We don't care Bear or Bull! ... ThaiDayTrade.com
Group Blog
 
All Blogs
 

พบไม้งามเมื่อขวานบิ่น

เวลาหุ้นลง ทำไงครับ

นักวิเคราะห์บอกว่าแนวรับ 115 เราก็ไปตั้งซื้อ 115 เพราะหวังว่าเราจะได้ราคาต่ำสุด

พอซื้อแล้วลงอีก นักวิเคราะห์บอกว่าแนวรับ 110 เราก็ไปตั้งซื้อ 110 เพราะหวังว่าต้นทุนถัวเฉลี่ยจะลดลง

พอซื้อแล้วลงอีก นักวิเคราะห์บอกว่าแนวรับ 106 เราก็ไปตั้งซื้อ 106 เพราะหวังว่าต้นทุนถัวเฉลี่ยจะลดลงมากๆ

พอซื้อแล้วลงอีก นักวิเคราะห์บอกว่าแนวรับ 102 เราก็ไปตั้งซื้อ 102 เพราะเห็นว่า มันลงมามากแล้ว

พอซื้อที่ 102 แล้ว นักวิเคราะห์บอกว่า เราปรับคำแนะนำเป็น “ขาย” …. แป่ววว Blah blah

หนึ่งเดือนผ่านไป ไวเหมือนโกหก ราคาหุ้นในดวงใจที่เราซื้อถัวมาตลอดทาง มานิ่งที่ ราคา 88 อยากซื้อใจแทบขาด แต่เงินหมดแล้ว ได้แต่กลืนน้ำลายไปพลางๆ อยากซื้อใจจะขาด แต่เงินเกลี้ยงหน้าตัก

ป๋าบุญพร่ำสอนมาตลอด เวลาหุ้นลง ไม่ต้องมาถามหาแนวรับ เวลาหุ้นลง ไม่ต้องมาถามว่าจะซื้อจุดไหนดี มันก็กะเก็งกันทั้งนั้นแหละ เก็งว่าตรงนั้น low เก็งว่าตรงนี้ low …… กลยุทธ์ป๋าบุญ ง่ายๆ สไตลล์ลูกสอง “มันทำ low เมื่อไหร่ แล้วไม่ วก กลับไปทำ new low ก็ซื้อตรงนั้นล่ะ ….. ซื้อตอนมันฟื้นตัว ถึงจะไม่ได้ราคา low สุด แต่ก็ยังถูกกว่าซื้อถัวมาตลอดทางตั้งเยอะ”

ง่ายไหมครับ เล่นหุ้นสไตลล์ป๋า ถ้าลง ก็ปล่อยมันลงจนสุดก่อน พอฟื้นตัว เข้าซื้อแพงกว่า low นิด ก็ยังไม่สาย ….. แต่ไม่วายได้ยินคนบ่นป๋ามาเหมือนกันว่าไม่ซื้อหรอก ถ้าไม่ได้ราคา low ….. โถ เวรกรรม

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:46:56 น.
Counter : 703 Pageviews.  

พอก้าวขา ก็ลาโรง

แหม ตั้งชื่อหัวข้อ ยังกะลิเก

เข้าเรื่องดีกว่า ชีวิตคนเรา มันมีขึ้น ก็มีลง เหมือนกับที่ โจอี้ บอย ว่าไว้ วัฏจักรตลาดหุ้นก็เหมือนกัน ตอนหุ้นตก ผู้คนต่างหวาดกลัว กลัวๆๆ จนบางที มัน Deep-out-of-the-value มากเกินเหตุ

จุดที่หุ้นกำลังจะฟื้นตัวเพื่อปรับตัวเข้าสู่ราคาดุลยภาพของมัน อยู่ตรงไหน

บางท่านก็ว่า RSI ต่ำสุดๆ คือ จุดฟื้นตัว ….. บางท่านก็ว่า เมื่อไม่มีคนซื้อไม่มีคนขาย ตลาดวังเวง แสดงว่า ราคานี้ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นแล้ว ไม่มีใครอยากขาย ณ ราคานี้แล้ว นั่นแหละ คือ จุดฟื้นตัว ….. บางท่านก็ว่า เมื่อเห็น double bottom ไม่มี lower low นั่นแหละ คือ จุดฟื้นตัว

