| tarn X lapin
|
|||
Pollen Street & Social : มิชลิน 1 ดาว ณ ลอนดอน, ประเทศอังกฤษ
เอาใจสายกินกันซะหน่อย วันนี้จะพาไปทานร้านมิชลิน 1 ดาว ราคาน่าคบ อาหารอร่อยถูกใจ บริการประทับใจสุดฟิน !!! เนื่องจากไถไอจีไปสะดุดกับรูปตอนไปอังกฤษช่วงรับปริญญา จำได้ว่าช่วงนั้นตะเวนทานอาหารร้านน่ารักๆเต็มไปหมดเลย เหมือนเก็บกดมานานหลายเดือน 5555555 ดังนั้นตามมาค่ะ ใครมีโอกาสไปเที่ยวที่ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ นอกจาก Shopping แล้ว Eating ก็เรื่องใหญ่นะคะ :P เพราะประเทศอังกฤษก็มีร้านที่ได้มิชลินมากมายอีกด้วย (แม้จะไม่เท่าที่ญี่ปุ่นก็เถอะเนอะ) ร้านนี้ชื่อว่า Pollen Street & Social ได้มิชลิน 1 ดาว
--------------------------------------------------------------------------------------------------------- ที่ตั้ง: อยู่แถว Regent St. แหล่งชอปปิ้งอีกเช่นเคย ! การเดินทาง: Tube สถานี Oxford Circus (หากนั่งสาย Piccadilly Circus ไปลงที่ สถานี Piccadilly Circus ก็ได้แต่เดินไกลหน่อย) เปิด-ปิด : จันทร์ - เสาร์ เวลา : 12:00 (เที่ยง) - 14:30 และ 18:00 - 22:30 จองที่นั่ง : https://wwwtable.co.uk ** แนะนำมากว่า ต้องจองที่นั่ง ก่อนไปทานเท่านั้น เพราะโต๊ะหายากมว้ากกกกกเว่อ คนแน่นร้านตลอดเวลา เรื่องกินเรื่องใหญ่ ถ้าไม่อยากพลาด กดจองไปเลยค่ะ ** (ดูเมนูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pollenstreetsocial.com) --------------------------------------------------------------------------------------------------------- ตาณไปทาน Lunch Set ราคา Lunch Set อยู่ที่ £37 ไม่รวมเครื่องดื่มนะคะ มีทั้งหมด 3 Courses ได้แก่ Starter, Main Course, Dessert สามารถสั่ง A la carte มาทานได้นะคะ แต่ก็แพงประมาณนึงเลยล่ะ ราคาทั้งหมดรวมTax & Service Charge (12.5%) + ค่าน้ำเปล่า อยู่ที่ คนละ £ 44 (ราคาจะปรับขึ้นบ้างนะคะ หากไปช่วงเทศกาลคริสมาสต์ จริงๆ พย.ก้เริ่มขึ้นละ พอหมดเทศกาลก็กลับมาเท่าเดิม ราคาปกติจ้า เมนูก็เช่นกัน) เทียบกันแล้วทานแบบ Lunch Set คือคุ้มสุดแล้วฮะ #ตาณคอนเฟิร์ม ~~ แต่บอกเลยว่าแค่ใน Set ที่ได้มาอ่ะ ก็แทบคลานกลับบ้านแล้ว ถึงมันจะเขียนว่าแค่ 3 courses แต่ระหว่างทางนั้น ช่างมีอะไรมากมายเสียเหลือเกิน ตัวอย่างเช่น ก่อน Starter จะมี Appetiser มาก่อน เป็นของเบาๆ เรียกน้ำย่อย ก่อนจะเปลี่ยนจาก Main Course ไป Dessert จะมี Yozu ice cream ราดด้วย Sparkling wine จากนั้นจึงจะตามมาด้วยขนมหวาน และหมดขนมหวานแล้วยังมีขนมทานเล่นระหว่างรอคิดเงินอีก . . . นี่เป็นครั้งแรกที่ตาณทานอาหารนานที่สุด ใช้เวลาเกือบ 2 ชม. กว่าจะทานเสร็จ อาหารอร่อยมาก ความประทับใจใน Service mind คือ 10 10 10 ไปเลย ถ้าไม่นับที่บริกรหล่อด้วย อันนั้นจะให้คะแนน x 1000 ไปเลยค่ะ ดาเมจแรงมากจริงๆ อาหารจานต่อไปจะไม่เสริ์พจนกว่าเราจะทานจานแรกหมด หรือว่าเราเรียกให้เค้ามาเก็บไปค่ะ มาดูกันว่า มีอะไรบ้างที่เราจะได้จาก ราคา £ 44 . . ร้านจะอยู่ในซอยนิดนึง อาจหายากหน่อย ไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไร ขอเป็น Pre-Starter ละกัน ถ้าจำไม่ผิดทานจากล่างขึ้นบน ขวาไปซ้าย  มาแล้วค่ะ Starters ของเรา พอดีไปกับน้องก็เลยได้ทานหลายอย่าง จานแรกมาก็อิ่มแล้วอ่ะ แน่นมากจริง !!! เนื้อ Games & Foie Gras เนื้อนุ่มเข้ากับซอสมาก ละลายในปากเลย  ปู & ซอสมันกุ้ง จานนี้มาแบบเย็นหน่อย แต่อร่อยสุด  Main Course Roasted beef จำชื่อได้เท่านี้ ในส่วนของเนื้อนั้นละลายในปากมาก แบบนิ่มสุดไรสุด ซอสเข้มข้นมาก แต่เพราะทานเนื้อ Games มาแล้วก็เลยค่อนข้างจะเริ่มเลี่ยน  ปลาคอด มากับซอสแครรอท (ถ้าจำไม่ผิด) เมนูนี้ก็จะ Light มากเว่อออ ปลาสดใช้ได้เลยค่ะ  **จริงๆแล้วก่อนหน้าของหวานจะมี Yozu ice cream + Sparkling Wine แต่ลืมถ่าย