ภาษาอังกฤษเพื่อการลงทุน - ง่ายไปยาก อย่าเริ่มด้วยขี้ก้อนใหญ่

ง่ายไปยาก อย่าเริ่มด้วยขี้ก้อนใหญ่

กาลครั้งหนึ่ง นายอิงชิท อายุ 20 ต้นๆ พึ่งไปสมัครเรียนชกมวย ที่ค่ายมวยแห่งหนึ่งได้ไม่กี่วัน เขาก็เกิดกระเหื้ยนกระหือรือ คันมือคันไม้ ไปหาเรื่องชกต่อยกับ บัวขาว ป ประมุข (นักมวยไทย ฝีมือระดับโลก) ผ่านไปไม่กี่นาที นายอิงชิทก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ด้วยสภาพไส้ในแตก อวัยวะภายในบอกช้ำ กระดูกหักป่นปี้ทั่วร่าง กลายเป็นมนุษย์ยึกยือ เดินไม่ได้ ต้องคลานเหมือนหนอนตลอดชีวิต

นิทานข้างบนอาจจะอุบาตไปนิสสสนึง แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้สำหรับคนทุกวงการ ไม่ใช่เฉพาะวงการมวย มันเกิดขึ้นกับการเรียนภาษาอังกฤษของเราด้วยเช่นกัน ก็ลองคิดดูว่า เราเป็นเด็กหนุ่ม เด็กสาวชาวไทย พูดไทยฟังไทยกินของไทยทุกวัน แต่อยู่ดีๆ โรงเรียนเกิดดัดจริตเอาภาษาฝรั่งมาให้เีรียน ตอนแรกก็ไม่เท่าไหร่ร้อก หัดท่องหัดเขียน A B C ท่องศัพท์ A ant มด, B bird นก โหภาษาอังกฤษมันโคตรขี้เลยว่ะ 555+ แต่ขี้ๆได้ไม่เท่าไหร่ ก็ัดัดจริตเอาไวยากรณ์ แกรมมาร์มาให้เรียน แล้วไอ้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษมันขี้ๆซะที่ไหนล่ะครับ ฝรั่งใช้แกรมม่า(ไวยากรณ์)ผิดๆ มีถมเถไป แล้วขนาดฝรั่งยังผิด แล้วให้พวกข้าพเจ้า(พวกกรู)มาเรียนเนี่ยนะ น่าโบกกบาลมั้ย (ประมาณว่า พึ่งเข้าสำนักมวย ให้ฝึกชกลมไปร้อยสองร้อยที แล้วก็จับขึ้นสังเวียนชกกับสำนักอื่นเลย ยังไงยังงั้น)

เมื่อพวกเราต้องมาเรียนในสิ่งที่ยาก แต่พื้นฐานและความสามารถเรายังกระจอกงอกง่อย อาการไม่รู้เรื่องมันจึงเกิดขึ้นเป็นธรรมดา หนำซ้ำยังมีการสอบเก็บคะแนนอีก สอบไม่ผ่านก็สอบซ่อม ถ้าเป็นมหาลัยก็ติด F ไปซะ ผลที่ได้จึงกลายเป็นว่า ความมั่นใจภายในตัวเรามันถูกทุบตีอย่างรุนแรง จนหมดความเชื่อมั่น แล้วยอมรับความจริงกับตัวเองว่า ชาตินี้กรูเรียนภาษาอังกฤษไม่รุ่งแหงๆ ช่างหัวมัน ไปเริ่มใหม่ชาติหน้าดีกว่าหวะ ฮะๆๆ (แค่นหัวเราะ)

