นมเปรี้ยว

นมเปรี้ยวนมเปรี้ยว เป็นน้ำนมหรือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนม ที่มีการเติมเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น เชื้อ แลกโต บาซิลลัส ที่ช่วยในการย่อยอาหาร และผลิตวิตามินเค และทำให้เกิดการหมักตัว มีความเปรี้ยวขึ้น น้ำนมที่นำมาใช้ทำนมเปรี้ยวนั้น มีทั้งเป็นน้ำนมสด และนมที่ได้สกัดเอามันเนยออก แล้วอาจมีการเติมสี กลิ่นรสชาติ เช่นเติมผลไม้เชื่อม หรือเติมรสส้ม องุ่น ลิ้นจี่ ฯลฯ
ประเภทของนมเปรี้ยว
นมเปรี้ยวที่วางขายในท้องตลาดมีหลายชนิดสามารถแบ่งได้ดังนี้
นมเปรี้ยวชนิดผง ดัดแปลงมาจากน้ำนมวัวธรรมดา และคงคุณค่าของสารอาหารในน้ำนมได้ ทั้งด้านโปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่ต่างๆ แต่ผ่านกระบวนการหมัก จนเกิดกรดที่มีรสเปรี้ยวเสียก่อน จึงนำมาทำให้แห้งเป็นผง นมเปรี้ยวชนิดนี้ใช้สำหรับเด็ก โดยใช้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาโรคระบบทางเดินอาหารของเด็ก โยเกิร์ต เป็นผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวที่มีลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลว ทำโดยการเติมเชื้อจุลินทรีย์ หรือเชื้อราบางชนิด ตามธรรมชาติ ที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย ลงไปในนมและทิ้งไว้ให้เกิดการหมัก และเกิดรสเปรี้ยว ในอดีต การผลิตนมเปรี้ยวจะไม่มีการปรุงแต่งสี กลิ่น รส ต่อมาได้มีการพัฒนาดัดแปลงปรุงแต่ง เติมทั้ง สี กลิ่น รส ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างกันหลายอย่างให้ผู้บริโภคเลือกซื้อได้ตามพอใจ นมเปรี้ยวที่เป็นของเหลว มักจะทำมาจากนมขาดมันเนย และมีการเติมน้ำตาลลงไปเพื่อให้เชื้อจุลินทรีย์เจริยเติบโตได้ดี เชื้อจุลินทรีย์ที่ใช้มักจะเป็น แลกโต บาซิลลัส แล้วปล่อยให้เกิดการหมักและย่อยนมบางส่วนจนกระทั่งมีรสเปรี้ยว จึงนำออกมาจำหน่าย นมเปรี้ยวเทียม คือ น้ำนม ที่นำมาเติมกรดแลคติก หรือกรดอื่นๆ เพื่อทำให้เกิดรสเปรี้ยว โดยไม่ผ่านการหมัก หรือเติมจุลินทรีย์ใดๆ แล้วปรุงแต่งสี กลิ่น รส แล้วนำออกมาจำหน่าย ซึ่งทำให้ไม่จำเป็นต้องเก็บในที่ที่เย็น และสามารถเก็บได้นานกว่า นมเปรี้ยวธรรมดา สารอาหารที่ได้รับจากการบริโภคนมเปรี้ยวจะแตกต่างกันออกไปตามนมที่นำมาใช้ในการทำ โดยแยกตามปริมาณของไขมัน มี 3 ระดับคือ นมเปรี้ยวที่มีไขมันสูง จะมีไขมันประมาณ 3% ขึ้นไป นมเปรี้ยวไขมันต่ำ จะมีไขมันปริมาณ 1.5 - 3% และชนิดที่มีไขมันน้อยมาก  นอกจากนี้จะมีปริมาณโปรตีนประมาณ 12 - 18% ส่วนปริมาณคาร์โบไฮเดรทจะมีมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการปรุงแต่งรส และมีปริมาณเหล็กและทองแดงต่ำมาก คุณค่าทางโภชนาการของนมเปรี้ยว จึงขึ้นอยู่กับชนิดของนมที่นำมาใช้ และปรุงแต่งลงไป ถ้าทำมาจากนมสด คุณค่าจะเท่ากับนมสด ถ้าทำมาจากหางนมที่ได้สกัดไขมันออกจะมีคุณค่าทางโภชนาการน้อยลงไป จึงไม่ควรรับประทานนมเปรี้ยวเป็นอาหารหลัก การเลือกซื้อนมเปรี้ยว