เพราะคิดว่าทำไมขนมมมันช่างก๊อกก๋อยเช่นนี้ เลยไม่ได้ถ่ายมา แต่ปรากฏว่าไม่ใช่จ้า !!! * พอเรียกเก็บเงิน พนักงานบอก อ้ะๆๆ no no It does not finish ห้ะ . O_O!! ยังจะมีอะไรอีกกง่าาาาาาา นางบอกว่า ยูยังไม่ได้ขนม จ้าาาา แท่นแท๊น นี่ต่างหาก ของหวานที่แท้ทรู อลังการไปอี้กก Dessert: Ice cream berry อร่อยแบบละลาย กองตรงนั้นไปเลยค่ะ มันดจีย์มากกก  เสร็จจากตรงนี้เรียกเก็บเงิน แต่ยังค่ะ ยังไม่ให้ไป เอาขนมมาให้ทานระหว่างรออีก คือแบบบ โอ้ยยยยยย สุดยอดมากจริง มันปริ่มมากค่ะคุณ บอกแล้วว่า 44 ปอนด์นั้น คุ้มค่าที่สุดในโลกนี้แล้วจริงๆ 
**ขออภัยในความรูปเบลอ อิ่มจนตัวสั่นไปหมดแล้วจ้าา ** ถ้าเทียบกับที่มาทานมิชลิน 1 ดาวในไทย บอกเลยว่าประทับใจที่อังกฤษมากกว่ามาก!! ทั้งคุ้มในส่วนของราคา ความอร่อย และบริการ มันดีไปหมด อย่างเทียบ Pollen Street & Social กับร้าน The Elements ตรงเพลินจิต สำหรับตาณ Pollen ดีกว่ามากค่ะ ประทับใจจนต้องกลับไปทานอีกแน่นอน ถ้าได้บินลอนดอนเมื่อไหร่ไม่พลาดแน่ :D ปล. สำหรับใครที่ไปทานแล้วอยากไป Afternoon Tea ต่อแนะนำว่าลองไปร้าน Sketch คิวแน่นมากมาย จะจองกี่ทีก็เต็มตล๊อดดดดดดด ให้ตายเถอะ ~ ร้านคาเฟ่สีชมพู ที่แต่ละห้องตกแต่งไม่เหมือนกันเลย สวยมว้ากกกก ไปช่วงเทศกาลสิ้นปี คริสมาสต์ร้านจะปรับราคาขึ้นอีกจาก £65 เป็น £72 - £75 ต่อคน ถ้าใครบ่ยั่นกับราคาก็แวะไปได้เลยค่า ร้านอยู่ในละแวกเดียวกันเลยกับ Pollen Street & Social :D . . . วันนี้ขอลาไปก่อนมาทิ้งบอมบ์ตอนกลางคืนให้คนหิวเล่น คราวหน้าจะพาไปทัวร์คาเฟ่ในลอนดอนอีกเช่นเคย อย่าลืมติดตามกันน้าาาา ชอบก็กดโหวตให้เค้าด้วยน้าาา เยิฟฟฟฟฟฟ XOXO  อยากดู Lavender ไปทุ่งไหนดี ? (Cotsworld, UK)
วันนี้จะพาไปชมฟาร์มลาเวนเดอร์ อันเลื่องชื่อลือชา แห่งความงามในอังกฤษ แต่ด้วยวันที่ไปนั้น...ฝนตกทั้งวัน พายุลงเลยก็ว่าได้ ก็เลยได้แวะไปถ่ายรูปมา 30 กว่ารูปเท่านั้นนน คือถ่ายแบบรัวๆ ลั่นชัตเตอร์กันมือหงิก ได้รูปที่ใช้ได้มานิดนึงเท่านั้น #กระซิกกก (; ___ ;)
ถ้าไม่อยากต้องมาไกลถึง Cotswold แนะนำว่าที่ Mayfair, London ก็มีเหมือนกัน ใกล้กว่า แต่คนก็จะเยอะกว่ามากๆเหมือนกัน ลาเวนเดอร์อาจไม่เยอะมาก แต่รับประกัน ความฟินได้ไม่แพ้กันแน่นอน ^____^)// การเดินทาง สามารถไปได้หลายทาง 1.รถไฟ 2. รถยนต์ ดีที่สุดคือ ขับรถไปเอง เพราะในฟาร์มนั้น ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ หากจะเรียก Taxi ก็ลำบากเหลือเกิน เพราะรถไม่ได้มีเข้ามาตลอดน้ะจ้ะ แต่ถ้าใครไม่สะดวกขับรถอยากมาแบบ Adventure เราขอแนะนำ การมาด้วยรถไฟ และมาตายเอาดาบหน้าเรียก Taxi อีกที National Rail: ลงที่สถานี Moreton in Marsh แล้วต่อด้วย Taxi ที่สถานีมีให้บริการให้ค่ะ ค่า Taxi อีกประมาณ 20-30 ปอนด์ ได้ค่ะ ค่อนข้างไกลจากสถานีรถไฟอยู่เหมือนกัน (บอกแล้วขับรถคุ้มกว่า) **ลิสรายชื่อบริษัทแท๊กซี่จะแปะไว้ให้ตอนท้ายสุดนะ ** ============================================================ ช่วงเวลาที่ฟาร์มเปิด : 9 มิถุนายน (June) - 5 สิงหาคม (August) เวลาเปิด-ปิด : 10:00 น. - 17:00 น. ค่าเข้า : £ 3.5 สำหรับผู้ใหญ่ Location : Hill Barn Farm, Snowshill, Broadway, Worcestershire WR12 7JY ============================================================   
ข้างในฟาร์มก็จะสวยแบบว่า ลาเวนเดอร์สุดลูกหูลูกตา ประมาณนี้ .. เข้าใจแล้วกับคำว่า "โลกสวย เหมือนวิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์" เป็นยังไง 555 มี Afternoon Tea Cafe และ ร้านของฝาก (Souvenir) ต่างๆ นานา ในส่วนของชานั้นแนะนำว่า ให้ลอง Lavender Earl Gray จะดีที่สุด เพราะไม่แสบจมูกมากเกินไป แต่หากใครอยากได้แบบลาเวนเดอร์ฟิลลิ่ง ก็จัดแบบเพียวๆได้เลยค่ะ รสชาติ ก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่ต่างกันที่ความหอม ในส่วนของเบเกอร์รี่ ไม่กล้าจะรีวิวจริงๆว่า ไปมากี่ฟาร์มก็ไม่อร่อยจ่ะ 555 เหมือนเค้าเอาไว้แค่ทานแก้หิว ไม่ได้มาแบบ Full Course จัดเต็มอะไรขนาดนั้น ดังนั้นสั้นๆ คือ ไม่อร่อยเลย ถ้าอยากลองทาน The must ที่ฟาร์ม คือ ไอศครีมลาเวนเดอร์ ลองทานกันดูได้ แต่ว่าวันที่ไปโชคร้าย ไอศครีมหมดจ้า . ดื่มชา Tea time กลางสายฝนแทน
