Group Blog All Blog
|
SLeeping pLace
SLeeping pLace
-------------------------- @Chaiang Mai Purple Pastel Palce(Guesthouse) บนถนนคนเดินวันอาทิตย์ //www.purplepastelplace.com/ ลัลลา@เชียงใหม่ เชียงราย ปาย [vol.2] :)
14 ตุลาคม 2553...........................
เช้านี้ฝนตกต้อนรับพวกเราซะยกใหญ่....สักแปบฝนก็หยุดตก เลยได้ออกไปสูดกลิ่นของเมืองชายแดน และขบวนของพวกเราก็เริ่มออกเดินทางเพื่อไปยังสามเหลี่ยมทองคำ เพื่อไปชื่นชมกับดินแดนที่มีสามประเทศมาปะกัน (ความคิดเห็นส่วนตัว: ไม่ประทับใจเท่าไหร่หนัก เพราะดูมีการซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลา(เมื่อหลายๆปีก่อน เรามาเที่ยวกับเพื่อนสมัยมหาลัย ก็ซ่อมถนนนะ) ทั้งยังมีการสร้างเรือลำยักษ์เพื่อเป็นที่ประทับของพระพุทธรูป เราว่าดูเป็นพุทธพาณิชย์ไปนะ) หลังจากออกจากสามเหลี่ยมทองคำ เราก็มุ่งตรงสู่เชียงใหม่เพื่อคืนรถที่สนามบินเชียงใหม่ และเดินทางต่อสู่ปาย ประมาณบ่ายสองโมงเราก็ถึงสนามบินเชียงใหม่ เพื่อคืนรถเช่า จากนั้นก็นั่งรถแท๊กซี่ไปยังอาเขต(สถานีรถโดยสาร จังหวัดเชียงใหม่) มาซื้อตั๋วรถตู้เพื่อไปปาย....หาไรรองท้องกันก่อน ใช้บริการรถแดงจากสถานีรถโดยสารอาเขตมุ่งสู่ร้านข้าวซอยเสมอใจฟ้าฮ่าม มาถึงก็ต้องลิ้มรสข้าวซอยกันสักหน่อย มีอาหารอื่นๆเคียง ไม่ว่าจะเป็นข้าวเงี้ยว น้ำพริกอ่องกับชุดผัก และใส้อั่ว....สำหรับบริเวณและบรรยากาศของร้านก็เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวดีๆนี่เอง กว้างขวาง โอ่อ่า..... กลับมาทันเวลาขึ้นรถเพื่อนเดินทางสู่ปาย ระยะทางจากเชียงใหม่สู่ปายไม่ได้ไกลอะไรมากมาย เพียงแค่มีโค้งอยู่ตลอดเวลา ....ขึ้นรถมาสักพัก ชมวิวสักหน่อย ก็อย่าเสียเวลามากไปกว่านี้เลย ของีบสักหน่อยแหละกัน มาถึงสถานีรถโดยสารของอำเภอปาย(เล็กๆน่ารักๆ) ก็เริ่มค่ำ....ส่วนเรื่องที่พักก็ใช้หลักการเดียวกันกับที่เชียงใหม่ คือไม่ได้จองไว้ก่อน แต่มีรายชื่อของที่พักหรือระแวกที่จะพัก ซึ่งพวกเราต้องการพักในระแวกตัวเมืองปาย ระแวกแรกที่ไปสำรวจทั้งๆที่มีสัมภาระเต็มหลัง คือ ด้านหลังวัดป่าขาม ตามลายแทงต่างๆจากแทบทุกสำนัก...ความคิดส่วนกลุ่ม: มืดไป....งันก็เดินออกมา แล้วเดินมาแถวๆด้านที่ติดกับแม่น้ำปาย จนมาจบลงที่ วิลล่า เดอ ปาย เกสท์เฮ้าส์ เว็บไซด์: //www.villadepai.com/ ดูเป็นที่พักสำหรับคำว่าปายดีนะ ไม่หรูหราจนเกินไป และก็ไม่ได้เป็นเกสท์เฮ้าส์จนเกินไป กำลังพอเหมาะในความคิดเห็นส่วนตัวของเรานะ ห้องด้านหน้าแม่น้ำ มีคอมพิวเตอร์พร้อมอินเตอร์เนตแต่ไม่มีทีวี ส่วนห้องแถวถัดมาจะมีทีวีแต่ไม่มีคอมพิวเตอร์(หากใครนำแล็ปท็อปไปเองก็ขอรหัสได้จากReception) สำหรับเราอยากได้ห้องหน้าแม่น้ำเป็นทุนเดิม ส่วนสิ่งต่างๆถือว่าเป็นของแถม ^_^ เมื่อทำการเก็บสัมภาระเป็นที่เรียบร้อย ก็ออกมาเดินในตัวเมืองปาย ก็ยังมีร้านคาเปิดอยู่อย่างคับคั่ง...ได้รับรสชาติของปายเพียงแค่นี้ ก็ไม่รู้ทำไมพวกเราลืมความหิวไปได้ตั้งนานสองนาน กว่าจะรู้สึกว่าหิวก็ปาเข้าไปห้าทุ่มแล้ว...พวกเราเลยลงเอยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับเมนูที่สุดแสนธรรมดา แต่บรรยากาศซิ มันดีมากเพียงพอแหละ บรรยากาศตัวเมืองปายในค่ำคืนวันศุกร์ กลับที่พักพร้อมทั้งความอิ่มท้อง อิ่มใจและผสมกับความเหนื่อย.... ลัลลา@เชียงใหม่ เชียงราย ปาย [vol.1] :)
