เป็นการทำแฟชั่นโชว์ครั้งแรก ถือว่ากดดันมากกว่าตื่นเต้น ความตื่นเต้นมันไปโผล่วันจริงซะมากกว่า
เป็นความท้าทายที่น่ากลัวของเด็กวัยรุ่นอายุ19อย่างเต้มากๆ ว่าจะทำออกมาได้ดีแค่ไหน แฟชั่นก็ไม่ได้เรียนมา เกิดจากการอ่านการค้นคว้าล้วนๆ เมคอัพ ผมก็ไม่เคยเรียน เรียนทางอินเตอร์เน็ตทั้งนั้นFree TextEditor
อันนี้เป็นภาพโปรโมตโปสเตอร์แฟชั่น ภาพนี้ยังไม่ได้ลงรายละเอียดพวกตัวหนังสือ ให้ดูภาพเต็มๆ เริ่มแรกเลยผมและเพื่อนๆได้เสนอหัวข้อแฟชั่นโชว์ไปในงานวิชา Fine art project หัวข้อ performance ซึ่งคอนเซ็ปงานก็คือ Art Mun Futuristic เราต้องนำเสนอแฟชั่นในคอนเซ็ปของศิลปะ โดยHeadของงานนี้ที่ได้รับเลือกคือ จิรายุทธ์ (ผมเอง) พัชราวรรณ ธนากร เรา ทำกันเองตั้งแต่ หานางแบบ ออกแบบชุด แกะแพทเทิ้ลเสื้อผ้า ตัดแพทเทิ้ล เย็บมือ เย็บจักร แต่งหน้า ทำผม ทำร้องเท้า เวทีต่างๆทำเอง หมด ด้วยงบที่มีจำกัด บวกกับงานนี้เป็นงานของทางคณะด้วย ก็นึกเสมอว่า ต้องเต็มที่ คนน้อยแต่เราต้องสู้ว้อยยยยย คอนเซ็ปของแฟชั่นครั้งนี้คือ 5 เผ่าพันธุ์มนุษย์ แห่งอนาคต....... ....."ยูนิฮิวแมน" (Unihumans) จุดเริ่มต้นเผ่าพันธุ์ : 1 ล้านปีข้างหน้า เป็นมนุษย์ที่มีพันธุกรรมหลากเชื้อชาติรวมอยู่ในตัวคนเดียว จนแยกเชื้อชาติไม่ออก ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย นั่นคือ ช่วยลดความขัดแย้งเรื่องชาติพันธุ์ แต่ก็จะทำให้วัฒนธรรมเฉพาะของคนแต่ละเชื้อชาติสูญหายไป -คนทุกคนเหมือนกัน เป็นเผ่าที่เริ่มแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร การแบ่งแยกเชื้อชาติเริ่มหายไป ทุกคนเหมือนกัน ไม่มีอะไรมาแบ่งแยกมนุษย์ออกเป็นกลุ่มๆ ......"นูแมน" (Numans) จุดเริ่มต้นเผ่าพันธุ์ : 2 ล้านปีข้างหน้า เป็นมนุษย์ที่พยายามยกตัวเองขึ้นเหนือขีดจำกัดทางธรรมชาติผ่านกระบวนการ "ดัดแปลงพันธุกรรม" ซึ่งขัดต่อหลักศาสนาและหลักศีลธรรม ในที่สุด "นูแมน" จะต้องขัดแย้งกับธรรมชาติอย่างรุนแรง -มนุษย์พยายามจะอยู่เหนือกฎธรรมชาติ ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิง ผู้ชายไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชาย มนุษย์อยู่เหนือกฏเกณฑ์ธรรมชาติและศีลธรรม เพศสามารถแยกออกได้กว่าที่เป็นอยู่ ....."ไซบอร์ก" (Cyborg) จุดเริ่มต้นเผ่าพันธุ์ : 3 ล้านปีข้างหน้า การผ่าตัดนำเอา "จักรกล" เข้ามาผสมผสานกับร่างกายมนุษย์ หรือที่เรียกว่า "มนุษย์ไซบอร์ก" กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา ภูมิต้านทานในร่างกายคนเราจะเริ่มต่อต้านจักรกล ซึ่งเป็นสิ่งแปลกปลอมในร่างกายน้อยลง แต่ต้องระวังว่าจักรกลที่มี "ปัญญาประดิษฐ์" ก็จะพัฒนาตัวเองขึ้นมาแข่งขันกับมนุษย์เช่นกัน -มนุษย์พยายามจะไม่ใช่มนุษย์ พยายามจะแข่งขันกับคอมพิวเตอร์และเครื่องจักร เปรียบเสมือนมนุษย์เราพยายามจะควบคุมคนอื่นให้อยู่การควบคุมบังคับของตนเอง ....."