 การเลือกซื้อนมเปรี้ยวและโยเกิร์ต เป็นผลิตภัณฑ์ที่ควบคุม เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคก่อนซื้อ ควรพิจารณาอ่านฉลาก ซึ่งต้องมีรายละเอียด คือ ชื่ออาหาร, เลขทะเบียน, ตำรับอาหาร, ชื่อที่ตั้งผู้ผลิต, ปริมาณสุทธิ, ส่วนประกอบที่สำคัญ, วันเดือนปีที่ผลิต หรือวันหมดอายุ, คำแนะนำในการเก็บรักษา และสิ่งเจือปน หรือเติมแต่งลงไป
คำแนะนำในการบริโภคนมเปรี้ยว
 เนื่องจากนมเปรี้ยวเป็นผลิตภัณฑ์ที่เติมสารจุลินทรีย์เข้าไป จึงจำเป็นต้องเก็บในที่ๆมีอุณหภูมิที่ไม่เกิน 10 องศาเซลเซียส และเก็บไว้ไม่เกิน 7 วัน และควรบริโภคให้หมดก่อนวันหมดอายุ หากเปิดภาชนะบรรจุแล้วบริโภคไม่หมดภายในวันเดียว ควรเก็บไว้ในตู้เย็น และปิดผาให้มิดชิด  การสังเกตลักษณะของนมเปรี้ยวที่ดี คือ ถ้าเป็นนมเปรี้ยวที่เป็นน้ำ ต้องไม่มีตะกอนหรือลักษณะเป็นก้อนๆ ที่ก้นขวด หรือภาชนะบรรจุ ถ้าเป็นโยเกิร์ต จะต้องอยู่ในลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลว กลิ่นและรสไม่ผิดไปจากปกติ (ยกเว้นกลิ่นและรสที่ปรุงแต่งลงไป)  การบริโภคนมเปรี้ยวและโยเกิร์ต จะได้รับกรดแลคติก ที่เกิดจากการหมักตัวของจุลินทรีย์ในนมเปรี้ยว ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัสได้ดียิ่งขึ้น ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่มีอาการท้องเสีย ที่กระเพาะมีปริมาณความเป็นกรดลดลง ทำให้อาหารไม่สามารถย่อยได้ดี การบริโภคนมเปรี้ยวจะช่วยปรับสภาพของกระเพาะอาหารให้เป็นกรดขึ้น และทำให้การดูดซึมอาหารดีขึ้น รวมทั้งป้องกันไม่ให้เชื้อโรคตัวอื่นๆรุกล้ำเข้าไปในระบบย่อยอาหาร และนอกจากนี้จุลินทรีย์ที่เติมในนมเปรี้ยวยังมีส่วนช่วยในการขับถ่ายอีกด้วยและจากที่นมเปรี้ยวบางชนิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนมสด และนำมาสกัดไขมันออก จึงมีบางคนเข้าใจว่า เป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำ จึงใช้เป็นอาหารหลักในการลดน้ำหนัก ดังนั้นก่อนเลือกซื้อให้พิจารณาก่อนว่า การเลือกซื้อที่ปรุงแต่งเติมน้ำตาล และผลไม้ลงไป ก็เท่ากับเป็นการเพิ่มพลังงานให้มากขึ้นด้วย แทนที่จะเป็นการลดน้ำหนัก ก้อาจจะเป็น การเพิ่มน้ำหนักโดยไม่ตั้งใจ  การบริโภคนมเป็นสิ่งที่ดี ร่างกายจะได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายครบถ้วน ดังนั้นการบริโภคนมเปรี้ยวจึงต้องพิจารณาวัตถุดิบที่นำมาผลิต รวมทั้งราคาเมื่อเทียบกับปริมาณของอาหาร และสารอาหารที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์อื่นๆในลักษณะใกล้เคียงกัน แต่ถ้าท่านคิดจะบริโภคเป็นอาหารว่าง เพื่อเป็นการเปลี่ยนรสชาติบ้างคงไม่เป็นไร 

