Skincare Review: My Moisturizers and Sunscreens
มาต่อด้วยครีมหรือโลชั่นทั้งหลายค่ะ จากหน้าไปหลังนะคะOlay Regenerist Deep Hydration Renerating Cream : ครีมทาหน้าให้ความชุ่มชื้นกับผิว เนื่้อครีมเป็นสีส้มอ่อนๆ กลิ่นหอมพอดีๆ ไม่แรงมาก อ้อมรับได้ (เคยลองใช้ครีมของลังโคมแล้วไม่ชอบเลยเพราะกลิ่นแรงเกิน แต่ครีมนี้กลิ่นโอเค)ทาแล้วผิวลื่นๆเนียนๆ ไม่ค่อยซึมเข้าผิวเท่าไหร่แต่ก็ไม่มันแผลบ หน้าออกขาวๆนิดๆหลังทาด้วย คิดว่าน่าจะใช้เป็นเบสก่อนแต่งหน้าได้เลย แต่อ้อมไม่ได้ใช้นะเพราะปกติทากันแดดด้วยหน้าก็มันพอแล้ว สรุปว่าครีมนี้ใช้ดีใช้ได้เลย แต่ตอนนี้หน้าร้อน ไม่รู้ว่าหน้าหนาวจะเอาผิวแห้งๆอยู่มั้ย อ้อ ชอบขวดมันมาก เพราะเป็นสูญญากาศ กดด้านบนแล้วเนื้อครีมถึงจะออกมาจากรูเล็กๆ รู้สึกมันสะอาดดีBurt's Bee Repair Serum : เป็นน้ำมันบำรุงผิว ส่วนผสมหลักคือ rosehip seed oil ที่เขาว่าช่วยกันเหี่ยวได้ดี กลิ่นออกตุๆแก่ๆหน่อย (ได้กลิ่นทีไรนึกถึงคุณยาย ไม่รู้ทำไม) ใช้ทารอบดวงตากับริมฝีปาก อ้อมก็ใช้ทาทั้งตาและปากโดยใช้นิ้วนางแปะๆนวดๆอย่างที่เขาแนะนำข้างขวด เพิ่งใช้ได้ไม่ถึงอาทิตย์ ก็ให้ความชุ่มชื้นรอบดวงตาดี ซึมยากหน่อยเพราะมันเป็นน้ำมัน แต่ก็ไม่มันเยิ้มนะ ตื่นเช้ามาก็หายไปหมดแล้ว ทาปากก็ซึมเร็วดี แต่ทามากไม่ได้เพราะกลิ่นมันแรง ทาเสร็จไปกินน้ำจะแหวะมากJuice Organics Brightening Serum : ซีรั่มทาหน้าก่อนลงครีมหรือโลชั่น เนื้อเป็นโลชั่นสีขาวๆเหลืองๆ ไม่ข้นมาก เวลาทาเขาบอกให้วอร์มกับมือก่อน ทาแล้วจะตึงๆหน้านิดนึง ออกเหนียวๆหน่อย แต่ไม่มันแน่ๆค่ะ ขวดเป็นปั๊มสูญญากาศ แต่บางทีกดแล้วมันกระจายเลอะเทอะไปหน่อย ตัวนี้ใช้ตอนเข้าไม่ได้เพราะทาก่อนทากันแดดแล้วมันทำให้กันแดดเป็นขุย ทั้งสามตัวนี้คือตัวที่่ใช้เป็นประจำทุกคืนตอนนี้ ก็เรียกว่าชอบพอสมควร ล้างหน้าเสร็จ เช็ดโทนเนอร์แล้วก็ลงซีรั่มของ Juice Organics แล้วทา Burt Bee's Repair Serum รอบตา แล้วก็ปากซักนิด พอซีรั่มที่ลงทั้งหน้าพอแห้งหน่อยก็ลงครีมของ Olay ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า แต่หลังจากที่กลับจากคอสตาริก้าแบบหน้าเยินๆ ดำๆ มีสิวที่หน้าผากพอเริ่มใช้ทั้งซีรั่มและครีมได้ไม่นาน หน้าก็หายดำๆด่างๆและสิวที่หน้าผากก็หายไป