อ่านเรื่อยๆ มาเรียง ๆ ทุกวันของ หนี่งหน่อง นะครับ
‘ชายหมู’ แนะคุมกำเนิดรถยนต์ ‘ไม่มีที่จอดห้ามซื้อ’

สุขุมพันธุ์” ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ แนะคุมกำเนิดรถยนต์ไม่มีที่จอด-ห้ามซื้อ
สุขุมพันธุ์,ปัญหารถติด,คุมกำเนิดรถยนต์,ไม่มีที่จอดรถห้ามซื้อ,ผู้ว่าราชการกรุงเทพ

ภาพประกอบข่าว

วันนี้ (1 ต.ค. ) เมื่อเวลา 09.15 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมระดมสมอง เรื่องท้าทายไทย : แก้ไขปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานคร และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “การจัดการจราจรในกรุงเทพมหานคร”

เนื้อหาของการประชุมในครั้งนี้ ระบุถึงปัญหาที่ขณะนี้กทม.และปริมณฑ ประสบปัญหาด้านการจราจรติดขัดและมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น จากความต้องการในการเดินทางของประชาชนเพิ่มสูงขึ้น หากไม่เตรียมการแก้ไขหรือไม่มีแผนงานโคงการรองรับกับปัญหาจราจร จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางและความเป็นอยู่ของประชาชน

นอกจากนี้ อาจจะกระทบถึงประเทศในด้านอื่น ๆ เช่น เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในอนาคต ทำให้ภาครัฐมีนโยบายจะเร่งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ด้วยการผลักดันแผนงานโครงการทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาวของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯและปริมณฑล

ที่ผ่านมาการกำหนดมาตรการควบคุมปริมาณการจราจรรวมทั้งมาตรการอื่น ๆ จะไม่สำเร็จหากไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่มีระบบเพียงพอในการให้บริการประชาชน จึงมีความจำเป็นต่องผลักดันระบบขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพเพื่อสอดล้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน เพราะจะทำให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชมากขึ้น รวมถึงการรณรงค์ให้มีการใช้ยานพาหนะร่วมกัน

โดยเน้นหลักการเคลื่อนคนแทนที่พยายามเคลื่อนรถ ขณะเดียวกันต้องมีการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างศูนย์กลางชุมชนต่าง ๆ ด้วยโครงการคมนาคมขนส่งที่มีความสะดวกรวดเร็วและประหยัดพลังงาน สำหรับงานประชุมวันนี้ กทม.ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) วิทยาลัยพัฒนามหานคร มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชเพื่อร่วมกันหาแนวคิดเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า เรื่องปัญหาจราจรไม่ต้องมีข้อกังขาว่าทำไมในกรุงเทพฯต้องประสบปัญหานี้ เพราะตัวเลขมีความชัดเจนในเรื่องปริมาณรถยนต์ขณะนี้มีจำนวน 8 ล้านคัน แต่ผิวจราจรกลับมีน้อยกว่า และปริมาณรถยนต์มีมากกว่าประชากรในทะเบียนบ้านหลายล้านคัน ซึ่งในกรุงเทพฯมี 17 ล้านเที่ยวคนต่อวัน หรือเพียงร้อยละ 40 ใช้ระบบขนส่งสาธารณะประมาณ 7 ล้านคัน ส่วนที่เหลือใช้รถยนต์ ซึ่งตัวเลขที่บ่งชี้ทั้งหมดก็ชัดเจนว่าการจราจรต้องติดขัดเพราะตั้งแต่เดือนม.ค.-พ.ค.ปีนี้มีรถจดทะเบีนใหม่จำนวน 3.5 แสนคัน หรือเฉลี่ยมีรถจดทะเบียนใหม่ 3.5 พันคันต่อวัน ในขณะที่การเพิ่มผิวจราจรนับวันจะทำลำบากขึ้น เพราะไม่มีความต้องการเวนคืน หรือการย้ายถิ่นฐานของประชาชน ซึ่งก็ไม่ว่ากัน เพราะตนขอพูดความจริง

แนวโน้มจากนี้ในระยะสั้นเราไม่สามารถสบายใจได้ถึงแม้การแก้ปัญหาหาจราจรได้เดินหน้าไปในแนวทางที่ถูกต้อง โดยมีมาตรการทั้งบรรเทาอาการ และรักษาโรค โดยยาที่บรรเทาอาการมีจำนวนมาก อาทิ การเพิ่มทางเลือกในการเดินทาง โดยเฉพาะการใช้เรือ การเพิ่มระบบเพื่อป้อนผู้โดยสารเข้าสู่ระบบขนส่งมวลชน การปรับปรุงถนน เพิ่มจุดตัด ทางแยก แก้ไขปัญหาคอขวด มีการเพิ่มเส้นทางจักรยาน เปิดแอพลิเคชั่นรายงานปัญหาจราจร แต่ยาที่จะรักษาโรคได้ต้องเป็นการสร้างระบบขนส่งมวลชน โดยในปี 2572 ในกรุงเทพฯจะมีระบบขนส่งมวลชนแบบรางเพิ่มขึ้น 5 เท่า มีระยะทางเกือบ 300 กม. จะมีสายหลัก 8 เส้นทาง สายรอง 6 เส้นทาง มีไลท์ เรลที่บางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งระบบขนส่งระบบรางมีความสำคัญมากเพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกมาชึ้น เพื่อให้ทิ้งรถไว้ที่บ้าน

