วิธีการทำนามบัตรง่ายๆด้วยโปรแกรมMicrosoft Word


หลาย ๆ คนมักจะคิดว่าโปรแกรม Microsoft Word เป็นโปรแกรมพิมพ์เอกสารเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่าโปรแกรม Microsoft Word ยังมีความสามารถในด้านต่างๆ เช่น การประยุกต์ทำใบปลิว แผ่นพับ รวมทั้งนามบัตร ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการทำนามบัตร ด้วย Microsoft Word  2007  เป็นการทำนามบัตรอย่างง่ายที่คุณก็สามารถทำตามได้

วิธีทำนามบัตร word 2007

1. เปิดไฟล์เอกสารเปล่าขึ้นมา

2. แทรกตารางโดยใช้ 2คอลัมน์ 5แถว

3. คลิกขวาตารางแล้วปรับขนาดของตารางให้ สูง 5.3 cm กว้าง 8.9 cm ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของนามบัตรทั่วไป


ปรับขนาด


4. เลือก แทรกรูปร่าง และใส่พื้นสีให้กับตัวนามบัตร


เลือกโทนสี


5. กรอกข้อความส่วนตัว โคยการคลิกขวาเเล้วเพิ่มข้อความ จัดองค์ประกอบให้สวยงาม


6. แทรกรูป logo เพื่อจัดองค์ประกอบให้สวยงาม


7.  ทำการ Copy นามบัตรไปยังทุกๆช่องของตาราง จากนั้นก็สามารถนำไฟล์ไปปริ้นใช้งานได้เลย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

//www.uniserv.buu.ac.th/km/?p=968




Create Date : 21 ธันวาคม 2559
Last Update : 21 ธันวาคม 2559 23:10:13 น.
Counter : 3007 Pageviews.

1 comment
โทษของสุรา การดื่มเหล้า ส่งผลต่ออวัยวะในร่างกาย และกระทบต่อสังคม




โทษของสุรา 
สุราหรือแอลกอฮอล์ เป็นสารเสพติดที่มีทั้งคุณและโทษ เมื่อดื่มแล้วจะทำให้เกิดผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง โดยโทษของสุรานั้นอาจมีตั้งแต่ขั้นเบา ไปจนถึงขั้นรุนแรงอย่างเช่น เสียการทรงตัว พูดไม่ชัด และที่รุนแรงคือหมดสติ ดังนั้นสุราจึงถูกควบคุมทั้งการจำหน่าย และการผลิต จากกฏหมายอย่างเคร่งครัด

ประเภทของแอลกอฮอล์มีสองชนิด
1. Ethyl alcohol ซึ่งใช้สำหรับเป็นเครื่องดื่ม เช่น วิสกี้, บรั่นดี, เบียร์ เหล้าองุ่น, แชมเปญ 
2. Methyl alcohol ซึ่งใช้จุดไฟหรือผสมสี ซึ่งแอลกอฮอล์ประเภทนี้ใช้ดื่มไม่ได้เพราะมีอันตรายกับร่างกายโดยเฉพาะทำให้ตาบอดได้

ปริมาณของแอลกอฮอล์ใช้ในเครื่องดื่มทั่วไป

1. เบียร์ มีปริมารแอลกอฮอล์ 4-8 ดีกรี 
2. ไวน์ มีปริมารแอลกอฮอล์ 8-15 ดีกรี 
3. วิสกี้ (สุรา) มีปริมารแอลกอฮอล์ 28-95 ดีกรี

โทษของการดื่มสุราต่ออวัยวะต่างๆ 
โทษของการดื่มสุรา ต่ออวัยวะภายในของร่างกาย ด้านสุขภาพ เป็นสาเหตุหลักในการเสียชีวิต ทั้งผลเสียทั้งในระยะสั้นและระยะสะสม หากดื่มสุราติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน (ติดเหล้า) จะส่งผลอย่างแน่นอนกับระบบความจำ ระบบประสาท ระบบเลือด ความดัน และที่ส่งผลโดยตรงต่ออวัยวะในร่างกายคือ “ตับ” พิษภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังส่งผลต่อสมองที่รุนแรงขึ้นหากดื่มตั้งแต่อายุยังน้อย