ใช้ไปได้สักพักเหมือนรอยย่นที่หน้าผากขีดที่ยังไม่ลึกมากจะจางลงไปนิดนึง แต่ขีดที่ชัดๆก็ยังอยู่นะ ส่วน Burt Bee's Serum นี่ไม่รู้มันช่วยเรื่องรอยย่นใต้ตาได้จริงมั้ย เพราะเพิ่งเริ่มใช้ บางคืนก็ลืมอีกต่างหาก แต่ไม่หวังมากเพราะคงไม่มีครีมตัวไหนเป็นครีมมหัศจรรย์ทำให้รอยย่นหายไปได้ง่ายๆหรอก รอยตีนกานี่ไม่ต้องพูดถึง ตอนนี้เอาแค่ไม่ให้มันขึ้นมามากกว่าที่จำเป็นก็พอแล้ว ตัวถัดๆมานี่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ใช้แล้วค่ะbareVitamins Skin Rev-er Upper : ตัวนี้มากับเซ็ตรองพื้นของ Bare Escentuals ซื้อมาตั้งแต่ไปเที่ยวฮาวายปีที่แล้ว ใช้มาเป็นปียังไม่หมดซักทีทั้งโลชั่นทั้งแป้งรองพื้นที่มาด้วยกัน เป็นโลชั่นเนื้อเหลวๆหน่อย เขาว่าให้ทาเตรียมหน้าก่อนลงแป้งได้ กลิ่นเหมือนกาวเพราะไม่มีน้ำหอม มีช่วงนึงอ้อมเอามาใช้เป็น night cream เดี่ยวๆ คิดผิดมาก เพราะมันทำให้หน้าแห้งจาก Salicylic acid ไม่ให้ความชุ่มชื้นเพียงพอเลย หน้าลอกเป็นขุยซะ เลิกเลย เอามาใช้ทาก่อนแต่งหน้าเวลาไม่ลืมเท่านั้นแหละ มันช่วยให้หน้าเนียนขึ้นนิดนึง นิดเดียวจริงๆ ถ้ามันไม่แถมมาก็คงไม่ซื้อมาใช้เองเด็ดขาดBiopur Melting Moisturizing Matifying Fluid for Combination/Oily Skin : ของ Biotherm โลชั่นสำหรับคนผิวมัน เนื้อเหลวๆ ถึงจะเหมาะกับผิวมันแต่ก็ทำให้ผิวชุ่มชื้นได้พอประมาณ แต่ไม่ชอบเท่าไหร่เพราะเหมือนมันมีแอลกอฮอล จริงๆตอนที่ซื้อตัวนี้กะซื้อตัวที่มีกันแดด(SPF 15) ที่เคยใช้ดีตอนอยู่เมืองไทย แต่ดันหยิบผิด ไปถึงร้านก็หยิบไปจ่ายตังค์เลย คริสก็ถามว่าแน่ใจเหรอว่าใช่ อ้อมก็บอกชัวร์ จำขวดได้ (คือไม่ได้อ่าน) พอเอากลับมาที่บ้าน อ้าว ซื้อผิด แต่ไม่อยากบอกคริสเพราะกลัวเสียฟอร์ม เลยเลยตามเลย ฮ่าๆ ใช้ไปแค่ครึ่งเดียวเอง ซื้อมาเกินปีแล้วSK-II Facial Treatment Essence : Miracle Water สุดแสนโด่งดังที่เมืองไทย ขวดนี้เป็นขวดที่สอง แม่ทุ่มทุนซื้อให้ตอนกลับเมืองไทยอีกเช่นกัน เป็นน้ำใสๆ เอามาแปะๆหน้าหลังจากล้างหน้าเสร็จ กลิ่นแหม่งๆหน่อยแต่อ้อมชอบ ขวดแรกที่ใช้ตอนอยู่เมืองไทยเห็นผลสุดๆ หน้าใสเนียนกิ๊กอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดีขนาดคนทักว่าไปทำอะไรมา แต่พอใช้หมด