|
!@ ยัง...จำกันได้มั้ย @!
วันวานที่ผ่านไป...พวกเค้าเหล่านี้ เปรียบเหมือนเพื่อนสนิทของพวกเราหลายๆ คน...
Create Date : 13 สิงหาคม 2548 | | |
Last Update : 13 สิงหาคม 2548 13:31:31 น. |
Counter : 275 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
น้องบอย...
มีประสบการณ์เรื่องสัมผัสแปลกๆมาเล่าสู่กันฟังค่ะ...เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับดิฉันโดยตรง เกิดขึ้นในช่วงที่ดิฉันทำงานอยู่กับบริษัทผลิตสารคดีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง...ช่วงที่เข้าไปเจ้านายให้ทำเทปไพล็อท รายการใหม่ เนื้อหาเกี่ยวกับการช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก...
ดิฉันได้เคส...เป็นน้องผู้ชายอายุ 14 ปี ซึ่งป่วยเป็นลูคีเมียขั้นสุดท้าย สมมติว่าชื่อน้องบอยละกันนะคะ...ทีมงานเราคือดิฉัน ครีเอทีฟและช่างภาพแล้วก็พี่อาสาสมัครจากโรงพยาบาลที่น้องบอยเป็นคนไข้...ได้เดินทางไปเยี่ยมน้องและครอบครัวที่จังหวัดระยอง ซึ่งน้องบอยอยู่กับพ่อ แม่เลี้ยง และน้องๆอีกหลายคน
ด้วยความที่น้องเค้าป่วยมาก...เลยต้องออกจากโรงเรียนตั้งแต่ ป. 6 แต่ก็ยังมีเพื่อนๆแวะเวียนไปคุยเล่นที่บ้านด้วยเสมอ...น้องบอยบอกกับพวกเราว่าอยากกลับไปนั่งเรียนกับเพื่อนๆอีกครั้งค่ะ...เรา...ทีมงานก็รับปากว่า จะติดต่อโรงเรียนและเดินเรื่องต่างๆให้น้องได้สมหวัง ซึ่งก่อนกลับกรุงเทพวันนั้น...น้องบอยบอกว่า ถ้าพวกเรามาเยี่ยมน้องอีกคราวหน้า น้องจะพาไปเที่ยวน้ำตกใกล้บ้าน
2 วันต่อมา...ดิฉันอยู่ที่ออฟฟิศ น้องบอยโทรมาหา และถามว่าเมื่อไหร่พวกพี่จะมาเยี่ยมอีก ดิฉันได้แต่ผัดผ่อนไป เพราะตอนนั้นมีเรื่องเขียนบท และอื่นๆอยู่พอสมควรแต่ก็รับปากว่าคงอีกไม่นาน...
จนกระทั่งเวลาล่วงไปอีกประมาณ 3 วัน ค่ำวันนั้นดิฉันออกจากออฟฟิศแล้ว...และแวะทำธุระก่อนเข้าบ้าน ปรากฏว่าแม่เลี้ยงของน้องบอย ( ซึ่งเป็นคนดีมากค่ะ...จากการที่ทีมงานได้ไปสัมผัสและสอบถามจากตัวน้องเอง รวมถึงชาวบ้านใกล้เคียงแล้ว ) ได้โทรมาบอกว่า น้องบอยแย่แล้ว...ท้องเสียมากต้องเข้าไปโรงพยาบาลด่วน แต่น้องไม่ยอมไปจะรอพวกพี่ๆจากกรุงเทพกลับไปเยี่ยมน้องก่อน...และน้องถ่ายเยอะมากจนหมดแรง ขาสั่นต้องประคอง มาคุยโทรศัพท์ไม่ไหว...
ค่ะ...เรื่องของเรื่องคือ ทีมเราบอกกับน้องบอยว่า...วันที่น้องครบกำหนดต้องไปหาหมออีกทีนั้น พวกพี่ๆจะไปถ่ายน้องที่โรงพยาบาลด้วย..ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องครั้งหลังสุดนี้มันอยู่นอกเหนือการคาดหมายของเรา...เพราะไม่คิดว่าน้องจะเอ็กซิเดนท์เข้าโรงพยาบาลก่อนกำหนด...
ดิฉันได้แต่บอกกับแม่เลี้ยงน้องบอยไปว่า...ให้น้องไปโรงพยาบาลก่อนแล้วพี่จะตามไปเยี่ยมพรุ่งนี้
และคืนนั้น...ดิฉันกลับมาที่บ้านแล้วก็นอนดึกตามเคย นั่งเล่นเน็ทไปเรื่อยๆ เรื่องน้องบอยไม่ได้กังวลอะไรมากเพราะคิดว่า แค่ท้องเสียถึงมือหมอแล้วคง โอเค.
