การดูแลสุขอนามัยอวัยวะส่วนสำคัญของชายไทย ขริบดีไหมเนี่ย
 
 

ความเชื่อและความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการขริบที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้



น้ำเปล่าและสบู่ก็เพียงพอในการล้างอวัยวะเพศของเด็กผู้ชาย
เรื่องนี้เป็นความจริง แต่ในความเป็นจริงเด็กผู้ชายส่วนมากไม่ได้อาบน้ำอย่างสะดวกและทั่วถึง ถ้าไม่ได้คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เหมือนที่ผู้ปกครองต้องคอยเตือนเสมอเช่นแปรงฟันก่อนนอน เช็ดหูให้สะอาด ซึ่งส่วนที่มักจะถูกละเลยมากที่สุดก็คืออวัยวะส่วนสำคัญนี่เอง ซึ่งถ้าหากการดูแลสุขอนามัยของอวัยวะส่วนนี้ทำได้ไม่สะอาดดีมันก็จะก่อให้เกิดความหมักหมมและการอักเสบเกิดขึ้นมาได้ในภายหลัง ซึ่งการรักษานั้น ยุ่งยากมากกว่าการป้องกันเยอะ ดังนั้นการขลิบหนังหุ้มปลายจึงเป็นการช่วยให้การดูแลสุขอนามัยได้สะดวกขึ้น เนื่องจากสามารถทำความสะอาดได้เพียงแค่อาบน้ำแบบปกติเพราะไม่มีส่วนไหนให้มาหมักหมมอีกต่อไป

โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะสามารถหายได้ง่าย ๆ เพียงแค่กินยาแก้อักเสบ
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะนั้นหากเป็นจากแบคทีเรียสามารถหายได้ด้วยการกินยาฆ่าเชื้อ แต่ยานี้มันกลับไม่ได้ส่งผลใด ๆ ต่อพวกกลุ่มเชื้อราที่ก่อให้เกิดโรค และในขณะเดียวกันการติดเชื้อที่ปล่อยไว้นาน ๆ มันก็สามารถลามขึ้นไปบริเวณด้านบนโดยการผ่านทางท่อปัสสาวะ ทำให้ไปถึงกระเพาะปัสสาวะ ท่อไต จนถึงกรวยไต ซี่งการรักษาก็ต้องยุ่งยากไปอีก บางครั้งต้องฉีดสี บางครั้งพบว่าการอักเสบมากถึงขั้นไตเป็นหนอง ต้องทำการผ่าตัดรักษา ดังนั้นสุขอนามัยของอวัยวะเพศซึ่งถือว่าเป็นด่านแรก จึงมีความสำคัญที่สุดในการดูแลและป้องกันภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

สมาคมทางการแพทย์ในอเมริกาต่อต้านการขลิบ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สื่อความหมายผิดไปไกลมาก จริง ๆ แล้วในรายละเอียดฉบับเต็ม ทางสมาคมทางการแพทย์อเมริกายืนยันถึงข้อดีในการขลิบมากมาย ทั้งเรื่องการป้องกันทารติดเชื้อต่าง ๆ และในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้ให้ข้อควรระวังในการตัดสินใจรวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ในการขลิบ ซึ่งก็เหมือนการผ่าตัดทั่ว ๆ ไป ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องชั่งน้ำหนักว่าข้อดีหรือข้อเสียมีมากกว่ากัน และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของท่าน และปัจจุบัน (ธค.51) กำลังมีการประชุมในกลุ่มกุมารแพทย์ของอเมริกาเพื่อที่จะออกแถลงการณ์ฉบับใหม่ โดยจะได้มีการเอาข้อมูลล่าสุดของ WHO ที่ยืนยันว่าการขลิบสามารถลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวีลงได้หกสิบเปอร์เซนต์ มาใช้ในการพิจารณาด้วย