หน้าก็ยังดีอยู่นะ ไม่ได้ใช้อยู่ครึ่งปีก็หน้ายังโอเค มีแต่กระที่ขึ้นเอาๆเพราะตากแดดเยอะ พอกลับเมืองไทยก็ซื้อมาใช้ต่อ แต่คราวนี้มันไม่ได้ช่วยมากเหมือนแต่ก่อนแล้วแฮะ ไม่เห็นผลเท่าไหร่ ตอนนี้ก็เลยหยุดใช้ทั้งเช้าทั้งเย็น ใช้แค่ตอนเช้าอย่างเดียวเพราะเปลือง ของมันแพง ตอนนี้คิดไปคิดมา ตอนที่อยู่เมืองไทย ใช้แล้วหน้าใสคงเพราะปัจจัยอื่นๆช่วยด้วย เช่น อาหารการกิน ที่ทานดีสุดๆ ทานผักผลไม้อย่างเยอะทุกๆวัน แถมแต่งหน้าทาแป้งไปทำงานเกือบทุกวัน หน้ามันได้ protectionจากแดด อยู่แล้วก็เลยขาวขึ้น ใสขึ้น ตอนนี้อยู่ที่อเมริกา แดดก็แรง หน้าก็ไม่ค่อยได้แต่ง ที่สำคัญกินแต่ของมันๆ ทานผักผลไม้น้อยลงไปมาก ผิวมันจะไปสวยได้ยังไงเนอะ สุดท้ายแล้วค่ะ ครีมกันแดด ขาดไม่ได้เด็ดขาดOlay Complete All Day Moisture Lotion SPF 15 (Sensitive) : ผิวอ้อมไม่ sensitive หรอก ถึกมากๆ แต่ใช้ของผิวแพ้ง่ายเพราะมันไม่มีน้ำหอม เนื้อโลชั่นสีขาว เหลวๆ กันแดดได้ครบทั้ง UVA และ UVB ทาแล้ววอกนิดๆ หน้าจะมันหน่อย แต่ไม่เป็นไรสำหรับอ้อม รอแห้งนิดก็ลงแป้งรองพื้นได้เลย ขวดนี้ใช้เป็นขวดที่สองแล้ว ก็เรียกว่าใช้ได้สำหรับราคาที่ไม่แพง แต่คงไม่ซื้อแล้วเพราะค่า SPF มันต่ำไปหน่อย และทาแล้วหน้าวอกเล็กน้อย Aveeno Sunblock Lotion SPF 55 : ชื่อเป็นโลชั่นแต่เนื้อเหนียวเกือบเป็นครีม กลิ่นดีไม่เป็นครีมกันแดดมาก (ครีมกันแดดบางตัวทาแล้วจะนึกว่าจะไปว่ายน้ำทุกที) ทาแล้วหน้าวอกสุดๆ (ก็มันกันแดดได้นานนี่นะ) อ้อมแก้วอกโดยการผสมแป้งฝุ่น mineral foundation ลงไปปรับสีหน่อย ก็ดีขึ้น ดีตรงที่ไม่ทำให้หน้ามันมาก ประสิทธิภาพกันแดดใช้ได้ ล้างยากเพราะกันน้ำ ต้องใช้ oil นวดออก ราคาไม่แพงค่ะ ตอนนี้ตอนเช้า อ้อมล้างหน้าเสร็จ (ด้วยน้ำเปล่า)ก็จะใช้ SK-II Essnce แปะๆหน้า พอแห้งก็ลงกันแดด ด้วยความงกและขี้เกียจก็เลยใช้แค่ของ Olay ทุกวัน ซึ่่งมันกันแดดได้ไม่นาน หน้าก็เลยอุดมไปด้วยกระ ส่วนของ Aveeno นี่ใช้ตอนต้องออกไปทำสวนกลางแจ้งแรงๆเท่านั้นทั้งๆที่จริงๆควรจะใช้ทุกวันเพราะแดดที่นี่แรงมาก สุดท้ายแถมครีมกันแดดที่ตัวให้หน่อย Banana Boat Sun Wear SPF 50 : ชอบมากๆ ซึมเร็วไม่ทิ้งคราบขาว กลิ่นหอม กลิ่นไม่เหมือนครีมกันแดดทั่วๆไปอีกล่ะ เลยชอบ หมดแล้วค่า