• Home
• Squirrels' tale
• Bunnies' Story
• Small Gangster
• Small Diary
• D.I.Y

วิธีดูแลกระรอกน้อย ฉบับSmall Gangster   ช่วงนี้เป็นช่วงนาทีทองสำหรับชาวกระรอกอย่างเราๆแล้ว กระรอกน่ารักๆ ราคาไม่แพงทยอยกันออกมาอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง หรือแม้แต่คนที่ไม่ได้สนใจ บางทียังเก็บได้เด็กน้อยๆที่ซุกซนหล่นลงมาจากรัง ว่าแต่ ได้มาแล้ว ... จิเลี้ยงยังไงดี ขอออกตัวก่อนว่าการเลี้ยงกระรอกนี้ ป๋าไม่ใช่คนคิดค้นขึ้นเอง แต่เป็นการสอบถามจากผู้มีประสบการณ์หลายๆท่าน แล้วนำมาปรับใช้กับตัวเอง พิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีตามคาดหวัง จึงนำมาบอกต่อให้รู้โดยถ้วนทั่วกัน มาแบ่งเป็นช่วงอายุกัน สำหรับกระรอกอายุตั้งแต่ 2 สัปดาห์ (ยังไม่ลืมตา ขนขึ้นไม่เต็มดี) จนอายุ 1.5-2 เดือน นมที่ให้: ซีลีแลคสูตรเริ่มต้น + แลคตาซอยกล่องฟ้า + กล้วยน้ำว้าปั่น มาเริ่มเตรียมนมให้เด็กน้อยกันดีกว่า 1. เตรียมกล้วยก่อน - กล้วยใช้ขูดเอาก็ได้ แต่ปั่นจะละเอียดกว่า และประหยัดกว่าด้วย เพราะกล้วยขูดใช้ได้แค่ครั้งเดียว(แล้วมันก็จะเละ ที่เหลือซัดโฮกใส่ปากพ่อมัน) แต่กล้วยปั่นเราปั่นไปทั้งลูกใส่น้ำต้มสุกนิดเดียวจะได้ไม่หนืดเกินไป เก็บไว้ใช้คราวต่อๆไปได้ โดยเก็บใส่ตู้เย็น แช่ฟรีสไว้ เก็บได้ 4-5 วัน ให้ใช้กล้วยที่สุกกำลังดี แบบเขียวๆหรือดำๆไม่เอานะ ปั่นแล้วหน้าตาเป็นงี้ แบ่งมาใช้แล้วรีบเข้าฟรีสโลด หลังจากเสร็จภารกิจปั่นกล้วย ก็เอากล้วยผสมกับแลคตาซอยและซีลีแลค โดยไม่ต้องเติมน้ำอีก สัดส่วนกะๆเอา เอาให้ข้นเหมือนครีม แบบนี้ (ควรอุ่นนมให้ร้อน เพราะกล้วยแช่แข็งมันเย็น จะได้ละลายง่ายๆ) เสร็จแล้วจับป้อนโลด (รูปตอนป้อนไม่มีคนถ่ายให้ รอไปก่อน T^T) เวลาป้อน ให้ใช้ไซริงค์ขนาด 1 ซีซี ปลายไซริงค์ใส่ไส้ไก่ให้ยาวออกมาประมาณครึ่งเซ็นติเมตร จะช่วยให้ป้อนง่ายขึ้น จับไซริงค์โดยกำตัวหลอดกับก้านไซริงค์ไว้แล้วใช้นิ้วโป้งกดช้าๆ อย่าให้สำลักเด็ดขาด ป้อนแค่ให้พุงป่องๆ ตึงๆ ก็พอ ไม่ต้องอัดจนแน่นท้องนะจ๊ะ หลังจากป้อนนม ก็เช็ดปาก และกระตุ้นอึฉี่ให้เรียบร้อย ก่อนจะส่งลูกเข้านอน อึที่ดีต้องเป็นก้อน ต่อให้น้องยังเล็กก็เป็นก้อนนะครับ แล้ว..