1. โทษต่อสมองและระบบประสาท


ระบบประสาทส่วนปลาย : จะทำให้เกิดมีหลายประสาทอักเสบ มีอาการชาตามปลายมือ, ปลายเท้า เป็นอาการของเหน็บชา, อาการทรงตัวเสียไป
สมอง : เมื่อเริ่มดื่มสุราใหม่ ๆ จะทำให้ระบบควบคุมการทำงาน จะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า, สดชื่น มีการเปลี่ยนแปลทางบุคลิก เมื่อดื่มสุรามากขึ้นจะเกิดอาการมึนเมาง่วงนอนหลับ หมดสติ 
การที่ดื่มสุราเรื้อรัง : จะมีการเปลี่ยนแปลงในสมองทำให้ความจำเสื่อม, ความคิดเลอะเลือน เมื่อเป็นระยะนานขึ้นจะทำให้สมองเสื่อมทำให้การทรงตัวเสีย จะมีลักษณะเดินไม่ตรงทาง เมื่อเอ็กซเรย์สมองจะพบว่าขนาดของสมองเล็กลง จะมีการเปลี่ยนแปลงทางบุคลิกภาพ ไม่สนใจต่อสิ่งแวดล้อมบางครั้งจะเศร้าซึม หรือบางครั้งจะมีประสาทหลอน ระแวงว่าจะมีคนมาทำอันตราย

2. ผลต่อระบบทางเดินอาหารและตับ



กระเพาะอาหาร : พิษของสุราจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารถูกทำลาย ซึ่งกรดในกระเพาะก็จะเพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบ เป็นแผลในกระเพาะ จะทำให้เกิดมีอาการปวดท้องหรืออาเจียนเป็นเลือดได้ 
ตับอ่อน : เมื่อดื่มสุรามากๆ แอลกอฮอล์จะไปกระตุ้นตับอ่อนทำให้หลั่งน้ำย่อยออกมามาก ทำให้เกิดมีตับอ่อนอักเสบมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ไข้สูง ในบางครั้งอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ 
ตับ : ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญในการทำลายแอลกอฮอล์ เมื่อแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกายแล้ว จะถูกดูดซึมเข้าลำไส้ แล้วส่งตรงไปยังตับเพื่อลาย เมื่อมีปริมารน้อยร่างกายก็ทนทานได้เมื่อมีปริมารมากขึ้นตับก็จะบวม มีไขมันไปแทรกตามเซลล์ของตับ เมื่อมีอาการนานเข้าจะทำให้เกิดโรคตับแข็ง ซึ่งจะมีอาการมานน้ำอาเจียนเป็นเลือด และอาจจะแปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็งของตับได้ ดังนั้นโทษของการดื่มสุราอย่างเห็นได้ชัดในคนส่วนใหญ่คือการเป็นโรคตับแข็งนั่นเอง

3. ระบบหัวใจและหลอดเลือด



ระบบหัวใจ เมื่อดื่มสุรามาก ๆ จะทำให้การเต้นและการบีบตัวของหัวใจไม่ปกติ หัวใจเต้นเร็วขึ้นและขณะเดียวกันถ้าดื่มสุรามากจะขาดวิตามินบีหนึ่ง ก็จะทำให้กล้ามเนื้อของหัวใจทำงานไม่ดี ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้เกิดหัวใจโต ทำงานไม่ได้ตามปกติ จะมีอาการเต้นไม่ปกติได้ 
ระบบหลอดเลือด แอลกอฮอล์จะทำให้เส้นเลือดขยายตัวและทำให้ไขมันในเลือดสูงทำให้เส้นเลือดแข็งตัวง่าย ซึ่งจะทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้ง่าย

4. โทษของสุราต่อระบบเม็ดเลือด
แอลกอฮอล์จะทำให้การทำงานของเม็ดเลือดแดงเสีย จะทำให้มีอาการของเลือดจาง ขาดสารพวกโฟลิก เม็ดเลือดขาวก็จะมีการผลิตน้อยลง ความต้านทานลดต่ำลง การหยุดเลือดในร่างกายไม่ดีเนื่องจากเกร็ดเลือดทำหน้าที่ไม่ดีทำให้มีอาการตกเลือดได้ง่าย 
5. อัตราการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ
การเกิดมะเร็งในอวัยวะต่างๆ เป็นสาเหตุการตายอันดับที่สองของกลุ่มคนที่ติดสุราเรื้อรัง และมีโอกาสเกิดมะเร็งสูงถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับคนปกติ อวัยวะที่พบมะเร็งได้บ่อยคือหลอดอาหาร กระเพาะ ตับ และตับอ่อน
6. ระบบขับถ่ายและอวัยวะสืบพันธุ์