เมื่อถึงจุดฟื้นตัว เจ้าของบริษัทจะเข้ามาเก็บหุ้นคืน กองทุนและนักลงทุนประเภท value investor จะเข้ามาช้อนซื้อ จังหวะนี้ กองทุนต่างชาติจะซื้อในลักษณะของ buy step one คือ เข้ามาตั้ง bid เพื่อซื้อหุ้นที่มีคนโยนขายมาให้ ในช่วงนี้ ราคาหุ้นยังไม่ค่อยขยับมากนัก คนส่วนใหญ่ในตลาดจะยังไม่ซื้อ เพราะยังไม่เห็นราคามันไปไหน

ต่อมา นักเล่นหุ้นที่มีประสบการณ์ เริ่มเห็นว่าหุ้นเริ่มฟื้น ก็จะเข้ามาซื้อหุ้นด้วย จนหุ้นเริ่มฟอร์มตัวเป็น Reversal pattern ราคาเริ่มยกตัวขึ้นมา สร้าง higher low, higher high คนส่วนใหญ่ในตลาดจะยังไม่ซื้อ เพราะกลัวว่าซื้อแล้ว หุ้นจะลง

ต่อมา กองทุนต่างชาติ เริ่มกังวลแล้วว่า จะได้ของไม่ครบตามปริมาณที่ต้องการ ผู้จัดการกองทุนจึงเปลี่ยนลักษณะคำสั่งซื้อเป็น buy step two คือ เคาะขวาซื้อมาเลยในตำแหน่งที่มีคนวาง offer เพื่อให้ได้หุ้นตามที่ต้องการ ในช่วงนี้ ราคาหุ้นเริ่มขยับขึ้นค่อนข้างเร็ว คนส่วนใหญ่ในตลาดจะยังไม่ซื้อ เพราะรู้สึกว่า “มันขึ้นไปมากแล้ว”

เมื่อกองทุนต่างชาติ รู้ตัวว่าช้าเกินไปแล้ว ก็จะสั่งกวาดซื้อเลย ในลักษณะคำสั่งซื้อแบบ buy step three คือ buy at any prices เพื่อให้ได้หุ้นครบตามจำนวนที่ต้องการ ในช่วงนี้ ราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงมาก สื่อฯออกมาเชียร์ นักวิเคราะห์ ออกมาเชียร์ โวลุ่มในแต่ละวันคึกคัก หุ้นกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์มายกแผง คนส่วนใหญ่ในตลาดเริ่มรู้สึกว่า ตัวเองตกรถซะแล้ว จึงแห่เข้าซื้อแบบตื่นตกใจ (panic buy) จนราคาเข้าข่าย overpriced …… ถ้าท่านเป็นเจ้าของบริษัท เป็นกองทุนต่างชาติ ท่านจะวางขาย เผื่อแผ่แบ่งปันหุ้นให้คนส่วนใหญ่ในตลาดหน่อยป่าวครับ

จากนั้น คนที่เข้ามาซื้อภายหลัง ไม่ว่าจะต่อรองซื้อที่ราคาไหน ก็จะได้หุ้นติดไม้ติดมือกันอย่างทั่วถึงล่ะ

จะว่าลิเก ก็ว่าเหอะ ไม่เรียกว่า “พอก้าวขา ก็ลาโรง” แล้วจะให้เรียกว่ายังไง

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:46:43 น.
Counter : 958 Pageviews.  

กลยุทธ์ “ข่าวดี - ขาย ข่าวร้าย - ซื้อ”

น้าท่านหนึ่ง ซื้อถัวหุ้น ช. การช่าง มา 3 ปีเต็มแล้ว ยังถัวไม่เสร็จเลย ท่านให้เหตุผลที่ต้องถัวว่า ท่านติดที่ราคาสูง ตอนนั้นท่านซื้อมาที่ราคา เกือบ 30 บาท และสาเหตุที่ซื้อมาที่ราคานั้น เพราะหนังสือพิมพ์ลงว่า ช. การช่าง ได้งานใหญ่

ท่านเชื่อเรื่อง Insider trading ไหมครับ

เวลาจะมีข่าวดีหรือข่าวร้ายใดๆเกิดขึ้นกับตัวบริษัท หากท่านเป็นผู้บริหาร เจ้าของบริษัท ผู้ถือหุ้นใหญ่ ผู้สอบบัญชี ท่านจะซื้อหรือขายหุ้นก่อนคนอื่นหรือเปล่าครับ