. . ของฝากข้างใน มีทั้งโปสการ์ด สมุด ปากกา ดินสอ แม่เหล็กติดตู้เย็น ชาลาเวนเดอร์ ชอคโกแตลาเวนเดอร์ เอาเป็นว่าทุกอย่างลาเวนเดอร์หมด แนะนำว่าควรสอยชามาอย่างยิ่ง เพราะหาซื้อยากมาก ที่อื่น ที่เจอก็จะมีตามพิพิธภัณฑ์ หรือโบสถ์ต่างๆในลอนดอน ก็พอจะมีขายค่ะ ใครที่ชอบดื่มชา บอกเลยว่า THE MUST ค่ะ ตาณชอบมากซื้อกลับมาฝากที่บ้าน พอดื่มเสร็จก็เอาซองชามาใส่ในตู้เย็น นอกจากจะดับกลิ่นได้แล้ว ยังหอมกลิ่นลาเวนเดอร์เต็มตู้เย็นเลย ^^     ปล. นี่คือลิสรายชื่อ Taxi ที่ทางฟาร์มเสนอมาให้จ้า อย่าลืมจองก่อนวันเดินทางมานะจ้ะ Local Taxi Companies:(Please remember to book your taxi back to the train station / hotel as mobile phone reception here on the farm is very poor) You Go First! 07776 233035 North Cotswold Taxis 07832 915871 AAA Station Taxis Moreton in Marsh Station 07732 382153 07871 936651 Cotswold Taxis: 07710 117471 Northwick PH: 07855 824788 MH Taxis: 07779 939415 Campden Taxis: 07999 979931 Garys PH: 07775 625843 Jays Taxi: 07554 424793 Ian PH: 07789 897996 Campden Cars: 07836 519579 Cotswold PH: 07980 857833 Grahams Taxis: 07999 979931 ETC : 07800 957646 CB Private Hire (Catrina Popham): 07340 533441 / 01386 701081 เที่ยวรถไฟไป Cambridge
ฮาโหล ฮาเลลูย่าา ~ ทริปนี้เริ่มไม่ยากนั่งรถไฟ (Railway) จาก Coventry ไปที่ London Euston ต่อด้วยสถานี Kings Cross .. เพื่อมุ่งหน้าไปชานชาลาที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4 เฮ้ยยย ไม่ใช่ !! เนื่องจากไม่ได้อยู่ในลอนดอน นะฮะ การเดินทางก็จะหลายต่อหน่อย การเดินทาง รถไฟ (Railway) : Coventry - London Euston Tube : London Euston to Kings Cross Train : Kings Cross to CAMBRIDGE !!!!
. . Cambridge เมืองแห่งมหาวิทยาลัยและการเรียนรู้ เนื่องจากว่า เมือง Cambridge มีสถานศึกษากว่า 31 แห่ง ซึ่งถือว่าเยอะมากเลยนะในเมืองเมืองนึง ในแต่ละอาคารเรียนก็ยังคงความเป็น British อยู่มาก เรียกได้ว่า เค้าแทบไม่ทำอะไรกับภายนอกเลย คงไว้แบบต้นตำรับสุดๆ ดังนั้น คนที่ชื่นชอบศิลปะ อยากมาเสพศิลปะในยุคต่างๆ ก็คู่ควรอย่างยิ่ง เพราะนอกจากศิลปะจะดีแล้ว . งานผู้ชายอังกฤษ Cambridge ก็ดี จนเลือดกำเดาจะไหลเลย ~   เดินๆก็ไม่ต้องกลัวหลงนะคะ มีจุด information และแผนที่อยู่ เราไปขอได้ฟรีจ้าา  King College ~  ด้านหน้ามีร้านกาแฟ ให้นั่งชิวเต็มไปหมดเลยค่ะ    ทริปนี้ ชิวหมด ยกเว้น อากาศ !! ขอบอกเลยว่า ช่วงฤดูร้อน มันก็ร้อนไม่ต่างจาก Summer บ้านเรา อุณหภูมิสูงไม่มาก แต่ความแดดแรงจ้าไม่แพ้ที่ไทยเลย หลายคนประสบปัญหาไป Cambridge ช่วงเวลาสอบ ทำให้ไม่สามารถเข้า ชมภายในบริเวณต่างๆของมหาลัยได้ ซึ่งตอนตาณไป ก็ .เจอเหมือนกัน ตอนแรกนึกว่าจะรอด 55555 ปรากฎว่าการสอบของมหาลัยนี้ยาวนานนัก .. ช่วงสอบก็น่าจะประมาณ พ.ค.- มิ.ย. (หรือยาวกว่านั้น) .. ถ้าช่วงไหนเป็นช่วงสอบ เค้าจะไม่เปิดให้เข้าชมค่ะ จะเป็นการรบกวนเด็กๆที่กำลังสอบ เดี๋ยวเสียสมาธิค่ะ ช่วงที่ตาณไป เป็นปลาย มิ.