ที่จริงมันไม่ได้เป็นเฉพาะกับแกรมมาร์นะครับ แต่รวมไปถึงเรื่องยากอื่นๆเช่น การพูดกับฝรั่ง (โคตรยากเหมือนกันนะ ยิ่งคนไม่เคย เมื่อก่อนผมโคตรกลัวฝรั่งเลย เดี๋ยวนี้พอจะข่มตัวเองไม่ให้เดินหนีได้ละ) การฟังข่าว ฟังเพลง (หูเราไม่ได้ฟังภาษาเขาบ่อยๆ พอมาฟังเลยมันก็ฟังไม่ออกสิ มันถึงยาก) การดูหนัง (โคตรสุดยอดของความยากเลยนะเนี่ย) การอ่านข่าว อ่านนิยาย อ่านแฮร์รี่พอตเตอร์ฉบับไม่แปล (ยากระเบิดอีกเหมือนกัน ศัพท์แสงอะไรไม่รู้ไปขุดจากไหนมาเขียน) และการเขียน (อภิมหาบะรมมะโคตะระยาก ลองนึกถึงฝรั่งที่หัดอ่านภาษาไทยยังไม่เก่ง เกิดดัดจริตจะหัดเขียนไดอารี่ จะนึกคำยังลำบากเล้ยย) การพยายามทำสิ่งยากๆเหล่านี้ให้ได้ ทั้งที่ความสามารถตัวเรามีแค่หางอึ่ง มันก็ย่อมทำลายความมั่นใจไปได้มากเหมือนกัน หากเราทำไม่ได้อย่างที่คิด ซึ่งอาจจะทำให้เราหมดไฟจนเลิกทำมันตลอดไปเลยก็ได้ ไม่ต่างจากไอเจ้านักมวยฝึกหัดในนิทานข้างต้น

แล้วจะต้องทำอย่างไร จะมีการฝึกการเรียนรูปแบบไหนที่เหมาะกับตัวเรา ที่ทำให้เราเก่งขึ้นและไม่หมดไฟไปง่ายๆ ?? ไม่ต้องห่วง ตามอ่านบล็อกผมไปเรื่อยๆครับ เดี๋ยวผมนำไปเอง อังกฤษมันเรื่องขี้ๆ ถ้าเรารู้วิธีสู้กับมัน อย่าลืมไปกดไลค์ //www.facebook.com/engshitpage นะครับ เวลาผมอัพบล็อกจะได้ไม่พลาด แล้วเจอกันใหม่ครับ

(Pic Credit by Google and 9GAG)

บทความที่ควรอ่านต่อ //engshit.blogspot.com/2012/07/blog-post_15.html




Create Date : 25 กรกฎาคม 2555
Last Update : 25 กรกฎาคม 2555 11:17:26 น.
Counter : 2338 Pageviews.

0 comment
ภาษาอังกฤษเพื่อการลงทุน - อังกฤษเรื่องขี้ๆ EngShit !

อังกฤษเรื่องขี้ๆ อิงชิท EngShit !

สำหรับคนที่เห็นแล้วก็แล้วไป แต่คนที่ยังไม่เห็นนะครับ บล็อกผมชื่อ engshit.blogspot.com นะ อะไม่ต้องงง เดี๋ยวจะอธิบายความหมายอันเด็ดดวงถึงทรวงตูดให้ฟังนะจ๊ะ "eng" ข้างหน้าก็มาจาก english ที่แปลว่้า "อังกฤษ" ไง  ส่วนเจ้า "shit" ก็แปลได้ง่ายๆว่า "ขี้"  รวมร่างกันแล้วหมายความว่า อังกฤษเมืองขี้ๆ เย้ย ไม่ใช่ๆ อังกฤษเรื่องขี้ๆ ตะหาก