ตอนนั้น...ราวๆ ใกล้ตีสอง อยู่ๆดิฉันก็มีอาการขนลุกอย่างชัดเจนที่แขนด้านขวา แล้วในจังหวะเดียวกันเจ้าหมาแถวบ้านหลายตัวก็พากันหอนยาว สังเกตจากเสียง...ประมาณว่าใกล้กับประตูรั้วหน้าบ้านดิฉัน ดิฉันแปลกใจนิดหน่อย...เพราะปกติหมาแถวบ้านจะไม่ค่อยหอนอะไรแบบนี้ มักจะเห่าไปตามเรื่องตามราวมากกว่า...ก็เล่นเน็ทต่อไป
ตีสองกว่าใกล้ตีสาม...มีคนโทรเข้ามือถือ แม่เลี้ยงน้องบอยเองค่ะ...โทรมาบอกว่า น้องบอยเสียแล้วตอนตีสอง ดิฉันอึ้ง...เพราะไม่คิดว่าแค่น้องท้องเสีย จะเป็นเหตุลุกลามไปได้ขนาดนี้
เช้าวันถัดมา...ดิฉันกับช่างภาพ เราบึ่งไปบ้านน้องบอยโดยแวะรับพี่อาสาสมัครด้วยกลางทาง...บ้านน้องบอยอยู่ลึกเข้าไปในสวนยาง ทางเข้าค่อนข้างลำบากกว่าที่พ่อน้องจะโขยกเขยกรถกะบะออกมาที่ถนนใหญ่ก็ใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมง...และจากถนนใหญ่ไปโรงพยาบาลชลบุรีอีก นับชั่วโมง...ดิฉันคุยกับพี่อาสาสมัครทำให้ได้ความรู้ว่า ลูคีเมียเป็นโรคที่กัดกินความแข็งแรงและภูมิต้านทานจากผู้ป่ายมาก แค่เป็นหวัดหรือท้องเสีย...โอกาสที่จะไปก็มีไม่น้อยแล้ว พี่เค้าพูดออกมาคำนึง...ดิฉันไม่มีวันลืมคือ เวลาของเรากับของคนไข้...มีไม่เท่ากัน
ค่ะ...การไปบ้านน้องบอยในครั้งนี้ ภารกิจของรายการต้องแปรเปลี่ยนออกไป จากที่เราตั้งเป้าว่าจะไปเดินเรื่องกับฝ่ายวิชาการที่โรงเรียนเพื่อให้น้องได้เข้าไปนั่งเรียนอีกครั้งหนึ่งนั้น...ก็กลายเป็น ดิฉันและพี่อาสาฯต้องไปซื้อเสื้อผ้า ชุดนักเรียนพร้อมปักชื่อของน้องบอยที่ร้านแห่งหนึ่งในตลาด เพื่อนำไปฝากน้องบอยที่ไม่มีลมหายใจ...แทน
ระหว่างที่เรากำลังซื้อของที่ร้าน ก็ได้มีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นอีกครั้งค่ะ...นั่นคือดิฉันและพี่อาสาฯ ได้กลิ่นบางอย่างซึ่งรุนแรงมากใกล้ๆ กับเราสองคน...จนเราต้องมองหน้ากันแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ดิฉันหันไปมองช่างภาพ...ก็เห็นยังทำงานอย่างเป็นปกติ รวมถึงเจ้าของร้านเองก็มีสีหน้าเฉยๆ
ภายหลังเมื่อเข้ามานั่งในรถแล้ว...เราจึงคุยกัน ค่ะ...มีแต่ดิฉันและพี่อาสาฯเท่านั้นที่ได้กลิ่น
เรื่องมันเศร้านะคะ...