ย. แล้วนะ แต่ก็ยังมีเด็กสอบกันอยู่ คือเค้าสอบกันมาราธอนมากจริงๆ ตารางแน่นมาก เคยไปเชคมา ขนาดที่ว่ามหาลัยอื่นเค้าสอบเสร็จ ปิดเทอม จนจะเปิดเทอมแล้ว Cambridge ก็ยังสอบอยู่ -x-)// เคยได้ยินว่าที่ Cambridge ไม่มีทำ Thesis/Dissertation แต่เป็นสอบล้วนๆ เท่านั้น โหดไปอี้กกกกกกก . เป็นเด็กเคมบริดจ์ นี่เหนื่อยอ่ะ สอบก็เยอะ มหาลัยสวย คนก็มาเที่ยวยัวะเยียะเต็มไปหมด วุ่นวายแท้ = = . . . คราวนี้ไม่ได้เที่ยวเยอะมากเท่าไหร่ เพราะร้อนมาก เดินๆแปปเดียว เลยเก็บแต่ที่หลักๆมาเท่านั้น ข้างในก็ไม่ค่อยได้เข้าไป เพราะว่าเด็กสอบ อดดูอาคารเรียนไปอี้ก . . เป็นเมืองที่ครึกครื้นกว่าที่คิดค่ะ ตอนแรกคิดว่าจะเงียบๆไม่ค่อยมีอะไร ปรากฎเข้าไปแล้วมีครบทุกอย่างเลย ห้างร้าน ตลาด ที่เที่ยว  Kings Chapel ค่าเข้า ราคานักเรียนประมาณ £ 9 คนทั่วไป £12 ถ้าจำไม่ผิด  เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นของขวัญให้แก่กษัตริย์ ตกแต่งโดยศิลปะแบบ English Gothic ไฮไลท์ที่เด่นและสวนสะดุดตาที่สุดคือ Fan Vault เป็น The wold largest fan vault เลย Fan Vault คือ การสร้างเพดานให้เป็นแฉกคล้ายกับพัด เทน้ำหนักจากกำแพงขึ้นไปที่เพดาน จริงๆแล้ว Vault ก็มีแทบทุกที่ แต่ Fan Vault อลังการแบบนี้ มีแค่ที่เคมบริดจ์เท่านั้น เข้าไปแล้วสะกดสายตาสุดๆ คือมันทั้งสวยงาม สงบ เงียบ ฟินนนนน 10 10 10!!    Great East Window  ช่วงที่ไปอยู่ในช่วงที่มีเหตุการณ์บอมบ์ Manchester ด้วย ก็จะมีการจุดเทียน เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตด้วย เศร้ามากเลยอ่ะ  ตึกด้านข้างก็สวยนะ >____< ดูอลังการ อังกฤษสุดๆ  St. John College ต่อมาก็ออกมาเดินเล่นที่ St.John College จะบอกว่าทุก College มันอยู่ติดกันหมดเลยอ่ะ เดินๆวนๆ หลงไปยังไง ก็ทะลุเจอหมด Trinity College ก็อยู่ไม่ไกลกันมากก ด้านในก็มี Court คล้ายๆกันหมด    ล่องเรือ Punting ระหว่างทาง ก็จะมีคนมาเสนอพาเที่ยวเอย หรือจะไปล่องเรือแบบ Punting ที่มีนักเรียน Cambridge เป็นคนพาทัวร์ พายเรือ ซึ่งบอกเลยว่า ผู้ชาย งานดีมาก ระดับ 10 10 10 หล่อ สูง หุ่นดี ขาว กล้ามเป็นมัด น่ากัดมากกก . ( * x * ) !!!! งานดี๊ดี แต่ค่าขึ้น ก็แพงเหมือนกัน ราคา Punting = 15 ปอนด์ / ต่อ 1 คน ถ้าไม่ติดว่าตอนนั้นร้อน ก็อยากจะนั่งอยู่ เพราะว่าคนพาย หล๊อหล่อ #เดี๋ยววว พอดีช่วงที่ตาณไปยังอยู่ใน Summer ความร้อนนั้นไม่ต่างจากที่ไทยเลย ร้อนแสบผิว ฝรั่งชอบอ่ะ แต่เรานี่ไม่ไหว จะเป็นลมจ้าาา ก็เลยต้องโบกมือลา Punting ไป แบบน่าเสียดายมากๆ
 ต่อมาสะพานโค้ง Bridge of Sighs สะพานนี้เค้าเล่ากันว่า เวลาสอบเสร็จ เดินผ่านสะพานนี้ ความรู้สึกมันก็จะหม่นๆหน่อย และเหมือนเคยมีคนโดดน้ำฆ่าตัวตายมาแล้วด้วย (สงสัยจะเครียดหลังจากสอบเสร็จ หรืออะไรสักอย่างจำไม่ได้เหมือนกัน) ก็เลย..ทำรั้วกั้นไว้ป้องกันอันตรายค่ะ ส่วนเรื่องจริงเป็นไง อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน    Critical Thinking และแนวทางการได้ Merit ทุกวิชา (ป.โท UK)
เห่นโหลววววว โอ๋ววววว โอ๋ววววววว (ขอพิพม์ตามการผันเสียง เพื่อความอรรถรส) เนื่องจากจะเปิดเทอมแล้ว ก็มาอัพเดทกันอีกสักหน่อย หลังจากเรียนจบปริญญาโท เป็นที่เรียบร้อยแล้วเด้อออ ! #วิ้ววววว ~~ บทความนี้ก็จะมีสาระระดับสุด เพราะอยากแชร์ประสบการณ์ ใครสงสัยหรือมีอะไรอยากทราบเพิ่มเติมก็เมลล์มาถามได้ค่ะ ตาณเรียน สาขา Msc. International Marketing หรือ การตลาดระหว่างประเทศ เอาเข้าจริงก็เหมือนเรียนทั้ง global + international marketing ในเวลาเดียวกัน
. . Critical Thinking คืออะไร ? การคิดวิเคราะห์และหา Solution หรือแนวทางที่หลากหลาย ยกตัวอย่าง เช่น โจทย์คือต้องการผลลัพธ์เท่ากับ 2 จงหาวิธีสูตรคำนวณให้ได้ 2 โดยทั่วไปเราคงตอบแค่ 1วิธี คงมีแค่ 1 + 1 หรือไม่ก็ 1 X 2 แต่หากอยากได้คะแนนดีกว่านั้น . ควรบอกด้วยว่า ทำไม? ถึงมี 2 วิธี หรือมากกว่านั้น แต่ละวิธีต่างกันอย่างไร ? หาเหตุผลมาสนับสนุน โดยเอาข้อมูลจาก Academic Journal หรือ Articles มาเป็นตัวอ้างอิง ประมาณว่าเราคิดเหมือนกันกับนาย A และ นาย B ที่ทั้งสองบอกว่า บลาบลาบลา ซึ่งถ้านาย A & B มีความคิดต่างกันอีก หรือมีจุดไหนที่เหมือนกัน เราก็ต้องอธิบายค่ะ บางคนก็บอกว่า Critical Thinking คือ Compare / Contrast เปรียบเทียบกัน จริงๆมันก็เป็นได้หลายอย่าง และไม่ได้จำกัดว่าใช้แค่ในรายงานเท่านั้น แต่มันต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบความคิดเรา ทั้งเขียนงาน สอบ และ ตอนทำ Dissertation หรือวิทยานิพนธ์ ตาณได้คะแนน 73/100 ของวิทยานิพนธ์ อยู่ในระดับ Distinction ใช้โมเดลเยอะมาก Marketing Model เยอะกว่าที่คิดนะ บางเรื่องอย่าง Consumer Behaviour ที่ไม่คิดว่าจะมีโมลเดไรมาเทียบ ก็ยังมีเลย เยอะด้วยซ้ำทั้งแบบ Traditional model and Contemporary Model ที่พัฒนาแนวความคิดต่อมาจากแบบดั้งเดิม เงี้ยยย . หลักฐานสักหน่อย :D
เวลาใช้โมเดลเราจะมีโมเดลในใจอยู่แล้ว ว่าเราจะใช้อันนี้นะ แต่...ต้องไปหามาเพิ่ม เพื่อเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย โดยเฉพาะ Limitation สำคัญมากๆ เพราะมันทำให้เห็นว่า เรามีเหตุผลในการเลือดมายังไง ไม่ใช่ใช้ฟิลลิ่งเลือกมา อาจารย์แนะนำตาณว่า ทุกพารากราฟของงานเราควรมี Critical Analysis เสมอ ส่วนเกณฑ์รวม ก็จะแปะไว้ให้ตามรูปนี้เลยเนอะ (Critical Analysis checklist)
 Source สำหรับทำ Coursework/Assignment ป.โท //www.bloggang.com/viewblog.php?id=tarnxlapin&date=26-10-2016&group=5&gblog=13 สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือการทำ To-Do list เช็คจุดแต่ละอันที่เราทำไป ว่าทำครบหรือยัง มีขาดเกินตรงไหนบ้าง เพื่อที่เราจะได้ไม่งง เวลาเราไปคุยกับอาจารย์ แล้วอาจารย์ให้แก้ เราจะได้รู้ว่า เราทำค้างตรงไหนไว้บ้างเนอะ :D
=================================================== บางคนจะบอกว่า มหาวิทยาลัยปล่อยเกรดล่ะสิ ง่ายล่ะสิ บอกเลยว่า ไม่รู้ และไม่ได้แคร์ ไม่สนใจด้วย ว่าใครจะมาต่อว่าความสำเร็จเรายังไง ตัดเข้าไปอยู่ในกรุ๊ป พวกขี้อิจฉาที่เห็นคนอื่นได้ดีกว่าไม่ได้ เราไม่ให้ราคากับความคิดขยะพวกนั้น เพราะ เราไม่ใช่คนให้คะแนน สิ่งเดียวที่ทำได้คือ ทำให้คะแนนมันออกมาโคตรดี :) =================================================== ขอคั่นด้วยเทคนิคการทำสอบสักเล็กน้อย Structure ก็จะเป็น: Intro -> Body (Theory + Example) -> Conclusion ถ้าจะเขียนให้ผ่าน ต้องเขียนอย่างต่ำข้อละ 2 หน้าค่ะ เพราะว่าตอนอธิบาย เราต้องยกทฤษฎีและตัวอย่าง ซึ่งหน้าเดียวยังไงก็ไม่พอ เขียนสองหน้าคะแนนก็จะประมาณ 55-60/100 ค่ะ ถ้ายกตัวอย่างครบ และถ้ามีหลายตัวอย่างก็จะดีหน่อย เพราะว่าเหมือนทำให้เห็นภาพชัด ทฤษฎีเล็กน้อย ที่เหลือประยุกต์ใช้ ยอ้งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดี มีโอกาศเกิน 60/100 บางวิชาตาณก็เขียนเกือบหมดเล่มก็มี อันนั้นก็จะได้คะแนนเยอะมาก 80/100 :D #มีความอวดหน่อยๆ ที่สำคัญต้องฝึกเขียนให้คล่องมือ แบ่งเวลาดีๆ เพราะมันมีหลายบท อย่าลืมหาตัวอย่างก่อนไปสอบด้วยในแต่ละเรื่อง ตอนเข้าไปในห้องสอบจะได้ไมต้องนั่งนึก อย่าลืม Reference!!! สำคัญมาก ปล. อาจารย์หลายๆท่านจะใส่ List of journals ของแต่ละบทไว้ใน Module Guide !! ดังนั้นอย่าลืมไปดูกันนะ เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาเอง และอีกอย่างมันก็จะตรงกับสิ่งที่เค้าสอนด้วย แนวข้อสอบ มีออก Model และ Approach ต่างๆ แต่ละปีอาจจะออกไม่เหมือนกัน แต่ที่สำคัญคือต้องเขียนให้เยอะที่สุด อธิบายต้อง ละเอียดพอสมควร เน้นในการประยุกต์ใช้ ไม่ใช่แค่ ทฤษฎี ถ้าทฤษฎีมาแน่น การประยุกต์ใช้ ผ่านตัวอย่างที่มี Reference ยิ่งต้องทำให้เห็นภาพมากขึ้น หลักการดูแนวข้อสอบ ดูที่อาจารย์ว่าเค้าสนใจเรื่องไหนเป็นพิเศษ ชอบถามคำถามประมาณไหน ตอน Seminar มันไม่ได้เป็นตัวบอกข้อสอบหรอก แต่ มันจะเหมือนเป็น hint บอกว่าอาจารย์แต่ละท่านชอบ ตั้งคำถาม ประมาณไหน ซึ่งส่วนใหญ่ขอบอกตรงนี้เลยว่า ตรง !! ตอนสอบก็ตั้งคำถามคล้ายๆกับตอน Seminar เช่น บางคนชอบถามเรื่อง Challenges Versus Opportunities (Pros and Cons) บางคนชอบลิ้งค์หนึ่งบทกับหลายๆบท บางคนก็ออกตรงๆไปเลย โดยปกติตาณจะทำชีทสรุป ทั้งเนื้อหาและตัวอย่างไว้ เวลาท่อง หรือซ้อมเขียนจะได้ดูจากแหล่งเดียวเลย :D #สีมันก็จะเยอะหน่อยๆ 5555