Checker Auto Trickle ChargerHp-1002 Kragen AutopartsOreilly Duracell Powerpack 300Purolator Pl24457 PsiSchucks Motorcycle Trickle ChargerUltra Wiper Blades540i Sencer Very Cheap PartsA3087cAdvance Adapters 52-0228Amazon Auto HeadlightsAudiovox Ccs 100Auto KnAutomotive Charging System MonitorB000jzft4s PriceBussman Bpgbc16Duracell Powerpack 600 AutozoneFram Sd1 Suredrain Fast Access Oil ChangeFram Sd3 Suredrain Fast Access Oil Change Drain Plug SystemFresh Breeze Cabin-air Filter Fram User ReviewsGerman-12vHalogen Headlight 9406High Performance Headlights Portland OrKKragen Auto E3Mazda Miata Audiovox Ccs-100Oriellysautoparts Locations In ChicagoPurolator C35479 AutozoneSem-1562a AutozoneShucks Auto Parts MotorcyclesShucks OrileySylvania Auto Light Bulb 9003suSylvania Silverstar Ultra Headlights H7 Kragen AutoTrickle Tender Advance Auto PartsValeo 600 SchucksWix Wi1516 Oil Change Decals Wix Wi1516Wwwgermanautopartsstorecom




 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2553 11:47:42 น.   
Counter : 701 Pageviews.  

บัวลอยมะพร้าวอ่อน

บัวลอยมะพร้าวอ่อน



ส่วนผสม


สาคูเม็ดเล็ก 1 ถ้วย หัวกะทิ (มะพร้าวขูดขาว 100 กรัม) 1/4ถ้วย เนื้อมะพร้าวอ่อนตักเป็นชิ้น ๆ 1 ลูก น้ำร้อนจัด 1/2 ถ้วย

ส่วนผสมน้ำกะทิ


กะทิ (มะพร้าวขูดขาว 300 กรัม) 2 ถ้วย แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปึก 150 กรัม เกลือป่น 1/4 ช้อนชา ใบเตยหั่นท่อนยาว 5 ชิ้น
วิธีการทำ1. (วิธีทำบัวลอย )ล้างสาคู ใส่น้ำร้อนใช้พายคนให้ทั่วทิ้งไว้สักครู่ให้อุ่น ๆ ใส่หัวกะทินวดสาคูนาน ๆ จนนุ่ม พักทิ้งไว้ 30 นาที
2. ปั้นสาคูเป็นก้อนกลมเล็ก จนหมด ต้มในน้ำเดือด จนสุกลอยขึ้น ตักใส่น้ำกะทิที่เตรียมไว้
3. (วิธีทำน้ำกะทิ) ใส่กะทิ น้ำตาล เกลือ ลงในหม้อ ตั้งไฟ พอเดือดใส่ใบเตย เมื่อมีกลิ่นหอมตักใบเตยออก
4. ละลายแป้งข้าวเจ้ากับน้ำ ใส่ลงหม้อน้ำกะทิ จนแป้งสุกและมีลักษณะข้นใส่สาคู คนพอเข้ากัน ยกลง
5. ตักใส่ถ้วยโรยเนื้อมะพร้าวอ่อนเสิร์ฟ

Auto Parts DistributorAuto Parts CompanyAuto Part StoresUsed PartsAuto Used PartsUsed Auto PartsAuto Parts ZoneRose Auto PartsAuto Parts WheelsAuto ZoneEngine PartsUniversal Auto PartsUsed Automobile PartsAdvanced Auto PartsEmpire Auto PartsFactory PartsOreillys Auto PartsDiscount Auto PartUsa Auto PartsRebuilt Auto PartsSylvania Silverstar Ultra 9006 OreillyAdvance Imports Llc Led Underglow Kit Auto PartsFram Sd2 Drain ValveKragen Auto Parts Do It YourselfSearch OriellysautopartsMurrays OrileyPro Antique Auto PartsWwworeilly Auto PartsHb274z610 SaleDorman 924210Aimco 31257Automotive Trickle Charger SchucksAimco 5475Oreilly Auto PartsCf10134 AutozoneDuracell Powerpack AutozoneToyota Matrix Cruise AudiovoxUltra Wiper Blades50 Off Auto Parts9005su AutozoneAdvance Auto Valeo U-24 Gen 2 PremiumAnitque Auto Air FilterAuto Zone Pl14610Autozone 33-2129Sylvania 9003 SchucksAdvance Auto Parts Radio ControllerAuto-partsAutozone Fram Cf10134Checker Auto Parts Jump Starter




 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2553 11:26:38 น.   
Counter : 468 Pageviews.  

