|
ควรให้ลูกชายขริบอวัยวะเพศหรือไม่
ควรให้เด็กผู้ชายขลิบปลายอวัยวะเพศหรือไม่ เด็กผู้ชายมากมายในประเทศอเมริกาทุกวันนี้ส่วนใหญ่จะได้รับการขลิบปลายอวัยวะเพศ หรือถ้ารวมทั้งหมดก็จะได้ตัวเลขประมาณ 40 เปอร์เซนต์ของผู้ชายทั้งหมดในโลก ซึ่งในจำนวนนี้เป็นทั้งมุสลิม ยิวที่ต้องทำกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วตามหลักของศาสนา ในฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ที่การขลิบได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย รวมถึงการเริ่มขยายตัวในส่วนต่าง ๆ ของโลกที่ผู้ปกครองได้รับความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการขลิบ ทำให้อัตราการขลิบในเด็กผู้ชายมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ผู้ปกครองมากมายเลือกที่จะให้ลูกของตัวเองได้รับการขลิบเมื่อเกิดมา
แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีคำถามอีกมากมายที่ผู้ปกครองหลายคนสงสัยและอยากรู้เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจที่จะเลือกให้ลูกชายของคุณขลิบปลายอวัยวะเพศหรือไม่ ดังนั้นทางเวบของเราจึงคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญที่น่าจะพูดถึงเอาไว้
เหตุผลที่ผู้ปกครองควรจะเลือกที่จะขลิบให้ลูกชายของคุณ จากการศึกษาวิจัยและเอกสารวิชาการทางการแพทย์มากมาย ได้พูดถึงข้อดีของการขลิบไว้หลายข้อดังนี้ 1.การขลิบ ช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (urinary tract infection) ลงได้อย่างมาก ในช่วงขวบปีแรก 2.ถึงแม้โอกาสเกิดจะน้อย แต่การขลิบเป็นหนึ่งในวิธีป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในองคชาติได้ 3.จากการวิจัยทางการแพทย์หลายฉบับพบว่าการขลิบปลายช่วยลดอัตราการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ลงได้อย่างมาก 4.การขลิบช่วยลดอัตราการติดเชื้อบริเวณหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศลงในวัยเด็ก 5.การขลิบทำให้ไม่พบปัญหาหนังหุ้มปลายตีบ (phimosis) ในอวัยวะเพศซึ่งเกิดจากการที่หนังหุ้มปลายมีรูเปิดที่แคบมาก ทำให้ไม่สามารถรูดเพื่อทำความสะอาดอวัยวะเพศได้อย่างดีพอ 6.การขลิบทำให้การดูแลสุขอนามัยของอวัยวะเพศทำได้อย่างสะดวกและทั่วถึง 7.การขลิบทำให้ลดการสะสมของสิ่งหมักหมมต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า ขี้เปียก (smegma)
การขลิบ เจ็บหรือไม่ พ่อแม่บางคนมีความกังวลเมื่อจะต้องตัดสินใจเพื่อที่จะให้ลูกขลิบ หนึ่งในเรื่องสำคัญคือจะทำให้เด็กเกิดความเจ็บปวดหรือไม่ ในเด็กแรกเกิดเมื่อทำการขลิบส่วนใหญ่จะทำโดยการไม่ใช้ยาชาหรือยาสลบเพื่อความปลอดภัยของเด็กเองซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเจ็บบ้าง อัตราการเต้นของหัวใจจะสูงขึ้นรวมถึงชีพจร แต่อาการเหล่านี้จะหายไปในเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนเด็กทุกคนจะร้องไห้แต่ก็จะสงบลงเมื่อได้รับการปลอบหลังการผ่าตัด ปัจจุบันเริ่มมีการใช้ยาชาเฉพาะที่มากขึ้นก็สามารถช่วยลดความเครียดและความเจ็บลงได้ในเด็ก อีกทั้งมีวิธีการใหม่ ๆ ที่ช่วยลดความเจ็บปวดลงได้เช่นการทายาชาหรือการให้เด็กกินน้ำหวานก่อนการทำผ่าตัดซึ่งแล้วแต่แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจะเป็นผู้เลือกวีที่จะใช้ ซึ่งถ้าผ่านตรงจุดนี้ไปแล้วเมื่อแลกกับประโยชน์ของการขลิบที่จะได้รับ นับว่าเหมาะสมอย่างมาก แพทย์หลายคนแนะนำว่าถ้าจะทำการขลิบ ยิ่งอายุน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะเมื่อโตมากขึ้น การขลิบก็จะยิ่งทำได้ยากกว่าเมื่อทำในเด็กเล็ก ๆ ทั้งการดูแลแผล เด็กเริ่มจดจำความเจ็บปวดได้เมื่ออายุเกิน 3 ปี หรือถ้าทำในผู้ใหญ่ ก็จะมีปัญหาเรื่องชีวิตประจำวัน ทั้งต้องทำงาน ต้องเรียน ดังนั้นพ่อแม่ส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะให้ลูกของตัวเองขลิบปลายตั้งแต่ช่วงหลังแรกเกิดเพราะแค่ 3-4 วัน แผลก็จะหายเป็นปกติได้ดี
ถ้าหากไม่ให้ลูกชายขลิบ จะดูแลรักษาความสะอาดอย่างไร ถ้าหากว่าคุณผู้ปกครองเลือกที่จะไม่ให้ลุกชายขลิบ สิ่งหนึ่งที่คุณต้องสนใจให้ดีคือเรื่องความสะอาดของอวัยวะของลูก การดูแลสุขอนามัยที่ดีจะเป็นวิธีที่สามารถป้องกันการอักเสบติดเชื้อที่พบได้บ่อย ๆ ได้ ถ้าลูกของคุณโตพอที่คุณจะสอนเค้าได้ การแนะนำให้เปิดรูดหนังหุ้มปลายลงมาเพื่อล้างสิ่งหมักหมมต่าง ๆ ที่อยู่ข้างในเป็นสิ่งที่ควรจะทำ และเพื่อความมั่นใจคุณต้องติดตามดูแลการรักษาความสะอาดของเค้าให้ดีโดยเฉพาะเมื่อเค้าเข้าสู่วัยรุ่น กิจกรรมต่างต่าง ๆ ทั้งการเล่นกีฬา จะเป็นตัวทำให้เกิดเหงื่อมากขึ้นขึ้น ทำให้เกิดการอับชื้นได้ง่ายขึ้นจึงทำให้เป็นสาเหตุของการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยปกติเด็กผู้ชายประมาณ 9 ใน 10 จะสามารถเปิดหนังหุ้มได้เองเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น แต่การดูแลความสะอาดต้องทำสม่ำเสมอทั้งชีวิตครับ
การขลิบสามารถทำได้ตั้งแต่วัยแรกเกิดเลยหรือไม่
ถ้าหากว่าลูกของคุณหลังคลอดออกมาสุขภาพแข็งแรงดี ก็จะสามารถขลิบได้ตั้งแต่หลังคลอดได้เลยครับ แต่ถ้าหากมีปัญหาเช่นคลอดก่อนกำหนดหรือมีปัญหาอย่างอื่นเช่นตัวเหลือง ก็ควรจะปรึกษาหมอเด็กก่อน ครับ ในประเทสอเมริกาและรพ.เอกชนต่าง ๆ นิยมจะขลิบให้กับเด็กหลังคลอดเลย เนื่องจากความสะดวกในการดูแลรักษาแผล ยิ่งถ้าคุณแม่ผ่าท้องคลอดด้วยแล้ว พอคุณแม่ออกจากรพ. แผลของลุกคุณก็หายพร้อมกันพอดีครับ อีกย่างทำในวัยเด็กอย่างนี้จะทำให้แผลหายได้เร็วขึ้นครับ เพราะลุกคุณยังไม่คลานไปมา และเด็กวัยนี้ปกติเค้าจะหลับทั้งวันอยู่แล้วครับ
การดูแลแผลหลังการขลิบ ต้องทำอย่างไรบ้าง หลังจากการขลิบ ถ้าหากว่าคุณกลับบ้านแล้วแต่แผลลูกยังไม่หาย การดูแลแผลก้สามารถทำได้เองโดยไม่ยุ่งยากเลยครับ คุณก็แค่คอยเปลี่ยนผ้าพันแผลเวลาที่เค้าปัสสาวะเสร็จหรือเปลี่ยนพร้อมผ้าอ้อมได้เลยครับ อาจจะมีเลือดซึมบ้างหรือมีคราบเหลือง ๆ บริเวณแผล อันนี้ก็เป็นปกติครับ แค่อาทิตย์นึงก้เรียบร้อย น่ารักดูแลความสะอาดได้อย่างไม่ต้องกังวลแล้วครับ
แล้วผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนหลังการขลิบหละ ผลข้างเคียงของการขลิบนี่พบได้น้อยมากครับ ส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิด ก็เป็นปัญหาที่พบได้เสมอเวลาที่ผ่าตัดเล็กครับ เช่นมีเลือดซึมเป็นต้นครับ แต่ส่วนใหญ่ไม่เกินอาทิตย์ครับ แผลก็จะเรียบร้อย