โอเค โดยสรุปแล้ว ผมหมายความว่า ภาษาอังกฤษมันไม่ใช่เรื่องยาก มันแค่เรื่องขี้ๆ (แต่ปริมาณขี้มันประมาณขี้ช้าง หรือขี้ยักทศกัณฑ์อะนะ) ซึ่งผมไม่ได้พูดเล่น ผมไม่ได้ให้กำลังใจลมๆแล้งๆ ฟังดูปัญญาอ่อนแบบ "ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว ง่ายเท่าขี้มด แค่ขมิบตูดก็พูดได้" หรือ "พูดอังกฤษได้ใน 7 วัน (ป้ามะรึง พูดได้ 7 วัน วันที่เหลือพูดไม่ได้น่ะสิ โฆษณาฟายๆ อยากจะโบ้ให้หัวทิ่ม)" เอาจริงๆ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่มันก็ไม่ได้ยากขนาดที่ชาตินี้ทั้งชาติจะไม่มีวันเข้าใจมันได้ ผมพูดได้เต็มปากเลย เพราะผมเคยผ่านมันมาก่อน ผมเคยได้เกรด 1 เกรด 2 วิชาภาษาอังกฤษประจำ แม่มม วิชาไรฟะ ต้องใส่ is ตรงนี้ ใส่ are ตรงโน้น ตรงนู้นต้องมีเวิร์บช่วย ส่วนตรงนั้นเวิร์บไม่มาช่วย บ๊ะ ตอนสอบเอนทรานซ์ผมมั่วข้อสอบอังกฤษทุกข้อเลย - -" ไม่มั่นใจสักข้อ แต่พอมาตอนนี้ (ผ่านมา 3-4 ปี) ผมลองทำข้อสอบเอนท์เก่าๆดู เห้ย ตูได้คะแนนเกือบเต็ม 100 บร๊ะเจ้า ถ้าแต่ก่อนทำได้แบบนี้นะ อาตมาติดจุฬาไปแล้วนะจ๊ะโยมจ๋า 555+

เอาล่ะ แพล่มเพลินอีกละ ผมอยากให้เพื่อนๆลองมองโลกตามจริง นึกถึงตัวเองตอนเด็กดิ๊ เกิดมาพูดภาษาไทยได้เลยไหม (ใครตอบว่าได้ ผมเอาขี้ปาจริงๆด้วย) มันต้องใช้เวลา 3-4 ปี ถึงจะค่อยๆฟังออก พูดได้ จากการสั่งสมโดยการฟังคนอื่นพูดมาเป็นปีๆใช่มั้ย น่านแหละ การเรียนภาษาก็ไม่ต่างกัน พวกเราถูกพร่ำสอนมาแต่แกรมมงแกรมม่าร์ แทนที่จะได้ฟังฝรั่งพูดอย่างเป็นเรื่องเป็นราว (ทั้งฝรั่งตัวเป็นๆ หรือจากเทป) อย่างงี้เรียนสิบชาติคงจะเก่ง (รึเปล่า??) คงต้องโทษระบบการศึกษาที่ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราว กับโทษตัวเราเองที่พึ่งการศึกษาในระบบมากเกินไป

ผมจะยกตัวอย่างให้อีกอันละกัน สมมติว่าเพื่อนๆอยากเป็นนักมวย เพื่อนๆก็จะต้องเลือกค่ายมวยใช่ไหม จะเอาค่ายไหนดีระหว่าง ค่าย A ที่เริ่มสอนนักเรียนด้วย กติกามวยต่างๆ (เช่น ยกนึงมี 3 นาทีนะจ๊ะ เวลาชกกันห้ามกัดหูคู่ต่อสู้นะจ๊ะ ห้ามเตะไข่นะจ๊ะ ฯลฯ) กับค่าย B ที่เริ่มสอนนักเรียนด้วยการให้นักเรียนปฏิบัติจริง (เช่น วิ่ง ยกน้ำหนัก ต่อยเตะกระสอบทราย ซ้อมชกเป้ากับครูฝึก ฯลฯ) เพื่อนๆจะเอาค่ายไหนดีล่ะ ถ้าเลือกค่าย A มัวแต่ท่องกติกาไปชก ซ้อมนิดเดียว พอชกจริงมีหวังโดนเตะไข่ไม่รู้ด้วย 555+

เอาละนะ เกาะบล็อกผมไว้ให้ดี ผมจะสอนภาษาอังกฤษสำนัก EngShit สไตล์บู๊แหลก ถ้าเอาจริง 3 เดือน - 6 เดือน ก็เริ่มเห็นผลแล้ว ว่าภาษาอังกฤษมันโคตะระขี้


(Credit Pic by Google)

บทความที่ควรอ่านต่อ //engshit.blogspot.com/2012/07/blog-post.html



Create Date : 20 กรกฎาคม 2555
Last Update : 20 กรกฎาคม 2555 10:53:33 น.
Counter : 1632 Pageviews.