แน่นอนว่าเมื่อดื่มแอลกอฮอล์น้อยๆ จะมีความต้องการทางเพศสูง แต่เมื่อดื่มเรื้อรังความต้องการทางเพศจะลดลง และอาจจะส่งผลทำให้ลูกอัณฑะเล็กลงได้ ส่วนในผู้หญิงตั้งครรภ์ถ้าดื่มสุรา จะทำให้เกิดการแท้งหรือคลอดบุตรเร็ว และบุตรมีโอกาสเกิดมาเป็นเด็กที่มีความผิดปกติได้สูง

โทษของการดื่มสุราต่อสังคม
โทษของสุราต่อสังคมที่เป็นปัญหาในทุกวันนี้คงหนีไม่พ้น การเมาแล้วขับ ที่เรามักพบเจอบ่อยๆในช่วงเทศกาลหยุดยาว ซึ่งสาเหตุการเสียชีวิตจากการเมาแล้วขับ ทั้งตัวเราและคนรอบข้างนั้นถือครองอันดับ 1 ในการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมายาวนานเป็นเวลาหลายปี

อุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ 
เนื่องจากผู้ที่ดื่มสุราหรือเหล้า มักมีความมั่นใจว่าไม่เมา มั่นใจว่ามีสติขับรถได้จริงๆ แต่ในความเป็นจริงนั้น โทษของสุราที่ดื่มเข้าไปจะไปกดประสาทส่วนกลาง ทำให้การรับรู้เรื่องราวต่างๆช้าลง และส่งกระทบผลต่อระบบการตัดสินใจ จึงยังไม่สามารถควบคุมตนเองได้เต็มร้อย จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ได้สูงมาก



การทะเลาะวิวาท 
สุรามีผลกระทบต่อสมองส่วนหน้า เป็นส่วนควบคุมสติ และการตัดสินใจ ดังนั้นคนที่เมาสุราจึงมักจะหาเรื่องทะเลาวิวาทกับผู้อื่นเป็นประจำ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อคนรอบข้างด้วยเช่นกัน


ฆาตกรรม 
มีผลการศึกษาคดีฆาตรกรรมจากการผ่าพิสูจน์ศพ โดยพบว่ามากกว่า 60% ของผู้ที่เสียชีวิต/ก่อนเหตุจากคดีฆาตรกรรม ตรวจพบว่าในร่างกายมีเหล้าผสมด้วยอยู่เสมอ เพราะการดื่มเหล้าจะช่วยให้ศูนย์ควบคุมจิตใจทำงานได้แย่ลง ส่งผลให้ทำในสิ่งที่กล้าได้มากขึ้น 

การฆ่าตัวตาย 
ผลการวิจัยพบว่าในจำนวนคนกว่า 50% ของผู้ที่เคยฆ่าตัวตายนั้น จะต้องดื่มสุราเพื่อเรียกความกล้าก่อนเสมอ เนื่องจากเมื่อสุราออกฤทธิ์ไปยังสมองส่วนกลางแล้ว จะทำให้ผู้ดื่มรู้สึกคลายทุกข์ และมีความกล้าเพิ่มขึ้น

วิธีหลีกเลี่ยง และเลิกดื่มสุรา

1. เมื่อมีอายุน้อยไม่ควรจะดื่มสุรา เนื่องจากยังไม่สามารถจะคิดและพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียของสุรา จะทำให้ติดสุราโดยง่าย 
2. ไม่ควรทดลองดื่มสารที่ผสมด้วยแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้เกิดการติดตามไปดื่มสุราได้ 
3. ควรขจัดค่านิยมว่าลูกผู้ชายต้องดื่มสุรา 
4. ผู้ที่ดื่มสุรามากควรจะได้ศึกษาโทษและอันตรายที่เกิดกับสุรา 
5. ควรจะพยายามหาสาเหตุที่แท้จริงที่ทำไห้ดื่มสุราและแก้ไข 
6. กรณีไม่สามารถเลิกได้อย่างจริงจัง ก็ให้ใช้ยาช่วยให้หยุดดื่มสุรา เนื่องจากถ้ารับประทานยานั้นแล้วดื่มสุราจะทำให้เกิดอาการอาเจียนทำให้ดื่มไม่ได้ 
7. ปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากดื่มสุรา เช่น โรคประสาท โรคตับ โรคกระเพาะ
//www.thailovehealth.com/disease/health-1307.html