ผู้ปกครองไม่มีสิทธิที่จะไปตัดสินใจแทนลูกในการที่จะขลิบ
:หลายงานวิจัยทางการแพทย์พบข้อดีและประโยชน์ของการขลิบมากมายในการป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ในเด็ก และการขลิบในเด็กพบว่าสะดวกและง่ายในการดูแลแผลมากกว่าการมาทำในตอนโต เนื่องจากกิจกรรมต่าง ๆ ของเด็กเอง
เด็กทารกอาจจะไม่สามารถที่จะเลือกว่าจะขลิบหรือไม่ แต่ก็เช่นเดียวกับการการสร้างภูมิคุ้มกันต่าง ๆ เช่นฉีดวัคซีน ,การเลือกนับถือศาสนา,การเลือกโรงเรียน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จึงเป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่จะทำการตัดสินใจแทนลูก ๆ ของเรา โดยอยู่บนพื้นฐานที่ว่าเรากำลังเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก โดยชั่งน้ำหนักทั้งข้อดีและข้อเสียมาประกอบกัน เพื่อที่ลูกของเราเมื่อเติบโตขึ้นมาจะได้รับในสิ่งที่ดีที่สุด



โรคต่าง ๆ ที่การขลิบสามารถลดโอกาสการเกิดได้ เป็นโรคที่พบได้น้อยมากในทางการแพทย์
พยายามมีการให้ข้อมูลจากกลุ่มที่ต่อต้านการขลิบว่า การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในผู้ชายพบได้น้อยมาก ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องทำการขลิบ ซึ่งข้อมูลตรงนี้เป็นเรื่องที่ฟังแล้วคุณพ่อคุณแม่หลายท่านจึงคิดว่าไม่จำเป็นที่จะให้ลูกของท่านขลิบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากที่ทำให้เด็กต้องมาโรงพยาบาล และการรักษาก็มีตั้งแต่ทานยา ทายา ผ่าตัด จนถึงต้องนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ ๆ ในแต่ละคน หรือมะเร็งองคชาติในผู้ชายที่โตขึ้น แม้จะเป็นโรคที่พบได้ไม่บ่อยนัก แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว การรักษาส่วนใหญ่คือการตัดอวัยวะเพศทิ้งซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจของคนไข้เป็นอย่างมาก และเป็นโรคที่มีโอกาสเสียชีวิตได้สูง หรือการที่หนังหุ้มปลายไม่สามารถดูแลความสะอาดได้ดีทำให้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็ไปกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับต้น ๆ ของผู้หญิงในแต่ละปี และมีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่าในบริเวณหนังหุ้มปลายของผู้ชายพบเชื้อ HPV virus ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคได้สูงกว่าคนที่ขลิบแล้วเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงเห็นการขลิบจึงมีประโยชน์ในการดูแลป้องกันสุขภาพในระยะยาวต่อทั้งผู้ชายและผู้หญิงเอง