นอนที่ไหน สำหรับลูกกระรอกน้อยๆที่ฟันยังไม่มีพิษสงกระไร ผมชอบให้นอนในถุงผ้า โดยฉีดทิชชูเป็นเส้นๆยัดไว้เยอะๆ ให้ความอบอุ่นและช่วยซับฉี่เวลาเด็กน้อยฉี่รดที่นอน จะไม่มีปัญหาตัวเปียกแฉะเลอะเทอะอีกต่อไป เพราะทิชชู่ซับน้ำดีและแห้งไวกว่าผ้าเยอะ ในถุงจะอุ่น และเอาถุงแขวนไว้ในที่ๆอบอุ่น และลมไม่เป่าโดน ก็ไม่จำเป็นต้องกกไฟเลยครับ กกไฟถ้าไม่ระวัง น้องจะร้อนเกินไปและอ่อนเพลียครับผม อย่าลืมมัดปากถุงให้ดี เพราะพอเริ่มดุ๊กดิ๊กได้ เขาอาจจะปีนและเอาหัวดันถุงเปิดเองได้จ้า สำหรับกระรอกอายุ 2-4 เดือน วัยนี้จะเริ่มทานผลไม้ได้แล้ว และเริ่มซน ผมจะย้ายจากถุง มาใส่ในกรง มีที่นอนไม้หรือเหล็ก(กรงเหล็กขนาดเล็กใช้แทนรัง) และยัดทิชชู่ให้เหมือนเดิม หลังจากป้อนมื้อเช้าแล้วจะใส่ผลไม้และธัญพืชไว้ให้เริ่มหัดกิน และป้อนนมอีกครั้งตอนเย็น พาเขาไปไหนมาไหนด้วยบ่อยๆ ผลไม้ที่ให้ควรเป็นผลไม้นิ่มๆทานง่าย จะได้ไม่ติดคอ งดผลไม้ที่มีน้ำเยอะและพวกแตงทุกชนิด ให้ชิ้นเล็กๆเป็นเหมือนของว่าง ให้หัดกิน ไม่ต้องให้ทานจนอิ่มนะครับ เดี๋ยวเย็นจะไม่ยอมทานนม ส่วนธัญพืชถ้าจะให้หัดทาน ให้แค่ช้อนเล็กๆก็พอนะครับ เดี๋ยวติดใจกินจนอิ่ม ไม่กินนมล่ะยุ่งเลย ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป ให้ผลไม้และธัญพืชเป็นหลัก และเสริมนมให้วันละมื้อก็พอจ้า ขอให้สนุกกับการเลี้ยงกระรอกน้อยนะครับ ด้วยความหวังดี ป๋าก้อย หัวโจก Small Gangster   Create Date : 03 มีนาคม 2557     Last Update : 3 มีนาคม 2557 20:57:39 น. Counter : 38357 Pageviews.   10 comment Share Tweet

การตัดฟันกระรอก รักน้อง...หรือรักตัวเอง  สวัสดีครับ วันนี้ผมจะเอาบทความเก่ามาเล่าใหม่ จริงๆเคยลงภาพและบทความไว้ในเฟสบุค แต่เอามาลงในนี้อีกทีดีกว่า สำหรับคนที่คิดจะตัดฟันกระรอกนะครับ อ่านดูก่อน แล้วค่อยพิจารณาว่าควร..หรือไม่ควรตัดฟันเค้า ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ "ฟันกระรอก" กันก่อนดีกว่า  กระรอก เป็นสัตว์ฟันแทะที่มีลักษณะรากฟันแบบ "รากฟันเปิด" หมายความว่าฟันของกระรอกจะยาวขึ้นเรื่อยๆเกือบตลอดชีวิตของเค้า ทั้งฟันบนและฟันล่าง ด้วยความที่ฟันของกระรอกยาวขึ้นเรื่อยๆ กระรอกจึงมีสัญชาตญาณที่ชอบกัดแทะสิ่งของแข็งๆ เพื่อทำให้ฟันของพวกมันสึกหรอลงไป แต่หากกระรอกตัวไหนไม่ชอบกัดแทะอย่างที่ควรเป็น ทั้งเกิดจากอุปนิสัยที่ผิดธรรมชาติของตัวกระรอกเอง หรือความผิดปกติเช่นฟันเบี้ยว ฟันเก ทำให้ไม่สามารถกัดแทะได้ ฟันของกระรอกก็จะยาวขึ้นเรื่อยๆ จนอาจทำอันตรายกับเจ้าตัวเอง เช่น ทิ่มเพดานปาก หรือรากฟันถูกดันไปกดโพรงจมูก ทำให้ตัวกระรอกกินไม่ได้ หายใจไม่สะดวก อาจนำไปสู่การติดเชื้อ และเสียชีวิต นี่คือเหตุผลที่สัตวแพทย์ "ตัดฟันกระรอก" ฟันของกระรอกปกติจะสบกันพอดี ที่เห็นชัดคือฟันบนและฟันล่างอย่างละสองซี่ โดยฟันบนจะสั้นและแข็ง ส่วนฟันล่างจะยาวกว่ามากซึ่งจะถูกซ่อนด้วยริมฝีปาก ซึ่งเวลากระรอกกัด มักจะเจ็บที่ฟันบนนี่แหละ ตัวอย่างฟันกระรอกที่ผิดปกติ เทียบกับฟันกระรอกปกติครับ Credit ภาพ: Pingky Stitch  ภาพบนขวา เป็นตัวอย่างของฟันกระรอกปกติ จะเห็นว่าฟันทั้งสี่ซี่สบกันพอดี เวลาน้องกัดแทะอาหารและไม้ฟันทั้งสี่ซี่จะสึกหรอไปพร้อมๆกัน ทำให้ไม่มีปัญหาในการดำรงชีวิตใดๆ ภาพซ้าย เป็นตัวอย่างของกระรอกฟันผิดปกติเนื่องจากอุบัติเหตุ เพราะน้องกรามหักทำให้ไม่สามารถกัดแทะได้เหมือนกระรอกปกติ ฟันบนและฟันล่างที่ยาวขึ้นเรื่อยๆยิ่งทำให้กัดแทะลำบากและไม่สบกัน สัตวแพทย์จึงตัดสินใจที่จะตัดแต่งฟันให้ใกล้เคียงปกติที่สุด ภาพล่างขวา เป็นตัวอย่างของกระรอกที่ฟันผิดปกติเนื่องจากมีอุปนิสัยที่ผิดปกติ คือน้องชอบคาบเท้าตัวเองเวลาหลับตั้งแต่เล็กๆ จนฟันค่อยๆเลื่อน และเบี้ยวไปดังภาพ จนทำให้เป็นอุปสรรคเวลาทานอาหาร สัตวแพทย์จึงทำการตัดแต่งฟันให้กลับมาใกล้เคียงปกติที่สุดเช่นกัน การตัดฟันกระรอกทำเองได้หรือไม่? คำตอบคือ หากจำเป็น ก็สามารถตัดได้ด้วยตัวเอง โดยหาอะไรมากดลิ้นเค้าไว้ป้องกันไม่ให้เค้ากัดลิ้นตัวเอง แล้วตัดด้วยกรรไกรตัดเล็บคมๆให้สบกันพอดี ซึ่งต้องระวังในกรณีกระรอกดิ้นหรือตัดพลาดลึกเกินไปหรือโดนลิ้น จะเป็นอันตรายต่อกระรอกได้ จึงควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนตัดสินใจตัดฟันกระรอก หรืออาจขอให้สัตวแพทย์สอนก็ได้ครับ Credit ภาพ: mary.cc ตัดฟันแล้วกระรอกจะเชื่อง ไม่กัด จริงหรือไม่? อันนี้พูดเลยว่า...ไม่จริง ป๋าขอให้ลองนึกถึงเวลาเราเคี้ยวอาหาร แล้วเคี้ยวโดนอะไรที่แข็งมากๆอย่างหินหรือกระดูก แบบเต็มแรง มันเจ็บแบบร้าว สะเทือนไปถึงเหงือก แล้วคิดว่ากระรอกที่โดนกรรไกรตัดเล็บตัดฉับที่ฟันซึ่งมีเส้นประสาทมากกว่าของคนจะเจ็บรึเปล่า? โดยทั่วไป สัตว์เลี้ยงจะเชื่อง เพราะความรัก ความผูกพันธ์ แล้วการที่เราทำร้ายพวกมันแบบนั้นเพียงเพื่อให้มันสูญเสียอาวุธเพียงหนึ่งเดียวที่จะป้องกันตัวเองในเวลาที่ไม่รู้สึกปลอดภัย เนื่องจากกลัวว่าเค้าจะกัด กลัวว่าตัวเองจะเจ็บ นั่นเพราะรักกระรอก หรือเพราะรักตัวเองกันแน่ กระรอกถูกตัดฟัน ถ้าเขาไม่เชื่อง เขาก็กัดอยู่ดี เพียงแต่เขากัดไม่เข้า เพราะเขาเสียฟันที่แหลมคมไปเสียแล้ว บางตัวที่ไม่กัด คิดว่าเพราะเขาเชื่อง..