เห็ด อาหารน่ามหัศจรรย์

เห็ด อาหารน่ามหัศจรรย์ที่ว่าเห็ดเป็นอาหารน่ามหัศจรรย์นั้น จากฤดูการเกิดก็ไม่เหมือนกับพืชผักชนิดอื่นๆ ใช้เวลาเพาะเพียงสั้นๆ แต่ได้จำนวนมากมายดาษดื่น ถึงเวลางอกงามแต่ละทีก็ผุดขึ้นราวกับตั้งนาฬิกาปลุกธรรมชาติ พอใกล้เวลาก็มุดหายลงดิน เก็บตัวเงียบรอเวลาอีกครั้ง คนเก็บจะต้องมีความชำนาญ รู้ลักษณะ รู้ชนิด รู้ต้นตอแหล่งกำเนิด เพราะเห็ดบางชนิดเห็นหน้าตาสวยงาม อาจกลายเป็นเห็ดมีพิษ ใครไม่รู้จริงเผลอนำไปรับประทานเป็นได้เดือดร้อนกันแน่ปัจจุบันเห็ดที่เรานิยมรับประทานกันมีอยู่มากมายหลายชนิด มีทั้งแบบสด บรรจุกระป๋อง หรือแม้แต่เห็ดตากแห้ง ความนิยมในการรับประทานมีมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยรูปแบบ และรสชาติเฉพาะตัวที่แตกต่างจากอาหารประเภทพืชผักด้วยกัน รวมทั้งการที่คนหันมานิยมรับประทานอาหารแบบมังสวิรัติกันมากขึ้นก็ทำให้เห็ดถูกนำมาใช้ปรุงอาหารแทนเนื้อสัตว์มากขึ้นตามไปด้วย มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่าเห็ดมีคุณสมบัติป้องกันโรคได้ ในประเทศจีน และญี่ปุ่น นิยมนำเห็ดมาปรุงเป็นน้ำแกง น้ำชา ยาบำรุงร่างกาย และยารักษาโรคต่างๆ มีการทำวิจัยเกี่ยวกับเห็ดมากว่า 30 ปียืนยันว่าในเห็ดมีสารบางอย่างที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ และช่วยในการต้านมะเร็งหลายๆ ชนิดด้วย ในสหรัฐอเมริกาก็มีการทำวิจัยเกี่ยวกับเห็ดเช่นกันได้ผลออกมายืนยันการค้นพบแบบเดียวกับชาวเอเชีย แต่สำหรับการวิจัยถึงผลการใช้เห็ดเป็นยารักษาโรคนั้นยังคงอยู่ในขั้นแรกๆ เท่านั้นเห็ดที่นักวิทยาศาสตร์นิยมเอามาวิเคราะห์เพื่อการวิจัยนั้นส่วนใหญ่เป็นเห็ดชนิดที่คนมักนำมาปรุงอาหาร และหาได้ง่าย เช่น เห็ดเข็มทอง เห็ดหอม เห็ดกระดุมหรือแชมปิญอง เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดฟาง เห็ดโคน เห็ดหูหนู หรือ เห็ดหลินจือ อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ มีผลการศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่าเห็ดแชมปิญอง (White mushroom) มีบทบาทช่วยในการรักษาและป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมมากที่สุด เมื่อเทียบกับเห็ดรับประทานได้ชนิดอื่นๆ โดยสารบางอย่างในเห็ดชนิดนี้ไปช่วยยับยั้งเอ็นไซม์ aromatase ทำให้เกิดการยับยั้งการแปรฮอร์โมนแอนโดรเจนให้กลายเป็นเอสโตรเจนในผู้หญิงวัยหมด ประจำเดือน เมื่อร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนได้น้อยลง ก็ลดโอกาสการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมให้น้อยลงตามไปด้วยที่ประเทศญี่ปุ่น ได้มีการทดลองนำเห็ดหอมมาสกัด พบว่าในเห็ดหอม ให้น้ำตาลโมเลกุลขนาดใหญ่ (mega-sugar) ที่เรียกว่า เบต้ากลูแคนส์ (beta-glucans) ถึง 2 ชนิด ได้แก่ lentinan และ LEM (Lentinula edodes mycelium) ซึ่งช่วยทำหน้าที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันต่อสู้กับการติดเชื้อ และชะลอการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ซึ่งในการทดลองให้สาร lentinan กับผู้ป่วยมะเร็งร่วมกับการทำเคมีบำบัดก็พบว่าก้อนมะเร็งมีขนาดลดลง