Create Date : 21 ธันวาคม 2559
Last Update : 21 ธันวาคม 2559 14:48:22 น.
Counter : 5480 Pageviews.

1 comment
สมาชิกในกลุ่ม


1.นางสาวปิยดา  เหลื่อมศรีจันทร์

2.นางสาวขวัญลัดดา  วินทะไชย

3.นายธีระศักดิ์  กอบุญ





Create Date : 20 ธันวาคม 2559
Last Update : 20 ธันวาคม 2559 21:12:55 น.
Counter : 932 Pageviews.

0 comment
อาหารหลัก 5 หมู่ ประโยชน์ และการจำแนก








อาหารหลัก 5 หมู่ คือ อาหารที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน 5 ชนิด โดยนำอาหารที่มีสารอาหารเหมือนกัน มาไว้ในหมวดหมู่เดียวกัน ซึ่งคนเราในแต่ละวันนั้น 
ต้องการสารอาหารทั้ง 5 ชนิด ดังนั้นเราควรกินอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่

อาหารหลัก 5 หมู่ จำแนกได้ดังนี้
หมู่ที่ 1 โปรตีน 
หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต
หมูู่ที่ 3 วิตามิน
หมู่ที่ 4 แร่ธาตุ
หมู่ที่ 5 ไขมัน

เพื่อความเข้าใจง่ายเราจะจัด อาหารหลัก 5 หมู่ กันใหม่ เพื่อการจดจำที่ง่าย และ สามารถหาทานได้อย่างถูกต้อง จะได้มีประโยชน์อย่างแท้จริง
 ซึ่งเราจะจำแนกออกเป็น 5 หมู่ และบอกประโยชน์ รวมทั้งตัวอย่างดังนี้
อาหารหลัก 5 หมู่ ดังนี้

อาหารหมู่ที่ 1 เนื้อสัตว์ ไข่ นม และถั่วเมล็ดแห้ง (โปรตีน)

ให้สารอาหารประเภท โปรตีน

ประโยชน์
- ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานโรค
- ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ของร่างกาย อันได้แก่แผลต่างๆ หรือจากการเจ็บป่วย
- จะถูกนำไปสร้างกระดูก กล้ามเนื้อ เลือด เม็ดเลือด ผิงหนัง น้ำย่อย ฮอร์โมน ตลอดจนภูมิต้านทานเชื้อโรคต่าง ๆ

สรุปให้จำง่ายๆ คือ เจริญเติบโต ซ่อมแซม สร้าง

โปรตีน เป็นส่วนประกอบหลักของทุก ๆเซลล์ในร่างกาย จึงถือได้ว่าอาหารหมูนี้เป็นอาหารหลักที่สำคัญในการสร้างโครงสร้าง
ของร่างกายในการเจริญเติบโต และทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้เป็นปกติ


อาหารหมู่ที่ 2 ข้าวแป้ง น้ำตาล เผือก มัน (คาร์โบไฮเดรต)

ให้สารอาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต

ประโยชน์
- ให้ พลังงาน แก่ร่างกาย ให้ร่างกายสามารถทำงานได้
- ให้ ความอบอุ่น แก่ร่างกาย

สรุปให้จำง่ายๆ คือ ให้ พลังงาน+ความอบอุ่น

พลังงานที่ได้จากหมู่นี้ส่วนใหญ่จะใช้ให้หมดไปวันต่อวันเช่น ใช้ในการวิ่ง เล่น เดิน ทำงาน การออกกำลังกายต่าง ๆ 
แต่ถ้ากินอาหารหมู่นี้มากจนเกินความต้องการของร่างกาย ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน และทำให้เกิดโรคอ้วนได้