ถ้ามีข่าวดี แล้ว Insider trading มีจริง ก็แสดงว่า insider ซื้อหุ้นไว้ก่อนแล้ว และเมื่อมีข่าวรั่วออกมา ก็จะมีนักเก็งกำไรเข้ามาซื้อดันราคาหุ้นขึ้นไปเรื่อยๆ (Buy on Rumor) และเมื่อข่าวดีมีการประกาศขึ้นมาจริงๆ ท่านคิดว่า insider ทั้งหลายเหล่านั้น ซึ่งมักจะเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ซะด้วย จะทำกำไรไหมครับ (Sell on Fact)

ในทางตรงข้าม ถ้ากำลังจะมีข่าวร้ายเกิดขึ้นกับบริษัท และ ถ้า Insider trading มีจริง ก็แสดงว่า insider ขายหุ้นไปก่อนแล้ว และเมื่อมีข่าวรั่วไหลออกมา ก็จะมีนักเล่นหุ้นอีกกลุ่มขาย กดราคาหุ้นลงมาเรื่อยๆ และเมื่อข่าวร้ายมีการประกาศขึ้นมาจริงๆ ท่านคิดว่า ผู้บริหารและเจ้าของบริษัท จะหาจังหวะดีๆ เพื่อซื้อคืนหุ้นของตน กลับคืนมา ให้ครบตามจำนวน ที่ขายไปก่อนหน้านั้น หรือไม่ครับ

John Templeton มีความเชื่อเช่นนั้น ท่านจึงเน้นเสมอว่า ข่าวดีให้ขาย ข่าวร้ายให้ซื้อ

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:46:27 น.
Counter : 707 Pageviews.  

ถือหุ้นตามพฤติกรรม

“เนี่ยะ พอร์ตของป้ามีแต่หุ้นเน่าๆ” ป้าคนนึงทำหน้าตาซึมเศร้า เล่าเรื่องพอร์ตลงทุน

“อ้าว แล้วทำไมคุณป้าไม่ซื้อหุ้นที่ไม่เน่าล่ะครับ” ผมสมองช้า เลยถามกลับไปอย่างนั้น

“ปตท. ปูนต์ใหญ่ แบ็งค์กรุงเทพ ป๋าก็มี ป้าเห็นว่าได้กำไรแล้ว 3-4 บาท ป้าก็ขาย ส่วนที่เหลืออยู่ มันขายไม่ได้ มันขาดทุน เลยถือไว้ก่อน นี่ ดูสิ ตอนนี้ ในพอร์ตป้าขาดทุนไป 46% แล้ว” ป้ากางพอร์ตให้ดูตัวเลขสีแดง

ท่านเป็นคนหนึ่งหรือเปล่า ที่นิยม “ลงทุน” ในหุ้นเก็งกำไร และ “เทรดดิ้ง” ในหุ้นบลูชิพ!

Peter Lynch อัครมหาเศรษฐีหุ้นระดับโลก แยกนโยบายการลงทุนตามพฤติกรรมหุ้นออกจากกันอย่างชัดเจน เรามาดูกันว่าในพอร์ตของ Peter Lynch มีหุ้นประเภทไหนอยู่มั่ง

หุ้นห่านทองคำ มีพฤติกรรมราคาเฉื่อยๆ ราคาหุ้นนิ่งๆหรือโตแบบเนิบๆ แต่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ หุ้นกลุ่มนี้ Peter Lynch จะถือไปเรื่อยๆ ตราบใดที่อัตราเงินปันผลที่ได้รับ ยังสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ

หุ้นบลูชิพ มีพฤติกรรมราคาโตแบบเนิบๆ ไม่ก้าวกระโดดให้หวือหวาตื่นเต้นมากนัก แต่มีความทนทานสูงเมื่อเศรษฐกิจตกต่ำ หุ้นกลุ่มนี้ Peter Lynch จะถือไปเรื่อยๆตราบใดที่ราคาหุ้นยังไม่ overpriced

หุ้นมาเป็นรอบ มีพฤติกรรมราคามาเป็นรอบๆ พอถึงรอบขาขึ้น มันก็จะขึ้นๆๆ พอถึงรอบขาลง มันก็จะลงๆๆ หุ้นกลุ่มนี้ เช่น หุ้นกลุ่มปิโตรเคมี หุ้นกลุ่มเดินเรือ Peter Lynch จะซื้อเมื่อวัฏจักรเข้าสู่ช่วงเริ่มฟื้นตัว และจะขายออกไปเมื่อวัฏจักรเข้าสู่ช่วงพีค

