...แต่ละคืนวันที่ผันผ่าน มีเรื่องราวหลากหลายให้ค้นหา ...วานนี้ พรุ่งนี้ มินำพา ...เพียงรู้ว่า ทำวันนี้ให้ดีก็เพียงพอ ...มีความสุขกับทุกจังหวะของชีวิต
Group Blog
 
All blogs
 
ข้อคิดจาก...ขนมครก



ขั้นตอนหรือกระบวนการเป็นหัวใจสำคัญในการผลิตสินค้า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่พยายามที่จะหาวิธีลดกระบวนการการผลิต เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า กระบวนการต่างๆ ในการผลิต มีผลต่อต้นทุน ดังนั้นกระบวนการที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่าย ต้นทุนเวลา และต้นทุนอื่นๆ เพิ่มขึ้นตามมาด้วย

มีอยู่วันหนึ่งหัวหน้าถามว่า "เคยเห็นคนขายขนมครกสมัยนี้หรือเปล่าว่าเขาทำกันยังไง" ตอนแรกก็คิด เอ... อยู่ดีๆ ถามถึงขนมครกทำไม หัวหน้าก็บอกว่าไม่มีอะไร พูดให้ฟังเฉยๆ เราเลยบอกวิธีที่เราเคยเห็นที่เขาทำกัน นั่นคือเอาแป้งที่เตรียมมาเทใส่เบ้า โรยผักนิดหน่อยแล้วก็ปิดฝา พอสุกก็ใช้ช้อนตักมาประกบกัน แล้วก็ขาย ไม่เห็นว่าจะมีอะไรแปลกเลย

แต่หัวหน้ากลับบอกว่า เราอธิบายรายละเอียดข้ามขั้นตอนไปมาก ควรจะอธิบายให้ละเอียดกว่านี้ หัวหน้าก็เลยอธิบายว่า "สมัยนี้คนขายขนมครกส่วนใหญ่ จะต้องเอาแป้งที่เตรียมมาใส่ในกาต้มน้ำ (ส่วนใหญ่ที่เห็นก็ใช้พาชนะนี้ทั้งนั้น) แล้วก็เทราดทีเดียวโดยไม่ต้องยกมือ ซึ่งอาจจะมีแป้งที่ไม่ลงเบ้าบ้าง จากนั้นก็แต่งหน้าโรยผัก ปิดฝาซึ่งอาจจะใช้ฝาหม้อครอบทั้งหมด พอสุกได้ที่ก็ยกขึ้นมาทั้งแผง เพราะทุกเบ้าขนมครกจะติดกันเป็นแผ่นเดียว แล้วก็เอากรรไกรมาตัดแยกเป็นฝาๆ..."

พอฟังจบก็งง…! แล้วมันต่างกันตรงไหนล่ะ ก็ออกมาเป็นขนมครกเหมือนกันแถมเร็วกว่าใช้ช้อนแคะอีก



หัวหน้าอธิบายว่า "ประเด็นมันอยู่ตรงที่ขาดความประณีตในขั้นตอน ไม่เหมือนกับขนมครกในสมัยก่อน ซึ่งคนขายขนมครกจะบรรจงใช้ช้อนหยอดทีละเบ้า ครึ่งหนึ่งของกระทะ พอแต่งหน้าโรยผักแล้ว ก็จะปิดฝา ซึ่งฝาสมัยนั้นจะเป็นฝาดินเผา ขนาดพอดีกับเต้าขนมครก เมื่อครอบฝาแล้ว ก็จะไปหยอดขนมครกในส่วนอีกครึ่งหนึ่งของกระทะ พอหยอดเสร็จแต่งหน้าเสร็จ อีกฝั่งหนึ่งก็จะสุกได้ที่ ก็จะเอาฝาครอบย้ายไปครอบฝั่งที่เพิ่งหยอด แล้วแคะฝั่งที่สุก ไปประกบกันพักรอไว้จำหน่าย แล้วก็เตรียมหยอดใหม่"

อธิบายแบบนี้ ลองนึกตามก็เห็นภาพจริงๆ (แหม..อธิบายซะละเอียดเลย)