สมาคมกุมารแพทย์ของอเมริกามีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการขลิบ ในอเมริกานี่อย่างที่หลายคนทราบมานะครับ ว่าเด็กส่วนใหญ่ที่เกิดมาจะได้รับการขลิบมาตั้งแต่เกิดเลย สถิติปี 2005 นี่บอกว่าเด็กผู้ชายประมาณ 63 เปอร์เซนต์นี่จะได้รับการขลิบนะครับ ส่วนคำแนะนำของสมาคมกุมารแพทย์ในอเมริกาก็พูดไว้กลาง ๆ ครับ การขลิบพบว่ามีข้อดีหลายอย่างเช่นลดอัตราการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็ก ลดอัตราการเกิดโรคติดต่อทางเพสสัมพันธ์ได้ในผู้ใหญ่ ลดการเกิดปัญหาหนังหุ้มปลายตีบในเด็กและการอักเสบบริเวณปลายอวัยวะ ลดอัตราการเกิดมะเร็งองคชาติและอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลุกในผู้หญิงได้ ครับแต่ในขณะเดียวกันการผ่าตัดทุกอย่างก็จะมีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ เช่นเลือดออก หรือว่า 1 ในแสนคนมีปัญหาว่าขลิบเอาหนังออกเยอะเกินไป (เกิดได้น้อยมาก ๆ ครับ) ดังนั้นจึงให้ผู้ปกครองลองชั่งข้อดีและข้อเสียก่อนการตัดสินใจครับ ถ้าผู้ชายไม่ได้รับการขลิบปลายอวัยวะเพศ จะมีโอกาสเกิดโรคต่าง ๆ ดังนี้ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (sexual transmitted disease) 1 ใน 4 คน HIV 1 ใน 300 คน มะเร็งองคชาติ 1 ใน 10000 คน โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ 1 ใน 25 คน ปลายอวัยวะเพศอักเสบ 1 ใน 6 คน หนังหุ้มปลายตีบ ( true phimosis) 1 ใน 10 คน ซึ่งอัตราการเกิดโรคพวกนี้ จะลดต่ำลงมากในผู้ชายที่ขลิบปลายอวัยวะเพศแล้ว
ใครมีปัญหาด่วน ให้คุยทางไลน์นะครับ id dr-sarika ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสี่ทุ่มครับ
อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen
Create Date : 23 ธันวาคม 2549 |
Last Update : 1 มิถุนายน 2559 19:06:04 น. |
|
11 comments
|
Counter : 18017 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 23 ธันวาคม 2549 เวลา:14:57:23 น. |
|
โดย: Zantha วันที่: 23 ธันวาคม 2549 เวลา:16:07:21 น. |
|
โดย: ระ IP: 125.26.248.183 วันที่: 10 มีนาคม 2552 เวลา:12:07:24 น. |
|
โดย: KIKI IP: 125.27.152.45 วันที่: 20 เมษายน 2552 เวลา:15:08:06 น. |
|
โดย: jhgt IP: 61.90.27.170 วันที่: 24 กันยายน 2552 เวลา:21:40:59 น. |
|
โดย: แม่ IP: 27.130.109.201 วันที่: 22 ธันวาคม 2554 เวลา:16:33:13 น. |
|
โดย: บอกเล่า IP: 171.99.101.172 วันที่: 29 กันยายน 2556 เวลา:2:57:01 น. |
|
โดย: บอกเล่า IP: 171.99.101.172 วันที่: 29 กันยายน 2556 เวลา:3:07:00 น. |
|
โดย: K IP: 58.8.51.67 วันที่: 25 ตุลาคม 2556 เวลา:17:12:18 น. |
|
|
|
|
สาลิกาโบยบิน |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 297 คน [?]
|
สวัสดีครับทุกท่านที่ได้มีโอกาสเข้ามาในชุมชนนี้นะครับ ก้อบอกเลยละกันนะครับว่าห้องนี้สร้างขึ้นมาเพื่อให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พูดคุยและให้ข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับการขริบปลายอวัยวะเพศและปัญหาสุขภาพเพศชาย ซึ่งหลายท่านอาจสนใจแต่ไม่ทราบจะหาข้อมูลจากที่ไหน และบางท่านอาจต้องการร่วมพูดคุยและหาเพื่อนที่มีอะไร ๆ เหมือนๆกัน ยังไงก้อเข้ามาทักกันบ้างนะครับ ปล.ในนี้อาจมีภาพบางภาพไม่เหมาะสมกับเยาวชนนะครับแต่เพื่อจุดประสงค์ทางวิชาการ โปรดใช้วิจารณญาณในการชมด้วยครับ
อ้อ ใครมีปัญหาด่วน เชิญทาง https://t.me/Dr_sarika นะครับ ครับ ผมเล่นทุกวันหลังสามทุ่มครับ
อีกอัน หลัง ๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาในบล๊อกนะครับ ยังไงตามไปที่เพจได้นะครับ https://www.facebook.com/sarikahappymen |
|
|
|
|
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุขมากมากนะค่ะ