 แชร์ประสบการณ์เรียน ป.โท ประเทศอังกฤษ 2016/2017
ห่างหายไปนาน ไม่รู้ว่าจะลืมกันไปแล้วหรือยัง > < )/ วันนี้ตาณจะมาแชร์เกี่ยวกับประสบการณ์เรียนต่อ และ การใช้ชีวิตที่อังกฤษ โดยเฉพาะ Coventry ซึ่งเป็นเมืองขึ้นชื่อในเรื่องความอันตราย มาดูกัน ว่า 1 ปีที่ผ่านมานี้เจออะไรกันมาบ้าง จะเป็นจริงอย่างที่เค้าลือกันหรือไม่ . . . รวมถึงปัญหาคาใจใครหลายๆคนเกี่ยวกับเพื่อนร่วมคลาส คนจีน การเรียน หลักๆจะเป็นที่ Coventry เพราะว่าตาณเรียนที่ Coventry University ถ้าอยากอ่านเนื้อหาเต็มๆ ไล่ย้อนดูได้ที่บทความใน กลุ่ม Lapin X England ปล. วีรกรรมคนจีนจะมาอัพอีกทีน้าาาา ยาวมากที่เจอมา เพราะดันไปอยู่กลุ่มคนจีน T_T LETS GO !! 2 คำที่ต้องฝึกพูดให้เป็นนิสัย Thank you ขอบคุณ ลงจากรถบัสหรือแท็กซี่ ก็ต้องขอบคุณ เป็นมารยาทค่ะ ขอบคุณที่เค้ามาส่งเราอย่างปลอดภัย หรือเวลาที่พนักงานทำอะไรให้ ก็ขอบคุณแล้วยิ้มให้นางหน่อย พวกนางก็จะแฮปปี้ค่ะ : ) Sorry ขอโทษ แต่จริงๆแล้วคนอังกฤษขอโทษพร่ำเพรื่ออ่ะ คือเดินชนไปนิดนึง ก็ซอรี่ เหมือนจะชนแต่ไม่ชนก็ซอรี่ แล้วถ้าเป็น British แท้ หรือคนอังกฤษแท้ ถ้าเราซอรี่ไปนางจะซอรี่กลับ ไม่รู้ทำไม งงๆ แต่ก็น่ารักดีค่ะ 5555 โจรและความโหดร้าย ใน Coventry จริงๆไม่ใช่แค่ที่ Coventry หรอกค่ะที่น่ากลัว ทุกทีก็น่ากลัวเหมือนกันหมด เพราะว่าเราเป็นเด็กต่างด้าว เอ้ย ต่างชาติ สิ่งที่ทำได้คือ ระวังตัวเอง อย่าเดินคนเดียวตอนกลางคืน ถ้าต้องเดินให้กลับกับเพื่อนเยอะๆ ถ้าอยู่เป็นบ้านไม่ได้อยู่หอ ให้ล็อคประตูทุกครั้ง เพราะถ้ามีโจร เค้าจะสังเกตุเราอยู่ตลอด และอาจเข้ามาตอนทีเผลอ (กรณีนี้ยังไม่เคยเจอที่ Coventry แต่เพื่อนที่ Southampton เจอค่ะ น่ากลัวมาก) แม้ว่าจะมี Homeless หรือคนไร้บ้าน อยู่ในเมืองบ้าง แต่ก็ไม่ได้เยอะมากนะ ถ้าเค้ามาขอเงินแล้วเราไม่ให้ ก็ไม่ได้เดินตาม หรือมาทำร้ายร่างกาย อีกอย่างไม่ใช่แค่ Homeless หรอกที่มาขอเงิน อีพวกคนกินเหล้าธรรมดาทั่วไปเนี่ยแหละ ตัวดี แต่ถ้าไม่ให้ก็ไม่มีปัญหาค่ะ เดินหนีไปเลย สภาพแวดล้อม คำว่า ผู้ดีอังกฤษ ที่เรารับรู้ ซึมซับมานานนั้น ไม่ได้เว่อวังอะไรขนาดนั้น มีทั้งดีและไม่ดีค่ะ มีทั้งคนเกรียนและคนน่ารัก คนผิวสี (หรือพี่มืด) ก็ยังใจดีและเป็นมิตรกว่าคนขาวบางคนอีกเด้อ ถามว่าเรื่องคนเหยียดเอเชียมีมั้ย ก็มีนะ แต่ยังไม่เคยเจอกับตัวเองนะ อย่างฝรั่งที่ Coventry เค้าจะเกลียดคนจีนมาก ซึ่งข่าวจากหลายปีก่อนนั้น ที่มีคนโดนแทง โดนกระทืบ อันนั้นเค้ากระทืบผิดคน ถ้าจำไม่ผิด เพราะคิดว่าคนจีน ก็เลยหมั่นไส้ ซวย คนไทยอย่างพวกเราไปซะงั้นเลยอ่ะ ข่าวนี้ชัวร์เพราะว่าคนที่โดนไขควงจิ้ม เป็นเพื่อนของเพื่อนเราเอง ไม่ได้เป็นอันตรายมากค่ะ เค้าวืดๆ หลบทัน ... ที่เจอบ่อยคือทักว่า หนี-ห่าว ซึ่งหลังๆ ก็จะทำหน้างง เอียงคอ 45 องศา ตามที่ยายป๋อมแป๋มบอก แล้วตอบไปว่า What ?? อีฝรั่งนั่นก็หน้าเหวอ หลอนไปค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งเกรียนๆ =___= คนปกติเค้าไม่ทำกันค่ะ แต่ฝรั่งดีๆน่ารักก็มีเยอะค่ะ พวกเกรียนก็ปล่อยมันไป เมืองทุกที่มีความอันตรายหมด อย่าพยายามทำตัวเด่นเป็น spot จุดเด่น ให้น่าเข้าชาจใส่ เช่น เดินคนเดียวตอนดึก อย่าเดินเล่นมือถือตอนกลางคืนด้วยค่ะ อันตาย หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ นั่ง Taxi ดีกว่าค่ะ ใช้ Gett หรือ Uber ก็ได้ เพราะถ้าเราเป็นอะไรเราจะสามารถตามล่าหาคนที่ทำได้ค่ะ เพราะคนขับต้องลงทะเบียนว่าเป็นใคร ขับรถทะเบียนอะไร ก็พอเบาใจได้ ถ้าโดนหาเรื่องทำไง ? เข้าใจว่าบางคนอยากป้องกันตัว หรือโดนฝรั่งเกรียนใส่ก็หัวร้อน