หรือเพราะเขาเจ็บกันแน่ แล้ว...ทำไมถึงห้ามตัดฟันกระรอกล่ะ เพราะฟันกระรอกมีเส้นประสาทที่เกี่ยวโยงขึ้นไปถึงโพรงจมูก โดยจะเห็นได้ว่ากระรอกหลายตัวที่ฟันมีปัญหา อาจลามไปที่ระบบทางเดินหายใจได้ง่าย ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น รากฟันอักเสบ รากฟันอักเสบ มีหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ พันธุกรรม แต่ที่พบเจอบ่อยมากๆ คือมาจากการตัดฟัน เพราะฟันของกระรอกมีเส้นประสาทมากมาย เวลาตัดฟัน ฟันของกระรอกจะได้รับแรงสะเทือน แน่นอนว่ารากฟันก็ต้องได้รับผลกระทบนั้นด้วย และเมื่อสะเทือนบ่อยเข้า ก็ทำให้เกิดการอักเสบ และอาจติดเชื้อ ตัวอย่างฟันกระรอกอายุ 5 ปี ที่ถูกถอนออกเนื่องจากรากฟันอักเสบ สาเหตุคือการตัดฟันอย่างต่อเนื่อง Credit ภาพ: Nana Limps อีกทั้งกระรอกหลายตัวถูกตัดฟันสั้นเกินไป บางตัวทานอาหารไม่ได้ เครียด ติดเชื้อ ร่างกายอ่อนแอ อ่อนเพลีย มีโรคแทรกซ้อน จนกระทั่งเสียชีวิต แล้วในเมื่อการตัดฟันกระรอก เป็นการทำร้ายเค้า จนอาจถึงแก่ชีวิตได้... แล้วทำไม..เราต้องตัดฟันกระรอกล่ะครับ ด้วยความปรารถนาดี ป๋าก้อย หัวโจก Small Gangster   Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2557     Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2557 22:51:49 น. Counter : 27725 Pageviews.   20 comment Share Tweet

กายวิภาค กระรอกน้อย  พอดีได้ภาพกายวิภาคของน้องกระรอกมา เลยเอามาแบ่งปันกันจ้า เครดิตตามภาพเลยนะ ป๋าขออนุญาตเจ้าของภาพเรียบร้อยแล้ว ^ ^ มีเป็นภาพของจริงด้วย แต่มันจะสยองไป เอาแบบการ์ตูนละกันนะ ไม่น่ากลัว ด้วยสาระอย่างสูง ป๋าก้อย หัวโจก Small Gangster   Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2557     Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2557 23:35:42 น. Counter : 4256 Pageviews.   0 comment Share Tweet

INDEX   Create Date : 13 ธันวาคม 2556     Last Update : 3 มีนาคม 2557 20:17:05 น. Counter : 1525 Pageviews.   0 comment Share Tweet