Free seat tRip (Phuket-Chiang Mai-Phuket) by Airasia.....ใครๆก็บินได้
อย่างที่ทราบๆกันถึงโปร 0 บาทของแอร์เอเชีย เราก็เป็นคนหนึ่งที่ตามกระแส (ว่าๆกันไป)...ปีก่อนโน้น ก็จัดบาหลีไปหนึ่งทริป มาปีนี้ขอมากอดประเทศไทยให้เต็มปอดสักหน่อย...เหมือนจะดูดีนะ เนื่องจากแอร์เอเชียพยายามส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นฮับ แหม! อะไรจะโชคดีขนาดนั้น เราจึงสอย ไปกลับภูเก็ต-เชียงใหม่ มาซะเลย แต่กว่าจะได้ไปก็ล่วงเวลาซะนาน เกือบลืมไปแหนะ....ใครจะกล้าลืมลงละค่ะ ยังมีเวลาสอยโปรเช่ารถของBudgetมาตั้ง 4 วัน(ฝากคุณเพื่อนๆซื้อที่กรุงเทพนะ ตอนงานไทยเที่ยวไทยแหละ) หมายกำหนดการเดินทางครั้งนี้ก็เริ่มต้นวันที่ 12 ตุลาคม 2553 และจบทริปวันที่ 19 ตุลาคม 2553 สมาชิกร่วมก๊วนรวมกันก็ สี่สาว ส่วนรายละเอียดของทริปก็ห้องนี้แหละ เป็นคู่มือชั้นเยี่ยม ไม่ว่าการรีวิว การตั้งกระทู้ ที่เด็ดสุดก็คือคำคอมเม้นท์ของทุกๆคนแหละ...... การเดินทางครั้งนี้ ไม่มีการจองที่พักล่วงหน้า ทั้งๆที่ ดูเหมือนว่ามีข้อมูลและตัวเลือกมากมาย แต่ก็ไม่รู้เหตุผลส่วนตัวของตัวเราเองเหมือนกันว่าทำไม อาจจะอยากเห็นของจริงๆมากกว่า....ถ้าชอบก็เอาเลย ถ้าไม่ชอบก็ตัดตัวเลือกนี้แล้วเอาตัวเลือกถัดไปมาต่อ....(คำแนะนำ: ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการความมั่นใจ และไม่เหมาะกับฤดูการท่องเที่ยวหรือช่วงเวลาที่มีคนเดินทางไปยังที่นั้นเยอะ) 12OCTOBER2011.......................................................... รุ่งเช้าต้องไปแหละ แต่ตอนตีสี่ยังนั่งจัดกระเป๋า จัดบ้านอยู่เลย...(นี่แหละ เพราะเป็นคนไม่ค่อยกระตือรืนร้น...เรื่อยๆๆๆ) แหมก็เราเลิกงานก็เที่ยงคืนแล้วนี่วันนั้น...ดูคนเรามีเหตุผลให้กับตัวเองเสมอ หุหุหุหุ.... เริ่มออกเดินทางเลยแหละกัน...ขอบคุณคุณเพื่อนสุดเลิฟที่มาส่งที่สนามบิน (กรรม! คุณเพื่อนนอนตื่นสายแหละ เลยต้องไปส่งสนามบิน...ตอนแรกว่าจะให้ไปส่งที่ท่ารถเพื่อขึ้นรถโดยสารไปสนามบินภูเก็ต).... เสียงตะโกนไล่หลังของคุณเพื่อนสุดเลิฟตามมาหลอกหลอน.... “เที่ยวนะให้สนุก แต่อย่าลืมของฝากตรู.....นะ” พอต่ะคุณ.....ไปกันได้แล้ว 10โมงเช้าอยู่ภูเก็ต พอบ่ายโมงมาโผล่เชียงใหม่.....OMG! ก็จัดการไปหยิบกระเป๋าจากสายพาน(ที่ช้าอย่างแรง.....ไม่เป็นไร เราคอยท่านได้)....เค้าเตอร์ของรถเช่าBudgetก็อยู่ตรงหน้าของท่านเลยแหละ.....เราก็จัดการเอกสารต่างๆกับรถเช่า ได้มาคือ Vios (Auto) งันเราก็ต้องหาที่พักก่อนแหละกัน....