0 comment
ภาษาอังกฤษเพื่อการลงทุน - ผมจะสอนอังกฤษให้คุณ !!!

ผมจะสอนอังกฤษให้คุณ !!!

สวัสดีครับ ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมเด็กมหาลัยคนหนึ่ง ณ มหาลัยแห่งหนึ่ง (ซ้าดดนี่ ไม่รู้อะไรเพิ่มขึ้นเลย ฮะๆๆ) ปัจจุบันเรียนอยู่ปี 4 ครับ อยากจะใช้พื้นที่ของบล็อกนี้ และเวลาส่วนหนึ่งของผม เพื่ออุทิศให้กับการสอนภาษาอังกฤษนะครับ ที่จริงก็ไม่เชิงสอนเท่าไหร่ แต่เป็นการแชร์ และชี้ทางจากประสบการณ์ของผมที่ฝึกฝน และปรับใช้กับตัวเองมาตลอดเกือบ 3 ปีนี้ ซึ่งผลที่ได้น่าพอใจมากทีเดียว

เนื่องมาจากการสังเกตเพื่อนรอบข้าง รอบตัวผม แต่ละคนก็ปี 3 ปี4 กันแล้ว แต่กลับอ่านภาษาอังกฤษไม่ออก พูดไม่ได้ ฟังไม่รู้เรื่อง บลาๆๆ เอาเหอะ ถึงใครจะพูดว่า ก็มันไม่ใช่ภาษาบ้านเฮา บ่ใช่ภาษาข้อย หรือจะอ้างอะไรก็เถอะนะ แต่ึถึงตอนนี้ มันคงจะอ้างต่อไปอีกไม่ได้แล้ว

ในปี 2558 ประเทศไทยจะเิปิดสมาคมอาเซียน (AEC) แล้วจ้า ถ้าไม่รู้เรื่อง ผมจะสรุปให้ว่า เหล่าประเทศอาเซียนทั้งหลาย เช่น พม่า ลาว มาเลย์ สิงคโปร์ เวียดนาม ฯลฯ รวมถึงไทย เค้าจะร่วมมือกันส่งเสริมการค้าให้กันและกัน ให้แข่งขันกับ สหรัฐ และก็ทางฝั่งยุโรปได้มากขึ้น แล้วยังไง อ้าว พอส่งเสริมแล้วก็อาจจะมีการเปิดการเคลื่อนย้ายแรงงานโดยเสรี แล้วถ้าเราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ฟังไม่ออก เราจะไปทำงานที่ สิงคโปร์ หรือ มาเลย์ ก็ไม่ได้ (เงินเดือนสูงกว่าไทย) หรือถ้าพวกพม่า เวียดนาม มาแย่งงานเรา เราก็สู้ไม่ได้ ถ้าให้นายจ้างเลือก คุณสมบัติเท่ากัน ค่าแรงเท่ากัน แต่พม่าพูดอังกฤษได้ แต่เราไม่ เค้าจะเอาใครล่ะ (เคยดูทีวี บ๋อยพม่า พูดอังกฤษโคตรจะเก่งเลยนะจ๊ะ เห็นแล้ว บรึ๋ยยยย พ่อเป็นดาราฮอลลีวู้ดรึป่าววะ)

เอาล่ะ แพล่มมาก็ยาวละ แต่ไม่ต้องห่วง ไว้ปล่อยเป็นหน้าที่ผมเอง ผมจะกลั่น สกัดประสบการณ์การฝึกฝนภาษาอังกฤษตลอดเกือบ 3 ปีนี้มาให้เพื่อนๆดู แล้วจะรู้ว่า English is so easy like eating shit ภาษาอังกฤษมันไม่ได้ยาก (ไปกว่าการกินขี้เลยนะ 5555+) เชิญอ่านบทความต่อไป อังกฤษเรื่องขี้ๆ ได้เลยครับ



(Pic Credit by Google) 

ติดตามบทความตอนต่อไปได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้นะครับ



Create Date : 17 กรกฎาคม 2555
Last Update : 17 กรกฎาคม 2555 13:11:11 น.
Counter : 2031 Pageviews.

3 comment

Superguiman
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]