พาน้องกระรอกไปเที่ยวกันดีกว่า น้องกระรอกของเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่พกพาสะดวก ด้วยขนาดตัวที่เล็กกระทัดรัด ยัดใส่กระเป๋าได้สบายๆ ว่าแต่..ต้องเตรียมอะไรบ้าง ถ้าจะพาน้องไปเที่ยว อุปกรณ์หลัก 1. กระรอก เพราะถ้าไม่มีกระรอก เราก็พากระรอกไปเที่ยวไม่ได้ (กวนตีนละ -*-) กุรอก..พร้อมมม 2. ภาชนะที่เหมาะสม สำหรับใส่เก็บระหว่างเดินทางหรืออยู่ในโหมดติสต์แตก ควรจะใช้ที่เหมาะกับขนาดตัวและอุปนิสัยของกระรอก กระเป๋ากระรอก มีหลายไซส์ หลายขนาด หลายรูปแบบ หลายทรง เลือกกันตามอัธยาศัย ที่สำคัญคือ ต้องใหญ่พอที่จะยัดกระรอกลงไปและให้น้องกระรอกขยับตัวได้บ้าง อีกอย่างคือ กรุณานึกถึงอุปนิสัยกระรอกตัวเองด้วยว่าจะแทะกระเป๋าหรือไม่ ถ้าเป็นตัวอันตรายต่อผ้าหรือตาข่าย ควรเลือกที่มีกรงเหล็กอยู่ภายใน ส่วนป๋าเลือกที่มีกรงเสมอ ตะกร้าพลาสติก(แบบมีฝา) ขนาดต่างๆ อันนี้ก็เป็นทีนิยมมิใช่น้อย แต่ควรพิจารณาหากลูกของคุณเป็นจอมแทะตัวฉกาจ เพราะดูอีกที ตะกร้าอาจเป็นรูพร้อมกับน้องกระรอกที่หายสาบสูญไป 3. อุปกรณ์ล่ามจูงที่เหมาะสม..แน่นอนว่าเพื่อป้องกันไม่ให้น้องตกใจแล้วกระโดดออกไปสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นนนนนน...แล้วเราก็ต้องมาเสียใจเอาทีหลัง ในที่นี้ ป๋าไม่แนะนำเลยคือโซ่สีๆเบาๆที่มักขายตามร้านกระรอก โซ่พวกนี้ทำจากอลูมิเนียม ดึงๆหน่อยก็ขาดแล้ว ลงทุนซื้อเป็นสแตนเลสไปเลยจะคุ้มกว่า สร้อยคอและโซ่สแตนเลสขนาดเล็ก เหมาะกับลูกกระรอกตัวเล็กๆ-วัยรุ่น ถ้าขนาดตัวมองแล้วไม่เหมาะกับโซ่เมื่อไหร่ค่อยเปลี่ยนก็ได้ สร้อยคอและโซ่สแตนเลสขนาดใหญ่ เหมาะกับกระรอกโตแล้ว เพราะน้ำหนักค่อนข้างมาก แต่ทนมาก (อันนี้รวมถึงสร้อยคอจากวัสดุอื่นที่ทนแรงกระชากของกระรอกและไม่ขึ้นสนิมนะครับ) สายจูงผ้า (สายจูงสุนัขขนาดเล็ก) สายเบาหวิว แต่หัวเกี่ยวหนักเอาการ ควรให้น้องกระรอกโตซักหน่อยค่อยใส่นะจ๊ะ สายนี้ข้อดีคือกระชากไม่ขาดชัวร์ และยาวววววสะใจ แถมยังราคาถูกอีกตะหาก แต่ข้อเสียก็มี คือ......