ในรายชื่อของเรามี Hallodormtell หรือจะเรียกว่า Hallo Nimman คงได้แหละ หลายเหตุผลที่ได้เลือกโรงแรมนี้ คือ เก๋ (พอแหละ) พอมาเห็นแบบเป็นๆ ใช่เลย....เอาที่นี้แหละคืนนี้ ได้ห้องพักที่อยู่ได้สี่สาว ราคา 1,199บาท(ไม่มีอาหารเช้า....ไม่เป็นไรจ้า มิแคร์) //www.hallonimman.com/ ............................................................Hallo Nimman................. เมื่อได้สูดกลิ่นไอของที่พักที่สุดแสนจะฮิปได้เพียงพอแล้ว เราก็ออกไปขับรถฆ่าเวลากันดีไหม...เวลาเยอะ(คิดเอาเองนะ ว่าเยอะ).....ไม่ได้มีโปรแกรมตายตัวสำหรับวันนี้ ขับรถไปเรื่อยๆ...เจอป้ายบอกทางไปอุทยานหลวงราชพฤกษ์(สถานที่จัดพืชสวนโลกเมื่อ 2006)....อ้าว ไปกันนะ...สมาชิกตัวน้อยใจง่าย ก็ไม่ขัดคออะไร.....ไม่ไกลไม่ใกล้จากตัวเมืองเชียงใหม่เท่าไหร่หรอก เราก็มาถึงที่นี้....ปาเข้าไปเกือบ ห้าโมงเย็น เป็นไง ไปไม่เช็คเวลา...ชิ! ไม่สน แค่เดินเล่นรอบๆนอก แค่นี้สวนที่เราเห็นก็สวยจะแย่.... ตื่นตาตื่นใจไปซะทุกอย่างในสายตาเรา.....เวอร์ได้อีก เมื่อเหลือบสายตามองขึ้นไปในองศาที่สูงขึ้น เราจะเห็นว่ามีพระธาตุหรือวัดนี่แหละอยู่ข้างบนเขาที่อยู่ไปข้างหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์.....งันขึ้นไปไหว้เอาฤกษ์เอาชัยสักหน่อย ...วัดพระธาตุดอยคำ... กลับลงมาพร้อมๆกับแก๊งค์ขี่จักรยานเสือภูเขา(เยอะจริงๆ...) ก็ค่ำแล้ว หาไรกระแทกริมฝีปากกันหน่อย.....แวะทานอาหารพร้อมโชว์ฟรีตรงประตูท่าแพ(วันสุดท้ายของการจัดงานสักอย่าง) อาหารก็ซื้อมาทานที่โต๊ะ พร้อมดูโชว์ที่เด็กๆจากโรงเรียนต่างๆในเชียงใหม่แหละมาร่วมงาน...เพลินๆๆน่ะ อย่าคิดมาก เราก็ทานอะไรง่ายๆ สัมตำไทปู ข้าวเหนียว หมูแดดเดียว น้ำส้มคนละแก้ว...หร่อยแล้วแหละ ทั้งอิ่มตา อิ่มใจ อิ่มท้อง(แค่รองท้องแหละ หุหุหุ) ก็ถึงเวลาต้องไปรับอีกสองสาวมาสบทบ.....มาถึงสองสาวก็เรียกร้องอาหารทันที....ก็เลยจัดไปหาอะไรทานแถวๆหลังมช. (แถวๆร้านลุงว๊ากแหละ).....จากนั้นก็พักผ่อน เพื่อเตรียมรับศึกกับการเดินทางไปเชียงรายในวันพรุ่งนี้..... 13OCTOBER2011.......................................................... สัก แปดโมงสาวๆก็จัดการกับตัวเอง เพื่อเดินทางต่อไปยังเชียงราย....กองทัพต้องเดินด้วยท้อง....เอาไงดีละ สมาชิกในกลุ่มครบแล้วจ้า(ซุหลิง, หญิงใหญ่, i'm และ ตุ้ย) เราตัดสินใจเข้าไปหมูทอด น้ำพริกหนุ่ม แหนมทอด ข้าวเหนียว(อร่อยและนิ่มมากๆ) ในตลาดวโรรส(กาดหลวง)เพื่อมาเป็นอาหารเช้าและเสบียงในการเดินทาง..... Google Map ถูกใช้เป็นเครื่องมือและคู่มือในการนำทางเราจากเชียงใหม่สู่เชียงราย....จดเส้นทางและหมายเลขทางหลวงในการเดินทาง ก็โอแหละ จุดหมายปลายทางแรกในเชียงรายคือ วัดร่องขุ่น....โดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ วัดร่องขุ่นจะอยู่ก่อนถึงตัวเมืองเชียงราย สามารถมองเห็นเด่นชัดจากถนนสายหลัก(ไม่หลงแน่นอน) ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถหรือเข้าวัดทั้งสิ้น นี่ขนาดวัดยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังสวยงามซะ....ไม่มีคำบรรยายจริงๆ ต้องมาสัมผัสด้วยตาของคุณๆเอง มาที่นี้ทำให้เราไปดูศิลปะของชาติไหนๆในโลก ก็ไม่สวยเท่าของเรา... ......................................... วัดร่องขุ่น............................... จากนั้นก็เดินทางต่อสู่ดอยตุง.....ขับไปขับมาไงไปออกวัดพระธาตุดอยตุงก่อนซะงัน วิวจากยอดสูงจากดอยตุง ..........................วัดพระธาตุดอยตุง........................... ออกจากวัดพระธาตุดอยตุงก็ตรงมาที่พระตำหนักดอยตุงตามคำเรียกร้องของสมาชิก (คำแนะนำ: คนที่ต้องการมาชื่นชมดอกไม้งาม เราไม่แนะนำให้มาในช่วงเวลานี้ เพราะดอกไม้ต่างๆยังไม่เต็มที่) ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเข้าชมแต่ละที่ จะซื้อแบบชมทั้งสามแห่งเลยก็ได้ราคาพิเศษกว่าซื้อแยก(1.พระตำหนักดอยตุง 2.สวนแม่ฟ้าหลวง 3.หอแรงบันดาลใจ) สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือการเข้าไปชมหอแรงบันดาลใจ....เราประทับใจมาก เป็นนิทรรศการที่เรียบง่าย แต่ดูดีมากๆๆ แต่ห้ามถ่ายภาพ ไม่เป็นไรเพียงแค่ใช้สายตาจดจำก็อิ่มเอมใจจะแย่แล้ว ตุง สัญลักษณ์ของดอยตุง หอแรงบันดาลใจ ใช่เลย ประทับใจสุดๆ ใครไปอย่าพลาดเด็ดขาด ชอบต้นไม้ต้นนี้จริงๆ ในส่วนของพระตำนัก ท้องฟ้าสีฟ้าก็ดูสดใส ตัดกันต้นไม้สัเขียว ดอกไม้สีแดง ^^ ร้านกาแฟดอยตุง ภายในสวนของดอยตุง คุณตุ้ยกับสวนของดอยตุง สาวน้อยเริ่มเหนื่อล้าจากการเดินชมสวน ออกจากดอยตุงก็เย็นแหละ จะหันหลังไปนอนในตัวเมืองเชียงรายหรือจะไปนอนแม่สายดี..... มาถึงเชียงรายทั้งที่แล้วก็ขอไปที่ที่เหนือสุดในแดนสยามเลยแหละกัน....เราเดินทางต่อสู่แม่สาย....มาถึงก็ค่ำแหละ ก็ลองหาที่พักที่อยู่ใกล้กับถนนใหญ่ เพื่อความสะดวกในการหาและความปลอดภัยแหละกัน...ลองสอบถามห้องว่างและราคาอยู่สองถึงสามแห่ง ก็ตกลงกันว่าคืนนี้จะพักกันที่Guesthouseแห่งนี้ ชื่อว่า วิไลเฮ้าส์ อยู่ถนนถัดจากถนนใหญ่ สามารถเดินออกมาที่ถนนใหญ่เพื่อหาอาหารทาน สำหรับมื้อค่ำนี้ เริ่มดึกแล้วก็นอนกันเถอะ...พรุ่งนี้ต้องเดินทางต่อ ชวนเล่นน้ำที่ Splash Jungle Phuket
ชวนเที่ยว Splash Jungle Phuket
ว่ากันว่าเป็นสวนน้ำแห่งแรกและใหญ่สุดๆๆ เหตุเริ่มต้นของการเที่ยวครั้งนี้คือ เหตุรูปเพื่อนที่ออฟฟิตไป รูปสวยมากมาย เลยอยากไปง่ะ ^_^...จัดซะเลย IMPORTANT NOTE: FREE TICKET (วันที่5กุมภาพันธ์2553 เป็นวันสุดท้ายที่จะให้เข้าฟรี) ณ วันพุธที่3กุมภาพันธ์2553 เวลาสักสี่โมงเย็นๆๆๆแหละ โทรเลยแหละกัน..(ขณะนั้นนั่งอยู่ที่ออฟฟิต เลยขออนุญาตใช้โทรศัพท์แหละกันน่ะค่ะ หุหุหุหุ)...ไงก็ขอบคุณเพื่อนๆๆทุกคนที่ให้ข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นพี่ออฟ โต้ง....กว่าจะไปถึงตัวคนที่รับเรื่องจริงๆๆ โอนกันเหนื่อยเลย "อีก 15 นาทีจะโทรกลับน่ะค่ะ". หลังจากนั้นก็มีการประชุมผ่านMSN รวบรวมสมาชิกที่จะไปได้มา 8 ชีวิต .....