• Food & Beverages
• Health & Beauty
• Media & Entertainment
• Lifestyle & Trends
• Technology & Gadgets
• Money & Finance

รักร้าวฉาว Hollywood by Mrs.Wright หากมีคำถามว่า จะเป็นไปได้หรือที่จะมีรักแท้ในโลกมายาที่เรารู้จักกันดีในชื่อของ “ฮอลลีวู้ด” เราก็คงต้องคิดหาคำตอบกันยากไมใช่น้อย เพราะเรื่องรักฉาวที่เห็นกันทุกวันยิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ความรักที่คนบันเทิงนำเสนอต่อสาธารณชน แท้จริงแล้ว มันคือหลุมดำที่ซ่อนไปด้วยความฉาบฉวย เห็นแก่ตัว ลวงหลอก จนไม่น่าสงสัยว่า เหตุใด วู้ดดี้ อัลเลนถึงหน้ามืดตามัวกับลูกบุญธรรมวัยคราวหลาน และถูกลูกแท้ๆปฏิเสธจะพบหน้า เพราะอะไร พาเมล่า แอนเดอร์สัน แต่งงานบ่อยจนดูคล้ายเป็นงานอดิเรก หรือคำประกาศของคู่สามีภรรยา วิลล์และจาด้า สมิธ ที่ยืนยันว่า รักของพวกเขาฉ่ำหวานได้ตลอดเวลาได้เพราะเซ็กส์ที่ดี และการเปิดใจให้แต่ล่ะฝ่ายไปหาความสุขทางเพศกับคนอื่นๆได้โดยไม่หวงห้าม! รีส –ไรอัน รักร้าวเมื่อเธอปันใจ ความรัก ความทุ่มเท ความอบอุ่นจากโซ่ทองคล้องใจ ก็ยังไม่อาจช่วยชีวิตสมรสของคู่รักคนดังให้อยู่รอดไปได้ แม้ว่าหลายคนจะคาดไว้แล้วว่า ชายเจ้าชู้อย่างไรอัน ฟิลลิปพี่ จะจำกัดอิสรภาพด้วยการแต่งงานกับรีส วิทเทอร์สปูน ดาราสาวคู่ขวัญจากหนังวัยรุ่นสุดฮิท Cruel Intension ได้นานสักเท่าไหร่ แต่การตัดสินใจจบชีวิตคู่7ปีของทั้งสองก็สร้างความช็อกสั่นสะเทือนวงการ และไรอันก็ถูกตั้งข้อหาข้อหาสามีที่ไร้ความซื่อสัตย์ไปเต็มๆ คำกล่าวที่ว่า ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากให้ภรรยาประสบความสำเร็จมากกว่า ถูกนำมาเปรียบเทียบวิเคราะห์ทันทีหลังจากการประกาศแยกทางอย่างเป็นทางการ แม้ว่าเธอเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าซึ้งใจอย่างล้นเหลือกับการสนับสนุนจากไรอัน และหากไร้ซึ่งเขา เธอก็คงไม่มีทางประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ แต่ท่าทีเย็นชาอย่างแปลกประหลาดของไรอันที่สื่อตั้งข้อสังเกตภายหลังที่รีสคว้ารางวัลออสการ์ซึ่งหมายถึงรางวัลเกียรติยศสูงสุดที่ดาราฮอลลีวู้ดทุกคนถวิลหา ข่าวลือเตียงหักรักร้าวก็แพร่สะพัดออกมาทันที ว่าด้วยความไม่เข้าใจกันของทั้งสองเพราะไรอันยอมไม่ได้ที่จะเห็นภรรยาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานจนกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่ค่าตัวแพงที่สุด ในขณะที่เขายังได้รับบทตัวประกอบ จนต้องนอกใจประชด ข่าวนี้รุนแรงขนาดว่ามีคนพบเห็นไรอัน พลอดรักกับแอ็บบี คอร์นิช นักแสดงสาวชาวออสซี่ที่ร่วมงานกันในหนังอินดี้เรื่อง Stop Loss อย่างถึงพริกถึงขิงในร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างไม่เกรงสายตาใคร เมื่อข่าวล่วงรู้ไปถึงรีส และตัวเธอเองก็พบหลักฐานสำคัญที่บ่งบอกว่าไรอันนอกใจ ความรักที่มีให้แก่กันกลับกลายเป็นความร้าวรานอย่างยากที่จะบรรยายได้ ชีวิตคู่ที่เธอเฝ้าปกป้องทะนุถนอมก็ต้องพังภินท์ลงไปในที่สุด กลังการแยกทางในครั้งนั้น แอ็บบี คอร์นิช ยืนกรานมาตลอดว่าเธอไม่เคยมีความสัมพันธ์เกินเพื่อนกับไรอัน แต่คำพูดที่ไร้น้ำหนักนี้ ทำให้เธอถูกสังคมจดจำในบทบาทมือที่สาม ทำลายครอบครัวคนอื่นมากกว่าการเป็นนักแสดงดาวรุ่ง แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทั้งสองคนใจเย็นพอที่จะคบหากันอย่างเป็นความลับที่สุด จนกระทั่งฝ่ายที่เคยชีช้ำอย่างรีส ตั้งตัวได้และเริ่มมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่ พวกเขา จึงกล้าที่จะเผยความสัมพันธ์เร้นลับมากขึ้น เมื่อภาพนี้ปรากฏต่อสาธารณชน ก็ถึงกับทำให้เแฟนคลับของรีส โกรธเกรี้ยวถึงกับบอกว่าอยากจะอาเจียน ไรอันยังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการให้สัมภาษณ์กับ U.K. magazine Man About Town ว่า ทุกข์ทรมานจากการหย่าร้างกับรีสจนแทบจะฆ่าตัวตาย หลังจากที่รีสเปิดตัวความรักที่กำลังฉ่ำหวานกับ เจค กิลเลนฮาล หนุ่มน่ารักแห่งฮอลลีวู้ด หลายคนติการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ว่า เป็นเพียงการเรียกร้องความสนใจจากผู้หญิงที่เขานอกใจไปหาคนอื่นเท่านั้น และมันไม่ได้ดูแมนเอาซะเลย รักครั้งใหม่ของรีสที่หลายคนภาวนาให้เธอสมหวังในที่สุด ไรอันและรีส ยังต้องพบปะกัน ในการทำหน้าที่พ่อแม่เท่านั้น หลายฝ่ายยืนยันว่า พวกเขาไม่มีทางกลับมาคืนดีกันแน่นอน อูม่า – อีธาน รักไม่เชื่อใจ เธอเคยกล่าวขอบคุณและยกย่องให้เขาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการทำงานด้วยความตื้นตันใจ หลังจากที่คว้ารางวัล Golden