อาหารหมู่ที่ 3 ผักต่างๆ (วิตามิน+แร่ธาตุ)

ให้สารอาหารประเภท วิตามิน และแร่ธาตุ

ประโยชน์
- ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีความต้านทานเชื้อโรค
- ช่วยให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ
- มีกากใยมาก ทำให้ลำใส้ทำงานปกติ ขับถ่ายง่าย

ตัวอย่างอาหารหลัก หมู่นี้ คือ ผักต่าง ๆ
 เช่น ตำลึง ผักบุ้ง ผักกาด และผักใบเขียวอื่น ๆ นอกจากนั้นยังรวมถึงพืชผักอื่น ๆ เช่น มะเขือ ฟักทอง ถั่วฝักยาว เป็นต้น

อาหารหมู่ที่ 4 ผลไม้ต่างๆ (วิตามิน+แร่ธาตุ)
ให้สารอาหารประเภท วิตามิน และแร่ธาตุ

ประโยชน์
- ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีความต้านทานเชื้อโรค
- ช่วยให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ
- มีกากใยมาก ทำให้ลำใส้ทำงานปกติ ขับถ่ายง่าย


อาหารหมู่ที่ 5 น้ำมัน และไขมัน จากพืชและสัตว์ (ไขมัน)

ให้สารอาหารประเภท ไขมัน

ประโยชน์
- ให้พลังงานแก่ร่างกาย
- สะสมไว้ใต้ผิวหนังส่วนต่างๆ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และร่างกายจะดึงออกมาใช้เมื่อเวลาจำเป็น-
- ช่วยดูดซึมวิตามินชนิดละลายในไขมัน อันได้แก่ วิตามิน เอ ดี อี และ เค


สามารถแบ่งอาหาร กลุ่มไขมัน ได้เป็น 2 ประเภท
1 อาหารไขมันดี คือ ไขมันที่อุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นซึ่งจัดเป็นไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาใช้เองได้นั้นมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ รวมถึงใช้ในการผลิตฮอร์โมนบางชนิด อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันดี ได้แก่ โอเมก้า 3 น้ำมันปลา ผัก ถั่วและเมล็ดธัญพืช
2.อาหารไขมันร้าย ได้แก่ ไขมันอิ่มตัว (ที่พบมากในเนื้อ เนย นมสดและเนยแข็ง) และไขมันทรานส์ (ที่พบมากในอาหารจำพวก มาการีน ขนมบรรจุและขนมอบ) โดยไขมันร้ายทั้งสองชนิดนี้จะเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดและนำมาสู่โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด และโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ เป็นต้น

ดังนั้นเราควรทานอาหารให้ได้ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อจะได้ทำให้ร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง เพื่อที่จะทำให้ร่างกายไม่เจ็บป่วย สุขภาพจิตใจ และร่างกาย ดีตลอดไป 
คลิป อาหารหลัก 5 หมู่ 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
//www.rakjung.com/healthy-no130.html



Create Date : 17 ธันวาคม 2559
Last Update : 21 ธันวาคม 2559 14:19:55 น.
Counter : 634 Pageviews.

