้านมอักเสบน้อย และปัญหาสุขภาพ อาทิ ขา กีบ ภาวะเป็นกรดของกระเพาะหมักลดลง คุณลักษณะ การเป็นสัด และ การ ทำงานของรังไข่ดีกว่าเมื่อเทียบกับฟาร์มที่เลี้ยงแบบดั้งเดิม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการใช้วัตถุดิบ พืชอาหารสัตว์ที่เป็นอาหารหยาบมากขึ้น แม่โคจึงไม่เกิดสภาวะความเครียด ส่งผลให้ปัญหาทางด้านการสืบพันธุ์ลดลง อัตราการทิ้ง (culling rate) ของแม่โคต่ำ ประสิทธิภาพทางการสืบพันธุ์ที่เพิ่มสูง และอายุการใช้งาน (longivity) ยาวนานขึ้น อีกทั้งน้ำนมที่เลี้ยงแบบอินทรีย์มีมูลค่า การซื้อขายเพิ่มถึง 30 เปอร์เซ็นต์จากเดิม

strong_style_color_b82220_plush_strong_toy_stuffed_toy_lovely_strong_style_color_b82220_cow_strong_pillow_baby_doll_cartoon_strong

สินค้าทางเกษตรอินทรีย์นั้นเป็นที่ต้องการต่อผู้บริโภค เพราะมีคุณภาพดี ปลอดภัยโดยเฉพาะในแง่ของสารเคมี โดยพบสารเคมีตกค้างเพียงร้อยละ 7 ในขณะที่อาหารปกติพบถึงร้อยละ 33 นอกจากนั้นยังส่งผลดีไปถึงพืช สัตว์ และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แต่ผลผลิตที่ได้นั้นมักจะลดลงเท่าตัว ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งของราคาจำหน่ายที่สูงกว่าสินค้าชนิดเดียวกันที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาด และเมื่อตกมาถึงมือผู้บริโภคอย่างเราๆ ก็จะมีการบวกค่าการตลาด หีบห่อ ซึ่งมักจะทำให้ดูสวยงามกว่าฉลากทั่วไป ราคาจึงเกินจริงขึ้นไปอีกเพื่อให้เกิดการสร้างช่องทางเชื่อมต่อผู้ผลิตกับผู้บริโภคโดยตรง ดูเหมือนว่าสินค้าเกษตรอินทรีย์จะจำกัดการซื้อเฉพาะผู้ที่มีรายได้สูงพอที่จะจับจ่ายมาเท่านั้น ทำให้เกิดช่องว่างในการบริโภคระหว่างคนที่มีรายได้ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด กลายเป็นว่าสุขภาพที่ดี วิถีชีวิตทีี่ดี จำเป็นต้องใช้เงินแลกมา ผู้บริโภคอย่างเราก็ได้แต่หวังว่าจะมีผู้ที่เห็นต่อผลประโยชน์ของผู้บริโภคโดยแท้จริงเท่านั้นเอง

whole-foods1239990_10201372765474034_189017287_nหมูหลุม 388513_343594325669762_1744056502_n

อ้างอิงจากเว็บไซต์ ณ วันที่ 29/4/2557

//www.technologychaoban.com/news_detail.php?tnid=404§ion=8

//www.komchadluek.net/detail/20130720/163848/%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%9D%E0%B8%99%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1.html

//www.yellowatwork.com/TH/content/Pages/farm_10182013_s.aspx

//www.manager.co.th/science/viewnews.aspx?NewsID=9560000118531

//www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1375151144

//www.thairath.co.th/content/322929

//www.tcijthai.com/tcijthainews/view.php?ids=3754&utm_source=twitterfeed&utm_medium=twitter

https://www.mtec.or.th/ecodesign2012/index.php?option=com_content&view=article&id=9:carbon-footprint-cf-&catid=1:-ecodesign&Itemid=5




Create Date : 03 พฤษภาคม 2557
Last Update : 3 พฤษภาคม 2557 7:56:02 น. 1 comments
Counter : 2476 Pageviews.

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: สมาชิกหมายเลข 3762148 วันที่: 24 มีนาคม 2560 เวลา:17:36:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.