เมืองคนงาม ข้าวหลามยาว มะพร้าวแก้ว เพริศแพร้วเกาะแกง ใช่แล้วคะเรากำลังจะบอกเล่าเรื่องราวของเมืองเชียงคาน เมือเก่าซึ่งกำลังอยู่ในกระแสท่องเที่ยวในขณะนี้
เชียงคาน เป็นอำเภอเล็กๆ อำเภอหนึ่งใน จ.เลย ที่อยู่ติดริมฝั่งโขง บรรยากาศเงียบสงบ ไม่เร่งรีบเหมือนสังคมเมืองปัจจุบัน เชียงคาน เป็นเมิองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์สภาพบ้านเมืองเดิมๆ ไว้ได้อย่างสมบูรณ์เลยเมืองหนึ่งเลยทีเดียว ณ ปัจจุบัน เชียงคาน กำลังก้าวเข้าสู่ธุรกิจท่องเที่ยงอย่างเต็มตัว แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงอนุรักษ์เอกลักษณ์และวัฒนธรรมท้องถิ่นไว้อย่างเต็มกำลัง ในกระแสของการท่องเทรี่ยว เชียงคาน ได้รับการเปรียบเทียบจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นคู่แฝดของ ปาย บ้าง อัมพวา บ้าง โดยที่ชาวเชียงคานเองไม่ได้เต็มใจในการเปรียบเทียบนี้ซักเท่าใดนัก ในอนาคต เชียงคาน จะเติบโตไปในทิศทางใดคงต้องอาศัยความเข้มแข็งของชุมชน และความร่วมมือของนักท่องเที่ยวที่จะร่วมกันอนุรักษ์สิ่งดีงามให้คงสภาพคู่เชียงคานตลอดไป
เลาะเลียบริมโขง < เส้นทาง: ขอนแก่น - น้ำหนาว - เชียงคาน - หนองคาย - ขอนแก่น >
นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบปีเดียวกันสำหรับทริปเชียงคาน ด้วยระยะเวลาทิ้งห่างกันเพียง 5 เดือน เชียงคานเติบโตอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย สำหรับทริปนี้เราเริ่มต้นกันจากขอนแก่น มุ่งหน้าสู่น้ำหนาวด้วยระยะทางร้อยกว่าโล ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ก็จะได้พบกับธรรมชาติที่สวยงามา และอากาศสบายๆ จนไม่น่าเชื่อว่าด้วยระยะห่างเพียงเท่านี้ อากาศจะต่างกันได้ราวกับไม่ได้อยู่ในภูมิภาคเดียวกัน จุดหมายปลายทางที่เราจะแวะกันในวันแรก ยังไม่ถึงน้ำหนาวดีนัก เราแวะพักกันที่บ้านพักตากอากาศส่วนตัวของ อ.โหล (คณะเทคโนฯ มข.) ซึ่งอยู่ห่างจาก อช.น้ำหนาวเพียง 10 กม. เพื่อชื่นชมกับธรรมชาติและบ้านหลังใหม่ที่อาจารย์แสนจะภาคภูมิใจ
อากาศในตอนกลางคืนแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือฤดูร้อน
...เล่นเอาฟันกระทบกันแทบไม่เป็นจังหวะ...มันหนาวมั่ก ช่างแตกต่างจากขอนแก่นที่จากมาเป็นยิ่งนัก!!
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากจัดการกับปากท้องกันเป็นที่เรียบร้อย
ก็ได้เวลาเข้าสู่จุดหมายที่แท้จริงของทริปนี้ซะที เรากลับเข้าสู่เส้นทางเดิมที่ใช้ตอนมาจากขอนแก่น เลี้ยวซ้ายเข้าสู่อาณาเขตจังหวัดเลย ณ แยกโนนสังข์ แวะจิบกาแฟ ณ ภูผากาแฟสด เรียกความสดชื่นกันซักแก้วก่อนจะเดินทางต่อ
ณ จุดนี้เราเรียกกันว่า
ผานกเค้า ไม่ใช่นกเรานะจ้ะ ..ตึ่งโป๊ะ..ที่นี่คือจุดแวะพักสำหรับนักท่องไพรที่ชอบท้าทายกำลังขาตัวเองในการเดินทางขึ้นภูกระดึง ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่บางครั้ง เราจะพบกับเหล่าหนุ่มสาวสะพายเป้กันมาเป็นหมู่คณะบ้าง เดี่ยวบ้างตามอัธยาศัย มาแวะพักทำธุระ บ้าง ทำใจบ้าง ก็ว่ากันไปก่อนจะขึ้นไปสัมผัสธรรมชาติอันบริสุทธิ์
