+~* สวัสดี...ความรัก *~+
Group Blog
 
All Blogs
 
:+ เศรษฐีฟางเส้นเดียว+: 1



เนิ่นนานมาแล้วในสมัยหนึ่ง...มีชายหนุ่มผู้กำพร้าพ่อแม่และยากจนมากอยู่นายหนึ่งชื่อ " ทาโร่ " เขาต้องอาศัยอยู่ ตัวคนเดียวไร้บ้านช่องที่หลับนอน หรือแม้แต่ที่ดินเล็กๆ จะเอาไว้ทำมาหากินสักผืนก็ยังไม่มีกับใครเขาเลย...แม้แต่สักหยิบมือเดียว " ทาโร่ " จึงต้องจำเป็นที่จะต้องไปขออาศัยอยู่ในที่ดินของผู้ที่พอมีอันจะกินอยู่บ้างคนหนึ่ง และขอยืมใช้โรงนาเก่าๆ ที่เกือบจะพังมิพังแหล่ของเขานั้น แบ่งที่ทำเป็นที่หลับนอนและอาศัยอยู่...โดยตอบแทนด้วยการช่วยทำไร่ทำนาให้เป็นการแลกเปลี่ยน และหากินเป็นคนรับจ้างเขาทำนาแลกข้าวแลกน้ำเลี้ยงตัวเองเรื่อยมา

" ทาโร่ " นั้นถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่ยากจนข้นแค้นสักเพียงใดก็ตาม...แต่ก็เป็นคนที่ขยันขันแข็งและประพฤติตนเป็นคนดีเสมอ นอกจากนี้...การที่เขาไร้ญาติขาดพ่อแม่พี่น้อง " ทาโร่ " จึงยึดถือและเคารพเจ้าแม่กวนอิมมาก ทุกวันเมื่อทำงานเสร็จแล้ว " ทาโร่ " จะไปที่ศาลเจ้าและจะเข้าไปกราบไว้ขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมไม่เคยขาด และวันนี้ก็เป็นเหมือนกับทุกๆ วันที่ผ่านมา " ได้โปรดเถิดเจ้าแม่...ข้าน้อยนั้น ไม่ว่าจะขยันขันแข็งทำงานจนสายตัวแทบจะขาดอย่างไรก็ตามที...ก็ไม่เห็นว่าจะเกิดความสบายขึ้นมาได้เหมือนกับใครเขาบ้างเลยแม้แต่สักน้อยนิด ได้โปรดช่วยดลบันดาล...และช่วยให้ข้าน้อยได้มีโอกาสและได้มีความสบายขึ้นมาบ้างเหมือนกับใครๆ เขาสักนิดด้วยเถิด "

แล้วในคืนวันหนึ่ง " ทาโร่ " ก็เกิดฝันไปว่า...อยู่ๆ ที่ตรงหัวนอนของเขานั้นได้เกิดมีแสงประกายสว่างไสวขึ้น และเจ้าแม่กวนอิมที่เขาได้ไปกราบขอพรอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น ได้ออกมาปรากฏกายต่อหน้าเขา...พร้อมทั้งบอกกับเขาว่า
" ทาโร่ เจ้าคนที่น่าสงสาร ข้าจะบันดาลสิ่งที่ดีสิ่งหนึ่งให้กับเจ้า พรุ่งนี้สิ่งแรกที่เจ้าได้จับเอาไว้ในมือนั้น...เจ้าจงถือสิ่งนั้นเอาไว้ให้ดี เพราะมันจะช่วยดลให้เจ้าโชคดีและมีความสุขขึ้นมาได้ในภายภาคหน้า...จำไว้นะทาโร่ จงถือสิ่งนั้นติดมือของเจ้าเอาไว้ให้จงดี "

เมื่อ" ทาโร่ "ได้กล่าวขอบคุณและตอบรับแล้ว...เจ้าแม่กวนอิมก็ได้จางหายไปในทันที ครั้นรู้สึกตัวและตื่นขึ้นมาใน ตอนเช้าแล้ว " ทาโร่ " ให้รู้สึกมดีใจเป็นอย่างที่สุด เขารีบแต่งตัวแต่โดยไวแล้วออกเดินทางไปที่ศาลเจ้าเพื่อที่จะไปทำความเคารพขอบคุณเจ้าแม่กวนอิมต่อหน้าท่านอีกครั้งหนึ่งที่ได้มาเข้าฝัน...ซึ่งมันทำให้เขามีกำลังใจที่จะคิดต่อสู้กับชีวิตขึ้นมาอย่างมาก เมื่อ" ทาโร่ " ทำการกราบไหว้และขอบคุณเจ้าแม่กวนอิมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เขากำลังจะเดินออกมาจนเกือบจะพ้นจากปากประตูของศาลเจ้าอยู่แล้วนั้น...