การสอนให้ลูกทำความสะอาดอวัยวะเพศก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องขลิบ
การดูแลสุขอนามัยของอวัยวะเพศเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กทุกคน แต่ในเด็กผู้ชายที่มีหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศอยู่นั้น
การดูแลความสะอาดอาจทำได้อย่างไม่ทั่วถึง ซึ่งถ้าปล่อยให้เกิดการหมักหมมก็จะทำให้เกิดการอักเสบขึ้นไปตามท่อปัสสาวะ บางคนถึงขั้นต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการไตติดเชื้อ ยิ่งธรรมชาติของเด็กผู้ชายที่เล่นซนตามประสา การไม่อาบน้ำ การเล่นสกปรกมอมแมม เป็นเรื่องปกติ ยิ่งทำให้ง่ายต่อการเกิดเรื่อง และความเป็นจริงในสภาพสังคมของเรา ต้องยอมรับว่ามีไม่กี่ครอบครัวที่มีการพูดคุยถึงสุขอนามัยทางเพศ มีคุณพ่อคุณแม่กี่คนที่คอยถามลูกว่าวันนี้ล้างจู๋สะอาดหรือยัง หรือเมื่อลูกโตพอเข้าโรงเรียนแล้วยังมาคอยเช็คว่าลุกอาบน้ำสะอาดไหม มีการรุดหนังหุ้มปลายลงมาล้างไหม ดังนั้นยิ่งเมื่อเด็กโตขึ้น ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ก็ยิ่งทำให้ถูกละเลยไป ด้วยทั้งเด็กรู้สึกเขินที่จะปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ และกิจกรรมต่าง ๆ ของเด็กที่มากขึ้นตามอายุ ทั้งเล่นกีฬา เหงื่อจากการทำงานต่าง ๆ ดังนั้นการขลิบจึงมีข้อดีในการช่วยให้ดูแลสุขอนามัยได้ง่ายขึ้น เนื่องจากกำจัดจุดที่จะสามารถไปหมักหมมของพวกเชื้อโรคได้ ทำให้การอาบน้ำธรรมดาก็เพียงพอที่จะทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศได้

<


ใครมีปัญหาด่วน ให้คุยทางไลน์นะครับ id dr-sarika ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสี่ทุ่มครับ

อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen




 

Create Date : 31 ธันวาคม 2551   
Last Update : 1 มิถุนายน 2559 19:01:25 น.   
Counter : 5061 Pageviews.  


คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ฮิตพาลูกไปขริบ แพทย์เผยเพื่อสุขภาพไม่อันตราย


พ่อแม่สมัยใหม่ในเชียงใหม่ ทั้งที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม นิยมขริบให้ลูกชายตั้งแรกคลอด เชื่อทำความสะอาดอวัยะเพศได้ง่ายขึ้น และลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็ง สสจ.เผยเป็นเรื่องดี และไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเด็ก

การขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ ที่แต่เดิมจะทำกันเฉพาะในหมู่ผู้ชายที่นับถือศาสนาอิสลาม ตั้งแต่แรกเกิด อายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อทำร่างกายให้สะอาดก่อนเข้าทำพิธีละหมาด แต่ปัจจุบันผู้ปกครอง แม้ว่าจะไม่ใช่มุสลิมก็หันมานิยมให้บุตรหลานขริบ เชื่อว่าจะส่งผลดีในการรักษาความสะอาด และลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกให้กับคู่นอนได้

ในเรื่องนี้นางพิมพ์ใจ อัครกิติพร แม่บ้านชาว จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนและสามีไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม แต่ก็ขริบให้ลูกชายตั้งแต่เกิด เนื่องจากเคยอ่านในนิตยสารเล่มหนึ่ง ซึ่งบ่งบอกถึงสรรพคุณของการขริบ เช่น ปัสสาวะอักเสบและทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาด ไม่เป็นแหล่งหมักหมมของเชื้อโรค

สำหรับสาเหตุที่ตัดสินใจขริบให้ลูกชายตั้งแต่เกิด เพราะเกรงว่าหากขริบตอนโตแล้วจะทำให้เกิดความอายและเจ็บปวด หากอวัยวะของเด็กโตขึ้น และที่สำคัญมีหลานชายที่ไม่ได้ขริบตั้งแต่เกิด พออายุได้ประมาณ 1 ขวบเศษ มีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ ทางแม่ต้องไปพบแพทย์และแนะนำว่าควรจะขริบ เพื่อที่จะได้สะดวกต่อการทำความสะอาด ไม่เป็นที่หมักหมมของเชื้อแบคทีเรีย หากไม่ขริบอาจทำให้ติดเชื้อโรคได้ง่าย

ด้านนายปรมัตถ์ ไตรวุฒิวัฒนา อายุ 23 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งนับถือศาสนาพุทธ กล่าวว่า มีคนบอกว่าหากขริบจะทำให้ทำความสะอาดอวัยะเพศได้ง่ายขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจรู้สึกอายเหมือนกันเพราะตอนนั้นเริ่มโตขึ้น อายุประมาณ 10 ขวบ