Create Date : 13 สิงหาคม 2548 | | |
Last Update : 13 สิงหาคม 2548 13:23:11 น. |
Counter : 343 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
" ภูตแห่งว่าน "
...ซึ่งเป็นคนละชนิดกับ " ภูตแห่งแหวน " นะคะ
เรื่องนี้...คุณยายเพื่อนบ้านได้เล่าให้ฟังว่า ถอยหลังกลับไปราว 60 ปีก่อน สมัยคุณยายยังเด็ก ทว่า...ก็โตพอที่จะรู้ความแล้ว ใครต่อใครแถวย่านคลองสามวา หรืออาจจะรวมถึงถิ่นอื่นด้วย...ต่างก็นิยมชมชอบการปลูกว่านต่างๆ เอาไว้ประจำบ้านเรือนกันแทบทั้งสิ้น
ด้วยนัยว่า...พืชเหล่านี้มีความกายสิทธิ์เร้นลับบางประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมตตา - มหานิยม โชคลาภไม่ขาดสาย หรือคงกระพันชาตรี และหากบ้านใด...มีว่านสรรพคุณขลัง ก็มักจะมีผู้ไปอ้อนวอนขอแบ่งมาปลูก แม้แต่การที่จะต้องซื้อหาด้วยเงินจำนวนหลายสิบบาท...ซึ่งนับว่ามีค่าอักโขสำหรับในอดีต ก็ล้วนแต่เป็นไปได้ทั้งสิ้นค่ะ
ว่านหนังเหนียว...ยิงไม่เข้าแทงไม่ออก เปรียบเหมือนสิ่งสำคัญคู่กายของชายไทยยุคนั้น ที่เมื่อเวลาจะลงจากเรือนไปไหนมาไหน เป็นต้องปลุกเสกว่านมาเคี้ยว บ้างก็พกพาห่อติดตัวไปด้วย
นักเลงไทยรุ่นเก่าก่อนนั้น...คุณยายบอกว่า เค้านิยมใช้ดาบด้ามยาว หรือไม้คมแฝกเป็นอาวุธ...เรียกว่าเล่นกันถึงตาย หรือไม่ก็คางเหลือง สำหรับไม้คมแฝกนั้น...ดูจะขาดไม่ได้ มีการเจาะรูที่ท้ายด้ามแล้วเอาเชือกร้อย คล้องติดกับข้อมือ...เรียกว่าลุยไหนลุยกันทีเดียว
เมื่อมีว่านวิเศษ...ก็ย่อมจะมีการลองของ เรื่องนี้โบราณท่านห้ามนักห้ามหนาว่า ของ...ไม่ว่าจะขลังแค่ไหน ก็ห้ามลองถึงสามครั้ง ไม่เช่นนั้นจะไม่เหนียว คือที่สุดแล้ว ก็จะต้องถึงกับเลือดตกยางออกนั่นเอง
นอกเหนือจากว่านที่มีความศักดิ์สิทธิ์ทำนองนี้แล้ว...ก็ยังปรากฏว่ามีว่านบางชนิด ซึ่งเจ้าของเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านด้วยเช่นกัน โดยเค้าว่ากันว่า...บ้านบางหลังที่แม้จะไม่มีใครอยู่ในยามนั้น แต่ครั้นมีคนนอกเรือนชาน ที่อาจจะมีจุดมุ่งหมายทั้งในทางดี หรือร้าย...ย่างกรายเข้าไปในเขตรั้ว เป็นต้องเจอดี...คือได้เห็นร่างดำทมึนของคนตัวใหญ่ผิดสามัญ นั่งประจันหน้าประดุจป้อมปราการประจำสถานที่
และมีอยู่ครั้งหนึ่ง...คุณยายในวัยเด็กได้พายเรือผ่านไปทางบ้านญาติผู้ใหญ่ของท่าน ซึ่งระหว่างทางนั่นเอง...คนพายเรือก็รู้สึกแปลกใจ ที่เห็นต้นว่านทั้งใหญ่และเล็ก...ลอยตามน้ำมาเป็นกลุ่มๆ
และเมื่อถึงท่าน้ำหน้าบ้าน...ก็ยิ่งเห็นว่ามีกอว่านขนาดใหญ่ถูกถอนทิ้ง กองไว้อีกด้วย คุณยายจึงได้จอดเรือ...ก่อนจะขึ้นไปหาญาติท่านนั้น
ซึ่งได้รับคำตอบถึงสาเหตุของการขุดรากถอนโคน...ว่านกอใหญ่นั้นว่า เมื่อหลายวันที่ผ่านมา เจ้าของบ้านสังเกตว่าหมาใต้ถุนเรือนหอนโหยหวนกันผิดปกติ...คืนหนึ่งเมื่อออกมาเมียงมองดู ก็ได้เห็นคนแก่ผมขาวโพลน ทั้งยังใส่เสื้อผ้าทั้งชุดเป็นสีขาว เดินวนเวียนอยู่ในเขตบ้านท่าน...และเป็นดังนี้อยู่หลายครั้ง