แต่ช้าก่อน ... บางคนเค้าแค่ดีแต่ปากค่ะ เพราะถ้ามีเรื่องชกต่อย ทำร้ายร่างกาย เราจะโดนโทษหนักกว่าและวุ่นวายมาก ถ้าเกิดเค้าเอาเรื่อง กลายเป็นวิซ่าเรามีปัญหา ไม่ดีนาจาาา อยากบอกให้ใจเย็น แล้วแจ้งตำรวจ ถ้ามันยังเข้ามา ตะโกนไปเลย Help Me! หรือ If you touch me, I'm gonna sue you!! แค่นี้ก็หลอนไม่กล้าเข้ามาทำไรแล้วค่ะ เหตุการณ์ที่เคยเจอคือมีฝรั่งมาด่าตระกูล Fuck กับรุ่นน้องเรา เมาแล้วปากดีนั่นเอง จนจะมีเรื่องกัน แต่คนแถวนั้นเค้าโทรไปแจ้งตำรวจก่อน บอกว่าอีฝรั่งเกรียนเนี่ยมันมาด่าเด็กพวกนี้ หน้าจ๋อยไปเลยค่ะ ! เพราะฉะนั้น ใจเย็นค่ะ อย่าไปลงมือก่อน ถ้ามันทำเราก่อนมันผิดเต็มๆ . . สิ่งที่ดีกว่านั้นก็คือ ตำรวจ ไม่ใช่แค่งานดี หน้าตาหล่อ แต่ว่าการทำหน้าที่ของเค้าก็ดีมากๆ มันทำให้เห็นได้ว่าเงินภาษีต่างๆที่เสียไปทั้งจากการทำงาน หรือ สิ่งของ ได้เอามาใช้ประโยชน์ อย่างที่เกิดเหตุก่อการร้าย วุ่นวายต่างๆที่ลอนดอน 10 นาที สามารถเคลียร์ทุกอย่างได้ ทั้งรถพยาบาล ตำรวจ เคลียร์คน ถือว่ามัน amazing มาก ต้องปรบมือและชื่นชมจริงๆ ธนาคารอะไรดี ? การทำงานธนาคาร หรือ หน่วยรัฐต่างๆ ช้ามาก เหมือนจะเป็นระบบ แต่ก็ไม่เป็นระบบ บอกไม่ถูก Barclays จะเป็นธนาคารที่บัตรโดน block บ่อยที่สุด และแฮคง่ายที่สุด ถ้าบัตรโดนบล็อคขอให้คุณทำใจไปเลยค่ะ . ใช้เวลาทั้งวันกว่าจะคุยรู้เรื่อง เพราะทำที่หน้าเคาท์เตอร์ไม่ได้ ต้องโทรไปคุยกับสำนักงานใหญ่ หรือที่ตรวจสอบบัญชีไรสักหน่วย แต่ต้องโทรจากที่ธนาคารไปนะคะ ก็ตรวจสอบเช็คกันไป กว่าจะรู้เรื่อง แนะนำคือ Lloyd (ลอยด์) ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องบัตรค่ะ การโดนแฮคก็น้อยมากค่ะ (sources: //www.mirror.co.uk/news/uk-news/local-lloyds-bank-branch-close-8509499) Shopping ใครสาวกนักชอปปิ้ง ก็จัดไปค่ะ ยิ่ง ชอปออนไลน์แล้วนั้น บอกเลยว่าอยู่บ้านก็เสียเงินเป็นหมื่นได้ ทำมาแล้ว ทรัพย์จางยิ่งกว่าเลือดจางค่ะ ข้อดีคือ สามารถคืนสินค้าได้ หากไม่พอใจ ภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น ภายใน 14 วัน หรือ 30 วัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละแบรนด์ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องเข้าใจคือ ค่าขนส่ง บางแบรนด์ก็ไม่มี บางแบรนด์ก็จะมี 2 ปอนด์บ้าง 3-4 ปอนด์บ้าง แล้วแต่การจัดส่ง แอบแพงเหมือนกัน แต่อยู่ไปเดี๋ยวก็ชิน เราต้องเข้าใจค่าเงินและค่าครองชีพมันต่างกัน อย่าเอาไปเทียบกับไทยค่ะ เพราะค่าเงินเราไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นอะไรมันก็แพง โอเคร๊ ? บัตรนักเรียน ลดได้ ! 10% - 15% สามารถเข้าไปตรวจเช็คได้ที่ UniDay เว็บดีที่ต้องบอกต่อ และมี Application ด้วยบางแบรนด์ใช้ลดได้ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ ถ้าจะซื้อของ คิดอะไรไม่ออกไปหาใน Amazon เชื่อถือได้ เพราะว่าคนที่มาขายต้องเป็นบริษัท ของบางอย่างถูกกว่าซื้อหน้าเว็บอีก แต่ระวัง Amazon Prime เผลอไปทดลองใช้ แล้วมันจะนับเราเป็นสมาชิกทันที ต้องรีบเข้าไปยกเลิก วิธีการยกเลิก เข้าไปที่ Your Account > Prime > Manage Your Prime Membership ถ้าตาสีตาสาคนทั่วไปจะไปขายใน Ebay อันนั้นก็จะน่ากลัวหน่อยๆ . ช่วงลดราคา Summer Sales : มิย. - ก.ค. Christmas Sales ธ.