"ในตอนนั้นหมอให้เลือกขริบ 2 วิธี คือ ใช้ยาสลบและฉีดยาชา แต่ผมเลือกที่จะใช้วิธีแรก เพราะคิดว่าน่าจะเจ็บน้อยกว่า ส่วนค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการขริบนั้นประมาณ 5,000 บาท โดยกรรมวิธีในการขริบหมอจะใช้ปลอกสวมที่อวัยวะเพศชายแล้วให้หนังส่วนปลายยื่นออกมา จากนั้นจะตัดหนังบริเวณส่วนปลายออก แผลที่เกิดจากการขริบจะพันผ้าพันแผล และต้องทำแผลทุกวันเป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ แผลจึงจะแห้งแล้วใช้งานได้ตามปกติ" นายปรมัตถ์ กล่าว

ส่วนนายดิน อารีย์ ประธานที่ปรึกษาสมาคมมุสลิม จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลักการของศาสนาอิสลาม ผู้ชายมุสลิมจะต้องผ่านการขริบทุกคน เพื่อเป็นรักษาความสะอาด เป็นบัญญัติที่ใช้ในศาสนาอิสลามก่อนที่จะเข้าสู่พิธีละหมาด มุสลิมทุกคนที่เข้าร่วมในพิธีจะต้องทำความสะอาดร่างกายก่อนที่จะทำพิธีการชำระจิตใจ

ขณะที่ น.พ.รัฐวุฒิ สุขมี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การขริบที่อวัยวะเพศชายนั้น ทางการแพทย์เรียกว่า Circumcision โดยเป็นการตัดหนังส่วนเกินบริเวณปลายอวัยวะเพศของผู้ชายซึ่งเป็นแหล่งหมักหมมของเชื้อแบคทีเรียชนิดต่างๆ เพราะหากว่าไม่ขริบจะทำให้ทำความสะอาดในส่วนบริเวณปลายอวัยวะเพศได้ยาก หรืออาจจะไม่สะอาดทำให้เกิดเป็นคราบไขบริเวณหัวของอวัยวะเพศชายเป็นที่สะสมของเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น โรคมะเร็งที่อวัยวะเพศของผู้ชาย และการขริบก็ไม่เป็นอันตรายต่อเด็กแต่อย่างใด

 
 
ใครมีปัญหาด่วน ให้คุยทางไลน์นะครับ id dr-sarika ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสี่ทุ่มครับ

อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen




 

Create Date : 23 กันยายน 2550   
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2564 17:07:54 น.   
Counter : 3661 Pageviews.  


ควรให้ลูกชายขริบอวัยวะเพศหรือไม่



ควรให้เด็กผู้ชายขลิบปลายอวัยวะเพศหรือไม่
เด็กผู้ชายมากมายในประเทศอเมริกาทุกวันนี้ส่วนใหญ่จะได้รับการขลิบปลายอวัยวะเพศ หรือถ้ารวมทั้งหมดก็จะได้ตัวเลขประมาณ 40 เปอร์เซนต์ของผู้ชายทั้งหมดในโลก ซึ่งในจำนวนนี้เป็นทั้งมุสลิม ยิวที่ต้องทำกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วตามหลักของศาสนา ในฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ที่การขลิบได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย รวมถึงการเริ่มขยายตัวในส่วนต่าง ๆ ของโลกที่ผู้ปกครองได้รับความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการขลิบ ทำให้อัตราการขลิบในเด็กผู้ชายมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ปกครองมากมายเลือกที่จะให้ลูกของตัวเองได้รับการขลิบเมื่อเกิดมา

แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีคำถามอีกมากมายที่ผู้ปกครองหลายคนสงสัยและอยากรู้เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจที่จะเลือกให้ลูกชายของคุณขลิบปลายอวัยวะเพศหรือไม่ ดังนั้นทางเวบของเราจึงคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่น่าจะพูดถึงเอาไว้