1 comment
ความหมายของพระสุตตันตปิฎก




ความหมายของพระสุตตันตปิฎก
พระสุตตันตปิฎก ประมวลพุทธพจน์หมวดพระสูตรคือ พระธรรมเทศนา คำบรรยายธรรมต่างๆ ที่ตรัส
ยักเยื้องให้เหมาะกับบุคคลและโอกาสตลอดจนบทประพันธ์เรื่องเล่า และเรื่องราวทั้งหลายที่เป็นชั้นเดิมในพระ
พุทธศาสนา แบ่งเป็น ๕ นิกาย (เรียกย่อหรือหัวใจว่าที ม สํ อํ ขุ) คือ
๑. ทีฆนิกาย ชุมนุมพระสูตรที่มีขนาดยาว ๓๔ สูตร
๒. มัชฌิมนิกาย ชุมนุมพระสูตรที่มีความยาวปานกลาง๑๕๒ สูตร
๓. สังยุตตนิกาย ชุมนุมพระสูตรที่จัดรวมเข้าเป็นกลุ่มๆเรียกว่าสังยุตต์หนึ่งๆ ตามเรื่องที่เนื่องกัน หรือตาม
หัวข้อหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องรวม ๕๖สังยุตต์ มี ๗,๗๖๒ สูตร
๔. อังคุตตรนิกาย ชุมนุมพระสูตรที่จัดรวมเข้าเป็นหมวดๆเรียกว่านิบาตหนึ่งๆ ตามลำดับจำนวนหัวข้อธรรม
รวม ๑๑ นิบาต หรือ ๑๑ หมวดธรรม มี ๙,๕๕๗ สูตร
๕. ขุททกนิกาย ชุมนุมพระสูตร คาถาภาษิต คำอธิบายและเรื่องราวเบ็ดเตล็ดที่จัดเข้าในสี่นิกายแรกไม่ได้มี ๑๕
คัมภีร์
พระสุตตันปิฎก ๒๕ เล่ม
๑. ทีฆนิกาย ๓ เล่ม
เล่ม ๙ สีลขันธวรรค มีพระสูตรขนาดยาว ๑๓ สูตรหลายสูตรกล่าวถึงจุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล
เล่ม ๑๐ มหาวรรค มีพระสูตรยาว ๑๐ สูตรส่วนมากชื่อเริ่มด้วย "มหา" เช่น มหาปรินิพพานสูตร มหาสติ
ปัฏฐานสูตร เป็นต้น
เล่ม ๑๑ ปาฏิกวรรค มีพระสูตรยาว ๑๑ สูตรเริ่มด้วยปาฏิกสูตร หลายสูตรมีชื่อเสียงเช่น จักกวัตติสูตร อัคคัญญ
สูตร สิงคาลกสูตร และสังคีติสูตร
๒. มัชฌิมนิกาย ๓ เล่ม
เล่ม ๑๒ มูลปัณณาสก์ บั้นต้น มีพระสูตรขนาดกลาง ๕๐ สูตร
เล่ม ๑๓ มัชฌิมปัณณาสก์ บั้นกลางมีพระสูตรขนาดกลาง ๕๐ สูตร
เล่ม ๑๔ อุปริปัณณาสก์ บั้นปลายมีพระสูตรขนาดกลาง ๕๒ สูตร
๓. สังยุตตนิกาย ๕ เล่ม
เล่ม ๑๕ สคาถวรรค รวมคาถาภาษิตที่ตรัสและกล่าวตอบบุคคลต่างๆเช่นเทวดามาร ภิกษุณี พราหมณ์ พระเจ้า
โกศล เป็นต้นจัดเป็นกลุ่มเรื่องตามบุคคลและสถานที่ มี ๑๑ สังยุตต์
เล่ม ๑๖ นิทานวรรค ครึ่งเล่มว่าด้วยเหตุปัจจัยคือหลักปฏิจจสมุปบาท นอกนั้น มีเรื่องธาตุ การบรรลุธรรม สังสาร
วัฏ ลาภสักการะ เป็นต้น จัด เป็น ๑๐สังยุตต์
เล่ม ๑๗ ขันธวารวรรค ว่าด้วยเรื่องขันธ์ ๕ ในแง่มุมต่างๆมีเรื่องเบ็ดเตล็ดรวมทั้งเรื่อง สมาธิและทิฏฐิต่างๆ
ปะปนอยู่บ้าง จัดเป็น ๑๓ สังยุตต์
เล่ม ๑๘ สฬายตนวรรค เกือบครึ่งเล่มว่าด้วยอายตนะ ๖ตามแนวไตรลักษณ์ เรื่องอื่นมีเบญจศีล ข้อปฏิบัติให้ถึง
อสังขตะ อันตคาหิกทิฏฐิ เป็นต้นจัดเป็น ๑๐ สังยุตต์