ถ้าลูกน้อยจอมซนของเราแทะเอาเป็นเอาตาย มันขาดได้ สายรัดอกขนาดเล็ก (รัดอกชูการ์) สำหรับบางคนที่กลัวว่าโซ่จะรั้งคอลูกแล้วเจ็บ อุปกรณ์น้อยๆของชูการ์อันนี้ช่วยท่านได้ ในกรณีที่ลูกของคุณท่านตัวไม่ใหญ่ไปกว่าชูการ์มากมายเท่าไหร่อะนะ ลักษณะจะรัดที่คอและใต้รักแร้ สายจะนิ่มไม่บาดลำตัว ไม่ต้องกลัวน้องเจ็บ รัดอกกระรอกขนาดใหญ่ (รัดอกแพรี่ด๊อก) สำหรับน้องกระรอกที่เลยไซส์ชูการ์มามาก เราก็หาอีกทางเลือกนึงมาเป็นสัตว์ที่ตัวโตกว่าหน่อย ...จริงๆก็ไม่หน่อยเท่าไหร่ แต่หยวนๆได้แหละ แน่นอนว่าใช้ตรงๆไม่ได้ (นอกจากกระรอกอ้วน) แต่มีบางร้านที่สามารถสั่งทำให้ขนาดย่อมลงกว่าของแพรี่ด๊อกปกติได้...ซึ่งน้องกระรอกของเราจะใส่ได้พอดี แนะนำร้าน I'm Mali Pet Shop เพราะเค้าผลิตเอง คุยกันง่าย ^ ^ ต่อจากอุปกรณ์หลัก ก็มาถึงอุปกรณ์เสริมกัน อุปกรณ์เสริม ก็หมายถึง อุปกรณ์ที่มีก็ดี..แต่ไม่มีก็ได้ 1. Baby Wipe หรือ ผ้าเย็น สำหรับBaby Wipe (หรือทิชชู่เปียก) ป๋าแนะนำยี่ห้อ Mamy Poko ยิ้มง่ายไม่ซึมเปื้อน (??) เพราะเท่าที่ใช้มา ยี่ห้อนี้ไม่มีกลิ่นน้ำหอมที่สุดแล้ว บางยี่ห้อฉุนจนอยากโยนทิ้ง แนะนำอีกที รุ่นราคาสบายใจ น่าใช้กว่ารุ่นปกติ เพราะราคาถูกกว่าห่อละ 10 บาท ส่วนผ้าเย็น ยี่ห้อไหนแมร่งก็ฉุน แนะนำว่าซื้อมาซัก-แช่น้ำ แล้วค่อยเอาไปพก มันบางดี พกง่ายกว่าผ้าขนหนู พอจะใช้ก็ไปหาน้ำเอาดาบหน้า 2. น้ำหวาน อันนี้ขี้เกียจหาภาพปลากรอบ .. เพราะการพาน้องไปเที่ยว น้องอาจเหนื่อย เพลีย การทานน้ำหวานๆช่วยชดเชยพลังงานและทำให้สดชื่นขึ้น อาจใช้น้ำแดงเฮลล์บลูบอย หรือน้ำผสมกลูโคสก็ได้ กระรอกพร้อม...อุปกรณ์พร้อม...ก็ไปเที่ยวกัน สำหรับน้องกระรอกที่ยังไม่เคยเผชิญโลกกว้าง เราอาจทำให้เค้าคุ้นชินโดยใส่โซ่เดินภายในบ้าน ในบริเวณบ้าน ในหมู่บ้าน ให้เจอคนแปลกหน้าบ้าง พาเดินไปเรื่อยๆ เป็นการซ้อมมือก่อนพาไปเดินในที่คนเยอะๆก็ได้ ส่วนน้องกระรอกที่ตื่นตกใจ ชอบกระโดดหนี ควรจับเค้าซุกแนบอกและปลอบเขาให้สงบ หากอยากพาน้องเที่ยวบ่อยๆ สะดวกๆ ควรฝึกให้น้องกระรอกเกาะบนไหล่ (โดยจับเขาไปไว้บนไหล่ แล้วลูบตัวเค้าไปเรื่อยๆจนเค้านิ่ง) สถานที่เที่ยว: ควรพาน้องกระรอกเที่ยวตามตลาดนัด ตลาดเปิด ตลาดน้ำ หรือสวนสาธารณะต่างๆที่มีอากาศถ่ายเท และอนุญาตให้นำสัตว์เข้าได้ เรารัก เราชอบของเรา บางคนเขากลัว บางคนเขาแพ้ สถานที่เปิดโล่งจะทำให้ภูมิแพ้กำเริบน้อยกว่าสถานที่ปิดอับครับ สำหรับการเที่ยวค้างคืน ไม่จำเป็นต้องหาสถานที่ที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้า (แต่ถ้าได้ก็ดี) แต่นั่นหมายถึงเราต้องแอบ ซ่อนให้ดี