ค. - กพ. . . ** Visa for Tier 4 Student ใช้ refund ไม่ได้นะคะ ** จะใช้ได้ประมาณ 3 เดือนก่อนหมดคอร์ส หรือ กำลังจะกลับไทย ซึ่งรวมไปถึงการ refund ในเครือประเทศยุโรปทั้งหมดด้วย ถ้า refund จะโดนตัด visa กลับบ้านเร็วโดยไม่รู้ตัวเลยนาจา Refund จะได้อยู่ที่ประมาณ 12% จากราคาที่ซื้อ และเลือกได้ว่าจะรับแบบเงินสดหรือบัตร เงินสดก็ไปรับที่สนามบิน มีค่าธรรมเนียม 15 ปอนด์ ในการ Refund จริงๆ Hi-end brandname ที่อังกฤษไม่ถูกนะ แพงเสียด้วยซ้ำ ของก็น้อย แต่ช่วงลดราคาจะถือว่าคุ้มมาก เพราะแบรนด์ใหญ่ๆก็จะร่วมลดด้วย 20-30% เลย (ห้าง Harrods) Fashion - Cosmetic ในส่วนของแฟชั่นขอสรุปสั้นๆว่า จืด - ชืด- เซง จบค่ะ = w = )/ ไร้สีสรร สียืนพื้นคือ ดำ ขาว น้ำตาล เทา มีแค่นี้จริงๆ รูปแบบก็ไม่หลากหลาย ซ้ำเดิมวนไปมา ถ้าไม่อยากซื้อแพง ให้รอ Zara Topshop ออก collection ใหม่ แล้วรอแบรนด์ Forever 21 หรือแบรนด์อื่นๆจะออกตามมา ในราคาที่ถูกกว่า . แต่แบบเดียวกัน คนอังกฤษไม่ได้ใส่สีแฟนตาสีแบบบ้านเรา หรือแนวเกาหลีค่ะ ใครที่ชอบแฟชั่นหน่อยๆ ก็จะอาจจะเซงนอยๆนิดนึง ยกเว้นตอนฤดูหนาว ก็จัดเต็มขุดใหญ่ขนเฟอร์ไฟกระพริบกันไปเลย !! เพราะคอลเลคชั่นหน้าหนาวคือเลิศเวร่อออออออ ~ เครื่องสำอางค์ หลายแบรนด์ถูกกว่าไทยเยอะนะ ยิ่งถ้าเป็นแบรนด์ในโซนยุโรป เช่น YSL Mac Lancome Estéeแต่ชาแนลจะถูกกว่านิดหน่อยค่ะไม่เกิน 400 บาท
ส่วนเสื้อผ้านี้ หิ้วมาเองเจ้าค่ะจากไทย 5555 ถ้าอยู่ลอนดอนไม่ค่อยมีใครสนใจเท่าไหร่ เพราะทุกคนก็แต่งตัวพอๆกัน อาหาร ไม่ค่อยมีอาหารฟิวชั่นแบบบ้านเราค่ะ คิดไรไม่ออกไปร้านจีน รสชาติพอจะถูกปากคนไทยหน่อย แต่ไม่ถูกปากคนจีนค่ะ 5555 ร้านอาหารไทย เราจะรู้สึกว่ามันแพง แต่ถ้าอยากกินมาก แนะนำว่าไป Lao Cafe (London) อร่อยมาก (เรื่องอาหารเดี๋ยวมาทำรีวิวแยกละกันนะ น่าจะเยอะอยู่อธิบายเป็นชาติไม่หมดชัวร์) จากในรูปจะเห็นเลยว่ามีอาหารไทยก็เยอะ สเต็กกินจนเบื่อ ซูชิพอได้แต่ไม่อร่อยเท่านบ้านเรา ชาเขียวที่ลอนดอนคือเลอค่าที่สุด แนะนำร้าน Tombo, Tsujiri , Milky Train  น้ำปะปา สกปรกค่ะ ถ้ากินโดยไม่กรองก็เตรียมไปรักษานิ่วได้เลย น้ำอาบก็จะผสมคลอรีนใครที่แพ้...ต้องอดทนหน่อยนะคะ น้ำร้อนก็สกปรก บางวันเปิดนี่ได้กลิ่นเลยอ่ะ แต่หน้าหนาวก็ No choice อะเนอะ ไม่ก็พกหัวผักบัวแบบกรองคลอรีนได้ระดับนึงมาเปลี่ยนทีหอแทน สายฉีดก้นไม่ต้องเอามา เพราะหอส่วนใหญ่ไม่มีที่ให้ต่อ (ลองเอามาละ 555) นอกจากจะอยู่ Apartment หรือ เช่าบ้าน ถ้าเป็นกลัวเป็นสิวที่หน้า ซื้อน้ำดื่มเป็นขวดใหญ่ๆมาล้างหน้าแทน แต่พออยู่ไปสักพักก็พอปรับสภาพได้ค่ะ ตาณใช้สบู่ก้อนชมพู (Harrogate) เอามาจากไทยก็พอช่วยได้ค่ะ สิวที่หลังก็น้อยลงหน่อย ถ้าเป็นสิวหน้าใช้ Clinique anti-blemish solutions clinical ซื้อได้ที่ Boost หรือถ้าจะซื้อจากไทยก็ Skinoren ตัวนี้ดีทาสิวแล้วสิวหายไม่ค่อยเป็นรอยสิวค่ะ สำหรับน้ำดื่ม น้ำแร่ถูกกว่าน้ำทั่วไปเยอะค่ะ ถ้าไม่อะไรมาก ซื้อ Evian เถอะ ขวดเล็ก 0.60 ปอนด์เองเถอะ ส่วนตัวกรองน้ำใช้แบบนี้อ่ะ มีหลายแบบ หาซื้อได้ตามร้าน Asda, Wilko, Ikea
การเดินทาง London: Tube หรือรถไฟใต้ดิน ค่อนข้างสกปรกและเก่ามากค่ะ ผิดกับความเจริญในหลายๆด้านของที่นี่ โดยเฉพาะสาย Picadelly / Central Line แต่สาย Circle - Dirtrict Line จะเป็นสายใหม่ ติดแอร์ ดีกว่าสายอื่นๆ Coventry: Bus หรือ Taxi แต่ส่วนใหญ่ก็เดินไปได้หมดค่ะ เมืองค่อนข้างเล็ก ถ้าจะไปเมืองอื่นใช้ Railway หรือ รถไฟ นั่ง 1 ชม. ถึงลอนดอน 30 นาที ถึงเบอร์มิงแฮม ไปที่ไหนไม่ถูก search จาก post code หรือรหัสไปรษณีย์ พิกัดแม่นอยู่ ไม่ต้องกลัวหลงจ้าาา :D อ้อ เด็กๆ อย่าลืมสมัคร 16-25 Railcard นะคะ เว็บนี้ ลด ⅓ ราคาตั๋วปกติค่ะ https://www.16-25railcard.co.uk/?_ga=2.98131423.1539476761.1499093520-1031990623.1499093520 ส่วนเด็ก London ใช้ Oyster ราคาบัตร 5 ปอนด์ เป็นแบบเติมเงินเอาค่ะ อ่านเพิ่มเติม //www.bloggang.com/viewblog.php?id=tarnxlapin&date=01-12-2016&group=5&gblog=14 |
Little x Lapin
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] ผู้หญิงคนนึงที่ชอบเล่าเรื่องราว ผ่านรูปภาพและตัวอักษร :) ☆ บล็อคนี้เริ่มสร้าง เมื่อวันที่ 04-05-2016 (*^︹^*) ---------------------------------------- Group Blog All Blog
Link |
||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||