หัวหน้าบอกว่า "ขั้นตอนการเทราดและการเอากรรไกรมาตัดนั่นแหละ เป็นจุดที่แตกต่างและรู้สึกว่า คุณค่าและความสวยงามของขนมครกลดลง" หัวหน้าอธิบายเพิ่มเติมว่า "เวลาเทราดแป้งลงไปนั้น จะมีแป้งบางส่วนที่ไม่ลงเบ้า เมื่อเวลาขนมครกสุกแล้ว แป้งส่วนนั้นจะไหม้เกรียมเป็นปีก ซึ่งต้องเอากรรไกรมาตัดแต่งออก มิฉะนั้นพอประกบกันแล้วทำให้ไม่เสมอกัน ดูไม่สวยงาม" ฟังเขาพูดจนจบก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าต้องการจะบอกอะไร จนเขาอธิบายให้ฟังต่อว่า
"ฝ่ายผลิตที่ทำการผลิตสินค้านั้น เรื่องของขั้นตอนหรือกระบวนการถือเป็นเรื่องสำคัญการมีขั้นตอนมากถือเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ในทำนองเดียวกัน สินค้าที่ขาดความประณีตหรือไม่สวยงาม ก็ไม่เป็นที่ต้องการของลูกค้าเช่นกัน และทำให้คุณค่า (Value) ของสินค้าลดลงด้วย" ตอนนี้เลยงงกันเข้าไปใหญ่แล้วที่ใช้กรรไกรตัดแต่งมันเพิ่มขั้นตอนตรงไหนล่ะ?
เขาตอบกลับมาว่า "ถ้าอยากให้มันสวยงาม เท่ากัน ประกบกันได้พอดีนั้น ก็ต้องมาเสียเวลาตัดแต่งขอบอีกขั้นตอนหนึ่ง ซึ่งแทนที่จะพิถีพิถันประณีตตั้งแต่ตอนแรก ก็คงไม่ต้องมาเสียเวลาในขั้นตอนนี้อีก" พอฟังมาเรื่อยๆ ก็เริ่มเห็นคล้อยตามอย่างที่หัวหน้าพูด เพราะมันมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นมาจริงๆ หัวหน้าบอกเพิ่มเติมว่า "คนขายขนมครกสมัยก่อน จะมีความประณีตและพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนแรก ขนมครกที่ได้ออกมาจึงสวยงามน่าทาน และไม่เสียเวลามาตัดแต่งขอบ ถ้าพูดแบบวิชาการสักหน่อยก็ต้องบอกว่า การหยอดขนมครกก็เป็นศาสตร์ชนิดหนึ่งนะ" โห..ว่าไปโน่นแน่ะ
สิ่งที่เล่าให้ฟังเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ฝ่ายผลิตเท่านั้น ในทุกๆ งาน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม ขอให้คิดถึงกระบวนการทำงานที่เป็นขั้นเป็นตอน อย่าคิดแต่เพียงว่า จะต้องทำให้เสร็จให้เร็วเพียงอย่างเดียว เสร็จเร็ว..แต่มีของเสีย หรือมีสินค้าที่เสียระหว่างกระบวนการ ก็จะทำให้เสียเวลาและต้นทุนโดยใช่เหตุ เนื่องจากจะต้องมีขั้นตอนที่เพิ่มขึ้นในการแก้ไขหรือตรวจสอบคุณภาพ และยังทำให้คุณค่าของงานลดลงอีกด้วย

"ดังนั้นเวลาทำงานหรือทำอะไรก็ตาม กระบวนการที่เร็วขึ้นไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป ขั้นตอนที่รวดเร็วแต่ขาดความเรียบร้อย จะต้องมาเสียเวลาเพื่อทำให้เรียบร้อยอีกครั้ง ถ้าต้องเป็นแบบนั้นจริงๆ ทำไมเราไม่ทำให้ดีไปเลยตั้งแต่แรกล่ะ" (แค่ขนมครกยังคิดไปได้ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าที่ถามต้องการจะว่าอะไรลูกน้องหรือเปล่า)

อ่านมาจากบทความของ...สุณิสา ม่วงสุขศรี



Create Date : 28 มกราคม 2552
Last Update : 28 มกราคม 2552 12:44:32 น. 3 comments
Counter : 6055 Pageviews.

 
ถูกต้อง

ถ้าปริมาณงานมากแต่เวลาน้อยค่อยพิถีพิถันน้อยลง ม้าง..

ปัจจัย ปริมาณ เวลา ราคา มันอยู่ตรงนี้แหล่ะ

เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ


โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:13:05:53 น.  

 

สวัสดีคะ แวะมาทักทาย



โดย: หน่อยอิง วันที่: 28 มกราคม 2552 เวลา:13:59:51 น.  

 
แวะมาทักทาย


โดย: เด็กโนนสูง IP: 192.168.182.197, 203.172.162.250 วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:09:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

JazzLover
Location :
ลำปาง Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




หนุ่มราศีมังกร เลือดกรุ๊ปโอ ตัวโต ขี้ใจน้อย เหงาบ้างเป็นบางอารมณ์ และชอบหาเพลงมาฟังแก้เหงาประจำ...ฟังเพลงทุกประเภท
New Comments
Friends' blogs
[Add JazzLover's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.