|
อ้วน อ้วน อ้วน...
อ้วน อ้วน อ้วน...คำ ๆนี้เราเคยได้ยินมานานแสนนาน โดยเฉพาะตัวผมเองรู้สึกว่าจะอยู่กับมันมาตลอดชีวิตก็ว่าได้ ความอ้วนมีสาเหตุจากอะไร มีวิธีไหนที่จะกำจัดความอ้วนได้ ทุกคนที่เข้ามาอ่านคงจะรู้กันดีกว่าผมอยู่แล้ว
มีสิ่งหนึ่งที่เราอาจจะไม่เคยนึกถึง หรือนึกไปถึงแต่ก็ไม่กล้าที่จะถามใคร ๆออกมาว่า ตกลงความอ้วนนี้เป็นปัญหาที่ตัวของคนที่อ้วน หรือเป็นปัญหาของคนที่มองคนอ้วน เราเคยคิดไหมว่าทำไมบางทีบางครั้งเราต้องมองดูคนบางคนแล้วตั้งคำถามกับเพื่อนข้าง ๆว่า "ทำไมคนนั้นมันอ้วนจังวะ" หรือ "ถ้าเราอ้วนขนาดนั้นเราตายเสียดีกว่า"
มีเรื่องขำ ๆในหมู่พี่น้องอย่างเวลาผมกับพี่สาวมองคนที่ผอมจนเกือบจะผิดปกติผมก็ต้องฟังพี่สาวถามว่า "เค้าเดินไหวได้ยังไง" หรือว่า "โห...ดูนั่นสิขาเค้าเท่าแขนชั้นเลย" แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ความอ้วนความผอมนั้นอาจจะถือว่าได้เกิดขึ้นจนเป็นเสมือนลัทธิแฟชั่นเช่นเดียวกับเสื้อผ้าในฤดูต่าง ๆก็ไม่ผิดนัก
เราลองมาดูแฟชั่นความอ้วนผอมดีกว่าว่ามีการเกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างไรบ้าง เช่นในสมัยหนึ่งที่อาหารหายาก ผู้คนจำนวนมากไม่มีจะกิน คนที่อ้วนถือว่ามีเสน่ห์เป็นอย่างมาก ดังรูปปั้นของ "วีนัสเดอมีโร" นั้นถ้าเราไปสังเกตดูจะพบว่าหน้าท้องของเธอนั้นช่างล้นหลามเสียเหลือเกิน เพราะว่านอกจากเธอจะเป็นเทพีแห่งความสวยแล้วเธอยังต้องเป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์อีกต่างหาก ต่อมาในยุโรปก็มีความนิยมสาว ๆที่มีหน้าท้องพลุ้ย ๆเช่น "ผู้หญิงของเรอนัวร์" แต่สำหรับผู้ชายนั้นร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกลับเป็นที่นิยมมาเกือบทุกยุคทุกสมัย มีแต่ตัวโกงหรืออำมาตย์ที่เจ้าเล่ห์เท่านั้นที่จะมีรูปร่างอ้วนท้วน
ในประเทศจีนซึ่งเป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมต่าง ๆรวมถึงบรรพบุรุษของคนไทยส่วนใหญ่ก็ยังมีความคิดที่แทบจะเรียกได้ว่าฝังอยู่ในหัวว่า "ความอ้วนคือความมั่งคั่ง มั่นคง" เพราะเราจะเห็นได้ว่าในประวัติศาสตร์จีนนั้นได้ผ่านช่วงของการมีทุกพิกขภัย จนทำให้โครโมโซมของพวกเขาปรับตัวให้สามารถดูดซึมอาหารได้มากกว่าคนปกติเผื่อเอาไว้เวลาที่เกิดทุกพิกขภัยอีกต่อไป
กลับมาดูเวลาในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าอาหารช่างมีความอุดมสมบูรณ์ ทำให้การกินอาหารต่าง ๆไม่ลำบากเหมือนแต่ก่อน แล้วยังมีการสังเคราะห็สิ่งต่าง ๆขึ้นมาทำให้กลิ่นและรสชาติของอาหารดีขึ้นยิ่งทำให้มีการบริโภคที่เพิ่มมากขึ้น และวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้าขึ้นทำให้เราได้รู้ถึงต้นตอถึงโรคร้ายที่มาจากความอ้วนทำให้ความอ้วนเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจในปัจจุบัน
ถึงจะยังไงก็ตามความอ้วนบางทีไม่ใช่ความน่ารังเกียจแต่ความคิดอคติเกี่ยวกับความอ้วนต่างหากที่น่ารังเกียจ เพราะสรีระโครงสร้างของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางทีการที่เรามองว่าเราอ้วนนั้นในทางการแพทย์ที่มองอาจมองว่าเป็นความสมส่วนของสรีระของเราก็ได้ ดังนั้นการที่เราจะมองอะไรก็ตามอยากให้เรามองในมุมของเราและลองฟังคนรอบข้างหลาย ๆคนดูว่ามีมุมมองที่คล้ายหรือแตกต่างจากเราอย่างไร เพราะความคลั่งไคล้ในบางสิ่งบางอย่างเช่นความอ้วนความผอม สามารถทำให้คนบางคนถึงกับต้องสละชีวิตของตัวเองเลยก็มี
คนเราควรมีความมั่นใจในการดำรงชีวิตของเรามากกว่าสรีระภายนอก ความมั่นใจของเราสามารถทำให้คนอื่นที่มองมาสามารถมองข้ามรูปลักษณ์ภายนอกของเราและสามารถที่จะมองลึกเข้าไปในตัวของเราได้ดีกว่าการที่ติดอัตลักษณ์ภายนอกของคนอื่น ทำให้ตัวตนที่แท้จริงของคนเราถูกมองข้ามไป
ความมั่นใจในตัวเองในมุมมองของผมกลับมีความสำคัญมากกว่าความอ้วนความผอมเมื่อมองกันไปนาน แต่เราก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าสิ่งที่สะดุดตาในครั้งแรกนั้นก็คืออัตลักษณ์ภายนอกซะมากกว่าดังคำที่ว่า "Love At First Sight" หรือ "รักแรกพบ" แต่มันเป็นความฉาบฉวยของการมองมากกว่าการคบกันไปจริง ๆไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือเป็นแฟน
ดังนั้นสำหรับคนที่ได้เข้ามาอ่านบลอกนี้อาจจะได้รับประโยชน์ในการอ่าน หรือรู้สึกว่ามันไร้สาระก็ตาม แต่ผมผู้ซึงมีทรรศนะคติอันมีความอ้วนเป็นเพื่อนไม่ว่าในยามเหงา ยามเศร้า ยามสุข...ก็ยังคงจะปฏิญาณกับตัวเองว่า จะพยายามลดควมอ้วนเพื่อกลับไปใส่กางเกงที่ซื้อมาเมื่อ 2 ปีก่อนให้ได้
แต่อย่างไรก็ตาม "มื้อดึกคืนนี้เราจะกินอะไรกันดีละเพื่อน(อ้วนทั้งหลาย)"
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2552 |
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2552 23:26:37 น. |
|
4 comments
|
Counter : 173 Pageviews. |
|
|
|
โดย: yy IP: 81.157.24.124 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:44:19 น. |
|
|
|
โดย: TVXQ IP: 118.172.58.92 วันที่: 8 เมษายน 2552 เวลา:8:29:14 น. |
|
|
|
โดย: endless man วันที่: 29 พฤษภาคม 2552 เวลา:20:53:45 น. |
|
|
|
| |
|
|
กำลังจะลดอยู่จ้า
ที่จริงถ้าไม่มองเรื่องความสวยแล้ว ความอ้วนมันทำให้อึดอัดแล้วก็ป่วยง่ายด้วยนะ
ว่าแต่..มื้อดึกกินเผื่อด้วยนะ หิวอ่ะ :b