เล่ม ๑๙ มหาวรรค ว่าด้วยโพธิปักขิยธรรม ๓๗แต่เรียงลำดับเป็นมรรค โพชฌงค์ สติปัฏฐาน อินทรีย์ สัมมัปปธาน
พละ อิทธิบาทรวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น นิวรณ์ สังโยชน์ อริยสัจจ์ ฌานตลอดถึงองค์คุณของพระโสดาบันและอา
นิสงส์ของการบรรลุโสดาปัตติผลจัดเป็น ๑๒ สังยุตต์ (พึงสังเกตว่าคัมภีร์นี้เริ่มต้นด้วยการย้ำความสำคัญของความ
มีกัลยาณมิตรเป็นจุดเริ่มต้นเข้าสู่มรรค)
๔. อังคุตตรนิกาย ๕ เล่ม
เล่ม ๒๐ เอก-ทุก-ติกนิบาต ว่าด้วยธรรม หมวด ๑ หมวด ๒ หมวด ๓รวมทั้งเรื่องเอตทัคคะ
เล่ม ๒๑ จตุกกนิบาต ว่าด้วยธรรมหมวด ๔
เล่ม ๒๒ ปัญจก-ฉักกนิบาต ว่าด้วยธรรมหมวด ๕-๖
เล่ม ๒๓ สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต ว่าด้วยธรรมหมวด ๗-๘-๙
เล่ม ๒๔ ทสก-เอกาทสกนิบาต ว่าด้วยธรรมหมวด ๑๐-๑๑
ในอังคุตตรนิกายมีข้อธรรมหลากหลายลักษณะตั้งแต่ทิฏฐธัมมิกัตถะถึงปรมัตถะ ทั้งสำหรับบรรพชิต และ
สำหรับคฤหัสถ์ กระจายกันอยู่โดยเรียงตามจำนวน
๕. ขุททกนิกาย ๙ เล่ม
เล่ม ๒๕ รวมคัมภีร์ย่อย ๕ คือ ขุททกปาฐะ(บทสวดย่อยๆโดยเฉพาะมงคลสูตร รตนสูตร กรณียเมตตสูตร)
ธรรมบท(เฉพาะตัวคาถาทั้ง๔๒๓) อุทาน(พุทธอุทาน ๘๐) อิติวุตตกะ(พระสูตรที่ไม่ขึ้นต้นด้วย"เอวมฺเม สุตํ"
แต่เชื่อมความเข้าสู่คาถาด้วยคำว่า "อิติวุจฺจติ" รวม ๑๑๒ สูตร) และสุตตนิบาต(ชุมนุมพระสูตรชุดพิเศษซึ่ง
เป็นคาถาล้วนหรือมีความนำเป็นร้อยแก้วรวม ๗๑ สูตร)
เล่ม ๒๖ มีคัมภีร์ย่อยที่เป็นคาถาล้วน ๔ คือวิมานวัตถุ(เรื่องผู้เกิดในสวรรค์อยู่วิมานเล่าการทำความดีของตนใน
อดีต ที่ทำให้ได้ไปเกิดเช่นนั้น ๘๕เรื่อง) เปตวัตถุ(เรื่องเปรตเล่ากรรมชั่วในอดีตของตน๕๑ เรื่อง) เถรคาถา(คาถา
ของพระอรหันตเถระ ๒๖๔รูปที่กล่าวแสดงความรู้สึกสงบประณีตในการบรรลุธรรมเป็นต้น) เถรีคาถา(คาถาของ
พระอรหันตเถรี ๗๓ รูปที่กล่าวแสดงความรู้สึกเช่นนั้น)
เล่ม ๒๗ ชาดก ภาค ๑ รวมคาถาแสดงคติธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสเมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์ในอดีตชาติและมี
คาถาภาษิตของผู้อื่นปนอยู่บ้างภาคแรก ตั้งแต่เรื่องที่มีคาถาเดียว (เอกนิบาต) ถึงเรื่องมี ๔๐ คาถา(จัตตาฬีสนิบาต)
รวม ๕๒๕ เรื่อง
เล่ม ๒๘ ชาดก ภาค ๒ รวมคาถาอย่างในภาค ๑ นั้น เพิ่มอีกแต่เป็นเรื่องอย่างยาว ตั้งแต่เรื่องมี ๕๐ คาถา (ปัญญา
สนิบาต) ถึงเรื่องมีคาถามากมาย(มหานิบาต) จบลงด้วยมหาเวสสันดรชาดก ซึ่งมี ๑,๐๐๐ คาถา รวมอีก ๒๒ เรื่อง
บรรจบทั้งสองภาค เป็น ๕๔๗ ชาดก
เล่ม ๒๙ มหานิทเทส ภาษิตของพระสารีบุตรอธิบายขยายความพระสูตร๑๖ สูตร ในอัฏฐกวรรคแห่งสุตตนิบาต