ทั้งนี้ยังมีคำถามว่ารถไฟฟ้าจะเป็นยารักษาโรคได้หรือไม่ ตนคิดว่ายังมีตัวเลขน่ากลัวมาก เพราะจากนี้ถึงปี 2572 ยานพาหนะรถยนต์จะเพิ่มจาก 8 ล้านคันเป็น 10 ล้านคัน การเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯจะเพิ่มขึ้นจาก 17 ล้านเที่ยวคน จะเป็น 22 ล้านเที่ยวคน แต่สัดส่วนการใช้ยานพาหนะส่วนบุคคลไม่ได้ลดลง ส่วนปริมาณผู้โดยสารจากระบบรางก็เพิ่มมาจากระบบขนส่งมวลชนแบบอื่น ที่สำคัญในเรื่องความเร็วบนถนนซึ่งปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 19 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในปี 2572 อาจจะเหลือเพียง 12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความหมายคือลงทุนหลายแสนล้านแต่รักษาโรคไม่ได้ก็เป็นเรื่องน่ากลัวมาก ถึงแม้จะมีการสร้างระบบขนส่งมวลชนแบบรางก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะต้องมีวัฒนธรรมในการใช้ชีวิตและการเดินทางของประชาชนด้วย

แนวทางเบื้องต้นได้แก่
1.คุมกำเนิดรถยนต์ โดยผู้ที่ต้องซื้อรถยนต์ต้องแสดงที่จอดรถ ถ้าไม่มีที่จอดรถต้องห้ามซื้อรถยนต์
2.ควบคุมการใช้รถส่วนบุคคลในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในศูนย์กลางธุรกิจ ถ้าเข้าใช้อาจจะต้องมีการเสียเงิน
3.บังคับให้ผู้มีที่จอดรถในใจกลางกรุงเทพฯต้องจ่ายค่าจอดรถสูงขึ้น เพื่อมีแรงจูงใจทิ้งรถไว้ที่บ้าน
4.พัฒนาระบบรถประจำทางทั้งการขนส่งหลังและการป้อนผู้โดยสาร
5.เพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งทางเลือกให้เป็นวิถีชีวิตหลัก หรือเป็นการป้อนเข้าสู่ระบบโดยใช้แม่น้ำ คอง เข้ามาช่วย 6.เพิ่มเส้นทางจักรยาน ต้องมีการดูแลถนนให้ดี เพิ่มความสะดวกให้ผู้สูงอายุ และผู้พิการ เพราะสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว
7. ต้องนำเทคโนโลยีมาใช้ต่อเนื่อง พัฒนาระบบสกายวอลค์ในศูนย์กลางธุรกิจเพื่อจูงใจให้ประชาชนเดินทางขึ้น ที่สำคัญกทม.และปริมณฑลต้องรวมมือเรื่องผังเมือง และรัฐบาลต้องสร้างเมืองเซทเทิลไลท์ที่มีความพร้อมในเรื่องโรงเรียนและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อไม่ให้คนในเขตปริมณฑลเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ถ้าไม่จำเป็น

“ยังมีคำถามว่าเราจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้หรือไม่ ถ้าอำนาจหน้าที่การดูแลจราจรยังกระจายอยู่หลายหน่วยงาน และถึงเวลาหรือยังที่จะมีการรวมอำนาจหน้าที่แก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ หรือปล่อยให้อำนาจกระจายไปยัง 20 กว่าหน่วยงาน ซึ่งอาจจะมีจุดยืนที่ต่างกัน ทรัพยากรต่างกัน บุคคลากรต่างกัน คำถามง่าย ๆ เราจะจริงจังกับการแก้ปัญหาแค่ไหน หรือเราจะปล่อยต่อไป หรือต้องสร้างระบบให้ทำงานเชิงบูรณาการแท้จริงก่อน” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว

ขอบคุณเนื้อหาจาก bangkokbiznews




Create Date : 02 ตุลาคม 2558
Last Update : 2 ตุลาคม 2558 5:03:07 น. 1 comments
Counter : 1215 Pageviews.

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาเยี่ยมนะจ้ะ ^____^ สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: peepoobakub วันที่: 15 มีนาคม 2560 เวลา:18:15:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หนี่งหน่อง
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 33 คน [?]




pub-1485477287124314
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนี่งหน่อง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.