เขาก็เกิดเดินสะดุดหินก้อนหนึ่งเข้า และได้หกล้มลงไปนอนหมอบอยู่ที่ตรงหน้าประตูศาลเจ้านั้นอย่างหมดท่า แต่เมื่อเขายันกายลุกขึ้นมาได้...และมองไปที่มือของเขา่่้เท่านั้นก็พลันได้เห็นว่า มีฟางเส้นหนึ่งติดมือมาและตัวเองก็ได้ กำมันเอาไว้จนแน่นอยู่ในมือตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ " โอหยา โอหยา...เดี๋ยวก่อน !...หรือสิ่งนี้คือของที่เจ้าแม่กวนอิมได้บอกว่าจะประทานให้ล่ะ !...มันคือฟางนี่น่ะหรือ ? ฟางเส้นเล็กๆ ที่ไร้ค่าเส้นนี้น่ะนะ...ที่จะช่วยทำให้ข้าโชคดีขึ้นมาได้...จะเป็นไปได้อย่างไรเล่านี่ ? " ทาโร่ไม่อยากที่จะเชื่อและมั่นใจเอาเสียเลยจริงๆ ต่อฟางเส้นนั้น แต่...ไม่ว่าเขาจะพยายามคิดหรือโกหกตัวเองอย่างไรก็ไม่เป็นผล เพราะฟางเส้นนี้น่ะ...มันเป็นสิ่งแรกที่เขาได้จับเอาไว้ในมือจริง ๆอย่างแน่นอนเลยละ !...

" ทาโร่ " หยุดนิ่งคิด และให้มีความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังฝันไป อีกทั้งความหวังของเขานั้น...ก็เกือบจะสลายลงไปอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เขามีใจตั้งมั่นเชื่อในความฝันของตนเองและเคารพนับถือในเจ้าแม่กวนอิมอย่างมาก เขาจึงแน่ใจว่า...เจ้าแม่กวนอิมจะต้องไม่แกล้งหลอกเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงตกลงใจที่จะถือฟางเส้นนั้นเอาไว้แล้วออกเดินไปเรื่อยๆ และในขณะที่เขากำลังเดินออกมาได้สักหน่อย ก็มีแมลงหวี่ตัวหนึ่งกระพือปีกบินมาพร้อมกับส่งเสียงร้อง " ปุ ปุนน..หวี่ ๆๆ " อยู่ที่รอบๆ ฟางเส้นนั้นของเขา " ทาโร่ " รู้สึกรำคาญจึงได้จับแมลงหวี่ตัวนั้นแล้วเอามาผูกติดไว้ที่ฟางเส้นสำคัญเส้นนั้นของเขา...เสร็จแล้วจึงนำมาผูกติดไว้กับกิ่งไม้กิ่งเล็กๆ กิ่งหนึ่งอีกที แล้วเดินถือไม้แกว่งไปแกว่งมา ก่อนจะออกเดินต่อไปอีก...

เจ้าแมลงหวี่เมื่อโดนผูกเอาไว้อย่างนั้นจึงร้อง หวี่ ๆๆๆๆ และกระพือปีกบินไปรอบๆ ไม้ที่ผูกไว้นั้นอย่างไม่ยอมหยุด "ทา โร่ " เกิดนึกสนุกขึ้นมา...จึงออกวิ่งถือไม้ติดแมลงหวี่นั้นไปอย่างร่าเริงเลยทีเดียว แล้วในขณะนั้นก็พอดีกับได้เผอิญมีขบวนเดินทางของขุนนางขบวนหนึ่งผ่านมาทางนั้นเข้า และในขบวนนี้...ก็มีภรรยาและบุตรชายของขุนนางผู้นั้นเดินทางมาพร้อมกันด้วย ลูกชายของขุนนางนั้นยังเป็นเด็กเล็กอยู่...และคงจะด้วยเป็นเพราะว่าจำต้องเดินทางไกลๆ จึงร้องกระจองงองแงมาตลอดทาง และเมื่อได้เหลือบมาเห็นไม้ติดแมลงหวี่ของทาโร่เข้า...ก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น พร้อมทั้งร้องบอกข้าทาสบริวารด้วยเสียงอันดังว่า " เราจะเอาของเล่นนั่น..แง้ๆๆๆ "

