|
เฉลยเรื่องอยู่อย่างไรในยุคหน้า
คำตอบก็คือว่า เราต้องรู้จักสร้างและใช้งานวิทยาการที่คิดค้นขึ้นใหม่ โดยวิทยาการนั้นต้องมีการจดสิทธิบัตรไว้ด้วยนะครับ ไม่งั้นเพื่อนเอาไปกิน
ฉะนั้นโลกวันหน้าคนไม่มีความรู้จะทำมาหากินลำบาก ดูได้จากสถิติของคนสหรัฐที่มีการศึกษาน้อยวัน ๆ ก็จะโดนจับในข้อหาต่าง ๆ เพราะว่าไม่มีงานทำ เสพยา เป็นต้น
เมืองไทยของเราก็อาจจะคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เลิศด้วยวิทยาการไม่ได้แต่ก็สามารถประยุกต์ใช้วิทยาการใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการค้าได้มากขึ้น วันข้างหน้าคงไม่มีใครขายวัตถุดิบกันอีกแล้วละครับ เพราะว่ามีราคาต่ำและกำไรน้อยมาก
การค้าโดยใช้สมองคิดปรับปรุง ประดิษฐ์ จะมีมูลค่าการตลาดที่สูงขึ้นอย่างมาก ใครมีลูกหลานก็พยายามให้เรียนทางด้านสายวิทยาศาสตร์กันเยอะ ๆ นะครับ เพราะตอนนี้เรียนกันน้อยเหลือเกินพอจบมาก็มีเจ้าของธุรกิจมาแย่งกันใหญ่เลย เพื่อไปทำงานประจำประเภทหลับตาทำ อยู่ไม่นานนักวิทยาศาสตร์ก็ไม่ต่างกับพนักงานรับโทรศัพท์แหละครับ
Create Date : 28 มกราคม 2548 | | |
Last Update : 28 มกราคม 2548 12:05:16 น. |
Counter : 448 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
สิ่งที่ได้จากหนังสือ AS the future catches you
1) สินค้าและบริการจะมีราคาถูกลงใช้คนทำงานน้อยลง เพราะเครื่องมือมีประสิทธิภาพมากขึ้น 2) คอมพิวเตอร์สมัยใหม่จะมีความสามารถและฉลาดพอ ๆ กับคนอเมริการทั้งประเทศ 3) อาหารและยาจะผลิตจำเพาะเจาะจงสำหรับแต่ละบุคคล 4) จะมีสาขาวิชาใหม่ ๆ ผสานเทคโนโลยีทั้งชีวภาพและคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกับ เช่น สาขาชีวสารเทคโนโลยี และอื่นๆ ซึ่งตอนนี้เขากำลังศึกษากันจนไม่มีเวลาว่างมาคุยกับสื่อ
ดังนั้นคนในอนาคตต้องอยู่แบบมีองค์ความรู้มากขึ้นมิเช่นนั้นจะไม่สามารถดำรงค์ชีวิตได้อย่างมั่นคงได้ เนื่องจากไม่มีความจำเป็นด้านแรงงานเพราะใช้เครื่องมือที่ทันสมัยผลิตได้อย่างรวดเร็วและมากมาย ข้อมูลต่าง ๆ ก็สามารถควบคุมด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์หมดแล้ว.
แล้วเราจะอยู่ให้มีความสุขในยุคหน้าได้อย่างไร คราวหน้าจะเฉลยครับ
Create Date : 27 มกราคม 2548 | | |
Last Update : 27 มกราคม 2548 10:30:46 น. |
Counter : 549 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ระดับของการเรียนรู้
ในการเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ ของบุคคลแต่ละคนมีระดับการเรียนรู้ดังนี้ 1) เคยฟัง (คุ้น ๆ) คือผู้ที่ฟังอย่างใจลอย 2) เข้าใจหัวข้อ คือ ผู้ที่เรียนรู้แบบว่ามีหัวเรื่องอะไรพอลวก ๆ เพื่อตีความเอง พวกนี้มักจะปะติดปะต่อเรื่องเอง ทำให้มีโอกาสเข้าใจผิดได้ง่าย 3) เ้ข้าใจเนื้อหา คือ ผู้เรียนรู้และจดรายละเอียดพอสมควรซึ่งเป็นวิสัยปกติของนักเรียนทั่วไป ที่ตั้งใจเรียน 4) ถ่ายทอดได้ คือ ผู้เรียนรู้ที่จดรายละเอียดโดยจดแบบเป็นขั้นตอน มีลำดับในการปฏิบัติชัดเจน เพื่อไปถ่ายทอดให้ผู้อื่นต่อไป การเรียนรู้แบบนี้ถือว่ารู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้ เป็นสุดยอดแห่งการเรียนรู้
Create Date : 25 มกราคม 2548 | | |
Last Update : 25 มกราคม 2548 12:35:15 น. |
Counter : 545 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ข้อคิดในการทำงาน
เวลาทำงานใด ๆ ก็ตามเราควรมีขั้นตอนในการประเมินผลงานของเราซึ่งมี 4 ขั้นตอนคือ 1) เข้าใจเรื่องอะไร คือ ดูว่ามีเรื่องอะไรอยู่บ้าง 2) เรียนรู้เรื่องอะไร คือ จากเรื่องเหล่านั้นเรารู้อะไรมากขึ้น 3) ทำอะไรต่อไป คือ จากสิ่งที่รู้มาสามารถนำไปทำอะไรในงานเรา 4) ตั้งเป้าหมาย คือ เป้าหมายใหม่ที่จะพัฒนาขึ้นจากสิ่งที่เรียนรู้มา เมื่อเราทำได้ตามขั้นตอนงานเราจะพัฒนาขึ้นทุกวัน
Create Date : 25 มกราคม 2548 | | |
Last Update : 25 มกราคม 2548 12:23:39 น. |
Counter : 532 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
เมื่อถึงเวลาต้องตัดสินใจ
เมื่อเราทำงานมาสักระยะหนึ่ง เราเริ่มถามตัวเองว่าสิ่งกำลังทำสามารถให้ีชีวิตที่ดีในอีกสิบปีได้มากน้อยแค่ไหน ในวันที่เราอ่อนล้าเราสามารถจะนำพาชีวิตไปข้างหน้าได้ดีแค่ไหน และอีกหลายคำถามที่คิดขึ้นมาได้เมื่อให้เวลากับตัวเองมากขึ้น ในวันนี้เราคงต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยทำ สิ่งที่ชาชิน และงานประจำที่ไม่มีแนวทางทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ภายในเวลาที่ต้องการ เป็นการทำงานเพื่ออนาคตและตัดสินใจเปลี่ยนกระบวนการทำงานทั้งหมดให้สนับสนุนและอยู่ข้างความสำเร็จในใจเรา ...
Create Date : 25 มกราคม 2548 | | |
Last Update : 25 มกราคม 2548 10:32:50 น. |
Counter : 459 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|