เหตุผลที่ผู้ปกครองควรจะเลือกที่จะขลิบให้ลูกชายของคุณ
จากการศึกษาวิจัยและเอกสารวิชาการทางการแพทย์มากมาย ได้พูดถึงข้อดีของการขลิบไว้หลายข้อดังนี้
1.การขลิบ ช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (urinary tract infection) ลงได้อย่างมาก ในช่วงขวบปีแรก
2.ถึงแม้โอกาสเกิดจะน้อย แต่การขลิบเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในองคชาติได้
3.จากการวิจัยทางการแพทย์หลายฉบับพบว่าการขลิบปลายช่วยลดอัตราการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ลงได้อย่างมาก
4.การขลิบช่วยลดอัตราการติดเชื้อบริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศลงในวัยเด็ก
5.การขลิบทำให้ไม่พบปัญหาหนังหุ้มปลายตีบ (phimosis) ในอวัยวะเพศซึ่งเกิดจากการที่หนังหุ้มปลายมีรูเปิดที่แคบมาก ทำให้ไม่สามารถรูดเพื่อทำความสะอาดอวัยวะเพศได้อย่างดีพอ
6.การขลิบทำให้การดูแลสุขอนามัยของอวัยวะเพศทำได้อย่างสะดวกและทั่วถึง
7.การขลิบทำให้ลดการสะสมของสิ่งหมักหมมต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า ขี้เปียก (smegma)

การขลิบ เจ็บหรือไม่
พ่อแม่บางคนมีความกังวลเมื่อจะต้องตัดสินใจเพื่อที่จะให้ลูกขลิบ หนึ่งในเรื่องสำคัญคือจะทำให้เด็กเกิดความเจ็บปวดหรือไม่ ในเด็กแรกเกิดเมื่อทำการขลิบส่วนใหญ่จะทำโดยการไม่ใช้ยาชาหรือยาสลบเพื่อความปลอดภัยของเด็กเองซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเจ็บบ้าง อัตราการเต้นของหัวใจจะสูงขึ้นรวมถึงชีพจร แต่อาการเหล่านี้จะหายไปในเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนเด็กทุกคนจะร้องไห้แต่ก็จะสงบลงเมื่อได้รับการปลอบหลังการผ่าตัด ปัจจุบันเริ่มมีการใช้ยาชาเฉพาะที่มากขึ้นก็สามารถช่วยลดความเครียดและความเจ็บลงได้ในเด็ก อีกทั้งมีวิธีการใหม่ ๆ ที่ช่วยลดความเจ็บปวดลงได้เช่นการทายาชาหรือการให้เด็กกินน้ำหวานก่อนการทำผ่าตัดซึ่งแล้วแต่แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจะเป็นผู้เลือกวีที่จะใช้ ซึ่งถ้าผ่านตรงจุดนี้ไปแล้วเมื่อแลกกับประโยชน์ของการขลิบที่จะได้รับ นับว่าเหมาะสมอย่างมาก
แพทย์หลายคนแนะนำว่าถ้าจะทำการขลิบ ยิ่งอายุน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะเมื่อโตมากขึ้น การขลิบก็จะยิ่งทำได้ยากกว่าเมื่อทำในเด็กเล็ก ๆ ทั้งการดูแลแผล เด็กเริ่มจดจำความเจ็บปวดได้เมื่ออายุเกิน 3 ปี หรือถ้าทำในผู้ใหญ่ ก็จะมีปัญหาเรื่องชีวิตประจำวัน ทั้งต้องทำงาน ต้องเรียน ดังนั้นพ่อแม่ส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะให้ลูกของตัวเองขลิบปลายตั้งแต่ช่วงหลังแรกเกิดเพราะแค่ 3-4 วัน แผลก็จะหายเป็นปกติได้ดี