สรุปว่าตอนนี้ที่ใช้ประจำก็คือเช้า : ล้างหน้าด้วย Cetaphil (ถ้าไม่ขี้เกียจ ปกติล้างน้ำเปล่า)--> แปะ SK-II Essence --> ทา Olay หรือ Aveeno Sunscreenก่อนนอน : นวดหน้าด้วย jojoba oil (ถ้าแต่งหน้าหรือใช้ Aveeno Sunscreen)--> ล้างหน้าด้วย Neutrogena cleanser --> เช็ด C.O. Bigelow Cucumber หรือ SK-II toner กับสำลี(ถ้าไม่ลืม)--> ทา Juice Organics Serum --> ทา Burt Bee's Serum รอบตา --> ทา Olay Regenerist Cream แค่นี้ก็รู้สึกใช้เวลาในห้องน้ำนานแล้วเนอะ ไม่ได้พอใจทุกตัวที่ใช้นะคะ แต่ใช้ต่อไปเพราะซื้อมาแล้ว ไม่อยากซื้อเพิ่มก่อนของเก่าหมด ที่อยากได้อีกก็มีอีกหลายตัวอยู่แต่รอต่อไป ใช้พวกนี้ให้หมดก่อนเท่านั้น!
Create Date : 09 กันยายน 2550
Last Update : 9 กันยายน 2550 3:09:12 น.
Counter : 751 Pageviews.
Skincare Review: My Makeup Removers, Cleansers, Toners, and Masks
เนื่องจากไปเกาะติดห้องโต๊ะเครื่องแป้งของพันทิปมานานแล้ว อ่านรีวิวเครื่องสำอาง เครื่องประทินผิวทั้งหลายที่เขาเขียนๆกันให้น้ำลายไหลยืดเกิดอารมณ์อยากได้ไปหลายรอบ แต่ด้วยความที่ยังระงับตัวเองได้อยู่ก็เลยไม่ได้บ้าซื้อตามเขาเท่าไหร่ ไอ้ที่ซื้อก็หาซื้อที่ไม่แพงมาก วันนี้ว่างๆเอาจับมารวมๆเขียนถึงดีกว่า อ้อมผิวผสม มันช่วง T-zone แต่แก้มก็ไม่แห้งนะ รูขุมขนใหญ่ ผิวไม่เคยละเอียดและใสเลย อย่างมากก็เนียนไม่มีสิว แต่ตอนนี้ไปแพ้อะไรมาก็ไม่รู้ สิวกระหน่ำตรงช่วงกรามซ้าย ส่วนกรามขวามีนิดหน่อย กับแก้มข้างซ้ายอุดมไปด้วยสิวอุดตัน เยินมากๆ คาดว่าตัวการที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเช่นนี้คือผมของเราเอง เพิ่งไปตัดผมบ็อบเทมา ผมหยาบๆของเราเองคงระแก้มและคางจนสิวบุก เริ่มจากขวดนี้ใช้เช็ดมาสคาร่าก่อนละกัน Boots Botanics Soothing Eye Makeup Remover: เช็ดมาสคาร่ากันน้ำออกง่ายใช้ได้ อ่อนโยน ใช้ดีเหมือนกันค่ะ ราคาไม่แพง แล้วก็ครีมล้างหน้าทั้งหลาย ไล่จากหน้าไปหลัง DHC Deep Cleansing Oil: ซื้อขนาดทดลองมาจากเมืองไทย นวดหน้าล้างเครื่องสำอางออกหมดจดดีมากๆค่ะ สิวเสี้ยนก็หลุดออกมาด้วย สะใจมาก เสียอย่างเดียว เหนียวไปหน่อย นวดแล้วฝืด แต่พอนวดไปสักพักเอาน้ำพรมหน่อยก็กลายเป็นโลชั่นน้ำนมนวดต่อสบายๆ กลิ่นออกเขียวๆหน่อยเพราะเป็นน้ำมันมะกอก แต่อ้อมไม่รังเกียจเพราะไม่ชอบใช้ของมีน้ำหอมอยู่แล้ว ในรูปที่เห็นนี่จริงๆไม่ใช่น้ำมันดั้งเดิมของมันนะคะ ใช้หมดไปแล้วเลยเอาขวดมาล้างใส่น้ำมัน jojoba oil ต่อ ของจริงสีน้ำมันจะออกเขียวกว่านี้ Dessert Essence Organic Jojoba Oil: อันนี้ก็ซื้อตามกระแสห้องโต๊ะเครื่องแป้งอีกเช่นกัน เป็นน้ำมันสารพัดประโยชน์ ใช้ล้างเครื่องสำอางได้ หมักผมได้ ทาตัวทาหน้าก็ได้ อ้อมเอามาใช้ล้างเครื่องสำอาง ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ มันมันเกิน ล้างน้ำแล้วก็ยังมันแผลบอยู่ แถมนวดสิวเสี้ยนออกได้ไม่ดีเท่าของ DHC สงสัยคงต้องตัดใจสั่งของ DHC มาใช้อีก Neutrogena Healthy Skin Anti-Wrinkle Anti-Blemish Cleanser: เพิ่งซื้อมาใช้ได้ไม่นานหลังจากสิวบุก ยังไม่เห็นผลเรื่องรักษาสิว T_T แต่ชอบมากๆเพราะฟองมันนุ่มสุดๆๆๆ กลิ่นก็ไม่แรงมาก หอมพอดีๆ ล้างหน้าเสร็จหน้าจะลื่นๆ แต่พอเช็ดหน้าก็หาย ไม่ทำให้ผิวแห้งมาก St. Ives Apricot Scrub: ไม่ชอบเท่าไหร่เพราะเม็ดขัดหน้าใหญ่และหยาบมากๆ ห้ามถูแรงๆเด็ดขาด ไม่งั้นหน้าถลอกแน่ๆ แต่ใช้แล้วก็รู้สึกว่าหน้าสะอาดดี ไม่กล้าใช้บ่อยเพราะอย่างที่บอก กลัวหน้าแหกค่ะ Cetaphil Cleanser: ตัวนี้อ่อนมากๆ เอามาใช้ล้างหน้าหลังใช้นวดน้ำมันล้างเครื่องสำอางแล้ว ล้างเสร็จผิวจะลื่นๆอีกเช่นกัน แต่พอเช็ดหน้าแห้งก็จะแห้งตึงนิดหน่อย ล้างหน้าเสร็จต่อด้วยโทนเนอร์ SK-II Facial Treatment Clear Lotion: ขวดนี้อย่างแพงงงงงงงงงงงง แต่(แม่)ทุ่มทุนซื้อ(ให้)เพราะเขาว่าใช้กับ Essence แล้วดี ใส่สำลีเช็ดหน้าสะอาดดี หน้าไม่แห้งด้วย ไม่มีแอลกอฮอล ชอบมากๆแต่ด้วยราคาขนาดนี้คงไม่ซื้อ(เอง)ต่อแน่นอน แถมที่อเมริกานี่แพงกว่าที่เมืองไทยมากๆด้วย C.O. Bigelow Cucumber Skin Tonic: ขวดบักเอ้กมาก ซื้อตอน Bath and Body Works ลดราคาประจำปี เหลือขวดละ $6 เอง โทนเนอร์ตัวนี้ออกข้นๆหน่อยเพราะมีสารสกัดจากแตงกวา เนื้อเย็นๆ ใช้เช็ดแล้วชุ่มชื่นดี ตอนไปเที่ยวคอสตาริก้า เจออากาศร้อนมากๆ ไม่อยากทาครีมเหนอะๆ เอาตัวนี้มาแปะๆหน้าตัวเดียว ก็ชุ่มชื้นพอแล้ว สุดท้าย mask ที่ไม่ค่อยจะได้ใช้เพราะขี้เกียจ (เขียนเรื่องมาสก์แล้วขอบ่นหน่อย ทำไมหลายๆคนชอบใช้คำว่ามาร์ก/มาร์ค