Globe เขาเคยเขียนหนังสืออุทิศให้กับเธอด้วยความรัก และให้การสนับสนุนเสมอมา แต่ทว่าเรื่องราวของอูม่า เธอร์แมน และอีธาน ฮอว์ค กลับถึงจุดจบในระยะเวลาไม่นาน “ผมอยากจะฆ่าเขานัก เจ้างั่งคนนี้นอกจากจะนอกใจเธอแล้ว ยังแก้ตัวว่าไม่ได้ทำอะไรผิดอีก!” น้องชายของอูม่า ออกมาป่าวร้องต่อสื่ออย่างโกรธแค้น และยืนยันว่าอดีตพี่เขยเป็นฝ่ายหักหลังพี่สาวของเขาอย่างเจ็บแสบ เรื่องราวแสนเจ็บปวดเกิดขึ้นเมื่อตอนที่อูม่าอยู่แวนคูเวอร์เพื่อเข้าฉากให้กับ Paycheck ร่วมกับ เบน อัฟเฟล็ค ส่วนอีธานก็อยู่ในมอนทรีออลเพื่อถ่าย Taking Lives กับ แองเจลีน่า โจลี่ เริ่มแรก หลายฝ่ายเกรงว่าอีธานจะตกหลุมเสน่ห์ร้อนของแม่ม่ายสาวแองจี้ แต่กลายเป็นว่าพระเอกของเรากลับไปหลงนางแบบโนเนมของแคนาดาอย่างหัวปักหัวปำ จนพาพาราซซี่ท้องถิ่นแอบถ่ายภาพตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน และมีพยานหลายปากระบุว่าทั้งสองหาเวลาพลอดรักกันทุกครั้งที่มีโอกาส หลายฝ่ายฟันธงว่าอีธานทำเรื่องผิดศีลธรรมเพราะต้องการประชดภรรยาที่มีข่าวใกล้ชิดกับผู้กำกับมือทอง Quentin Tarantino “ใช่...ระหว่างเรามีเรื่องราวนอกใจกันจริงๆ ชั้นรู้เรื่องพวกนี้จากหน้าหนังสือพิมพ์” อูม่า ยอมรับสาเหตุการหย่าร้างด้วยน้ำตาคลอเบ้า แม้จะไม่ได้ระบุว่าใครคือฝ่ายหักหลัง แต่มันก็คงแน่ชัดแล้ว เจน เปอร์ซอว์ นางแบบสาวชาวแคเนเดี้ยน แหล่งข่าวคนใกล้ตัวของอูม่าให้สัมภาษณ์ด้วยโทสะว่า อีธานได้รับการให้อภัยจากการคบชู้ในครั้งแรก แต่ก็ยังทำผิดซ้ำ และทำให้อูม่าต้องใจสลาย เมื่อนางแบบมือที่สามออกมาประกาศว่า “อีธานกับชั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง เค้าพาชั้นไปทำความรู้จักกับเพื่อนๆ และแนะนำในฐานะคนรักอย่างเต็มปากเต็มคำ” ชีวิตแต่งงานที่ใครเคยอิจฉาจึงต้องหักสะบั้นลงในที่สุด พ่วงด้วยคำพูดที่ฟังไร้ความสำนึกผิดของฝ่ายชาย “"คุณจะเห็นได้เลยว่า มีผู้นำประเทศชื่อดังตั้งหลายคนที่ชอบจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าแทนที่จะซื่อสัตย์แบบพวกมีผัวเดียวเมียเดียว อย่างมาร์ติน ลูเธอร์ คิง หรือ จอห์น เอฟเคนเนดี้ ไงล่ะ” ไม่น่าแปลกใจเมื่ออูม่าเดินหน้าต่อไปด้วยความเข้มแข็ง และมีรักใหม่กับหนุ่มเนื้อหอม อีธานก็ได้ออกมาพรรณนาถึงความทุกข์ทรมานที่ต้องเสียภรรยาไป “ ผมน้ำหนักลดเป็นสิบๆกิโล จนแทบไม่มีใครจำหน้าได้ ต้องระเห็นตัวเองออกจากอพาร์ทเมนท์ เพราะไม่สามารถทนฟังเสียงรถของเธอที่ผมจำได้อย่างขึ้นใจ” ทำให้หลายคนวิจารณ์ว่า อีธานก็เหมือนกับผู้ชายที่ชอบนอกใจทั่วไป ที่ขาดความมั่นคงในตัวเอง และเลือกที่จะแสดงความเป็นใหญ่ด้วยการมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา แบรด- เจน- แองจี้ รักสามเส้าร้าวราน ภาพแห่งความรัก สุขล้นที่เคยตรึงตราใจใครหลายคน เจน เป็นดาราสาวบุคลิกน่ารักจับจิตจาก ซีรี่ย์เรื่อง Friends..เป็นเรื่องยากที่ใครจะไม่หลงรักRachel..แบรด เป็นดาราหนุ่มที่สาวๆนับล้านๆหลงไหลคลั่งไคล้ ในใบหน้าหล่อเหลาและรูปร่างที่เซ็กซี่ แถมฝีมือการแสดงยังไม่ธรรมดา ในนาทีนั้น ผู้คนต่างตื่นเต้นดีใจกับการวิวาห์ของทั้งสอง ไม่มีใครจะเหมาะสมไปกว่าแบรด และเจน อีกแล้ว ทั้งสองครองรักด้วยกันอย่างหวานชื่นอยู่หลายปี โดยเฉพาะตอนที่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน ทั้งสองแสดงความรักกันอย่างหวานชื่น แต่ก็ไม่มากเกินไปจนโอเว่อร์ให้ใครหมั่นไส้ แฟนๆต่างเชื่อมั่นว่า แบรด เจน เป็นคู่รักตัวอย่าง ที่จะรักกันไปจนแก่เฒ่า แต่เนื่องจากที่แบรด พิตต์ มีเสน่ห์จนเหลือล้นกระมัง..ชีวิตแต่งงานของทั้งสองจึงเริ่มมีปัญหา จนถูกสื่อขุดคุ้ยและตั้งคำถามว่า ทั้งสองจะไปกันรอดหรือไม่ตั้งแต่สองปีแรกของการแต่งงาน มีข่าวลือว่าว่าเจนระแวงว่าแบรดจะนอกใจมากๆ ถึงขนาดจ้างนักสืบติดตามพฤติกรรมของสามี ตอนที่แบรดต้องไปถ่ายหนัง หรือเวลาที่เธอไม่อยู่บ้าน และยังมีเรื่องที่ทั้งสองขัดใจกันมาตลอดในชีวิตแต่งงาน เกือบ 5 ปี ในขณะที่แบรดใฝ่ฝันอยากจะมีลูกเยอะๆ ดังที่เจนออกมาให้สัมภาษณ์ "แบรดเค้าอยากจะมีลูกตั้ง 7 คน! ชั้นคิดว่ามีคนสองคนก็น่าพอแล้วล่ะ.." แทปลอยด์ได้พยายามโฟกัสเรื่องความขัดแย้งไปที่เจนผู้ที่ยังปฏิเสธจะมีลูกในตอนนี้ แม้ว่าเธอจะมีอายุอานามที่สมควรแล้วโดยอ้างเหตุผลในการที่จะเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จสูงสุด มากกว่าที่จะทุ่มเทเอาใจใส่ทารกที่จะเกิดขึ้นมา ส่วนแบรดนั้นก็พยายามกดดันเจน โดยให้สัมภาษณ์บ่อยๆ เรื่องที่เขาอยากจะมีลูกน้อยๆมาเชยชมแค่ไหน ข่าวลือเริ่มพัดกระหน่ำมากขึ้น เมื่อเจนลืมที่จะกล่าวขอบคุณสามี ในการรับรางวัลโกลเด้นโกลบส์และแบรดเริ่มปล่อยให้เจนไปออกงานคนเดียวบ่อยขึ้น แต่แฟนๆก็อยากจะเชื่อว่าทั้งสองเพียงแค่มีเรื่องระหองระแหงกันตามประสาสามีภรรยา เพราะแบรดเองก็เคยยืนยันหนักแน่นในความดีของเจนว่า"เธอสามารถดึงดูดผู้คนให้เข้าหาได้เหมือนกับแม่เหล็ก เธอเป็นเหมือนกับเตาผิงที่ให้ความอบอุ่นกับพวกเราในฤดูหนาว" แต่สิ่งที่เจนกลัวมาตลอดก็ได้เกิดขึ้น..... เมื่อรู้ว่าสามีจะต้องทำงานร่วมกับนางเอกสาวที่ถือว่าสวยเซ็กซี่ที่สุดในโลกในหนังเรื่อง MR.