มาๆ หันกลับมาเข้าสู่เส้นทางหลักของเรา หลังจากเก็บความสดชื่นกันมาเต็มแม็กซ์แล้ว ก็เดินเครื่องเต็มกำลัง มุ่งหน้าผ่านตัวเมืองเลย ผ่านเลย เล้ย เลย จนสุดทางเราจะพบกับสามแยก เชียงคานของเราแยกขวาคะ หักขวากันสุดๆ เลยคะ อย่าได้หลง เร่งเครื่องกันเต็มที่ล่ะ เนื่องจากทริปนี้เป็นวันหยุดยาว และชาวเราก็อาจหาญกันเหลือเกินที่จะ walk-in ไม่ให้หลุดคอนเซ็ปต์ black-packer ไม่ผิดหรอกคะสำหรับตัวสะกด เราคือ แบล็คแพ็คฯ ขนานแท้ สีไม่เคยตก!! ถึงเชียงคานเอาเมื่อบ่ายอ่อนๆ เริ่มตระเวนหาที่พักในโซน walking street ไล่ไปตั้งแต่ต้นถนนยันท้ายสุด "เต็ม"!! สมมัน...แต่สวรรค์ยังใจดีอยู่บ้าง เราได้ที่พักนอกโซน walking street ถัดออกมาเพียงหนึ่งช่วงถนน แต่สามารถเดินถึงกันได้ เอาน่ะ เป็นอีกหนึ่งอรรถรส เชียงคานใกล้แค่เอื้อม ไว้คราวหน้าเราจะพักริมโขงกันให้ได้!! ราคาห้องพักของเรา ห้องแอร์ 400 บาท/ห้อง/คืน ห้องพัดลม 300 บาท/ห้อง/คืน ห้องน้ำรวม แต่ขอบอกว่าสะอาดสุดๆ จนที่บ้านยังอาย..ตึ่ง ตึง ตึ๊ง..
ราคาที่พักในเชียงคานส่วนใหญ่จะราคานี้กันนะคะ ถึงจะราคาแค่นี้ แต่คุณภาพคับฟ้าจริงๆ คะ ประหนึ่งว่านอนอยู่บ้านตัวเอง เนื่องจากเป็นโฮมสเตย์ขนานแท้ เจ้าของบ้านแต่ละหลังขอบอกว่าน่ารักจริงๆ น้ำใจล้นเหลือเอามั่กๆ คุ้มเกินราคา ประทับใจเป็นที่สุด ^_^
นภาริมโขง
หลังจากได้ที่พักแล้วก็ต้องหาอะไรใส่ท้องกันซะหน่อยคะ บ่มเพาะความหิวกันมาจนได้ที่ มื้อนี้เราเต็มอิ่มกันที่แก่งคุดคู้ ใช้เวลาเดินทางจากเชียงคานประมาณ 20 นาที
อิ่มท้องแล้วก็กลับมานอนพักกันซักเล็กน้อย รอเวลาไปเดินชิลชมธรรมชาติริมโขงกันยามเย็น ^O^
เมืองเก่าเล็กๆ แห่งนี้ได้รวบรวมงานศิลปะท้องถิ่นอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่บ่งบอกถึงความเป็นอิสานไว้อวดสายตานักท่องเที่ยวมากมาย
บ้านเก่าอายุร้อยปี ได้รับการอนุรักษ์..ทำจากไม้ไผ่สานขัดแตะโบกทับด้วยดินเหนียว
ราคาสินค้าอยู่ในอัตราปกติค่อนไปในทิศทางที่ถูกกว่าแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป ราคาของที่ระลึกหากจะเทียบกับปาย (ต้องขออภัย ที่ต้องเปรียบเทียบคะ) ถือว่าถูกกว่ามาก
ศิลปะ..ศิลปิน..และไอเดียเจิดเจิด
หลังจากเดินกันมาจนปวดน่องแล้วก็ได้เวลาแซ่บ เติมพลังกันซะหน่อย...นี่เล้ยยยย
หลังจากอิ่มท้อง อิ่มใจ กับเชียงคาน ก็ได้เวลากลับสู่สังคมเมืองอันวุ่นวาย back to work นะคะทุกท่าน เราใช้เส้นทางเลาะเลียบริมโขงเพื่อปรับอารมณ์เตรียมใจกลับสู่สภาพปกติของชีวิต
มาทาง อ.ปากชม เข้าสู่เมืองหนองคาย
แวะช้อปท่าสเด็จ
และสังสรรค์กับเพื่อนฝูง
ก่อนจะกลับ ผ่านอุดร แวะลั้ลลาโรบินสันอุดร และกลับถึงขอนแก่นโดยสวัสดีคะ....
แล้วเจอกันใหม่นะคะเชียงคาน
ขอบคุณทีมเอเลี่ยนผู้ให้การสนับสนุนการโบกรถจากขอนแก่น-ชุมแพ
= o = ถ้าว่างก็ไปด้วยกันนะคะ = o =
Photo by Black-pack
Review by sNOwhite