โรงแรมหรือรีสอร์ทเจออาจโดนปรับได้ หากจะพาน้องพักที่ไหน เราควรจะมีกรงเล็กๆติดไปด้วย และไม่ควรปล่อยน้องหากไม่จำเป็น เพราะน้องอาจกัดทำลายข้าวของเสียหายได้ หากน้องแทะโต๊ะราคา 3500 บาทไปแค่มุมๆนิดเดียว เค้าจับได้ เค้าจะเรียกค่าเสียหายเราเต็มราคาโต๊ะนะครับ เคยมีคนโดนมาแล้ว แทะทั้งห้อง ชิ้นละนิดละหน่อย โดนไปหลาย แนะนำว่าถ้าอยากปล่อย ให้ปล่อยในห้องน้ำ ปิดฝาชักโครกลง หากมีม่าน ระวังเค้าแทะม่านด้วย สำหรับการขับถ่าย หากเห็นอึน้องเลอะ หรือฉี่น้องเลอะตรงไหน จัดการเก็บกวาดและเช็ดให้เค้าด้วยนะครับ เพราะฉี่น้องอาจทำให้เฟอร์นิเจอร์เค้าด่างหรือเสียได้ และถ้าอึน้องเกลื่อนไปหมด ก็คงไม่น่าดูเท่าไหร่นะครับ ข้อควรระวัง: ไม่ควรให้น้องกระรอกเข้าร้านอาหาร ห้าง ซุปเปอร์มาเก็ต หรือสถานที่ปิดต่างๆ หากจำเป็นต้องเข้า ควรให้น้องกระรอกอยู่ในกระเป๋าให้เรียบร้อย ไม่นำน้องกระรอกออกมาเล่นเด็ดขาด หากเป็นงานสัตว์เลี้ยงอาจอนุโลมได้ แต่ควรนำมาเล่นเฉพาะในบริเวณงาน ไม่ควรพาเดินร่อนไปทั่วห้าง หากจะทำธุระในส่วนอื่นๆของห้าง ควรให้น้องกระรอกอยู่ในกระเป๋า สำหรับร้านอาหาร ควรให้น้องกระรอกอยู่ในกระเป๋าตลอดเวลา ไม่ควรนำออกมาเล่น รวมถึงไม่ควรให้กระรอกขึ้นโต๊ะ และ/หรือ ใช้หรือสัมผัสภาชนะใดๆของร้านอย่างเด็ดขาด อย่างที่บอก เรารักของเรา คนอื่นไม่ได้รักด้วย บางคนเขาถือสา บางคนเขารังเกียจที่จะใช้ภาชนะร่วมกับสัตว์ ถ้าจะกินกับกระรอก ใช้ภาชนะส่วนตัว ไม่มีใครว่า ..ขอร้องครับ..ถ้ารักน้อง..อย่าทำให้ใครมองแล้วรังเกียจน้องเลย..ให้เขามอง ให้เขาเห็นแต่มุมน่ารักๆของน้องดีกว่าครับ..น้องๆลูกๆของเราน่ารัก และน่าเอ็นดูได้ ด้วยตัวเราครับ.. ตัวอย่างกรณีที่นำสัตว์เข้าร้านอาหาร ลองดูปฏิกริยาของคนส่วนใหญ่ดูนะครับ: กรณีน้องกระรอกหาไม่ได้ แต่น้องหมานี่เจอเยอะเลย เหตุเกิด ณ ฮะจิบัง ราเมน ลองนึกดูว่าถ้าในเหตุการณ์เป็นเรา น้องหมาในกระทู้คือลูกที่เรารัก ผู้คนที่มองเห็น เขาจะมองว่าน่าเอ็นดู หรือน่ารังเกียจกันแน่ รักน้องอย่างมีสติ พาน้องเที่ยวให้สนุกสนานและปลอดภัยกันนะครับ ด้วยความปรารถนาดี ป๋าก้อย หัวโจก Small Gangster   Create Date : 26 พฤศจิกายน 2556     Last Update : 26 พฤศจิกายน 2556 22:22:45 น. Counter : 19473 Pageviews.   9 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com