& Mrs. Smith แถมยังมีข่าวลือพัวพันกับพระเอกหลายคนที่เธอร่วมงานถ่ายภาพยนตร์ด้วย ไม่ว่าจะเป็นสามี2คนแรก Jonny Lee Miller Billy Bob Thorntonและ badboy จอมเจ้าชู้ Colin farrell. ก่อนที่จะถ่ายทำหนัง เจนได้ขอร้องให้แบรดบอกปัดข้อเสนอไปซะ แต่ก็ไม่เป็นผล แต่เธอก็กำชับว่า จะไปเยี่ยม (เฝ้า) ที่กองถ่ายบ่อยๆ.. ครั้งหนึ่งเมื่อได้ไปเจอะกับแองจี้ เธอได้ทักทายไปอย่างทีเล่นทีจริงว่า “hope you guys have a really good time, enjoy Brad!” เหมือนเป็นการเตือนๆไว้ก่อน...แต่ใครจะรู้ว่าจะมีเหตุการณ์ที่เป็นข่าวอื้อฉาวจนถึงปัจจุบันตามมา ช่วงที่ถ่ายทำหนังMr&Mrs Smith เป็นช่วงกลางปี 2004.. ข่าวเริ่มออกมาหนักเรื่อยๆ ตั้งแต่เรื่องที่แบรดปลื้มเรื่องความเป็นแม่ของแองจี้ที่รับแมดด็อกซ์ ลูกบุญธรรมชาวเขมรไปรับเลี้ยง มีภาพทั้งสามไปดูกีฬาด้วยกันพร้อมกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น แต่ก็ดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษและภาพทั้งสองจับมือกันก่อนเข้าฉาก ถูกตีพิมพ์ทางแทปลอยด์จนเรื่องสนั่นเมือง ผู้คนเริ่มรู้แก่ใจแล้วว่า แบรดกำลังจะเปลี่ยนใจจริงๆ แบรดและเจนได้พยายามปรับความเข้าใจกันด้วยการไปเที่ยวพักผ่อนกับเพื่อนนักแสดงจากFriendsของเจน แต่การเที่ยวด้วยกันครั้งนั้นกลับเป็นการเที่ยวครั้งสุดท้าย แหล่งข่าวยืนยันว่า แบรดมักจะขอตัวไปเดินเล่นและพกโทรศัพท์มือถือไปด้วยว่า ทำให้เจนเชื่อเหลือเกินว่า ตอนที่แบรดหายไปนานๆระหว่างไปเที่ยวนั้น เป็นเวลาที่แบรดแอบโทรหาแองจี้ ก่อนที่แบรดและเจนจะประกาศแยกทางกันนั้น ทั้งแบรดและแองจี้ได้ออกมาปฏิเสธความสัมพันธ์เร้นลึกอยู่หลายครั้งแต่มีครั้งหนึ่งที่การให้สัมภาษณ์แองจี้ถูก quote ก็คือ "ชั้นเกิดมาในครอบครัวที่พ่อนอกใจแม่มาตลอด และนั่นไม่สามารถให้อภัยได้เลย ชั้นไม่ปล่อยให้ตัวเองทำเรื่องแบบนั้นได้หรอก ผู้ชายที่นอกใจเมียตัวเองไม่สามารถทำให้ชั้นใจสั่นคลอนได้อย่างแน่นอน" ซึ่งการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ต่อมากลายเป็นดาบฆ่าตัวเองเลยทีเดียว ทั้งสองพยายามมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ในเดือนมีนาคม แบรดก็ได้กลับไปอยู่กับเจนและเข้ารับปรึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาชีวิตสมรสที่แตกร้าวแต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ทั้งสองกลับมาปรองดองกันได้ปลายเดือนมีนาคม เจนก็ยื่นเอกสารขอหย่าจากแบรด..แต่ก่อนที่ผลการหย่าจะมีผลนั้น ก็ได้เกิดเรื่องที่ทำให้ผู้คนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วอีกครั้ง นั่นคือรูปที่US weekly มือไวซื้อจากพาพาราซซี่ที่มือไวกว่าถ่ายมาขายได้ มันมีมูลค่าถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐ.. เป็นรูปที่แบรดกำลังเล่นกับแมดด็อกซ์ที่ชายหาดในเคนยา โดยมีแองจี้ ยืนดูอยู่ห่างๆ..และตอนนั้น แม้ว่าจะแยกกันอยู่แล้ว สถานะของแบรดและเจนก็ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่ และถูกนำเสนอเป็นbreaking newsทางทีวี และทำให้หลายๆคนช็อกกับความจริงอันนี้ เพราะเชื่อว่า แบรดน่าจะรอจนกว่าจะหย่าขาดจากเจนให้เรียบร้อย ก่อนที่จะคบแองจี้อย่างเปิดเผย แม้ว่าทั้งสองจะหลบไปไกลถึงเคนย่า แต่คงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า การไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกัน ไม่ได้ไปในฐานะที่เกินเลยกว่าเพื่อน อย่างที่ทั้งสองยืนยันเสมอมา ช่วงนี่นี่เอง กระแสรักสามเส้าอันแรงจัดทำให้มีการแบ่งทีมสนับสนุนดาราคนโปรดเป็น Team Jen และTeam Jolie และสาดวิจารณ์เข้าหากันอย่างเผ็ดร้อน ในกลางปี..แบรดและแองจี้ก็ได้ทำเรื่องค้านสายตาชาวโลกอีกครั้ง...และถูกวิจารณ์ว่าเป็นการฆ่าเจนทั้งเป็นเลยทีเดียว พวกเขาการถ่ายภาพภายใต้คอนเซ็ปท์ครอบครัวยุค60 ให้กับนิตยสารW ภายหลังเจนได้ออกมาเปิดใจว่า ภาพบาดตาบาดใจเหล่านี้ทำให้เธอช้ำใจเป็นที่สุดที่สุด "ถ้าชั้นไม่ช็อก หลังจากที่เห็นรูปพวกนั้น ชั้นก็คงเป็นหุ่นยนต์ไปแล้ว แน่นอน..