และอาการข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัดก็เกิดขึ้นน้อยลงด้วย ขณะนี้ทีมวิจัยในญี่ปุ่นกำลังมองหาความเป็นไปได้ในการใช้ LEM ที่ได้จากเห็ดหอมมาบำบัดผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV และยังพบอีกว่า สารสกัดจากเห็ดหอมอีกตัวหนึ่ง ชื่อ eritadenine เป็นตัวช่วยลดปริมาณไขมันในเลือดและระดับโคเลสเตอรอลให้กับร่างกายได้อีกด้วย หลากหลายพันธุ์เห็ดรสอร่อย เห็ดนำมาปรุงอาหารให้อร่อยได้หลากหลายวิธี ทั้งต้มน้ำแกง ผัด ยำ ย่าง หรือทอด ที่เห็นมากในบ้านเรา ได้แก่  เห็ดหอม มีทั้งแบบเนื้อบางและหนา คนนิยมนำเห็ดหอมตากแห้งมาปรุงอาหารเพราะให้กลิ่นหอมมากกว่าแบบสด ซึ่งก่อนปรุงต้องลวกในน้ำเดือดประมาณครึ่งชั่วโมง หรือแช่น้ำอุ่นประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือข้ามคืน ช่วยให้เนื้อเห็ดนุ่มขึ้น น้ำแช่เห็ดหอมนี้ยังเก็บเอาไปทำเป็นน้ำสต๊อกปรุงรสอาหารได้ด้วย คนนิยมนำมาปรุงอาหารเจ เพราะเนื้อนุ่มเหนียวและกลิ่นหอมชวนกิน ชาวจีนยกให้เห็ดหอมเป็นอาหารตำรับ “อมตะ” เพราะคุณสมบัติความเป็นยาบำรุงกำลัง และบรรเทาอาการไข้หวัด การไหลเวียนเลือดไม่ดี ปวดกระเพาะอาหาร รวมทั้งอาการเหนื่อยอ่อนเพลีย ซึ่งเห็ดหอมนี้จะให้โปรตีนได้มากกว่าเห็ดแชมปิญองถึง 2 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังอุดมด้วยวิตามินเอ วิตามินบี ซีลีเนียม และธาตุอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ช่วยบำรุงกระดูกแข็งแรง ลดไขมันในเลือด และต้านโคเลสเตอรอล  เห็ดหูหนูดำนอกจากเห็ดหูหนูดำแล้วยังมีเห็ดหูหนูขาว เนื้อกรุบกรอบคล้ายๆ กัน แถมยังมีสีขาวน่ารับประทานมากกว่า ตามร้านเย็นตาโฟนิยมนำมาใช้แทนแมงกะพรุน หรือต้มเป็นสุกี้หรือทำยำรวมมิตรก็อร่อยไม่น้อย เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า และเห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดสามอย่างนี้อยู่ในตระกูลเดียวกัน เจริญเติบโตเป็นช่อๆ คล้ายพัด เห็ดนางรมมีสีขาวอมเทา เห็ดนางฟ้าจะมีสีขาวอมน้ำตาล ขณะที่เห็ดเป๋าฮื้อจะมีสีคล้ำและเนื้อเหนียวหนา และนุ่มอร่อยคล้ายเนื้อสัตว์มากกว่า จึงมักถูกจัดเป็นอาหารจานหรูเมนูจักรพรรดิ์ ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถป้องกันโรคหวัด ช่วยการไหลเวียนเลือด และโรคกระเพาะอาหาร เห็ดนางฟ้าและเห็ดนางรมผิวเรียบนุ่ม รสชาติก็นุ่ม นำมาปรุงได้หลายแบบทั้งผัด ชุบแป้งทอด หรือแม้แต่ย่างก็ให้รสชาติดี แต่ไม่ควรใช้ไฟแรงเพราะจะทำให้เนื้อสัมผัสหมดไป  เห็ดฟาง เป็นเห็ดยอดนิยมของคนไทย นิยมเพาะกันบนกองฟางข้าวชื้นๆ โคนมีสีขาว ส่วนหมวกสีน้ำตาลอมเทา หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดตลอดทั้งปี ให้วิตามินซีสูง และมีกรดอะมิโนสำคัญอยู่หลายชนิด เชื่อว่าหากรับประทานประจำจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันลดการติดเชื้อต่างๆ แต่ก็ไม่ควรรับประทานสด ๆ เพราะมีสารที่คอยยับยั้งการดูดซึมอาหาร ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน โรคเหงือก และลดอาการผื่นคันต่าง ๆ  เห็ดหลินจือ นอกจากใช้รับประทานแล้ว ปัจจุบันยังมีการนำไปเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางอีกด้วย เพราะมีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย และกระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัส แถมยังมีฤทธิ์แก้อักเสบ ลดความดันเลือด แก้ปวดศีรษะ รวมทั้งลดไขมันในเส้นเลือดด้วย  เห็ดเข็มทอง เป็นเห็ดสีขาวหัวเล็กๆ ขึ้นติดกันเป็นแพ รสชาติเหนียวนุ่ม นำมารับประทานแบบสดๆ ใส่กับสลัดผักก็ได้ ถ้าชอบสุกก็นำไปย่าง ผัดหรือลวกแบบสุกี้  เห็ดกระดุม หรือเห็ดแชมปิญอง รูปร่างกลมมน ผิวเนื้อนุ่มนวล มีให้เลือกทั้งแบบสด หรือบรรจุกระป๋อง  เห็ดโคลน เป็นเห็ดหายาก รสอร่อย ที่จะมีให้รับประทานเฉพาะในหน้าฝน บางคนจึงนิยมนำมาทำเป็นเห็ดดองเพื่อเก็บไว้รับประทานตลอดปี นานาสารอาหารจากเห็ดเห็ดเป็นอาหารที่ปราศจากไขมัน มีปริมาณน้ำตาล และเกลือต่ำมาก แถมยังเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงเมื่อเทียบกับโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ มีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี วิตามินบีรวม ซีลีเนียม โปแตสเซียม และทองแดง จึงเป็นอาหารที่มีคุณค่าสูงที่ควรเลือกรับประทานเป็นประจำ  ซีลีเนียม เป็นสารอาหารที่ช่วยต้านการเกิดอนุมูลอิสระใกล้เคียงกับวิตามินอี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งและโรคภัยต่างๆ ที่มากับวัยสูงอายุ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ การรับประทานเห็ดหอม (ชิ้นขนาดกลางๆ 5 ชิ้น) จะให้ซีลีเนียมประมาณ 1 ใน 3 ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน นอกจากในเห็ดแล้ว ยังมีอยู่ในธัญพืช และเนื้อสัตว์ด้วย  โปแตสเซียมเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างยิ่งในการควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ ความสมดุลของน้ำในร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อ และระบบประสาทต่างๆ ทาง FDA ของสหรัฐอเมริการะบุไว้ว่าการรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของโปแตสเซียมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความดันเลือดสูง และอัมพฤกษ์ อัมพาต ซึ่งในเห็ดนั้นมีโปแตสเซียมสูง และโซเดียมต่ำ การรับประทานอาหารที่ปรุงจากเห็ดกระดุมหรือเห็ดแชมปิญอง 1 จานจะให้โปแตสเซียมได้พอๆ กับส้มหรือมะเขือเทศลูกโตๆ เลยทีเดียว  วิตามินบีรวม ในเห็ดขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบีรวม ไม่ว่าจะเป็น ไรโบฟลาวิน (ที่นอกจากจะได้จากเห็ดแล้ว ยังมีมากในเครื่องในสัตว์ นม ไข่ และเต้าหู้) ช่วยบำรุงสุขภาพผิวพรรณและการมองเห็น ขณะที่ไนอาซิน (ยังพบมากในปลาทูน่า เนื้อแดง ถั่วลิสง และอะโวคาโด) จะช่วยควบคุมการทำงานของระบบย่อยอาหาร และระบบประสาท สถาบันอาหารแห่งสหรัฐอเมริกาได้ประมาณไว้ว่า การรับประทานเห็ดแชมปิญองขนาดกลางๆ 5 ชิ้น จะได้ปริมาณไรโบฟลาวินมากพอๆ กับการดื่มนมสดถึง 8 ออนซ์  ทองแดง เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการเช่นเดียวกันเพื่อมาช่วยเสริมการทำงานของธาตุเหล็ก ….แล้วคุณล่ะคะ ชอบรับประทานเห็ดชนิดไหน อย่าลืมเลือกสรรเห็ดมาปรุงอาหารอร่อยๆ กันเป็นประจำ เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณและครอบครัวค่ะ