บริวารของขุนนาง...จึงบอกให้หยุดขบวนแล้วเดินมาพูดกับทาโร่ เพื่อขอไม้ติดแมลงหวี่อันนั้น " พ่อหนุ่มน้อย บุตร ของนายเรา อยากจะได้ของเล่นอันนี้ของท่าน เราขอให้กับเขาเถิด " ทาโร่จึงยื่นให้ในทันที...บุตรขุนนางเมื่อได้ของเล่นที่ถูกใจจึงหยุดร้องและหันมาแกว่งไม้ติดแมลงหวี่อันนั้นเล่นอย่างสนุกสนาน ภรรยาของขุนนางเมื่อเห็นลูกชายหยุดร้องไห้อย่างนั้นก็ดีใจมาก...นางจึงได้ยื่นผลส้มให้กับทาโร่สามผล " เราขอมอบส้มนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนกับของเล่นชิ้นนั้นของท่าน ขอขอบคุณท่านอย่างมากเหลือเกิน"

ทาโร่เมื่อได้รับส้มสามผลเป็นการแลกเปลี่ยน...ก็เดินถือส้มนั้นต่อมาอีก ภายในใจก็ให้รู้สึกทึ่งขึ้นมาเป็นอย่างมากว่า " จะมหัศจรรย์อะไรอย่างนี้เป็นไม่มีอีกแล้ว...ฟางไร้ค่าแค่เส้นเดียวนี่น่ะ เปลี่ยนเป็นส้มได้ตั้งสามผลทีเดียว นี่จะต้องเป็นเพราะพรของเจ้าแม่กวนอิมอย่างแน่นอนเลย " เขาคิด และเมื่อเขาเดินต่อมาได้อีกสักหน่อยมาถึงตรงทางแยกซึ่งเป็นทางที่จะเข้าหมู่บ้านพอดีนั้น เขาก็แลเห็นว่า...ได้มีหญิงนางหนึ่งนั่งหน้าตาซีดเซียวเหมือนกำลังเป็นลมอยู่ที่ข้างทาง และมีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งคงจะเป็นผู้ที่เดินทางร่วม กันมากับหญิงนางนั้น...ได้เข้ามาถามทาโร่ว่า " ขอโทษทีเถิดพ่อหนุม แถวนี้พอจะมีที่หาน้ำดื่มได้บ้างไหม ? "

ทาโร่จึงบอกกับผู้ชายคนนั้นไปว่า " จะมีก็ต้องเป็นที่ศาลเจ้าที่ไกลออกไปมากพอดูเหมือนกันแหละท่าน...เอาอย่างนี้แล้วกัน ถ้าเป็นลมเพราะกระหายน้ำแล้วละก็ เอ้า...ส้มสามผลนี่เราให้ เอาไปกินแก้กระหาย บางทีมันอาจจะช่วยได้หรอกท่าน " หญิงนางนั้นเมื่อรับส้มไปแล้วก็แกะกินอย่างกระหาย และแล้ว...อาการของนางก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
" ขอบคุณท่านมาก พ่อหนุ่ม เรารู้สึกดีขึ้นมากและสามารถที่จะเดินทางต่อไปได้แล้วละ...เราทั้งสองเป็นคนขายผ้าเดินทางมาไกล อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะท่าน เพื่อเป็นการตอบแทนความกรุณาของท่าน เราขอมอบผ้าไหมสามม้วนนี้ให้เป็นการตอบแทนในน้ำใจของท่าน...ขอขอบคุณท่านอย่างมากเหลือเกิน " มาถึงตอนนี้ทาโร่ยิ่งเกิดความทึ่งในใจมากขึ้นมาอีก " โอ้...ส้มแค่สามผลนี่ กลับกลายมาเป็นผ้าไหมราคาแพงได้ตั้งสามม้วนแน่ะ โอ้ย...ช่างเหลือเชื่อเสียจริงๆ ! "