คือ Afternoon Gang..... แล้วก็ได้โทรconfirmคุณศศิธร ว่ามี 8 ชีวิตที่จะไปถล่มที่นั้น อิอิอิ แต่ก็ต้องส่งเมล์หาอีกรอบ....นั่งคอยเมล์ตอบกลับมาอีกรอบก็ไม่มี ...... งันก็หน้าด้านไปแหละกัน หุหุหุหุ เวลาสักสองทุ่มแหละ งันก็ประชุมconference ผ่านMSNกันอีกรอบ ว่าสรุปนัดเจออะไรกันที่ไหน...รถสองคน กับแปดชีวิต ปิ๊ง โอม อ๊อดพ่วงอ้น ไปกันหนึ่งคัน ส่วนเรา ตุ้ย ออฟ และแมว ไปด้วยกันอีกคน....นัดกันที่ร้านติ่มซำเพื่อรับประทานอาหารตอน0820แหละกันน่ะ แล้วออกเดินทางจากร้านตอน0845 ออกจากที่โน้นสักบ่ายโมง แล้วมาทำงานต่อ โอเคน่ะ...จบการประชุม...เจอกันพรุ่งนี้เช้าน่ะจ๊ะ..... ณ วันพฤหัสบดีที่4กุมภาพันธ์2553 นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ตื่นเช้าเช่นนี้......ตื่นเช้ามากมาย ตระเวณรับสมาชิกร่วมเดินทาง เวียนรับแมวต่อด้วยพี่ออฟ....ตรงสู่ร้านจันจิราติ่มซำ(byPass...ใกล้กับโลตัสภูเก็ต แถวๆๆนั้นแหละ) รูป: อาหารเช้า ณ จันจิราติ่มซำ เดินทางออกจากร้านตามหมายกำหนดการ.....พวกเราไปถึงที่โน้นก็ประมาณ 0930 ไม่เป็นไรมาก่อนเวลา...ไม่ใช่ปัญหา..เพราะที่Splash Jungle Phuketเปิด 10:00 แล้วปิด 18:00 ตามนั้น. รูป: ภาพด้านหน้าของSplash Jungle Phuket ถึงเวลา 10:00 เพียงแค่ไม่นาน เราเป็นหน้าด่านออกไปเจรจาว่าเราคุยกะคุณคนนั้นไว้แล้ว.....อิอิ และแล้วเราก็เจอหน้าคาตาของคุณศศิธร อิอิอิ และแล้วเราก็ได้เข้า....เอ๊า Let's go พ้วงเพื่อน.. ก่อนจะมีการเเจกสายรัดข้อมือ เรียกให้เท่ห์ก็ wristband แต่หน้าตาจะคล้ายๆนาฬิกา ซึ่งจะมีกุญแจล็อคเกอร์ และใช้นาฬิกาตัวนี้แหละเป็นชิบแทนเงินภายในสวนน้ำ...แต่ต้องออกมาจ่ายตอนขากลับแหละ... รูป: Wristband อย่ามัวเสียเวลา...ไปกันเถอะ รูป: แผนที่ของสวนน้ำ Splash Jungle Phuket ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เล่นกันเลยเถอะ ที่นี้เรียกว่า "CHANGE HUT" รูป : สถานที่แปลงร่าง กับ ล็อคเกอร์ อยู่ในที่เดียวกัน แม่จ้า ....ทำไมตอนเราเป็นเด็กๆๆไม่มีอย่างงี้บ้าง....ไม่อยากจะนึกว่าถ้าตอนนั้น เราคงมีความสุขเวอร์ง่ะ ไม่ใช่แต่เราเหรอ เด็กๆๆๆทุกคนแหละ...สีสันเครื่องเล่นมันบายใจมากมาย มาหนุกหนานกันดีก่า.... welcome to Splash Jungle Phuket...... อาณาจักรของเด็กเด็กที่ เด็กโข่งอย่างพวกๆๆๆเราไม่มีสิทธิ...ได้แค่เดินเล่นแตะๆๆน้ำเอา รูป: Kids's slide กระดานลื่นสำหรับเด็ก รูป: สวนสนุกของเด็กๆ อีกมุมหนึ่ง "The Aqua Play Pool" เรามาเล่นสิ่งที่เราสามารถเล่นได้กันดีกว่า sliderสำหรับผู้ใหญ่ มีทั้งใช้ตัวหรือจะใช้ห่วงยางตามอัธยาศัย...มีอยู่ไม่กี่คำที่พูดได้คือ สนุก สนุกมาก มากมาย..... เครื่องเล่นที่เป็นแบบslider จะมีทั้งหมด 5ช่อง แล้วแต่ว่าจะเล่นอย่างไร ส่วนที่นั่งห่วงยางลงไป ก็คือ Super Bowl หากลงไปแบบหมุนแยะหน่อย แม้ว่าจะใช้ห่วงยางก็คือ Boomerango รูป: Boomerango รูป: สภาพหน้าตาทุกคนก่อนลง เล่นก็เหนื่อยพอตัว แต่สิ่งที่ทำให้เหนื่อที่สุด เห็นจะเป็นการขึ้นบันไดแหละ....