 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2553 11:05:38 น.   
Counter : 428 Pageviews.  

สุกี้ยากี้แห้งทะเล

สุกี้ยากี้แห้งทะเลส่วนผสม



กุ้งสดแกะเปลือก
 6 ตัว

ปลาหมึกหั่นพอคำ
1/4 ถ้วย

ก้ามปูอัด
2 ชิ้น

ผักกาดขาวชิ้นพอคำ
7 ชิ้น

ผักบุ้งจีนเด็ดยาว 2 นิ้ว
10 ต้น

ไข่ไก่
1 ฟอง

วุ้นเส้นแช่น้ำแล้ว
1/2 ถ้วย

กระเทียมสับ
1/2 ช้อนโต๊ะ

พริกไทยป่น
1/8 ช้อนชา

น้ำมันพืช
3 ช้อนโต๊ะ

น้ำจิ้มสุกี้
1/2 ถ้วย

น้ำสต็อกหมู
1/4 ถ้วย น้ำจิ้มสุกี้ยากี้



น้ำมันพืช
3 ช้อนโต๊ะ

เต้าหู้ยี้
 7 ก้อน

ข่าแกโขลกละเอียด
 2 ช้อนชา

กระเทียมเจียว
 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำตาลทราย
 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำส้มสายชู
1/2 ถ้วย

พริกขี้หนูสดสับ
 6 เม็ด

งาขาวคั่วบุบ
1/4 ถ้วยวิธีทำ1. ทำน้ำจิ้มสุกี้ด้วยการตั้งกระทะไฟค่อนข้างอ่อน ใส่น้ำมัน พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่เต้าหู้ยี้ ผัดยีให้ละเอียด ใส่ข่า กระเทียมเจียว ผัดให้ทั่ว ใส่น้ำตาล น้ำส้มสายชู ชิมรสให้เปรี้ยวเค็มกลมกล่อม ปิดไฟ ตักใส่ชาม พักให้เย็น จึงใส่พริกขี้หนู และงาขาวคั่ว คนให้เข้ากัน (ได้น้ำจิ้มปริมาณ 1/2 ถ้วย)2. เตรียมผักบุ้ง ผักกาดขาว ก้ามปูอัด วุ้นเส้น น้ำจิ้มสุกี้ 1/4 ถ้วย ใส่จานเดียวกัน เตรียมไว้3. ตั้งกระทะบนไฟกลางจนร้อน ใส่น้ำมันและกระเทียมลงเจียวพอใกล้เหลือง ใส่กุ้ง ปลาหมึก ต่อยไข่ลงไป ใช้ตะหลิวเขี่ยไข่แดงให้แตก พอเริ่มสุก ใส่ข้อ 2. ลงไป ตามด้วยน้ำสต็อกหมู ผัดไฟแรงอย่างเร็วจนสุก ปิดไฟ ตักใส่จาน โรยพริกไทยเล็กน้อย เสิร์ฟกับน้ำจิ้มสุกี้ที่เหลือ(ปริมาณสำหรับ 2 คน)เคล็ดเด็ด: ความอร่อยจานนี้อยู่ที่การเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ และทำน้ำจิ้มเอง หากแพ้อาหารทะเล สามารถใช้เนื้อหมูเนื้อไก่แทนได้