ถ้าหากไม่ให้ลูกชายขลิบ จะดูแลรักษาความสะอาดอย่างไร
ถ้าหากว่าคุณผู้ปกครองเลือกที่จะไม่ให้ลุกชายขลิบ สิ่งหนึ่งที่คุณต้องสนใจให้ดีคือเรื่องความสะอาดของอวัยวะของลูก การดูแลสุขอนามัยที่ดีจะเป็นวิธีที่สามารถป้องกันการอักเสบติดเชื้อที่พบได้บ่อย ๆ ได้ ถ้าลูกของคุณโตพอที่คุณจะสอนเค้าได้ การแนะนำให้เปิดรูดหนังหุ้มปลายลงมาเพื่อล้างสิ่งหมักหมมต่าง ๆ ที่อยู่ข้างในเป็นสิ่งที่ควรจะทำ และเพื่อความมั่นใจคุณต้องติดตามดูแลการรักษาความสะอาดของเค้าให้ดีโดยเฉพาะเมื่อเค้าเข้าสู่วัยรุ่น กิจกรรมต่างต่าง ๆ ทั้งการเล่นกีฬา จะเป็นตัวทำให้เกิดเหงื่อมากขึ้นขึ้น ทำให้เกิดการอับชื้นได้ง่ายขึ้นจึงทำให้เป็นสาเหตุของการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยปกติเด็กผู้ชายประมาณ 9 ใน 10 จะสามารถเปิดหนังหุ้มได้เองเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น แต่การดูแลความสะอาดต้องทำสม่ำเสมอทั้งชีวิตครับ

การขลิบสามารถทำได้ตั้งแต่วัยแรกเกิดเลยหรือไม่

ถ้าหากว่าลูกของคุณหลังคลอดออกมาสุขภาพแข็งแรงดี ก็จะสามารถขลิบได้ตั้งแต่หลังคลอดได้เลยครับ แต่ถ้าหากมีปัญหาเช่นคลอดก่อนกำหนดหรือมีปัญหาอย่างอื่นเช่นตัวเหลือง ก็ควรจะปรึกษาหมอเด็กก่อน
ครับ ในประเทสอเมริกาและรพ.เอกชนต่าง ๆ นิยมจะขลิบให้กับเด็กหลังคลอดเลย เนื่องจากความสะดวกในการดูแลรักษาแผล ยิ่งถ้าคุณแม่ผ่าท้องคลอดด้วยแล้ว พอคุณแม่ออกจากรพ. แผลของลุกคุณก็หายพร้อมกันพอดีครับ อีกย่างทำในวัยเด็กอย่างนี้จะทำให้แผลหายได้เร็วขึ้นครับ เพราะลุกคุณยังไม่คลานไปมา และเด็กวัยนี้ปกติเค้าจะหลับทั้งวันอยู่แล้วครับ

การดูแลแผลหลังการขลิบ ต้องทำอย่างไรบ้าง
หลังจากการขลิบ ถ้าหากว่าคุณกลับบ้านแล้วแต่แผลลูกยังไม่หาย การดูแลแผลก้สามารถทำได้เองโดยไม่ยุ่งยากเลยครับ คุณก็แค่คอยเปลี่ยนผ้าพันแผลเวลาที่เค้าปัสสาวะเสร็จหรือเปลี่ยนพร้อมผ้าอ้อมได้เลยครับ อาจจะมีเลือดซึมบ้างหรือมีคราบเหลือง ๆ บริเวณแผล อันนี้ก็เป็นปกติครับ แค่อาทิตย์นึงก้เรียบร้อย น่ารักดูแลความสะอาดได้อย่างไม่ต้องกังวลแล้วครับ

แล้วผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนหลังการขลิบหละ
ผลข้างเคียงของการขลิบนี่พบได้น้อยมากครับ ส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิด ก็เป็นปัญหาที่พบได้เสมอเวลาที่ผ่าตัดเล็กครับ เช่นมีเลือดซึมเป็นต้นครับ แต่ส่วนใหญ่ไม่เกินอาทิตย์ครับ แผลก็จะเรียบร้อย