^_^! รูป: เดินทางสู่ความสนุกสนาน เมื่อเหนื่อยล้าสำหรับเรื่องเล่นนี้แล้ว ก็เดินทางต่อ...River Lazy เป็นทางน้ำที่เราเอาห่วงยางให้มันลอยไปเรื่อยๆๆๆๆ....หรือว่าจะเดินก็ไม่ผิดอะไร...Lazyจริงๆๆๆ รูป: บรรยากาศ River Lazy มาเล่นคลื่นกัน...เล่นแต่ในทะเลคลื่น มาเจอคลื่นสม่ำเสมอดูบ้าง..... รูป:...ข้างหลังพวกนี้ แหละคือ ที่เล่นคลื่น....Wave Pool...บอกแล้วว่าอย่าบัง.... แล้วก็ไปที่ส่วนที่มีJacuzzi....มีหลากหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นส่วนขา เอว หน้าอก....ความแรงก็มีหลายระดับ รู้สึกว่าพวกเราจะอยู่ตรงส่วนนี้นานหน่อย เพราะดูว่าได้ผ่อนคลายน่ะ อิอิอิอิ รูป: ลัลลา.... มีห้องสปาด้วย แต่คงไม่เสี่ยงเอากล้องเข้าไป เลยว่าทิ้งไว้ข้างหน้า...ทำไปได้ อิอิอิ รูป: หน้าห้องสปา มาพร้อมๆหน้าเจ้าตุ้ย ออกจากห้องร้อนๆๆก็ต้องหาอะไรเย็นๆกระแทกปาก...ราคาเครื่องดื่มตอนนี้ลด50% ราคาเต็มๆก็ประมาณ 170THB++ เครื่องดื่มเย็นๆ อร่อยดี... เราสั่ง Bliss: watermalon + mint รูป: เครื่องดื่มเย็นๆ รูป: บรรยากาศชิวๆๆ นั่งลันลากันสักพักใหญ่ๆๆ....และแล้วก็ถึงเวลาต้องกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงเสียที คือ ต้องกลับไปทันทำงาน บ่ายสามโมงน่ะ บายบาย..Splash Jungle Phuket อยากรู้อะไรเพิมเติม คลิกเลย : Splash Jungle Phuket ......ลัลลาหัวหิน......
......ลัลลาหัวหิน......
การเดินทางอีกครั้งหนึ่งก็เข้ามาเยี่ยมเยือนตัวเราอีกครา ไม่เลยสักครั้งที่จะทำให้ตัวเรารู้สึกเหนื่อยหรือล้ากับการท่องเที่ยวเลยสักครั้ง จากคนที่อยู่ฝั่งอันดามัน(ภูเก็ต)กำลังเดินทางสู่อ่าวไทย(หัวหิน) ด้วยเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดจำเขียด ทำให้เราออกเดินทางจากภูเก็ตในเวลากลางคืน(หลังเลิกงานก็ 2330น.) คิดเอสออกแล้วกันว่าเราต้องออกจากภูเก็ตกี่โมง....ขับกันมาเรื่อยๆๆแหละกัน เดี๋ยวเดียวก็ถึงเนอะ. ก่อนออกเดินทางต้องตรวจสอบความมั่นใจในเส้นทางการเดินทางจาก GoogleMap(ของเค้าดีจริงๆ) ...ดูหมายเลขถนนเอาน่ะค่ะ รูป GoogleMap รุ่งสางกลางสี่แยกไฟแดง @ ชุมพร กับบรรยากาศยามเช้าตรู่พร้อมหมอกปกคลุมมากมาย... รูป: บรรยากาศยามเช้าตรู่ ผ่านทางแยกเข้าอุทยานเขาสามร้อยยอด....มีเหรอที่จะผ่านไปเฉยๆ จัดสักหน่อย เข้าไปถึงที่ทำหารของอุทยานเขาสามร้อยยอด ก็มีคุณลุงคนหนึ่งออกมาแสดงความเป็นเจ้าถิ่น ความรู้ของคุณลุงกับสถานที่แห่งนี้คงมากมายเสียเหลือเกิน เลยพาพวกเราเดินเวียนดูนิทรรศการพร้อมคำบรรยาย จบด้วยการขายของ OTOPซะงัน เลยอุดหนุนปลาหมึกอาบเเดดมาหนึ่งถุง เพื่อไม่ให้คุณลุงเสียใจ หุหุหุหุ เมื่อร่ำลากับคุณลุง เราก็ขอไปเดินชมบรรยากาศป่าโกงกาง รับแดด รับลมน่ะค่ะ รูป: อุทยานเขาสามร้อยยอด ขับรถมาเรื่อยๆๆ...