ชั้นรู้สึกโกรธ เจ็บปวด และอับอาย" อนิสตันเล่าก่อนที่จะอธิบายว่าเธอต้องเข้ารับการบำบัดเพื่อรักษาบาดแผลในใจ เธอหันมาสนใจเรื่องโยคะอย่างจริงจัง และปลดปล่อยความรู้สึกเจ็บปวดออกไป "ชั้นรักแบรด ชั้นจะรักเค้าตลอดไป และหวังว่าเราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้อีกครั้งหนึ่ง" คำพูดนี้น่าจะเป็นความจริง เพราะเจน ยังเป็นเพื่อนที่ดีกับแม่แท้ๆของแบรด คอยติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ แน่ชัดว่าแบรดยังมีความรู้สึกดีๆกับเจนอยู่เสมอ แม้ว่านั่นจะทำให้แองจี้รู้สึกไม่สบายใจเลยก็ตาม แต่พวกเขาก็ได้คบกันอย่างรวดเร็วและจริงจังกว่าที่ใครคาดคิด แองจี้ได้รับน้องซาฮาร่า เด็กผุ้หญิงแอฟริกันมาเป็นลูกบุญธรรมอีกคนต่อจากแมดด็อกซ์ เมื่อการหย่ากับเจนมีผลทางกฎหมายแล้ว แบรดก็รับเป็นพ่อลูกบุญธรรมของแองจี้ทันที ท่ามกลางข่าวลือต่างๆนานา ทั้งจริงบ้างเท็จบ้าง แต่เรื่องที่เหมือนเป็นคลื่นมากระทบใจทั้งเจนและแฟนๆก็คือเรื่องที่แองจี้กำลังมีลูกกับแบรด เมื่อไม่สามารถปิดบังครรภ์ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆได้แองจี้ได้ประกาศว่าตั้งครรภ์ในเดือนมกรา และ หนูน้อย ไชโลห์ นูเวล โจลี-พิตต์ ก็ได้ลืมตาดูโลกในวันที่27 พ.ค. เป็นลูกสาวคนแรกที่มีความผูกพันธ์ทางสายเลือดกับแบรดและแองจี้ เมื่อคำนวณดูระยะเวลาดูแล้ว ตอนที่แองจี้ตั้งครรภ์นั้น แบรดและเจนก็ยังไม่ได้หย่ากันอย่างเป็นทางการเลยด้วยซ้ำ สื่อนั้นพยายามตอกย้ำว่า เจนต้องเจ็บปวดรวดร้าวอย่างสาหัส เมื่ออดีตสามีเลือกผู้หญิงที่ทั้งสวยกว่า เซ็กซี่กว่า และสามารถกำเนิดลูกให้กับแบรดได้ทันควัน.. กลายเป็นว่าแทนที่จะได้รักษาแผลใจ กลับต้องเจ็บปวดซ้ำซ้อน..แต่เจนก็ไม่ได้ปริปากเผยความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ต่อมาแบรดและแองจี้ก็รับ แพกซ์ เทียน เด็กชายชาวเวียดนามมาเป็นลูกบุญธรรมร่วมกันอีกคน Life Goes On แบรด-แองจี้ ชีวิตรักที่ต้องดำเนินท่ามกลางเสียงครหา และเริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แม้จะปราศจากการแต่งงาน แต่ทั้งสองก็กลายเป็นคู่ชีวิตที่มีอนาคตร่วมกันจากการอุปการะลูกบุญธรรมร่วมกัน ถึง 3 คน และลูกแท้ๆที่หน้าตาน่ารักถอดแบบจากพ่อแม่ พวกเขายังมีแผนการรับเด็กเชื้อชาติต่างๆมาเป็นลูกบุญธรรมเพิ่มให้กลายเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ ปัจจุบันครอบครัวโจลี่ พิตต์ได้กลายเป็นครอบครัวที่ดังที่สุดในโลกไปซะแล้ว เจนนิเฟอร์ หลังจากชีวิตสมรสล้มเหลว เจนถูกสื่อขนานนามว่าเป็นผู้หญิงที่ถูกสาป เพราะเธอไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นให้ประสบความสำเร็จได้อีกเลย ไม่ว่าจะเป็นวินซ์ วอห์น อดีตคู่ขวัญในจอเงินที่อุตส่าห์ฟ้องร้องแทปลอยด์ที่ลงข่าวว่าเขาและเจนลิกร้างกัน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ ต้องแยกจากกันจริงๆ หรือจะเป็นนายแบบสุดเซ็กซี่ และหนุ่มเนื้อหอมคนอื่นๆ บ่อยครั้งที่พาราราซซี่แอบถ่ายภาพเจนที่มีสีหน้าเปล่าเปลี่ยวหงอยเหงาขณะเดินอยู่ลำพังและนำมาพาดหัววิพากษ์วิจารณ์ว่า เธอคงต้องทำใจกับชีวิตโสดที่เงียบเหงา และก้าวไปอย่างเข้มแข็งให้ได้ ช่วย comment กันเยอะๆนะคะ candyrakboojang.bloggang.com Mrs.Wright   Create Date : 21 ธันวาคม 2550     Last Update : 28 ธันวาคม 2550 14:11:50 น. Counter : 2948 Pageviews.   55 comment Share Tweet

Let’s Get Trendy by Mrs.Wright มาติดตามเทรนด์แฟชั่นฮ็อตๆ ที่บางคนเห็นแล้วอาจร้องว้าวขึ้นมาดังๆกันเถอะ Ankle Boots เทรนด์ร้อนที่สุดของซีซั่นนี้และคงยาวไปถึงปีหน้าต้องยกให้บู๊ทสั้นหุ้มข้อ จะใส่กับถุงน่องสีเข้มกันลมเย็นๆ หรือเปลือยเรียวขาท้าทายสายตาก็ดูเซ็กซี่ขี้เล่น เป็นเทรนด์ที่เหมาะกับหน้าหนาวบ้านเราจัง สาวไทยคนไหนยังไม่มั่นใจกับการใส่บู๊ท รองสวมกับยีนส์สวยๆเหมือนเคท บอสเวิร์ท สิ อยากเพิ่มความเปรี้ยวไปเท่าไรก็เพิ่มความสูงไปเลย ลุคเท่ๆแบบทอมบอยกลับมาแล้ว เกว็นจึงตอบรับด้วยการนำ อ็อกฟอร์ด เลส บู๊ทส้นสูงปรี๊ดมาทำให้สไตล์สปอร์ตของเธอดูจี๊ดจ๊าดยิ่งขึ้น บู๊ทหนังสองลุค สวมคู่ถุงน่องดำยอดฮิต หรือจะเปลือยขาก็ดูร้อนแรงไปอีกแบบ Sparkly NECKLINES หิน อัญมณีหรือเลื่อมที่ประดับที่รอบๆคอ รวมไปถึงแนวกระดุมและแขนเสื้อ ทำให้ชุดเรียบๆ ดูหรูหราและทำให้คุณโดดเด่นในงานกลางคืน หรือโอกาสพิเศษขึ้นมาทันที ชุดปักเลื่อมสีเงินของอแมนด้า ไบนส์ให้อารมณ์แบบ boho chic ดีนะ แม้แต่ชุดที่มีลวดลายน่ารักจุ๋มจิ๋มของเจนนิเฟอร์ คอนเนลลี่ ก็ดูหรูหราขึ้นมาด้วยอัญมณี จิวเวลลี่ที่ประดับประดาที่คอเสื้อทำให้พวกเธอเปล่งประกายสมกับเป็นดาราดัง