ด้วยอารามดีใจ...ทาโร่จึงเดินแบกผ้าไหมทั้งสามม้วนนั้นเดินต่อมาอีก และเขาเกิดนึกสนุกขึ้นมาพลางคิดไปด้วยว่า แล้วคอยดูสิว่า...เจ้าผ้าไหมทั้งสามม้วนนี้มันจะเนรมิตและกลับกลายเป็นอะไรขึ้นมาได้อีก จากนั้นพอเขาเดินมาได้อีกสักหน่อยก็แลเห็นว่ามีซามูไรผู้หนึ่ง กำลังขี่ม้าพยศวิ่งโร่ตรงมาทางเขาอย่างปัจจุบันทันด่วย...เจ้าม้าตัวนั้นวิ่งควบไปข้างหน้าไม่ยอมหยุด ขณะเดียวกันข้างหลังก็ติดตามมาด้วยข้าทาสอีกสองคน เพื่อที่จะช่วยกันจับและฉุดรั้งม้าพยศตัวนั้นให้หยุดลงให้ได้อย่างโกลาหล ทว่า...เจ้าม้าตัวนั้นเมื่อมันวิ่งมาตรงใกล้ๆ กับที่ทาโร่ยืนหลบอยู่ แล้วอยู่ดีๆมันก็กลับหยุดวิ่งอย่างกระทันหัน และล้มลงไปนอนนิ่งอยู่ที่พื้นดินอย่างไม่ไหวติงเลยทีเดียว...

ฝ่ายซามูไร...เมื่อลงจากหลังม้าได้เท่านั้นก็โมโหฉุนเฉียวอย่างมาก และได้หันมาสั่งให้ข้าทาสให้เอาม้าไปจัดการฆ่าทิ้งเสีย แล้วตนเองก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองดูม้าอีกแม้สักน้อยนิด...ฝ่ายผู้รับใช้เเมื่อได้รับคำสั่งดังนั้นเข้าก็ กลุ้มใจอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรกับม้าดี ทั้งสองจึงได้แต่หันหน้าเข้าปรึกษาหารือกันไปพลางๆ ว่าจะทำยังไงกันดี อยู่ข้างๆ ม้าที่กำลังนอนไม่ได้สติตัวนั้น


...............................ยังมีต่ออีกนะคะ.....................>



Create Date : 07 กันยายน 2548
Last Update : 7 กันยายน 2548 3:09:19 น. 1 comments
Counter : 584 Pageviews.

 
1. เธอกำลังอ่านกระทู้ของฉัน

















2. เธออ่านข้อ 1 จบไปแว้ว
















3. เธอกะลังคิดว่ามันฮายังงัย
















4. เหมือนเธอจะโดนหลอก

















5. เธอเริ่มคิดว่าจาด่าฉันยังไง

















6. เธอเครียด

















7. เธอเครียดมากๆ
















9. เธอเครียดสุดๆโคดๆ

















10. เธอเครียดจนเธอลืมดูว่าไม่มีข้อ 8





















11. เธอหันไปดูว่าไม่มีจิงป่าว
















12. เธอเลื่อนกลับมาอีกแล้ว เหอๆ

















13. เธอเริ่มเลื่อนลงแล้ว



















14. เธอเลื่อนลงอย่างเร็ว อย่างเร็ว



















15. และก็ เร็ว เร็ว......


















16. เร็วมาก ๆ



















17. เร็วจนไม่รู้ว่าข้อ 13 นั้นมี 2 ข้อ....
























18. แล้วเธอก็ย้อนกลับไปดู....อีกครั้ง






















19. แล้วเธอก็โดนหลอกเต็มๆ เพราะว่าข้อ 13 มีอยู่ข้อเดียว




















20. เธอส่ายหัวไปมา...คิดในใจว่า มันส่งเมลล์บ้าไรให้ตูฟร่ะ....






















21. ไม่มีสาระอะไรเลย...





















22. แต่ก็ยังทำให้เธออ่านมันมาถึงตรงนี้....












23. นั่นแน่!!เธอแอบยิ้มยิ้ม , หัวเราะหน่อย..



โลกสดชื่นสวยงามด้วยความปรารถนาดี.....


เครดิต : ฟอเวิดเมลค่ะ ^^ ใครเคยอ่านขอโทดด้วยนะคะ แต่อยากให้อ่านกันจิงๆ ^^


โดย: hi IP: 203.209.120.217 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:40:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ระนาดแก้ว
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




" ผู้หญิงราศีกุมภ์....อีกหนึ่งคนบนโลก "











Google



all webpantip















Friends' blogs
[Add ระนาดแก้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.