เรื่อยๆๆของจริง ก็มาออกปราณบุรี มาดูบรรยากาศทะเลปราณกันสักหน่อย... รูป: ทะเลปราณบุรึ ตามข้างทางของปราณบุรีมีการนำคุณปลาหมึกออกมาอาบแดด ทั้งบรรยากาศ รูป รส กลิ่น มาหมด.. รูป: คุณปลาหมึกอาบแดด เข้าตัวเมืองหัวหินกันเลย... ....ไปถึงก็ทักทายเจ้าถิ่นกันหน่อย โดยการเข้าไปทักทายคุณ ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำหนักงาน หัวหิน)....จากนั้นก็ขับรถเวียนหลายรอบเลยแหละ ไม่มีไรหรอกค่ะ ...ไม่ได้จองที่พักมากน่ะค่ะ เลยต้องมามั่วๆเอา...มั่วไปมั่วมา ก็ตกลงเอาที่มินิเทล (ทางไปเขาตะเกียบ ไม่ถึง 5นาที จากตัวเมืองหัวหิน)... อะไรก็ได้แหละ ขี้เกียจหาแหละ ขับรถมาทั้งวัน ขออาบน้ำแล้วนอนสักยกแหละกัน เย็นๆๆค่อยออกมางมต่อ รูป: โรงแรมมินิเทล ตื่น ตื่น ตื่น..เถอะ....ได้นอนสักยก เรียกพลังมา ก็ออกลัลลาเลยแหละกัน....เย็นๆๆอย่างงี้ ไปไหนดีน่า ไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกัน ป่ะกัน แล้วก็ได้ไปชมทะเลที่มุมสูงกันดีกว่า...เขาตะเกียบ รูป: เขาตะเกียบ หิว หิว หิว หิว แล้วง่ะ....หาข้อมูลเรื่องกินจากพันทิปแหละ(ขอบคุณด้วยน่ะค่ะ) อยู่เย็นเป็นร้านที่เข้ารอบสำหรับอาหารมื้อนี้ อิอิอิอิ ได้ทานอาหาร พร้อมๆกับรับประทานบรรยากาศร้าน พวกเราจัดการซะเรียบทุกรายการอาหาร หลนปู ต้มยำปลา คะน้าหมูกรอบ รูป: ร้านอาหารอยู่เย็น จากนั้นก็ออกหาที่เดินเล่น...ที่ไหนที่ชิวสุดในหัวหินล่ะค่ะ....เพลินวาน ไม่อยากจะเชื่อพื้นที่แค่นี้จะสามารถสร้างอะไรที่น่าสุดใจได้มากมาย มหัศจรรย์เหลือเกิน....เป็นสถานที่ที่น่าจะไปดูชมอดีต แม้ว่าตัวเราเองจะทันหรือไม่ก็ตาม อันไหนทันก็ออกจะตื่นเต้นไม่เบา แต่ถ้าอันไหนไม่ทันก็ตื่นเต้นปานกลางเพียงเพราะไม่รู้จักเท่านั้น.... รูป: เพลินวาน ไม่ให้จบง่ายๆหรอกจ๊ะ...ขอไปเเวบตลาดโต้รุ่งหัวหินกันหน่อย...ค่ำคืนวันศุกร์เช่นนี้ ได้ทำให้ตลาดแห่งนี้มีสีสันขึ้นมาก (ต้องลองมาวันธรรมดา จะได้อีกบรรยากาศ) ได้ลองทานไอติมเจ๊นิ ตามคำแนะนำของประชาชีชาวพันทิป เพื่อไม่ให้ใครเสียใจ เราก็ลองไอติม 1 ถ้วย 3 ก้อน(วนิลาสองก้อน กับ หนึ่งก้อนชาไทย) พร้อมเครื่อง 2 อย่าง(มะม่วงกวน และ กวนเชื่อม) รูป: ตลาดโต้รุ่งหัวหินและไอติมเจ๊นิ เดินออกจากตลาดหัวหินมาไม่กี่ก้าว ก็มาเจอร้านไอติมอีกเจ้าหนึ่ง มีพนักงานต้อนรับกับคนตักไอติม(ท่าทางเป็นพ่อลูกกัน) พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลืองผ้าไทย เลยจัดการอีกหนึ่งถ้วย ตามนั้น... รูป: ไอติม นอนกันได้แหละ สำหรับคืนแรกที่หัวหิน พรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันใหม่.. เช้าวันเสาร์ที่23 มกราคม 2553 ณ หัวหิน ทานอาหารเช้าที่โรงแรมมานิดหน่อย เพราะว่าในโปรมแกรมกินมีอาหารเช้าที่ต้องไปกิน....ถูกต้อง นั่นคือ โจ๊กและเกาเหลาตำลึงเลือดหมู ร้านเจ๊แอน.. ต้องขอโทษน่ะ เพราะว่ามันไม่ถูกปากเราเท่าไหร่หนัก แต่ส่วนที่เป็นหมูในเกาเหลาตำลึงเลือดหมู หนึบหนับดีค่ะ รูป: โจ๊กและเกาเหลาตำลึงเลือดหมู ร้านเจ๊แอน สายๆมีแผนการจะไปมฤคทายวัน แต่ฝนตกลงมาเสียก่อน แต่ไม่ได้หนักหนาอะไร...