Schucks Battery MaintainerAuto Parts NetworkInternational Auto PartsChampion Auto PartsAuto Parts WarehouseAndy Auto PartsAuto RepairBay Auto PartsCheap Auto PartsCheap Automotive PartsAuto Parts OnlineAll Auto PartsWorldwide Auto PartsXl Auto PartsAdvantage Auto PartsAuto Repair PartsAuto Replacement PartsReplacement Auto PartsAuto PartsAuto Oem PartsOem Auto PartsAuto Parts For SaleAftermarket Auto PartsAuto Aftermarket PartsAutomotive PartsAuto Body PartsBody Auto PartsAuto Truck PartsTruck Auto PartsAuto Wholesale PartsWholesale Auto PartsAudi Auto PartsNational Auto PartsAuto Parts FinderTransmission Auto PartsAuto Parts PricesUnique Auto PartsAfter Market Auto PartsBuy Auto PartsAuto Parts And AccessoriesAutomobile PartsAuto Discount PartsDiscount Auto PartsAuto Accessories PartsAuto Parts AccessoriesAuto Parts NissanReplacement PartsAuto SupplyMitsubishi Auto PartsAutoparts




 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2553 8:08:18 น.   
Counter : 450 Pageviews.  

Chocolate Mousse

Chocolate Mousse  Dark Chocolate  100 กรัม  เนยจืด  40 กรัม  ไข่ไก่ (แยกไข่แดง ไข่ขาว) 2 ฟอง  ครีม  1/2 ถ้วย  น้ำตาลไอซิ่ง  1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ 1. เอาช็อคโกแลตมาอุ่นกับเนยจนละลายเหลวแล้วยกลงจากเตา    2. ใส่ไข่แดงคนให้เข้ากันทีละฟอง  3. ตีน้ำตาลไอซิ่งกับไข่ขาวจนขึ้นฟู ผสมลงไปในส่วนผสมของช็อคโกแลต พักไว้   4. เปลี่ยนมาตีครีมจนขึ้นเป็นวิปครีม  จากนั้นนำไปผสมกับส่วนผสมที่เตรียมไว้แล้ว  5. แล้วแช่ตู้เย็นประมาณ 3 ชั่วโมง  6. เวลาเสิร์ฟให้หยอดวิปครีมด้านบน เพื่อเพิ่มความสวยงาม

Cheap Auto PartsNapa Auto PartsHeadlights For Motorcycles At Napa Auto Parts StoreJump Starter NapaNapa 600 Jump StarterNapa Jump Starters AutomotiveNapa Auto Parts Jump StarterNapa Charge ControllerAftermarket Car PartsCheap Car PartsForeign Car PartsCar Parts OnlineAuto Cars PartsAuto Parts CarsAuto Car PartsCar Auto PartsUsed Car PartsDiscount Car PartsReplacement Car PartsDomestic Car PartsCarquest Auto PartsCarquest PartsCar PartCheap Car PartCar Body PartsCar PartsCarquest Starter PriceSilverstar Ultra 9003 CarquestJump-n-carry Solar AutozoneCarquest 275003Ricks Antique Auto PartsRicks Antique Auto PartsRicks Antique Auto PartsRick Antique AutomobileRick Antiquea And AutosRicks Antique Auto RicksantiquecomBattery Tender At Auto Zone12v Battery Charger At Checker Auto PartsCarquest Battery TenderSchucks Battery ChargerCarquest Premium 60 Battery PriceChecker Auto Parts Trickle Battery ChargerBattery Tender 022-0150-dl-wh AutozoneChecker Auto Parts Trickle Battery ChargerSchucks And Battery ChargersBattery Tender Juniors CarquestChecker Auto Parts Battery ChargersChecker Auto Parts Solar Auto Battery Charger




 

Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2553   
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2553 7:47:28 น.   
Counter : 446 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  

beaushi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add beaushi's blog to your web]