ในเมื่อคำภาษาอังกฤษคือ mask ถอดเสียงเป็นภาษาไทยได้มาสก์/มาสค์ พออ่านที่หลายคนใช้ว่ามาร์คหน้าทีไร นึกไปถึงคนเอากากบาทมาทำเครื่องหมายที่หน้าทุกที ขัดใจครูเก่าอย่างเราค่ะ) C.O. Bigelow Seaweed Soothing Mask: ซื้อตอน Bath and Body Works ลดราคาประจำปีอีกเช่นกัน เห็นมันถูกดีเลยซื้อมาลอง เป็นโคลนพอกหน้า มีส่วนผสมหลักเป็นสาหร่ายกับโคลน กลิ่นแหม่งๆบอกไม่ถูก เวลาใช้ก็เอามาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที แล้วใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำอุ่นเช็ดออก ดีตรงที่ใช้แล้วหน้าไม่แห้ง แต่สำหรับหน้าหนาๆอย่างเราใช้แล้วไม่เกิดผลอะไรขึ้นมาเลยค่ะ Kose Mask White: มาสก์กระชากวิญญาณของใครหลายๆคน เป็นมาสก์สีดำสนิท ทาให้ทั่วหน้าเว้นรอบตากับปาก รอจนแห้งตึงแล้วก็จัดการลอกเป็นแผ่นออกมาซะ มันจะดึงทุกอย่างทั้งขนอ่อนๆและสิวเสี้ยนขึ้นมาด้วย แต่ขอบอกว่าใช้กับหน้าหนาๆของเราเนี่ย เอาหนวดเราไม่ออกนะคะ ใช้แล้วหน้าก็สะอาดดีแต่ไม่ชอบเท่าไหร่เพราะหน้าจะแห้งๆ เป็นโรคกลัวหน้าแห้งเพราะหน้าแห้งทีไรสิวมาทุกที ที่สำคัญใช้ทีไรคุณสามีฮาทุกที อีเมียหน้าดำ พอเขาขำ เราก็จะขำตามต้องคอยดุว่าอย่าทำขำสิ เดี๋ยวมันไม่ได้ผล มันตึงหน้านะ จบเท่านี้ก่อนค่ะ คราวหน้ามาต่อเรื่องครีมทาหน้าทั้งหลาย
Create Date : 07 กันยายน 2550
Last Update : 7 กันยายน 2550 7:54:45 น.
Counter : 843 Pageviews.
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
*สาว(ไม่)น้อยพลัดถิ่นมาอยู่เมืองเล็กๆในอเมริกา --> ตอนนี้หลงมาอยู่ตะวันออกกลาง เมือง Riyadh, KSA ค่ะ *ชอบแฟชั่นแต่ไม่กล้าแต่งตัวตามแฟชั่นจ๋า --> ตอนนี้ต้องมาใส่ abaya คลุมหมดค่ะ *ชอบเครื่องสำอางแต่ไม่กล้าแต่งหน้าตัวเองอีกแหละ -->ตอนนี้ก็ยังไม่แต่งหน้ามากค่ะ โดยเฉพาะถ้าเทียบกับสาวซาอุที่ปิดหน้ามิดชิด *ชอบท่องเที่ยวแต่ยังไม่ได้เที่ยวที่ไหนเท่าไหร่เล้ย --> ตอนนี้ก็ยังฝันจะไปเที่ยวหลายๆที่ค่ะ ทั้งแอฟริกาทั้งยุโรป *ชอบกินแต่มาอยู่ไกลอาหารที่อยากกินเหลือเกิน --> ตอนนี้ยิ่งหาอาหารที่อยากทานยากเข้าไปใหญ่เลย ปล. wahine = woman ในภาษา Hawaiian ค่ะขอขอบคุณ Color Codes ของป้ามด codes ง่ายๆสำหรับบล็อกจากป้ามด codes แต่งบล็อกของคุณรำเพย