ไงก็ขอเปลี่ยนแผนการโดยการไปวัดห้วยมงคลกันก่อนเลย ประมาณ 20กม จากตัวเมืองหัวหิน รูป: วัดห้วยมงคล หลังวัดห้วยมงคลมีส่วนที่เป็นตลาด(แต่วันที่ไปไม่มีค่ะ) มีสวนทานตะวัน ส่วนของที่พักช้าง รูป: ทานตะวัน ออกจากวัดห้วยมงคลเราก็ออกเดินทางสู่ไร่องุ่น...จากวัดก็อีกเกือบ 20กม. ไม่นานนักก็ถึง รูป: ไร่องุ่น Hua Hin Hill Vineyard หลังจากออกจากไร่องุ่น เราก็ตรงดิ่งไปมฤคทายวันกันเลย .... แดดชั่งเป็นใจกะการเดินทาง หวังว่าจะไปตกอีกน่ะค่ะ.... รูป: มฤคทายวัน เที่ยวซะเต็มอิ่ม แต่ท้องดิ ดันร้อง....ขับรถไปลัลลาถึงชายหาดชะอำ เลยได้หาอาหารทะเลทานตรงร้านอาหารทะเลเเถวชะอำเลย....ร้านเยอะมากมาย จนไม่รู้จะเลือกร้านไหนดี เลยเลือกร้านที่เค้าไม่สนใจเรานี่แหละ(เป็นไงไป) อร่อยจิงๆๆ หอยเชลล์ทรงเครื่องย่าง กั๊งทอดกระเทียม กุ้งย่าง รูป: อาหารทะเล ณ ชะอำ ค่ำๆๆ ก็ไปเดินตลาดจั๊กจั่น หรือที่เรียกว่า Cicada อยู่ที่สวนศรี หน้าโรงแรม Hyatt Regency รูป: ตลาด Cicada จบวันนี้ เช่นเดิมคือ ตลาดโต้รุ่ง มานั่งหม่ำผัดไท หมูสะเต๊ะ(12ไม้ 30 บาท; คงหาที่ภูเก็ตไม่ได้ หุหุหุ) เริ่มวันใหม่ วันอาทิตย์ที่24 มกราคม 2553 ก็มาทานอาหารเช้าที่โรงแรม เช่นเดิม ไข่ดาว ไส้กรอก แฮม ขนมปัง แยม เนย น้ำมะตูม กาแฟหรือชาตามชอบใจ.... รูป: อาหารเช้า แหมมาหัวหินแต่ไม่ได้ลงน้ำมันก็กะไรอยู่น่ะ เราเลยจัดแจงแปลงร่างเพื่อออกไปเล่นน้ำทะเล เดิมจากโรงแรมไปเพียง2-3นาที ก็ได้เจอทะเลหัวหินแหละ......ได้ชมหัวหินจากทะเลด้วยเพราะเราได้เล่นเครื่องเล่นที่เรียกว่า โดนัท หลักการก็คล้ายๆบานาน่าโบ๊ทนั่นแหละ แต่เรามากันสองคนเลยได้เล่นโดนัท สนุกมากมาย กรี๊ดไม่ต้องเกรงใจชาวบ้านชาวช่อง หุหุหุหุ รูป: ทะเลหัวหิน กว่าจะได้เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมก็จวนเวลาเสียเหลือเกิน...แต่ป่าวกลับภูเก็ตเลยน่ะ เพราะว่ายังลัลลาอยู่ที่หัวหินอีก...มาหัวหินอีกที่หนึ่งที่พลาดไม่ได้คือ สถานีรถไฟหัวหิน รูป: สถานีรถไฟหัวหิน หาไรกินกันดีกว่า.....ตอนแรกกะว่าจะไปกินข้าวมันไก่ แต่ร้านปิดเลยไปร้านใกล้ๆๆคือ ร้านกาแฟเจ้กเปี๊ยะ ร้านขึ้นชื่ออีกร้านหนึ่งในหัวหิน...คนยังคงแน่นได้ แต่เราก็ได้ที่นั่ง สั่งอาหารเกือบครึ่งชม. กว่าจะได้อาหาร ไม่เป็นไรได้นั่งดูบรรยากาศของร้านแบบนี้ก็สนุกดีน่ะ... ต้มยำปลา ผัดผักรวม หมูสะเต๊ะ กาแฟเย็น ชาเย็น....น้ำที่ร้านนี้อร่อยมากๆๆๆ แต่อาหารก็โอ รูป: ร้านกาแฟเจ้กเปี๊ยะ อาหารคาวผ่านไปแล้วก็ตบด้วยอาหารหวาน.....ไปนั่งชิวร้านใกล้วังกันดีกว่า รูป: ร้านใกล้วัง ถึงเวลากลับภูเก็ตแล้วซิ......บ๊ายบาย หัวหิน ปล. กว่าจะถึงภูเก็ตก็ตีห้าของวันจันทร์ เพราะมัวลัลลาตลาดโต้รุ่งชุมพร และก็แอบนอนที่ปั๊มแถวกระบี่..... |
tammy_traveller
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Friends Blog Link |