ANIMAL-PRINT เริ่มอินมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ยังแรงจัดจ้านสะใจคนรักแฟชั่นไม่เลิก ลายสัตว์ที่หลายคนเคยคิดว่าใส่แล้วจะแก่ เชย มีไว้สำหรับคนมีอายุเท่านั้น ต้องกลับมาคิดใหม่ เมื่อลายสิงสาราสัตว์ได้ไปอาละวาดอยู่บนเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวสุดเก๋ ตั้งแต่แบรนด์ราคาสบายกระเป๋าไปจนถึงแบรนด์หรูหราราคาบ้าเลือด แถมลายสัตว์ก็ยังมีให้เลือกให้เข้าสไตล์ใครสไตล์มัน ตั้งแต่ลายน้องหมาจุดดัลเมเชียน น้องวัวมอๆ ไปจนถึงนางเสือร้ายสุดร้อนแรง! แม้จะไม่เปิดเผยเนื้อหนังมากนัก เจโล อีวา เมนเดส เมแกน ฟ็อกซ์และแพรีส ฮิลตันก็สาดความเซ็กซี่เต็มพิกัดใส่สายตาเราด้วยลายเสือสุดเร่าร้อน สองสาวซี้อย่างวิคตอเรียและเคที่ก็ชอบใส่ลายสัตว์เหมือนกัน แม้จะท้องโตขึ้นเรื่อยๆ จนต้องเพลาๆสวมส้นสูง นิโคล ริชชี่ก็ไม่ยอมหยุดเปรี้ยว สะพายกระเป๋าลายสัตว์แสนสวยมายั่วกิเลสเราเล่นๆ มาโนโลลายเสือของแพรีส ฮิลตัน เห็นแล้วใจละลาย สาวใจบุญอย่างแองเจลิน่า โจลี่ก็ยังอินเทรนด์ไปด้วย เธอเลือกสวมแบรนด์ที่เซเลบสาวปลื้มกันถ้วนหน้า Christian Louboutin ลิลี่ อัลเลนสลัดรองเท้าผ้าใบไนกี้มาสวมรองเท้าลายเสือเปรี้ยวล้ำ หลังจากที่ส่งรองเท้าส้นสูงลายสัตว์ฮิตติดลมบนจนถูกบัญญัติไว้ว่าเป็นสิ่งที่ผู้หญิงต้องมีไว้ครอบครองไปแล้ว ดาราที่ปลื้มลายสัตว์อย่างเกว็น สเตฟานี่ เซียนน่า มิลเล่อร์ และนิโคล ริชชี่ ก็หันมาใช้ผ้าพันคอลายสุดเปรี้ยวอย่างม้าลาย เสือดาว จนแฟชั่นนิสต้าเห็นแล้วตาร้อนผ่าว รีบหามาพันคอให้อุ่นรับลมหนาวโดยด่วน เมื่อเกว็น สเตฟานี่พันผ้า พันคอลายม้าลายพาลูกชายไปเดินเล่น ก็ทำให้แฟนๆกรี๊ดกร๊าด อยากได้มาพันผูกเพิ่มความเปรี้ยวบ้าง เซียนน่า มิลเลอร์คลั่งลายเสือดาวเอามากๆ เคล็ดลับก็คือ มิกซ์ลายสัตว์ลงไปกับเสื้อผ้าสีเข้ม หรือพื้นเรียบๆเพื่อความโดดเด่น ไม่ตีกันยุ่งเหยิงกันลวดลายอื่น เบื่อลายสัตว์แบบเดิมๆ? ลองเติมสีสันลงไปอย่างผ้าพันคอลายเสือดาวสีแดงเหมือนลิลี่ อัลเลนไงล่ะ อินขนาดที่ว่าแค่ถือเฉยๆก็เก๋ซะแล้ว อะไรจะขนาดนั้น! Watch – เครื่องประดับลายสัตว์กำลังครองเมือง สาวคนไหนอยากแอบเปรี้ยวเงียบๆ แค่ติดชิ้นเล็กๆประดับกายก็ชุ่มฉ่ำใจแล้ว หรือใครชอบชิ้นใหญ่ขึ้นมาก็ไม่ว่ากัน อินทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น ดีไซน์เนอร์ต้องออกคอลเลคชั่นลายซาฟารีมาเป็นมือระวิง Don’t! มิกซ์ลายเสือกับaccessories อื่นที่สีไม่เข้ากันอย่างแรง อย่างสาวอลิช่า คียส์ ชุดก็ดูสวยดี มาขัดตากับส่วนล่างสุดนี่แหละ Black and White VS Hot Colour เสื้อผ้าสีขาวดำนั้นไม่ได้ให้ความรู้สึกเชยๆเหมือนบรรณารักษ์เจ้าระเบียบอีกต่อไป เมื่อเหล่าเซเลบต่างพร้อมใจออกงานด้วยลุคสาวสมาร์ท เซ็กซี่แบบแก่เรียนจนต้องร้องว้าว! sweet – cheeky เสื้อคอกว้าง เพิ่มเสน่ห์เย้ายวนให้ชุดสีขาวดำของเคท ฮัดสัน อย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าเกิดว่าสีขาวดำดูจะเฝือไปหน่อย ลองหาสีเจ็บๆมาแทรก เหมือน ราเชล แม็คอดัมส์ และเมแกน ฟอกซ์ แล้วจะโดดเด่นกว่าใคร แต่ถ้าใครคิดว่าเทรนด์สีขาวดำจะเติมเต็มความจี๊ดจ๊าดให้ไม่ถึงใจแล้วล่ะก็ มาดูพาเลตต์เทรนด์สีที่กำลังมาแรงจาก winter 2007 ถึง spring และ summer 2008 กันเลย Pretty in pink Ready for red!? ใส่สีแดงเมื่อไหร่ กลายเป็นเป้าสายตาเมื่อนั้น โดดเด่นขนาดนี้ ไม่น่าสงสัยว่าสีแดงจะกลับมาอินอยู่เรื่อยๆ Watch - สีส้มหลายเฉดสีกำลังมาแทนที่สีอื่นๆ เสื้อผ้าใน spring- summer collection ของปีหน้าจึงเต็มไปด้วยสีส้มสดใสหลายเฉด แถมยังเหมาะกับทุกสีผิวด้วย ช่างเปรี้ยวสมชื่อจริงๆ Hot from runway ไม่ว่าจะผิวขาวหรือคล้ำก็สวยหายห่วง Tips : สำหรับสีสันสดใสแบบนี้ เครื่องประดับน้อยชิ้นไปกันได้ดีกว่าการห้อยอะไรให้มันอีรุงตุงนัง เพราะแค่สีจัดจ้านอย่างเดียวก็เด่นเกินขาดแล้ว Mini Dress ระบาดหนักมาจากรันเวย์และดูท่าว่าจะเป็นเทรนด์ยาวไปถึง spring 2008 เพราะบรรดาดีไซน์เนอร์ชื่อดังต่างส่งตัวอย่างชุดที่จะออกมาดูดเงินในกระเป๋าของแฟชั่นนิสต้าในงานfashion week มาให้ยลเป็นขวัญตาเป็นที่เรียบร้อย จะใส่มินิเดรสให้สวยเซ็กซี่ ก็ต้องลงทุนบริหารสัดส่วนให้ฟิตเข้าไว้ มารายห์เลือกจะโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งด้วยมินิเดรสไลคราสีดำ แหมจะสวยทั้งทีก็ต้องมั่นใจเต็มร้อยไปเลยสิ มารายห์คงคิดว่างั้นนะ พูดถึงเจ้าแม่มินิเดรสตัวจริง ต้องวิคตอเรีย เบ็คแคม เธอมีเดรสตัวกระจิริดแบบนี่กี่ตัวกันแน่? ท่าทางพอชจะหลงใหลในการใส่ชุดรัดรึงโชว์ความเพรียวบางและอกคู่ตู้ม