เล่ม ๓๐ จูฬนิทเทส ภาษิตของพระสารีบุตรอธิบายขยายความพระสูตร๑๖ สูตร ในปารายนวรรคและขัคควิสาณ
สูตร ในอุรควรรค แห่งสุตตนิบาต
เล่ม ๓๑ ปฏิสัมภิทามรรค ภาษิตของพระสารีบุตรอธิบายข้อธรรมที่ลึกซึ้งต่างๆเช่นเรื่อง ญาณ ทิฏฐิ อานาปาน
อินทรีย์ วิโมกข์ เป็นต้นอย่างพิสดาร เป็นทางแห่งปัญญาแตกฉาน
เล่ม ๓๒ อปทาน ภาค ๑ คาถาประพันธ์แสดงประวัติโดยเฉพาะในอดีตชาติเริ่มด้วยพุทธอปทาน (ประวัติของ
พระพุทธเจ้า) ปัจเจกพุทธอปทาน(เรื่องราวของพระปัจเจกพุทธเจ้า) ต่อด้วยเถรอปทาน (อัตตประวัติแห่งพระอร
หันตเถระ)เรียงลำดับเริ่มแต่พระสารีบุตร ตามด้วยพระมหาโมคคัลลานะ พระมหากัสสปะ พระอนุรุทธพระปุณณ
มันตานีบุตร พระอุบาลีพระอัญญาโกณฑัญญะ พระปิณโฑลภารทวาชะ พระขทิรวนิยเรวตะ พระอานนท์ ต่อเรื่อย
ไปจนจบภาค ๑ รวม พระอรหันตเถระ ๔๑๐รูป
เล่ม ๓๓ อปทาน ภาค ๒ คาถาประพันธ์แสดงอัตตประวัติพระอรหันตเถระต่ออีกจนถึงรูปที่๕๕๐ ต่อนั้น เป็น
เถรีอปทานแสดงเรื่องราวของพระอรหันตเถรี๔๐ เรื่อง เริ่มด้วยพระเถรีที่ไม่คุ้นนาม ๑๖ รูป ต่อด้วยพระเถรีที่
สำคัญเรียงลำดับคือพระมหาปชาบดีโคตมีพระเขมา พระอุบลวรรณา พระปฏาจารา พระกุณฑลเกสี พระกีสา
โคตมี พระธรรมทินนา พระสกุลาพระนันทา พระโสณา พระภัททกาปิลานี พระยโสธรา และท่านอื่นๆ ต่อไปจน
จบ ครั้นจบอปทานแล้ว ท้ายเล่ม ๓๓ นี้มีคัมภีร์ พุทธวงส์ เป็นคาถาประพันธ์แสดงเรื่องของพระพุทธเจ้าในอดีต
๒๔ พระองค์ที่พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันเคยได้ทรงเฝ้าและได้รับพยากรณ์จนถึงประวัติของพระองค์เองรวม
เป็นพระพุทธเจ้า ๒๕ พระองค์จบแล้วมีคัมภีร์สั้นๆ ชื่อ จริยาปิฎก เป็นท้ายสุด แสดงพุทธจริยาในอดีตชาติ ๓๕
เรื่องที่มีแล้วในชาดกแต่เล่าด้วยคาถาประพันธ์ใหม่ ชี้ตัวอย่างการบำเพ็ญบารมีบางข้อ
พระอรรถกถาจารย์กล่าวว่า พระไตรปิฎกมีเนื้อความทั้งหมด ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ แบ่งเป็น พระวินัยปิฎก
๒๑,๐๐๐ พระธรรมขันธ์พระสุตตันตปิฎก ๒๑,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ และพระอภิธรรมปิฎก ๔๒,๐๐๐ พระธรรม
ขันธ์


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
//www.mcu.ac.th/mcutrai/menu2/menu2_2.htm



Create Date : 14 ธันวาคม 2559
Last Update : 21 ธันวาคม 2559 14:24:22 น.
Counter : 513 Pageviews.

0 comment
1  2  

สมาชิกหมายเลข 3463005
Location :
ร้อยเอ็ด  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวัสดีครับผมทำสิ่งนี้เพื่อส่งอาจารย์เท่านั้นนะครับ