เซอร์ไววอลิสเทียน" (Survivalistians) จุดเริ่มต้นเผ่าพันธุ์ : 1 ล้านปีข้างหน้า ผลพวงจากเหตุการณ์โลกาวินาศ เช่น สงครามนิวเคลียร์ หรือ เหตุดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก ทำให้ร่างกายมนุษย์เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเพื่อความอยู่รอด เช่น มีผิวหนังที่ทนต่อกัมมันตรังสีและมีสายตาที่มองในเวลากลางคืนชัดเจนยิ่ง ขึ้น -เป็นช่วงสงครามของมนุษย์ มนุษย์ต้องการการปกป้องตัวเอง หรืออุปกรณ์ที่ช่วยในการดำรงชีวิตให้อยู่รอดได้จากสงคราม อย่างถ้าช่วงสงคราม ทุกอย่างถูกทำลายล้างหมด มนุษย์ต้องการการอยู่รอด ต้องมีสัญญาณให้ทราบว่านี่คือมนุษย์ด้วยกันรึป่าว เป็นการสร้างสิ่งป้องกันตัวเองจากสงคราม ......."แอสทรานส์" (Astrans) จุดเริ่มต้นเผ่าพันธุ์ : 4 ล้านปีข้างหน้า "แอสทรานส์" คือมนุษย์ที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรมและผ่าตัดผสมผสานจักรกลเข้ามาไว้ในร่างกายด้วยในขณะเดียวกัน วัตถุประสงค์เพื่อให้สามารถกลับไปสู่จุดเริ่มต้น หรือเริ่มต้นเพื่อสรรหาสิ่งใหม่ๆ -มนุษย์เราปกติหลังจากพบเจอความสูญเสียความล้มเหลว ก็มักจะเชื่อว่าต้องมีสิ่งดีๆเข้ามา กลับไปจุดเริ่มต้น หรือสรรค์หาสิ่งใหม่ๆเพื่อการ เริ่มต้นใหม่ที่ดี มนุษย์จึงปรารถนาความสุข ความสวยงาม ความสงบ หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายๆต่างๆ เพลงที่ใช้ในโชว์ 1 Ciara - Like a boy (Instrumental) 2 Sean Paul - Get Busy (Instrumental) 3 Now I'm That Bitch (Instrumental) 4 Nicole scherzinger - Whatever u like (Instrumental) 5 Rihanna - Russian Roulette (Instrumental) มาดูภาพงานกันดีกว่า ภาพไม่เยอะมาก คือเราเต็มที่กันทุกคน คือบางคนทำเป็นสิบหน้าที่ เรียกว่าทำอะไรทำหมด อย่างเต้เองทำตั้งแต่ออกแบบ คิดคอนเซ็ป เมคอัพ21คน ตัดเย็บชุด แกะแพทเทิ้ล แบกเวที จัดสถานที่ จัดคิวนางแบบ ฟิตติ้งนางแบบ ก็มีเพื่อนๆช่วยกัน ขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย เต้อาจไม่ใช่Headที่เก่งมาก แต่เต้พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ขาดตกอะไรขออภัยด้วยนะจ๊ะ
แคทวอร์คก่อนวันจริง
กำลังแต่งหน้าให้นางแบบอย่างเมามัน เมาจิงเพราะนอนแปดโมง ตื่นสิบโมง โอ้ก๊อด
Text Editor By PANTIP.COM
ถ่ายกะนางแบบชุดฟินนาเร่ก่อนงานเริ่ม
คนนี้อยู่เซทที่สอง
หลังเวที
ถ่ายกับฉากหน้างาน
คนนี้อยู่เซทสี่ ต้องการให้ได้อารมณ์งานศพมากที่สุด
นมแหลมนี่เซทแรก
set2
set 2
set1
back stage
set3
set3
set3
set3
set3
set5
the end
คนมาดูเยอะมาก เยอะจนกลัวจนตื่นเต้นไปหมด คนมาดูมากกว่า500คน อาจเพราะเราจัดในคณะด้วย