ลองมาดูสาวร่างเล็ก อีวา ลองโกเรีย ที่ใส่มินิเดรสเพื่อโชว์เรียวขา แถมยังทำให้ดูสูงเพรียวขึ้นอีกด้วย แม้แต่สาวสูงโปร่งอย่างแคเมอรอนก็ชอบใส่มินิเดรสไม่ต่างกัน เรียวขายาวเรียวเพียงนี้ น่าอิจฉาป็นที่สุด! อวดเรียวขาด้วยมินิเดรสสีสดใสตามแบบฉบับโคลเอ้ เซวิกนี่ย์ Don’t ตกเป็นเหยื่อแฟชั่นด้วยการใส่มินิเดรสที่มีรูปทรงแปลกๆ ไม่เข้ากับรูปร่าง เพราะอาจทำให้คุณเหมือนเด็กโข่งได้ ถ้าเดรสมีรายละเอียดวิจิตรพิสดารอยู่แล้ว ก็เลือกรองเท้าดรอปความเว่อร์ลงสักหน่อยจะดีกว่า จำไว้ว่าless is more นะ ฝากกันก่อนจบนิดนึงว่า เทรนด์แฟชั่นไม่เคยหยุดนิ่ง บางสิ่งอาจเคยดูเชยสิ้นดี แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นของเปรี้ยวเก๋ จะวิ่งตามให้ทันแฟชั่น คงดูให้ดีๆว่าที่อินอยู่นี่มันเหมาะกับเราจริงรึเปล่า และที่สำคัญ ระวังเงินในกระเป๋าให้ดีๆ เผลอใจช็อปมากไป จะถังแตกไม่รู้ตัวนะจ๊ะ!!! Mrs.Wright candyrakboojang.bloggang.com   Create Date : 05 พฤศจิกายน 2550     Last Update : 5 พฤศจิกายน 2550 14:20:21 น. Counter : 2673 Pageviews.   21 comment Share Tweet

5 วิธีจะเป็น celeb ให้ฉาวสมอยาก นอกจากความตื่นตาตื่นใจในเสื้อผ้าประดับเพชรนิลจินดาราคาบ้าเลือด แพขนตายาวเป็นฟุต ความสามารถในการทรงตัวในบนส้นรองเท้าสูงห้านิ้วราวกับนักกายกรรม รูปร่างผอมบางจนไม่น่าเชื่อว่าจะเดินได้ไหว รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการทำไฮไลท์ผมใน1ปีที่ได้ยินแล้วอาจตกใจกลัว คุณยังพบอะไรที่น่าสนใจในเหล่าเซเลบริตี้ชื่อเสียงฉาวโฉ่อีกบ้าง? แต่จงรับเถอะว่า ยิ่งพวกเขาทำตัวหลุดโลกมากเท่าไหร่ คุณยิ่งกระหายอยากเสพข่าวคาวๆเหล่านี้มากเท่านั้น ส่วนใครที่อยากจะได้แบบอย่างการใช้ชีวิตที่มีสาระก็คงต้องมองข้ามบทความนี้ไป เพราะรับประกันได้ว่าเราได้รวบรวมความฉาวมาไว้ที่นี่หมดแล้ว จะดังแบบฉาวๆทั้งทีต้องทำแบบนี้.. มี Reality Show เป็นของตัวเอง เทรนด์นี้อินมาหลายปีแต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะจางหายไป เพราะเรื่องที่เป็นส่วนตั๊วส่วนตัวของคนอื่นมันช่างเอร็ดอร่อยน่าเอามาสุมหัวเม้ากันเป็นที่สุด ยิ่งโพรดิวเซอร์งัดกลยุทธ์เรียกเรตติ้งด้วยเรื่องชิงรักหักสวาทปนฉากเลิฟซีนสดๆ แบบไม่ต้องเขียนสคริปต์มาเป็นจุดขาย ช่วยสร้างเด็กวัยรุ่นพ่อแม่รวยแต่ไร้ชื่อในฮอลลีวู้ดกลายเป็นดาราค่าตัวสูงภายในชั่วข้ามคืน เรียกว่าไม่ต้องพยายามอะไรมาก แค่มีกล้องคอยเดินตามตอนทะเลาะแย่งผู้ชายกันก็ดังเปรี้ยงซะแล้ว! ส่วนดาราชื่อดังต่างก็มี Reality show เก็บไว้เป็นที่ระลึกกันทั่วหน้า ไม่ว่าจะเป็น คู่ร้าง เจสสิก้า ซิมป์สัน – นิค ลาเชย์ บริทนีย์ สเปียร์ส – เคเฟ็ด คู่ซี้ แพรีส ฮิลตัน นิโคล ริชชี่ หรือแม้แต่คุณนายพอช วิคตอเรีย เบ็คแคมก็ยังมีรายการเดบิวท์ตัวเองในอเมริกากับเขาด้วย รายการพวกนี้เรตติ้งกระฉูดเปรี้ยงบ้าง แป๊กบ้าง แต่ก็ช่วยเรียกความสนใจจากผู้ชมได้เรื่อยๆ ก็อะไรมันจะสนุกไปกว่าการได้รู้ว่ายัยแพรีสไม่รู้ว่าวอลมาร์ทคืออะไร หรือเจสสิก้า ซิมป์สันเป็นยัยผมบลอนด์ไร้สมองอีกล่ะ แม้ภายหลังพวกเธอจะโอดครวญว่าเป็นการแสดงงี่เง่าตามบทเพื่อให้รายการน่าสนใจ (แถมเจสยังยืนยันด้วยว่าเธอมี IQ 160 เชียวจะบอกให้!) แต่อิริยาบถที่น่าตื่นตาตื่นใจ (รวมไปถึงการเรอหรือมีอาหารติดฟัน) ของคนดังที่เราเคยคิดว่าจะต้องเพอร์เฟคต์ไปทุกอย่างนั้นก็ยังขายได้อยู่ดี พูดได้ว่า ต่อให้จับเอาดารามานั่งกระโถนหน้ากล้องก็ยังช่วยเพิ่มความนิยมให้มากขึ้นไปอีก ให้ตายสิ! สาวใสอนาคตไกล Vannessa Hudgens ต้องอับอายสุดขีดเมื่อถูกมือดีนำรูปนู้ดของเธอมาปล่อยทางอินเทอร์เน็ต กลุ่มสาวไฮโซที่ทำให้เรตติ้งของ MTV พุ่งกระฉูด เพียงแค่เปิดเผยชีวิตส่วนตัวทางโทรทัศน์ในรายการ Laguna Beach และ The Hill ในขณะที่มีคนมากมายต้องพยายามตะกายดาวด้วยความสามารถอย่างยากลำบาก เทรนด์ Reality ที่สดใหม่ยั่วใจ ทำให้เรื่องเบื้องหลังดำมืดของคนดังถูกตีแผ่ออกสาธารณะชนมากขึ้นทุกวัน รูปใบเดียวอาจทำเงินให้คุณเป็นล้านๆ หากไม่ระวังตัวเก็บสมบัติส่วนตัวให้ดีๆแล้วล่ะก็ ภาพตอนที่คุณยิ้มร่าอย่างมีความสุขแอ่นอกให้ชายหนุ่มเอามือกอบสองเต้า หรือแม้กระทั่งหนังโป๊เรทเอ๊กซ์สุดส่วนตัว อาจหลุดมาให้ชาวบ้านชาวช่องได้ชมกันแบบจะๆ หมดจดทุกตารางนิ้ว ความรู้สึกที่ถูกประจานเป็นอย่างไร เจอแพรีส ฮิลตันตัวเป็นๆเมื่อไรก็ลองถามเธอดูเอาละกัน ถึงคุณจะหน้าตาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับตอนเริ่มเข้าวงการ ก็จงร้องให้ดังๆ ว่าไม่ได้ทำศัลยกรรมย่ะ! เรียกว่าจี๊ดกันไปทั้งวงการเมื่อล่าสุด