Growth Stock มีพฤติกรรมราคาโตก้าวกระโดด วิ่งขึ้นไปเรื่อยๆเหมือนโดนกระทิงขวิด โดยมากเป็นหุ้นของบริษัทที่นำเสนอ นวัตกรรม หรือ บริษัทที่มีผลประกอบการก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ หุ้นบริษัท Texas Instrument ซึ่ง Philip A. Fisher ผู้เชี่ยวชาญด้าน Growth Stock เคยเข้าไปลงทุนตั้งแต่ราคายังไม่ถึง 3 เหรียญและขายออกไปเมื่อราคาวิ่งเลย 200 เหรียญ หุ้นกลุ่มนี้ Peter Lynch จะซื้อเมื่อผลประกอบการเริ่มมีแนวโน้มก้าวกระโดด และจะขายออกไปเมื่อราคาขึ้นสูงมากจนค่าพีอีขึ้นสูงกว่า growth rate

Turnaround Stock มีพฤติกรรมราคาเหมือนผีตายซากในช่วงต้น แล้วโตก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ หุ้นกลุ่มนี้อยู่ใน industry ที่มีอนาคต และ ตัวบริษัทเองก็ยังมีอนาคต หากได้รับการแก้ไขปัญหาทางการเงินจนลุล่วงไปได้ด้วยดี หุ้นกลุ่มนี้สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมหาศาล หากฟื้นตัวได้ดังคาด เข้าข่ายประเภท high risk, high returns อย่างเต็มรูปแบบ

หุ้นกลุ่มไหนควรถือ ก็อย่ารีบขายทิ้งทำกำไร หุ้นกลุ่มไหนควรขาย ก็ขายออกแล้วถือเงินสดเพื่อรอซื้อตัวใหม่ที่มีอนาคต และ หุ้นกลุ่มไหน ต้องตัดขาดทุน ก็รีบตัดขาดทุนนะ อย่าไปถือลงทุน ….. Peter Lynch สรุป ในรายงานฉบับหนึ่ง

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:45:53 น.
Counter : 748 Pageviews.  

ซื้อ เมื่อความกลัวครอบงำตลาด

ในขณะที่ตลาดร่วงหนัก ผู้คนล้มหายตายจาก …. Benjamin Graham อาจารย์ใหญ่สาขา Finance ของมหาวิทยาลัย Columbia จะกลับเข้ามาในตลาด เพื่อหา เพชรในตรม

Benjamin Graham อัครมหาเศรษฐีหุ้นระดับโลกท่านนี้ เป็นอาจารย์ของ Warren Buffet อภิอัครมหาเศรษฐีหุ้นระดับโลกอีกท่านหนึ่ง …… ไม่ใช่ว่าท่านรวยมาแต่เกิดนะครับ Benjamin Graham เติบโตมาจากครอบครัวที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการเล่นหุ้นด้วยซ้ำ ภายหลังจากที่ท่านได้เรียนรู้ความผิดพลาดจากการลงทุนของครอบครัวของท่านแล้ว แทนที่ท่านจะเกลียดกลัวตลาดหุ้น ท่านกลับเดินหน้าเข้าหาตลาดหุ้น และทำการศึกษาค้นคว้าเรื่องหุ้นอย่างจริงจัง จนท่านได้แนวคิดการค้นหาเพชรในตรมขึ้นมา จากความเชื่อว่าที่ว่า หุ้นมีลงก็ต้องมีขึ้น หากหุ้นนั้นเป็นเพชรน้ำงามทนต่อกาพิสูจน์ ในระยะไม่นาน หุ้นนั้นจะต้องกลับฟื้นคืนขึ้นมาสู่มูลค่าที่แท้จริงของมัน และส่วนต่างนี้ คิดเป็นกำไรหลายเท่าตัวนักเมื่อเทียบกับเงินลงทุน

จึงไม่แปลกเลย ที่ Benjamin Graham จะกลับเข้ามาในตลาดหุ้นเสมอ เมื่อความกลัวเข้าปกคลุมตลาดรอบด้าน

ติดตามแนวโน้มตลาดและหุ้นเด่นรายวันได้ที่
//www.ThaiDayTrade.com




 

Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2550    
Last Update : 14 มิถุนายน 2551 16:45:24 น.
Counter : 572 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  

thanapononline
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]




Friends' blogs
[Add thanapononline's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.