สมาคมกุมารแพทย์ของอเมริกามีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการขลิบ
ในอเมริกานี่อย่างที่หลายคนทราบมานะครับ ว่าเด็กส่วนใหญ่ที่เกิดมาจะได้รับการขลิบมาตั้งแต่เกิดเลย สถิติปี 2005 นี่บอกว่าเด็กผู้ชายประมาณ 63 เปอร์เซนต์นี่จะได้รับการขลิบนะครับ ส่วนคำแนะนำของสมาคมกุมารแพทย์ในอเมริกาก็พูดไว้กลาง ๆ ครับ การขลิบพบว่ามีข้อดีหลายอย่างเช่นลดอัตราการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็ก ลดอัตราการเกิดโรคติดต่อทางเพสสัมพันธ์ได้ในผู้ใหญ่ ลดการเกิดปัญหาหนังหุ้มปลายตีบในเด็กและการอักเสบบริเวณปลายอวัยวะ ลดอัตราการเกิดมะเร็งองคชาติและอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลุกในผู้หญิงได้ ครับแต่ในขณะเดียวกันการผ่าตัดทุกอย่างก็จะมีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ เช่นเลือดออก หรือว่า 1 ในแสนคนมีปัญหาว่าขลิบเอาหนังออกเยอะเกินไป (เกิดได้น้อยมาก ๆ ครับ) ดังนั้นจึงให้ผู้ปกครองลองชั่งข้อดีและข้อเสียก่อนการตัดสินใจครับ
ถ้าผู้ชายไม่ได้รับการขลิบปลายอวัยวะเพศ จะมีโอกาสเกิดโรคต่าง ๆ ดังนี้
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (sexual transmitted disease) 1 ใน 4 คน
HIV 1 ใน 300 คน
มะเร็งองคชาติ 1 ใน 10000 คน
โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ 1 ใน 25 คน
ปลายอวัยวะเพศอักเสบ 1 ใน 6 คน
หนังหุ้มปลายตีบ ( true phimosis) 1 ใน 10 คน
ซึ่งอัตราการเกิดโรคพวกนี้ จะลดต่ำลงมากในผู้ชายที่ขลิบปลายอวัยวะเพศแล้ว



ใครมีปัญหาด่วน ให้คุยทางไลน์นะครับ id dr-sarika ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสี่ทุ่มครับ

อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen




 

Create Date : 23 ธันวาคม 2549   
Last Update : 1 มิถุนายน 2559 19:06:04 น.   
Counter : 18006 Pageviews.  



สาลิกาโบยบิน
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 297 คน [?]




สวัสดีครับทุกท่านที่ได้มีโอกาสเข้ามาในชุมชนนี้นะครับ ก้อบอกเลยละกันนะครับว่าห้องนี้สร้างขึ้นมาเพื่อให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พูดคุยและให้ข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับการขริบปลายอวัยวะเพศและปัญหาสุขภาพเพศชาย ซึ่งหลายท่านอาจสนใจแต่ไม่ทราบจะหาข้อมูลจากที่ไหน และบางท่านอาจต้องการร่วมพูดคุยและหาเพื่อนที่มีอะไร ๆ เหมือนๆกัน ยังไงก้อเข้ามาทักกันบ้างนะครับ
ปล.ในนี้อาจมีภาพบางภาพไม่เหมาะสมกับเยาวชนนะครับแต่เพื่อจุดประสงค์ทางวิชาการ โปรดใช้วิจารณญาณในการชมด้วยครับ

อ้อ ใครมีปัญหาด่วน เชิญทาง https://t.me/Dr_sarika นะครับ ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสามทุ่มครับ

อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen
New Comments
[Add สาลิกาโบยบิน's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com