พ่อของสองพี่น้องซิมป์สัน ออกมาพูดโต้งๆว่าลูกสาวทำจมูกเพราะมีปัญหาการหายใจติดขัดไม่สะดวก หักล้างคำสัมภาษณ์ของเจสสิก้า คนดังผู้พี่ ที่อาจหาญประกาศกับนิตยสารดังว่า เกิดมาไม่เคยทำศัลยกรรมอะไรเลยซะงั้น ฝ่ายแอชลีย์ น้องรัก ก็ให้สัมภาษณ์อ้อมๆแอ้มๆ แต่ไม่เคยยอมรับว่าทำอะไรมาบ้าง หน้าตาถึงได้เปลี่ยนไปจากตอนเข้าวงการซะขนาดนั้น แหงล่ะ พวก ดารา ต่างอยากให้เราๆสำนึกไว้ว่า พวกเค้าสวยงามปานเทพธิดาเทพบุตรมาตั้งแต่เกิดแล้ว ถึงจมูกจะเรียวบางลงเรื่อยๆ ก็เป็นของพี่แม่ให้มานะจ๊ะ หมอศัลยกรรมที่ไหน ไม่รู้จักสักคน ก็เข้าใจอยู่หรอกว่า เป็นใคร ก็ไม่อยากให้ชาวบ้านมารู้ว่าผ่านสมรภูมิคมมีดหมอมาแล้วกี่หน ถ้าถูกถาม ก็ให้เฉไปเรื่องอื่นไปไม่มีใครว่า แต่การตั้งอกตั้งใจประกาศต่อชาวโลกว่า “อย่างเดี๊ยน ไม่ทำศัลยกรรมหรอกค่า!” นี่ไม่ควรจริงๆ เพราะยิ่งดื้อ ไม่ยอมรับเท่าไร คนจะยิ่งรุมสนใจอวัยวะของพวกเธอมากขึ้นเท่านั้น ดูอย่าง เจ๊วิคตอเรีย แห่ง spice girls สิ อุตส่าห์ยืนยันกลางรายการทีวี ว่า สิ่งเดียวในร่างกายที่ไม่ใช่ของแท้ คือ เล็บอะครีลิคที่เธอแสนจะคลั่งไคล้ก็เท่านั้น อย่างอื่นรับประกันว่าแท้สุดๆ แม้ว่า หลังจากที่เธอคลอดลูกชาย จะมีคนแอบถ่ายรูปเปลือยอกหย่อนยานอาบแดดกับสามีสุดหล่อไว้ได้ แต่เพียงไม่นาน วิคกี้ ก็เป็นที่จดจำจาก อกกลมป๊อก ดูแข็งกระโด๊ก ที่เธอแสนจะภูมิใจ เพราะไม่ว่าจะไปไหน ก็จะต้องโชว์นิดโชว์หน่อย เริ่มตั้งแต่หัวจุก ไปจนถึงครึ่งเต้า ปล่อยให้เราสงสัยว่า อกที่ดูปลอมอย่างแรงคู่นี้ เธอใช้มนต์เสกขึ้นมาหรือไร?? อย่างไรก็ตาม ดาราเริ่มออกมายอมรับการศัลยกรรมมากขึ้น เช่น แคเมอรอน ดิแอซ เจนนิเฟอร์ อนิสตัน หรือคนที่สวยหยาดเยิ้มอย่างสกาเลตต์ โจแฮนสันก็บอกว่า เธอสนใจการทำศัลยกรรมแน่นอน ก็ไม่เห็นว่าความนิยมของพวกเธอจะลดน้อยถอยลง ส่วนใครคิดจะทำศัลยกรรม ก็คงต้องศึกษากันดีๆ คิดถึงหน้าของไมเคิล แจ็คสัน กับ Lik’ Kim เข้าไว้ รับรองว่าเสพติดศัลยกรรมเมื่อไร เป็นดูไม่จืดแน่! ยังมีคนจำได้ไหมว่า ตอนเข้าวงการแรกๆ เจสสิก้ามีหน้าตาสดใสน่ารักแบบนี้ เจสสิก้า นิยมริมฝีปากอวบอิ่ม แต่ทำไปทำมา เธอกลับมีปากบวมฉึ่งขึ้นเรื่อยๆ ความเปลี่ยนแปลง now ใส่เสื้อผ้าให้น้อยชิ้นที่สุด (โดยเฉพาะ กกน. ลืมๆไปหน่อยก็ได้!) ภาพหวอลอดล่าสุดจากบริทนีย์ ที่เดี๋ยวนี้กลายเป็นของหาดูง่ายไปซะแล้ว ไม่ได้มีแต่บริทนีย์ สเปียร์สเท่านั้นที่ปล่อยของดีแบบโล่งโจ้งท้าทายความสามารถในการถ่ายรูปซอกซอนของพาพาราซซี่จนภาพที่นาผืนน้อยสุดฉาวถูกแฉว่อนไปทั่วอินเตอร์เน็ต กลยุทธ์สร้างความดังด้วยการใส่เสื้อผ้าที่ดูเหมือนไม่ได้ใส่อะไรเลยของเซเลบริตี้มีมานมนานแล้ว ดูอย่างชุดเวอร์ซาเช่สุดล่อแหลมของเจโลในงานGrammy Awards สิ แม้ว่าจะถูกนักวิจารณ์สับยับ แต่ก็ทำให้เสียงเม้าถึงถึงความใจกล้าซะกระหึ่มโลก พอดังจนอยู่ตัวแล้วก็ไม่ต้องทุ่มทุนสร้างเปลืองตัวแหวกอกไปถึงสะดือให้ใครดูอีก เดี๋ยวนี้ยิ่งระบาดไปถึงดาราวัยเอ๊าะ อย่าง ลินด์ซีย์ โลฮาน ที่ทำให้หนุ่มๆน้ำลายหกด้วยการใส่เสื้อซีทรูโชว์อกบึ้มอยู่เป็นนิจ หรือจะรุ่นใหญ่อย่างไป่ หลิง ที่ไปกี่งานก็สะบัดคอเสื้อให้จุกนมออกมาโชว์หราต่อหน้าธารกำนัลจนกลายเป็นสไตล์ส่วนตัว (กรุณาอย่าลอกเลียนแบบ!) ไม่รู้ว่าโชว์กันขนาดนี้แล้ว อนาคตข้างหน้าจะต้องถึงขนาดตีลังกาโชว์กันเลยรึเปล่าก็ไม่รู้ คนดูอย่างเราก็ได้กำไรไป แต่คอยระวังเตือนลูกเตือนหลานอย่าให้เอาอย่างด้วยล่ะ ลินด์ซีย์ โลฮาน บ่นถึงความโรคจิตของช่างภาพที่ถ่ายช็อตน้องหนูโผล่ ตอนที่ลมพัดแรง แทนที่จะนึกถึงการนุ่งกางเกงใน ดาราเค้าไม่หนาวข้างล่างกันรึไงนะ เมาแล้วขับ ถูกจับเข้าคุกแป๊บๆก็ปล่อย นุ่งน้อยห่มน้อยอย่างเดียวคงไม่พอ จะต้องซ่าให้ครบสูตรด้วยการดื่มเหล้าเมาหัวราน้ำ จนเดินไม่ไหว ให้บอดี้การ์ดส่วนตัวหิ้วปีกออกมาจากคลับไฮโซ แล้วค่อยยืนกรานสัมภาษณ์ทีหลังว่าไม่เค้ย ไม่เคย ดื่มเหล้าจนติดหรอกนะ แต่หนุกๆเท่านั้นแหละ ก่อนที่จะลงท้ายด้วยต่อมน้ำตาพังทลายกลางศาล ตอนถูกฟ้องข้อหาเมาแล้วขับนั่นไงล่ะ! บางคนไม่ได้เมาเหล้าอย่างเดียว ต้องอั๊พยาเพิ่มความกรึ่มด้วย พอถูกจับก็อ้างไปสารพัด อย่างกรณีตำรวจค้นยาเสพติดในกางเกงหนูหลินได้ แล้วเธอบอกว่า หนูไม่เกี่ยว กางเกงตัวนี้ยืมเค้ามา ยาเค้าไม่ใช่ยาหนู จนกลายเป็นJoke of the town ไปเสียฉิบ (คิดได้ไงหนู!) ส่วนเจ้าของข่าวหย่ายยยยของโลก มีถ่ายทอดสดข่าวเดินเข้ากรงขังให้ชาวบ้านดูกันแบบตาแฉะราวกับเหตุการณ์สำคัญของโลก คงหนีไม่พ้นเจ๊แพรีสเจ้าเก่า เธอเล่นเอาผู้ประกาศข่าวดังๆหลายคนส่ายหน้าเอือม บอกว่า