หากจะบอกว่า...ผู้มาเยือนยามวิกาลอาจจะเป็นชาวบ้านย่านนั้น ก็ไม่น่าจะใช่...ด้วยพฤติกรรมที่ไม่พูดจา อีกทั้งใบหน้าค่าตาก็ไม่เป็นที่รู้จัก ประกอบกับนึกถึงคุณสมบัติแห่งว่านเลี้ยง ที่เล่าขานสืบๆกันมาว่า...หากหัวว่านมีอายุแก่ได้ที่ ย่อมจะมีร่างปรากฏออกมาให้เห็นได้ คิดได้ดังนี้...คนปลูกเลยขวัญหนีดีฝ่อ ตัดสินใจรื้อทิ้งทั้งกอแบบไม่อาลัยไยดีกันต่อไปค่ะ
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::: ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ คุณยายบอกว่า...ไม่รู้ว่าว่านนั้นชื่ออะไร
ว่าแต่...จะใช่ว่านชนิดนี้รึเปล่านะคะ
++++++++++++++---------.........+++++++++++++
** ว่านนางคุ้ม ( ผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน ) ** ลักษณะ : ใบโตดั่งใบอุตพิด แต่สีของใบอ่อนกว่าและมีก้านยาว...ก้านใบมีสีขาวแซมเล็กน้อยที่ด้านหน้า ลักษณะใบค่อนข้างกลม มีดอกสีขาว...ก้านช่อดอกสูง ชูเด่นเห็นได้ชัด ดอกมีกลิ่นหอม
หัวว่านนางคุ้มนี้...มีลักษณะดั่งหอมหัวใหญ่ไม่ผิดเพี้ยน ต้นหนึ่งมีหัวเดียวโดด ๆ
ประโยชน์ : นิยมปลูกไว้ในบ้าน...เพื่อคุ้มภัยพิบัติต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอัคคีภัยจะดีเด่นเป็นพิเศษ ทุกบ้านควรเสาะหามาไว้ประจำบ้าน...เมื่อถึงเวลาคับขันจะผ่อนหนักเป็นเบาได้ทันตาเห็น เพราะชื่อ นางคุ้ม หมายถึงการคุ้มครองโดยตรง...คนโบราณจึงนับถือมาก
วิธีปลูก : เนื่องจากไม้นี้...มีลักษณะใบสวยงาม มักนิยมปลูกไว้เป็นไม้ประดับบ้านอีกประการหนึ่งด้วย จึงชอบที่จะหากระถางที่มีลวดลายสวยงามเป็นภาชนะรองรับ เครื่องปลูก...ใช้อิฐทุบละเอียด ผสมผงถ่านและดินเบาเล็กน้อย ระวังอย่าให้น้ำขังได้...หมั่นรดน้ำให้เปียก แต่อย่าให้มากจนเกิน ใบจะเขียวงดงามยิ่งนัก
++++++++++++++++-----------..................+++++
Create Date : 13 สิงหาคม 2548 | | |
Last Update : 13 สิงหาคม 2548 13:07:32 น. |
Counter : 1316 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เอกเขนกบนเก้าอี้ผ้าใบ...
@ อ่านหนังสือไปได้สองสามหน้า...ว้า ง่วงอีกแระเรา @ ทุกทีเลย...เวลาหลบมาอยู่ใต้ร่มต้นหม่อน ลมพัดเย็นๆ แดดส่องรำไร ได้ยินเสียงระฆังลมกระทบอากาศดังกรุ๋งกริ๋ง
สวนเล็กๆของบ้าน...ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้หลายชนิด ตอนนี้ดอกโมกกำลังแข่งกันผลิช่อส่งกลิ่นหอมกรุ่น อิฐดินเผาเก่าๆ ตะไคร่จับจนหาสีเดิมไม่เจอ แต่กลับคลุมด้วยความเขียวหลังจากผ่านมาหลายหน้าฝน...เรียงตัวเป็นแผ่นพื้น สัมผัสด้วยเท้าเปล่ารู้สึกเย็น สอดรับกันดีกับอ่างบัวอเมซอนที่มีดอกสีขาวจิ๋วๆกลีบบางกลมมน
บางทีก็อยากเป็นปลา...ว่ายไปมาแล้วดำดิ่งลงสู่น้ำใสเย็น เบื้องบนคือกิ่งก้านสาขาสารพัน ที่แม้จะมีพรรณไม้แผ่ปกคลุม แต่ก็ยอมปล่อยให้ตะวันทำหน้าที่อย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง
พวกนกทั้งหลายคงกลัวแมว...ไม่ยอมลงมากินอาหารที่เราทำจานแขวนไว้ ถึงกระนั้น...ก็ยังเห็นมันมาบินวนเวียนอยู่ที่ต้นมะยมใหญ่ในช่วงเย็นๆ...คงจะมีรังอยู่ที่นั่น
ต้องขอบคุณ...ที่ช่วยมาร้องเพลงให้ฟังทุกเช้า
ขอบคุณที่สุด ^^ เลยนะ
Create Date : 13 สิงหาคม 2548 | | |
Last Update : 15 กรกฎาคม 2549 13:42:31 น. |
Counter : 310 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|