อยากเลิกเล่นข่าวไฮโซเมาแล้วขับถูกจับเข้าคุกเต็มแก่ แถมเพื่อนร่วมวงการอย่างแบรด พิตต์ และแองเจลิน่า โจลี่ก็ขอยี้ด้วยการแบนเจ้าหล่อน ไม่ขอรับรู้ข่าวอะไรอีก ปิดทีวีซะยังดีกว่า แต่ถึงจะทำตัวน่าเอือมเท่าไร ก็ดูเหมือนว่า พวกเธอจะยิ่งโด่งดัง สร้างช่องทางหากินกอบโกยเงินในกระเป๋ามากเท่านั้น อย่างแพรีสก็ มีคนพร้อมทุ่มเงินให้เป็นล้านแลกกับคำสัมภาษณ์ที่แสดงความศรัทธาต่อพระเจ้าและความรัก และเสียงยืนยันหนักแน่นว่าไม่เคยใช้ยาเสพติดสักครั้งในชีวิต ก็น่าเชื่อพอๆกับที่ดาราหลายคนถือว่ากัญชาเป็นแค่สมุนไพรกล่อมจิตใจนั่นแหละ ส่วนนิโคล ริชชี่ สาวไฮโซเพื่อนซี้ ที่ถูกจับข้อหาเดียวกัน ยังมีคนจำได้อีกเหรอว่าเธอเดินเข้าคุกไปกี่ชั่วโมง? รวมภาพ mug shot จากคดีเมาแล้วขับของเซเลบจอมซ่า ผอมให้เห็นซี่โครงเข้าไว้ เดี๋ยวได้เกิด ถึงแม้จะถูกสื่อจิกเรื่องอาการคลั่งผอมอย่างไร้สติ แต่มันก็เป็นเรื่องที่กระตุกต่อมอยากรู้อยากเห็นของเราๆอย่างไม่น่าสงสัย มันก็น่าแปลกที่อยู่ๆ ดาราจะสร้างความดังด้วยการลดหุ่นจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก แต่มันก็เป็นไปแล้ว เอ้า ลองคิดสิว่า เมื่อหลายปีก่อนที่นิโคล ริชชี่เคยมีรูปร่างอวบอั๋น และเป็นที่รู้จักในชื่อ เพื่อนสนิทของสาวซ่าทายาทตระกูลฮิลตันนั้น มีใครอยากสนใจอยากเป็นแฟนติดตามผลงานของเธอบ้าง? พอลดหุ่นจนบางเหลือเชื่อ ก็กลายเป็นแฟชั่นไอคอน (จากความร่วมมือของสไตลิสต์ชื่อดัง)ไปทันที หรือจะพูดถึง คุณนายพอช วิคตอเรีย เบ็คแคม ที่ได้รับความสนใจจากสื่ออเมริกาอย่างท่วมท้นระคนหมั่นไส้กันทั่วบ้านทั่วเมือง ก็ดังเรื่องหุ่นไซส์ 0 ไม่ต่างกัน ไหนจะยังมี เคท บอสเวิร์ท เคียร่า ไนท์ลีย์ และคนดังอีกมากมายที่เคยมีหุ่นเฟิร์มสวยดูดี แล้วจู่ๆก็ผอมลงพรวดพราด สงสัยว่าจะทนไม่ไหวถ้าตัวใหญ่กว่าไม้จิ้มฟัน พอลดน้ำหนักให้ต่ำกว่ามาตรฐาน คนใหญ่คนโตในวงการแฟชั่นชั้นสูงก็แทบระริกระรี้เข้ามาป้อยอว่ามีสไตล์สูงส่งเพียงใด จนต้องอดแล้วอดอีกให้ผอมคงเส้นคงวา แล้วค่อยมาเถียงคอเป็นเอ็นว่าไม่ได้เป็นโรคปฏิเสธอาหารนะยะ ชั้นแค่เลือกกินเท่านั้นเอง ...เชื่อไหมล่ะว่า เคียร่า เคยบ่นว่าตัวเองไซส์ใหญ่กว่าคนอื่นจนเป็นอุปสรรคในการเป็นดารา ทั้งๆที่ครั้งล่าสุดที่เธอออกกงานด้วยรูปร่างผอมบักโกรก กระดูกปูดโปนจนน่าตกใจ เคียร่ากับรูปร่างที่ "ใหญ่" กว่าคนอื่นถึง 2 เท่า ละเมอเปล่าจ๊ะ! เป็นที่น่าเสียดายที่คนดังบางคนหมกมุ่นกับรูปร่างหน้าตาตัวเองจนล้ำเส้นเกิดเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และที่สำคัญ ดาราไม่สามารถเลี่ยงหน้าที่การเป็นแบบอย่างให้สาวๆที่ชื่นชมบูชาได้ (โอ้ว ชั้นอยากผอมได้แบบนั้นจัง จะใส่เสื้อผ้าเริ่ดๆเหมือนพวกหล่อนเลย!) ลัทธิคลั่งความผอมจึงแพร่ระบาดไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และมีสถิติผู้เสียชีวิตจากโรคปฏิเสธอาหารเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อนิจจา เมื่อเคท บอสเวิร์ทลดหุ่นจนลือกันว่ารอบเอวเธฮเหลือแค่ 20 นิ้ว เธฮก็กลายเป็นจุดสนใจในวงการแฟชั่นทันที เจนนา เจมสัน ดาวยั่ว ที่ไม่แน่ใจแล้วว่าจะยั่วใครด้วยหุ่นแบบนี้ได้อีกรึเปล่า ทุกวันนี้การใช้พรสวรรค์บวกพรแสวงในฮอลลีวู้ดเริ่มลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย เหล่าดาราต่างโพสท่า อย่างงามสง่างามในงานพรมแดงราวกับว่าเมื่อวันก่อนไม่ได้ถูกพาดหัวข่าวแฉรูปเปลือยอกในพาร์ตีย์มั่วยา แต่เงินมหาศาลที่หมุนเวียนในอุตสาหกรรมบันเทิงที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวนก็ทำให้ผู้คนมากมายเดินพาเหรดเตรียมจ่อคิวจะเข้ามาเป็นคนดังกับเขาสักที ดังในทางดีๆกันไม่ได้ ก็ขอเนียนเรียกร้องความสนใจจากสังคมได้วยการไต่เต้า (หรือจะเรียกว่าเอาเต้าไต่ดี )จนโด่งดังด้วยข่าวคาวๆจนกลายเป็นเทรนด์ของวงการนี้ไปแล้ว บางคนเริ่มต้นไว้อย่างดีเลิศแต่กลับต้องมาตกม้าตายด้วยอาการดังแล้วเหลิง เห็นแล้วก็อนาถใจ ก็ได้แต่ดูไว้เป็นบทเรียนว่าจงอย่าได้ทำลายตัวเองอย่างนี้เป็นอันขาด! อ่านแล้วคิดยังไงช่วยเมนท์ให้ด้วยนะคะ Mrs.Wright candyrakboojang.bloggang.com   Create Date : 28 กันยายน 2550     Last Update : 22 ตุลาคม 2550 10:44:27 น. Counter : 1982 Pageviews.   24 comment Share Tweet

• The Cool Council
• Bion@l_Fantasy_X
• Jeban
• MakeUpGuru83
• Beebie
• Calamity
• หมากเขียว
• เดอะ กั้ง
• Mr.Messenger
• puppadoowab
• mixi
• fonkoon
• yut1980
• pecochan
• pingpii
• calpoppy
• JIMMY
• Mrs.Wright
• sushiboy69
• vodca
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com